วาฬหายใจ สื่อสาร และผายลมทางใบหน้าได้อย่างไร - จอย ไรเดนเบิร์ก (Joy Reidenberg)
-
0:00 - 0:09สวัสดีค่ะทุกคน
ฉันเป็นนักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ -
0:09 - 0:11นักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบคือ คนที่ศึกษา
-
0:11 - 0:14โครงสร้างของร่างกาย ของสัตว์ชนิดต่าง ๆ
-
0:14 - 0:16สัตว์ที่ฉันโปรดปรานคือ ปลาวาฬ
-
0:16 - 0:18ฉันชอบศึกษาปลาวาฬ เพราะพวกมันน่าสนใจมากๆ
-
0:18 - 0:20พวกมันปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์
พวกมันปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใต้น้ำ -
0:20 - 0:21ที่อยู่ใต้น้ำ
ที่เปี่ยมเอกลักษณ์ -
0:21 - 0:23เรื่องที่ฉันจะเล่าให้พวกคุณฟังคือ
-
0:23 - 0:25ปลาวาฬส่งเสียงได้โดย
-
0:25 - 0:28การผายลมออกมา จากหน้าของมัน
-
0:28 - 0:30มันผายลมที่ว่านี้
-
0:30 - 0:32ด้วยรูบนหัว เป็นการหายใจเอาอากาศออก
-
0:32 - 0:34แต่มันยังใช้อากาศทำอย่างอื่นอีก
-
0:34 - 0:35มันใช้สร้างเสียง
-
0:35 - 0:37ซึ่งฉันกำลังจะพูดถึง
-
0:37 - 0:38มีอีกหลายวิธีที่วาฬใช้อากาศ
-
0:38 - 0:40เช่นการป้องกันไม่ให้อากาศเข้าเส้นเลือด
-
0:40 - 0:42จะได้ไม่เกิดฟองอากาศ
-
0:42 - 0:43เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับนักดำน้ำ
-
0:43 - 0:46ที่ขณะดำน้ำ แล้วเกิดอาการเมาความกดอากาศ
-
0:46 - 0:48แต่ที่ฉันอยากจะเล่า คือเรื่องที่ว่า
-
0:48 - 0:50สัตว์พวกนี้ทำเสียงผายลมอย่างไร
-
0:50 - 0:52เราต้องเข้าใจก่อนว่า
-
0:52 - 0:54การดูปลาวาฬนั้นยากเพียงใด
-
0:54 - 0:57เพราะมันอาศัยอยู่ใต้น้ำ และมันก็ใหญ่มากๆ
-
0:57 - 0:58มันจึงเป็นสัตว์ที่ยากแก่การศึกษา
-
0:58 - 1:01แค่ในภาพนี้ คุณเห็นสัตว์ที่อยู่ตรงกลางนั้นไหม
-
1:01 - 1:04มันคือลูกปลาวาฬ และขนาดของมันก็เท่ากับรถบัสแล้ว
-
1:04 - 1:06เมื่อศึกษาปลาวาฬ คุณต้องเริ่มจาก
-
1:06 - 1:07ด้านบนของหัวมัน เพราะที่นั้น
-
1:07 - 1:09มีจมูกมันอยู่
-
1:09 - 1:10มันคล้ายๆ กับ เครื่องดำน้ำในตัว
-
1:10 - 1:12มันใช้จมูกนี้หายใจ เพราะมันคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
-
1:12 - 1:14และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะหายใจด้วยอากาศ
-
1:14 - 1:16จมูกของพวกมัน จะเปิดปิดได้
-
1:16 - 1:18เหมือนมีมือหนีบอยู่ที่รูเลย
-
1:18 - 1:19จะเห็นรูมันเปิดอยู่ ตรงภาพล่างสุด
-
1:19 - 1:21ตรงที่ลูกศรสีแดงชี้ค่ะ
