WEBVTT 00:00:00.160 --> 00:00:02.060 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 00:00:02.120 --> 00:00:06.420 จะบอกว่าเรื่องนึงนะคะที่มีคนขอวิวมาเยอะมากในแชนเนลนั้นก็คือ 00:00:06.420 --> 00:00:08.460 อยากให้วิวเล่าเรื่องอาหารไทยค่ะ 00:00:08.460 --> 00:00:11.520 แต่อย่างที่ทุกคนรู้นะ บ้านวิวก็ค่อนข้างจะเป็นคนจีนน่ะนะคะ 00:00:11.520 --> 00:00:16.140 ดังนั้นนะคะ เรื่องที่วิวนำมาเล่าต่างๆ ส่วนมากก็จะมาจากตำรานู่นนี่นั่นใช่มั้ย 00:00:16.140 --> 00:00:18.680 แต่พอมันเป็นเรื่องอาหาร เป็นเรื่องศิลปะวัฒนธรรมเนี่ยนะคะ 00:00:18.680 --> 00:00:20.900 บางทีมันก็มีอะไรที่มันอยู่นอกตำรา 00:00:20.900 --> 00:00:23.540 แล้วก็มันต้องอาศัยคนที่มีประสบการณ์จริงๆ นะคะ 00:00:23.540 --> 00:00:25.400 ดังนั้นนะคะ ตามคำเรียกร้องของทุกคนเลย 00:00:25.400 --> 00:00:28.280 วันนี้วิวก็เลยมาหาผู้รู้ด้านอาหารไทยค่ะ 00:00:28.280 --> 00:00:29.320 เชฟป้อมนั่นเองค่ะ 00:00:29.320 --> 00:00:31.600 วันนี้นะคะ วิวชวนอาป้อมมาที่ร้านอรรถรสค่ะ 00:00:31.600 --> 00:00:33.300 โอเค ตอนนี้อาป้อมรออยู่ข้างในแล้ว 00:00:33.300 --> 00:00:34.980 เรารีบเข้าไปด้านในกันดีกว่าค่ะ 00:00:34.980 --> 00:00:37.160 แต่ ก่อนจะตามไปฟังเรื่องอาหารไทยกัน 00:00:37.160 --> 00:00:39.400 อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ 00:00:39.960 --> 00:00:41.560 ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค ยูทูป ทวิตเตอร์ อะไรต่างๆ 00:00:41.600 --> 00:00:45.380 จะได้ไม่พลาดคลิปวีดีโอสนุกๆ แล้วก็ข่าวสารดีๆ จากช่อง Point of View ค่ะ 00:00:45.385 --> 00:00:47.385 โอเค ตอนนี้พร้อมจะตามวิวเข้าไปข้างใน 00:00:47.385 --> 00:00:50.060 ไปฟังเรื่องที่ทั้งสนุก แล้วก็มีสาระกันรึยังคะ 00:00:50.060 --> 00:00:52.180 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามเข้ามาเลยค่ะ 00:00:57.360 --> 00:01:00.480 ตอนนี้นะคะ เราก็มาอยู่กับอาป้อมเรียบร้อยแล้วค่ะ 00:01:00.480 --> 00:01:01.455 สวัสดีค่ะอาป้อม 00:01:01.460 --> 00:01:02.460 สวัสดีค่ะ 00:01:02.760 --> 00:01:06.300 ก็ วันนี้วิวอยากจะมาขอความรู้เรื่องอาหารไทยค่ะ 00:01:06.300 --> 00:01:08.300 เพราะว่าวิวเนี่ยไม่มีความรู้อะไรเลย 00:01:08.300 --> 00:01:10.960 เรียกได้ว่า มีอะไรให้ทานก็ทานไป แบบนั้นเลยค่ะ 00:01:10.960 --> 00:01:12.780 อย่าเรียกว่ามาขอความรู้เลย 00:01:12.780 --> 00:01:15.080 เรียกว่าเรามาคุยกันดีกว่า 00:01:15.080 --> 00:01:18.140 อาป้อมโชคดีที่พื้นฐานครอบครัว 00:01:18.140 --> 00:01:22.000 ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อยู่กันหลายๆ รุ่น 00:01:22.720 --> 00:01:26.500 แล้วก็เป็นหลายรุ่นที่เน้นวัฒนธรรมการกินในบ้าน 00:01:26.500 --> 00:01:30.140 เมื่อก่อนนี้ เราไม่ได้รับประทานอาหารนอกบ้านกันค่ะ 00:01:30.140 --> 00:01:32.200 ซึ่งการอยู่หลายรุ่นในบ้านเนี่ยค่ะ 00:01:32.200 --> 00:01:34.220 มันทำให้การทานอาหารเนี่ย 00:01:34.220 --> 00:01:37.040 แตกต่างจากการทานอาหารนอกบ้านสมัยนี้มั้ยคะ 00:01:37.280 --> 00:01:41.000 จริงๆ แล้วนั่นมันคือวิถีชีวิตในความเป็นไทย 00:01:41.000 --> 00:01:42.180 อย่าเพิ่งมองสมัยนี้นะคะ 00:01:42.180 --> 00:01:44.260 ก็คือในหนึ่งหลังคาเรือนเนี่ย 00:01:44.260 --> 00:01:47.520 มันจะมีคนมากกว่าหนึ่งรุ่นอายุ 00:01:47.520 --> 00:01:49.640 ก็เหมือนที่เราดูในหนังในละครปกติ 00:01:49.640 --> 00:01:51.160 ที่แบบว่า ตายายอุ้มหลาน 00:01:51.160 --> 00:01:51.960 หลานวิ่งรอบ 00:01:51.960 --> 00:01:55.780 ถูกต้อง เพราะครอบครัวพื้นฐานไทยธรรมดาที่มาจากสังคมเกษตรกรรม 00:01:55.780 --> 00:01:57.220 ก็คือปู่ย่าตายายอยู่บ้านละ 00:01:57.220 --> 00:01:58.340 พ่อแม่ออกไปทำนาละ 00:01:58.340 --> 00:02:01.600 ลูกถ้ายังเล็กอยู่ ก็ไปอยู่กับปู่ย่าตายายนะคะ 00:02:01.620 --> 00:02:02.920 ถ้าโตหน่อยไปเรียนที่วัด 00:02:02.920 --> 00:02:06.220 เวลาคุณภาพของครอบครัวคือเวลาอาหาร 00:02:06.220 --> 00:02:08.740 คือทุกคนนั่งล้อมวงกันทานข้าว 00:02:08.740 --> 00:02:12.620 คือสมัยนี้เนี่ยสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือชอบเสิร์ฟกันแบบฝรั่ง 00:02:12.620 --> 00:02:14.445 ขึ้นต้นอาหารเรียกน้ำย่อย (appetizer) 00:02:14.445 --> 00:02:16.440 ซุป อาหารจานหลัก (main course) 00:02:16.440 --> 00:02:17.160 ตามด้วยของหวาน 00:02:17.160 --> 00:02:18.380 จริงๆ ไม่ใช่ 00:02:18.380 --> 00:02:20.820 ของไทย ถ้ามากินอย่างนั้น ลองนึกดู 00:02:20.820 --> 00:02:23.540 สมมุติ ต้มยำ ซดไปอ่ะ เผ็ดตายเลย 00:02:23.540 --> 00:02:27.180 จริงๆ แล้ว ต้มยำคือหนึ่งในสำรับ 00:02:27.180 --> 00:02:29.740 ก็คือสมัยก่อนคนไทยทานข้าวเป็นสำรับ 00:02:29.740 --> 00:02:34.360 สำรับ จริงๆ ถ้าแปลตรงตัวมันคือกลุ่มของถ้วยจานชาม 00:02:34.360 --> 00:02:36.720 