-
ทำไมคนเราต้องมีผมหงอกด้วย
-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
บอกก่อนนะคะ ก่อนที่หลาย ๆ คนจะเข้าใจว่า
-
วิวได้รับ inspiration ชื่อคลิปนี้มาจากหัวตัวเอง
-
ต้องบอกว่าไม่ใช่นะคะ วิวไม่ได้มีผมหงอกแต่อย่างใดค่ะ
-
แต่ว่าวิวเนี่ยนะคะ เห็นหลาย ๆ คนชอบบ่นกันว่า
-
โอ๊ย ตายแล้ว ช่วงนี้เครียดจังเลย ผมหงอกแล้ว
-
หรือว่ารู้สึกว่ากลัวตัวเอง
-
อุ๊ยตายแล้ว ฉันเริ่มผมหงอกแล้ว
-
ฉันแก่รึยัง อะไรยังไงนะคะ
-
ดังนั้นวันนี้ค่ะ วิวก็เลยไปหาข้อมูล
-
เกี่ยวข้องกับเรื่องผมหงอกเนี่ย
-
มาเพื่อจะมาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ
-
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ
-
สำหรับหลายคนที่ติดตามช่องเรามาเนิ่นนานเนี่ย
-
เปิดคลิปแบบนี้ อู้หู มันจะต้องขายแชมพู
-
ขายยาโกรกผม ขายอะไรแน่ ๆ
-
ไม่ใช่ค่ะ วันนี้วิวแค่ไปหาข้อมูล
-
แล้วก็จะเอามาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ
-
ดังนั้นเราไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรดีกว่าค่ะ
-
เพราะว่าคลิปวันนี้เนื้อหาจะค่อนข้างเข้มข้นนะคะ
-
ดังนั้นพร้อมที่จะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
-
สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
เมื่อพูดถึงเรื่องผมหงอกเนี่ย
-
แน่นอนอย่างที่วิวพูดไปตอนต้นเลยนะคะ
-
หลายคนคิดว่าการผมหงอกเนี่ย
-
เป็นสัญลักษณ์ของความแก่เฒ่าใช่ไหมคะ
-
ประมาณว่า อุ๊ยตายแล้ว
-
การที่เราผมเริ่มหงอกแล้วเนี่ย
-
แปลว่าเราแก่ อะไรต่าง ๆ นะคะ
-
แต่จริง ๆ วิวขอบอกเลยค่ะว่าไม่ใช่นะคะ
-
ที่จริงแล้วสาเหตุที่ทำให้คนเรามีผมหงอก
-
มีมากกว่า 1 สาเหตุค่ะ
-
มีสาเหตุอะไรต่าง ๆ มากกว่าความแก่เยอะเลยนะคะ
-
ดังนั้นเราไปฟังเหตุผลกันดีกว่า
-
บอกเลยว่าวันนี้ไม่ได้มาเล่าเป็นนิทานอะไรนะคะ
-
อันนี้มาเป็นวิทยาศาสตร์แบบจริง ๆ เลยนะ
-
ก่อนที่เราจะไปฟังกันนะคะว่าผมหงอกเกิดขึ้นจากอะไรเนี่ย
-
เราต้องมาฟังกันก่อนค่ะว่า
-
ผมของคนเราเนี่ยนะ เกิดจากอะไร
-
ต้องบอกว่าอันนี้ทุกคนน่าจะเข้าใจตรงกันนะคะว่า
-
ผมกับขนเนี่ยคือสิ่งเดียวกันแต่ว่า
-
ผมเนี่ยอาจจะเป็นขนที่อยู่ในบริเวณที่มันงอกเร็วกว่า
-
งอกยาวกว่าอะไรต่าง ๆ นะ
-
ดังนั้นถ้าคลิปนี้วิวพูดคำว่าผมกับขนสลับกันไปสลับกันมา
-
ขอให้เข้าใจว่ามันถือว่าเป็นสิ่งเดียวกันนะคะ
-
เอาละ เรามาดูที่วัฏจักรการเกิดผมของคนเราก่อนดีกว่า
-
ก็วัฏจักรเดียวกับวัฏจักรการเกิดขนนั่นแหละ
-
ถามว่าวัฏจักรการเกิดผมของคนเราเนี่ยนะคะ
-
แบ่งเป็นกี่ขั้นตอน
-
มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
-
กว่าผมของเราจะงอกขึ้นมายาวขนาดนี้นะคะ
-
ต้องบอกว่ามันแบ่งเป็นทั้งหมด 3 ระยะด้วยกันค่ะ
-
เอาชื่อแบบฟังยาก ๆ ก่อนนะ มันแบ่งเป็น 3 ระยะก็คือ
-
Anagen, Catagen แล้วก็ Telogen ค่ะ
-
เอาเป็นว่าเราช่างชื่อมันไปแล้วกันนะคะ
-
หลายคนฟังชื่อแล้วอาจจะงง
-
เรามาฟังเป็นระยะที่ 1 ระยะที่ 2 แล้วก็ระยะที่ 3 กันดีกว่าค่ะ
-
ระยะที่ 1 นะคะคือระยะที่ผมของคนเราเนี่ยยังงอกอยู่นะคะ
-
ก็ยังเป็นช่วงที่ผมเนี่ยงอก ๆ ๆ ๆ ออกมา
