< Return to Video

เปิบข้าวอย่างไทยทำยังไง? ft. เชฟป้อม | Point of View x bemusical

  • 0:00 - 0:02
    สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
  • 0:02 - 0:06
    จะบอกว่าเรื่องนึงนะคะที่มีคนขอวิวมาเยอะมากในแชนเนลนั้นก็คือ
  • 0:06 - 0:08
    อยากให้วิวเล่าเรื่องอาหารไทยค่ะ
  • 0:08 - 0:12
    แต่อย่างที่ทุกคนรู้นะ บ้านวิวก็ค่อนข้างจะเป็นคนจีนน่ะนะคะ
  • 0:12 - 0:16
    ดังนั้นนะคะ เรื่องที่วิวนำมาเล่าต่างๆ ส่วนมากก็จะมาจากตำรานู่นนี่นั่นใช่มั้ย
  • 0:16 - 0:19
    แต่พอมันเป็นเรื่องอาหาร เป็นเรื่องศิลปะวัฒนธรรมเนี่ยนะคะ
  • 0:19 - 0:21
    บางทีมันก็มีอะไรที่มันอยู่นอกตำรา
  • 0:21 - 0:24
    แล้วก็มันต้องอาศัยคนที่มีประสบการณ์จริงๆ นะคะ
  • 0:24 - 0:25
    ดังนั้นนะคะ ตามคำเรียกร้องของทุกคนเลย
  • 0:25 - 0:28
    วันนี้วิวก็เลยมาหาผู้รู้ด้านอาหารไทยค่ะ
  • 0:28 - 0:29
    เชฟป้อมนั่นเองค่ะ
  • 0:29 - 0:32
    วันนี้นะคะ วิวชวนอาป้อมมาที่ร้านอรรถรสค่ะ
  • 0:32 - 0:33
    โอเค ตอนนี้อาป้อมรออยู่ข้างในแล้ว
  • 0:33 - 0:35
    เรารีบเข้าไปด้านในกันดีกว่าค่ะ
  • 0:35 - 0:37
    แต่ ก่อนจะตามไปฟังเรื่องอาหารไทยกัน
  • 0:37 - 0:39
    อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ
  • 0:40 - 0:42
    ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค ยูทูป ทวิตเตอร์ อะไรต่างๆ
  • 0:42 - 0:45
    จะได้ไม่พลาดคลิปวีดีโอสนุกๆ แล้วก็ข่าวสารดีๆ จากช่อง Point of View ค่ะ
  • 0:45 - 0:47
    โอเค ตอนนี้พร้อมจะตามวิวเข้าไปข้างใน
  • 0:47 - 0:50
    ไปฟังเรื่องที่ทั้งสนุก แล้วก็มีสาระกันรึยังคะ
  • 0:50 - 0:52
    ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามเข้ามาเลยค่ะ
  • 0:57 - 1:00
    ตอนนี้นะคะ เราก็มาอยู่กับอาป้อมเรียบร้อยแล้วค่ะ
  • 1:00 - 1:01
    สวัสดีค่ะอาป้อม
  • 1:01 - 1:02
    สวัสดีค่ะ
  • 1:03 - 1:06
    ก็ วันนี้วิวอยากจะมาขอความรู้เรื่องอาหารไทยค่ะ
  • 1:06 - 1:08
    เพราะว่าวิวเนี่ยไม่มีความรู้อะไรเลย
  • 1:08 - 1:11
    เรียกได้ว่า มีอะไรให้ทานก็ทานไป แบบนั้นเลยค่ะ
  • 1:11 - 1:13
    อย่าเรียกว่ามาขอความรู้เลย
  • 1:13 - 1:15
    เรียกว่าเรามาคุยกันดีกว่า
  • 1:15 - 1:18
    อาป้อมโชคดีที่พื้นฐานครอบครัว
  • 1:18 - 1:22
    ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อยู่กันหลายๆ รุ่น
  • 1:23 - 1:26
    แล้วก็เป็นหลายรุ่นที่เน้นวัฒนธรรมการกินในบ้าน
  • 1:26 - 1:30
    เมื่อก่อนนี้ เราไม่ได้รับประทานอาหารนอกบ้านกันค่ะ
  • 1:30 - 1:32
    ซึ่งการอยู่หลายรุ่นในบ้านเนี่ยค่ะ
  • 1:32 - 1:34
    มันทำให้การทานอาหารเนี่ย
  • 1:34 - 1:37
    แตกต่างจากการทานอาหารนอกบ้านสมัยนี้มั้ยคะ
  • 1:37 - 1:41
    จริงๆ แล้วนั่นมันคือวิถีชีวิตในความเป็นไทย
  • 1:41 - 1:42
    อย่าเพิ่งมองสมัยนี้นะคะ
  • 1:42 - 1:44
    ก็คือในหนึ่งหลังคาเรือนเนี่ย
  • 1:44 - 1:48
    มันจะมีคนมากกว่าหนึ่งรุ่นอายุ
  • 1:48 - 1:50
    ก็เหมือนที่เราดูในหนังในละครปกติ
  • 1:50 - 1:51
    ที่แบบว่า ตายายอุ้มหลาน
  • 1:51 - 1:52
    หลานวิ่งรอบ
  • 1:52 - 1:56
    ถูกต้อง เพราะครอบครัวพื้นฐานไทยธรรมดาที่มาจากสังคมเกษตรกรรม
  • 1:56 - 1:57
    ก็คือปู่ย่าตายายอยู่บ้านละ
  • 1:57 - 1:58
    พ่อแม่ออกไปทำนาละ
  • 1:58 - 2:02
    ลูกถ้ายังเล็กอยู่ ก็ไปอยู่กับปู่ย่าตายายนะคะ
  • 2:02 - 2:03
    ถ้าโตหน่อยไปเรียนที่วัด
  • 2:03 - 2:06
    เวลาคุณภาพของครอบครัวคือเวลาอาหาร
  • 2:06 - 2:09
    คือทุกคนนั่งล้อมวงกันทานข้าว
  • 2:09 - 2:13
    คือสมัยนี้เนี่ยสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือชอบเสิร์ฟกันแบบฝรั่ง
  • 2:13 - 2:14
    ขึ้นต้นอาหารเรียกน้ำย่อย (appetizer)
  • 2:14 - 2:16
    ซุป อาหารจานหลัก (main course)
  • 2:16 - 2:17
    ตามด้วยของหวาน
  • 2:17 - 2:18
    จริงๆ ไม่ใช่
  • 2:18 - 2:21
    ของไทย ถ้ามากินอย่างนั้น ลองนึกดู
  • 2:21 - 2:24
    สมมุติ ต้มยำ ซดไปอ่ะ เผ็ดตายเลย
  • 2:24 - 2:27
    จริงๆ แล้ว ต้มยำคือหนึ่งในสำรับ
  • 2:27 - 2:30
    ก็คือสมัยก่อนคนไทยทานข้าวเป็นสำรับ
  • 2:30 - 2:34
    สำรับ จริงๆ ถ้าแปลตรงตัวมันคือกลุ่มของถ้วยจานชาม
