สิ่งที่หญิงสาวเชื่อเกี่ยวกับความพอใจในเพศสัมพันธ์ของตัวเธอเอง
-
0:01 - 0:02เป็นเวลานานหลายปีถึงปัจจุบัน
-
0:02 - 0:07เราวุ่นอยู่ในการถกเถียงระดับชาติ
เกียวกับการทำร้ายทางเพศในบริเวณมหาวิทยาลัย -
0:07 - 0:08ไม่ต้องสงสัย --
-
0:08 - 0:12ว่ามันสำคัญยิ่ง ที่คนหนุ่มสาวต้องเข้าใจ
หลักพื้นฐานว่าด้วยการยินยอมเห็นพ้อง -
0:14 - 0:17แต่นั่นเป็นที่ซึ่งการสนทนา
เกี่ยวกับเรื่องเพศ กำลังจะสิ้นสุดลง -
0:17 - 0:19และในสุญญากาศของข้อมูลนั่น
-
0:19 - 0:21สื่อและอินเทอร์เน็ต --
-
0:21 - 0:23ซึ่งเป็นธุรกิจดิจิทัลยุคใหม่ --
-
0:23 - 0:26กำลังสั่งสอนลูก ๆ ของเราแทนพวกเรา
-
0:26 - 0:31ถ้าเราต้องการให้คนหนุ่มสาว
สร้างสัมพันธ์กันอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม -
0:31 - 0:34และ ใช่ค่ะ
เพลิดเพลินไปด้วยในตัว -
0:34 - 0:40ถึงเวลาที่ต้องมีการอภิปรายอย่างตรงไปตรงมา
ว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากตอบว่า "ตกลง" -
0:40 - 0:44และนั่นรวมไปถึงการทำลาย
สิ่งต้องห้ามที่ใหญ่ยิ่งที่สุดของทั้งหมด -
0:44 - 0:46และการพูดคุยกับคนหนุ่มสาว
-
0:46 - 0:50เกี่ยวกับความสามารถ และสิทธิโดยชอบธรรม
ของผู้หญิงที่จะมีความพึงพอใจทางเพศ -
0:51 - 0:53ค่ะ
-
0:53 - 0:54(เสียงปรบมือ)
-
0:54 - 0:55เถอะน่ะ สุภาพสตรีทั้งหลาย
-
0:55 - 0:57(เสียงปรบมือ)
-
0:57 - 1:01ฉันได้ใช้เวลานานสามปี พูดคุยกับหญิงสาว
อายุระหว่าง 15-20 ปี -
1:01 - 1:04ว่าด้วยทัศนคติและประสบการณ์
เกี่ยวกับเซ็กซ์ของพวกเธอ -
1:04 - 1:05สิ่งที่ฉันค้นพบก็คือ
-
1:05 - 1:09ในขณะที่หญิงสาวอาจรู้สึกถึงสิทธิ์
ที่จะมีพฤติกรรมทางเพศ -
1:09 - 1:13พวกเธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกถึงสิทธิ์
ที่จะสนุกกับมัน -
1:13 - 1:15มาดูนักศึกษาปีสอง
จากมหาวิทยาลัยกลุ่มไอวีลีก -
1:15 - 1:17ที่บอกฉันว่า
-
1:17 - 1:20"ฉันสืบเชื้อสายอันยาวนาน
มาจากผู้หญิงที่เข็มแข็งและฉลาด -
1:20 - 1:22คุณยายฉันเป็นคนที่โดดเด่น
สวยน่าตื่นตาตื่นใจ -
1:22 - 1:24แม่ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพ
-
1:24 - 1:28พี่สาวและตัวฉันก็ฉูดฉาดจัดจ้าน
และนั่นเป็นรูปแบบของพลังอำนาจสตรี" -
1:28 - 1:31แล้วเธอก็เล่าให้ฉันฟังต่อ
เรื่องชีวิตเซ็กซ์ของเธอ: -
1:31 - 1:33เรื่องราวว่าด้วยการหลับนอน
กับผู้ชายเพียงคืนเดียว -
1:33 - 1:35เรื่อยมาตั้งแต่เธออายุ 13 ปี
-
1:35 - 1:36นั่นมัน...
