-
(เสียงระฆัง)
-
ทำอย่างไรจึงจะสามารถเปิดใจให้ผู้อื่นได้
อย่างแท้จริง
-
นมัสการท่านอาจารย์
สวัสดีญาติธรรมทุกท่าน
-
ทำยังไงเราจึงจะสามารถเปิดใจกับคนอื่นได้คะ
-
คือมันมีความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ
หรือเข้าใจผิด
-
Not Synced
...
-
Not Synced
...
-
Not Synced
ความเข้าใจผิด การรับรู้ผิดๆ
-
Not Synced
เป็นธรรมดาชีวิต
-
Not Synced
เหมือนโคลนตม
-
Not Synced
ความเข้าใจผิด การรับรู้ผิดๆ
-
Not Synced
เป็นที่มาของสงคราม และความขัดแย้ง
-
Not Synced
ความตาย ความทุกข์
-
Not Synced
นั่นเป็นโคลนตม
-
Not Synced
การมาภาวนาจะช่วยให้เราค่อยๆ ลดละ
-
Not Synced
ความเข้าใจผิด และมุมมองผิดๆ
-
Not Synced
ให้กลับมาสื่อสารกันใหม่
-
Not Synced
ด้วยฉันมิตร
-
Not Synced
เปลี่ยนโคลนตมให้กลายเป็นดอกบัว
-
Not Synced
มันเป็นไปได้นะ
-
Not Synced
และคำสอนของพระพุทธเจ้าช่วยเราให้ทำได้
-
Not Synced
ไม่ว่าคนเดียว หรือหลายคน
-
Not Synced
และเมื่อคนหลายคนทำเช่นนี้ได้
-
Not Synced
สถาณการณ์ของสังคมก็จะเปลี่ยน
-
Not Synced
ดังนั้น การฝึกฝนเพียงตนเองยังไม่พอ
-
Not Synced
เรายังต้องฝึกเป็นหมู่ เป็นสังฆะด้วย
-
Not Synced
มีพวกเราหลายคน กลัวเหลือเกิน
-
Not Synced
ที่จะรัก
-
Not Synced
เราไม่กล้าเปิดใจ
-
Not Synced
เรากลัว เพราะเราเคยผ่านความเจ็บปวดมาก่อน
-
Not Synced
เราเลยคิดว่าความรักคือความเจ็บปวด
-
Not Synced
น่าเสียดายนะ
-
Not Synced
เพราะความรักที่แท้จะนำมาซึ่งการเยียวยา
และความสดชื่น
-
Not Synced
มีบทกวีเขียนไว้อย่างนี้ว่า...
-
Not Synced
"ดอกไม้เบ่งบานธารวสันต์
ไยใจฉันจึงลั่่นดาลมิอาจเผย"
-
Not Synced
เพราะมีความกลัว
-
Not Synced
กลัวจะเจ็บปวดอีกครั้ง
-
Not Synced
เพราะเราไม่เคยมาศึกษา
ศิลปะแห่งความรัก
-
Not Synced
แน่นอน อีกคนก็ไม่ได้เรียนเหมือนกัน
-
Not Synced
และเราก็ไม่ได้เรียน
-
Not Synced
เรายังไม่รู้เลยว่าจะรักยังไง
-
Not Synced
ความเข้าใจผิด และมุมมองผิดๆ จึงได้โอกาส
-
Not Synced
แล้วเราก็ทำตัวเองเป็นทุกข์
ทำกันและกันเป็นทุกข์
-
Not Synced
ดังนั้น เราควรจะมาศึกษา
คำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องความรัก
-
Not Synced
รักแท้ ประการแรก คือ ไมตรี (เมตตา)
-
Not Synced
รักแท้ ต้องนำมาซึ่งความสุข
-
Not Synced
เมตตา จะเป็นพลังงานที่นำความสุข
มาให้เราและอีกฝ่าย
-
Not Synced
รักใดไม่สามารถนำมาซึ่งความสุข
ไม่ใช่ความรัก
-
Not Synced
เป็นอย่างอื่น
-
Not Synced
ความหลงไหล
-
Not Synced
ความกระสัน
-
Not Synced
ความพอใจในสัมผัส
-
Not Synced
หรือความอยากครอบครอง
ไม่ใช่รัก
-
Not Synced
ดังนั้น เมตตา จึงเป็นพลังงาน
ที่เราต้องบ่มเพาะ
-
Not Synced
ถ้ามันเป็นรักแท้ มันก็พึงนำมาซึ่งความผาสุก
ความสบายใจสำหรับเราและอีกฝ่าย
-
Not Synced
และจะบ่มเพาะเมตตานี้อย่างไร
-
Not Synced
มันคือการสังเกต การใช้เวลาสังเกต
ทำความเข้าใจ
-
Not Synced
เข้าใจในความทุกข์
-
Not Synced
ความเดือดร้อน
-
Not Synced
และความจำเป็นของอีกฝ่าย
-
Not Synced
ความทุกข์ ความเดือดร้อน
และความจำเป็นของเราเอง
-
Not Synced
สิ่งนี้ต้องใช้เวลา
ค่อยๆ มองเข้าไปภายในเราเอง
-
Not Synced
เราต้องเข้าใจความทุกข์ ความเดือดร้อน
และความต้องการลึกๆ ของเราเอง
-
Not Synced
และยอมรับตัวเองในแบบที่มันเป็น
-
Not Synced
ดังนั้น ความเข้าใจ เป็นพื้นฐานของความรัก
-
Not Synced
เป็นพื้นฐานของความเมตตา
-
Not Synced
เราควรถามตนเองว่า "เราเข้าใจตนเองหรือยัง"
-
Not Synced
"เราเข้าใจความทุกข์ ความเดือดร้อน
ของตัวเองหรือยัง"
-
Not Synced
ถ้าเราเข้าใจความทุกข์
ความเดือดร้อนของตัวเองแล้ว
-
Not Synced
เราจะรู้สึกดีขึ้นมาก
-
Not Synced
เรายอมรับตัวเอง
-
Not Synced
และเมื่อ...เรามองไปที่อีกฝ่าย
-
Not Synced
เราจะเข้าใจเขามากขึ้น
-
Not Synced
ดังนั้น สิ่งแรกเลยคือ การเข้าใจตนเอง
-
Not Synced
และยอมรับตนเอง
-
Not Synced
ถัดมา คือเข้าใจผู้อื่น เข้าใจอีกฝ่าย
-
Not Synced
ถ้าปราศจากความเข้าใจ และการยอมรับแล้ว
-
Not Synced
ความสุขก็เป็นไปไม่ได้