-
1:21 - 1:23แต่ไม่ใช่ปลาวาฬทุกตัวนะ ที่มีจมูกสองรู
-
1:23 - 1:26ปลาวาฬหลายชนิด รวมถึงปลาโลมาประเภทต่าง ๆ
-
1:26 - 1:28ปลาโลมาขนาดใหญ่ และ ขนาดเล็ก
-
1:28 - 1:30มีรูจมูกเพียงรูเดียว อยู่ข้างบนสุดของหัว
-
1:30 - 1:32มันจะเปิด และปิดรูจมูก
-
1:32 - 1:35โดยใช้ส่วนที่เสมือน ริมฝีปากบน
-
1:35 - 1:39แล้วเผยอมันขึ้นไปปิดจมูก แบบนี้
-
1:39 - 1:41นี่คือวิธีการที่มันเปิดและปิดจมูก
-
1:41 - 1:43ดังนั้น เมื่อมันส่งเสียง
-
1:43 - 1:45ก็เหมือนมันเป่าปากพรืดๆ
-
1:45 - 1:48เหมือนกับ (เสียงปาก) คล้ายเสียงผายลม ใช่ไหมคะ
-
1:48 - 1:50ที่นิวยอร์คเราเรียกมันว่า หรือที่เขาเรียกกันว่า
เสียงเชียร์แบบคนบรองซ์ (Bronx Cheer) -
1:50 - 1:52มันทำเสียงพวกนี้
-
1:52 - 1:54โดยใช้ริมฝีปาก ขนาดหนาใหญ่
-
1:54 - 1:56แบบที่เห็นจากภาพนี้
-
1:56 - 1:59ซึ่งเป็นภาพผ่าครึ่งของหัวปลาโลมา
-
1:59 - 2:01ริมฝีปาก คือก้อนหนาใหญ่สีเหลืองในวงกลมค่ะ
-
2:01 - 2:05มันจะขยับก้อนนี้ กลับไปกลับมาตรงเหนือจมูก
-
2:05 - 2:06ทำให้จมูกมันสั่น
-
2:06 - 2:08เหมือนตอนที่คุณปล่อยลมออกจากลูกโป่ง
-
2:08 - 2:10แล้วเกิดเสียงสั่นแปลกๆ
-
2:10 - 2:12เสียงที่ว่านั่น ดังแบบนี้ค่ะ
-
2:12 - 2:13(เสียงปลาโลมา)
-
2:13 - 2:14ได้ยินไหมคะ มันจะทำอีกครั้ง
-
2:14 - 2:16เมื่อมันมองกล้องค่ะ
-
2:16 - 2:17[เสียงปลาโลมา]
-
2:17 - 2:19ฟังเหมือน มันผายลมในน้ำเลย
-
2:19 - 2:21สิ่งที่เจ้าโลมาทำ จริงๆ แล้ว
-
2:21 - 2:24คือการใช้เสียงบอกตำแหน่ง (echolocation)
ซึ่งมันจะทำเป็นชุด ๆ -
2:24 - 2:27คล้ายกับที่ ค้างคาวใช้โซน่าร์ (sonar)
-
2:27 - 2:29คือ ค้างค้าวใช้เรดาร์ แต่เมื่ออยู่ในน้ำ
-
2:29 - 2:31เราจะเรียก โซน่าร์ สัตว์พวกนี้ใช้โซน่าร์
-
2:31 - 2:34เพื่อให้เห็นโลกของมัน โดยใช้เสียง
-
2:34 - 2:35เราจะเข้าใจการทำงานของมันได้
-
2:35 - 2:37โดยนึกภาพว่า เรากำลังมองดู
-
2:37 - 2:39ลำโพงขยายเสียง ในชุดเครื่องเสียง
-
2:39 - 2:42ปลาวาฬที่มีฟันเล็กๆ
คือลำโพงเสียงความถี่สูง (tweeters) -
2:42 - 2:43เสียงนั้นก็มาจากจมูกเล็ก ๆ
-
2:43 - 2:45ที่เคลื่อนไหวกลับไปกลับมา
-
2:45 - 2:47และถูกส่งออกมาจากหน้าผากของมัน
-
2:47 - 2:48แต่พอไปดูที่เจ้าปลาวาฬตัวโต
-
2:48 - 2:50มันจะเหมือน ลำโพงเสียงความถี่ต่ำ (Woofer)
-
2:50 - 2:52เป็นลำโพงตัวใหญ่ที่อยู่ในชุดเครื่องเสียง
-
2:52 - 2:55สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เสียงของพวกมันออกมาจากลำคอ
