สวัสดีค่ะทุกคน
ฉันเป็นนักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ
นักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบคือ คนที่ศึกษา
โครงสร้างของร่างกาย ของสัตว์ชนิดต่าง ๆ
สัตว์ที่ฉันโปรดปรานคือ ปลาวาฬ
ฉันชอบศึกษาปลาวาฬ เพราะพวกมันน่าสนใจมากๆ
พวกมันปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์
พวกมันปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใต้น้ำ
ที่อยู่ใต้น้ำ
ที่เปี่ยมเอกลักษณ์
เรื่องที่ฉันจะเล่าให้พวกคุณฟังคือ
ปลาวาฬส่งเสียงได้โดย
การผายลมออกมา จากหน้าของมัน
มันผายลมที่ว่านี้
ด้วยรูบนหัว เป็นการหายใจเอาอากาศออก
แต่มันยังใช้อากาศทำอย่างอื่นอีก
มันใช้สร้างเสียง
ซึ่งฉันกำลังจะพูดถึง
มีอีกหลายวิธีที่วาฬใช้อากาศ
เช่นการป้องกันไม่ให้อากาศเข้าเส้นเลือด
จะได้ไม่เกิดฟองอากาศ
เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับนักดำน้ำ
ที่ขณะดำน้ำ แล้วเกิดอาการเมาความกดอากาศ
แต่ที่ฉันอยากจะเล่า คือเรื่องที่ว่า
สัตว์พวกนี้ทำเสียงผายลมอย่างไร
เราต้องเข้าใจก่อนว่า
การดูปลาวาฬนั้นยากเพียงใด
เพราะมันอาศัยอยู่ใต้น้ำ และมันก็ใหญ่มากๆ
มันจึงเป็นสัตว์ที่ยากแก่การศึกษา
แค่ในภาพนี้ คุณเห็นสัตว์ที่อยู่ตรงกลางนั้นไหม
มันคือลูกปลาวาฬ และขนาดของมันก็เท่ากับรถบัสแล้ว
เมื่อศึกษาปลาวาฬ คุณต้องเริ่มจาก
ด้านบนของหัวมัน เพราะที่นั้น
มีจมูกมันอยู่
มันคล้ายๆ กับ เครื่องดำน้ำในตัว
มันใช้จมูกนี้หายใจ เพราะมันคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะหายใจด้วยอากาศ
จมูกของพวกมัน จะเปิดปิดได้
เหมือนมีมือหนีบอยู่ที่รูเลย
จะเห็นรูมันเปิดอยู่ ตรงภาพล่างสุด
ตรงที่ลูกศรสีแดงชี้ค่ะ
แต่ไม่ใช่ปลาวาฬทุกตัวนะ ที่มีจมูกสองรู
ปลาวาฬหลายชนิด รวมถึงปลาโลมาประเภทต่าง ๆ
ปลาโลมาขนาดใหญ่ และ ขนาดเล็ก
มีรูจมูกเพียงรูเดียว อยู่ข้างบนสุดของหัว
มันจะเปิด และปิดรูจมูก
โดยใช้ส่วนที่เสมือน ริมฝีปากบน
แล้วเผยอมันขึ้นไปปิดจมูก แบบนี้
นี่คือวิธีการที่มันเปิดและปิดจมูก
ดังนั้น เมื่อมันส่งเสียง
ก็เหมือนมันเป่าปากพรืดๆ
เหมือนกับ (เสียงปาก) คล้ายเสียงผายลม ใช่ไหมคะ
ที่นิวยอร์คเราเรียกมันว่า หรือที่เขาเรียกกันว่า
เสียงเชียร์แบบคนบรองซ์ (Bronx Cheer)
มันทำเสียงพวกนี้
โดยใช้ริมฝีปาก ขนาดหนาใหญ่
แบบที่เห็นจากภาพนี้
ซึ่งเป็นภาพผ่าครึ่งของหัวปลาโลมา
ริมฝีปาก คือก้อนหนาใหญ่สีเหลืองในวงกลมค่ะ
มันจะขยับก้อนนี้ กลับไปกลับมาตรงเหนือจมูก
ทำให้จมูกมันสั่น
เหมือนตอนที่คุณปล่อยลมออกจากลูกโป่ง
แล้วเกิดเสียงสั่นแปลกๆ
เสียงที่ว่านั่น ดังแบบนี้ค่ะ
(เสียงปลาโลมา)
ได้ยินไหมคะ มันจะทำอีกครั้ง