-
ส่วนระยะที่ 2 นะคะจะเป็นช่วงเวลาที่
-
ผมของคนเราเนี่ยงอกจนสุดละ
-
ไม่งอกเพิ่มอะไรอีกแล้วนะคะ
-
ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ผมสิ้นสุดการเจริญเติบโตละ
-
รอเวลาที่เส้นผมเนี่ยนะคะจะค่อย ๆ หลุดร่วงลงจากหัวค่ะ
-
และระยะที่ 3 นะคะก็คือระยะที่ไม่มีผมนะคะ
-
เป็นระยะที่ผิวหนังของคนเราเนี่ย
-
รอเวลาที่จะดันผมเส้นใหม่ออกมา
-
ซึ่งเมื่อดันผมเส้นใหม่ออกมาก็จะกลับไปสู่
-
ระยะที่ 1 อีกรอบค่ะ
-
อะ อันนี้คือ concept แบบง่าย ๆ ก่อนนะ
-
ทีนี้เรามาเจาะลึกทีละระยะกันนะคะ
-
ระยะที่ 1 เนี่ยนะคะ ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
-
กว่าที่เส้นผมของคนเราเนี่ยจะงอกแทงทะลุผิวหนังขึ้นมานะคะ
-
ก็ต้องบอกว่าผิวหนังของคนเราเนี่ยมันมีหลายชั้นใช่ไหม
-
เหมือนที่วิวเคยอธิบายไปในคลิปว่าทำไมคนเราถึงผิวดำเนอะ
-
ซึ่งในชั้นนึงของผิวหนังของเราเนี่ยนะคะ ที่ชื่อว่า demis
-
มันจะมีต่อมที่เรียกว่าต่อมขนอยู่ค่ะ
-
ต่อมขนเนี่ยคือต่อมที่เป็นตัวผลิตเส้นขนต่าง ๆ นะคะ
-
แล้วก็ดันให้เส้นผมหรือว่าเส้นขนเนี่ย
-
งอกออกมาจากต่อม ๆ นี้ค่ะ
-
ถามว่าต่อมนี้มันมีลักษณะเป็นยังไง
-
มันมีลักษณะเป็นกระเปาะนะคะ
-
เราน่าจะคุ้นเคยกับภาพนี้กันดีเวลาที่เราดูพวก
-
โฆษณาการกำจัดผม กำจัดขนอะไรต่าง ๆ นะ
-
ซึ่งในกระเปาะนี้มันก็จะเป็นกระเปาะที่
-
เชื่อมต่อกับเส้นเลือดอะไรต่าง ๆ นะคะ
-
ก็จะมีเส้นเลือดไปเลี้ยง มีอะไรไปเลี้ยง
-
ทีนี้มาพอมันเลี้ยงออกมา ต่อมนี้ก็จะผลิตขน ผลิตผมนะคะ
-
แล้วก็ค่อย ๆ ดันตัวออกมาเนี่ย
-
ตัวที่ผลิตใหม่ก็จะดันตัวเก่าเนี่ย
-
ให้ทะลุออกมาจากผิวหนังใช่ไหม
-
ส่วนพวกที่ผลิตใหม่มาต่อก็ดัน ๆ กันออกมา
-
ก็เลยกลายเป็นเส้นผมหรือเส้นขนที่ยาวขึ้น
-
ยาวขึ้น ยาวขึ้นเรื่อย ๆ นี่ล่ะค่ะ
-
ส่วนระยะที่ 2 เนี่ยนะคะก็คือระยะที่ต่อมขนเนี่ย
-
มันจะดันตัวเองให้สูงขึ้นค่ะ
-
ก็คือขึ้นมาใกล้ ๆ บริเวณผิวหนังด้านนอกมากขึ้นใช่ไหม
-
ผลจากสิ่งนี้ทำให้เกิดอะไรขึ้น รู้ไหมคะ
-
ผลจากสิ่งนี้จะทำให้ต่อมขนของคนเราเนี่ยนะ
-
แตะกับเส้นเลือดน้อยลงค่ะ
-
พอมันไม่มีเลือดไปเลี้ยงอะไรต่าง ๆ
-
เส้นผมก็เลยหยุดผลิตนะคะ
-
การเจริญงอกงาม เจริญเติบโตของเส้นผมหรือเส้นขนเนี่ย
-
มันก็จะหยุดค่ะ แล้วก็รอเวลาที่
-
มันจะสิ้นสุดอายุขัยแล้วก็ร่วงหล่นออกไปนะคะ
-
ส่วนระยะที่ 3 ก็คือระยะที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะนะ
-
ก็คือเส้นผมหลุดไปแล้วจ้า
-
รอเวลาที่มันจะกลับไปที่ระยะที่ 1 อีกนะคะ
-
ทีนี้ถามว่าเรื่องราวของสีผมที่เราจะพูดถึงเนี่ย
-
มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน
-
แน่นอนว่าตอนที่เส้นผมมันงอกออกมาแล้ว
-
แล้วมันสิ้นสุดการเติบโตแล้วเนี่ย
-
มันก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาพูดถึงเรื่องสีผมกันใช่ไหมคะ
-
เช่นเดียวกับระยะเวลาที่เราไม่มีผมนะคะ
-
เราก็คงไม่พูดถึงสีผมกัน
-
ดังนั้นเวลาที่เราจะพูดถึงสีผมกันเนี่ย
-
มันจะอยู่ในระยะที่ 1
-
หรือว่าระยะ anagen นั่นเองนะคะ
-
ในระยะนี้จะเป็นระยะที่มีการผลิตสีผมอะไรต่าง ๆ ขึ้นมาค่ะ
