1 00:00:00,160 --> 00:00:02,060 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 2 00:00:02,120 --> 00:00:06,420 จะบอกว่าเรื่องนึงนะคะที่มีคนขอวิวมาเยอะมากในแชนเนลนั้นก็คือ 3 00:00:06,420 --> 00:00:08,460 อยากให้วิวเล่าเรื่องอาหารไทยค่ะ 4 00:00:08,460 --> 00:00:11,520 แต่อย่างที่ทุกคนรู้นะ บ้านวิวก็ค่อนข้างจะเป็นคนจีนน่ะนะคะ 5 00:00:11,520 --> 00:00:16,140 ดังนั้นนะคะ เรื่องที่วิวนำมาเล่าต่างๆ ส่วนมากก็จะมาจากตำรานู่นนี่นั่นใช่มั้ย 6 00:00:16,140 --> 00:00:18,680 แต่พอมันเป็นเรื่องอาหาร เป็นเรื่องศิลปะวัฒนธรรมเนี่ยนะคะ 7 00:00:18,680 --> 00:00:20,900 บางทีมันก็มีอะไรที่มันอยู่นอกตำรา 8 00:00:20,900 --> 00:00:23,540 แล้วก็มันต้องอาศัยคนที่มีประสบการณ์จริงๆ นะคะ 9 00:00:23,540 --> 00:00:25,400 ดังนั้นนะคะ ตามคำเรียกร้องของทุกคนเลย 10 00:00:25,400 --> 00:00:28,280 วันนี้วิวก็เลยมาหาผู้รู้ด้านอาหารไทยค่ะ 11 00:00:28,280 --> 00:00:29,320 เชฟป้อมนั่นเองค่ะ 12 00:00:29,320 --> 00:00:31,600 วันนี้นะคะ วิวชวนอาป้อมมาที่ร้านอรรถรสค่ะ 13 00:00:31,600 --> 00:00:33,300 โอเค ตอนนี้อาป้อมรออยู่ข้างในแล้ว 14 00:00:33,300 --> 00:00:34,980 เรารีบเข้าไปด้านในกันดีกว่าค่ะ 15 00:00:34,980 --> 00:00:37,160 แต่ ก่อนจะตามไปฟังเรื่องอาหารไทยกัน 16 00:00:37,160 --> 00:00:39,400 อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ 17 00:00:39,960 --> 00:00:41,560 ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค ยูทูป ทวิตเตอร์ อะไรต่างๆ 18 00:00:41,600 --> 00:00:45,380 จะได้ไม่พลาดคลิปวีดีโอสนุกๆ แล้วก็ข่าวสารดีๆ จากช่อง Point of View ค่ะ 19 00:00:45,385 --> 00:00:47,385 โอเค ตอนนี้พร้อมจะตามวิวเข้าไปข้างใน 20 00:00:47,385 --> 00:00:50,060 ไปฟังเรื่องที่ทั้งสนุก แล้วก็มีสาระกันรึยังคะ 21 00:00:50,060 --> 00:00:52,180 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามเข้ามาเลยค่ะ 22 00:00:57,360 --> 00:01:00,480 ตอนนี้นะคะ เราก็มาอยู่กับอาป้อมเรียบร้อยแล้วค่ะ 23 00:01:00,480 --> 00:01:01,455 สวัสดีค่ะอาป้อม 24 00:01:01,460 --> 00:01:02,460 สวัสดีค่ะ 25 00:01:02,760 --> 00:01:06,300 ก็ วันนี้วิวอยากจะมาขอความรู้เรื่องอาหารไทยค่ะ 26 00:01:06,300 --> 00:01:08,300 เพราะว่าวิวเนี่ยไม่มีความรู้อะไรเลย 27 00:01:08,300 --> 00:01:10,960 เรียกได้ว่า มีอะไรให้ทานก็ทานไป แบบนั้นเลยค่ะ 28 00:01:10,960 --> 00:01:12,780 อย่าเรียกว่ามาขอความรู้เลย 29 00:01:12,780 --> 00:01:15,080 เรียกว่าเรามาคุยกันดีกว่า 30 00:01:15,080 --> 00:01:18,140 อาป้อมโชคดีที่พื้นฐานครอบครัว 31 00:01:18,140 --> 00:01:22,000 ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อยู่กันหลายๆ รุ่น 32 00:01:22,720 --> 00:01:26,500 แล้วก็เป็นหลายรุ่นที่เน้นวัฒนธรรมการกินในบ้าน 33 00:01:26,500 --> 00:01:30,140 เมื่อก่อนนี้ เราไม่ได้รับประทานอาหารนอกบ้านกันค่ะ 34 00:01:30,140 --> 00:01:32,200 ซึ่งการอยู่หลายรุ่นในบ้านเนี่ยค่ะ 35 00:01:32,200 --> 00:01:34,220 มันทำให้การทานอาหารเนี่ย 36 00:01:34,220 --> 00:01:37,040 แตกต่างจากการทานอาหารนอกบ้านสมัยนี้มั้ยคะ 37 00:01:37,280 --> 00:01:41,000 จริงๆ แล้วนั่นมันคือวิถีชีวิตในความเป็นไทย 38 00:01:41,000 --> 00:01:42,180 อย่าเพิ่งมองสมัยนี้นะคะ 39 00:01:42,180 --> 00:01:44,260 ก็คือในหนึ่งหลังคาเรือนเนี่ย 40 00:01:44,260 --> 00:01:47,520 มันจะมีคนมากกว่าหนึ่งรุ่นอายุ 41 00:01:47,520 --> 00:01:49,640 ก็เหมือนที่เราดูในหนังในละครปกติ 42 00:01:49,640 --> 00:01:51,160 ที่แบบว่า ตายายอุ้มหลาน 43 00:01:51,160 --> 00:01:51,960 หลานวิ่งรอบ 44 00:01:51,960 --> 00:01:55,780 ถูกต้อง เพราะครอบครัวพื้นฐานไทยธรรมดาที่มาจากสังคมเกษตรกรรม 45 00:01:55,780 --> 00:01:57,220 ก็คือปู่ย่าตายายอยู่บ้านละ 46 00:01:57,220 --> 00:01:58,340 พ่อแม่ออกไปทำนาละ 47 00:01:58,340 --> 00:02:01,600 ลูกถ้ายังเล็กอยู่ ก็ไปอยู่กับปู่ย่าตายายนะคะ 48 00:02:01,620 --> 00:02:02,920 ถ้าโตหน่อยไปเรียนที่วัด 49 00:02:02,920 --> 00:02:06,220 เวลาคุณภาพของครอบครัวคือเวลาอาหาร 50 00:02:06,220 --> 00:02:08,740 คือทุกคนนั่งล้อมวงกันทานข้าว 51 00:02:08,740 --> 00:02:12,620 คือสมัยนี้เนี่ยสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือชอบเสิร์ฟกันแบบฝรั่ง 52 00:02:12,620 --> 00:02:14,445 ขึ้นต้นอาหารเรียกน้ำย่อย (appetizer) 53 00:02:14,445 --> 00:02:16,440 ซุป อาหารจานหลัก (main course) 54 00:02:16,440 --> 00:02:17,160 ตามด้วยของหวาน 55 00:02:17,160 --> 00:02:18,380 จริงๆ ไม่ใช่ 56 00:02:18,380 --> 00:02:20,820 ของไทย ถ้ามากินอย่างนั้น ลองนึกดู 57 00:02:20,820 --> 00:02:23,540 สมมุติ ต้มยำ ซดไปอ่ะ เผ็ดตายเลย 58 00:02:23,540 --> 00:02:27,180 จริงๆ แล้ว ต้มยำคือหนึ่งในสำรับ 59 00:02:27,180 --> 00:02:29,740 ก็คือสมัยก่อนคนไทยทานข้าวเป็นสำรับ 60 00:02:29,740 --> 00:02:34,360 สำรับ จริงๆ ถ้าแปลตรงตัวมันคือกลุ่มของถ้วยจานชาม 61 00:02:34,360 --> 00:02:36,720 แต่มาในแง่ของการกินเป็นสำรับ 62 00:02:36,720 --> 00:02:41,540 