หลักสูตรเคมีอินทรีย์ฉบับเร่งรัด
-
0:01 - 0:03ผมอยากให้ทุกคนลองถามตัวเอง
-
0:03 - 0:07เมื่อพูดถึง "เคมีอินทรีย์"
คุณรู้สึกอย่างไร -
0:07 - 0:09ทำให้คุณคิดถึงอะไร
-
0:09 - 0:12มีวิชาหนึ่งที่เปิดสอนอยู่
เกือบทุกมหาวิทยาลัย -
0:12 - 0:14เรียกว่าวิชา "เคมีอินทรีย์"
-
0:14 - 0:18พูดถึงวิชานี้ก็หนักและทรหดมากแล้ว
-
0:18 - 0:21ด้วยเนื้อหาที่มหาศาลท่วมหัวนักศึกษา
-
0:21 - 0:25คุณจะต้องทำเก่งวิชานี้ให้ได้
ถ้าคุณอยากเป็นหมอ หมอฟัน -
0:25 - 0:27หรือสัตวแพทย์
-
0:27 - 0:31มันทำให้นักศึกษาหลายคนมองวิชานี้เป็นแบบนี้
-
0:32 - 0:34มันกลายเป็นอุปสรรค
-
0:34 - 0:36ทำให้พวกเขาทั้งกลัว ทั้งเกลียดมัน
-
0:36 - 0:38และพวกเขาเรียกมันว่า "วิชาคัดคนออก"
-
0:38 - 0:41ช่างเป็นวิชาที่โหดร้ายกับเยาวชนเสียจริง
-
0:41 - 0:44เพราะมันคอยกำจัดพวกเขาทิ้ง
-
0:44 - 0:47มุมมองแบบนี้ได้แพร่กระจายไปทั่ว
ในสถาบันหลายแห่งเป็นเวลานาน -
0:47 - 0:51ทำให้ทุกคนต่างเป็นกังวล
เมื่อได้ยินสองคำนี้ -
0:53 - 0:55แต่ผมกลับรักวิชานี้มาก
-
0:55 - 0:58และผมก็คิดว่าการทำใจยอมรับ
กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น -
0:58 - 1:00เป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้
-
1:00 - 1:04มันไม่ดีทั้งต่อวิทยาศาสตร์ และต่อสังคม
-
1:04 - 1:06ผมคิดว่ามันไม่ควรจะปล่อยให้เป็นแบบนี้
-
1:06 - 1:10และผมก็ไม่ได้คิดว่าวิชานี้ควรจะง่ายขึ้น
-
1:10 - 1:12มันไม่ควรจะง่ายขึ้น
-
1:12 - 1:16แต่มุมมองที่คุณมีต่อสองคำนี้
-
1:17 - 1:21ไม่ควรตกทอดมาจากประสบการณ์
จากเหล่านักเรียนเตรียมแพทย์ทั้งหลาย -
1:21 - 1:24ที่กำลังวิตกกังวลกับชีวิตของพวกเขา
-
1:25 - 1:28ผมมาที่นี่ ในวันนี้ เพราะผมเชื่อว่า
-
1:28 - 1:31ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ
เคมีอินทรีย์นั้นมีคุณค่า -
1:31 - 1:35และผมคิดว่าทุกคนสามารถเข้าถึงได้
-
1:35 - 1:38ซึ่งผมอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นในวันนี้
-
1:38 - 1:39ขอให้ผมลองได้ไหม
-
1:39 - 1:41ผู้ชม: เอาสิ
-
1:41 - 1:44เอาล่ะ งั้นเริ่มกันเลย
-
1:44 - 1:45(เสียงหัวเราะ)
-
1:45 - 1:48ในมือผมตอนนี้คือ
เอพิเพน ที่มีราคาสูงลิบลิ่ว -
1:48 - 1:51ข้างในมีตัวยา "เอพิเนฟรีน"
-
1:51 - 1:54เอพิเนฟรีนทำให้หัวใจของผม
กลับมาเต้นอีกครั้ง -
1:54 - 1:57และช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้
ซึ่งอันตรายถึงชีวิต -
1:57 - 2:00เพียงแค่ฉีดมันเข้าไปตรงนี้
-
2:01 - 2:05มันเหมือนกับการเปิดสวิตซ์ให้ร่างกายของผม
ตอบสนองแบบสู้หรือหนี -
2:05 - 2:09อัตราการเต้นของหัวใจและความดันจะสูงขึ้น
เพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ -
2:09 - 2:12รูม่านตาจะขยาย
ผมรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้น -