-
แล้วถามว่าสีผมของคนเราเนี่ย
-
สีดำ สีน้ำตาล สีทองเนี่ย
-
มันเกิดขึ้นจากอะไรรู้ไหมคะ
-
มันเกิดขึ้นจากเซลล์ชนิดนึงค่ะ
-
ที่เราคุ้นเคยชื่อกันดีแน่นอน
-
แต่ว่าหลาย ๆ คนไม่เคยได้ยินมันในเรื่องราวของสีผมค่ะ
-
เราจะไปได้ยินในเรื่องราวของสีผิวมากกว่านะคะ
-
เพราะว่ามันคือสิ่งเดียวกันเลยนะคะ นั่นก็คือ
-
melanin นั่นเองค่ะ
-
อ้าว ชื่อนี้กลับมาอีกแล้วนะคะ
-
melanin ที่ทำให้คนเรามีสีผิวแตกต่างกันไปต่าง ๆ น่ะนะ
-
มันก็อยู่ในเส้นผมเช่นเดียวกันค่ะ
-
คือต้องบอกก่อนนะคะว่าดูภาพนี้ก่อน
-
เส้นผมของคนเราเนี่ยมันไม่ใช่แค่เป็นเส้น ๆ อย่างนี้นะ
-
ถ้าสมมติว่าเราซูมมันเข้าไปนะคะ เอากล้องส่องอะไรต่าง ๆ
-
เราจะเห็นเส้นผมของคนเราเนี่ยเป็นภาพแบบนี้นะคะ
-
คือเป็นเหมือนท่อขึ้นมาท่อนึงค่ะ
-
ส่วนตรงกลางเนี่ยเราจะเรียกว่า medulla นะคะ
-
แล้วก็ส่วนนอกสุดเนี่ยเราจะเรียกว่า cuticle นะคะ
-
แต่ว่าส่วนที่เรากำลังจะพูดถึงเนี่ย
-
ก็คือส่วนที่อยู่ระหว่างในสุดกับนอกสุดนะ
-
ที่เราจะเรียกว่าส่วน cortex ค่ะ
-
ซึ่งสีผมเนี่ยมันจะไปอยู่ในส่วน cortex นี่แหละ
-
คือเวลาที่เส้นผมของคนเราเนี่ยงอกขึ้นมานะคะ
-
บริเวณรากผมเนี่ย
-
มันจะมีเซลล์ชนิดนึงค่ะ ชื่อว่า melanocyte
-
ทำหน้าที่ผลิต melanin นั่นเองใช่ไหมคะ ก็คือสีผม
-
เอาเป็นว่าถ้าฟังแล้วงงนะ
-
เข้าใจง่าย ๆ เลยคือเส้นผมของคนเรามี 3 ชั้น
-
ชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก
-
ตรงบริเวณรากผม
-
มีเซลล์ชนิดนึงผลิตเม็ดสี melanin ขึ้นมา
-
และเม็ดสี melanin นี้นะคะ
-
มันจะไปอยู่ในชั้น cortex หรือว่าชั้นกลางของผมนั่นเองนะ
-
ซึ่งทำให้เส้นผมของคนเราเนี่ยมีสีที่แตกต่างกันไปค่ะ
-
คำว่าสีที่แตกต่างไม่ใช่ว่า
-
อุ๊ย ฉันจะผลิตเซลล์ melanin สีน้ำตาล
-
ฉันผลิตสีทอง ฉันผลิตสีแดง ฉันผลิตสีดำ
-
แล้วเส้นผมมันจะแตกต่างกันนะคะ
-
ต้องบอกว่าคนเราเวลาที่จะเห็นสีออกมาแบบนี้
-
มันเกิดจากการที่ผลิตเม็ดสี melanin หลาย ๆ สีขึ้นมาค่ะ
-
แล้วก็มีการผสมปนเปอะไรกันต่าง ๆ
-
ผมสีเข้มเนี่ยมันอาจจะเม็ดสีอยู่ใกล้กันนิดนึง
-
ผมสีอ่อนอาจจะเม็ดสีอยู่ห่างกันนิดนึง
-
ซึ่งเม็ดสี melanin เนี่ยนะคะมันก็มีทั้งหมด 2 ชนิดด้วยกันอีก
-
อันนี้ศัพท์เริ่มเยอะแล้วนะ
-
มันคือเรียกว่า eumelanin กับ pheomelanin นะคะ
-
ก็คือเม็ดสีสีเช้มกับเม็ดสีสีอ่อนนั่นแหละ
-
แต่เอาเป็นว่าช่างมันไม่ต้องสนใจศัพท์นะ
-
เข้าใจง่าย ๆ ก็คือมันมีเม็ดสีสีเข้มกับเม็ดสีสีอ่อน
-
แล้วมันก็จะเป็นการแบบว่าผสมปนเปอะไรกันต่าง ๆ
-
ตามพันธุกรรมนะคะ
-
เพื่อที่จะกำหนดออกมาว่า
-
โอ๊ะ สีผมคนนี้ เราใส่สีเข้มเยอะหน่อย
-
เราใส่สีอ่อนน้อยหน่อย ผมก็จะออกมาเข้ม
-
อะ เราใส่สีเข้มน้อยหน่อย ใส่สีอ่อนเยอะหน่อย
-
ผมก็จะออกมาเป็นสีอ่อนนะคะ
-
ดังนั้น combination ทั้งหมดนี้นี่แหละค่ะที่ทำให้
-
เกิดสีผมของคนเราที่แตกต่างกันออกไปอะนะ
-
แล้วถามว่าเฉดสีผมสีไหนที่เราเจอมากที่สุดในโลก รู้ไหมคะ
-
สีนั้นก็คือ สีดำนั่นเองค่ะ ที่พบในคนเอเชียเนอะ
-
ส่วนรองลงมาก็จะเป็นสีน้ำตาลนะคะ ที่พบในคนยุโรปค่ะ
-