คำว่าสำรับเนี่ยก็คือการจัดสมดุลในมื้ออาหาร 63 00:02:41,540 --> 00:02:46,160 สมดุลมาจากคนสามรุ่นอายุสามารถกินอาหารร่วมกันได้ 64 00:02:46,160 --> 00:02:49,125 อาหารแค่เซ็ทเดียวเนี่ย ทุกคนต้องกินด้วยกันได้ 65 00:02:49,125 --> 00:02:50,480 หรือไม่ก็อย่างใดอย่างหนึ่ง 66 00:02:50,480 --> 00:02:53,260 อ๋อ จะกลายเป็นว่าใครสั่งอันนี้ปุ๊บ เอ้ย ชั้นกินไม่ได้ 67 00:02:53,260 --> 00:02:54,820 อันนี้เด็กกินไม่ได้ 68 00:02:54,820 --> 00:02:56,380 อันนี้อาหารเด็ก อันนี้อาหารผู้ใหญ่ 69 00:02:56,420 --> 00:02:59,180 งั้นมันจะคือเวลาคุณภาพของครอบครัวมั้ยล่ะ 70 00:03:00,100 --> 00:03:03,820 รุ่นที่หนึ่งกินได้ รุ่นที่สองกินได้ รุ่นที่สามกินได้ 71 00:03:03,820 --> 00:03:07,660 ทุกอย่างบนโต๊ะ มันคือรสชาติสมดุลและเอื้อกันไง 72 00:03:07,660 --> 00:03:11,180 ถ้าสมัยนี้เรียกว่า มิกซ์แอนด์แมตช์ อะไรทำนองนี้ใช่มั้ยคะ 73 00:03:11,180 --> 00:03:13,980 ปู่ย่าตายาย อายุเยอะละ ฟันฟางไม่ค่อยดี 74 00:03:14,140 --> 00:03:17,340 กินเผ็ดมากก็ไม่ค่อยได้ เพราะคนแก่กินเผ็ดแล้วจะสำลัก 75 00:03:17,340 --> 00:03:21,500 คนสมัยก่อนอายุซักประมาณสามสี่สิบกว่าฟันก็น่าจะเริ่มไปละ 76 00:03:21,500 --> 00:03:23,320 คือไม่ต้องอะไรหรอก อาป้อมก็รู้ตัว 77 00:03:23,320 --> 00:03:26,615 เพราะว่าตอนนี้ กินแล้วสำลักโดยไม่มีเหตุผล 78 00:03:26,615 --> 00:03:29,665 แค่กลิ่นพริกลงในคอ นิดเดียวเนี่ย 79 00:03:29,665 --> 00:03:31,500 เราจะสำลักเหมือนจะตายเอาเลย 80 00:03:31,500 --> 00:03:34,880 ทั้งๆ ที่ปกตินี่กัดพริกขี้หนูสดๆ ไม่มีปัญหา 81 00:03:34,900 --> 00:03:39,000 ดังนั้นเนี่ยในรุ่นกลาง รุ่นที่สอง รุ่นพ่อแม่ กินพริกเผ็ดได้ 82 00:03:39,060 --> 00:03:40,620 แต่คุณปู่คุณย่ากินไม่ได้แล้ว 83 00:03:40,620 --> 00:03:42,180 ปู่ย่ากินอะไรล่ะคะ 84 00:03:42,180 --> 00:03:44,780 ก็กินของทอด กินน้ำแกง 85 00:03:44,780 --> 00:03:46,760 หรือต้มยำให้มันเบาลง 86 00:03:46,760 --> 00:03:49,200 เพื่อที่ฟันน้อยๆ จะได้เคี้ยวได้ 87 00:03:49,200 --> 00:03:52,620 ซึ่งก็น่าจะเป็นอาหารคล้ายๆ กับอาหารของฝั่งเด็กเหมือนกัน 88 00:03:52,680 --> 00:03:57,380 คล้าย แต่เด็กเนี่ยอาจจะกินเนื้อ หมู ไก่ ที่แข็งแรงกว่านั้นได้ 89 00:03:57,380 --> 00:03:59,220 แต่คุณย่าคุณยายกินไม่ได้แล้ว 90 00:03:59,220 --> 00:04:01,620 กินหมูสับละกัน อะไรอย่างเงี้ยค่ะ 91 00:04:01,660 --> 00:04:05,160 แต่เด็กๆ สามารถกินหมูทอดทั้งชิ้นได้โดยไม่มีปัญหา 92 00:04:05,165 --> 00:04:07,785 หรือว่าในถ้วยนึงเนี่ย เราจะไม่เรียกไข่พะโล้ 93 00:04:07,785 --> 00:04:09,680 เราจะเรียกหมูหวานกับไข่ต้มเค็ม 94 00:04:09,680 --> 00:04:11,125 เพราะของไทยไม่มีเครื่องพะโล้ 95 00:04:11,145 --> 00:04:12,880 อ๋อ พะโล้นี่ไม่ใช่อาหารไทย 96 00:04:12,880 --> 00:04:15,020 พะโล้นี่คือจีนค่ะ คือ five spices 97 00:04:16,080 --> 00:04:19,700 แต่การต้มเค็มหมูหวานกับไข่ต้มเค็มเนี่ย 98 00:04:19,700 --> 00:04:22,380 เอาง่ายๆ พูดกันจนฮิตว่ามันคือไข่พะโล้ 99 00:04:22,380 --> 00:04:24,940 แต่กินเข้าไปไม่มีผงพะโล้ ไม่มีซีอิ๊วดำ 100 00:04:24,940 --> 00:04:26,880 แต่มันดำได้ด้วยการเคี่ยวน้ำตาล 101 00:04:26,880 --> 00:04:29,960 แต่ในขณะเดียวกัน หมูหวาน ไข่ต้มเค็ม 102 00:04:29,960 --> 00:04:32,220 ปู่ย่าตายายกินไข่ได้ 103 00:04:32,220 --> 00:04:34,220 ไม่ไหวละ เคี้ยวหมูไม่ไหวละ 104 00:04:34,220 --> 00:04:35,480 ก็เป็นหน้าที่ของเด็กเล็ก 105 00:04:35,480 --> 00:04:39,140 แต่ในขณะเดียวกัน หน้าที่ของหมูหวานไข่ต้มเค็มมีไว้ทำอะไร 106 00:04:39,140 --> 00:04:41,040 เวลาคุณพ่อคุณแม่เผ็ดจากน้ำพริกอ่ะ 107 00:04:41,040 --> 00:04:43,240 ก็กินไข่กับหมูหวานแกล้ม 108 00:04:43,240 --> 00:04:46,520 คือมันเหมือนทุกอย่างในสำรับมันโดนจัดมาเพื่อให้ช่วยกันและกัน 109 00:04:46,960 --> 00:04:49,520 ใช่ค่ะ นี่คือวิถีของคนไทย 110 00:04:49,520 --> 00:04:50,540 อย่างนี้แปลว่า 111 00:04:50,540 --> 00:04:53,420 มื้อหลักที่สุดของคนไทยก็เป็น มื้อเย็น 112 00:04:53,420 --> 00:04:57,060 แนวคิดที่แบบว่า มื้อเช้ากินอย่างราชานี่ ไม่มี ยังไม่เข้ามา 113 00:04:57,060 --> 00:04:59,360 อันนั้นคือการดูแลสุขภาพ 114 00:04:59,360 --> 00:05:00,400 ในสมัยหลัง 115 00:05:00,400 --> 00:05:02,600 เราก็ได้ฟังเรื่องอาหารกันไปคร่าวๆ แล้วนะคะ 116 00:05:02,600 --> 00:05:04,485 เดี๋ยวเราไปดูที่อาหารจริงๆ กันดีกว่า 117 00:05:04,485 --> 00:05:07,260 เริ่มจากจานของว่าง ไม่ใช่จานเรียกน้ำย่อยนะ 118 00:05:07,260 --> 00:05:08,440 ของว่างระหว่างมื้อเนี่ย 119 00:05:08,440 --> 00:05:11,500 แล้วเมื่อไปที่อาหารเต็มๆ สำรับแล้วเนี่ย จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง 120 00:05:11,500 --> 00:05:13,280 ให้อาป้อมค่อยๆ เล่าให้เราฟังค่ะ 121 00:05:13,400 --> 00:05:16,395 ในวันนี้นะคะ เราสั่งของกินเล่น 122 00:05:16,395 --> 00:05:18,040 อันเนี้ยน่าสนใจ 123 00:05:18,040 --> 00:05:19,455 คือคำว่าเมี่ยง 124 00:05:19,460 --> 00:05:23,100 เมี่ยงก็คือ อาหารที่เราต้องใช้การเคี้ยว 125 00:05:23,100 --> 00:05:25,800 จริงๆ แล้วเนี่ย