แต่มาในแง่ของการกินเป็นสำรับ 00:02:36.720 --> 00:02:41.540 คำว่าสำรับเนี่ยก็คือการจัดสมดุลในมื้ออาหาร 00:02:41.540 --> 00:02:46.160 สมดุลมาจากคนสามรุ่นอายุสามารถกินอาหารร่วมกันได้ 00:02:46.160 --> 00:02:49.125 อาหารแค่เซ็ทเดียวเนี่ย ทุกคนต้องกินด้วยกันได้ 00:02:49.125 --> 00:02:50.480 หรือไม่ก็อย่างใดอย่างหนึ่ง 00:02:50.480 --> 00:02:53.260 อ๋อ จะกลายเป็นว่าใครสั่งอันนี้ปุ๊บ เอ้ย ชั้นกินไม่ได้ 00:02:53.260 --> 00:02:54.820 อันนี้เด็กกินไม่ได้ 00:02:54.820 --> 00:02:56.380 อันนี้อาหารเด็ก อันนี้อาหารผู้ใหญ่ 00:02:56.420 --> 00:02:59.180 งั้นมันจะคือเวลาคุณภาพของครอบครัวมั้ยล่ะ 00:03:00.100 --> 00:03:03.820 รุ่นที่หนึ่งกินได้ รุ่นที่สองกินได้ รุ่นที่สามกินได้ 00:03:03.820 --> 00:03:07.660 ทุกอย่างบนโต๊ะ มันคือรสชาติสมดุลและเอื้อกันไง 00:03:07.660 --> 00:03:11.180 ถ้าสมัยนี้เรียกว่า มิกซ์แอนด์แมตช์ อะไรทำนองนี้ใช่มั้ยคะ 00:03:11.180 --> 00:03:13.980 ปู่ย่าตายาย อายุเยอะละ ฟันฟางไม่ค่อยดี 00:03:14.140 --> 00:03:17.340 กินเผ็ดมากก็ไม่ค่อยได้ เพราะคนแก่กินเผ็ดแล้วจะสำลัก 00:03:17.340 --> 00:03:21.500 คนสมัยก่อนอายุซักประมาณสามสี่สิบกว่าฟันก็น่าจะเริ่มไปละ 00:03:21.500 --> 00:03:23.320 คือไม่ต้องอะไรหรอก อาป้อมก็รู้ตัว 00:03:23.320 --> 00:03:26.615 เพราะว่าตอนนี้ กินแล้วสำลักโดยไม่มีเหตุผล 00:03:26.615 --> 00:03:29.665 แค่กลิ่นพริกลงในคอ นิดเดียวเนี่ย 00:03:29.665 --> 00:03:31.500 เราจะสำลักเหมือนจะตายเอาเลย 00:03:31.500 --> 00:03:34.880 ทั้งๆ ที่ปกตินี่กัดพริกขี้หนูสดๆ ไม่มีปัญหา 00:03:34.900 --> 00:03:39.000 ดังนั้นเนี่ยในรุ่นกลาง รุ่นที่สอง รุ่นพ่อแม่ กินพริกเผ็ดได้ 00:03:39.060 --> 00:03:40.620 แต่คุณปู่คุณย่ากินไม่ได้แล้ว 00:03:40.620 --> 00:03:42.180 ปู่ย่ากินอะไรล่ะคะ 00:03:42.180 --> 00:03:44.780 ก็กินของทอด กินน้ำแกง 00:03:44.780 --> 00:03:46.760 หรือต้มยำให้มันเบาลง 00:03:46.760 --> 00:03:49.200 เพื่อที่ฟันน้อยๆ จะได้เคี้ยวได้ 00:03:49.200 --> 00:03:52.620 ซึ่งก็น่าจะเป็นอาหารคล้ายๆ กับอาหารของฝั่งเด็กเหมือนกัน 00:03:52.680 --> 00:03:57.380 คล้าย แต่เด็กเนี่ยอาจจะกินเนื้อ หมู ไก่ ที่แข็งแรงกว่านั้นได้ 00:03:57.380 --> 00:03:59.220 แต่คุณย่าคุณยายกินไม่ได้แล้ว 00:03:59.220 --> 00:04:01.620 กินหมูสับละกัน อะไรอย่างเงี้ยค่ะ 00:04:01.660 --> 00:04:05.160 แต่เด็กๆ สามารถกินหมูทอดทั้งชิ้นได้โดยไม่มีปัญหา 00:04:05.165 --> 00:04:07.785 หรือว่าในถ้วยนึงเนี่ย เราจะไม่เรียกไข่พะโล้ 00:04:07.785 --> 00:04:09.680 เราจะเรียกหมูหวานกับไข่ต้มเค็ม 00:04:09.680 --> 00:04:11.125 เพราะของไทยไม่มีเครื่องพะโล้ 00:04:11.145 --> 00:04:12.880 อ๋อ พะโล้นี่ไม่ใช่อาหารไทย 00:04:12.880 --> 00:04:15.020 พะโล้นี่คือจีนค่ะ คือ five spices 00:04:16.080 --> 00:04:19.700 แต่การต้มเค็มหมูหวานกับไข่ต้มเค็มเนี่ย 00:04:19.700 --> 00:04:22.380 เอาง่ายๆ พูดกันจนฮิตว่ามันคือไข่พะโล้ 00:04:22.380 --> 00:04:24.940 แต่กินเข้าไปไม่มีผงพะโล้ ไม่มีซีอิ๊วดำ 00:04:24.940 --> 00:04:26.880 แต่มันดำได้ด้วยการเคี่ยวน้ำตาล 00:04:26.880 --> 00:04:29.960 แต่ในขณะเดียวกัน หมูหวาน ไข่ต้มเค็ม 00:04:29.960 --> 00:04:32.220 ปู่ย่าตายายกินไข่ได้ 00:04:32.220 --> 00:04:34.220 ไม่ไหวละ เคี้ยวหมูไม่ไหวละ 00:04:34.220 --> 00:04:35.480 ก็เป็นหน้าที่ของเด็กเล็ก 00:04:35.480 --> 00:04:39.140 แต่ในขณะเดียวกัน หน้าที่ของหมูหวานไข่ต้มเค็มมีไว้ทำอะไร 00:04:39.140 --> 00:04:41.040 เวลาคุณพ่อคุณแม่เผ็ดจากน้ำพริกอ่ะ 00:04:41.040 --> 00:04:43.240 ก็กินไข่กับหมูหวานแกล้ม 00:04:43.240 --> 00:04:46.520 คือมันเหมือนทุกอย่างในสำรับมันโดนจัดมาเพื่อให้ช่วยกันและกัน 00:04:46.960 --> 00:04:49.520 ใช่ค่ะ นี่คือวิถีของคนไทย 00:04:49.520 --> 00:04:50.540 อย่างนี้แปลว่า 00:04:50.540 --> 00:04:53.420 มื้อหลักที่สุดของคนไทยก็เป็น มื้อเย็น 00:04:53.420 --> 00:04:57.060 แนวคิดที่แบบว่า มื้อเช้ากินอย่างราชานี่ ไม่มี ยังไม่เข้ามา 00:04:57.060 --> 00:04:59.360 อันนั้นคือการดูแลสุขภาพ 00:04:59.360 --> 00:05:00.400 ในสมัยหลัง 00:05:00.400 --> 00:05:02.600 เราก็ได้ฟังเรื่องอาหารกันไปคร่าวๆ แล้วนะคะ 00:05:02.600 --> 00:05:04.485 เดี๋ยวเราไปดูที่อาหารจริงๆ กันดีกว่า 00:05:04.485 --> 00:05:07.260 เริ่มจากจานของว่าง ไม่ใช่จานเรียกน้ำย่อยนะ 00:05:07.260 --> 00:05:08.440 ของว่างระหว่างมื้อเนี่ย 00:05:08.440 --> 00:05:11.500 แล้วเมื่อไปที่อาหารเต็มๆ สำรับแล้วเนี่ย จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง 00:05:11.500 --> 00:05:13.280 ให้อาป้อมค่อยๆ เล่าให้เราฟังค่ะ 00:05:13.400 --> 00:05:16.395 ในวันนี้นะคะ เราสั่งของกินเล่น 00:05:16.395 --> 00:05:18.040 อันเนี้ยน่าสนใจ 00:05:18.040 --> 00:05:19.455 คือคำว่าเมี่ยง 