  • 2:34 - 2:37
    แต่มาในแง่ของการกินเป็นสำรับ
  • 2:37 - 2:42
    คำว่าสำรับเนี่ยก็คือการจัดสมดุลในมื้ออาหาร
  • 2:42 - 2:46
    สมดุลมาจากคนสามรุ่นอายุสามารถกินอาหารร่วมกันได้
  • 2:46 - 2:49
    อาหารแค่เซ็ทเดียวเนี่ย ทุกคนต้องกินด้วยกันได้
  • 2:49 - 2:50
    หรือไม่ก็อย่างใดอย่างหนึ่ง
  • 2:50 - 2:53
    อ๋อ จะกลายเป็นว่าใครสั่งอันนี้ปุ๊บ เอ้ย ชั้นกินไม่ได้
  • 2:53 - 2:55
    อันนี้เด็กกินไม่ได้
  • 2:55 - 2:56
    อันนี้อาหารเด็ก อันนี้อาหารผู้ใหญ่
  • 2:56 - 2:59
    งั้นมันจะคือเวลาคุณภาพของครอบครัวมั้ยล่ะ
  • 3:00 - 3:04
    รุ่นที่หนึ่งกินได้ รุ่นที่สองกินได้ รุ่นที่สามกินได้
  • 3:04 - 3:08
    ทุกอย่างบนโต๊ะ มันคือรสชาติสมดุลและเอื้อกันไง
  • 3:08 - 3:11
    ถ้าสมัยนี้เรียกว่า มิกซ์แอนด์แมตช์ อะไรทำนองนี้ใช่มั้ยคะ
  • 3:11 - 3:14
    ปู่ย่าตายาย อายุเยอะละ ฟันฟางไม่ค่อยดี
  • 3:14 - 3:17
    กินเผ็ดมากก็ไม่ค่อยได้ เพราะคนแก่กินเผ็ดแล้วจะสำลัก
  • 3:17 - 3:22
    คนสมัยก่อนอายุซักประมาณสามสี่สิบกว่าฟันก็น่าจะเริ่มไปละ
  • 3:22 - 3:23
    คือไม่ต้องอะไรหรอก อาป้อมก็รู้ตัว
  • 3:23 - 3:27
    เพราะว่าตอนนี้ กินแล้วสำลักโดยไม่มีเหตุผล
  • 3:27 - 3:30
    แค่กลิ่นพริกลงในคอ นิดเดียวเนี่ย
  • 3:30 - 3:32
    เราจะสำลักเหมือนจะตายเอาเลย
  • 3:32 - 3:35
    ทั้งๆ ที่ปกตินี่กัดพริกขี้หนูสดๆ ไม่มีปัญหา
  • 3:35 - 3:39
    ดังนั้นเนี่ยในรุ่นกลาง รุ่นที่สอง รุ่นพ่อแม่ กินพริกเผ็ดได้
  • 3:39 - 3:41
    แต่คุณปู่คุณย่ากินไม่ได้แล้ว
  • 3:41 - 3:42
    ปู่ย่ากินอะไรล่ะคะ
  • 3:42 - 3:45
    ก็กินของทอด กินน้ำแกง
  • 3:45 - 3:47
    หรือต้มยำให้มันเบาลง
  • 3:47 - 3:49
    เพื่อที่ฟันน้อยๆ จะได้เคี้ยวได้
  • 3:49 - 3:53
    ซึ่งก็น่าจะเป็นอาหารคล้ายๆ กับอาหารของฝั่งเด็กเหมือนกัน
  • 3:53 - 3:57
    คล้าย แต่เด็กเนี่ยอาจจะกินเนื้อ หมู ไก่ ที่แข็งแรงกว่านั้นได้
  • 3:57 - 3:59
    แต่คุณย่าคุณยายกินไม่ได้แล้ว
  • 3:59 - 4:02
    กินหมูสับละกัน อะไรอย่างเงี้ยค่ะ
  • 4:02 - 4:05
    แต่เด็กๆ สามารถกินหมูทอดทั้งชิ้นได้โดยไม่มีปัญหา
  • 4:05 - 4:08
    หรือว่าในถ้วยนึงเนี่ย เราจะไม่เรียกไข่พะโล้
  • 4:08 - 4:10
    เราจะเรียกหมูหวานกับไข่ต้มเค็ม
  • 4:10 - 4:11
    เพราะของไทยไม่มีเครื่องพะโล้
  • 4:11 - 4:13
    อ๋อ พะโล้นี่ไม่ใช่อาหารไทย
  • 4:13 - 4:15
    พะโล้นี่คือจีนค่ะ คือ five spices
  • 4:16 - 4:20
    แต่การต้มเค็มหมูหวานกับไข่ต้มเค็มเนี่ย
  • 4:20 - 4:22
    เอาง่ายๆ พูดกันจนฮิตว่ามันคือไข่พะโล้
  • 4:22 - 4:25
    แต่กินเข้าไปไม่มีผงพะโล้ ไม่มีซีอิ๊วดำ
  • 4:25 - 4:27
    แต่มันดำได้ด้วยการเคี่ยวน้ำตาล
  • 4:27 - 4:30
    แต่ในขณะเดียวกัน หมูหวาน ไข่ต้มเค็ม
  • 4:30 - 4:32
    ปู่ย่าตายายกินไข่ได้
  • 4:32 - 4:34
    ไม่ไหวละ เคี้ยวหมูไม่ไหวละ
  • 4:34 - 4:35
    ก็เป็นหน้าที่ของเด็กเล็ก
  • 4:35 - 4:39
    แต่ในขณะเดียวกัน หน้าที่ของหมูหวานไข่ต้มเค็มมีไว้ทำอะไร
  • 4:39 - 4:41
    เวลาคุณพ่อคุณแม่เผ็ดจากน้ำพริกอ่ะ
  • 4:41 - 4:43
    ก็กินไข่กับหมูหวานแกล้ม
  • 4:43 - 4:47
    คือมันเหมือนทุกอย่างในสำรับมันโดนจัดมาเพื่อให้ช่วยกันและกัน
  • 4:47 - 4:50
    ใช่ค่ะ นี่คือวิถีของคนไทย
  • 4:50 - 4:51
    อย่างนี้แปลว่า
  • 4:51 - 4:53
    มื้อหลักที่สุดของคนไทยก็เป็น มื้อเย็น
  • 4:53 - 4:57
    แนวคิดที่แบบว่า มื้อเช้ากินอย่างราชานี่ ไม่มี ยังไม่เข้ามา
  • 4:57 - 4:59
    อันนั้นคือการดูแลสุขภาพ
  • 4:59 - 5:00
    ในสมัยหลัง
  • 5:00 - 5:03
    เราก็ได้ฟังเรื่องอาหารกันไปคร่าวๆ แล้วนะคะ
  • 5:03 - 5:04
    เดี๋ยวเราไปดูที่อาหารจริงๆ กันดีกว่า
  • 5:04 - 5:07
    เริ่มจากจานของว่าง ไม่ใช่จานเรียกน้ำย่อยนะ
  • 5:07 - 5:08
    ของว่างระหว่างมื้อเนี่ย
  • 5:08 - 5:12
    แล้วเมื่อไปที่อาหารเต็มๆ สำรับแล้วเนี่ย จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
  • 5:12 - 5:13
    ให้อาป้อมค่อยๆ เล่าให้เราฟังค่ะ
  • 5:13 - 5:16
    ในวันนี้นะคะ เราสั่งของกินเล่น
  • 5:16 - 5:18
    อันเนี้ยน่าสนใจ
  • 5:18 - 5:19
    คือคำว่าเมี่ยง
  • 5:19 - 5:23
    เมี่ยงก็คือ อาหารที่เราต้องใช้การเคี้ยว