เมี่ยงมาจากอะไรล่ะคะ 126 00:05:25,800 --> 00:05:28,460 เราสามารถทำน้ำเมี่ยง เคี่ยวน้ำเมี่ยง 127 00:05:28,460 --> 00:05:31,600 น้ำตาล น้ำปลา มะพร้าว อันนี้ก็แล้วแต่สูตรใครนะ 128 00:05:32,100 --> 00:05:34,540 เคี่ยวไว้ แล้วก็เก็บใส่โหล 129 00:05:34,960 --> 00:05:38,120 มะพร้าวก็เคี่ยวไว้แล้ว กุ้งแห้งก็มีอยู่แล้ว 130 00:05:38,120 --> 00:05:41,120 หัวหอม พริก ขิง อะไรเหล่าเนี้ย เรามีอยู่ในบ้าน 131 00:05:41,120 --> 00:05:43,580 ดังนั้น สิ่งที่สามารถเอามาทำเมี่ยงได้ 132 00:05:43,580 --> 00:05:46,060 ใบชะพลู ใบทองหลาง กลีบบัว 133 00:05:46,060 --> 00:05:47,380 จริงๆ แล้วข้างในเหมือนกันหมด 134 00:05:47,680 --> 00:05:50,300 ก็คือมีทุกอย่างหมดแล้วแหละ บังเอิญได้ดอกบัวมา 135 00:05:50,300 --> 00:05:52,360 อ่ะไปค้นๆ ของในบ้านมายัดรวมกัน 136 00:05:52,360 --> 00:05:54,840 ใช่ มันเหมือนกับมีแขกมาเยี่ยมตอนบ่ายๆ 137 00:05:54,840 --> 00:05:56,640 เอ้า หิวมั้ย เอานี่มั้ย เพลิน 138 00:05:56,640 --> 00:05:58,700 คือปกติเนี่ย เค้าไม่ได้จัดมาแบบนี้ 139 00:05:58,700 --> 00:06:01,080 เค้าจะกองทุกอย่าง แล้วเราก็เลือกใส่เอาเอง 140 00:06:01,080 --> 00:06:04,000 กินไปคุยไป มันเป็นความเพลิดเพลิน 141 00:06:04,000 --> 00:06:06,680 แล้วเหมือนกับ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ 142 00:06:06,680 --> 00:06:08,000 เชิญอาป้อมก่อนเลยค่ะ 143 00:06:08,000 --> 00:06:09,495 เวลาเรากินนะ 144 00:06:09,495 --> 00:06:11,640 เพื่อจะให้เข้าปากได้ง่ายๆ นะคะ 145 00:06:11,640 --> 00:06:12,565 จริงๆ แล้วเนี่ย 146 00:06:12,565 --> 00:06:14,780 คนไทยเป็นคนสุภาพ 147 00:06:14,780 --> 00:06:17,480 เราก็รับประทานให้มันละเมียดนิดนึง 148 00:06:17,480 --> 00:06:20,020 โดยการจับแล้วก็ไขว้เข้าไปอย่างนี้ 149 00:06:20,020 --> 00:06:21,460 จริงๆ แล้วการไขว้เนี่ย 150 00:06:21,460 --> 00:06:25,660 เค้าจะไขว้ก่อนที่ พับกรวยก่อนที่จะใส่เครื่องเข้าไป 151 00:06:25,660 --> 00:06:27,860 เหมือนที่บอก เวลามาเนี่ย เค้าไม่ได้จัดอย่างนี้ 152 00:06:27,860 --> 00:06:29,100 พอพับกรวยเสร็จแล้วเนี่ย 153 00:06:29,100 --> 00:06:31,280 เราก็หยิบมะพร้าวใส่ กุ้งใส่ 154 00:06:31,280 --> 00:06:32,720 มะนาวใส่ พริก หอม 155 00:06:32,720 --> 00:06:34,360 แล้วก็ค่อยเอาน้ำเมี่ยง 156 00:06:34,360 --> 00:06:36,060 น้ำเมี่ยงนี่สูตรบ้านใครบ้านมัน 157 00:06:36,060 --> 00:06:38,140 ใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มรสชาติ 158 00:06:39,620 --> 00:06:42,820 แล้วด้วยวิธีนี้ เราจะเข้าปากได้ง่ายขึ้น 159 00:06:42,820 --> 00:06:44,160 160 00:06:44,160 --> 00:06:47,140 ขออนุญาตทำสิ่งนึงก่อนค่ะ คือเขี่ยพริกออกนั่นเอง 161 00:06:48,900 --> 00:06:50,300 หยิบดีๆ เข้าเลย 162 00:06:51,380 --> 00:06:52,760 สิ่งที่เราเจอในปาก 163 00:06:52,920 --> 00:06:54,820 ความมันความเค็มของกุ้งแห้ง 164 00:06:54,820 --> 00:06:57,000 เค็มๆ หวานๆ ของน้ำเมี่ยง 165 00:06:57,000 --> 00:06:59,500 เปรี้ยวมะนาว หอมผิวมะนาวขึ้นไปด้วย 166 00:06:59,500 --> 00:07:00,560 ครบมาก คำเดียว 167 00:07:00,560 --> 00:07:01,520 ค่ะ ในคำเดียว ครบ 168 00:07:01,520 --> 00:07:03,540 แอบมีขิงแก่ เพื่ออะไรเหรอคะ 169 00:07:03,540 --> 00:07:06,300 คนไทยเนี่ย เมื่อไหร่ที่กินไขมันประมาณมะพร้าว 170 00:07:06,300 --> 00:07:09,120 เค้าก็จะใส่ขิงเพื่อเป็นการรักษาท้อง 171 00:07:09,200 --> 00:07:10,800 คือเหมือนกับว่าเค้าเตรียมไว้ละ 172 00:07:10,800 --> 00:07:14,360 ตอนนี้เรากินอะไรที่เป็นไขมัน เราต้องใส่อะไรแก้ไขมันลงไปด้วยในคำเดียว 173 00:07:14,400 --> 00:07:17,340 ใช่ๆ เพราะว่าเห็นมั้ยว่าคนไทย เมื่อก่อนมีมั้ยคะ 174 00:07:17,340 --> 00:07:21,120 ความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือดหัวใจ ไม่มี 175 00:07:21,240 --> 00:07:23,640 ทั้งๆ ที่กะทิอ่ะ คนไทยก็กินมาตั้งนานแล้ว 176 00:07:23,640 --> 00:07:25,500 หมูสามชั้นก็กินมาแล้ว 177 00:07:25,500 --> 00:07:26,560 ค่ะ มันกุ้งอีก 178 00:07:26,560 --> 00:07:29,795 ได้ข่าวว่าตอนอยุธยานี่เรากินมันกุ้งแล้วทิ้งเนื้อเลยใช่มั้ยคะ 179 00:07:29,795 --> 00:07:31,640 โอ๊ย รุ่นคุณพ่อพี่อ่ะ จำได้เลย 180 00:07:31,640 --> 00:07:33,240 บ้านเค้าอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา 181 00:07:33,240 --> 00:07:35,580 สมัยนั้นลงไปว่ายเล่นในแม่น้ำได้ 182 00:07:35,580 --> 00:07:39,180 พ่อเล่าว่า พ่อกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเล่นเนี่ยนะ 183 00:07:39,180 --> 00:07:42,660 ตรงเสาของท่า มีกุ้งก้ามกรามเกาะอยู่ 184 00:07:43,500 --> 00:07:45,420 คือตัวใหญ่มากอ่ะ 185 00:07:45,420 --> 00:07:48,100 แล้วมันก็เป็นอะไรที่หาง่าย 186 00:07:48,100 --> 00:07:50,400 แล้วก็ไม่ได้แพงมหัศจรรย์แบบสมัยนี้ 187 00:07:50,460 --> 00:07:53,500 วันนี้กิโลละพันหก อะไรอย่างนี้นะคะ 188 00:07:53,500 --> 00:07:54,260 ใช่ค่ะ 189 00:07:54,280 --> 00:07:58,920 อ่ะ ในที่สุดนะคะ หลังจากที่เรานั่งทานของว่างแล้วก็คุยกันมาสักพักนึงแล้ว 190 00:07:58,920 --> 