2:12 - 2:17เอพิเนฟรีนเป็นสิ่งที่กำหนด
ความเป็นความตายของใครหลาย ๆ คน -
2:17 - 2:20มันเป็นเหมือนปาฏิหาริย์เล็ก ๆ
ในกำมือคุณ -
2:21 - 2:25นี่คือโครงสร้างทางเคมีของเอพิเนฟรีน
-
2:26 - 2:28นี่คือหน้าตาของ "เคมีอินทรีย์"
-
2:28 - 2:30มันดูเหมือน เส้นกับตัวอักษร
-
2:31 - 2:33ไม่มีความหมายสำหรับคนทั่วไป
-
2:33 - 2:37ผมอยากจะให้พวกคุณเห็นสิ่งที่ผมเห็น
เมื่อผมมองภาพภาพนั้น -
2:38 - 2:39ผมเห็นวัตถุชิ้นหนึ่ง
-
2:41 - 2:43ที่มีความลึก และมีส่วนที่หมุนได้
-
2:43 - 2:45ขยับได้
-
2:46 - 2:49พวกเราเรียกสิ่งนี้ว่า
สารประกอบ หรือโมเลกุล -
2:49 - 2:54มันประกอบขึ้นมาจาก 26 อะตอม
เชื่อมกันด้วยพันธะเคมี -
2:54 - 3:00การจัดเรียงตัวของอะตอมเหล่านี้
ทำให้เอพิเนฟรีนมีลักษณะเฉพาะ -
3:00 - 3:02แต่ว่าไม่เคยมีใครมองเห็นมันจริง ๆ
-
3:02 - 3:04เพราะว่ามันเล็กมาก
-
3:04 - 3:07ดังนั้นมันจึงเป็นการตีความทางศิลปะ
-
3:07 - 3:09ผมอยากจะให้พวกคุณให้เห็น
ว่ามันเล็กแค่ไหน -
3:11 - 3:15ในหลอดนี้มีสารน้อยกว่าครึ่งมิลลิกรัม
ที่ละลายอยู่ในน้ำ -
3:15 - 3:16มีมวลเท่าเม็ดทรายหนึ่งเม็ด
-
3:16 - 3:21เอพิเนฟรีนในหลอดนี้
มีจำนวนโมเลกุลหนึ่งล้านล้านล้านโมเลกุล -
3:21 - 3:23ซึ่งก็คือเลขศูนย์ 18 ตัว
-
3:23 - 3:25เป็นตัวเลขที่ยากที่จะคิดภาพตาม
-
3:25 - 3:28เรามีกันอยู่เจ็ดพันล้านคนบนโลก
-
3:28 - 3:33อาจจะมีดาวสี่แสนล้านดวงในกาแล็กซี
-
3:33 - 3:35นั่นยังไม่เข้าใกล้เลย
-
3:35 - 3:37ถ้าคุณต้องการทราบปริมาณที่แน่ชัด
-
3:37 - 3:40ให้คุณนึกถึงปริมาณเม็ดทรายทุกเม็ด
-
3:40 - 3:44บนชายหาดทุกหาด
ทั้งที่อยู่ใต้มหาสมุทรและทะเลสาบทุกแห่ง -
3:44 - 3:46และย่อขนาดมันลงมาในหลอดนี้
-
3:48 - 3:51เอพิเนฟรีนนั้นเล็กมาก
พวกเราไม่มีทางที่จะมองเห็นมัน -
3:51 - 3:53แม้แต่จะใช้กล้องจุลทรรศน์ก็ตาม
-
3:54 - 3:56แต่พวกเรารู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง
-
3:56 - 3:59เพราะมันแสดงตัวตน
ให้เราเห็นผ่านเครื่องมือที่ซับซ้อน -
3:59 - 4:01ที่มีชื่อสุดแฟนซีว่า
-
4:01 - 4:04"นิวเคลียร์แมกเนติกเรโซแนนซ์
สเปกโทรมิเตอร์" -
4:05 - 4:09ไม่ว่าจะมองเห็นหรือไม่
พวกเรารู้จักโมเลกุลนี้เป็นอย่างดี -
4:09 - 4:11มันเกิดจากอะตอมสี่ชนิดที่แตกต่างกัน
-
4:11 - 4:13ไฮโดรเจน คาร์บอน ออกซิเจน และไนโตรเจน
-
4:13 - 4:15นี่คือสีที่นิยมใช้บ่งบอกแต่ละอะตอม
-
4:15 - 4:19ทุกสิ่งในเอกภพ
ต่างก็เกิดจากทรงกลมเล็ก ๆ นี้ -
4:19 - 4:20ที่เราเรียกว่าอะตอม
-
4:20 - 4:23วัตถุดิบพื้นฐานพวกนี้
มีอยู่ประมาณร้อยชนิด -
4:23 - 4:25พวกมันประกอบมาจาก
อนุภาคพื้นฐานอีกสามชนิด -
4:25 - 4:27ได้แก่โปรตอน นิวตรอน
และอิเล็กตรอน -
4:27 - 4:30พวกเราจัดเรียงอะตอมเหล่านี้ออกมา
เป็นตารางที่คุ้นเคยกันดี -
4:31 - 4:33พวกเราตั้งชื่อและให้เลขประจำตัวแก่มัน