เมื่อมันมองกล้องค่ะ
[เสียงปลาโลมา]
ฟังเหมือน มันผายลมในน้ำเลย
สิ่งที่เจ้าโลมาทำ จริงๆ แล้ว
คือการใช้เสียงบอกตำแหน่ง (echolocation)
ซึ่งมันจะทำเป็นชุด ๆ
คล้ายกับที่ ค้างคาวใช้โซน่าร์ (sonar)
คือ ค้างค้าวใช้เรดาร์ แต่เมื่ออยู่ในน้ำ
เราจะเรียก โซน่าร์ สัตว์พวกนี้ใช้โซน่าร์
เพื่อให้เห็นโลกของมัน โดยใช้เสียง
เราจะเข้าใจการทำงานของมันได้
โดยนึกภาพว่า เรากำลังมองดู
ลำโพงขยายเสียง ในชุดเครื่องเสียง
ปลาวาฬที่มีฟันเล็กๆ
คือลำโพงเสียงความถี่สูง (tweeters)
เสียงนั้นก็มาจากจมูกเล็ก ๆ
ที่เคลื่อนไหวกลับไปกลับมา
และถูกส่งออกมาจากหน้าผากของมัน
แต่พอไปดูที่เจ้าปลาวาฬตัวโต
มันจะเหมือน ลำโพงเสียงความถี่ต่ำ (Woofer)
เป็นลำโพงตัวใหญ่ที่อยู่ในชุดเครื่องเสียง
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เสียงของพวกมันออกมาจากลำคอ
ดังนั้น ถ้าคุณพยายามเลียนเสียงปลาวาฬ
มาลองทำกันเลย
เอาล่ะ พร้อมกัน "อาห์"
เอาล่ะ เอามือของคุณจับที่ลำคอ
บนลูกกระเดือก คุณรู้สึกว่ามันสั่นใช่ไหมคะ
ซึ่งเปลืองพลังงานเปล่าค่ะ
เพราะคุณไม่ได้สื่อสารกับคนอื่นด้วยวิธีนี้
ต้องเปล่งออกทางปาก
แต่ถ้าไปอ้าปากใต้น้ำ
ไม่มีใครได้ยินเสียงคุณหรอก
คุณต้องใช้พลังงานนี้ ขยายเป็นเสียงส่งผ่านน้ำออกไป
และนั่นก็คือสิ่งที่ปลาวาฬทำ
และเมื่อคุณได้ยินเสียงมัน
[เสียงปลาวาฬ]
ฟังสิ เหมือนกับเสียงตอนปล่อยลมออกจากลูกโป่งเลย
พวกมันทำเสียงแหลมๆ แบบนี้
แล้วก็ยังมีเสียงแบบนี้
[เสียงปลาวาฬ]
เหมือนกับเสียงผายลมเลย ใช่ไหมคะ
เหมือนมีถุงเลียนเสียงตดใบใหญ่ยักษ์
อยู่ในลำคอมันเลย
แล้วรู้ได้ไงล่ะ ว่ามันทำเสียงด้วยวิธีนี้จริงๆ
เราศึกษา จากพวกปลาวาฬที่มาเกยตื้นนั่นเอง
สัตว์พวกนี้ มาเกยตื้นตายบนชายหาด
ถ้าเป็นพวกปลาวาฬตัวเล็ก ๆ
เช่น ปลาโลมาต่าง ๆ จึงง่ายกว่า
เพราะเราสามารถนำมันกลับไปที่ห้องแลปได้
แต่กับพวกปลาวาฬตัวโต
เราต้องนำห้องแลปไปหามัน
แบบในภาพนี้ค่ะ
นั่นคือฉันเอง คนสวมหมวกสีแดงตรงกลาง
ฉันไม่ใช่คนตัวสูงมากนัก
จะเห็นได้ว่า
ปลาวาฬมันตัวใหญ่ขนาดไหนเมื่อเทียบกับฉัน
เจ้าปลาวาฬตัวนี้ยาว 55 ฟุต
และเครื่องมือผ่าตัดของฉัน
ก็คือเครื่องมือเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ นี่
มันดูเหมือน ไม้ตีฮอกกี้
ที่ตรงปลายมีใบมีด
การผ่าตัดปลาวาฬ มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก
คุณต้องเข้าไปยืนอยู่ ในชิ้นงานของคุณ
เหมือนกับ เขตก่อสร้างขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยเลือด
คุณต้องใส่หมวกที่แข็งมาก
ต้องทำงานกับเครื่องมือหนักอึ้ง
ในกรณีนี้ อย่างที่บอก
นั่นเป็นเพียง
กล่องเสียงของปลาวาฬสีน้ำเงิน แค่กล่องเสียงค่ะ