00:08:01,180 อาหารสำรับจริงก็มาแล้วค่ะ 191 00:08:01,180 --> 00:08:03,360 ดังนั้น นี่คืออะไรยังไงบ้างคะเนี่ยอาป้อม 192 00:08:03,360 --> 00:08:06,060 อย่างวันนี้เนี่ย ที่จัดมาให้ดูนะคะ 193 00:08:06,060 --> 00:08:10,160 มันเป็นการกินอาหารแบบสำรับที่เมื่อกี้เราเกริ่นไป จำได้มั้ยคะ 194 00:08:10,160 --> 00:08:10,700 ค่ะ 195 00:08:10,720 --> 00:08:11,920 นั่นก็คือว่า 196 00:08:11,920 --> 00:08:16,200 มีอาหารที่เป็นเผ็ด ผักสด ปลาทูทอด 197 00:08:16,200 --> 00:08:19,680 แค่จานนี้ น่าจะกินได้ทั้งสามรุ่น 198 00:08:19,860 --> 00:08:20,760 จานเดียวเนี่ยนะคะ 199 00:08:20,760 --> 00:08:23,840 จานเดียวกัน ก็คือเด็กหน่อยก็กินปลาทู 200 00:08:23,840 --> 00:08:26,540 แค่ข้าวคลุกปลาทู ยังกินน้ำพริกไม่ไหว 201 00:08:26,545 --> 00:08:28,500 พ่อแม่นี่เหมาได้ทั้งจาน 202 00:08:28,500 --> 00:08:29,835 พอปู่ย่าตายายเนี่ย 203 00:08:29,860 --> 00:08:33,980 อาจจะต้องรับประทานผักนิ่มๆ แล้วก็แตะน้ำพริกแค่น้อยๆ 204 00:08:34,660 --> 00:08:35,980 ซึ่งกรณีนี้เนี่ย 205 00:08:35,980 --> 00:08:40,540 มันสามารถที่จะสอนให้เด็กรุ่นเล็กๆ เนี่ย หัดเริ่มรับประทานเผ็ดได้ด้วย 206 00:08:40,540 --> 00:08:41,700 แตะๆ นิดหน่อย 207 00:08:41,700 --> 00:08:43,640 ใช่ แตะแล้วชอบให้รสชาติเป็นยังไง 208 00:08:43,640 --> 00:08:46,240 คนไทยก็จะเริ่มคุ้นกับกลิ่นกะปิ 209 00:08:46,240 --> 00:08:49,080 ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในครัวไทย 210 00:08:49,080 --> 00:08:51,580 นี่แปลว่า โอ๊ย เด็กอยู่อย่าเพิ่งกิน อย่าไปแตะมันเลยเนี่ย 211 00:08:51,580 --> 00:08:54,720 เป็นการสอนที่ผิด เพราะมันจะทำให้กินไม่เป็นในอนาคต 212 00:08:54,720 --> 00:08:58,040 ให้แตะ อยากกิน เดี๋ยวเผ็ดก็จะได้รู้เอง ว่ากินเข้าไปแล้วเผ็ด 213 00:08:58,040 --> 00:08:58,655 อ๋ออออ ค่ะ 214 00:08:58,660 --> 00:09:01,060 เด็กก็จะต้องเผชิญปัญหาทุกอย่าง 215 00:09:01,060 --> 00:09:02,680 ซึ่งพี่ฝากไว้อย่างนึง 216 00:09:02,680 --> 00:09:05,840 พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกแบบว่า overprootect 217 00:09:05,840 --> 00:09:07,500 ปกป้องมากเกินไป 218 00:09:07,700 --> 00:09:10,460 บางครั้งไม่ได้ให้ลูกเรียนรู้ที่จะแพ้ 219 00:09:10,460 --> 00:09:11,900 ไม่ได้ให้ลูกเรียนรู้ที่จะผิด 220 00:09:11,900 --> 00:09:14,180 ลูกคุณก็ผิดได้ ลูกคุณก็แพ้ได้ 221 00:09:14,180 --> 00:09:18,560 เพราะในวันข้างหน้าถ้าคุณไม่สามารถตามปกป้องเค้าได้แล้ว 222 00:09:18,560 --> 00:09:21,620 ถ้าเค้าต้องผิดต้องแพ้ขึ้นมา ในตัวเองเค้ารับไม่ได้ 223 00:09:21,620 --> 00:09:22,720 แล้วใครรับผิดชอบ 224 00:09:22,720 --> 00:09:24,740 จริงด้วยค่ะ เป็นข้อคิดที่ดีมาก 225 00:09:24,740 --> 00:09:27,500 เห็นมะ แม้กระทั่งเรื่องกินก็ยังสอนได้นะคนเรา 226 00:09:27,500 --> 00:09:28,000 ค่ะ 227 00:09:28,000 --> 00:09:29,480 อันนี้เป็นเครื่องจิ้ม 228 00:09:29,480 --> 00:09:31,040 อย่างนี้เค้าเรียกว่าเครื่องจิ้ม 229 00:09:31,040 --> 00:09:32,460 ซึ่งเครื่องจิ้มมีอะไรอีก 230 00:09:32,460 --> 00:09:35,120 เครื่องจิ้มก็อาจจะมีหลน ซึ่งเป็นกะทิ 231 00:09:35,120 --> 00:09:37,020 แต่วันนี้เอาพื้นบ้านเลย 232 00:09:37,020 --> 00:09:38,240 คือน้ำพริกกะปิเนี่ย 233 00:09:38,240 --> 00:09:42,360 รับประทานกับปลาทู ผักทอด ผักสด ผักลวก 234 00:09:42,600 --> 00:09:43,740 มีดอกโสน 235 00:09:44,220 --> 00:09:45,780 เมื่อน้ำพริกกะปิแซ่บแล้ว 236 00:09:46,020 --> 00:09:50,160 แกงที่จะมาคู่กันสามารถเป็นแกงกะทิได้ 237 00:09:50,160 --> 00:09:50,860 238 00:09:50,860 --> 00:09:53,080 วันนี้เนี่ยใช้แกงเผ็ดเป็ดย่าง 239 00:09:53,080 --> 00:09:53,600 ค่ะ 240 00:09:53,860 --> 00:09:57,540 แกงเผ็ดเป็ดย่างเนี่ย ทำไมเป็นแกงเดียวที่ต้องใส่สับปะรด 241 00:09:57,540 --> 00:09:59,420 อ่า ไม่รู้สิคะ 242 00:09:59,420 --> 00:10:03,120 เนื่องจากสมัยก่อนเนี่ย เป็ด เป็ดบ้านไก่บ้าน เหนียวค่ะ 243 00:10:03,120 --> 00:10:04,120 อ๋อ 244 00:10:04,120 --> 00:10:05,540 เค้าออกกำลังของเค้าทุกวันเนี่ย 245 00:10:05,540 --> 00:10:06,899 พอเชือดมากิน เหนียว 246 00:10:06,900 --> 00:10:08,220 ย่างแล้วเหนียวทำยังไง 247 00:10:08,220 --> 00:10:11,740 การที่จะทำให้เนื้อเป็ดนุ่ม นั่นคือการใส่สับปะรดเข้าไป 248 00:10:11,740 --> 00:10:14,040 นั่นคือภูมิปัญญาของคนไทย 249 00:10:14,040 --> 00:10:18,280 มันจะเป็นตัวเอนไซม์ที่ไปย่อยให้เป็ดนุ่ม 250 00:10:18,280 --> 00:10:23,120 ดังนั้น ถ้าไปเห็นแกงเผ็ดเป็ดย่างที่ไหนที่สับปะรดหน้าตาสดเกินไป 251 00:10:23,160 --> 00:10:24,100 มันไม่ใช่ 252 00:10:24,140 --> 00:10:26,040 มันต้องใช้เวลาให้สับปะรดเนี่ย 253 00:10:26,040 --> 00:10:28,660 เข้าไปช่วยเป็ดให้นุ่มก่อน 254 00:10:28,660 --> 00:10:29,820 แล้วถึงใส่เครื่อง 255 00:10:29,820 --> 00:10:32,700 ก็คือเหมือนกับว่าเคี่ยวไปก่อนเลย แล้วเดี๋ยวค่อยเติมอย่างอื่น 256 00:10:32,700 --> 00:10:34,720 แล้วเสร็จแล้ว อาหาร ไม่ต้องว่าอะไร 257 00:10:34,720 --> 00:10:36,560 ทุกอย่างมีวิวัฒนาการ 258 