-
1:36 - 1:38ไม่มีความรับผิดชอบอย่างยิ่ง
-
1:38 - 1:41ไม่ใช่การตอบแทนซึ่งกันและกัน
-
1:41 - 1:43และไม่มีความสุขเอาเสียเลย
-
1:43 - 1:45เธอยักไหล่
-
1:45 - 1:48"ฉันว่า ผู้หญิงอย่างเราเป็นสัตว์สังคม
ทำตัวเป็นมนุษย์ที่ว่านอนสอนง่าย -
1:48 - 1:52ซึ่งไม่แสดงออกถึงความต้องการ
หรือความจำเป็นของเรา" -
1:52 - 1:53"เดี๋ยวก่อนนะ" ฉันบอก
-
1:53 - 1:57"เธอไม่ได้เพิ่งจะบอกฉันหรอกหรือ
เธอเป็นหญิงที่ฉลาด เข้มแข็ง" -
1:57 - 1:59เธอพึมพัมอยู่ในลำคอ
-
1:59 - 2:01"ฉันคิดว่า
ไม่มีใครบอกฉันว่า -
2:01 - 2:05ภาพลักษณ์ของความฉลาด
และเข้มแข็งนั้น ใช้กับเรื่องเพศได้ด้วย" -
2:06 - 2:09ฉันน่าจะต้องบอกไปตอนนั้นแน่ ๆ ว่า
ถึงแม้จะมีการหลอกลวงอย่างนั้น -
2:09 - 2:14พวกวัยรุ่นปัจจุบันไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน
บ่อยกว่า หรือเมื่อมีอายุน้อยลงกว่าเดิม -
2:14 - 2:16เมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน
-
2:16 - 2:20แต่พวกเขากำลังทำพฤติกรรมอื่น
-
2:20 - 2:21และเมื่อเราไม่สนใจสิ่งที่ว่านั้น
-
2:21 - 2:24เราบอกว่ามัน "ไม่ใช่การมีเซ็กซ์"
-
2:24 - 2:28เท่ากับว่าเราเปิดประตู
ให้กับพฤติกรรมที่เสี่ยงและหยาบโลน -
2:29 - 2:32มันเป็นจริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับออรัลเซ็กซ์ -
2:32 - 2:36ซึ่งวัยรุ่นเห็นกันว่า
มันใกล้ชิดกันน้อยกว่าการร่วมเพศ -
2:36 - 2:38เด็กสาวก็จะบอกฉันว่า "ไม่ใช่เรื่องใหญ่"
-
2:38 - 2:42เหมือนกับว่าพวกเธอทั้งหมด
อ่านคู่มือเล่มเดียวกัน -- -
2:42 - 2:45อย่างน้อยที่สุด
ถ้าฝ่ายชายอยู่ฝั่งผู้รับ -
2:45 - 2:48เด็กสาวมีเหตุผลหลายอย่าง
ในการที่จะเข้าร่วม -
2:48 - 2:50มันทำให้พวกเธอรู้สึกว่า
เป็นที่ต้องการ -
2:50 - 2:53มันเป็นวิธีที่จะส่งเสริมสถานะทางสังคม
-
2:53 - 2:57บางครั้ง มันก็เป็นการหาทางออก
จากสถานการณ์ที่ไม่สบายใจ -
2:57 - 3:00เด็กปีหนึ่งจากวิทยาลัยเวสต์โคสต์
บอกกับฉันว่า -
3:00 - 3:03"ท้ายที่สุดแล้ว
ฝ่ายหญิงจะยอมทำออรัลเซ็กซ์ให้กับฝ่ายชาย -
3:03 - 3:05เพราะว่าเธอไม่ต้องการร่วมเพศกับเขา
-
3:05 - 3:07และฝ่ายชายก็คาดหมายว่าจะพึงพอใจ
-
3:07 - 3:09ดังนั้น ถ้าฉันต้องการให้เขาจากไปเสีย
-
3:09 - 3:12และไม่ต้องการที่จะให้มีอะไรเกิดขึ้น..."
-
3:12 - 3:17ฉันได้ยินได้ฟังเรื่องราวมามากมาย
เกี่ยวกับฝ่ายหญิงที่ทำออรัลเซ็กซ์ข้างเดียว -
3:17 - 3:19จนกระทั่งต้องเริ่มตั้งคำถาม
-
3:19 - 3:21"สมมุติว่าทุกครั้ง
ที่คุณอยู่ตามลำพังกับผู้ชาย -
3:21 - 3:24และเขาบอกให้คุณ
เดินไปหยิบน้ำมาจากในครัว -
3:24 - 3:28โดยที่เขาก็ไม่เคยไปเอานํ้ามาให้คุณเลย --
-
3:28 - 3:30หรือถ้าเขาทำ ก็จะเป็นแบบนี้...