  • 5:23 - 5:26
    จริงๆ แล้วเนี่ย เมี่ยงมาจากอะไรล่ะคะ
  • 5:26 - 5:28
    เราสามารถทำน้ำเมี่ยง เคี่ยวน้ำเมี่ยง
  • 5:28 - 5:32
    น้ำตาล น้ำปลา มะพร้าว อันนี้ก็แล้วแต่สูตรใครนะ
  • 5:32 - 5:35
    เคี่ยวไว้ แล้วก็เก็บใส่โหล
  • 5:35 - 5:38
    มะพร้าวก็เคี่ยวไว้แล้ว กุ้งแห้งก็มีอยู่แล้ว
  • 5:38 - 5:41
    หัวหอม พริก ขิง อะไรเหล่าเนี้ย เรามีอยู่ในบ้าน
  • 5:41 - 5:44
    ดังนั้น สิ่งที่สามารถเอามาทำเมี่ยงได้
  • 5:44 - 5:46
    ใบชะพลู ใบทองหลาง กลีบบัว
  • 5:46 - 5:47
    จริงๆ แล้วข้างในเหมือนกันหมด
  • 5:48 - 5:50
    ก็คือมีทุกอย่างหมดแล้วแหละ บังเอิญได้ดอกบัวมา
  • 5:50 - 5:52
    อ่ะไปค้นๆ ของในบ้านมายัดรวมกัน
  • 5:52 - 5:55
    ใช่ มันเหมือนกับมีแขกมาเยี่ยมตอนบ่ายๆ
  • 5:55 - 5:57
    เอ้า หิวมั้ย เอานี่มั้ย เพลิน
  • 5:57 - 5:59
    คือปกติเนี่ย เค้าไม่ได้จัดมาแบบนี้
  • 5:59 - 6:01
    เค้าจะกองทุกอย่าง แล้วเราก็เลือกใส่เอาเอง
  • 6:01 - 6:04
    กินไปคุยไป มันเป็นความเพลิดเพลิน
  • 6:04 - 6:07
    แล้วเหมือนกับ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ
  • 6:07 - 6:08
    เชิญอาป้อมก่อนเลยค่ะ
  • 6:08 - 6:09
    เวลาเรากินนะ
  • 6:09 - 6:12
    เพื่อจะให้เข้าปากได้ง่ายๆ นะคะ
  • 6:12 - 6:13
    จริงๆ แล้วเนี่ย
  • 6:13 - 6:15
    คนไทยเป็นคนสุภาพ
  • 6:15 - 6:17
    เราก็รับประทานให้มันละเมียดนิดนึง
  • 6:17 - 6:20
    โดยการจับแล้วก็ไขว้เข้าไปอย่างนี้
  • 6:20 - 6:21
    จริงๆ แล้วการไขว้เนี่ย
  • 6:21 - 6:26
    เค้าจะไขว้ก่อนที่ พับกรวยก่อนที่จะใส่เครื่องเข้าไป
  • 6:26 - 6:28
    เหมือนที่บอก เวลามาเนี่ย เค้าไม่ได้จัดอย่างนี้
  • 6:28 - 6:29
    พอพับกรวยเสร็จแล้วเนี่ย
  • 6:29 - 6:31
    เราก็หยิบมะพร้าวใส่ กุ้งใส่
  • 6:31 - 6:33
    มะนาวใส่ พริก หอม
  • 6:33 - 6:34
    แล้วก็ค่อยเอาน้ำเมี่ยง
  • 6:34 - 6:36
    น้ำเมี่ยงนี่สูตรบ้านใครบ้านมัน
  • 6:36 - 6:38
    ใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มรสชาติ
  • 6:40 - 6:43
    แล้วด้วยวิธีนี้ เราจะเข้าปากได้ง่ายขึ้น
  • 6:43 - 6:44
  • 6:44 - 6:47
    ขออนุญาตทำสิ่งนึงก่อนค่ะ คือเขี่ยพริกออกนั่นเอง
  • 6:49 - 6:50
    หยิบดีๆ เข้าเลย
  • 6:51 - 6:53
    สิ่งที่เราเจอในปาก
  • 6:53 - 6:55
    ความมันความเค็มของกุ้งแห้ง
  • 6:55 - 6:57
    เค็มๆ หวานๆ ของน้ำเมี่ยง
  • 6:57 - 7:00
    เปรี้ยวมะนาว หอมผิวมะนาวขึ้นไปด้วย
  • 7:00 - 7:01
    ครบมาก คำเดียว
  • 7:01 - 7:02
    ค่ะ ในคำเดียว ครบ
  • 7:02 - 7:04
    แอบมีขิงแก่ เพื่ออะไรเหรอคะ
  • 7:04 - 7:06
    คนไทยเนี่ย เมื่อไหร่ที่กินไขมันประมาณมะพร้าว
  • 7:06 - 7:09
    เค้าก็จะใส่ขิงเพื่อเป็นการรักษาท้อง
  • 7:09 - 7:11
    คือเหมือนกับว่าเค้าเตรียมไว้ละ
  • 7:11 - 7:14
    ตอนนี้เรากินอะไรที่เป็นไขมัน เราต้องใส่อะไรแก้ไขมันลงไปด้วยในคำเดียว
  • 7:14 - 7:17
    ใช่ๆ เพราะว่าเห็นมั้ยว่าคนไทย เมื่อก่อนมีมั้ยคะ
  • 7:17 - 7:21
    ความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือดหัวใจ ไม่มี
  • 7:21 - 7:24
    ทั้งๆ ที่กะทิอ่ะ คนไทยก็กินมาตั้งนานแล้ว
  • 7:24 - 7:26
    หมูสามชั้นก็กินมาแล้ว
  • 7:26 - 7:27
    ค่ะ มันกุ้งอีก
  • 7:27 - 7:30
    ได้ข่าวว่าตอนอยุธยานี่เรากินมันกุ้งแล้วทิ้งเนื้อเลยใช่มั้ยคะ
  • 7:30 - 7:32
    โอ๊ย รุ่นคุณพ่อพี่อ่ะ จำได้เลย
  • 7:32 - 7:33
    บ้านเค้าอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา
  • 7:33 - 7:36
    สมัยนั้นลงไปว่ายเล่นในแม่น้ำได้
  • 7:36 - 7:39
    พ่อเล่าว่า พ่อกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเล่นเนี่ยนะ
  • 7:39 - 7:43
    ตรงเสาของท่า มีกุ้งก้ามกรามเกาะอยู่
  • 7:44 - 7:45
    คือตัวใหญ่มากอ่ะ
  • 7:45 - 7:48
    แล้วมันก็เป็นอะไรที่หาง่าย
  • 7:48 - 7:50
    แล้วก็ไม่ได้แพงมหัศจรรย์แบบสมัยนี้
  • 7:50 - 7:54
    วันนี้กิโลละพันหก อะไรอย่างนี้นะคะ
  • 7:54 - 7:54
    ใช่ค่ะ
  • 7:54 - 7:59
    อ่ะ ในที่สุดนะคะ หลังจากที่เรานั่งทานของว่างแล้วก็คุยกันมาสักพักนึงแล้ว
  • 7:59 - 8:01
    อาหารสำรับจริงก็มาแล้วค่ะ
  • 8:01 - 8:03