00:10:36,560 --> 00:10:37,675 ดังนั้นในวันนี้ 259 00:10:37,680 --> 00:10:40,360 อาจจะเปลี่ยนเพิ่มลิ้นจี่บ้าง 260 00:10:40,360 --> 00:10:42,260 เพิ่มองุ่นบ้าง อะไรบ้าง 261 00:10:42,260 --> 00:10:45,780 แต่เห็นมั้ยว่า เค้าก็ยังคงความมีสับปะรดอยู่ในนี้ 262 00:10:45,780 --> 00:10:46,680 ให้มันนิ่ม 263 00:10:46,680 --> 00:10:47,600 ยังไงก็เป็นสับปะรด 264 00:10:47,600 --> 00:10:49,260 ไม่ใช่ไม่เป็นสับปะรด 265 00:10:49,260 --> 00:10:52,580 ในเมื่อมีแกงแล้ว เผ็ดแล้ว นี่ก็เผ็ดอีก 266 00:10:52,580 --> 00:10:53,400 มีนี่แกล้ม 267 00:10:53,400 --> 00:10:56,620 จานนี้เนี่ย เห็นที่เขียนไว้คือหมูฮ้อง 268 00:10:56,620 --> 00:10:58,420 หมูฮ้องเนี่ยคือ 269 00:10:58,420 --> 00:11:02,140 เหมือนกับเป็นหมูต้มเค็มของทางภูเก็ตนะคะ 270 00:11:02,140 --> 00:11:06,240 จะเป็นลูกผสมระหว่างหมูต้มเค็มของไทยกับหมูพะโล้ 271 00:11:06,240 --> 00:11:08,500 อ่ะเพราะว่าภูเก็ตก็คนจีนค่อนข้างเยอะ 272 00:11:08,500 --> 00:11:11,000 ใช่ค่ะ แต่ว่าก็ยังผสมสามเกลอ 273 00:11:11,000 --> 00:11:13,280 นั่นคือรากผักชีกระเทียมพริกไทย 274 00:11:13,280 --> 00:11:14,020 แบบไทยอยู่ 275 00:11:14,020 --> 00:11:15,320 ชอบชื่อมากค่ะ สามเกลอ 276 00:11:15,320 --> 00:11:17,440 สามเกลอ อันนี้เค้าจะเรียกกันสามเกลอ 277 00:11:17,440 --> 00:11:19,960 เพราะขี้เกียจพูดอ่ะ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ยาว 278 00:11:19,965 --> 00:11:21,560 สามเกลอ จบ เราจะเข้าใจนะคะ 279 00:11:21,560 --> 00:11:23,580 แล้วก็ถ้าเป็นหมูฮ้องเนี่ย 280 00:11:23,580 --> 00:11:25,500 สามารถใส่ผงพะโล้เข้าไปด้วย 281 00:11:25,500 --> 00:11:31,940 ผงพะโล้ก็ประกอบไปด้วย อบเชย กานพลู ลูกจันทน์ ลูกกระวาน แล้วก็พริกไทย ลงไป 282 00:11:31,940 --> 00:11:33,060 ประมาณนี้นะคะ 283 00:11:33,060 --> 00:11:35,080 เพราะภาษาจีนมาจากคำว่า five spices 284 00:11:35,080 --> 00:11:37,060 อื้ม ก็คือเครื่องเทศห้าอย่าง 285 00:11:37,060 --> 00:11:39,580 เครื่องเทศของจีน ก็ผงพะโล้นั่นเอง 286 00:11:39,580 --> 00:11:41,860 แล้วก็ เคี่ยวจนหมูนุ่ม 287 00:11:41,860 --> 00:11:45,700 แต่น้ำตาลในหมูฮ้องหรือหมูพะโล้ 288 00:11:45,700 --> 00:11:49,360 ก็จะไปรัดทั้งไข่ทั้งหมูให้ผิวตึง 289 00:11:50,080 --> 00:11:52,840 แต่อันนี้ก็คืออาหารจานไข่และหมู 290 00:11:52,840 --> 00:11:54,060 ซึ่งลูกเล็กกินได้ไง 291 00:11:54,700 --> 00:11:56,940 และเป็นอาหารแก้เผ็ดของรุ่นใหญ่ 292 00:11:56,940 --> 00:11:58,400 ก็คือเห็นเด็กกินอยู่ 293 00:11:58,400 --> 00:11:59,260 โอ๊ย อันนี้เผ็ดจังเลย 294 00:11:59,260 --> 00:12:00,160 ไปแย่งเด็กกิน 295 00:12:00,160 --> 00:12:00,660 ใช่ค่ะ 296 00:12:00,660 --> 00:12:02,340 ทีนี้เจอความหนักแล้ว 297 00:12:02,340 --> 00:12:03,780 เรามาเบาด้วยยำ 298 00:12:03,780 --> 00:12:05,900 สมัยก่อนน่ะ ตามบ้านชนบทไทย 299 00:12:05,900 --> 00:12:07,540 เค้ามีหัวปลีอยู่แล้ว 300 00:12:07,540 --> 00:12:08,820 ก็เลยเอาหัวปลีมายำ 301 00:12:08,820 --> 00:12:11,520 แต่รสยำหัวปลี ทำไมถึงสั่งมาในวันนี้ 302 00:12:11,520 --> 00:12:15,180 ก็เพราะว่าเรามีน้ำพริกเผ็ดเปรี้ยว แซ่บอยู่แล้วถูกมั้ยคะ 303 00:12:15,180 --> 00:12:16,475 ยำหัวปลีเค้าจะนวลๆ 304 00:12:16,480 --> 00:12:19,320 เค้าจะเป็นยำที่ใส่หัวกะทิลงไป 305 00:12:19,320 --> 00:12:21,560 หัวกะทิแล้วก็มะพร้าวคั่วนะคะ 306 00:12:21,620 --> 00:12:24,800 เพราะงั้นความสดชื่นที่ไม่ถึงกับปี๊ดป๊าดเกินไป 307 00:12:24,800 --> 00:12:26,540 แล้วจบด้วยแกงจืด 308 00:12:26,540 --> 00:12:28,035 จะแกงจืดอะไรก็ตามที 309 00:12:28,035 --> 00:12:28,980 ไว้ล้างปาก 310 00:12:28,980 --> 00:12:31,720 คุณย่าคุณตาคุณยายจะได้คล่องคอหน่อย 311 00:12:31,720 --> 00:12:34,220 เพราะว่าไม่งั้นเนี่ย เดี๋ยวข้าวแข็งติดคอ 312 00:12:34,220 --> 00:12:36,080 ทีนี้ หนูแอบถามนิดนึงได้มั้ยคะ 313 00:12:36,080 --> 00:12:38,520 เห็นว่าตอนนี้เรามีช้อนส้อมอะไรเสร็จเรียบร้อย 314 00:12:38,520 --> 00:12:43,280 แต่ว่าจริงๆ แล้วอ่ะ เท่าที่เคยอ่านมา คนไทยสมัยก่อนเค้าใช้มือเปิบใช่มั้ยคะ 315 00:12:43,280 --> 00:12:44,480 ใช่ค่ะ ใช้มือเปิบ 316 00:12:44,480 --> 00:12:46,480 แต่คนไทยก็ไม่ใช่ไม่มีช้อนนะ 317 00:12:46,485 --> 00:12:48,315 อย่างพวกเนี้ยเค้าก็จะใช้ช้อนตรงกลาง 318 00:12:48,320 --> 00:12:51,420 แต่บางอย่างนี่เค้าจะใช้มือหยิบ เช่น การแกะปลาทู 319 00:12:51,420 --> 00:12:52,660 หรือว่า การหยิบผัก 320 00:12:52,660 --> 00:12:53,940 ซึ่งนี่ก็เคลียร์เลยใช่มั้ยคะ 321 00:12:53,940 --> 00:12:56,880 เพราะว่าที่ผ่านมาหนูสงสัยมาตลอดเลยว่าเปิบมือแล้วเนี่ย 322 00:12:56,880 --> 00:12:58,660 แล้วจะไปซดซุปได้ยังไง 323 00:12:58,660 --> 00:13:01,760 เค้าก็ยังมีช้อนกลางอยู่นะคะ ในแต่ละอันเนี่ย 324 00:13:01,760 --> 00:13:04,820 แล้วก็ด้วยความที่ถ้าในบ้านนึงสนิทกัน 325 00:13:04,820 --> 00:13:07,080 ก็สามารถซดช้อนเดียวกันไปได้เลย 326 00:13:07,080 --> 00:13:09,780 ซึ่งจริงๆ เราฟังดูอาจจะฟังดูไม่ถูกสุขลักษณะ 327 