-
4:33 - 4:36ตามที่พวกเรารู้กันดี
ชีวิตไม่ได้ต้องการทั้งหมดนี้ -
4:36 - 4:38แค่ส่วนเล็ก ๆ แค่นั้น
-
4:38 - 4:42และมีอะตอมอยู่สี่ชนิด
ที่โดดเด่นกว่าชนิดอื่น -
4:42 - 4:44ที่เป็นโครงสร้างหลักของชีวิต
-
4:44 - 4:47และพวกมันคือพวกเดียวกับที่อยู่ในเอพิเนฟรีน
-
4:47 - 4:51ไฮโดรเจน คาร์บอน ไนโตรเจน และออกซิเจน
-
4:52 - 4:55สิ่งที่ผมจะบอกคุณต่อไปนี้เป็นหัวใจสำคัญ
-
4:56 - 4:59เมื่ออะตอมเหล่านี้เชื่อมต่อกันเป็นโมเลกุล
-
4:59 - 5:01มันจะเป็นไปตามกฎที่ตั้งไว้
-
5:01 - 5:03ไฮโดรเจนสร้างได้หนึ่งพันธะ
-
5:03 - 5:05ออกซิเจนจะต้องเป็นสองพันธะเสมอ
-
5:05 - 5:07ไนโตรเจนสร้างสามพันธะ
-
5:07 - 5:08และคาร์บอนสร้างได้สี่พันธะ
-
5:09 - 5:10แค่นั้น
-
5:10 - 5:13H O N C -- หนึ่ง สอง สาม สี่
-
5:14 - 5:18ถ้าคุณนับได้ถึงสี่แล้วสะกดผิดเป็น "honk"
-
5:18 - 5:20คุณจะจำได้ไปตลอดชีวิต
-
5:20 - 5:22(เสียงหัวเราะ)
-
5:22 - 5:25เอาล่ะ ตอนนี้เรามีวัตถุดิบสี่ถ้วย
-
5:25 - 5:28เราสามารถนำมันมาสร้างโมเลกุลได้
-
5:29 - 5:31มาเริ่มด้วยเอพิเนฟรีนดีกว่า
-
5:31 - 5:35พันธะที่เชื่อมระหว่างอะตอม
เกิดจากอิเล็กตรอน -
5:36 - 5:39อะตอมใช้อิเล็กตรอนเป็นแขน
ในการจับกับอะตอมข้างๆ -
5:39 - 5:42อิเล็กตรอนสองตัวต่อหนึ่งพันธะ
เหมือนการจับมือ -
5:42 - 5:44และการจับมือมันไม่ถาวร
-
5:44 - 5:46มันสามารถละจากกันเพื่อไปจับกับอะตอมอื่นต่อ
-
5:46 - 5:48นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าปฏิกิริยาเคมี
-
5:48 - 5:51เมื่ออะตอมแลกคู่กัน
เพื่อสร้างโมเลกุลใหม่ -
5:51 - 5:55แกนหลักของเอพิเนฟรีน
ประกอบด้วยคาร์บอนเป็นส่วนมาก -
5:55 - 5:56และนั่นเกิดขึ้นทั่วไป
-
5:56 - 5:59คาร์บอนเป็นวัสดุโครงสร้าง
ที่สิ่งมีชีวิตโปรดปราน -
5:59 - 6:02เพราะว่ามันจับมือกันได้
ในจำนวนที่เหมาะสม -
6:02 - 6:04บวกกับความแข็งแรงในการจับที่พอเหมาะ
-
6:04 - 6:08และนั่นคือเหตุผลที่เรานิยามเคมีอินทรีย์
ว่าเป็นการศึกษาโมเลกุลคาร์บอน -
6:08 - 6:13ถ้าเราสร้างโมเลกุลที่เล็กที่สุด
ที่สามารถคิดได้และเป็นไปตามกฎ -
6:13 - 6:16พวกมันให้ความสำคัญกับกฏ
และพวกมันมีชื่อที่คล้ายกัน -
6:16 - 6:20น้ำ แอมโมเนีย และมีเทน
H2O NH3 และ CH4 -
6:21 - 6:24เราใช้ชื่ออะตอม "ไฮโดรเจน"
"ออกซิเจน" และ "ไนโตรเจน" -
6:24 - 6:26มาใช้กับโมเลกุลทั้งสามชนิด
-
6:26 - 6:29ซึ่งมีสองอะตอมที่เหมือนกัน
-
6:29 - 6:31และพวกมันยังคงเป็นไปตามกฎ
-
6:31 - 6:33เนื่องจากมีหนึ่ง สอง และสามพันธะ
ภายในโมเลกุลของพวกมัน -
6:33 - 6:35นั่นคือสาเหตุที่เรียกออกซิเจนว่า O2
-
6:36 - 6:38ผมจะแสดงการสันดาปให้พวกคุณดู
-
6:39 - 6:42นี่คือคาร์บอนไดออกไซด์ CO2
-
6:42 - 6:47วางน้ำและออกซิเจนไว้ข้างบนมันอีกที
ส่วนข้าง ๆ ให้เป็นเชื้อเพลิง -