-
3:32 - 3:34'คุณอยากให้ฉัน เอ่อ... ' "
-
3:34 - 3:36มันน่ารังเกียจมาก
-
3:36 - 3:39คุณน่าจะทนมันไม่ได้
-
3:39 - 3:42แต่มันไม่ใช่เสมอไปว่า เด็กผู้ชายไม่ต้องการ
-
3:42 - 3:44มันเป็นว่าเด็กสาวไม่ต้องการให้พวกผู้ชายทำ
-
3:44 - 3:47เด็กสาวมีความรู้สึกอับอาย
เกี่ยวกับอวัยวะเพศของเธอ -
3:47 - 3:52มันคือความรู้สึกนึกคิด
ว่าทั้งเหนอะหนะและแตะต้องมิได้ -
3:52 - 3:54ความรู้สึกที่ผู้หญิง
มีต่ออวัยวะเพศของเธอ -
3:54 - 3:58ได้ถูกเชื่อมโยงโดยตรงเข้ากับ
ความสนุกทางเพศของพวกเธอ -
3:58 - 4:01เด็บบี เฮอเบนิก
นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยอินเดียนา -
4:01 - 4:06เชื่อว่าภาพลักษณ์ต่ออวัยวะเพศของตัวเอง
ของเด็กสาวนั้นกำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรง -
4:06 - 4:08ด้วยความกดดันมากกว่าที่เคย
-
4:08 - 4:12ทำให้คิดว่า พวกมันไม่ได้รับการยอมรับ
ในสภาพที่เป็นอยู่ตามธรรมชาติ -
4:12 - 4:14จากงานวิจัย
-
4:14 - 4:18ประมาณสามในสี่ของนักศึกษาหญิง
โกนขนหัวหน่าว -- ออกทั้งหมด-- -
4:18 - 4:20อย่างน้อยที่สุดก็เป็นครั้งคราว
-
4:20 - 4:23และกว่าครึ่งทำอย่างนั้นเป็นประจำ
-
4:23 - 4:28เธอจะบอกฉันว่า การกำจัดขน
ทำให้พวกเธอรู้สึกว่าสะอาดขึ้น -
4:28 - 4:30และบอกว่าเป็นทางเลือกส่วนตัว
-
4:31 - 4:35แต่ฉันก็รู้สึกสงสัยอยู่ว่า
หากถูกทิ้งไว้คนเดียวบนเกาะร้าง -
4:35 - 4:38เธอจะเลือกใช้เวลาไปกับ
การทำสิ่งนี้มั้ย -
4:38 - 4:40(เสียงหัวเราะ)
-
4:40 - 4:41และเมื่อฉันเร่งเร้าถามต่อ
-
4:41 - 4:43แรงจูงใจที่หม่นหมองลงก็ปรากฏขึ้น:
-
4:43 - 4:46เพื่อหลีกเลี่ยงความอับอายขายหน้า
-
4:46 - 4:49"พวกผู้ชายทำตัวเหมือนกับจะรังเกียจมัน"
-
4:49 - 4:51หญิงสาวคนหนึ่งเล่าให้ฉันฟัง
-
4:51 - 4:53"ไม่มีใครต้องการจะถูกพูดถึงอย่างนั้น"
-
4:54 - 4:58การโกนขนหัวหน่าวที่เพิ่มขึ้น
ทำให้นึกถึงยุค 1920s -
4:58 - 5:02ช่วงที่ผู้หญิงเริ่มที่จะ
โกนขนรักแร้และที่ขาเป็นประจำ -
5:02 - 5:05นั่นเป็นตอนที่แฟชันแฟลปเปอร์เริ่มเข้ามา
-
5:05 - 5:07และทันใดนั้น แขนขาของผู้หญิงก็มองเห็นได้
-
5:07 - 5:10เปิดให้สาธารณชนเพ่งพินิจ
-
5:10 - 5:13ฉันคิดว่านี่เป็นสัญญาณ
-
5:13 - 5:17ที่เปิดช่องให้สังคมมาร่วมพิจารณา
ของสงวนของผู้หญิง -
5:17 - 5:19เปิดให้วิพากวิจารณ์
-
5:19 - 5:23เพื่อจะให้กลายเป็นว่า
มันดูเป็นอย่างไรสำหรับคนอื่น -
5:23 - 5:25มากกว่าที่ว่าเธอรู้สึกกับมันอย่างไร
-
5:26 - 5:30แนวโน้มในการโกนได้จุดประกาย
ให้เกิดศัลยกรรมตกแต่งแคมอวัยวะเพศขึ้นมา -
5:30 - 5:35ศัลยกรรมตกแต่งแคม ซึ่งก็คือ
การเล็มอวัยวะเพศด้านในและด้านนอก -
5:35 - 5:40เป็นศัลยกรรมตกแต่งที่เติบโตเร็วที่สุด
ในท่ามกลางเด็กสาววัยรุ่น -
5:41 - 5:46พุ่งสูงขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์
ระหว่างปี คศ 2014 และ 2015 -
5:46 - 5:50ขณะที่เด็กสาวอายุตํ่ากว่า 18 ปี
มีอยู่สองเปอร์เซ็นต์ ของศัลยกรรมตกแต่ง -
5:50 - 5:53เด็กสาววัยรุ่น เป็นห้าเปอร์เซ็นต์
ของศัลยกรรมตกแต่งแคมอวัยวะเพศ -
5:54 - 5:56ภาพลักษณ์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดนั้น
-
5:56 - 6:00ซึ่งแคมด้านในดูเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
เหมือนกับหอยกาบ -
6:00 - 6:01เรียกว่า ...
-
6:01 - 6:02คอยหน่อยนะ ...