    ดังนั้น นี่คืออะไรยังไงบ้างคะเนี่ยอาป้อม
  • 8:03 - 8:06
    อย่างวันนี้เนี่ย ที่จัดมาให้ดูนะคะ
  • 8:06 - 8:10
    มันเป็นการกินอาหารแบบสำรับที่เมื่อกี้เราเกริ่นไป จำได้มั้ยคะ
  • 8:10 - 8:11
    ค่ะ
  • 8:11 - 8:12
    นั่นก็คือว่า
  • 8:12 - 8:16
    มีอาหารที่เป็นเผ็ด ผักสด ปลาทูทอด
  • 8:16 - 8:20
    แค่จานนี้ น่าจะกินได้ทั้งสามรุ่น
  • 8:20 - 8:21
    จานเดียวเนี่ยนะคะ
  • 8:21 - 8:24
    จานเดียวกัน ก็คือเด็กหน่อยก็กินปลาทู
  • 8:24 - 8:27
    แค่ข้าวคลุกปลาทู ยังกินน้ำพริกไม่ไหว
  • 8:27 - 8:28
    พ่อแม่นี่เหมาได้ทั้งจาน
  • 8:28 - 8:30
    พอปู่ย่าตายายเนี่ย
  • 8:30 - 8:34
    อาจจะต้องรับประทานผักนิ่มๆ แล้วก็แตะน้ำพริกแค่น้อยๆ
  • 8:35 - 8:36
    ซึ่งกรณีนี้เนี่ย
  • 8:36 - 8:41
    มันสามารถที่จะสอนให้เด็กรุ่นเล็กๆ เนี่ย หัดเริ่มรับประทานเผ็ดได้ด้วย
  • 8:41 - 8:42
    แตะๆ นิดหน่อย
  • 8:42 - 8:44
    ใช่ แตะแล้วชอบให้รสชาติเป็นยังไง
  • 8:44 - 8:46
    คนไทยก็จะเริ่มคุ้นกับกลิ่นกะปิ
  • 8:46 - 8:49
    ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในครัวไทย
  • 8:49 - 8:52
    นี่แปลว่า โอ๊ย เด็กอยู่อย่าเพิ่งกิน อย่าไปแตะมันเลยเนี่ย
  • 8:52 - 8:55
    เป็นการสอนที่ผิด เพราะมันจะทำให้กินไม่เป็นในอนาคต
  • 8:55 - 8:58
    ให้แตะ อยากกิน เดี๋ยวเผ็ดก็จะได้รู้เอง ว่ากินเข้าไปแล้วเผ็ด
  • 8:58 - 8:59
    อ๋ออออ ค่ะ
  • 8:59 - 9:01
    เด็กก็จะต้องเผชิญปัญหาทุกอย่าง
  • 9:01 - 9:03
    ซึ่งพี่ฝากไว้อย่างนึง
  • 9:03 - 9:06
    พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกแบบว่า overprootect
  • 9:06 - 9:08
    ปกป้องมากเกินไป
  • 9:08 - 9:10
    บางครั้งไม่ได้ให้ลูกเรียนรู้ที่จะแพ้
  • 9:10 - 9:12
    ไม่ได้ให้ลูกเรียนรู้ที่จะผิด
  • 9:12 - 9:14
    ลูกคุณก็ผิดได้ ลูกคุณก็แพ้ได้
  • 9:14 - 9:19
    เพราะในวันข้างหน้าถ้าคุณไม่สามารถตามปกป้องเค้าได้แล้ว
  • 9:19 - 9:22
    ถ้าเค้าต้องผิดต้องแพ้ขึ้นมา ในตัวเองเค้ารับไม่ได้
  • 9:22 - 9:23
    แล้วใครรับผิดชอบ
  • 9:23 - 9:25
    จริงด้วยค่ะ เป็นข้อคิดที่ดีมาก
  • 9:25 - 9:28
    เห็นมะ แม้กระทั่งเรื่องกินก็ยังสอนได้นะคนเรา
  • 9:28 - 9:28
    ค่ะ
  • 9:28 - 9:29
    อันนี้เป็นเครื่องจิ้ม
  • 9:29 - 9:31
    อย่างนี้เค้าเรียกว่าเครื่องจิ้ม
  • 9:31 - 9:32
    ซึ่งเครื่องจิ้มมีอะไรอีก
  • 9:32 - 9:35
    เครื่องจิ้มก็อาจจะมีหลน ซึ่งเป็นกะทิ
  • 9:35 - 9:37
    แต่วันนี้เอาพื้นบ้านเลย
  • 9:37 - 9:38
    คือน้ำพริกกะปิเนี่ย
  • 9:38 - 9:42
    รับประทานกับปลาทู ผักทอด ผักสด ผักลวก
  • 9:43 - 9:44
    มีดอกโสน
  • 9:44 - 9:46
    เมื่อน้ำพริกกะปิแซ่บแล้ว
  • 9:46 - 9:50
    แกงที่จะมาคู่กันสามารถเป็นแกงกะทิได้
  • 9:50 - 9:51
  • 9:51 - 9:53
    วันนี้เนี่ยใช้แกงเผ็ดเป็ดย่าง
  • 9:53 - 9:54
    ค่ะ
  • 9:54 - 9:58
    แกงเผ็ดเป็ดย่างเนี่ย ทำไมเป็นแกงเดียวที่ต้องใส่สับปะรด
  • 9:58 - 9:59
    อ่า ไม่รู้สิคะ
  • 9:59 - 10:03
    เนื่องจากสมัยก่อนเนี่ย เป็ด เป็ดบ้านไก่บ้าน เหนียวค่ะ
  • 10:03 - 10:04
    อ๋อ
  • 10:04 - 10:06
    เค้าออกกำลังของเค้าทุกวันเนี่ย
  • 10:06 - 10:07
    พอเชือดมากิน เหนียว
  • 10:07 - 10:08
    ย่างแล้วเหนียวทำยังไง
  • 10:08 - 10:12
    การที่จะทำให้เนื้อเป็ดนุ่ม นั่นคือการใส่สับปะรดเข้าไป
  • 10:12 - 10:14
    นั่นคือภูมิปัญญาของคนไทย
  • 10:14 - 10:18
    มันจะเป็นตัวเอนไซม์ที่ไปย่อยให้เป็ดนุ่ม
  • 10:18 - 10:23
    ดังนั้น ถ้าไปเห็นแกงเผ็ดเป็ดย่างที่ไหนที่สับปะรดหน้าตาสดเกินไป
  • 10:23 - 10:24
    มันไม่ใช่
  • 10:24 - 10:26
    มันต้องใช้เวลาให้สับปะรดเนี่ย
  • 10:26 - 10:29
    เข้าไปช่วยเป็ดให้นุ่มก่อน
  • 10:29 - 10:30
    แล้วถึงใส่เครื่อง
  • 10:30 - 10:33
    ก็คือเหมือนกับว่าเคี่ยวไปก่อนเลย แล้วเดี๋ยวค่อยเติมอย่างอื่น
  • 10:33 - 10:35
    แล้วเสร็จแล้ว อาหาร ไม่ต้องว่าอะไร
  • 10:35 - 10:37
    ทุกอย่างมีวิวัฒนาการ
  • 10:37 - 10:38
    ดังนั้นในวันนี้
  • 10:38 - 10:40
    อาจจะเปลี่ยนเพิ่มลิ้นจี่บ้าง
  • 10:40 - 10:42
    เพิ่มองุ่นบ้าง อะไรบ้าง
  • 10:42 - 10:46