00:05:19.460 --> 00:05:23.100 เมี่ยงก็คือ อาหารที่เราต้องใช้การเคี้ยว 00:05:23.100 --> 00:05:25.800 จริงๆ แล้วเนี่ย เมี่ยงมาจากอะไรล่ะคะ 00:05:25.800 --> 00:05:28.460 เราสามารถทำน้ำเมี่ยง เคี่ยวน้ำเมี่ยง 00:05:28.460 --> 00:05:31.600 น้ำตาล น้ำปลา มะพร้าว อันนี้ก็แล้วแต่สูตรใครนะ 00:05:32.100 --> 00:05:34.540 เคี่ยวไว้ แล้วก็เก็บใส่โหล 00:05:34.960 --> 00:05:38.120 มะพร้าวก็เคี่ยวไว้แล้ว กุ้งแห้งก็มีอยู่แล้ว 00:05:38.120 --> 00:05:41.120 หัวหอม พริก ขิง อะไรเหล่าเนี้ย เรามีอยู่ในบ้าน 00:05:41.120 --> 00:05:43.580 ดังนั้น สิ่งที่สามารถเอามาทำเมี่ยงได้ 00:05:43.580 --> 00:05:46.060 ใบชะพลู ใบทองหลาง กลีบบัว 00:05:46.060 --> 00:05:47.380 จริงๆ แล้วข้างในเหมือนกันหมด 00:05:47.680 --> 00:05:50.300 ก็คือมีทุกอย่างหมดแล้วแหละ บังเอิญได้ดอกบัวมา 00:05:50.300 --> 00:05:52.360 อ่ะไปค้นๆ ของในบ้านมายัดรวมกัน 00:05:52.360 --> 00:05:54.840 ใช่ มันเหมือนกับมีแขกมาเยี่ยมตอนบ่ายๆ 00:05:54.840 --> 00:05:56.640 เอ้า หิวมั้ย เอานี่มั้ย เพลิน 00:05:56.640 --> 00:05:58.700 คือปกติเนี่ย เค้าไม่ได้จัดมาแบบนี้ 00:05:58.700 --> 00:06:01.080 เค้าจะกองทุกอย่าง แล้วเราก็เลือกใส่เอาเอง 00:06:01.080 --> 00:06:04.000 กินไปคุยไป มันเป็นความเพลิดเพลิน 00:06:04.000 --> 00:06:06.680 แล้วเหมือนกับ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ 00:06:06.680 --> 00:06:08.000 เชิญอาป้อมก่อนเลยค่ะ 00:06:08.000 --> 00:06:09.495 เวลาเรากินนะ 00:06:09.495 --> 00:06:11.640 เพื่อจะให้เข้าปากได้ง่ายๆ นะคะ 00:06:11.640 --> 00:06:12.565 จริงๆ แล้วเนี่ย 00:06:12.565 --> 00:06:14.780 คนไทยเป็นคนสุภาพ 00:06:14.780 --> 00:06:17.480 เราก็รับประทานให้มันละเมียดนิดนึง 00:06:17.480 --> 00:06:20.020 โดยการจับแล้วก็ไขว้เข้าไปอย่างนี้ 00:06:20.020 --> 00:06:21.460 จริงๆ แล้วการไขว้เนี่ย 00:06:21.460 --> 00:06:25.660 เค้าจะไขว้ก่อนที่ พับกรวยก่อนที่จะใส่เครื่องเข้าไป 00:06:25.660 --> 00:06:27.860 เหมือนที่บอก เวลามาเนี่ย เค้าไม่ได้จัดอย่างนี้ 00:06:27.860 --> 00:06:29.100 พอพับกรวยเสร็จแล้วเนี่ย 00:06:29.100 --> 00:06:31.280 เราก็หยิบมะพร้าวใส่ กุ้งใส่ 00:06:31.280 --> 00:06:32.720 มะนาวใส่ พริก หอม 00:06:32.720 --> 00:06:34.360 แล้วก็ค่อยเอาน้ำเมี่ยง 00:06:34.360 --> 00:06:36.060 น้ำเมี่ยงนี่สูตรบ้านใครบ้านมัน 00:06:36.060 --> 00:06:38.140 ใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มรสชาติ 00:06:39.620 --> 00:06:42.820 แล้วด้วยวิธีนี้ เราจะเข้าปากได้ง่ายขึ้น 00:06:42.820 --> 00:06:44.160 00:06:44.160 --> 00:06:47.140 ขออนุญาตทำสิ่งนึงก่อนค่ะ คือเขี่ยพริกออกนั่นเอง 00:06:48.900 --> 00:06:50.300 หยิบดีๆ เข้าเลย 00:06:51.380 --> 00:06:52.760 สิ่งที่เราเจอในปาก 00:06:52.920 --> 00:06:54.820 ความมันความเค็มของกุ้งแห้ง 00:06:54.820 --> 00:06:57.000 เค็มๆ หวานๆ ของน้ำเมี่ยง 00:06:57.000 --> 00:06:59.500 เปรี้ยวมะนาว หอมผิวมะนาวขึ้นไปด้วย 00:06:59.500 --> 00:07:00.560 ครบมาก คำเดียว 00:07:00.560 --> 00:07:01.520 ค่ะ ในคำเดียว ครบ 00:07:01.520 --> 00:07:03.540 แอบมีขิงแก่ เพื่ออะไรเหรอคะ 00:07:03.540 --> 00:07:06.300 คนไทยเนี่ย เมื่อไหร่ที่กินไขมันประมาณมะพร้าว 00:07:06.300 --> 00:07:09.120 เค้าก็จะใส่ขิงเพื่อเป็นการรักษาท้อง 00:07:09.200 --> 00:07:10.800 คือเหมือนกับว่าเค้าเตรียมไว้ละ 00:07:10.800 --> 00:07:14.360 ตอนนี้เรากินอะไรที่เป็นไขมัน เราต้องใส่อะไรแก้ไขมันลงไปด้วยในคำเดียว 00:07:14.400 --> 00:07:17.340 ใช่ๆ เพราะว่าเห็นมั้ยว่าคนไทย เมื่อก่อนมีมั้ยคะ 00:07:17.340 --> 00:07:21.120 ความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือดหัวใจ ไม่มี 00:07:21.240 --> 00:07:23.640 ทั้งๆ ที่กะทิอ่ะ คนไทยก็กินมาตั้งนานแล้ว 00:07:23.640 --> 00:07:25.500 หมูสามชั้นก็กินมาแล้ว 00:07:25.500 --> 00:07:26.560 ค่ะ มันกุ้งอีก 00:07:26.560 --> 00:07:29.795 ได้ข่าวว่าตอนอยุธยานี่เรากินมันกุ้งแล้วทิ้งเนื้อเลยใช่มั้ยคะ 00:07:29.795 --> 00:07:31.640 โอ๊ย รุ่นคุณพ่อพี่อ่ะ จำได้เลย 00:07:31.640 --> 00:07:33.240 บ้านเค้าอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา 00:07:33.240 --> 00:07:35.580 สมัยนั้นลงไปว่ายเล่นในแม่น้ำได้ 00:07:35.580 --> 00:07:39.180 พ่อเล่าว่า พ่อกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเล่นเนี่ยนะ 00:07:39.180 --> 00:07:42.660 ตรงเสาของท่า มีกุ้งก้ามกรามเกาะอยู่ 00:07:43.500 --> 00:07:45.420 คือตัวใหญ่มากอ่ะ 00:07:45.420 --> 00:07:48.100 แล้วมันก็เป็นอะไรที่หาง่าย 00:07:48.100 --> 00:07:50.400 แล้วก็ไม่ได้แพงมหัศจรรย์แบบสมัยนี้ 00:07:50.460 --> 00:07:53.500 วันนี้กิโลละพันหก อะไรอย่างนี้นะคะ 00:07:53.500 --> 00:07:54.260 ใช่ค่ะ 00:07:54.280 --> 