-
6:03 - 6:05"ตุ๊กตาบาบี"
-
6:05 - 6:06(เสียงคราง)
-
6:06 - 6:08ฉันเชื่อใจว่า ไม่ต้องบอกคุณก็ได้ว่า
-
6:08 - 6:11บาบีนั้น อย่างแรก ทำมาจากพลาสติก
-
6:11 - 6:14และอย่างที่สอง ไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์
-
6:14 - 6:16(เสียงหัวเราะ)
-
6:16 - 6:19แนวโน้มศัลยกรรมตกแต่งแคมอวัยวะเพศ
ได้กลายเป็นเรื่องน่าวิตก -
6:19 - 6:23มากเสียจนกระทั่งวิทยาลัยแห่งสูติกรรม
และนรีเวชอเมริกา -
6:23 - 6:25ได้ออกแถลงการณ์เรื่องกระบวนการทำ
-
6:25 - 6:27ซึ่งไม่ค่อยจะมีระบุไว้ทางการแพทย์
-
6:28 - 6:30กระบวนการซึ่งไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัย
-
6:30 - 6:36และผลข้างเคียงของมันรวมถึง แผลเป็น อาการชา
ความเจ็บปวด -
6:36 - 6:38และความรู้สึกทางเพศที่ลดถอยลงไป
-
6:39 - 6:40ปัจจุบัน ยอมรับกัน
-
6:40 - 6:42และโล่งใจไปได้ว่า
-
6:42 - 6:44จำนวนหญิงสาวที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
ยังคงค่อนข้างน้อย -
6:45 - 6:48แต่คุณก็น่าจะเห็นมันเป็น
การเตือนภัยล่วงหน้า -
6:48 - 6:52บอกเราถึงบางอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับ
เรื่องที่ผู้หญิงมองร่างกายของตนเองอย่างไร -
6:54 - 6:55ซาร่า แม็คเคลแลนด์
-
6:55 - 6:58นักจิตวิทยา ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน
-
6:58 - 7:02คิดคำขึ้นมา ซึ่งเป็นคำที่ฉันชอบตลอดมา
ในการพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด -
7:03 - 7:05คำว่า "ความเป็นธรรมที่ใกล้ชิดสนิทสนม"
-
7:07 - 7:11นั่นคือ แนวคิดที่ว่าเพศมีนัยทางการเมือง
เท่าๆ กับนัยส่วนตัว -
7:11 - 7:13ก็เหมือนกับ ใครเป็นคนล้างจานในบ้านของคุณ
-
7:13 - 7:15หรือไม่ก็ ใครเป็นคนดูดฝุ่นพรม
-
7:16 - 7:19และมันชูปัญหาที่คล้ายกันขึ้นมา
เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกัน -
7:20 - 7:21เกี่ยวกับความไม่เสมอกันทางเศรษฐกิจ
-
7:22 - 7:23ความรุนแรง
-
7:23 - 7:24สุขภาพทางร่างกายและจิตใจ
-
7:25 - 7:29ความเป็นธรรมที่ใกล้ชิดสนิทสนม
ขอให้เราพิจารณา -
7:29 - 7:32ว่าใครได้รับสิทธิเพื่อร่วมกระทำ
ในประสบการณ์หนึ่ง -
7:32 - 7:34ใครได้รับสิทธิที่จะสนุกสนานกับมัน
-
7:34 - 7:37ใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์อันดับแรก
-
7:37 - 7:41จะให้คำจำกัดความแก่ผู้ร่วมกระทำแต่ละคนว่า
"ดีพอ" อย่างไร -
7:42 - 7:46อย่างสัตย์ซื่อ ฉันคิดว่าคำถามเหล่านั้น
เจ้าเล่ห์ และบางครั้งก็ทำให้บอบชํ้า -
7:46 - 7:48สำหรับผู้หญิงที่เติบใหญ่จะเผชิญ
-
7:49 - 7:51แต่เมื่อเราพูดถึงเด็กสาว
-
7:51 - 7:57ฉันก็แค่ยังคงกลับมาที่แนวคิดว่า
ประสบการณ์ทางเพศตอนต้นๆ -
7:57 - 7:59ไม่ควรจะต้องเป็นบางอย่างที่พวกเธอผ่านพ้นไป
-
8:02 - 8:03ในงานของเธอ
-
8:03 - 8:07แม็คเคลแลนด์พบว่า หญิงสาวดูน่าจะใช้