    แต่เห็นมั้ยว่า เค้าก็ยังคงความมีสับปะรดอยู่ในนี้
  • 10:46 - 10:47
    ให้มันนิ่ม
  • 10:47 - 10:48
    ยังไงก็เป็นสับปะรด
  • 10:48 - 10:49
    ไม่ใช่ไม่เป็นสับปะรด
  • 10:49 - 10:53
    ในเมื่อมีแกงแล้ว เผ็ดแล้ว นี่ก็เผ็ดอีก
  • 10:53 - 10:53
    มีนี่แกล้ม
  • 10:53 - 10:57
    จานนี้เนี่ย เห็นที่เขียนไว้คือหมูฮ้อง
  • 10:57 - 10:58
    หมูฮ้องเนี่ยคือ
  • 10:58 - 11:02
    เหมือนกับเป็นหมูต้มเค็มของทางภูเก็ตนะคะ
  • 11:02 - 11:06
    จะเป็นลูกผสมระหว่างหมูต้มเค็มของไทยกับหมูพะโล้
  • 11:06 - 11:08
    อ่ะเพราะว่าภูเก็ตก็คนจีนค่อนข้างเยอะ
  • 11:08 - 11:11
    ใช่ค่ะ แต่ว่าก็ยังผสมสามเกลอ
  • 11:11 - 11:13
    นั่นคือรากผักชีกระเทียมพริกไทย
  • 11:13 - 11:14
    แบบไทยอยู่
  • 11:14 - 11:15
    ชอบชื่อมากค่ะ สามเกลอ
  • 11:15 - 11:17
    สามเกลอ อันนี้เค้าจะเรียกกันสามเกลอ
  • 11:17 - 11:20
    เพราะขี้เกียจพูดอ่ะ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ยาว
  • 11:20 - 11:22
    สามเกลอ จบ เราจะเข้าใจนะคะ
  • 11:22 - 11:24
    แล้วก็ถ้าเป็นหมูฮ้องเนี่ย
  • 11:24 - 11:26
    สามารถใส่ผงพะโล้เข้าไปด้วย
  • 11:26 - 11:32
    ผงพะโล้ก็ประกอบไปด้วย อบเชย กานพลู ลูกจันทน์ ลูกกระวาน แล้วก็พริกไทย ลงไป
  • 11:32 - 11:33
    ประมาณนี้นะคะ
  • 11:33 - 11:35
    เพราะภาษาจีนมาจากคำว่า five spices
  • 11:35 - 11:37
    อื้ม ก็คือเครื่องเทศห้าอย่าง
  • 11:37 - 11:40
    เครื่องเทศของจีน ก็ผงพะโล้นั่นเอง
  • 11:40 - 11:42
    แล้วก็ เคี่ยวจนหมูนุ่ม
  • 11:42 - 11:46
    แต่น้ำตาลในหมูฮ้องหรือหมูพะโล้
  • 11:46 - 11:49
    ก็จะไปรัดทั้งไข่ทั้งหมูให้ผิวตึง
  • 11:50 - 11:53
    แต่อันนี้ก็คืออาหารจานไข่และหมู
  • 11:53 - 11:54
    ซึ่งลูกเล็กกินได้ไง
  • 11:55 - 11:57
    และเป็นอาหารแก้เผ็ดของรุ่นใหญ่
  • 11:57 - 11:58
    ก็คือเห็นเด็กกินอยู่
  • 11:58 - 11:59
    โอ๊ย อันนี้เผ็ดจังเลย
  • 11:59 - 12:00
    ไปแย่งเด็กกิน
  • 12:00 - 12:01
    ใช่ค่ะ
  • 12:01 - 12:02
    ทีนี้เจอความหนักแล้ว
  • 12:02 - 12:04
    เรามาเบาด้วยยำ
  • 12:04 - 12:06
    สมัยก่อนน่ะ ตามบ้านชนบทไทย
  • 12:06 - 12:08
    เค้ามีหัวปลีอยู่แล้ว
  • 12:08 - 12:09
    ก็เลยเอาหัวปลีมายำ
  • 12:09 - 12:12
    แต่รสยำหัวปลี ทำไมถึงสั่งมาในวันนี้
  • 12:12 - 12:15
    ก็เพราะว่าเรามีน้ำพริกเผ็ดเปรี้ยว แซ่บอยู่แล้วถูกมั้ยคะ
  • 12:15 - 12:16
    ยำหัวปลีเค้าจะนวลๆ
  • 12:16 - 12:19
    เค้าจะเป็นยำที่ใส่หัวกะทิลงไป
  • 12:19 - 12:22
    หัวกะทิแล้วก็มะพร้าวคั่วนะคะ
  • 12:22 - 12:25
    เพราะงั้นความสดชื่นที่ไม่ถึงกับปี๊ดป๊าดเกินไป
  • 12:25 - 12:27
    แล้วจบด้วยแกงจืด
  • 12:27 - 12:28
    จะแกงจืดอะไรก็ตามที
  • 12:28 - 12:29
    ไว้ล้างปาก
  • 12:29 - 12:32
    คุณย่าคุณตาคุณยายจะได้คล่องคอหน่อย
  • 12:32 - 12:34
    เพราะว่าไม่งั้นเนี่ย เดี๋ยวข้าวแข็งติดคอ
  • 12:34 - 12:36
    ทีนี้ หนูแอบถามนิดนึงได้มั้ยคะ
  • 12:36 - 12:39
    เห็นว่าตอนนี้เรามีช้อนส้อมอะไรเสร็จเรียบร้อย
  • 12:39 - 12:43
    แต่ว่าจริงๆ แล้วอ่ะ เท่าที่เคยอ่านมา คนไทยสมัยก่อนเค้าใช้มือเปิบใช่มั้ยคะ
  • 12:43 - 12:44
    ใช่ค่ะ ใช้มือเปิบ
  • 12:44 - 12:46
    แต่คนไทยก็ไม่ใช่ไม่มีช้อนนะ
  • 12:46 - 12:48
    อย่างพวกเนี้ยเค้าก็จะใช้ช้อนตรงกลาง
  • 12:48 - 12:51
    แต่บางอย่างนี่เค้าจะใช้มือหยิบ เช่น การแกะปลาทู
  • 12:51 - 12:53
    หรือว่า การหยิบผัก
  • 12:53 - 12:54
    ซึ่งนี่ก็เคลียร์เลยใช่มั้ยคะ
  • 12:54 - 12:57
    เพราะว่าที่ผ่านมาหนูสงสัยมาตลอดเลยว่าเปิบมือแล้วเนี่ย
  • 12:57 - 12:59
    แล้วจะไปซดซุปได้ยังไง
  • 12:59 - 13:02
    เค้าก็ยังมีช้อนกลางอยู่นะคะ ในแต่ละอันเนี่ย
  • 13:02 - 13:05
    แล้วก็ด้วยความที่ถ้าในบ้านนึงสนิทกัน
  • 13:05 - 13:07
    ก็สามารถซดช้อนเดียวกันไปได้เลย
  • 13:07 - 13:10
    ซึ่งจริงๆ เราฟังดูอาจจะฟังดูไม่ถูกสุขลักษณะ
  • 13:10 - 13:12
    แต่บางครั้งเนี่ย ในความสนิทสนม
  • 13:12 - 13:15
    แล้วก็เมื่อก่อนเค้าก็ไม่ได้มีเชื้อโรคเยอะขนาดนี้เนอะ
  • 13:15 - 13:18
    แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือ สามารถจะตักมาใส่ช้อนตัวเอง