00:07:58.920 อ่ะ ในที่สุดนะคะ หลังจากที่เรานั่งทานของว่างแล้วก็คุยกันมาสักพักนึงแล้ว 00:07:58.920 --> 00:08:01.180 อาหารสำรับจริงก็มาแล้วค่ะ 00:08:01.180 --> 00:08:03.360 ดังนั้น นี่คืออะไรยังไงบ้างคะเนี่ยอาป้อม 00:08:03.360 --> 00:08:06.060 อย่างวันนี้เนี่ย ที่จัดมาให้ดูนะคะ 00:08:06.060 --> 00:08:10.160 มันเป็นการกินอาหารแบบสำรับที่เมื่อกี้เราเกริ่นไป จำได้มั้ยคะ 00:08:10.160 --> 00:08:10.700 ค่ะ 00:08:10.720 --> 00:08:11.920 นั่นก็คือว่า 00:08:11.920 --> 00:08:16.200 มีอาหารที่เป็นเผ็ด ผักสด ปลาทูทอด 00:08:16.200 --> 00:08:19.680 แค่จานนี้ น่าจะกินได้ทั้งสามรุ่น 00:08:19.860 --> 00:08:20.760 จานเดียวเนี่ยนะคะ 00:08:20.760 --> 00:08:23.840 จานเดียวกัน ก็คือเด็กหน่อยก็กินปลาทู 00:08:23.840 --> 00:08:26.540 แค่ข้าวคลุกปลาทู ยังกินน้ำพริกไม่ไหว 00:08:26.545 --> 00:08:28.500 พ่อแม่นี่เหมาได้ทั้งจาน 00:08:28.500 --> 00:08:29.835 พอปู่ย่าตายายเนี่ย 00:08:29.860 --> 00:08:33.980 อาจจะต้องรับประทานผักนิ่มๆ แล้วก็แตะน้ำพริกแค่น้อยๆ 00:08:34.660 --> 00:08:35.980 ซึ่งกรณีนี้เนี่ย 00:08:35.980 --> 00:08:40.540 มันสามารถที่จะสอนให้เด็กรุ่นเล็กๆ เนี่ย หัดเริ่มรับประทานเผ็ดได้ด้วย 00:08:40.540 --> 00:08:41.700 แตะๆ นิดหน่อย 00:08:41.700 --> 00:08:43.640 ใช่ แตะแล้วชอบให้รสชาติเป็นยังไง 00:08:43.640 --> 00:08:46.240 คนไทยก็จะเริ่มคุ้นกับกลิ่นกะปิ 00:08:46.240 --> 00:08:49.080 ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในครัวไทย 00:08:49.080 --> 00:08:51.580 นี่แปลว่า โอ๊ย เด็กอยู่อย่าเพิ่งกิน อย่าไปแตะมันเลยเนี่ย 00:08:51.580 --> 00:08:54.720 เป็นการสอนที่ผิด เพราะมันจะทำให้กินไม่เป็นในอนาคต 00:08:54.720 --> 00:08:58.040 ให้แตะ อยากกิน เดี๋ยวเผ็ดก็จะได้รู้เอง ว่ากินเข้าไปแล้วเผ็ด 00:08:58.040 --> 00:08:58.655 อ๋ออออ ค่ะ 00:08:58.660 --> 00:09:01.060 เด็กก็จะต้องเผชิญปัญหาทุกอย่าง 00:09:01.060 --> 00:09:02.680 ซึ่งพี่ฝากไว้อย่างนึง 00:09:02.680 --> 00:09:05.840 พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกแบบว่า overprootect 00:09:05.840 --> 00:09:07.500 ปกป้องมากเกินไป 00:09:07.700 --> 00:09:10.460 บางครั้งไม่ได้ให้ลูกเรียนรู้ที่จะแพ้ 00:09:10.460 --> 00:09:11.900 ไม่ได้ให้ลูกเรียนรู้ที่จะผิด 00:09:11.900 --> 00:09:14.180 ลูกคุณก็ผิดได้ ลูกคุณก็แพ้ได้ 00:09:14.180 --> 00:09:18.560 เพราะในวันข้างหน้าถ้าคุณไม่สามารถตามปกป้องเค้าได้แล้ว 00:09:18.560 --> 00:09:21.620 ถ้าเค้าต้องผิดต้องแพ้ขึ้นมา ในตัวเองเค้ารับไม่ได้ 00:09:21.620 --> 00:09:22.720 แล้วใครรับผิดชอบ 00:09:22.720 --> 00:09:24.740 จริงด้วยค่ะ เป็นข้อคิดที่ดีมาก 00:09:24.740 --> 00:09:27.500 เห็นมะ แม้กระทั่งเรื่องกินก็ยังสอนได้นะคนเรา 00:09:27.500 --> 00:09:28.000 ค่ะ 00:09:28.000 --> 00:09:29.480 อันนี้เป็นเครื่องจิ้ม 00:09:29.480 --> 00:09:31.040 อย่างนี้เค้าเรียกว่าเครื่องจิ้ม 00:09:31.040 --> 00:09:32.460 ซึ่งเครื่องจิ้มมีอะไรอีก 00:09:32.460 --> 00:09:35.120 เครื่องจิ้มก็อาจจะมีหลน ซึ่งเป็นกะทิ 00:09:35.120 --> 00:09:37.020 แต่วันนี้เอาพื้นบ้านเลย 00:09:37.020 --> 00:09:38.240 คือน้ำพริกกะปิเนี่ย 00:09:38.240 --> 00:09:42.360 รับประทานกับปลาทู ผักทอด ผักสด ผักลวก 00:09:42.600 --> 00:09:43.740 มีดอกโสน 00:09:44.220 --> 00:09:45.780 เมื่อน้ำพริกกะปิแซ่บแล้ว 00:09:46.020 --> 00:09:50.160 แกงที่จะมาคู่กันสามารถเป็นแกงกะทิได้ 00:09:50.160 --> 00:09:50.860 00:09:50.860 --> 00:09:53.080 วันนี้เนี่ยใช้แกงเผ็ดเป็ดย่าง 00:09:53.080 --> 00:09:53.600 ค่ะ 00:09:53.860 --> 00:09:57.540 แกงเผ็ดเป็ดย่างเนี่ย ทำไมเป็นแกงเดียวที่ต้องใส่สับปะรด 00:09:57.540 --> 00:09:59.420 อ่า ไม่รู้สิคะ 00:09:59.420 --> 00:10:03.120 เนื่องจากสมัยก่อนเนี่ย เป็ด เป็ดบ้านไก่บ้าน เหนียวค่ะ 00:10:03.120 --> 00:10:04.120 อ๋อ 00:10:04.120 --> 00:10:05.540 เค้าออกกำลังของเค้าทุกวันเนี่ย 00:10:05.540 --> 00:10:06.899 พอเชือดมากิน เหนียว 00:10:06.900 --> 00:10:08.220 ย่างแล้วเหนียวทำยังไง 00:10:08.220 --> 00:10:11.740 การที่จะทำให้เนื้อเป็ดนุ่ม นั่นคือการใส่สับปะรดเข้าไป 00:10:11.740 --> 00:10:14.040 นั่นคือภูมิปัญญาของคนไทย 00:10:14.040 --> 00:10:18.280 มันจะเป็นตัวเอนไซม์ที่ไปย่อยให้เป็ดนุ่ม 00:10:18.280 --> 00:10:23.120 ดังนั้น ถ้าไปเห็นแกงเผ็ดเป็ดย่างที่ไหนที่สับปะรดหน้าตาสดเกินไป 00:10:23.160 --> 00:10:24.100 มันไม่ใช่ 00:10:24.140 --> 00:10:26.040 มันต้องใช้เวลาให้สับปะรดเนี่ย 00:10:26.040 --> 00:10:28.660 เข้าไปช่วยเป็ดให้นุ่มก่อน 00:10:28.660 --> 00:10:29.820 แล้วถึงใส่เครื่อง 00:10:29.820 --> 00:10:32.700 ก็คือเหมือนกับว่าเคี่ยวไปก่อนเลย แล้วเดี๋ยวค่อยเติมอย่างอื่น 00:10:32.700 --> 00:10:34.720 