-
(ระฆังครึ่งเสียง)
-
เราจะตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรงเพื่อยุติการเข่นฆ่ากันได้ไหม
-
นมัสการหลวงปู่ สวัสดีสังฆะ
-
คำถามนี้เกี่ยวกับข้อฝึกอบรมสติข้อที่หนึ่ง
-
เมื่อมีความรุนแรงขั้นสุดอย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น
-
การตอบโต้ความรุนแรงด้วยการกระทำ รวมถึงการกระทำที่รุนแรง เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ไหม
-
ฉันทำอาชีพเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ
-
และฉันนึกถึงเชอร์ชิล
-
หรือเชมเบอร์ลินกับฮิตเลอร์
-
หรือตัวอย่างที่สมัยใหม่กว่าอย่างเช่น รวันดา
-
ซูดาน
-
ซึ่งการรับฟังด้วยความกรุณาแบบที่
-
เชมเบอร์ลินใช้กับฮิตเลอร์
-
อาจไม่เพียงพอ
-
และฉันไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้
-
นมัสการหลวงปู่ เพื่อนของเราถามเกี่ยวกับ
-
สถานการณ์ที่รุนแรงขั้นสุด และเธอยกตัวอย่าง
-
เมื่อกลางศตวรรษที่ 20 ที่ฮิตเลอร์ก่อให้เกิดความทุกข์แสนสาหัส
-
และมีข้าราชการในอังกฤษคนหนึ่ง
-
พยายามรับฟังฮิตเลอร์ด้วยความกรุณา
-
และดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จ
-
อันที่จริงแล้ว เปิดโอกาสให้ฮิตเลอร์ทำร้ายผู้คนมากขึ้น
-
เธอถามว่า ในสถานการณ์เช่นนี้
-
การใช้ความรุนแรงเพื่อยุติความรุนแรงนั้น เหมาะสมหรือไม่
-
การกระทำโดยไม่ใช้ความรุนแรง (สันติวิธี) ไม่ใช่เทคนิค
-
แต่เป็นหนทาง..ไม่ใช่เทคนิค
-
และพื้นฐานของสันติวิธีก็คือ ความเข้าใจและความกรุณา
-
เมื่อเธอมีความเข้าใจและความกรุณาในหัวใจ
-
ทุกสิ่งที่เธอทำจะปราศจากความรุนแรง
-
สมมุติว่า มีคนฆ่าใคร มีคนทำผิดกฎหมาย
-
แล้วเธอจับเขาเข้าคุก
-
การจับกุมเขา และขังไว้ในคุก
-
ถือเป็นความรุนแรงหรือไม่รุนแรง
-
ขึ้นอยู่กับ
-
สถานการณ์
-
ถ้าเธอจับคนๆ นั้นขังไว้
-
แต่เธอทำด้วยความเข้าใจและความกรุณา
-
นั่นคือ การกระทำที่ปราศจากความรุนแรง
-
แต่ถ้าเธอไม่ทำอะไรเลย
-
แต่เธอปล่อยให้
-
ผู้คนเหล่านั้นเข่นฆ่าและทำลาย
-
แม้เธอจะไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย
นั่นก็เรียกว่า ความรุนแรง
-
ความรุนแรงอาจมาจากการกระทำ หรือการไม่กระทำ
-
ดูภายนอกอาจจะดูรุนแรง
-
แต่ถ้าเธอกระทำด้วยจิตใจที่เข้าใจและกรุณา
-
นั่นก็ไม่ใช่ความรุนแรงจริงๆ
-
สมมุติว่า ม้าตัวหนึ่งทรมานมากและใกล้จะตาย แต่ไม่ตายสักที
-
หากเธอกระทำการบางอย่างเพื่อให้มันจบชีวิตลงได้
-
ดูเหมือนจะเป็นความรุนแรง แต่นั่นเกิดจากความกรุณาของเธอ
-
เธอไม่อยากให้ม้าตัวนั้นทุกข์ทรมานอีกนานเกินไป
-
ภาพนั้นสะท้อนให้เธอเห็นว่า
-
การกระทำนั้นๆ จะเป็นความรุนแรงหรือไม่
-
อยู่ที่หัวใจของเธอ
-
ถ้าเธอตั้งใจที่จะลดทอนความทุกข์...