แล้วถามว่าทำไมวิวถึงใช้คำว่าเฉดสีดำ ไม่ใช้คำว่าสีดำ
-
เพราะว่าแต่ละคนมันก็จะมี melanin อะไรไปผสมของมันเอง
-
ดังนั้นแม้ว่าจะบอกว่าผมดำเหมือนกัน
-
แต่ดำแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วยนะคะ
-
บางคนก็ดำออกดำน้ำตาล
-
บางคนมีดำน้ำเงิน ก็มีเหมือนกันนะคะ
-
ดังนั้นนี่คือเฉดสีผมที่แตกต่างกันไปที่เกิดจาก
-
เม็ดสี melanin ที่มันผสมปนเปอะไรกันต่าง ๆ
-
ทีนี้เรารู้แล้วว่าสีผมปกติเกิดจากอะไร
-
เราก็น่าจะพอเดากันได้ใช่ไหมคะว่า
-
อ๊ะ ผมขาวเกิดจากอะไร
-
หลายคนนี่ก็เดาว่า อ๋อ ผมขาวเนี่ยแปลว่า
-
เซลล์ melanocyte ที่อยู่ที่รากผมผลิตเม็ดสีสีขาวออกมาใช่ไหม
-
ผมก็เลยกลายเป็นสีขาว
-
ต้องบอกว่าความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ
-
เพราะว่าการที่ผมหงอกหรือผมขาวเนี่ยนะคะ
-
มันไม่ได้เกิดจากการผลิตเม็ดสีสีขาวค่ะ
-
แต่มันเกิดจากการที่เซลล์ melanocyte
-
บริเวณที่รากผมเนี่ยนะคะ
-
ไม่ผลิตเม็ดสีค่ะ
-
พอไม่ผลิตเม็ดสีเนี่ย ผมมันก็เลยเป็นแบบใส ๆ ค่ะ
-
ไม่มีสีอยู่ตรงกลาง
-
พอมันมาอยู่ท่ามกลางสีดำ ท่ามกลางสีน้ำตาลอะไรต่าง ๆ
-
มันก็เลยดูไปแล้ว อ๊ะ โดนแสงต่าง ๆ
-
เอ๊ะ อาจจะเป็นสีขาว หรือเป็นสีเงินรึเปล่านะ
-
เหลือบสะท้อนแสงอะไรไปต่าง ๆ ค่ะ
-
ก็เลยทำให้เกิดการผมหงอกขึ้นนั่นเองนะคะ
-
ดังนั้นนะคะ การที่เซลล์ melanocyte
-
บริเวณรากผมเนี่ย ไม่ผลิตเม็ดสี
-
ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเราเนี่ยผมหงอกค่ะ
-
ทีนี้แน่นอนว่าทุกคนรู้นะคะว่าการผมหงอกเนี่ย
-
มันมักจะเกิดขึ้นกับคนที่สูงอายุใช่ไหมคะ
-
เพราะว่าอะไร เพราะว่าเขาสูงอายุแล้วไง
-
ดังนั้นเซลล์รากผมของเขาอะไรต่าง ๆ
-
มันก็ไม่ function เท่าสมัยที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ
-
ดังนั้นพอมันไม่สามารถผลิตเม็ดสีได้หรืออะไรต่าง ๆ
-
มันก็เลยทำให้เกิดผมหงอกขึ้นได้ง่ายนั่นเองค่ะ
-
เรียกได้ว่าร่างกายร่วงโรยว่าอย่างนั้นเถอะ
-
ไม่ใช่แค่กับคนสูงอายุนะคะ
-
แต่กับเด็กแรกเกิดเนี่ย
-
เด็กแรกเกิดบางคน ผมก็จะสีอ่อนกว่าตอนที่โตขึ้นมาเหมือนกัน
-
เราจะเห็นเด็กบางคนที่แบบ อุ๊ย ตอนเด็ก ๆ ผมสีอ่อนมากเลย
-
โตขึ้นมา อ้าว ผมเข้มขึ้นซะอย่างนั้น
-
เพราะว่าในตอนเด็ก ๆ เนี่ยบางที
-
กระบวนการผลิต melanin อะไรของเขา
-
ก็อาจจะยังไม่สมบูรณ์ขนาดนั้นเหมือนกันนะคะ
-
ดังนั้นสีผมเขาก็เลยอาจจะอ่อนกว่า
-
ตอนที่โตแล้ว ว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ
-
แต่ต้องบอกว่าถึงเราจะบอกว่า
-
ความแก่เป็นสาเหตุหลักสาเหตุนึงเลยนะที่ทำให้คนผมหงอก
-
แต่จริง ๆ แล้วการที่คนเราผมหงอกเนี่ยนะคะ
-
ไม่ได้เกิดขึ้นจากความสูงวัยอย่างเดียวนะคะ
-
มันยังมีปัจจัยต่าง ๆ อีกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเลย
-
ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในหรือปัจจัยภายนอกนะคะ
-
ยกตัวอย่างปัจจัยภายในนะคะก็มีตั้งแต่
-
เป็นความผิดปกติตามพันธุกรรม
-
ฮอร์โมน อายุ
-
การกระจายตัวของสารต่าง ๆ ในร่างกาย อะไรอย่างนี้
-
หรือว่าปัจจัยภายนอกนะคะก็มีตั้งแต่
-