แล้วเสร็จแล้ว อาหาร ไม่ต้องว่าอะไร 00:10:34.720 --> 00:10:36.560 ทุกอย่างมีวิวัฒนาการ 00:10:36.560 --> 00:10:37.675 ดังนั้นในวันนี้ 00:10:37.680 --> 00:10:40.360 อาจจะเปลี่ยนเพิ่มลิ้นจี่บ้าง 00:10:40.360 --> 00:10:42.260 เพิ่มองุ่นบ้าง อะไรบ้าง 00:10:42.260 --> 00:10:45.780 แต่เห็นมั้ยว่า เค้าก็ยังคงความมีสับปะรดอยู่ในนี้ 00:10:45.780 --> 00:10:46.680 ให้มันนิ่ม 00:10:46.680 --> 00:10:47.600 ยังไงก็เป็นสับปะรด 00:10:47.600 --> 00:10:49.260 ไม่ใช่ไม่เป็นสับปะรด 00:10:49.260 --> 00:10:52.580 ในเมื่อมีแกงแล้ว เผ็ดแล้ว นี่ก็เผ็ดอีก 00:10:52.580 --> 00:10:53.400 มีนี่แกล้ม 00:10:53.400 --> 00:10:56.620 จานนี้เนี่ย เห็นที่เขียนไว้คือหมูฮ้อง 00:10:56.620 --> 00:10:58.420 หมูฮ้องเนี่ยคือ 00:10:58.420 --> 00:11:02.140 เหมือนกับเป็นหมูต้มเค็มของทางภูเก็ตนะคะ 00:11:02.140 --> 00:11:06.240 จะเป็นลูกผสมระหว่างหมูต้มเค็มของไทยกับหมูพะโล้ 00:11:06.240 --> 00:11:08.500 อ่ะเพราะว่าภูเก็ตก็คนจีนค่อนข้างเยอะ 00:11:08.500 --> 00:11:11.000 ใช่ค่ะ แต่ว่าก็ยังผสมสามเกลอ 00:11:11.000 --> 00:11:13.280 นั่นคือรากผักชีกระเทียมพริกไทย 00:11:13.280 --> 00:11:14.020 แบบไทยอยู่ 00:11:14.020 --> 00:11:15.320 ชอบชื่อมากค่ะ สามเกลอ 00:11:15.320 --> 00:11:17.440 สามเกลอ อันนี้เค้าจะเรียกกันสามเกลอ 00:11:17.440 --> 00:11:19.960 เพราะขี้เกียจพูดอ่ะ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ยาว 00:11:19.965 --> 00:11:21.560 สามเกลอ จบ เราจะเข้าใจนะคะ 00:11:21.560 --> 00:11:23.580 แล้วก็ถ้าเป็นหมูฮ้องเนี่ย 00:11:23.580 --> 00:11:25.500 สามารถใส่ผงพะโล้เข้าไปด้วย 00:11:25.500 --> 00:11:31.940 ผงพะโล้ก็ประกอบไปด้วย อบเชย กานพลู ลูกจันทน์ ลูกกระวาน แล้วก็พริกไทย ลงไป 00:11:31.940 --> 00:11:33.060 ประมาณนี้นะคะ 00:11:33.060 --> 00:11:35.080 เพราะภาษาจีนมาจากคำว่า five spices 00:11:35.080 --> 00:11:37.060 อื้ม ก็คือเครื่องเทศห้าอย่าง 00:11:37.060 --> 00:11:39.580 เครื่องเทศของจีน ก็ผงพะโล้นั่นเอง 00:11:39.580 --> 00:11:41.860 แล้วก็ เคี่ยวจนหมูนุ่ม 00:11:41.860 --> 00:11:45.700 แต่น้ำตาลในหมูฮ้องหรือหมูพะโล้ 00:11:45.700 --> 00:11:49.360 ก็จะไปรัดทั้งไข่ทั้งหมูให้ผิวตึง 00:11:50.080 --> 00:11:52.840 แต่อันนี้ก็คืออาหารจานไข่และหมู 00:11:52.840 --> 00:11:54.060 ซึ่งลูกเล็กกินได้ไง 00:11:54.700 --> 00:11:56.940 และเป็นอาหารแก้เผ็ดของรุ่นใหญ่ 00:11:56.940 --> 00:11:58.400 ก็คือเห็นเด็กกินอยู่ 00:11:58.400 --> 00:11:59.260 โอ๊ย อันนี้เผ็ดจังเลย 00:11:59.260 --> 00:12:00.160 ไปแย่งเด็กกิน 00:12:00.160 --> 00:12:00.660 ใช่ค่ะ 00:12:00.660 --> 00:12:02.340 ทีนี้เจอความหนักแล้ว 00:12:02.340 --> 00:12:03.780 เรามาเบาด้วยยำ 00:12:03.780 --> 00:12:05.900 สมัยก่อนน่ะ ตามบ้านชนบทไทย 00:12:05.900 --> 00:12:07.540 เค้ามีหัวปลีอยู่แล้ว 00:12:07.540 --> 00:12:08.820 ก็เลยเอาหัวปลีมายำ 00:12:08.820 --> 00:12:11.520 แต่รสยำหัวปลี ทำไมถึงสั่งมาในวันนี้ 00:12:11.520 --> 00:12:15.180 ก็เพราะว่าเรามีน้ำพริกเผ็ดเปรี้ยว แซ่บอยู่แล้วถูกมั้ยคะ 00:12:15.180 --> 00:12:16.475 ยำหัวปลีเค้าจะนวลๆ 00:12:16.480 --> 00:12:19.320 เค้าจะเป็นยำที่ใส่หัวกะทิลงไป 00:12:19.320 --> 00:12:21.560 หัวกะทิแล้วก็มะพร้าวคั่วนะคะ 00:12:21.620 --> 00:12:24.800 เพราะงั้นความสดชื่นที่ไม่ถึงกับปี๊ดป๊าดเกินไป 00:12:24.800 --> 00:12:26.540 แล้วจบด้วยแกงจืด 00:12:26.540 --> 00:12:28.035 จะแกงจืดอะไรก็ตามที 00:12:28.035 --> 00:12:28.980 ไว้ล้างปาก 00:12:28.980 --> 00:12:31.720 คุณย่าคุณตาคุณยายจะได้คล่องคอหน่อย 00:12:31.720 --> 00:12:34.220 เพราะว่าไม่งั้นเนี่ย เดี๋ยวข้าวแข็งติดคอ 00:12:34.220 --> 00:12:36.080 ทีนี้ หนูแอบถามนิดนึงได้มั้ยคะ 00:12:36.080 --> 00:12:38.520 เห็นว่าตอนนี้เรามีช้อนส้อมอะไรเสร็จเรียบร้อย 00:12:38.520 --> 00:12:43.280 แต่ว่าจริงๆ แล้วอ่ะ เท่าที่เคยอ่านมา คนไทยสมัยก่อนเค้าใช้มือเปิบใช่มั้ยคะ 00:12:43.280 --> 00:12:44.480 ใช่ค่ะ ใช้มือเปิบ 00:12:44.480 --> 00:12:46.480 แต่คนไทยก็ไม่ใช่ไม่มีช้อนนะ 00:12:46.485 --> 00:12:48.315 อย่างพวกเนี้ยเค้าก็จะใช้ช้อนตรงกลาง 00:12:48.320 --> 00:12:51.420 แต่บางอย่างนี่เค้าจะใช้มือหยิบ เช่น การแกะปลาทู 00:12:51.420 --> 00:12:52.660 หรือว่า การหยิบผัก 00:12:52.660 --> 00:12:53.940 ซึ่งนี่ก็เคลียร์เลยใช่มั้ยคะ 00:12:53.940 --> 00:12:56.880 เพราะว่าที่ผ่านมาหนูสงสัยมาตลอดเลยว่าเปิบมือแล้วเนี่ย 00:12:56.880 --> 00:12:58.660 แล้วจะไปซดซุปได้ยังไง 00:12:58.660 --> 00:13:01.760 เค้าก็ยังมีช้อนกลางอยู่นะคะ ในแต่ละอันเนี่ย 00:13:01.760 --> 00:13:04.820 แล้วก็ด้วยความที่ถ้าในบ้านนึงสนิทกัน 00:13:04.820 --> 00:13:07.080 ก็สามารถซดช้อนเดียวกันไปได้เลย 00:13:07.080 --> 