-
2:55 - 2:57ดังนั้น ถ้าคุณพยายามเลียนเสียงปลาวาฬ
-
2:57 - 2:58มาลองทำกันเลย
-
2:58 - 3:01เอาล่ะ พร้อมกัน "อาห์"
-
3:01 - 3:03เอาล่ะ เอามือของคุณจับที่ลำคอ
-
3:03 - 3:06บนลูกกระเดือก คุณรู้สึกว่ามันสั่นใช่ไหมคะ
-
3:06 - 3:08ซึ่งเปลืองพลังงานเปล่าค่ะ
-
3:08 - 3:10เพราะคุณไม่ได้สื่อสารกับคนอื่นด้วยวิธีนี้
-
3:10 - 3:12ต้องเปล่งออกทางปาก
-
3:12 - 3:13แต่ถ้าไปอ้าปากใต้น้ำ
-
3:13 - 3:14ไม่มีใครได้ยินเสียงคุณหรอก
-
3:14 - 3:18คุณต้องใช้พลังงานนี้ ขยายเป็นเสียงส่งผ่านน้ำออกไป
-
3:18 - 3:19และนั่นก็คือสิ่งที่ปลาวาฬทำ
-
3:19 - 3:21และเมื่อคุณได้ยินเสียงมัน
-
3:21 - 3:22[เสียงปลาวาฬ]
-
3:22 - 3:25ฟังสิ เหมือนกับเสียงตอนปล่อยลมออกจากลูกโป่งเลย
-
3:25 - 3:27พวกมันทำเสียงแหลมๆ แบบนี้
-
3:27 - 3:28แล้วก็ยังมีเสียงแบบนี้
-
3:28 - 3:31[เสียงปลาวาฬ]
-
3:31 - 3:33เหมือนกับเสียงผายลมเลย ใช่ไหมคะ
-
3:33 - 3:36เหมือนมีถุงเลียนเสียงตดใบใหญ่ยักษ์
อยู่ในลำคอมันเลย -
3:36 - 3:38แล้วรู้ได้ไงล่ะ ว่ามันทำเสียงด้วยวิธีนี้จริงๆ
-
3:38 - 3:41เราศึกษา จากพวกปลาวาฬที่มาเกยตื้นนั่นเอง
-
3:41 - 3:43สัตว์พวกนี้ มาเกยตื้นตายบนชายหาด
-
3:43 - 3:45ถ้าเป็นพวกปลาวาฬตัวเล็ก ๆ
เช่น ปลาโลมาต่าง ๆ จึงง่ายกว่า -
3:45 - 3:47เพราะเราสามารถนำมันกลับไปที่ห้องแลปได้
-
3:47 - 3:50แต่กับพวกปลาวาฬตัวโต
เราต้องนำห้องแลปไปหามัน -
3:50 - 3:51แบบในภาพนี้ค่ะ
-
3:51 - 3:54นั่นคือฉันเอง คนสวมหมวกสีแดงตรงกลาง
-
3:54 - 3:56ฉันไม่ใช่คนตัวสูงมากนัก
-
3:56 - 3:58จะเห็นได้ว่า
ปลาวาฬมันตัวใหญ่ขนาดไหนเมื่อเทียบกับฉัน -
3:58 - 4:00เจ้าปลาวาฬตัวนี้ยาว 55 ฟุต
และเครื่องมือผ่าตัดของฉัน -
4:00 - 4:02ก็คือเครื่องมือเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ นี่
-
4:02 - 4:04มันดูเหมือน ไม้ตีฮอกกี้
-
4:04 - 4:06ที่ตรงปลายมีใบมีด
-
4:06 - 4:09การผ่าตัดปลาวาฬ มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก
-
4:09 - 4:11คุณต้องเข้าไปยืนอยู่ ในชิ้นงานของคุณ
-
4:11 - 4:13เหมือนกับ เขตก่อสร้างขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยเลือด
-
4:13 - 4:15คุณต้องใส่หมวกที่แข็งมาก
-
4:15 - 4:17ต้องทำงานกับเครื่องมือหนักอึ้ง
-
4:17 - 4:18ในกรณีนี้ อย่างที่บอก
-
4:18 - 4:21นั่นเป็นเพียง
กล่องเสียงของปลาวาฬสีน้ำเงิน แค่กล่องเสียงค่ะ -