00:13:09,900 --> 00:13:12,060 แต่บางครั้งเนี่ย ในความสนิทสนม 328 00:13:12,060 --> 00:13:14,980 แล้วก็เมื่อก่อนเค้าก็ไม่ได้มีเชื้อโรคเยอะขนาดนี้เนอะ 329 00:13:14,980 --> 00:13:18,080 แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือ สามารถจะตักมาใส่ช้อนตัวเอง 330 00:13:18,080 --> 00:13:19,480 แล้วก็ค่อยซดน้ำซุป 331 00:13:19,480 --> 00:13:20,520 ได้เช่นกันค่ะ 332 00:13:20,520 --> 00:13:22,400 ทีนี้หนูแอบอยากขออย่างนึงค่ะ 333 00:13:22,620 --> 00:13:25,340 คือสงสัยมานานละ อยากรู้มาตลอดชีวิตเลย 334 00:13:25,340 --> 00:13:27,000 เวลาเค้าเปิบมือนี่เค้าเปิบยังไงอ่ะคะ 335 00:13:27,000 --> 00:13:27,860 มันไม่เละเหรอ 336 00:13:27,860 --> 00:13:28,380 งั้นลอง 337 00:13:28,540 --> 00:13:29,920 อย่างแรกเราล้างมือก่อน 338 00:13:29,920 --> 00:13:32,115 ก็คือต้องมีถ้วย ถ้วยไว้ใช้ล้างมือ 339 00:13:32,120 --> 00:13:36,160 เราล้างมือก่อน ถ้าอยู่ในบ้านนี่ก็อาจจะต้องวิ่งไปโอ่งหลังบ้าน 340 00:13:36,160 --> 00:13:37,360 ละเอาข้าวใส่จาน 341 00:13:37,360 --> 00:13:42,700 ข้าวนี่คือสิ่งเดียวที่คุณเป็นเจ้าของในโต๊ะอาหาร 342 00:13:42,700 --> 00:13:44,880 นั่นคือการตักข้าวใส่จาน 343 00:13:44,880 --> 00:13:47,280 ยิ่งถ้าสมมุติว่าบ้านไหนมีนานะ 344 00:13:47,280 --> 00:13:49,920 ข้าวใหม่นี่โอ้โหมันจะเกาะกันเป็นก้อน 345 00:13:49,920 --> 00:13:52,980 ในแง่ของน้ำพริกปลาทู อย่างแรกเลย 346 00:13:52,980 --> 00:13:55,780 ก็แกะเนื้อปลาทูที่เราจะกินมาในจาน 347 00:13:55,780 --> 00:13:59,380 คือคนไทยเมื่อก่อนเค้าก็ไม่ค่อยถือกันเท่าไหร่หรอกนะ การใช้มือ 348 00:13:59,380 --> 00:14:00,760 ปัญหาคือแกะปลาทูไม่เป็น 349 00:14:00,760 --> 00:14:02,040 อย่าให้เกินข้อแรกนะ 350 00:14:02,040 --> 00:14:02,900 ให้อยู่แค่นี้นะ 351 00:14:02,900 --> 00:14:04,980 ข้อแรกคือตรงนี้ใช่มั้ยคะ 352 00:14:04,980 --> 00:14:06,840 เห็นมั้ยคะของอาป้อมไม่ได้เกิน 353 00:14:06,840 --> 00:14:08,460 โห ยากละ งานเข้า 354 00:14:08,460 --> 00:14:11,340 สวยหน่อย กรีดนิด กรีดกรายนิดๆ 355 00:14:12,320 --> 00:14:14,420 แล้วก็ลองคลุกไปกับข้าว 356 00:14:15,560 --> 00:14:18,420 มือเดียวๆ นี่ลองเอามือนี้เก็บไว้ข้างหลัง 357 00:14:18,420 --> 00:14:19,920 แล้วก็ใช้ปลายนิ้ว 358 00:14:19,920 --> 00:14:23,020 คลุกอย่างงี้ก่อน คลุกเสร็จแล้ว เราตักน้ำพริกใส่ 359 00:14:23,020 --> 00:14:25,100 สมมุติเราตักน้ำพริกเหยาะลงไป 360 00:14:25,100 --> 00:14:26,600 อ่ะ ลองตักน้ำพริก 361 00:14:26,600 --> 00:14:28,660 ไม่เป็นไร หนแรกเก้งก้างหน่อย 362 00:14:28,660 --> 00:14:30,480 เราเหมือนกับต้องจับงี้นะ 363 00:14:30,480 --> 00:14:34,800 ให้ใช้ห้านิ้วเนี่ย แล้วก็บีบ ให้มันค่อนข้างจับอย่างนี้ เห็นมั้ยคะ 364 00:14:34,800 --> 00:14:37,500 จับตรงนี้ บีบเข้าไป บีบห้านิ้วรวมเข้าไป 365 00:14:37,500 --> 00:14:38,480 ไม่อยู่ 366 00:14:38,480 --> 00:14:41,300 อยู่ กดที่จานแล้วบีบเข้าไป 367 00:14:41,300 --> 00:14:42,960 กดที่จานแล้วบีบเข้าไปค่ะ 368 00:14:42,960 --> 00:14:45,520 ปั้นหลายคำจังเว้ย เอาล่ะ พอ 369 00:14:45,520 --> 00:14:47,260 แล้วก็เราจับอย่างนี้ ปึ๊ด 370 00:14:50,000 --> 00:14:51,780 ผลักเข้าไป ใช้นิ้วโป้งผลักเข้าไป 371 00:14:51,780 --> 00:14:52,660 เหมือนช้อนอ่ะ 372 00:14:52,660 --> 00:14:54,700 เหมือนตรงนี้เป็นช้อนแล้วใช้นิ้วโป้งผลักเข้าไป 373 00:14:55,800 --> 00:14:58,480 เสร็จแล้ว เราก็รับประทานผักแกล้ม 374 00:15:01,040 --> 00:15:04,880 ในขณะเดียวกัน คนไทยเมื่อก่อนเค้าก็คงไม่กินแกงโชกขนาดนั้น 375 00:15:04,880 --> 00:15:06,680 ลองตักแกงเผ็ดเป็ดย่าง 376 00:15:06,680 --> 00:15:09,920 แล้วเดี๋ยวเราจะแกล้มด้วยไข่พะโล้ 377 00:15:09,960 --> 00:15:10,960 378 00:15:11,040 --> 00:15:13,500 อันนี้มีน้ำแกงก็ต้องกดแรงหน่อย 379 00:15:13,500 --> 00:15:14,740 น้ำแกง ต้องคลุกก่อน 380 00:15:14,740 --> 00:15:17,440 ใช่ แล้วก็บีบ ถูกต้อง บีบให้อยู่ปึ๊บ 381 00:15:17,900 --> 00:15:20,720 ไม่ต้องขึ้นทั้งหมดก็ได้ เอ้า แล้วดันเข้าปาก 382 00:15:20,720 --> 00:15:21,860 แขนกางเชียว 383 00:15:24,285 --> 00:15:25,980 กินให้ละเมียดนิดนึง 384 00:15:25,980 --> 00:15:27,860 คือแขนเนี่ยอยู่ใกล้ๆ ตัว 385 00:15:27,860 --> 00:15:28,740 แล้วก็ 386 00:15:30,040 --> 00:15:31,080 แค่นี้เอง 387 00:15:31,080 --> 00:15:34,220 พอรู้สึกว่า สมมุติว่า กินแกงเผ็ด 388 00:15:34,220 --> 00:15:36,260 พอมันเผ็ด ก็ ตักไข่ 389 00:15:36,920 --> 00:15:37,960 ขอบคุณค่ะ 390 00:15:37,960 --> 00:15:39,520 แล้วก็กินกับข้าว 391 00:15:39,520 --> 00:15:41,800 บางคนเนี่ย อันนี้คนที่บ้านก็เคยกินนะคะ 392 00:15:41,800 --> 00:15:43,400 มันไม่ต้องเปิบข้าวทุกคำ 393 00:15:43,400 --> 00:15:45,080 เราอาจจะต้องกินแบบนี้ 394 00:15:46,020 --> 00:15:47,020 395 00:15:47,860 --> 00:15:49,940 ก็กิน แล้วค่อยเปิบข้าวตาม 396 00:15:50,040 --> 00:15:51,960 นี่ แขนลงมานิดนึง 397 00:15:51,960 --> 00:15:54,620 กดก่อนๆ นี่หยิบเป็นข้าวเหนียวเลย 398 00:15:55,040 --> 