6:47 - 6:49เชื้อเพลิงพวกนี้ประกอบด้วย
ไฮโดรเจนและคาร์บอน -
6:49 - 6:52นี่คือที่มาของชื่อไฮโดรคาร์บอน
มาจากความสร้างสรรค์ล้วน ๆ -
6:52 - 6:53(เสียงหัวเราะ)
-
6:53 - 6:55ดังนั้นเมื่อพวกมันชนกับโมเลกุลออกซิเจน
-
6:55 - 7:00เหมือนกับที่เกิดในเครื่องยนต์
หรือเตาบาร์บีคิวของคุณ -
7:00 - 7:02พวกมันจะปลดปล่อยพลังงานและรวมตัวกันใหม่
-
7:02 - 7:05คาร์บอนทุก ๆ อะตอมจะลงเอยด้วย
การเป็นศูนย์กลางให้กับโมเลกุล CO2 -
7:05 - 7:06คอยจับแขนออกซิเจนสองตัว
-
7:06 - 7:09และไฮโดรเจนทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของน้ำ
-
7:09 - 7:11และมันเป็นไปตามกฎทุกอย่าง
-
7:11 - 7:12ไม่มีข้อยกเว้น
-
7:12 - 7:15แม้ว่าจะเป็นโมเลกุล
ที่มีขนาดใหญ่แค่ไหนก็ตาม -
7:15 - 7:16เช่นเดียวกับสามตัวนี้
-
7:17 - 7:20นี่คือวิตามินที่พวกเรารู้จัก
-
7:20 - 7:21วางอยู่ข้าง ๆ ยาขนานเอกของพวกเรา
-
7:21 - 7:23(เสียงหัวเราะ)
-
7:23 - 7:24ความเป็นมาของมอร์ฟีน
-
7:24 - 7:27เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่สำคัญที่สุด
ในประวัติศาสตร์การแพทย์ -
7:27 - 7:29มันเป็นยาตัวแแรก
ที่เอาชนะความเจ็บปวดทางกายได้ -
7:29 - 7:31ทุก ๆ โมเลกุลมีความเป็นมา
-
7:31 - 7:33และล้วนได้รับการเผยแพร่
-
7:33 - 7:36มันถูกบันทึกโดยนักวิทยาศาสตร์
และอ่านโดยนักวิทยาศาสตร์ -
7:36 - 7:40เราจึงมีข้อมูลที่พร้อมใช้งานมากมาย
จนวาดลงบนกระดาษได้อย่างรวดเร็ว -
7:40 - 7:41ซึ่งผมต้องสอนพวกคุณว่าควรทำยังไง
-
7:41 - 7:44เริ่มจากวางเอพิเนฟรีนลงบนกระดาษ
-
7:44 - 7:47จากนั้นแทนที่ลูกกลม ๆ ทั้งหมดด้วยตัวอักษร
-
7:47 - 7:49และจากพันธะที่เคยวางตามแนวระนาบกระดาษ
-
7:49 - 7:51ได้เปลี่ยนเป็นเส้นธรรมดา ๆ
-
7:51 - 7:53พันธะที่เคยชี้ไปข้างหน้าและหลัง
-
7:53 - 7:55ได้กลายเป็นสามเหลี่ยมเล็ก ๆ
-
7:55 - 7:57ทั้งแบบทึบและแบบประ
เพื่อบอกความลึก -
7:57 - 8:00เราไม่วาดคาร์บอนลงไป
-
8:00 - 8:03ซ่อนมันไว้ดีกว่า
เพื่อที่จะได้ประหยัดเวลา -
8:03 - 8:06มุมของพันธะบ่งชี้ชัดว่าเป็นคาร์บอน
-
8:06 - 8:10เราไม่เขียนอะตอมไฮโดรเจน
ที่ทำพันธะกับคาร์บอน -
8:10 - 8:12เรารู้ว่ามันอยู่ตรงนั้น
-
8:12 - 8:15เมื่อไรก็ตามที่คาร์บอนหนึ่งตัว
มีน้อยกว่าสี่พันธะ -
8:16 - 8:19สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำคือ
พันธะระหว่าง OH และ NH -
8:19 - 8:22แค่เอามันออกไปทำให้ดูสะอาดตาขึ้น
-
8:22 - 8:23และทั้งหมดก็มีแค่นี้
-
8:23 - 8:26นี่คือวิธีการวาดโมเลกุล
ให้ได้อย่างมืออาชีพ -
8:26 - 8:29นี่คือสิ่งที่พวกคุณเห็นในวิกิพีเดีย
-
8:30 - 8:35มันอาจจะใช้เวลาในการฝึกสักหน่อย
แต่ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ -
8:35 - 8:38แต่สำหรับวันนี้ นี่คือเอพิเนฟรีน
-
8:38 - 8:41หรืออาจเรียกว่าอะดรีนาลีน