4:21 - 4:23แล้วตัวฉันก็สูงแค่ห้าฟุต จะเห็นได้ว่า
-
4:23 - 4:25แค่กล่องเสียง ก็ตั้ง 12 ฟุตแล้ว
-
4:25 - 4:26เรารู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น
-
4:26 - 4:29เรารู้ โดยดูที่กล่องเสียง หรือเส้นเสียง
-
4:29 - 4:29ดูข้างในของมัน
-
4:29 - 4:32อันนี้จากลูกปลาวาฬ ขนาดจึงเล็กกว่า
-
4:32 - 4:33ตรงส่วนที่เป็นตัวยู (U) อันเล็กๆ
-
4:33 - 4:34ที่ขีดไว้เป็นเส้นสีน้ำเงินนั้น
-
4:34 - 4:36นั่นคือส่วนที่เกิดการสั่น
-
4:36 - 4:37มันเหมือนกับกล่องเสียงของมนุษย์
-
4:37 - 4:39พอฉันเอามือสอดเข้าไป
-
4:39 - 4:40ตรงที่แขนเสื้อสีฟ้า
-
4:40 - 4:42คุณจะเห็นถุงอยู่ข้างใต้
-
4:42 - 4:43นั่นคืออวัยวะที่ทำหน้าที่ตะโกน
อวัยวะถุงเลียนเสียงตด -
4:43 - 4:45นั่นคือ ถุงอากาศ หรือ ลูกโป่ง
-
4:45 - 4:47ดังนั้น นี่คือสิ่งที่สัตว์พวกนี้ทำ
-
4:47 - 4:48และคุณจะเห็นจากภาพนี้
-
4:48 - 4:50นี่คือลูกโป่งสีดำ ที่อยู่ในลำคอ
-
4:50 - 4:52อวัยวะที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร ตรงที่เป็นสีฟ้า
-
4:52 - 4:54อวัยวะที่ทำหน้าที่หายใจ ตรงที่เป็นสีฟ้าอ่อน
-
4:54 - 4:55ตอนนี้ คุณมี สีฟ้าอ่อนกับสีฟ้าเข้ม
-
4:55 - 4:57ตรงกลางด้านขวา จะเห็นถุงสีดำ
-
4:57 - 5:00สัตว์พวกนี้ใช้ ถุงนั่นสำหรับเปล่งเสียง
-
5:00 - 5:02มันทำให้ถุงนั่นสั่น และ ส่งเสียงออกมา
-
5:02 - 5:04ฟันเล็ก ๆ ของปลาวาฬก็มีถุงลมด้วยเช่นกัน
-
5:04 - 5:05และมันก็มีอยู่เต็มไปหมดข้างบนหัวของมัน
-
5:05 - 5:07มันก็เหมือนกับ พวกมันมีหัวเป็นถุงลม
-
5:07 - 5:09มันใช้สิ่งนี้ จับอากาศเท่าที่มันจะสามารถทำได้
-
5:09 - 5:11เพื่อที่จะนำอากาศ
ลงไปกับมันด้วยเมื่อมันดำลงไปในน้ำ -
5:11 - 5:13เพราะว่าเมื่อคุณดำน้ำ ความดันจะเพิ่มขึ้น
-
5:13 - 5:16และนั่น มันจะลดจำนวนของอากาศที่คุณมี
-
5:16 - 5:18แต่สิ่งที่สำคัญมาก ๆ
คือการที่มีถุงนั่นมันทำให้พวกปลาวาฬ -
5:18 - 5:21สามารถนำอากาศที่ใช้ไปแล้วมาใช้อีกได้
-
5:21 - 5:22เพราะ อากาศคือสิ่งที่มีค่า
-
5:22 - 5:24คุณไม่จำเป็นต้องกลับไปที่ผิวน้ำ
-
5:24 - 5:25เพื่อนำอากาศมาเพิ่ม
-
5:25 - 5:27ดังนั้นเมื่อคุณเปล่งเสียงใต้น้ำ
-
5:27 - 5:28ถ้าคุณเป็นปลาวาฬ
-
5:28 - 5:29ลองมาเริ่มทำเสียงกัน
-
5:29 - 5:30ลองทำเสียงนี้นะ อาาา
-
5:30 - 5:32แต่ ปลาวาฬ จะปิดปากนะ ลองดู
-
5:32 - 5:34(เสียงปาก)
-
5:34 - 5:35คุณกำลังฮัมอยู่ ใช่ไหมคะ
-