ความสุขของคู่ขาของเธอ -
8:07 - 8:11เป็นวิธีวัดความพึงพอใจของเขาทั้งสอง
มากกว่าพวกเด็กหนุ่ม -
8:11 - 8:12พวกเธอจึงพูดบางอย่าง เช่น
-
8:12 - 8:14"ถ้าหากเขาพึงพอใจทางเพศ
-
8:14 - 8:16แล้วละก็ ฉันก็จะพึงพอใจทางเพศ"
-
8:16 - 8:21เด็กหนุ่มน่าจะวัดพึงพอใจของเขามากกว่า
จากการถึงจุดสุดยอดของความรู้สึกทางเพศของตน -
8:23 - 8:26หญิงสาวยังให้คำจำกัดความของ
การมีสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่ดี แตกต่างออกไป -
8:28 - 8:29การสำรวจครั้งใหญ่สุดเท่าที่มี
-
8:29 - 8:33ที่เคยทำกันมา ในเรื่องพฤติกรรมทางเพศ
ของคนอเมริกัน -
8:33 - 8:36พวกเขารายงานถึงความเจ็บปวด
ในการคบกันทางเพศของพวกเขา -
8:36 - 8:3830 เปอร์เซ็นของเวลาเหล่านั้น
-
8:40 - 8:42พวกเขายังใช้คำเช่น "ห่อเหี่ยวใจ"
-
8:43 - 8:45"น่าอับอายขายหน้า"
-
8:45 - 8:46"เสื่อมเสีย"
-
8:46 - 8:50คนหนุ่มไม่เคยใช้ภาษาเหล่านั้น
-
8:50 - 8:54ดังนั้นเมื่อหญิงสาวรายงาน
ระดับความพึงพอใจทางเพศ -
8:54 - 8:57ว่าเท่าเทียมหรือยิ่งใหญ่กว่าของคนหนุ่ม --
-
8:57 - 8:59เธอบอกอย่างนั้น ในวิจัย --
-
8:59 - 9:01นั่นสามารถหลอกลวงได้
-
9:02 - 9:05ถ้าเด็กสาวเข้าไปคบกันทางเพศ
หวังว่าจะไม่เจ็บชํ้า -
9:05 - 9:07ต้องการจะรู้สึกใกล้ชิดกับคู่ขาของเธอ
-
9:07 - 9:09และคาดหมายว่าเขาจะถึงจุดสุดยอดทางเพศ
-
9:10 - 9:13เธอก็จะพอใจถ้าบรรลุถึงเกณฑ์เหล่านั้น
-
9:13 - 9:16และก็ไม่มีอะไรผิด กับความต้องการ
ที่จะรู้สึกใกล้ชิดกับคู่ขาของคุณ -
9:16 - 9:18หรือต้องการจะให้เขามีความสุข
-
9:18 - 9:20การถึงจุดสุดยอดทางเพศ
ไม่ได้เป็นการวัดเพียงอย่างเดียว -
9:22 - 9:23แต่การไม่มีความเจ็บปวด --
-
9:24 - 9:27ก็เป็นมาตรฐานขั้นตํ่ามาก
สำหรับความสำเร็จทางเพศของตัวคุณเอง -
9:29 - 9:31เมื่อฟังทั้งหมดนี้แล้ว และคิดเกี่ยวกับมัน
-
9:31 - 9:37ฉันเริ่มตระหนักว่า เราได้กระทำรูปแบบหนึ่ง
ของการขลิบปุ่มกระสันเชิงจิตวิทยา -
9:37 - 9:38กับเด็กสาวอเมริกัน
-
9:38 - 9:40เริ่มต้นในวัยทารก
-
9:40 - 9:43พ่อแม่ของเด็กชาย ดูน่าจะเป็นไปได้มากกว่า
ที่จะบอกชื่อส่วนของร่างกายเด็กทั้งหมด -
9:44 - 9:46อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็จะพูด
"ตรงนี้ ฉี่นะ" -
9:46 - 9:49พ่อแม่ของเด็กเพศหญิง ก็จะออกไปจากสะดือ
ถึงหัวเข่า -
9:49 - 9:53และพวกเขาก็จะทิ้งสถานการณ์ทั้งหมดนี้
ตรงนี้ ไม่มีชื่อเรียก -
9:53 - 9:54(เสียงหัวเราะ)
-
9:54 - 9:58ไม่มีวิธีการที่ดีกว่านี้
เพื่อทำให้บางสิ่งบางอย่างที่พูดถึงไม่ได้ -
9:58 - 9:59กว่าการไม่เรียกชื่อมัน
-
10:00 - 10:03แล้วเด็กๆ ก็เข้าเรียนวิชา
ภาวะการเข้าสู่วัยหนุ่มสาว -
10:03 - 10:06และก็เรียนรู้ว่า เด็กชายจะมี
อวัยวะเพศตั้งตรงและการพุ่งของอสุจิ -
10:07 - 10:08และเด็กหญิงจะมี ...