มันคือตัวเดียวกัน -
8:41 - 8:42ที่ถูกสร้างขึ้นจากต่อมหมวกไต
-
8:42 - 8:45โมเลกุลนี้กำลังแหวกว่าย
อยู่ในร่างกายของทุกคน -
8:45 - 8:47มันเป็นโมเลกุลธรรมชาติ
-
8:47 - 8:52เอพิเพนแค่เพิ่มมันเข้าไปอีกล้านล้านล้าน
โมเลกุลในเวลารวดเร็ว -
8:52 - 8:53(เสียงหัวเราะ)
-
8:53 - 8:56พวกเราสามารถสกัดเอพิเนฟรีน
-
8:56 - 9:00จากต่อมหมวกไตของแกะหรือวัว
-
9:00 - 9:02แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ได้มันมา
-
9:02 - 9:05เราสร้างมันขึ้นมาในโรงงาน
-
9:05 - 9:11โดยการต่อโมเลกุลเล็ก ๆ
ที่ส่วนมากได้มาจากปิโตรเลียมเข้าด้วยกัน -
9:11 - 9:13และนี่ได้มาจากการสังเคราะห์ 100 เปอร์เซ็นต์
-
9:13 - 9:18คำว่า "สังเคราะห์"
อาจทำให้บางคนรู้สึกไม่สบายใจ -
9:18 - 9:21ไม่เหมือนกับคำว่า "ธรรมชาติ"
ที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย -
9:21 - 9:25แต่โมเลกุลทั้งสองแบบนี้
แทบแยกกันไม่ออกเลย -
9:26 - 9:30เราไม่ได้พูดถึงรถสองคันที่ออกมาจาก
โรงงานประกอบ -
9:30 - 9:32รถยนต์อาจมีรอยขีดข่วนได้บ้าง
-
9:32 - 9:34แต่คุณขีดข่วนอะตอมไม่ได้
-
9:34 - 9:39โมเลกุลคู่นี้เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้วยเหตุผลในเชิงคณิตสาสตร์ -
9:39 - 9:42ในระดับอะตอม
คณิตศาสตร์ใช้พิสูจน์ได้จริง -
9:42 - 9:46ไม่มีใครทราบประวัติความเป็นมา
ของโมเลกุลเอพิเนฟรีน -
9:46 - 9:48มันเป็นตามที่เห็นทุกวันนี้
-
9:48 - 9:50และเมื่อคุณได้รับมันแล้ว
-
9:50 - 9:54ไม่ว่าคำว่า "ธรรมชาติ" หรือ "สังเคราะห์"
ก็ไม่สำคัญทั้งนั้น -
9:54 - 9:58ธรรมชาติเองก็สังเคราะห์มันขึ้นมา
ในแบบเดียวกับที่เราทำ -
9:58 - 10:00เว้นแต่ว่าธรรมชาติถนัดในเรื่องนี้
ดีกว่าพวกเรา -
10:00 - 10:02ก่อนที่จะมีสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้
-
10:02 - 10:05โมเลกุลทั้งหมดนั้นมีขนาดเล็กและเรียบง่าย
-
10:05 - 10:07คาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ ไนโตรเจน
-
10:08 - 10:09แค่สิ่งเรียบง่าย
-
10:09 - 10:11การเกิดของสิ่งมีชีวิตทำให้มันเปลี่ยนไป
-
10:11 - 10:14ชีวิตก่อให้เกิดโรงงานสังเคราะห์ทางชีวภาพ
ที่หล่อเลี้ยงด้วยแสงอาทิตย์ -
10:14 - 10:18และภายในโรงงานแห่งนั้น
คือโมเลกุลเล็ก ๆ ที่พุ่งชนกัน -
10:18 - 10:21และกลายเป็นโมเลกุลที่ใหญ่ขึ้น
คาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดนิวคลีอิก -
10:21 - 10:24เป็นการเพื่มจำนวนของการสร้างที่งดงาม
-
10:26 - 10:28ธรรมชาติคือบรรพบุรุษของนักเคมีอินทรีย์
-
10:29 - 10:32ผลงานของเธอช่วยเติมเต็มท้องฟ้า
ด้วยแก๊สออกซิเจนที่เราใช้หายใจ -
10:32 - 10:34ออกซิเจนที่มีพลังงานมากมายนี้
-
10:36 - 10:39โมเลกุลทั้งหมดนี้
จะรวมกันกับพลังงานของดวงอาทิตย์ -
10:39 - 10:41มันกักพลังงานราวกับแบตเตอรี่
-