เจอมลพิษเยอะรึเปล่า สภาพภูมิอากาศเป็นยังไง
-
สารพิษเกิดอะไรขึ้น สัมผัสสารเคมีรึเปล่า
-
ซึ่งสุดท้ายทั้งหมดนี้มันก็จะไปส่งผลกระทบต่อ
-
melanin ในผมของเราเนี่ยนะคะ
-
ทำให้การผลิต melanin เนี่ยมันน้อยลง
-
ก็อาจจะทำให้คนเราผมสีอ่อนลงหรือว่า
-
ผมหงอกได้เช่นเดียวกันค่ะ
-
อย่างเคสวิวที่เคยเห็นมา ก็มีเพื่อนคนนึงเนี่ย
-
ถ้าจำไม่ผิดนะ สมัยเด็ก ๆ เนี่ย
-
เขาก็โดนต่อต่อยนะคะ
-
ต่อยที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือ
-
มันไปโดนกระบวนการผลิต melanin ของเขาเนี่ย
-
ทำให้ผมของเขาเนี่ยมีบางส่วนที่หงอกไปซะอย่างนั้นเลย
-
ก็เกิดขึ้นได้เหมือนกันทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สูงอายุหรืออะไรนะคะ
-
และแน่นอนนะคะ
-
อีกความเชื่อนึงที่เมื่อกี้วิวก็พูดไปแล้วตอนต้นนู่นเลยนะคะ
-
ก็คือเรื่องของความเครียดนั่นเอง
-
ทีนี้นี่คือสาเหตุที่วิวมาทำคลิปวิดีโอทั้งหมดเลยค่ะ
-
คือวิวเนี่ยเพิ่งไปเจอข้อมูลชุดนึงมาค่ะว่า
-
เออ สรุปแล้วความเครียดมันทำให้หัวหงอกจริงรึเปล่า
-
อยากรู้กันไหมว่าสรุปแล้วเวลาเราเครียด
-
เราบอก โอ๊ย เครียดหัวหงอกจังเลยเนี่ย
-
มันเป็นแค่ความเชื่อหรือว่า
-
มันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า
-
เออ มันเกิดขึ้นจริงนะทุกคน
-
เพราะว่าเวลาที่เราได้ยินว่า โอ๊ะ เครียดจนหัวหงอกเนี่ย
-
หลายครั้งมันเป็นคำบ่น
-
แล้วก็หลายครั้งเนี่ยมันเป็น
-
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในตำนานหรือว่านิทาน
-
หรือว่าเป็นแบบเรื่องเล่าปากต่อปากนะคะ
-
เอาที่แบบว่าเด่น ๆ ที่เราคุ้นกันดีที่สุดเลย
-
ถ้าเป็นฝั่งเอเชียก็
-
คนที่แบบเครียดชั่วข้ามคืนอะ นึกออกป้ะ
-
แบบตื่นมาแล้วทุกอย่าง ชีวิตฉันพังหมดเลย
-
เครียด ๆ ๆ ๆ แค้น ๆ ๆ ๆ
-
สุดท้ายหัวหงอกทั้งหัว
-
ที่เราคุ้นกันดีที่สุดของฝั่งเอเชียก็คือ
-
นางพญาผมขาวนะคะ
-
อันนี้น่าจะได้ยินชื่อกันมาค่อนข้างคุ้นเคยเนอะ
-
ส่วนอีกคนนึงนะคะ ฝั่งตะวันตก ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ เลยว่า
-
เครียดจนผมขาวหงอกในคืนเดียวนะคะ ก็คือ
-
พระนาง Marie Antoinette นั่นเอง
-
พระราชินีของฝรั่งเศสน่ะนะ
-
ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส
-
เขาก็เชื่อกันว่าในคืนที่มีการปฏิวัติอะไรต่าง ๆ เนี่ย
-
พระนางเครียดมากนะคะแล้วก็
-
ตื่นเช้ามาก็คือผมขาว ผมหงอกทั้งหัวเลยนะคะ
-
ซึ่งเดี๋ยวถ้ามีโอกาสวันหลัง
-
เดี๋ยวเรามาคุยกันเรื่องปฏิวัติฝรั่งเศสอีกทีนะคะ
-
แต่อันนี้แค่อยากยกตัวอย่างเคสให้เห็นว่า
-
เออ พระนาง Marie Antoinette นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคนนะที่
-
เราเชื่อกันว่าตื่นเช้ามาแล้วแบบเครียด หัวขาวทั้งหัวเลยจ้า
-
ที่สำคัญนะคะ
-
พระนางเนี่ยโด่งดังในเรื่องนี้ถึงขนาดที่ว่า
-
มันมีการตั้งชื่อโรคเลยนะว่าใครที่ตื่นมาแล้วหัวขาวทั้งหัวเนี่ย
-
เราจะเรียกโรคนี้นะคะว่า Marie Antoinette Syndrome ค่ะ
-
ก็เป็นที่มาของชื่อโรคไปเลยซะอย่างนั้นนะคะ
-
ทีนี้ฟังไปขนาดนี้แล้วอยากรู้กันไหมคะว่า
-
เรื่องที่แบบว่าเอ๊ย เราเครียดแล้วผมหงอกเนี่ย