-
10:08 - 10:11ประจำเดือนและการตั้งท้อง
ที่ไม่เป็นที่ต้องการ -
10:12 - 10:16และพวกเขาก็เห็นว่าแผนภูมิภายใน
ของระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง -- -
10:16 - 10:19อย่างที่รู้กัน แผนภูมิที่ดูเหมือนอย่างกับ
หัววัวตัวผู้ -
10:19 - 10:20(เสียงหัวเราะ)
-
10:23 - 10:25และมันก็จะเป็นสีเทาๆออกมาระหว่างขาเสมอ
-
10:26 - 10:28เราจึงไม่เคยพูดคำว่า แคมช่องคลอด
-
10:28 - 10:30และแน่นอน เราไม่เคยพูดว่า ปุ่มกระสัน
-
10:30 - 10:32ไม่ต้องสงสัย
-
10:32 - 10:35น้อยกว่าครึ่งของเด็กหญิงวัยรุ่น
อายุ 14-17 ปี -
10:35 - 10:37เคยสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
-
10:37 - 10:40แล้วพวกเธอก็เข้าไปหาประสบการณ์
จากคู่ขาของตน -
10:40 - 10:44และเราก็คาดหมายว่า จะยังไงก็ตาม
พวกเขาก็จะคิดว่า เพศสัมพันธ์เกี่ยวกับเขา -
10:44 - 10:49ซึ่งเขาสามารถจะพูดออกมาชัดเจนได้ถึง ความ
ต้องการ ความรู้สึกทางเพศ ขอบเขตจำกัดของเขา -
10:49 - 10:51มันไม่เป็นความจริง
-
10:52 - 10:54แต่ ตรงนี้เป็นบางอย่าง
-
10:54 - 10:57การลงทุนของเด็กสาว
ในเรื่องความพึงพอใจของคู่ขา ก็ยังคงมีอยู่ -
10:58 - 11:00โดยไม่ต้องคำนึงถึงเพศของคู่ขาคนนั้น
-
11:01 - 11:03ดังนั้น ในการคบกันของเพศเดียวกัน
-
11:03 - 11:05ช่องว่างของการถึงจุดสุดยอดทางเพศ จึงหายไป
-
11:06 - 11:09และหญิงสาวถึงจุดสุดยอด
ที่อัตราเร็วเท่าๆ กับผู้ชาย -
11:10 - 11:12สาวที่ชอบเพศเดียวกัน
และที่ตอบสนองทั้งสองเพศ -
11:12 - 11:16บอกฉันว่า พวกเขารู้สึกว่าเป็นอิสระ
ที่ออกมาเสียได้จากที่ได้ถูกคาดหมายไว้ -- -
11:16 - 11:19เป็นอิสระที่จะสร้างขึ้นมา
การคบกันที่ใช้การได้ สำหรับพวกเขา -
11:19 - 11:23หญิงร่วมเพศยังท้าทายแนวคิด
เรื่องการร่วมเพศกันครั้งแรก -
11:23 - 11:25ว่าคือ ความหมายของความเป็นหญิงพรหมจารี
-
11:25 - 11:28ไม่ใช่เพราะว่าการร่วมเพศไม่ใช่เรื่องใหญ่
-
11:28 - 11:32แต่มันคุ้มค่าที่จะตั้งคำถามว่า ทำไม
เราจึงเห็นเรื่องนี้ว่า สั้นๆ แค่ฉากเดียว -
11:32 - 11:35ซึ่งเด็กสาวส่วนใหญ่เชื่อมเข้ากับ
ความไม่สบาย หรือความเจ็บปวด -
11:35 - 11:38เป็นเส้นที่ขีดเขียนไว้บนพื้นทราย
ของความเติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้านเพศ -- -
11:38 - 11:40มีความหมายมากมายเหลือเกิน
-
11:40 - 11:43เปลี่ยนแปลงได้มากกว่าสิ่งอื่นๆมากมายนัก
-
11:44 - 11:47และมันก็คุ้มค่าที่จะพิจารณาเห็นได้ว่า
มันกำลังรับใช้เด็กสาวอยู่อย่างไร -
11:47 - 11:50ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันพวกเขา จากโรคภัย
-
11:50 - 11:53การบีบบังคับขู่เข็ญ การทรยศหักหลัง
การข่มขีน -
11:54 - 11:57ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมความผูกพันซึ่งกัน
และกัน ความสนใจใยดี -
11:57 - 12:01มันหมายถึงอะไร เกี่ยวกับวิธีที่เขาเห็น
การร่วมเพศอื่นๆ -
12:01 - 12:03ไม่ว่าจะเป็น มันช่วยให้พวกเขา
ควบคุมตัวเอง -
12:03 - 12:05และสนุกในประสบการณ์
ของพวกเขามากขึ้น -
12:06 - 12:09และมันหมายถึงอะไรเกี่ยวกับ
พวกรักร่วมเพศวัยรุ่น -
12:09 - 12:13ผู้ที่สามารถมีคู่ขาเป็นจำนวนมาก
โดยไม่มีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม -
12:14 - 12:16ฉันจึงถามเด็กสาวรักร่วมเพศที่พบคนหนึ่ง
-
12:17 - 12:19"จะรู้ได้อย่างไรว่า
ไม่เป็นสาวพรหมจรรย์แล้ว" -
12:20 - 12:21เธอบอก ต้องเข้าไปค้นดูในกูเกิล
-
12:21 - 12:23(เสียงหัวเราะ)
-
12:23 - 12:25และกูเกิลก็ไม่แน่ใจ
-
12:25 - 12:27(เสียงหัวเราะ)
-
12:27 - 12:30ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้ว่า