00:13:09.780 ซึ่งจริงๆ เราฟังดูอาจจะฟังดูไม่ถูกสุขลักษณะ 00:13:09.900 --> 00:13:12.060 แต่บางครั้งเนี่ย ในความสนิทสนม 00:13:12.060 --> 00:13:14.980 แล้วก็เมื่อก่อนเค้าก็ไม่ได้มีเชื้อโรคเยอะขนาดนี้เนอะ 00:13:14.980 --> 00:13:18.080 แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือ สามารถจะตักมาใส่ช้อนตัวเอง 00:13:18.080 --> 00:13:19.480 แล้วก็ค่อยซดน้ำซุป 00:13:19.480 --> 00:13:20.520 ได้เช่นกันค่ะ 00:13:20.520 --> 00:13:22.400 ทีนี้หนูแอบอยากขออย่างนึงค่ะ 00:13:22.620 --> 00:13:25.340 คือสงสัยมานานละ อยากรู้มาตลอดชีวิตเลย 00:13:25.340 --> 00:13:27.000 เวลาเค้าเปิบมือนี่เค้าเปิบยังไงอ่ะคะ 00:13:27.000 --> 00:13:27.860 มันไม่เละเหรอ 00:13:27.860 --> 00:13:28.380 งั้นลอง 00:13:28.540 --> 00:13:29.920 อย่างแรกเราล้างมือก่อน 00:13:29.920 --> 00:13:32.115 ก็คือต้องมีถ้วย ถ้วยไว้ใช้ล้างมือ 00:13:32.120 --> 00:13:36.160 เราล้างมือก่อน ถ้าอยู่ในบ้านนี่ก็อาจจะต้องวิ่งไปโอ่งหลังบ้าน 00:13:36.160 --> 00:13:37.360 ละเอาข้าวใส่จาน 00:13:37.360 --> 00:13:42.700 ข้าวนี่คือสิ่งเดียวที่คุณเป็นเจ้าของในโต๊ะอาหาร 00:13:42.700 --> 00:13:44.880 นั่นคือการตักข้าวใส่จาน 00:13:44.880 --> 00:13:47.280 ยิ่งถ้าสมมุติว่าบ้านไหนมีนานะ 00:13:47.280 --> 00:13:49.920 ข้าวใหม่นี่โอ้โหมันจะเกาะกันเป็นก้อน 00:13:49.920 --> 00:13:52.980 ในแง่ของน้ำพริกปลาทู อย่างแรกเลย 00:13:52.980 --> 00:13:55.780 ก็แกะเนื้อปลาทูที่เราจะกินมาในจาน 00:13:55.780 --> 00:13:59.380 คือคนไทยเมื่อก่อนเค้าก็ไม่ค่อยถือกันเท่าไหร่หรอกนะ การใช้มือ 00:13:59.380 --> 00:14:00.760 ปัญหาคือแกะปลาทูไม่เป็น 00:14:00.760 --> 00:14:02.040 อย่าให้เกินข้อแรกนะ 00:14:02.040 --> 00:14:02.900 ให้อยู่แค่นี้นะ 00:14:02.900 --> 00:14:04.980 ข้อแรกคือตรงนี้ใช่มั้ยคะ 00:14:04.980 --> 00:14:06.840 เห็นมั้ยคะของอาป้อมไม่ได้เกิน 00:14:06.840 --> 00:14:08.460 โห ยากละ งานเข้า 00:14:08.460 --> 00:14:11.340 สวยหน่อย กรีดนิด กรีดกรายนิดๆ 00:14:12.320 --> 00:14:14.420 แล้วก็ลองคลุกไปกับข้าว 00:14:15.560 --> 00:14:18.420 มือเดียวๆ นี่ลองเอามือนี้เก็บไว้ข้างหลัง 00:14:18.420 --> 00:14:19.920 แล้วก็ใช้ปลายนิ้ว 00:14:19.920 --> 00:14:23.020 คลุกอย่างงี้ก่อน คลุกเสร็จแล้ว เราตักน้ำพริกใส่ 00:14:23.020 --> 00:14:25.100 สมมุติเราตักน้ำพริกเหยาะลงไป 00:14:25.100 --> 00:14:26.600 อ่ะ ลองตักน้ำพริก 00:14:26.600 --> 00:14:28.660 ไม่เป็นไร หนแรกเก้งก้างหน่อย 00:14:28.660 --> 00:14:30.480 เราเหมือนกับต้องจับงี้นะ 00:14:30.480 --> 00:14:34.800 ให้ใช้ห้านิ้วเนี่ย แล้วก็บีบ ให้มันค่อนข้างจับอย่างนี้ เห็นมั้ยคะ 00:14:34.800 --> 00:14:37.500 จับตรงนี้ บีบเข้าไป บีบห้านิ้วรวมเข้าไป 00:14:37.500 --> 00:14:38.480 ไม่อยู่ 00:14:38.480 --> 00:14:41.300 อยู่ กดที่จานแล้วบีบเข้าไป 00:14:41.300 --> 00:14:42.960 กดที่จานแล้วบีบเข้าไปค่ะ 00:14:42.960 --> 00:14:45.520 ปั้นหลายคำจังเว้ย เอาล่ะ พอ 00:14:45.520 --> 00:14:47.260 แล้วก็เราจับอย่างนี้ ปึ๊ด 00:14:50.000 --> 00:14:51.780 ผลักเข้าไป ใช้นิ้วโป้งผลักเข้าไป 00:14:51.780 --> 00:14:52.660 เหมือนช้อนอ่ะ 00:14:52.660 --> 00:14:54.700 เหมือนตรงนี้เป็นช้อนแล้วใช้นิ้วโป้งผลักเข้าไป 00:14:55.800 --> 00:14:58.480 เสร็จแล้ว เราก็รับประทานผักแกล้ม 00:15:01.040 --> 00:15:04.880 ในขณะเดียวกัน คนไทยเมื่อก่อนเค้าก็คงไม่กินแกงโชกขนาดนั้น 00:15:04.880 --> 00:15:06.680 ลองตักแกงเผ็ดเป็ดย่าง 00:15:06.680 --> 00:15:09.920 แล้วเดี๋ยวเราจะแกล้มด้วยไข่พะโล้ 00:15:09.960 --> 00:15:10.960 00:15:11.040 --> 00:15:13.500 อันนี้มีน้ำแกงก็ต้องกดแรงหน่อย 00:15:13.500 --> 00:15:14.740 น้ำแกง ต้องคลุกก่อน 00:15:14.740 --> 00:15:17.440 ใช่ แล้วก็บีบ ถูกต้อง บีบให้อยู่ปึ๊บ 00:15:17.900 --> 00:15:20.720 ไม่ต้องขึ้นทั้งหมดก็ได้ เอ้า แล้วดันเข้าปาก 00:15:20.720 --> 00:15:21.860 แขนกางเชียว 00:15:24.285 --> 00:15:25.980 กินให้ละเมียดนิดนึง 00:15:25.980 --> 00:15:27.860 คือแขนเนี่ยอยู่ใกล้ๆ ตัว 00:15:27.860 --> 00:15:28.740 แล้วก็ 00:15:30.040 --> 00:15:31.080 แค่นี้เอง 00:15:31.080 --> 00:15:34.220 พอรู้สึกว่า สมมุติว่า กินแกงเผ็ด 00:15:34.220 --> 00:15:36.260 พอมันเผ็ด ก็ ตักไข่ 00:15:36.920 --> 00:15:37.960 ขอบคุณค่ะ 00:15:37.960 --> 00:15:39.520 แล้วก็กินกับข้าว 00:15:39.520 --> 00:15:41.800 บางคนเนี่ย อันนี้คนที่บ้านก็เคยกินนะคะ 00:15:41.800 --> 00:15:43.400 มันไม่ต้องเปิบข้าวทุกคำ 00:15:43.400 --> 00:15:45.080 เราอาจจะต้องกินแบบนี้ 00:15:46.020 --> 00:15:47.020 00:15:47.860 --> 00:15:49.940 ก็กิน แล้วค่อยเปิบข้าวตาม 00:15:50.040 --> 00:15:51.960 นี่ แขนลงมานิดนึง 00:15:51.960 --> 00:15:54.620 กดก่อนๆ นี่หยิบเป็นข้าวเหนียวเลย 