แล้วตัวฉันก็สูงแค่ห้าฟุต จะเห็นได้ว่า
แค่กล่องเสียง ก็ตั้ง 12 ฟุตแล้ว
เรารู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น
เรารู้ โดยดูที่กล่องเสียง หรือเส้นเสียง
ดูข้างในของมัน
อันนี้จากลูกปลาวาฬ ขนาดจึงเล็กกว่า
ตรงส่วนที่เป็นตัวยู (U) อันเล็กๆ
ที่ขีดไว้เป็นเส้นสีน้ำเงินนั้น
นั่นคือส่วนที่เกิดการสั่น
มันเหมือนกับกล่องเสียงของมนุษย์
พอฉันเอามือสอดเข้าไป
ตรงที่แขนเสื้อสีฟ้า
คุณจะเห็นถุงอยู่ข้างใต้
นั่นคืออวัยวะที่ทำหน้าที่ตะโกน
อวัยวะถุงเลียนเสียงตด
นั่นคือ ถุงอากาศ หรือ ลูกโป่ง
ดังนั้น นี่คือสิ่งที่สัตว์พวกนี้ทำ
และคุณจะเห็นจากภาพนี้
นี่คือลูกโป่งสีดำ ที่อยู่ในลำคอ
อวัยวะที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร ตรงที่เป็นสีฟ้า
อวัยวะที่ทำหน้าที่หายใจ ตรงที่เป็นสีฟ้าอ่อน
ตอนนี้ คุณมี สีฟ้าอ่อนกับสีฟ้าเข้ม
ตรงกลางด้านขวา จะเห็นถุงสีดำ
สัตว์พวกนี้ใช้ ถุงนั่นสำหรับเปล่งเสียง
มันทำให้ถุงนั่นสั่น และ ส่งเสียงออกมา
ฟันเล็ก ๆ ของปลาวาฬก็มีถุงลมด้วยเช่นกัน
และมันก็มีอยู่เต็มไปหมดข้างบนหัวของมัน
มันก็เหมือนกับ พวกมันมีหัวเป็นถุงลม
มันใช้สิ่งนี้ จับอากาศเท่าที่มันจะสามารถทำได้
เพื่อที่จะนำอากาศ
ลงไปกับมันด้วยเมื่อมันดำลงไปในน้ำ
เพราะว่าเมื่อคุณดำน้ำ ความดันจะเพิ่มขึ้น
และนั่น มันจะลดจำนวนของอากาศที่คุณมี
แต่สิ่งที่สำคัญมาก ๆ
คือการที่มีถุงนั่นมันทำให้พวกปลาวาฬ
สามารถนำอากาศที่ใช้ไปแล้วมาใช้อีกได้
เพราะ อากาศคือสิ่งที่มีค่า
คุณไม่จำเป็นต้องกลับไปที่ผิวน้ำ
เพื่อนำอากาศมาเพิ่ม
ดังนั้นเมื่อคุณเปล่งเสียงใต้น้ำ
ถ้าคุณเป็นปลาวาฬ
ลองมาเริ่มทำเสียงกัน
ลองทำเสียงนี้นะ อาาา
แต่ ปลาวาฬ จะปิดปากนะ ลองดู
(เสียงปาก)
คุณกำลังฮัมอยู่ ใช่ไหมคะ
แต่ ปลาวาฬ ปิดรูจมูกไว้เอา ลองดู
(เสียงปาก)
เกิดอะไรขึ้น? คุณจะทำเสียงอะไรไม่ได้เลย
บางครั้งคุณปิดจมูก เพื่อลดระดับแรงดันทันทีที่ปิดจมูก
เพราะคุณไปตรึงอากาศไว้ ทำให้ความดันคงที่
ส่วนปลาวาฬ ด้วยถุงลมพวกนี้
ทำให้พวกมันรักษาระบบความดันภายในเอาไว้ได้
ซึ่งหมายความว่า อากาศ ได้ถ่ายเทต่อเนื่อง
และถ้าคุณมีถุงใส่ไว้ที่ปลายจมูกของคุณ
คุณก็จะมีอากาศถ่ายเทต่องเนื่องได้เช่นกัน
ฉันหวังว่าคุณจะสนุกกับเรื่องราวที่ได้เล่าไป
นั่นคือสิ่งที่นักกายวิภาคศาสตร์เปรียบเทียบ
ทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัว
เราศึกษาโครงสร้างของสัตว์พวกนี้
พยายามเลียนแบบมัน
แล้วปรับใช้กับสถานการณ์ของมนุษย์
ซึ่งอาจทำให้เกิดวิทยาการใหม่ๆ ในการปกปักษ์รักษา
หรือแม้แต่การเยียวยารักษา
ให้ผู้คนที่เจ็บป่วย
ด้วยการจำลองสถานการณ์แปลกประหลาด
หวังว่าทุกคนคงสนุก ขอบคุณค่ะ