-
เราเครียดจนผมหงอกมันเป็นเรื่องราวที่แค่เป็นความเชื่อ
-
หรือว่ามันมีข้อพิสูจน์อะไรทางวิทยาศาสตร์จริง ๆ นะคะ
-
ก็ต้องบอกว่าสารภาพเลย วิวเพิ่งจะไปเจอข้อมูลนี้ค่ะ
-
มาจากเพจ Facebook เพจนึงนะ ชื่อว่า
-
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นะคะ
-
เพจนี้เขาเป็นเพจที่เผยแพร่ความรู้นะ
-
เกี่ยวกับด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม
-
การแพทย์ สาธารณสุข อะไรต่าง ๆ
-
แล้วเขาก็มีการให้บริการการแพทย์ด้วยนะ
-
ซึ่งเขาก็พยายามเอาข้อมูลเหล่านี้
-
มาทำให้อ่านง่ายแล้วก็เข้าใจง่าย
-
เข้าได้ถึงทุกเพศทุกวัยนะคะ
-
วิวก็ไปอ่านโพสนึงมาจากเพจนี้แหละ
-
แล้วก็รู้สึกว่าเออ น่าสนใจ
-
ก็เลยไปค้นต่อแล้วก็สรุปรวบยอดทุกสิ่งอย่างนะคะ
-
มาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้นี่แหละว่าจริง ๆ แล้วอะ
-
ที่เราเข้าใจว่าเครียดแล้วผมหงอก เครียดแล้วผมหงอกเนี่ย
-
มันเป็นความเชื่อมาตลอดเลยทุกคน
-
คือมันแบบว่ายังไม่ได้รับ
-
การพิสูจน์อะไรขนาดนั้นทางวิทยาศาสตร์นะคะ
-
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
-
นักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะทำการทดลองแล้วเริ่มพิสูจน์ได้ว่า
-
เฮ้ย มันจริง
-
มันจริงนะทุกคนที่แบบว่าเราเครียดแล้วเราผมหงอกอะ
-
ถามว่าเขาเพิ่งค้นพบเมื่อไหร่ รู้ไหมคะ
-
เขาเพิ่งค้นพบเมื่อเดือนมกราคม ปีนี้นี่แหละ
-
ปีค.ศ. 2020 นี้นะคะ ก็ไม่นานเลยนะทุกคน
-
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพิจารณาว่า
-
ปีนี้ทั้งปีเราหายไปกับ COVID-19 กันนะคะ
-
แล้วถามว่าใครเป็นคนทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นะคะ
-
ก็มี 2 กลุ่มด้วยกันค่ะ เป็นกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาตินะ
-
เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 มหาวิทยาลัยด้วยกันค่ะ
-
มหาวิทยาลัยแรกก็คือ
-
มหาวิทยาลัยเซาเปาโลของบราซิลนะคะ
-
ส่วนมหาวิทยาลัยที่สองนี่ก็คือ
-
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐอเมริกาค่ะ
-
พอเขาทำงานวิจัยอะไรอย่างนี้เสร็จเรียบร้อยนะคะ
-
เขาก็เพิ่งจะตีพิมพ์ออกมาเมื่อเดือนมกราคมนี่แหละ
-
ตีพิมพ์ผลงานวิจัยออกมานะว่า
-
เฮ้ย คอนเฟิร์ม ความเครียดเนี่ยทำให้ผมหงอกจริง ๆ
-
แล้วถามว่าอยากรู้ไหมคะว่า
-
ทำไมเวลาที่เราเครียดแล้วเนี่ย ผมมันถึงหงอก
-
เวลาเครียดเนี่ยเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรานะคะ
-
ต้องบอกว่ามันเกิดขึ้นหลายอย่างเลย
-
แล้วก็อาจจะมีอะไรบางอย่างไปส่งผลกระทบต่อผมนะคะ
-
ทำให้มันหงอกได้ค่ะ
-
ซึ่งหลังจากที่นักวิทยาศาสตร์เขามีการทดลองเนี่ยนะคะ
-
เขาก็ตีพิมพ์ผลงานออกมาได้เป็น 2 แบบด้วยกันค่ะ
-
โดยการที่เขาเอาหนูเนี่ยนะคะมาเป็นหนูทดลอง
-
ที่มีสีขนสีดำอะนะ
-
แล้วก็จัดการเอาไฟฟ้าเนี่ยนะคะ ชอต ๆ ๆ ๆ ชอตหนูค่ะ
-
ทำให้มันเครียดนะคะ
-
พอมันเครียดเนี่ย มันก็จะมีปฏิกิริยาร่างกายออกมา
-
แล้วเขาก็พบว่า
-
หลังจากที่มันเครียดอยู่ระยะเวลานึงเนี่ย
-
ขนของมันเนี่ยนะคะก็หงอกจริง ๆ ค่ะ