  • 13:18 - 13:19
    แล้วก็ค่อยซดน้ำซุป
  • 13:19 - 13:21
    ได้เช่นกันค่ะ
  • 13:21 - 13:22
    ทีนี้หนูแอบอยากขออย่างนึงค่ะ
  • 13:23 - 13:25
    คือสงสัยมานานละ อยากรู้มาตลอดชีวิตเลย
  • 13:25 - 13:27
    เวลาเค้าเปิบมือนี่เค้าเปิบยังไงอ่ะคะ
  • 13:27 - 13:28
    มันไม่เละเหรอ
  • 13:28 - 13:28
    งั้นลอง
  • 13:29 - 13:30
    อย่างแรกเราล้างมือก่อน
  • 13:30 - 13:32
    ก็คือต้องมีถ้วย ถ้วยไว้ใช้ล้างมือ
  • 13:32 - 13:36
    เราล้างมือก่อน ถ้าอยู่ในบ้านนี่ก็อาจจะต้องวิ่งไปโอ่งหลังบ้าน
  • 13:36 - 13:37
    ละเอาข้าวใส่จาน
  • 13:37 - 13:43
    ข้าวนี่คือสิ่งเดียวที่คุณเป็นเจ้าของในโต๊ะอาหาร
  • 13:43 - 13:45
    นั่นคือการตักข้าวใส่จาน
  • 13:45 - 13:47
    ยิ่งถ้าสมมุติว่าบ้านไหนมีนานะ
  • 13:47 - 13:50
    ข้าวใหม่นี่โอ้โหมันจะเกาะกันเป็นก้อน
  • 13:50 - 13:53
    ในแง่ของน้ำพริกปลาทู อย่างแรกเลย
  • 13:53 - 13:56
    ก็แกะเนื้อปลาทูที่เราจะกินมาในจาน
  • 13:56 - 13:59
    คือคนไทยเมื่อก่อนเค้าก็ไม่ค่อยถือกันเท่าไหร่หรอกนะ การใช้มือ
  • 13:59 - 14:01
    ปัญหาคือแกะปลาทูไม่เป็น
  • 14:01 - 14:02
    อย่าให้เกินข้อแรกนะ
  • 14:02 - 14:03
    ให้อยู่แค่นี้นะ
  • 14:03 - 14:05
    ข้อแรกคือตรงนี้ใช่มั้ยคะ
  • 14:05 - 14:07
    เห็นมั้ยคะของอาป้อมไม่ได้เกิน
  • 14:07 - 14:08
    โห ยากละ งานเข้า
  • 14:08 - 14:11
    สวยหน่อย กรีดนิด กรีดกรายนิดๆ
  • 14:12 - 14:14
    แล้วก็ลองคลุกไปกับข้าว
  • 14:16 - 14:18
    มือเดียวๆ นี่ลองเอามือนี้เก็บไว้ข้างหลัง
  • 14:18 - 14:20
    แล้วก็ใช้ปลายนิ้ว
  • 14:20 - 14:23
    คลุกอย่างงี้ก่อน คลุกเสร็จแล้ว เราตักน้ำพริกใส่
  • 14:23 - 14:25
    สมมุติเราตักน้ำพริกเหยาะลงไป
  • 14:25 - 14:27
    อ่ะ ลองตักน้ำพริก
  • 14:27 - 14:29
    ไม่เป็นไร หนแรกเก้งก้างหน่อย
  • 14:29 - 14:30
    เราเหมือนกับต้องจับงี้นะ
  • 14:30 - 14:35
    ให้ใช้ห้านิ้วเนี่ย แล้วก็บีบ ให้มันค่อนข้างจับอย่างนี้ เห็นมั้ยคะ
  • 14:35 - 14:38
    จับตรงนี้ บีบเข้าไป บีบห้านิ้วรวมเข้าไป
  • 14:38 - 14:38
    ไม่อยู่
  • 14:38 - 14:41
    อยู่ กดที่จานแล้วบีบเข้าไป
  • 14:41 - 14:43
    กดที่จานแล้วบีบเข้าไปค่ะ
  • 14:43 - 14:46
    ปั้นหลายคำจังเว้ย เอาล่ะ พอ
  • 14:46 - 14:47
    แล้วก็เราจับอย่างนี้ ปึ๊ด
  • 14:50 - 14:52
    ผลักเข้าไป ใช้นิ้วโป้งผลักเข้าไป
  • 14:52 - 14:53
    เหมือนช้อนอ่ะ
  • 14:53 - 14:55
    เหมือนตรงนี้เป็นช้อนแล้วใช้นิ้วโป้งผลักเข้าไป
  • 14:56 - 14:58
    เสร็จแล้ว เราก็รับประทานผักแกล้ม
  • 15:01 - 15:05
    ในขณะเดียวกัน คนไทยเมื่อก่อนเค้าก็คงไม่กินแกงโชกขนาดนั้น
  • 15:05 - 15:07
    ลองตักแกงเผ็ดเป็ดย่าง
  • 15:07 - 15:10
    แล้วเดี๋ยวเราจะแกล้มด้วยไข่พะโล้
  • 15:10 - 15:11
  • 15:11 - 15:14
    อันนี้มีน้ำแกงก็ต้องกดแรงหน่อย
  • 15:14 - 15:15
    น้ำแกง ต้องคลุกก่อน
  • 15:15 - 15:17
    ใช่ แล้วก็บีบ ถูกต้อง บีบให้อยู่ปึ๊บ
  • 15:18 - 15:21
    ไม่ต้องขึ้นทั้งหมดก็ได้ เอ้า แล้วดันเข้าปาก
  • 15:21 - 15:22
    แขนกางเชียว
  • 15:24 - 15:26
    กินให้ละเมียดนิดนึง
  • 15:26 - 15:28
    คือแขนเนี่ยอยู่ใกล้ๆ ตัว
  • 15:28 - 15:29
    แล้วก็
  • 15:30 - 15:31
    แค่นี้เอง
  • 15:31 - 15:34
    พอรู้สึกว่า สมมุติว่า กินแกงเผ็ด
  • 15:34 - 15:36
    พอมันเผ็ด ก็ ตักไข่
  • 15:37 - 15:38
    ขอบคุณค่ะ
  • 15:38 - 15:40
    แล้วก็กินกับข้าว
  • 15:40 - 15:42
    บางคนเนี่ย อันนี้คนที่บ้านก็เคยกินนะคะ
  • 15:42 - 15:43
    มันไม่ต้องเปิบข้าวทุกคำ
  • 15:43 - 15:45
    เราอาจจะต้องกินแบบนี้
  • 15:46 - 15:47
  • 15:48 - 15:50
    ก็กิน แล้วค่อยเปิบข้าวตาม
  • 15:50 - 15:52
    นี่ แขนลงมานิดนึง
  • 15:52 - 15:55
    กดก่อนๆ นี่หยิบเป็นข้าวเหนียวเลย
  • 15:55 - 15:58
    แล้ววิธีการจับนี่มัน มีแตกต่างอะไรกันยังไงมั้ยคะ
  • 15:58 - 16:02
    ก็คือเค้าบอกว่าถ้าหัดดีๆ แล้วเนี่ย ห้ามเกินข้อนิ้วบน
  • 16:02 - 16:04
    ห้ามเลอะเกินข้อนิ้วบน
  • 16:04 - 16:06
    เพราะฉะนั้นการหยิบก็คือการจับแบบนี้ถึงจะอยู่
  • 16:09 - 16:12