10:41 - 10:44ฉะนั้นธรรมชาติทำมาจากสารเคมี
-
10:44 - 10:47บางที พวกคุณอาจช่วยผมกอบกู้คำว่า
"สารเคมี" กลับมา -
10:47 - 10:50เพราะว่ามันถูกขโมยไปจากพวกเรา
-
10:50 - 10:52มันไม่ได้เป็นพิษ และไม่ได้มีอันตราย
-
10:52 - 10:55มันไม่ได้สื่อว่าเป็นสิ่งของปลอม
หรือไม่เป็นธรรมชาติ -
10:55 - 10:57มันก็คือ
-
10:57 - 10:59"สิ่งของทั่วไป" โอเคไหมครับ
-
10:59 - 11:00(เสียงหัวเราะ)
-
11:00 - 11:04มันไม่มีถ่านก้อนไหนปลอดสารเคมี
-
11:04 - 11:05มันน่าตลก
-
11:05 - 11:06(เสียงหัวเราะ)
-
11:06 - 11:08และผมจะขอพูดอีกประโยค
-
11:09 - 11:12คำว่า "ธรรมชาติ" ไม่ได้แปลว่า "ปลอดภัย"
-
11:12 - 11:14เรื่องนี้คุณก็รู้
-
11:14 - 11:19มีสารเคมีจากธรรมชาติเยอะแยะที่เป็นพิษ
-
11:19 - 11:21และอีกมากมายที่รสชาติอร่อย
-
11:21 - 11:23และอาจจะทั้งคู่
-
11:23 - 11:25(เสียงหัวเราะ)
-
11:25 - 11:27ทั้งเป็นพิษและอร่อย
-
11:27 - 11:30ทางเดียวที่จะบอกว่าสิ่งนั้นอันตรายหรือไม่
-
11:30 - 11:32คือต้องลอง
-
11:32 - 11:34และผมไม่ได้หมายถึงให้พวกคุณลอง
-
11:34 - 11:36เรามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องความเป็นพิษ
-
11:36 - 11:38พวกเขาถูกฝึกมาเป็นอย่างดี
-
11:38 - 11:41คุณควรจะเชื่อใจพวกเขาอย่างที่ผมเชื่อ
-
11:41 - 11:43โมเลกุลทางธรรมชาติมีอยู่ทั่วไป
-
11:43 - 11:47รวมไปถึงพวกที่สลายตัวไปเป็นสารสีดำ
ที่เรียกว่าปิโตรเลียม -
11:47 - 11:50เรากลั่นโมเลกุลเหล่านี้
-
11:50 - 11:53พวกมันไม่ได้มีอะไรที่ผิดธรรมชาติ
พวกเราแค่ทำให้บริสุทธิ์ -
11:54 - 11:57ตอนนี้พวกเราพึ่งพามันเพื่อพลังงาน
-
11:57 - 12:01นั่นหมายความว่า
ทุก ๆ อะตอมคาร์บอนจะถูกเปลี่ยนไปเป็น CO2 -
12:01 - 12:04ซึ่งคือแก๊สเรือนกระจก
ที่ทำลายสภาพอากาศของเราอยู่ตอนนี้ -
12:04 - 12:08บางทีความรู้ทางเคมี
ก็ทำให้การยอมรับความจริงเรื่องนี้ง่ายขึ้น -
12:08 - 12:10สำหรับบางคน ผมก็ไม่ทราบ
-
12:10 - 12:13แต่โมเลกุลเหล่านี้ ไม่ใช่แค่พลังงานฟอสซิล
-
12:13 - 12:15พวกมันยังเป็นวัตถุดิบที่ถูกที่สุด
-
12:15 - 12:18ในการนำมาทำอะไรบางอย่างที่เรียกว่า
การสังเคราะห์ -
12:18 - 12:21พวกเราเอามันมาใช้ราวกับเป็นชิ้นส่วนเลโก้
-
12:21 - 12:25พวกเราเรียนรู้ว่าจะต่อมันเข้าด้วยกัน
หรือแยกมันออกจากกันยังไงภายใต้การควบคุม -
12:25 - 12:27ผมลองทำมาแล้วหลายรอบ
-
12:27 - 12:29และยังคิดว่ามัน
เป็นเรื่องน่าทึ่งที่เป็นไปได้ -
12:29 - 12:33สิ่งที่พวกเราทำเป็นเหมือนการต่อเลโก้
-
12:33 - 12:36ซึ่งเราเทตัวต่อหลายกล่องลงในเครื่องซักผ้า
-
12:36 - 12:37แต่มันได้ผล
-
12:37 - 12:41เราสามารถสร้างโมเลกุลเหมือนกับที่
ธรรมชาติสร้างได้เป๊ะ ๆ อย่างเอพิเนฟรีน -
12:41 - 12:45เรายังสร้างชิ้นงานของเราเองได้
จากความกระเสือกกระสน เหมือนสองตัวนี้ -