00:15:58,260 แล้ววิธีการจับนี่มัน มีแตกต่างอะไรกันยังไงมั้ยคะ 399 00:15:58,260 --> 00:16:02,415 ก็คือเค้าบอกว่าถ้าหัดดีๆ แล้วเนี่ย ห้ามเกินข้อนิ้วบน 400 00:16:02,420 --> 00:16:03,580 ห้ามเลอะเกินข้อนิ้วบน 401 00:16:03,580 --> 00:16:06,455 เพราะฉะนั้นการหยิบก็คือการจับแบบนี้ถึงจะอยู่ 402 00:16:08,820 --> 00:16:11,720 เราสังเกตความเป็นผู้ดีได้จากความเละของมือนะคะ 403 00:16:11,720 --> 00:16:13,820 มันก็ไม่แย่เท่าไหร่ ยังไม่แย่เท่าไหร่อ่ะ 404 00:16:13,820 --> 00:16:16,075 แรกๆ ก็อย่าเกินข้อสองเท่านั้นเองค่ะ 405 00:16:16,500 --> 00:16:22,060 แล้วก็เมื่อไหร่ที่ฝืดคอ เราก็ซดน้ำซุปตาม แค่นั้นเอง 406 00:16:22,060 --> 00:16:23,360 นี่คือการกินแบบไทย 407 00:16:23,380 --> 00:16:27,160 แล้วเมื่อกี้ค่ะ อย่างที่อาป้อมบอกว่าอันนี้คืออาหารแบบชาวบ้านใช่มั้ยคะ 408 00:16:27,160 --> 00:16:29,920 แล้วถ้าสมมุติว่าอาหารชาววังมันจะต่างจากชาวบ้านยังไงอ่ะคะ 409 00:16:29,940 --> 00:16:31,400 คำว่าวังไง 410 00:16:31,400 --> 00:16:33,700 ก็คือคำว่าบ้าน ที่มีเจ้าอยู่ 411 00:16:33,700 --> 00:16:35,480 วังคือหนึ่งในราชาศัพท์ 412 00:16:35,480 --> 00:16:38,920 นั่นก็คือบ้านที่มีตั้งแต่ระดับหม่อมเจ้าอยู่ขึ้นไป เค้าจะเรียกว่าวัง 413 00:16:38,920 --> 00:16:41,280 แล้วก็ อาหารชาววัง 414 00:16:41,280 --> 00:16:42,800 เช่นในวังหลวงอย่างงี้ 415 00:16:42,800 --> 00:16:45,160 คือเจ้าจอมต่างๆ เนี่ย 416 00:16:45,160 --> 00:16:48,580 ท่านก็มีตำหนัก แล้วก็มีข้าทาสบริวาร 417 00:16:48,580 --> 00:16:51,840 ทีนี้ เวลาเหลือเยอะ แล้วกลัวลูกน้องไม่มีงานทำ 418 00:16:52,860 --> 00:16:53,680 นะ ทำยังไง 419 00:16:53,780 --> 00:16:55,380 ก็เริ่มเลย เห็นมะ 420 00:16:55,380 --> 00:16:57,140 อย่างเงี้ยก็ไม่เชิงชาวบ้าน 421 00:16:57,140 --> 00:16:58,660 อันนี้เป็นชาววัง ดู๊ 422 00:16:58,660 --> 00:17:01,820 แค่ใบบัวบกก็ยังจะต้องมามัดช่อสวยงาม 423 00:17:01,820 --> 00:17:02,780 ประมาณนี้ 424 00:17:02,780 --> 00:17:04,900 หรือผักอ่ะ ก็จะมาเป็นคำ 425 00:17:04,900 --> 00:17:06,780 ไม่ใช่ว่าต้องมานั่งกัดกรุ๊บๆๆๆ 426 00:17:06,780 --> 00:17:09,420 คือชาวบ้านเนี่ย บางทีเค้าจะเด็ดสดข้างบ้านมา 427 00:17:09,420 --> 00:17:10,860 แล้วกินไปกัดไป 428 00:17:10,860 --> 00:17:13,060 หรือแตงกวาเค้ากัดทั้งลูกเลย 429 00:17:13,060 --> 00:17:15,780 อันนั้นน่ะได้ มันเป็นความอร่อยจากความสดนะคะ 430 00:17:15,780 --> 00:17:18,580 แต่ว่า พอในชาววังนี่ ไม่เอาไม่งามค่ะ 431 00:17:18,580 --> 00:17:22,500 ไม่งาม ก็ต้องค่อยๆ อะไรที่เข้าปากได้ในคำเดียว 432 00:17:22,500 --> 00:17:26,580 อ๋อ เพราะว่าอย่างเมื่อกี้ ถ้าสมมุติต้องมานั่งจกๆ เองมันก็เก้งก้าง 433 00:17:26,860 --> 00:17:28,855 ไม่สวย ก็เลยจับมาเป็นคำๆ หมดแล้ว 434 00:17:28,860 --> 00:17:31,360 ใช่ เนี่ย อย่างนี้เราเข้าหนึ่งคำได้ 435 00:17:31,360 --> 00:17:36,740 ทีนี้อีกข้อนึงก็คือว่า ถ้าเป็นชาวบ้านรสชาติจะเผ็ดจัด เค็มจัด 436 00:17:36,740 --> 00:17:37,715 ทุกอย่างจะแซ่บ 437 00:17:37,715 --> 00:17:38,860 แต่ของชาววัง 438 00:17:38,860 --> 00:17:42,120 ที่คนมันตีความหมายผิดว่าอาหารชาววังหวาน 439 00:17:42,120 --> 00:17:43,220 ไม่ใช่ค่ะ 440 00:17:43,220 --> 00:17:47,140 อาหารชาววังเป็นอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล 441 00:17:47,140 --> 00:17:48,320 มีสัมผัสในทุกรส 442 00:17:48,320 --> 00:17:52,380 บางคน คุณกินชาวบ้านมา คุณก็ต้องบอกของชาววังรสอ่อน หรือจืด 443 00:17:52,380 --> 00:17:54,920 เลยกลายเป็นไปตีความว่าหวานอ่ะ 444 00:17:54,920 --> 00:17:57,280 ซึ่งอันนี้มันไม่ใช่ เพราะว่าอาหารไทย เห็นมั้ย 445 00:17:57,280 --> 00:17:58,380 อันนี้เปรี้ยวเค็ม 446 00:17:58,380 --> 00:17:59,840 อันนี้แกงเผ็ดออกเค็ม 447 00:17:59,840 --> 00:18:01,260 แต่อันนี้ เค็มหวาน 448 00:18:01,340 --> 00:18:05,040 นั่นหมายความว่าอาหารแต่ละจานเค้ามีรสชาติของเค้า 449 00:18:05,040 --> 00:18:06,740 ไม่งั้นเราจะจัดสำรับมาทำไมคะ 450 00:18:06,740 --> 00:18:09,760 ก็คือในหนึ่งสำรับ เค้าคิดและว่าอันนี้คู่กับอันนี้ 451 00:18:09,760 --> 00:18:10,700 ไม่ใช่สั่งมั่วซั่ว 452 00:18:10,700 --> 00:18:12,840 แล้วแกงจืดน่ะ มีเปรี้ยวมีหวานมั้ย 453 00:18:12,840 --> 00:18:17,280 มันก็มีแค่เค็มของมัน เพื่อที่จะเป็นน้ำซดให้คล่องคอ 454 00:18:17,280 --> 00:18:19,260 แต่ไม่จำเป็นต้องมีรสอะไรเลย 455 00:18:19,260 --> 00:18:21,415 เหมือนกับกึ่งๆ จะล้างปาก 456 00:18:21,420 --> 00:18:23,440 นี่คือชาววังกับชาวบ้านกินเหมือนกัน 457 00:18:23,440 --> 00:18:26,440 แล้วอันเนี้ยแกะมาให้แล้ว อันนี้คือกึ่งๆ ชาววัง 458 00:18:26,440 --> 00:18:30,120 เนี่ย ไม่มีก้าง คือเลาะกลางออก และเอาก้างกลางออก 459 00:18:30,120 --> 00:18:33,160 เอาข้างนี่ออก แล้วประกบกลับเข้าไปเป็นตัวปลาทู 460 00:18:33,180 --> 00:18:34,360 คือความละเอียด 461 00:18:34,360 --> 00:18:38,960 นั่นหมายความว่า เค้ามีเวลา ในการประณีต 462 00:18:38,960 --> 00:18:41,040 แต่ชาวบ้านทั่วไปทำไมเหรอคะ 463 00:18:41,040 --> 