    เราสังเกตความเป็นผู้ดีได้จากความเละของมือนะคะ
  • 16:12 - 16:14
    มันก็ไม่แย่เท่าไหร่ ยังไม่แย่เท่าไหร่อ่ะ
  • 16:14 - 16:16
    แรกๆ ก็อย่าเกินข้อสองเท่านั้นเองค่ะ
  • 16:16 - 16:22
    แล้วก็เมื่อไหร่ที่ฝืดคอ เราก็ซดน้ำซุปตาม แค่นั้นเอง
  • 16:22 - 16:23
    นี่คือการกินแบบไทย
  • 16:23 - 16:27
    แล้วเมื่อกี้ค่ะ อย่างที่อาป้อมบอกว่าอันนี้คืออาหารแบบชาวบ้านใช่มั้ยคะ
  • 16:27 - 16:30
    แล้วถ้าสมมุติว่าอาหารชาววังมันจะต่างจากชาวบ้านยังไงอ่ะคะ
  • 16:30 - 16:31
    คำว่าวังไง
  • 16:31 - 16:34
    ก็คือคำว่าบ้าน ที่มีเจ้าอยู่
  • 16:34 - 16:35
    วังคือหนึ่งในราชาศัพท์
  • 16:35 - 16:39
    นั่นก็คือบ้านที่มีตั้งแต่ระดับหม่อมเจ้าอยู่ขึ้นไป เค้าจะเรียกว่าวัง
  • 16:39 - 16:41
    แล้วก็ อาหารชาววัง
  • 16:41 - 16:43
    เช่นในวังหลวงอย่างงี้
  • 16:43 - 16:45
    คือเจ้าจอมต่างๆ เนี่ย
  • 16:45 - 16:49
    ท่านก็มีตำหนัก แล้วก็มีข้าทาสบริวาร
  • 16:49 - 16:52
    ทีนี้ เวลาเหลือเยอะ แล้วกลัวลูกน้องไม่มีงานทำ
  • 16:53 - 16:54
    นะ ทำยังไง
  • 16:54 - 16:55
    ก็เริ่มเลย เห็นมะ
  • 16:55 - 16:57
    อย่างเงี้ยก็ไม่เชิงชาวบ้าน
  • 16:57 - 16:59
    อันนี้เป็นชาววัง ดู๊
  • 16:59 - 17:02
    แค่ใบบัวบกก็ยังจะต้องมามัดช่อสวยงาม
  • 17:02 - 17:03
    ประมาณนี้
  • 17:03 - 17:05
    หรือผักอ่ะ ก็จะมาเป็นคำ
  • 17:05 - 17:07
    ไม่ใช่ว่าต้องมานั่งกัดกรุ๊บๆๆๆ
  • 17:07 - 17:09
    คือชาวบ้านเนี่ย บางทีเค้าจะเด็ดสดข้างบ้านมา
  • 17:09 - 17:11
    แล้วกินไปกัดไป
  • 17:11 - 17:13
    หรือแตงกวาเค้ากัดทั้งลูกเลย
  • 17:13 - 17:16
    อันนั้นน่ะได้ มันเป็นความอร่อยจากความสดนะคะ
  • 17:16 - 17:19
    แต่ว่า พอในชาววังนี่ ไม่เอาไม่งามค่ะ
  • 17:19 - 17:22
    ไม่งาม ก็ต้องค่อยๆ อะไรที่เข้าปากได้ในคำเดียว
  • 17:22 - 17:27
    อ๋อ เพราะว่าอย่างเมื่อกี้ ถ้าสมมุติต้องมานั่งจกๆ เองมันก็เก้งก้าง
  • 17:27 - 17:29
    ไม่สวย ก็เลยจับมาเป็นคำๆ หมดแล้ว
  • 17:29 - 17:31
    ใช่ เนี่ย อย่างนี้เราเข้าหนึ่งคำได้
  • 17:31 - 17:37
    ทีนี้อีกข้อนึงก็คือว่า ถ้าเป็นชาวบ้านรสชาติจะเผ็ดจัด เค็มจัด
  • 17:37 - 17:38
    ทุกอย่างจะแซ่บ
  • 17:38 - 17:39
    แต่ของชาววัง
  • 17:39 - 17:42
    ที่คนมันตีความหมายผิดว่าอาหารชาววังหวาน
  • 17:42 - 17:43
    ไม่ใช่ค่ะ
  • 17:43 - 17:47
    อาหารชาววังเป็นอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล
  • 17:47 - 17:48
    มีสัมผัสในทุกรส
  • 17:48 - 17:52
    บางคน คุณกินชาวบ้านมา คุณก็ต้องบอกของชาววังรสอ่อน หรือจืด
  • 17:52 - 17:55
    เลยกลายเป็นไปตีความว่าหวานอ่ะ
  • 17:55 - 17:57
    ซึ่งอันนี้มันไม่ใช่ เพราะว่าอาหารไทย เห็นมั้ย
  • 17:57 - 17:58
    อันนี้เปรี้ยวเค็ม
  • 17:58 - 18:00
    อันนี้แกงเผ็ดออกเค็ม
  • 18:00 - 18:01
    แต่อันนี้ เค็มหวาน
  • 18:01 - 18:05
    นั่นหมายความว่าอาหารแต่ละจานเค้ามีรสชาติของเค้า
  • 18:05 - 18:07
    ไม่งั้นเราจะจัดสำรับมาทำไมคะ
  • 18:07 - 18:10
    ก็คือในหนึ่งสำรับ เค้าคิดและว่าอันนี้คู่กับอันนี้
  • 18:10 - 18:11
    ไม่ใช่สั่งมั่วซั่ว
  • 18:11 - 18:13
    แล้วแกงจืดน่ะ มีเปรี้ยวมีหวานมั้ย
  • 18:13 - 18:17
    มันก็มีแค่เค็มของมัน เพื่อที่จะเป็นน้ำซดให้คล่องคอ
  • 18:17 - 18:19
    แต่ไม่จำเป็นต้องมีรสอะไรเลย
  • 18:19 - 18:21
    เหมือนกับกึ่งๆ จะล้างปาก
  • 18:21 - 18:23
    นี่คือชาววังกับชาวบ้านกินเหมือนกัน
  • 18:23 - 18:26
    แล้วอันเนี้ยแกะมาให้แล้ว อันนี้คือกึ่งๆ ชาววัง
  • 18:26 - 18:30
    เนี่ย ไม่มีก้าง คือเลาะกลางออก และเอาก้างกลางออก
  • 18:30 - 18:33
    เอาข้างนี่ออก แล้วประกบกลับเข้าไปเป็นตัวปลาทู
  • 18:33 - 18:34
    คือความละเอียด
  • 18:34 - 18:39
    นั่นหมายความว่า เค้ามีเวลา ในการประณีต
  • 18:39 - 18:41
    แต่ชาวบ้านทั่วไปทำไมเหรอคะ
  • 18:41 - 18:43
    ชาวบ้านทั่วไปต้องทำมาหากินอ่ะ
  • 18:43 - 18:45
    เวลาที่จะมาประณีต ไม่มีหรอก
  • 18:45 - 18:47
    การทำงานสำคัญกว่า
  • 18:47 - 18:50
    ดังนั้นเนี่ย ในทุกวัน ความสุขของเค้าทุกวันคือการเจอกัน
  • 18:50 - 18:52
    แต่อาจจะไปเด็ดแตงกวามาจากต้น