00:15:55.040 --> 00:15:58.260 แล้ววิธีการจับนี่มัน มีแตกต่างอะไรกันยังไงมั้ยคะ 00:15:58.260 --> 00:16:02.415 ก็คือเค้าบอกว่าถ้าหัดดีๆ แล้วเนี่ย ห้ามเกินข้อนิ้วบน 00:16:02.420 --> 00:16:03.580 ห้ามเลอะเกินข้อนิ้วบน 00:16:03.580 --> 00:16:06.455 เพราะฉะนั้นการหยิบก็คือการจับแบบนี้ถึงจะอยู่ 00:16:08.820 --> 00:16:11.720 เราสังเกตความเป็นผู้ดีได้จากความเละของมือนะคะ 00:16:11.720 --> 00:16:13.820 มันก็ไม่แย่เท่าไหร่ ยังไม่แย่เท่าไหร่อ่ะ 00:16:13.820 --> 00:16:16.075 แรกๆ ก็อย่าเกินข้อสองเท่านั้นเองค่ะ 00:16:16.500 --> 00:16:22.060 แล้วก็เมื่อไหร่ที่ฝืดคอ เราก็ซดน้ำซุปตาม แค่นั้นเอง 00:16:22.060 --> 00:16:23.360 นี่คือการกินแบบไทย 00:16:23.380 --> 00:16:27.160 แล้วเมื่อกี้ค่ะ อย่างที่อาป้อมบอกว่าอันนี้คืออาหารแบบชาวบ้านใช่มั้ยคะ 00:16:27.160 --> 00:16:29.920 แล้วถ้าสมมุติว่าอาหารชาววังมันจะต่างจากชาวบ้านยังไงอ่ะคะ 00:16:29.940 --> 00:16:31.400 คำว่าวังไง 00:16:31.400 --> 00:16:33.700 ก็คือคำว่าบ้าน ที่มีเจ้าอยู่ 00:16:33.700 --> 00:16:35.480 วังคือหนึ่งในราชาศัพท์ 00:16:35.480 --> 00:16:38.920 นั่นก็คือบ้านที่มีตั้งแต่ระดับหม่อมเจ้าอยู่ขึ้นไป เค้าจะเรียกว่าวัง 00:16:38.920 --> 00:16:41.280 แล้วก็ อาหารชาววัง 00:16:41.280 --> 00:16:42.800 เช่นในวังหลวงอย่างงี้ 00:16:42.800 --> 00:16:45.160 คือเจ้าจอมต่างๆ เนี่ย 00:16:45.160 --> 00:16:48.580 ท่านก็มีตำหนัก แล้วก็มีข้าทาสบริวาร 00:16:48.580 --> 00:16:51.840 ทีนี้ เวลาเหลือเยอะ แล้วกลัวลูกน้องไม่มีงานทำ 00:16:52.860 --> 00:16:53.680 นะ ทำยังไง 00:16:53.780 --> 00:16:55.380 ก็เริ่มเลย เห็นมะ 00:16:55.380 --> 00:16:57.140 อย่างเงี้ยก็ไม่เชิงชาวบ้าน 00:16:57.140 --> 00:16:58.660 อันนี้เป็นชาววัง ดู๊ 00:16:58.660 --> 00:17:01.820 แค่ใบบัวบกก็ยังจะต้องมามัดช่อสวยงาม 00:17:01.820 --> 00:17:02.780 ประมาณนี้ 00:17:02.780 --> 00:17:04.900 หรือผักอ่ะ ก็จะมาเป็นคำ 00:17:04.900 --> 00:17:06.780 ไม่ใช่ว่าต้องมานั่งกัดกรุ๊บๆๆๆ 00:17:06.780 --> 00:17:09.420 คือชาวบ้านเนี่ย บางทีเค้าจะเด็ดสดข้างบ้านมา 00:17:09.420 --> 00:17:10.860 แล้วกินไปกัดไป 00:17:10.860 --> 00:17:13.060 หรือแตงกวาเค้ากัดทั้งลูกเลย 00:17:13.060 --> 00:17:15.780 อันนั้นน่ะได้ มันเป็นความอร่อยจากความสดนะคะ 00:17:15.780 --> 00:17:18.580 แต่ว่า พอในชาววังนี่ ไม่เอาไม่งามค่ะ 00:17:18.580 --> 00:17:22.500 ไม่งาม ก็ต้องค่อยๆ อะไรที่เข้าปากได้ในคำเดียว 00:17:22.500 --> 00:17:26.580 อ๋อ เพราะว่าอย่างเมื่อกี้ ถ้าสมมุติต้องมานั่งจกๆ เองมันก็เก้งก้าง 00:17:26.860 --> 00:17:28.855 ไม่สวย ก็เลยจับมาเป็นคำๆ หมดแล้ว 00:17:28.860 --> 00:17:31.360 ใช่ เนี่ย อย่างนี้เราเข้าหนึ่งคำได้ 00:17:31.360 --> 00:17:36.740 ทีนี้อีกข้อนึงก็คือว่า ถ้าเป็นชาวบ้านรสชาติจะเผ็ดจัด เค็มจัด 00:17:36.740 --> 00:17:37.715 ทุกอย่างจะแซ่บ 00:17:37.715 --> 00:17:38.860 แต่ของชาววัง 00:17:38.860 --> 00:17:42.120 ที่คนมันตีความหมายผิดว่าอาหารชาววังหวาน 00:17:42.120 --> 00:17:43.220 ไม่ใช่ค่ะ 00:17:43.220 --> 00:17:47.140 อาหารชาววังเป็นอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล 00:17:47.140 --> 00:17:48.320 มีสัมผัสในทุกรส 00:17:48.320 --> 00:17:52.380 บางคน คุณกินชาวบ้านมา คุณก็ต้องบอกของชาววังรสอ่อน หรือจืด 00:17:52.380 --> 00:17:54.920 เลยกลายเป็นไปตีความว่าหวานอ่ะ 00:17:54.920 --> 00:17:57.280 ซึ่งอันนี้มันไม่ใช่ เพราะว่าอาหารไทย เห็นมั้ย 00:17:57.280 --> 00:17:58.380 อันนี้เปรี้ยวเค็ม 00:17:58.380 --> 00:17:59.840 อันนี้แกงเผ็ดออกเค็ม 00:17:59.840 --> 00:18:01.260 แต่อันนี้ เค็มหวาน 00:18:01.340 --> 00:18:05.040 นั่นหมายความว่าอาหารแต่ละจานเค้ามีรสชาติของเค้า 00:18:05.040 --> 00:18:06.740 ไม่งั้นเราจะจัดสำรับมาทำไมคะ 00:18:06.740 --> 00:18:09.760 ก็คือในหนึ่งสำรับ เค้าคิดและว่าอันนี้คู่กับอันนี้ 00:18:09.760 --> 00:18:10.700 ไม่ใช่สั่งมั่วซั่ว 00:18:10.700 --> 00:18:12.840 แล้วแกงจืดน่ะ มีเปรี้ยวมีหวานมั้ย 00:18:12.840 --> 00:18:17.280 มันก็มีแค่เค็มของมัน เพื่อที่จะเป็นน้ำซดให้คล่องคอ 00:18:17.280 --> 00:18:19.260 แต่ไม่จำเป็นต้องมีรสอะไรเลย 00:18:19.260 --> 00:18:21.415 เหมือนกับกึ่งๆ จะล้างปาก 00:18:21.420 --> 00:18:23.440 นี่คือชาววังกับชาวบ้านกินเหมือนกัน 00:18:23.440 --> 00:18:26.440 แล้วอันเนี้ยแกะมาให้แล้ว อันนี้คือกึ่งๆ ชาววัง 00:18:26.440 --> 00:18:30.120 เนี่ย ไม่มีก้าง คือเลาะกลางออก และเอาก้างกลางออก 00:18:30.120 --> 00:18:33.160 เอาข้างนี่ออก แล้วประกบกลับเข้าไปเป็นตัวปลาทู 00:18:33.180 --> 00:18:34.360 คือความละเอียด 00:18:34.360 --> 00:18:38.960 นั่นหมายความว่า เค้ามีเวลา ในการประณีต 00:18:38.960 --> 00:18:41.040 แต่ชาวบ้านทั่วไปทำไมเหรอคะ 