เธอไม่ได้เป็นสาวพรหมจรรย์แล้ว -
12:30 - 12:33หลังจากที่เธอรู้สึกถึงจุดสุดยอดทางเพศ
กับคู่ขาของเธอ -
12:34 - 12:36และฉันก็คิด --
-
12:36 - 12:37ว้าว
-
12:37 - 12:40สมมุติว่าแค่วินาทีเดียว
-
12:40 - 12:42เราจินตนาการดูว่า นั่นเป็นคำจำกัดความหรือ
-
12:44 - 12:46นั่นเหละ ไม่ใช่เพราะการร่วมเพศ
ไม่ใช่เรื่องใหญ่ -- -
12:46 - 12:47แน่นอน มันเป็นเรื่องใหญ่ --
-
12:47 - 12:50แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่เพียงเรื่องเดียว
-
12:50 - 12:54และแทนที่จะคิดถึงเรื่องเพศสัมพันธ์
ว่าเป็นการแข่งขันไปให้ถึงเป้าหมาย -
12:54 - 12:59ให้คิดว่าสิ่งนี้ช่วยเรา สร้างกรอบความคิด
ขึ้นมาใหม่ เหมือนสระที่สะสมประสบการณ์ -
12:59 - 13:04ที่มีความอบอุ่น ความรักใคร่ ความเร้าอารมณ์
-
13:04 - 13:07ความปรารถนา สัมผัส ความใกล้ชิด
-
13:08 - 13:10และมันคุ้มค่าที่จะถามคนหนุ่มสาวว่า
-
13:10 - 13:13ใครที่แท้จริงแล้ว เป็นบุคคล
ที่มีประสบการณ์ทางเพศมากกว่า -
13:13 - 13:16คนที่มีเพศสัมพันธ์เล้าโลมคู่ขา
ได้นานสามชั่วโมง -
13:17 - 13:21และทดลองเรื่อง ความตึง
ในการกระตุ้นความรู้สึก และการสื่อสารถึงกัน -
13:21 - 13:25หรือ ใครที่เมาแอ๋ในงานปาร์ตี้
และก็เริ่มสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จักมักคุ้น -
13:25 - 13:29เพื่อที่จะทิ้ง "ความเป็นสาวพรหมจรรย์"
ไปเสีย ก่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย -
13:30 - 13:33อย่างไรก็ตาม วิธีเดียวที่เปลี่ยน
ในเรื่องความคิด สามารถเกิดขึ้นได้ -
13:33 - 13:37คือ หากเราพูดคุยกับเด็กหนุ่มสาวให้มากขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์ -
13:37 - 13:39ถ้าเราทำให้การถกเถียงกันนั้นเป็นเรื่องปกติ
-
13:39 - 13:42ผสมผสานมันเข้าไปในชีวิตประจำวัน
-
13:42 - 13:46คุยกันเรื่องการปฏิบัติที่ใกล้ชิดสนิท
เหล่านั้น ด้วยวิธีที่ต่างออกไป -- -
13:46 - 13:49วิธีการที่พวกเราส่วนมากได้เปลี่ยนมันไป
-
13:49 - 13:51ในแบบที่เราพูดคุยกับผู้หญิง
ในขอบเขตของสาธารณะ -
13:52 - 13:56ลองพิจารณา การสำรวจเด็กสาว
ที่คัดเลือกมา 300 คน โดยวิธีการสุ่มเลือก -
13:56 - 13:59จากมหาวิทยาลัยดัช และอเมริกา
-
13:59 - 14:00สองมหาวิทยาลัยที่คล้ายคลึงกัน
-
14:00 - 14:03พูดคุยกันเกี่ยวกับประสบการณ์เพศสัมพันธ์
ตอนแรกๆ ของพวกเขา -
14:04 - 14:09เด็กสาวชาวดัชมีรวมอยู่ทุกอย่าง
ที่เราบอกว่า เราต้องการจากเด็กสาวของเรา -
14:09 - 14:11พวกเธอมีผลพวงที่ตามในเชิงลบน้อยกว่า
-
14:11 - 14:14เช่น โรคภัย การตั้งครรภ์ ความเสียใจ --
-
14:15 - 14:16มีผลพวงที่ตามมาในเชิงบวกมากกว่า
-
14:16 - 14:19เช่น สามารถสื่อสารกับคู่ขาได้
-
14:19 - 14:21คนที่พวกเธอบอกว่ารู้จักเป็นอย่างดี
-
14:21 - 14:23เตรียมตัวเพื่อประสบการณ์ที่ว่านั้น
อย่างรับผิดชอบ -
14:23 - 14:25ตัวเองก็สนุกสนาน
-
14:26 - 14:27อะไรคือเคล็ดลับของเธอหรือ
-
14:28 - 14:32เด็กสาวชาวดัชบอกว่า แพทย์ของพวกเธอ
ครู และพ่อแม่ -
14:32 - 14:34พูดคุยกับพวกเธออย่างตรงไปตรงมา
-
14:34 - 14:35มาตั้งแต่อายุยังน้อย
-
14:35 - 14:40เกี่ยวกับเรื่องเพศ ความพึงพอใจ
และความสำคัญของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน -
14:41 - 14:43นอกจากนี้แล้ว
-
14:43 - 14:47ในขณะที่พ่อแม่ของคนอเมริกันไม่จำเป็นต้อง
รู้สึกอึดอัดน้อยกว่า เมื่อพูดเรื่องทางเพศ -
14:48 - 14:50พวกเรามีแนวโน้วที่จะวางกรอบการสนธนา
-
14:50 - 14:54ทั้งหมดไป ในแง่ของความเสี่ยงและอันตราย
-
14:55 - 14:59ขณะที่พ่อแม่ชาวดัช พูดคุยเรื่องความสมดุล