-
คือมันไม่กลับมาขนดำอีกเลยนะ
-
ดังนั้นเขาก็เลยตีความว่า
-
โอเค เอาแล้วละ
-
ความเครียดเนี่ยมันทำให้ขนหงอกจริง ๆ ด้วย
-
หรือว่าผมหงอกจริง ๆ ด้วย
-
แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนูนะคะ
-
เขาก็ตีความกันออกมาได้เป็น 2 ทางด้วยกันค่ะ
-
คือทางแรกเนี่ยนะคะ เขาบอกว่า
-
เวลาที่หนูมันเครียดเนี่ยนะคะ
-
มันจะมีการผลิตโปรตีนออกมาตัวนึงค่ะ ชื่อว่า CDK นะคะ
-
ซึ่งโปรตีนตัวนี้มันไปทำลายสเตมเซลล์ค่ะ
-
ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่ผลิตเม็ดสี melanin นะคะ
-
คือเหมือนกับว่าไปทำให้สเตมเซลล์ตัวนี้
-
ที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีเนี่ย มันตายบึ้มไปเลย
-
พอเซลล์ที่ผลิตเม็ดสีมันตาย
-
เม็ดสีก็ไม่เกิดขึ้น
-
ก็เลยทำให้ผมของเราเนี่ยไม่มีสี หรือว่า
-
เกิดการผมหงอกขึ้นนั่นเองนะคะ
-
ส่วนอีกทฤษฎีนึงเนี่ยเขาบอกว่า
-
ในร่างกายของคนเราหรือว่าในร่างกายของหนูเนี่ยนะคะ
-
มันมีระบบประสาทอยู่ระบบนึงค่ะ
-
ซึ่งระบบประสาทนี้เมื่อเกิดการเครียดขึ้นมานะคะ
-
มันจะตอบสนองเหมือนกับการเอาชีวิตรอด
-
คือไม่ว่าเราจะกลัว จะเครียด จะโดนโจมตีอะไรต่าง ๆ นะ
-
จะเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า สู้หรือว่าหนี
-
คือสมองเราจะประมวลละ
-
เฮ้ย เราจะสู้หรือเราจะหนีดี
-
ซึ่งระหว่างที่แบบจะสู้จะหนี จะสู้จะหนีเนี่ย
-
มันก็จะมีการหลั่งฮอร์โมนออกมาอยู่ตัวนึงค่ะ
-
ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้
-
มันจะไปทำปฏิกิริยาโดยตรงนะคะ
-
กับเซลล์ที่มีหน้าที่ผลิตเม็ดสีค่ะ
-
แต่มันไม่เหมือนอันแรก
-
อันแรกนี่คือไปยับยั้งไม่ให้ผลิตเม็ดสีใช่ไหม
-
อันนี้ ฮอร์โมนตัวนี้เนี่ยนะคะ
-
มันจะมีหน้าที่เข้าไปกระตุ้นเซลล์ผลิตเม็ดสีค่ะ
-
แล้วมันทำให้เกิดการผลิตเม็ดสีออกมาเยอะมาก
-
ออกมาเยอะเกินเหตุนะคะ
-
จนในที่สุดเหมือนมันผลิตจนมันหมดแมกซ์อะ
-
แล้วมันก็สูญเสียการผลิตเม็ดสี
-
แบบผลิตไม่ได้อีกต่อไปเลยนะคะ
-
ก็เลยทำให้หนูที่โดนกระตุ้นเนี่ย
-
ขนหงอกซะอย่างนั้นเลย
-
แล้วก็ไม่สามารถกลับมาขนดำได้เหมือนเดิมอีกต่อไปนะคะ
-
อย่างไรก็ตามนะคะ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ค่ะ
-
ว่าสรุปแล้วโปรตีนตัวแรกหรือสารตัวที่สองเนี่ย
-
คือตัวที่ทำให้เราผมหงอกเวลาที่เครียดนะคะ
-
แต่เขาก็มีความพยายามที่จะทดลองต่อนะ เช่น
-
เอ๊ะ โปรตีนตัว CDK เนี่ยมันเป็นโปรตีนที่ทำให้หนูขนหงอก
-
ดังนั้นลองให้ยาที่ยับยั้งโปรตีนตัวนี้ไหม
-
อะ พอให้ไป อุ๊ย หนูขนไม่หงอก
-
อะ น่าสนใจ เดี๋ยวเราไปทดลองต่อดีกว่า
-
เผื่อจะมีโอกาสเอามาใช้กับคนในอนาคตนะคะ
-
ดังนั้นสำหรับใครที่กลัวว่า
-
ในอนาคตฉันจะเครียดแล้วผมฉันจะหงอกเนี่ย
-
ก็อดใจรอนิดนึง
-
คิดว่านักวิทยาศาสตร์เขาน่าจะกำลัง
-
ค้นคว้าหาข้อมูลอะไรต่าง ๆ อยู่
-
เพื่อที่จะผลิตผลิตภัณฑ์อะไรบางอย่างออกมา
-
เพื่อที่จะยับยั้งผมหงอกนะคะ
-
ดังนั้นตอนนี้ก็ทำใจตัวเองให้สบาย ๆ
-
อย่าเพิ่งเครียดไปก่อนเพราะว่า
-
เครียดตอนนี้ยังไม่มีทางแก้นะคะ
-
ผมหงอกแน่นอนนะคะทุกคน
-