5:35 - 5:36แต่ ปลาวาฬ ปิดรูจมูกไว้เอา ลองดู
-
5:36 - 5:39(เสียงปาก)
-
5:39 - 5:42เกิดอะไรขึ้น? คุณจะทำเสียงอะไรไม่ได้เลย
-
5:42 - 5:44บางครั้งคุณปิดจมูก เพื่อลดระดับแรงดันทันทีที่ปิดจมูก
เพราะคุณไปตรึงอากาศไว้ ทำให้ความดันคงที่ -
5:44 - 5:46ส่วนปลาวาฬ ด้วยถุงลมพวกนี้
-
5:46 - 5:49ทำให้พวกมันรักษาระบบความดันภายในเอาไว้ได้
-
5:49 - 5:51ซึ่งหมายความว่า อากาศ ได้ถ่ายเทต่อเนื่อง
-
5:51 - 5:52และถ้าคุณมีถุงใส่ไว้ที่ปลายจมูกของคุณ
-
5:52 - 5:55คุณก็จะมีอากาศถ่ายเทต่องเนื่องได้เช่นกัน
-
5:55 - 5:56ฉันหวังว่าคุณจะสนุกกับเรื่องราวที่ได้เล่าไป
-
5:56 - 5:59นั่นคือสิ่งที่นักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ
ทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัว -
5:59 - 6:01เราศึกษาโครงสร้างของสัตว์พวกนี้
-
6:01 - 6:02พยายามเลียนแบบมัน
-
6:02 - 6:04แล้วปรับใช้กับสถานการณ์ของมนุษย์
-
6:04 - 6:07ซึ่งอาจทำให้เกิดวิทยาการใหม่ๆ ในการปกปักษ์รักษา
-
6:07 - 6:09หรือแม้แต่การเยียวยารักษา
-
6:09 - 6:12ให้ผู้คนที่เจ็บป่วย
ด้วยการจำลองสถานการณ์แปลกประหลาด -
6:12 - 6:14หวังว่าทุกคนคงสนุก ขอบคุณค่ะ
- Title:
- วาฬหายใจ สื่อสาร และผายลมทางใบหน้าได้อย่างไร - จอย ไรเดนเบิร์ก (Joy Reidenberg)
- Description:
-
ดูบทเรียนเต็มได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/how-whales-breathe-communicate-and-fart-with-their-faces-joy-reidenberg
นักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ จอย ไรเดนเบิร์ก ศึกษาโครงสร้างร่างกายของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ด้วยความหวังว่า จะนำเอกลักษณ์ของสัตว์มาใช้กับมนุษย์ได้ และสัตว์ที่เธอชอบศึกษาก็คือวาฬ ใน TEDYouth Talk ไรเดนเบิร์กได้อธิบาย ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดพิเศษนี้ ผายลมผ่านทางหน้าของมันเอง(เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องecholocation) เพื่อที่จะส่งเสียงสื่อสัญญาณพิเศษ ผ่านไปทางน้ำ
โดย จอย ไรเดนเบิร์ก
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 06:25
Teerachart Prasert
นักเปรียบเทียบสรีระสัตว์ -> นักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ
ทีนี้พวกคุณรู้แล้วว่ามันผายลม
ด้วยรูด้านบน แล้วมันก็เป่าลมออกมาแบบนี้
จมูกของพวกมัน สามารถเปิดและปิดได้จริง ๆ
คุณต้องใช้พลังงานนี้