ระหว่างความรับผิดชอบกับความสนุก -
15:00 - 15:01ฉันเองต้องบอกคุณ
-
15:01 - 15:03ในฐานะที่ตนเองเป็นแม่
-
15:03 - 15:05ว่า กระทบอารมณ์ความรู้สึกอย่างแรง
-
15:05 - 15:08เพราะฉันรู้ว่า
-
15:08 - 15:10ถ้าไม่ได้ขุดคุ้ยงานวิจัยนั้น
-
15:10 - 15:14ฉันก็คงจะพูดคุยกับลูกของตน
เกี่ยวกับการคุมกำเนิด -
15:14 - 15:16เกี่ยวกับการป้องกันโรค
-
15:16 - 15:19เกี่ยวกับการยินยอม เพราะว่า
ฉันเป็นแม่สมัยใหม่ -
15:19 - 15:20และฉันก็คงจะคิดไปว่า --
-
15:22 - 15:23ทำงานได้ดี
-
15:24 - 15:27ขณะนี้ฉันรู้ว่า นั่นยังไม่พอ
-
15:28 - 15:31ยังรู้อีกด้วยถึงสิ่งที่ฉันหวังไว้
สำหรับลูกสาวของเรา -
15:32 - 15:36ฉันต้องการให้พวกเธอนั้น เห็นเรื่องทางเพศ
เป็นแหล่งของการรู้จักตนเอง -
15:36 - 15:38การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร
-
15:38 - 15:41แม้จะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากมัน
-
15:41 - 15:45ฉันต้องการให้พวกเธอสามารถ
สนุกสนานเฮฮาในกามารมณ์ -
15:45 - 15:46โดยไม่มีการถูกทำให้ลดลงไป
-
15:47 - 15:50ฉันต้องการให้พวกเธอสามารถขอ
ในสิ่งที่เธอต้องการบนเตียงได้ -
15:50 - 15:52และให้ได้ที่ต้องการ
-
15:53 - 15:56ฉันต้องการให้พวกเธอปลอดภัย จากการตั้งครรภ์
ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ -
15:56 - 15:57โรค
-
15:57 - 15:58ความทารุณโหดร้าย
-
15:59 - 16:00การลดทอนความเป็นมนุษย์ลงไป
-
16:00 - 16:01ความรุนแรง
-
16:02 - 16:04ถ้าพวกเธอถูกทำร้าย
-
16:04 - 16:07ฉันต้องการให้พวกเธอขอความช่วยเหลือ
จากโรงเรียนของเธอ -
16:07 - 16:09ผู้จ้างงานของเธอ
-
16:09 - 16:10ศาล
-
16:11 - 16:13มากมายนักที่จะขอได้
-
16:13 - 16:14แต่ก็ไม่ได้มากเกินไป
-
16:15 - 16:20ในฐานะที่เป็นพ่อแม่ ครู ผู้สนับสนุน และ
นักปฏิบัติการ -
16:20 - 16:24พวกเราได้เลี้ยงดูเด็กสาวขึ้นมารุ่นหนึ่ง
ให้มีเสียงแสดงความคิดเห็น -
16:24 - 16:28ให้คาดหมายการดูแลโดยยึดหลักความเสมอภาค
ในบ้าน -
16:28 - 16:29ในชั้นเรียน
-
16:30 - 16:31ในที่ทำงาน
-
16:32 - 16:36ขณะนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จะเรียกร้องในเรื่อง
ความเป็นธรรมที่ใกล้ชิดสนิทสนม -
16:36 - 16:39ในชีวิตส่วนตัวของพวกเธอ เช่นกัน
-
16:40 - 16:41ขอบคุณค่ะ
-
16:41 - 16:44(เสียงปรบมือ)
- Title:
- สิ่งที่หญิงสาวเชื่อเกี่ยวกับความพอใจในเพศสัมพันธ์ของตัวเธอเอง
- Speaker:
- เพกกี้ โอเร็นสตีน
- Description:
-
นานสามปี ที่นักประพันธ์ชื่อ เพกกี้ โอเร็นสตีน สัมภาษณ์เด็กสาวอายุ 15 ถึง 20 ปี เกี่ยวกับทัศนคติของพวกเธอต่อสัมพันธ์ทางเพศและประสบการณ์ทางเพศ เธออภิปรายถึงความพึงพอใจ ที่ส่วนใหญ่ขาดหายไปจากการร่วมคบกันทางเพศ และเรียกร้องให้เราปิด "ช่องว่างของจุดสุดยอดของความรู้สึกทางเพศ" ด้วยการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับเด็กสาวของเรา ตั้งแต่ตอนอายุยังน้อย เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศ ร่างกาย และความใกล้ชิดกัน
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:00
![]() |
Sakunphat Jirawuthitanant approved Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure | |
![]() |
Sakunphat Jirawuthitanant accepted Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure | |
![]() |
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure | |
![]() |
yamela areesamarn edited Thai subtitles for What young women believe about their own sexual pleasure |