ซึ่งหลายคนก็บอกว่าจริง ๆ ชีวิตก็ไม่ได้เครียดอะไรนะ
-
มาเครียดตอนฟังวิดีโอนี้นี่แหละ
-
โอ้โห ตอบอะไรวิทยาศาสตร์จ๋าขนาดนี้นะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ สิ่งที่วิวอยากจะบอกทุกคนก็คือ
-
การที่คนเราผมหงอกเนี่ย
-
โอเค มันก็เป็นเรื่องของความสวยความงาม
-
ไม่ได้มีความอันตรายอะไรขนาดนั้น
-
แต่ว่าสำหรับคนที่ไม่อยากจะผมหงอกนะคะ
-
จริง ๆ แล้วการผมหงอกเนี่ยมันมี
-
ปัจจัยเยอะมากเต็มไปหมดเลยนะ
-
ไม่ว่าจะเป็นความแก่ชรา
-
ไม่ว่าจะเป็นความเครียด
-
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกเพียบ
-
ไม่ว่าจะเป็นการขาดวิตามิน B12 ขาดโปรตีน
-
เกิดจากการสูบบุหรี่
-
เกิดจากธาตุทองแดงมากไป
-
เกิดจากธาตุเหล็ก
-
เกิดจากฮอร์โมน เกิดจากอะไรต่าง ๆ อีกเพียบเลยนะคะ
-
ดังนั้นนะคะถ้าสมมติว่าใครไม่อยากผมหงอกก่อนวัยอันควรนะ
-
สิ่งที่เราทำได้ก็คือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นะคะ
-
โดยเฉพาะอาหารที่มี Omega 3 สูง ๆ
-
เช่น วอลนัทนะคะ หรือว่าปลาในกลุ่ม fatty fish
-
ซึ่งปลาในกลุ่ม fatty fish นี่ก็เช่น
-
ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ประมาณนี้นะ
-
นอกจากนี้ก็สามารถรับประทานวิตามิน B12
-
กับวิตามิน B6 เพิ่มเติม
-
รวมถึงหลีกเลี่ยงพวกกิจกรรมกลางแจ้ง
-
ที่ต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน
-
เพราะว่าแสงแดดนี่บางทีรังสีมันก็
-
ไปทำลายเซลล์รากผมอะไรต่าง ๆ ได้นะคะ
-
ทำให้เกิดผมหงอกก่อนวัยอันควรได้เช่นกันค่ะ
-
สำหรับวันนี้นะคะ วิวคิดว่าข้อมูลเราแน่นพอสมควรแล้วค่ะ
-
ควรจะพอแค่นี้ก่อนเนอะ
-
เราก็สลับกันไป
-
คลิปบางคลิปก็จะข้อมูลแน่นนิดนึง
-
บางคลิปก็จะมาทางวิทยาศาสตร์
-
บางคลิปก็จะไปทางเรื่องเล่าอะไรต่าง ๆ
-
ก็เอาเป็นว่าผสม ๆ กันไปนะคะ
-
สำหรับใครที่อยากรู้เรื่องอะไรเป็นพิเศษ
-
อยากให้วิวไปหาข้อมูลเรื่องอะไรมาเล่า
-
ก็สามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนะคะ
-
และที่สำคัญนะคะ วิวค่อนข้างจะเชื่อมั่นในกลุ่มคนดูของวิวค่ะ
-
ถ้าสมมติว่าใครเป็นนักวิทยาศาสตร์ ใครเป็นแพทย์
-
หรือว่ามีความรู้เรื่องนี้ดีกว่าวิวเนี่ย
-
อย่าลืมพิมพ์มาอธิบายด้านล่างนะคะ
-
อันนี้ก็เป็นแค่ข้อมูลเบื้องต้นที่วิวไปหาข้อมูลมาเนอะ
-
ดังนั้นอย่าลืมมาแชร์กันค่ะ
-
สำหรับวันนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ
-
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็
-
กดแชร์เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ
-
สารภาพตามตรงนะทุกคน
-
คลิปนี้ตอนแรกไม่ได้คิดจะทำเลย
-
นี่คือข้อมูลที่ไปหามาแล้วก็
-
ตั้งใจจะอยากรู้เองไง
-
แต่ว่าพอหามาแล้วมันเริ่มลึก
-
พอมันเริ่มลึกแล้วมันก็รู้สึกว่าเอ๊ะ
-
หรือคนอื่นเขาจะอยากรู้เหมือนเราไหมนะ
-
ก็เลยคิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ เอามาทำเป็นคลิปวิดีโอละกัน
-
เอาเป็นว่าชอบไม่ชอบยังไงอย่าลืมบอกกันนะคะ
-
วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะทุกคน
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