12:45 - 12:50หนึ่งในสองตัวนี้ช่วยหยุดอาการของ
โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง -
12:50 - 12:53อีกตัวหนึ่งช่วยรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ที่เกิดจากเซลล์ที -
12:53 - 12:58เป็นโมเลกุลที่มีขนาดและรูปร่างเข้ากันเป๊ะ
เหมือนกับการไขกุญแจ -
12:58 - 13:01และเมื่อมันประกบพอดี
มันรบกวนสมบัติทางเคมีของโรค -
13:01 - 13:03นั่นคือการทำงานของยา
-
13:04 - 13:05ไม่ว่าจะธรรมชาติหรือสังเคราะห์
-
13:05 - 13:09พวกมันล้วนเป็นโมเลกุลที่เกิดขึ้นเพื่อ
ไปประกบเข้ากับอะไรสักอย่างพอดี -
13:09 - 13:11แต่ธรรมชาติถนัดเรื่องนี้มากกว่าพวกเรา
-
13:11 - 13:14สิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นจึงน่าประทับใจกว่า
-
13:14 - 13:15อย่างเช่นตัวนี้
-
13:15 - 13:17นี่เรียกว่าแวนโคมัยซิน
-
13:17 - 13:20ธรรมชาติมอบคลอรีนสองอะตอม
ให้กับเจ้ายักษ์ใหญ่ตัวนี้ -
13:20 - 13:22ประดับราวกับเป็นต่างหู
-
13:22 - 13:27เราค้นพบแวนโคมัยซินจากบ่อโคลนในป่า
ที่บอร์เนียวในปี ค.ศ. 1953 -
13:27 - 13:29มันเกิดจากแบคทีเรีย
-
13:30 - 13:34เราไม่สามารถสังเคราะห์สิ่งนี้ได้
มันต้องใช้เงินมหาศาล -
13:34 - 13:38มันซับซ้อนเกินความสามารถของพวกเรา
แต่พวกเราสามารถเก็บเกี่ยวมันจากธรรมชาติได้ -
13:38 - 13:42และพวกเราก็ทำ เพราะว่ามันคือ
หนึ่งในยาปฏิชีวนะที่ทรงพลังที่สุด -
13:42 - 13:45และมีรายงานโมเลกุลใหม่ ๆ ในวารสารทุก ๆ วัน
-
13:45 - 13:49พวกเราสร้างมันขึ้นมา หรือค้นพบมัน
ในทุกซอกทุกมุมของดาวดวงนี้ -
13:50 - 13:52และนั่นคือที่ที่เราได้ยามา
-
13:52 - 13:54และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมหมอถึงมีพลังวิเศษ
-
13:54 - 13:55(เสียงหัวเราะ)
-
13:55 - 13:58เพื่อรักษาโรคติดเชื้อและอื่น ๆ
-
13:58 - 14:02การเป็นหมอทุกวันนี้เหมือนกับการเป็นอัศวิน
ในชุดเกราะเปล่งประกาย -
14:02 - 14:05พวกเขาสู้ในสนามรบด้วยความกล้าและใจเย็น
-
14:05 - 14:07พร้อมด้วยอาวุธที่พรั่งพร้อม
-
14:07 - 14:11อย่าได้ลืมบทบาทของช่างตีเหล็กในรูปนี้ไป
-
14:11 - 14:14ถ้าไม่มีช่างตีเหล็ก
หลาย ๆ อย่างอาจดูแตกต่างไป -
14:14 - 14:16(เสียงหัวเราะ)
-
14:16 - 14:19แต่วิทยาศาสตร์แขนงนี้ไปไกลกว่าเรื่องหยูกยา
-
14:19 - 14:22มันคือน้ำมัน ตัวทำละลาย สารให้รสชาติ
-
14:22 - 14:25สิ่งทอ และพลาสติกทั้งหมด
-
14:25 - 14:27เบาะที่พวกคุณนั่งทับอยู่ตอนนี้
-
14:27 - 14:30ทั้งหมดล้วนผลิตขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์
และเกือบทั้งหมดเป็นคาร์บอน -
14:30 - 14:32ทำให้ทั้งหมดเป็นเคมีอินทรีย์
-
14:32 - 14:34นี่คือความล้ำหน้าทางวิทยาศาสตร์
-
14:34 - 14:36ผมมีสิ่งที่ยังไม่ได้พูดถึงอีกมากในวันนี้
-
14:36 - 14:39ฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ และอะตอมอื่น ๆ