00:18:42,780 ชาวบ้านทั่วไปต้องทำมาหากินอ่ะ 464 00:18:42,780 --> 00:18:45,260 เวลาที่จะมาประณีต ไม่มีหรอก 465 00:18:45,260 --> 00:18:46,620 การทำงานสำคัญกว่า 466 00:18:46,620 --> 00:18:49,660 ดังนั้นเนี่ย ในทุกวัน ความสุขของเค้าทุกวันคือการเจอกัน 467 00:18:49,660 --> 00:18:51,560 แต่อาจจะไปเด็ดแตงกวามาจากต้น 468 00:18:51,560 --> 00:18:53,040 ไปเด็ดมะเขือมาจากต้นเลย 469 00:18:53,040 --> 00:18:54,480 ล้างแล้วกินสดๆ 470 00:18:54,480 --> 00:18:55,800 โห หวาน กรอบ อร่อย 471 00:18:55,800 --> 00:18:57,320 ไม่ต้องเสียเวลามาตัด 472 00:18:57,320 --> 00:19:00,540 เข้าใจขึ้นเยอะมากๆ เลยค่ะ เกี่ยวกับอาหารไทยทั้งหลาย 473 00:19:00,540 --> 00:19:03,120 วันนี้ก็ขอบคุณอาป้อมมากๆ เลยค่ะ 474 00:19:03,120 --> 00:19:05,380 ที่มาให้ความรู้กับพวกเราในวันนี้ 475 00:19:05,380 --> 00:19:07,820 แต่วิวอยากแอบบอกทุกคนอีกนิดนึงค่ะ 476 00:19:07,820 --> 00:19:12,880 คือวิวอ่ะ เคยมีโอกาสไปเห็นอาป้อมในอีกบทบาทนึงซึ่งไม่ใช่เชฟหรืออะไรอย่างนี้ 477 00:19:13,040 --> 00:19:16,620 คือวิวเคยไปงานคอนเสิร์ตในสวนค่ะ Concert in the Park 478 00:19:16,620 --> 00:19:18,860 แล้ววิวเห็นอาป้อมร้องเพลงด้วย 479 00:19:18,860 --> 00:19:21,480 ถ้าสมมุติว่าวิวอยากได้ยินอาป้อมร้องเพลงอีกรอบเนี่ย 480 00:19:21,480 --> 00:19:23,500 วิวจะต้องไปหาฟังที่ไหนอะไรยังไงมั้ยคะ 481 00:19:23,500 --> 00:19:28,180 ตอนนี้เนี่ย ที่กลับมาก็คือ กลับมาเล่นละครเพลง 482 00:19:28,600 --> 00:19:29,760 ละครเพลงเลยเหรอคะ 483 00:19:29,760 --> 00:19:32,640 ละครเพลง ซึ่ง เอาใกล้ๆ นี่เลย 484 00:19:32,640 --> 00:19:34,485 สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล 485 00:19:34,485 --> 00:19:40,420 ก็ไม่ได้มีบทมาก แต่ก็ได้เพลงที่ยากพอตัวนะคะ 486 00:19:40,420 --> 00:19:45,520 ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเค้าคิดว่าอาป้อมร้องอยู่เป็นประจำเหมือนแต่ก่อนรึเปล่า 487 00:19:45,520 --> 00:19:47,680 ก็ทรมานทรกรรมกันหน่อย 488 00:19:47,760 --> 00:19:50,300 แต่อาป้อมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด 489 00:19:50,300 --> 00:19:51,760 หกวันสิบรอบเท่านั้นนะคะ 490 00:19:51,760 --> 00:19:54,540 ใครอยากเห็นอาป้อมหรือเชฟป้อมร้องเพลงนะคะ 491 00:19:54,540 --> 00:19:56,000 ก็พลาดไม่ได้เลยจริงๆ 492 00:19:56,000 --> 00:19:58,740 เพราะว่าเป็นทั้งละครเพลง แล้วก็เกี่ยวกับอาหารด้วยนะคะ 493 00:19:58,740 --> 00:20:02,000 ดังนั้น ถ้าใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ก็ดูด้านล่างเลยค่ะ 494 00:20:02,000 --> 00:20:04,040 รายละเอียดอยู่ใน description box ข้างล่างแล้วนะคะ 495 00:20:04,040 --> 00:20:07,120 วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณอาป้อมอีกครั้งมากๆ เลยค่ะ 496 00:20:07,120 --> 00:20:08,960 ที่มาให้ความรู้กับเราในวันนี้ 497 00:20:08,960 --> 00:20:10,200 ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ 498 00:20:10,200 --> 00:20:14,200 อยากให้วิวพาไปทำอะไรอีก อยากให้วิวพาไปเจอใครหรืออะไรยังไง 499 00:20:14,200 --> 00:20:15,300 คอมเม้นท์มาด้านล่างค่ะ 500 00:20:15,300 --> 00:20:19,560 แล้วก็อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังให้เรา แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ 501 00:20:19,560 --> 00:20:22,480 วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย 502 00:20:22,480 --> 00:20:23,760 สวัสดีค่า 503 00:20:23,760 --> 00:20:25,080 เป็นไง คิดถึงเสียงวิวกันมั้ยคะ 504 00:20:25,080 --> 00:20:27,860 เป็นหนึ่งคลิปที่รู้สึกว่าตัวเองแทบไม่ได้พูดไรเลยนะ 505 00:20:27,860 --> 00:20:29,620 เพราะว่ามัวแต่นั่งอ้าปากค้างนะคะ 506 00:20:29,620 --> 00:20:33,400 เป็นความรู้ที่ดีมากๆ เลย คือก็ไม่รู้จะไปหาอ่านเองจากไหนอะไรยังไงนะคะ 507 00:20:33,400 --> 00:20:34,460 เอาเป็นว่าอย่างแรกนะคะ 508 00:20:34,460 --> 00:20:37,600 ก็ขอขอบคุณร้านอาหารอรรถรส ซอยสุขุมวิท 39 นะคะ 509 00:20:37,600 --> 00:20:39,680 ที่ให้เรามาชิมอาหารไทยดีๆ ในวันนี้ 510 00:20:39,680 --> 00:20:41,320 แล้วก็ให้ใช้สถานที่ด้วยค่ะ 511 00:20:41,320 --> 00:20:45,620 นอกจากนี้ถ้าใครอยากติดตามผลงานของอาป้อมหรือว่าเชฟป้อมนะคะ 512 00:20:45,620 --> 00:20:46,960 สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัลนะคะ 513 00:20:46,960 --> 00:20:50,700 เล่นวันที่ 27 กันยายน ถึง 6 ตุลาคม 2562 นะคะ 514 00:20:50,860 --> 00:20:56,080 มีรอบสุดสัปดาห์นะคะ วันศุกร์เย็น วันเสาร์บ่าย เสาร์เย็น อาทิตย์บ่าย อาทิตย์เย็น 515 00:20:56,080 --> 00:20:58,300 ทั้งหมดแค่ 10 รอบด้วยกันนะคะ 516 00:20:58,300 --> 00:20:59,300 พลาดแล้วพลาดเลย 517 00:20:59,300 --> 00:21:02,620 ดังนั้นถ้าใครสนใจนะคะ รายละเอียดอยู่ด้านล่างเลย ใน description box นะคะ 518 00:21:02,620 --> 00:21:03,740 รีบจองบัตรค่ะทุกคน 519 00:21:03,740 --> 00:21:05,120 สำหรับวันนี้วิวลาไปก่อนนะคะ 520 00:21:05,120 --> 00:21:06,360 บ๊ายบาย 521 00:21:06,360 --> 00:21:07,680 สวัสดีค่ะ