-
ถ้าเธอเข้าใจว่า ทำไมคนๆ นั้นถึงทำเรื่องรุนแรงอย่างนั้น
-
แม้เธอจะขังเขาไว้ หรือปล่อยให้เขาอดอาหาร 2-3 วัน
-
นั่นก็ยังไม่ใช่ความรุนแรง
-
เพราะการไม่ให้อาหารคนบางคนสองสามวัน
-
เพื่อช่วยให้เขาตระหนักว่า
-
การมีอะไรกินนั้นช่างดีนักหนา
-
เพื่อให้เขาเกิดปัญญา
-
เธอไม่ได้มีความตั้งใจที่จะลงโทษเขา
-
แต่ตั้งใจช่วยให้เขาได้เรียนรู้และเห็นคุณค่า
-
นั่นคือ สันติวิธี
-
ดังนั้น เราจึงไม่ควรรอจนเกิดเรื่องขึ้นก่อน
-
แล้วถึงจะตัดสินใจว่า ควรจะตอบโต้ด้วยความรุนแรงหรือสันติวิธี
-
เราต้องเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้
-
พอเกิดเหตุการณ์ขึ้น
-
เราจะสามารถกระทำการด้วยความกรุณา
-
ซึ่งหมายถึงการใช้สันติวิธี
-
และการกระทำแบบสันติวิธีควร…
-
ควร
-
เป็นการกระทำระยะยาว
-
เมื่อเธอสอนลูก
-
เวลาที่เธอบอกลูกว่า ให้ประพฤติตนอย่างไร
-
เธอพ่วงการกระทำที่ปราศจากความรุนแรงเข้าไปด้วย
-
อย่ารอจนกระทั่งเด็กกลายเป็นคนโหดเหี้ยม
-
และเริ่มทำลายหรือเข่นฆ่า แล้วถึงจะสอนเขา
-
เธอต้องใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อน
-
ดังนั้น ในแวดวงการศึกษา
-
แวดวงการเกษตร
-
แวดวงศิลปะ
-
เธอสามารถนำเสนอ
-
การคิดแบบสันติวิธี
การกระทำแบบสันติวิธี
-
และสอนผู้คนให้เลิกเลือกปฏิบัติ
-
นั่นคือ การกระทำพื้นฐานของสันติวิธี
-
เพราะความรุนแรงเกิดจากการเลือกที่รักมักที่ชัง จากการแบ่งแยก
-
จากความเกลียดชัง ความกลัว ความโกรธ
-
ดังนั้น การช่วยผู้คนให้แปรเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้
-
ก่อนที่มันจะแปรสภาพเป็นการกระทำ
-
ถือเป็นการกระทำที่ปราศจากความรุนแรงที่แท้จริง
-
เราควรจะเริ่มต้นเดี๋ยวนี้
-
ไม่ควรรอจนเกิดอะไรบางอย่างขึ้น
-
ถึงจะมาคิดว่า เราควรจะกระทำรุนแรงหรือไม่
-
และหลวงปู่คิดว่า...
-
สันติวิธีไม่ใช่คำตอบที่เบ็ดเสร็จ
-
เราอาจใช้คำว่า เราควรจะไม่ใช้ความรุนแรงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
-
เมื่อเรานึกถึงทหาร
-
เราคิดว่า ทหารทำแต่สิ่งที่รุนแรง
-
แต่การคุมกองทัพ
-
การปกป้องบ้านเมือง
-
การป้องกันการรุกรานจากกองทัพต่างชาตินั้น
-
ทำได้หลายวิธี
-
มีทั้งวิธีที่รุนแรงมากกว่า
-
และวิธีที่รุนแรงน้อยกว่า
-
และเธอเลือกได้เสมอ
-
ถ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้สันติวิธีเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
-
ใช้สันติวิธีสัก 80 เปอร์เซนต์
ก็ยังดีกว่าแค่ 10 เปอร์เซ็นต์...
-
เห็นไหม...ดังนั้น อย่าถามหาความเบ็ดเสร็จสมบูรณ์
-
นั่นก็เป็นแนวทางที่เราใช้ในการฝึกปฏิบัติตามข้อฝึกอบรมสติห้าประการ
-
เธอไม่อาจปฏิบัติได้อย่างสมบูรณ์แบบ
-
อย่าไปกังวลว่า
-
เธอจะรักษาศีล 14 หรือศีล 5 ได้ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
-
สิ่งสำคัญคือ เธอตั้งจิตมั่นที่จะไปทางนั้น
-
เธอทำให้เต็มที่ที่สุด
นั่นคือ สิ่งที่พวกเราต้องการ
-
เหมือนกับในป่า
เธอหลงทางอยู่กลางป่าในตอนกลางคืน
-
ไม่รู้ว่าจะออกมาได้อย่างไร
-
และเธอต้องมองไปยังดาวเหนือเพื่อหาหนทาง
-
ถ้าเธอเดินไปทางทิศเหนือ
-
ก็ไม่ได้หมายความว่า เธออยากไปให้ถึงดาวเหนือ
-
เธอไม่จำเป็นต้องไปให้ถึง
เพียงแค่ต้องไปทางทิศเหนือ
-
(เสียงหัวเราะ)
-
ข้อฝึกอบรมสติ 5 ประการก็เป็นเช่นนั้นแหละ
-
เธอควรเดินไปในทิศทางแห่งความเข้าใจและกรุณา
-
เธอไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
-
ถ้าเธอรู้ว่า เธอทำดีที่สุดแล้ว
ก็ดีพอแล้วสำหรับสังฆะ
-
ดีพอแล้วสำหรับพระพุทธองค์
-
สันติวิธีก็เหมือนกัน
-
เราต้องทำให้เต็มที่ที่สุด
-
ขอบคุณ