00:18:41.040 --> 00:18:42.780 ชาวบ้านทั่วไปต้องทำมาหากินอ่ะ 00:18:42.780 --> 00:18:45.260 เวลาที่จะมาประณีต ไม่มีหรอก 00:18:45.260 --> 00:18:46.620 การทำงานสำคัญกว่า 00:18:46.620 --> 00:18:49.660 ดังนั้นเนี่ย ในทุกวัน ความสุขของเค้าทุกวันคือการเจอกัน 00:18:49.660 --> 00:18:51.560 แต่อาจจะไปเด็ดแตงกวามาจากต้น 00:18:51.560 --> 00:18:53.040 ไปเด็ดมะเขือมาจากต้นเลย 00:18:53.040 --> 00:18:54.480 ล้างแล้วกินสดๆ 00:18:54.480 --> 00:18:55.800 โห หวาน กรอบ อร่อย 00:18:55.800 --> 00:18:57.320 ไม่ต้องเสียเวลามาตัด 00:18:57.320 --> 00:19:00.540 เข้าใจขึ้นเยอะมากๆ เลยค่ะ เกี่ยวกับอาหารไทยทั้งหลาย 00:19:00.540 --> 00:19:03.120 วันนี้ก็ขอบคุณอาป้อมมากๆ เลยค่ะ 00:19:03.120 --> 00:19:05.380 ที่มาให้ความรู้กับพวกเราในวันนี้ 00:19:05.380 --> 00:19:07.820 แต่วิวอยากแอบบอกทุกคนอีกนิดนึงค่ะ 00:19:07.820 --> 00:19:12.880 คือวิวอ่ะ เคยมีโอกาสไปเห็นอาป้อมในอีกบทบาทนึงซึ่งไม่ใช่เชฟหรืออะไรอย่างนี้ 00:19:13.040 --> 00:19:16.620 คือวิวเคยไปงานคอนเสิร์ตในสวนค่ะ Concert in the Park 00:19:16.620 --> 00:19:18.860 แล้ววิวเห็นอาป้อมร้องเพลงด้วย 00:19:18.860 --> 00:19:21.480 ถ้าสมมุติว่าวิวอยากได้ยินอาป้อมร้องเพลงอีกรอบเนี่ย 00:19:21.480 --> 00:19:23.500 วิวจะต้องไปหาฟังที่ไหนอะไรยังไงมั้ยคะ 00:19:23.500 --> 00:19:28.180 ตอนนี้เนี่ย ที่กลับมาก็คือ กลับมาเล่นละครเพลง 00:19:28.600 --> 00:19:29.760 ละครเพลงเลยเหรอคะ 00:19:29.760 --> 00:19:32.640 ละครเพลง ซึ่ง เอาใกล้ๆ นี่เลย 00:19:32.640 --> 00:19:34.485 สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล 00:19:34.485 --> 00:19:40.420 ก็ไม่ได้มีบทมาก แต่ก็ได้เพลงที่ยากพอตัวนะคะ 00:19:40.420 --> 00:19:45.520 ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเค้าคิดว่าอาป้อมร้องอยู่เป็นประจำเหมือนแต่ก่อนรึเปล่า 00:19:45.520 --> 00:19:47.680 ก็ทรมานทรกรรมกันหน่อย 00:19:47.760 --> 00:19:50.300 แต่อาป้อมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด 00:19:50.300 --> 00:19:51.760 หกวันสิบรอบเท่านั้นนะคะ 00:19:51.760 --> 00:19:54.540 ใครอยากเห็นอาป้อมหรือเชฟป้อมร้องเพลงนะคะ 00:19:54.540 --> 00:19:56.000 ก็พลาดไม่ได้เลยจริงๆ 00:19:56.000 --> 00:19:58.740 เพราะว่าเป็นทั้งละครเพลง แล้วก็เกี่ยวกับอาหารด้วยนะคะ 00:19:58.740 --> 00:20:02.000 ดังนั้น ถ้าใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ก็ดูด้านล่างเลยค่ะ 00:20:02.000 --> 00:20:04.040 รายละเอียดอยู่ใน description box ข้างล่างแล้วนะคะ 00:20:04.040 --> 00:20:07.120 วันนี้ก็ต้องขอขอบคุณอาป้อมอีกครั้งมากๆ เลยค่ะ 00:20:07.120 --> 00:20:08.960 ที่มาให้ความรู้กับเราในวันนี้ 00:20:08.960 --> 00:20:10.200 ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ 00:20:10.200 --> 00:20:14.200 อยากให้วิวพาไปทำอะไรอีก อยากให้วิวพาไปเจอใครหรืออะไรยังไง 00:20:14.200 --> 00:20:15.300 คอมเม้นท์มาด้านล่างค่ะ 00:20:15.300 --> 00:20:19.560 แล้วก็อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังให้เรา แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ 00:20:19.560 --> 00:20:22.480 วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย 00:20:22.480 --> 00:20:23.760 สวัสดีค่า 00:20:23.760 --> 00:20:25.080 เป็นไง คิดถึงเสียงวิวกันมั้ยคะ 00:20:25.080 --> 00:20:27.860 เป็นหนึ่งคลิปที่รู้สึกว่าตัวเองแทบไม่ได้พูดไรเลยนะ 00:20:27.860 --> 00:20:29.620 เพราะว่ามัวแต่นั่งอ้าปากค้างนะคะ 00:20:29.620 --> 00:20:33.400 เป็นความรู้ที่ดีมากๆ เลย คือก็ไม่รู้จะไปหาอ่านเองจากไหนอะไรยังไงนะคะ 00:20:33.400 --> 00:20:34.460 เอาเป็นว่าอย่างแรกนะคะ 00:20:34.460 --> 00:20:37.600 ก็ขอขอบคุณร้านอาหารอรรถรส ซอยสุขุมวิท 39 นะคะ 00:20:37.600 --> 00:20:39.680 ที่ให้เรามาชิมอาหารไทยดีๆ ในวันนี้ 00:20:39.680 --> 00:20:41.320 แล้วก็ให้ใช้สถานที่ด้วยค่ะ 00:20:41.320 --> 00:20:45.620 นอกจากนี้ถ้าใครอยากติดตามผลงานของอาป้อมหรือว่าเชฟป้อมนะคะ 00:20:45.620 --> 00:20:46.960 สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัลนะคะ 00:20:46.960 --> 00:20:50.700 เล่นวันที่ 27 กันยายน ถึง 6 ตุลาคม 2562 นะคะ 00:20:50.860 --> 00:20:56.080 มีรอบสุดสัปดาห์นะคะ วันศุกร์เย็น วันเสาร์บ่าย เสาร์เย็น อาทิตย์บ่าย อาทิตย์เย็น 00:20:56.080 --> 00:20:58.300 ทั้งหมดแค่ 10 รอบด้วยกันนะคะ 00:20:58.300 --> 00:20:59.300 พลาดแล้วพลาดเลย 00:20:59.300 --> 00:21:02.620 ดังนั้นถ้าใครสนใจนะคะ รายละเอียดอยู่ด้านล่างเลย ใน description box นะคะ 00:21:02.620 --> 00:21:03.740 รีบจองบัตรค่ะทุกคน 00:21:03.740 --> 00:21:05.120 สำหรับวันนี้วิวลาไปก่อนนะคะ 00:21:05.120 --> 00:21:06.360 บ๊ายบาย 00:21:06.360 --> 00:21:07.680 สวัสดีค่ะ