-
14:39 - 14:42ทำไมพวกมันถึงทำพันธะในแบบที่ทำกันอยู่
-
14:42 - 14:43ความสมมาตร
-
14:43 - 14:45อิเล็กตรอนที่ไม่สร้างพันธะ
-
14:45 - 14:47อะตอมที่มีประจุ
-
14:47 - 14:50ปฏิกิริยาและกลไกของมัน
และอื่น ๆ อีกมากมาย -
14:50 - 14:52การสังเคราะห์ใช้เวลานานมากในการเรียนรู้
-
14:52 - 14:55แต่ผมไม่ได้มาที่นี่
เพื่อสอนเคมีอินทรีย์แก่พวกคุณ -
14:55 - 14:57ผมแค่ต้องการแสดงให้เห็น
-
14:57 - 14:59ผมได้รับความช่วยเหลืออย่างมากในวันนี้
-
14:59 - 15:02จากชายหนุ่มที่ชื่อเวสตัน เดอร์แลนด์
-
15:02 - 15:03และคุณเจอเขาแล้ว
-
15:04 - 15:07เขาเป็นนักศึกษาปริญญาตรี สาขาเคมี
-
15:07 - 15:10และเขาเหมือนจะเก่งในด้าน
คอมพิวเตอร์กราฟิกอีกด้วย -
15:10 - 15:12(เสียงหัวเราะ)
-
15:12 - 15:16เวสตันออกแบบโมเลกุลที่เคลื่อนไหวทั้งหมด
-
15:16 - 15:17ที่คุณเห็นในวันนี้
-
15:17 - 15:20เขาและผมอยากสาธิตโดยใช้กราฟิกแบบนี้เพื่อ
-
15:20 - 15:23ช่วยเหลือคนที่พูดเกี่ยวกับ
วิทยาศาสตร์อันซับซ้อนนี้ -
15:23 - 15:29เป้าหมายของพวกเราคือต้องการให้พวกคุณเห็น
ว่าเคมีอินทรีย์ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว -
15:29 - 15:32แกนหลักของมันเป็นเหมือนหน้าต่าง
-
15:32 - 15:36ที่ทำให้โลกธรรมชาติอันงดงาม
ดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น -
15:36 - 15:38ขอบคุณครับ
-
15:38 - 15:41(เสียงปรบมือ)
- Title:
- หลักสูตรเคมีอินทรีย์ฉบับเร่งรัด
- Speaker:
- ยากอบ มากอลัน (Jakob Magolan)
- Description:
-
ยากอบ มากอลันมาเพื่อเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อเคมีอินทรีย์ด้วยการบรรยายที่เข้าถึงง่าย พร้อมกับกราฟิกที่โดดเด่น เขาสอนพื้นฐานซึ่งช่วยทำลายภาพลักษณ์ที่มีร่วมกันว่าเคมีอินทรีย์เป็นสิ่งที่น่ากลัว
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 15:53
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for A crash course in organic chemistry | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for A crash course in organic chemistry | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon accepted Thai subtitles for A crash course in organic chemistry | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for A crash course in organic chemistry | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for A crash course in organic chemistry | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for A crash course in organic chemistry | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for A crash course in organic chemistry | |
![]() |
Supakij Patthanapitoon edited Thai subtitles for A crash course in organic chemistry |