  • 18:52 - 18:53
    ไปเด็ดมะเขือมาจากต้นเลย
  • 18:53 - 18:54
    ล้างแล้วกินสดๆ
  • 18:54 - 18:56
    โห หวาน กรอบ อร่อย
  • 18:56 - 18:57
    ไม่ต้องเสียเวลามาตัด
  • 18:57 - 19:01
    เข้าใจขึ้นเยอะมากๆ เลยค่ะ เกี่ยวกับอาหารไทยทั้งหลาย
  • 19:01 - 19:03
    วันนี้ก็ขอบคุณอาป้อมมากๆ เลยค่ะ
  • 19:03 - 19:05
    ที่มาให้ความรู้กับพวกเราในวันนี้
  • 19:05 - 19:08
    แต่วิวอยากแอบบอกทุกคนอีกนิดนึงค่ะ
  • 19:08 - 19:13
    คือวิวอ่ะ เคยมีโอกาสไปเห็นอาป้อมในอีกบทบาทนึงซึ่งไม่ใช่เชฟหรืออะไรอย่างนี้
  • 19:13 - 19:17
    คือวิวเคยไปงานคอนเสิร์ตในสวนค่ะ Concert in the Park
  • 19:17 - 19:19
    แล้ววิวเห็นอาป้อมร้องเพลงด้วย
  • 19:19 - 19:21
    ถ้าสมมุติว่าวิวอยากได้ยินอาป้อมร้องเพลงอีกรอบเนี่ย
  • 19:21 - 19:24
    วิวจะต้องไปหาฟังที่ไหนอะไรยังไงมั้ยคะ
  • 19:24 - 19:28
    ตอนนี้เนี่ย ที่กลับมาก็คือ กลับมาเล่นละครเพลง
  • 19:29 - 19:30
    ละครเพลงเลยเหรอคะ
  • 19:30 - 19:33
    ละครเพลง ซึ่ง เอาใกล้ๆ นี่เลย
  • 19:33 - 19:34
    สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล
  • 19:34 - 19:40
    ก็ไม่ได้มีบทมาก แต่ก็ได้เพลงที่ยากพอตัวนะคะ
  • 19:40 - 19:46
    ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเค้าคิดว่าอาป้อมร้องอยู่เป็นประจำเหมือนแต่ก่อนรึเปล่า
  • 19:46 - 19:48
    ก็ทรมานทรกรรมกันหน่อย
  • 19:48 - 19:50
    แต่อาป้อมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
  • 19:50 - 19:52
    หกวันสิบรอบเท่านั้นนะคะ
  • 19:52 - 19:55
    ใครอยากเห็นอาป้อมหรือเชฟป้อมร้องเพลงนะคะ
  • 19:55 - 19:56
    ก็พลาดไม่ได้เลยจริงๆ
  • 19:56 - 19:59
    เพราะว่าเป็นทั้งละครเพลง แล้วก็เกี่ยวกับอาหารด้วยนะคะ
  • 19:59 - 20:02
    ดังนั้น ถ้าใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ก็ดูด้านล่างเลยค่ะ
  • 20:02 - 20:04
    รายละเอียดอยู่ใน description box ข้างล่างแล้วนะคะ
  • 20:04 - 20:07
    วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณอาป้อมอีกครั้งมากๆ เลยค่ะ
  • 20:07 - 20:09
    ที่มาให้ความรู้กับเราในวันนี้
  • 20:09 - 20:10
    ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ
  • 20:10 - 20:14
    อยากให้วิวพาไปทำอะไรอีก อยากให้วิวพาไปเจอใครหรืออะไรยังไง
  • 20:14 - 20:15
    คอมเม้นท์มาด้านล่างค่ะ
  • 20:15 - 20:20
    แล้วก็อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังให้เรา แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ
  • 20:20 - 20:22
    วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย
  • 20:22 - 20:24
    สวัสดีค่า
  • 20:24 - 20:25
    เป็นไง คิดถึงเสียงวิวกันมั้ยคะ
  • 20:25 - 20:28
    เป็นหนึ่งคลิปที่รู้สึกว่าตัวเองแทบไม่ได้พูดไรเลยนะ
  • 20:28 - 20:30
    เพราะว่ามัวแต่นั่งอ้าปากค้างนะคะ
  • 20:30 - 20:33
    เป็นความรู้ที่ดีมากๆ เลย คือก็ไม่รู้จะไปหาอ่านเองจากไหนอะไรยังไงนะคะ
  • 20:33 - 20:34
    เอาเป็นว่าอย่างแรกนะคะ
  • 20:34 - 20:38
    ก็ขอขอบคุณร้านอาหารอรรถรส ซอยสุขุมวิท 39 นะคะ
  • 20:38 - 20:40
    ที่ให้เรามาชิมอาหารไทยดีๆ ในวันนี้
  • 20:40 - 20:41
    แล้วก็ให้ใช้สถานที่ด้วยค่ะ
  • 20:41 - 20:46
    นอกจากนี้ถ้าใครอยากติดตามผลงานของอาป้อมหรือว่าเชฟป้อมนะคะ
  • 20:46 - 20:47
    สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัลนะคะ
  • 20:47 - 20:51
    เล่นวันที่ 27 กันยายน ถึง 6 ตุลาคม 2562 นะคะ
  • 20:51 - 20:56
    มีรอบสุดสัปดาห์นะคะ วันศุกร์เย็น วันเสาร์บ่าย เสาร์เย็น อาทิตย์บ่าย อาทิตย์เย็น
  • 20:56 - 20:58
    ทั้งหมดแค่ 10 รอบด้วยกันนะคะ
  • 20:58 - 20:59
    พลาดแล้วพลาดเลย
  • 20:59 - 21:03
    ดังนั้นถ้าใครสนใจนะคะ รายละเอียดอยู่ด้านล่างเลย ใน description box นะคะ
  • 21:03 - 21:04
    รีบจองบัตรค่ะทุกคน
  • 21:04 - 21:05
    สำหรับวันนี้วิวลาไปก่อนนะคะ
  • 21:05 - 21:06
    บ๊ายบาย
  • 21:06 - 21:08
    สวัสดีค่ะ
Title:
เปิบข้าวอย่างไทยทำยังไง? ft. เชฟป้อม | Point of View x bemusical
Description:

more » « less
Duration:
21:10

Thai subtitles

Revisions