< Return to Video

คนไทยเริ่มกินน้ำแข็งเมื่อไหร่ ขนมใส่น้ำแข็งเป็นขนมไทยไหม? | Point of View x Wall's

  • 0:00 - 0:03
    เมืองไทยเป็นเมืองร้อน สมัยโบราณไทยไม่มีน้ำแข็ง
  • 0:03 - 0:07
    แล้วทำไม ขนมไทยหลายๆ ชนิดถึงเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ใส่น้ำแข็งกันล่ะ?
  • 0:07 - 0:08
    สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
  • 0:08 - 0:12
    บอกเลยนะคะว่า คลิปวันนี้ วิวตั้งตามใจตัวเองสุดๆ เลยค่ะ
  • 0:12 - 0:17
    เพราะว่าวันนี้วิวอยากจะมาชวนทุกคนคุยเรื่องราวเกี่ยวกับขนมไทยนะคะ
  • 0:17 - 0:21
    โดยเฉพาะขนมต่างๆ ที่มันมีการใส่เกล็ดน้ำแข็ง ใส่อะไรลงไปเนี่ยนะ
  • 0:21 - 0:24
    แน่นอนว่า อือหือ บิงซูก็บิงซูเถอะค่ะ
  • 0:24 - 0:25
    เจอขนมไทยเข้าไป
  • 0:25 - 0:28
    เวลาร้อนๆ เนี่ยนะ ฟินอย่าบอกใครเลยทีเดียวนะคะ
  • 0:28 - 0:32
    เรียกได้ว่า เนื้อหาวันนี้นะคะ เราจะมาคุยเรื่องขนมไทยกันค่ะว่า
  • 0:32 - 0:36
    เออ พูดถึงสมัยโบราณเนี่ย เราก็รู้กันดีนะว่า เมืองไทยเป็นเมืองร้อน
  • 0:36 - 0:37
    น่าจะไม่มีน้ำแข็งแน่ๆ นะคะ
  • 0:37 - 0:41
    แล้วทำไมขนมไทยหลายๆ ชนิดเนี่ย ถึงมีการใส่น้ำแข็งลงไป?
  • 0:41 - 0:43
    ถึงเป็นเกล็ดน้ำแข็งอะไรต่างๆ นะคะ?
  • 0:43 - 0:45
    มันเริ่มขึ้นสมัยไหน?
  • 0:45 - 0:48
    มีน้ำแข็งเข้ามาที่ประเทศไทยครั้งแรกในสมัยไหนค่ะ?
  • 0:48 - 0:50
    และที่สำคัญนะคะ วันนี้วิวไม่ได้มาคนเดียวค่ะ
  • 0:50 - 0:54
    แต่มากับแขกรับเชิญอีกหนึ่งท่านนะที่หลายๆ คนน่าจะคิดถึงแน่ๆ เลย
  • 0:54 - 0:56
    แขกรับเชิญคนนั้นนะคะ ก็คือ
  • 0:56 - 1:00
    สวัสดีค่ะ พ้อยท์เองค่ะ เสียใจด้วยนะคะสำหรับใครที่คาดหวังว่า
  • 1:00 - 1:01
    มองมาแล้วจะเห็นภูเขาค่ะ
  • 1:01 - 1:04
    วันนี้นะคะ พ้อยท์นะคะ มาคนเดียวค่ะ อ็อฟไม่ได้มาด้วย
  • 1:04 - 1:06
    ค่าตัวแพง ขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ
  • 1:06 - 1:07
    เราประหยัดงบแขกรับเชิญนะคะ
  • 1:07 - 1:10
    เอาล่ะ ตอนนี้เราเวิ่นนอกเรื่องกันมาพอสมควรแล้วค่ะ
  • 1:10 - 1:13
    พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระกันหรือยังคะ?
  • 1:13 - 1:15
    ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็ไปฟังกันเลยค่ะ
  • 1:18 - 1:20
    เอาจริงๆ นะ พูดถึงขนมไทย
  • 1:20 - 1:21
    ขนมไทยคือ อะไร?
  • 1:21 - 1:25
    อ่ะ คิดว่า ขนมไทยในความคิดของตัวเองเนี่ย นึกถึงขนมประเภทไหน?
  • 1:25 - 1:27
    พูดถึงขนมไทยก็...
  • 1:27 - 1:30
    อ่ะ นึกถึงง่ายๆ ล่ะกัน ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง?
  • 1:30 - 1:35
    ใช่ไหม? แต่ว่า ขนมพวกนี้เราก็คุ้นเคยกันดีนะคะ จากคลิปก่อนๆ ที่เราเคยทำ
  • 1:35 - 1:39
    หรือว่าจากบทเรียนต่างๆ ว่า ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบเนี่ยนะ
  • 1:39 - 1:43
    มันเป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลมากจากโปรตุเกส ใช่ไหมคะ?
  • 1:43 - 1:45
    ก่อนที่จะมีการพัฒนาสูตรนู่นนี่นั่น
  • 1:45 - 1:49
    จนเข้ากับลิ้นคนไทย แล้วก็กลายเป็นขนมไทยในที่สุด ใช่ไหมคะ?
  • 1:49 - 1:51
    อันนี้ค่อนข้างชัดว่า เออ มันเป็นขนมไทยแหละ
  • 1:51 - 1:53
    มันผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว
  • 1:53 - 1:55
    มีการวิวัฒนาการอะไรต่างๆ
  • 1:55 - 1:56
    แต่ขนมอีกประเภทนึงเนี่ย
  • 1:56 - 2:00
    เป็นขนมที่ฟังดูเผินๆ ปัจจุบันนี้เราก็รู้สึกว่า
  • 2:00 - 2:01
    เฮ้ย มันเป็นขนมไทยนี่แหละ
  • 2:01 - 2:03
    แต่พอไปดูรายละเอียดจริงๆ เราจะรู้สึกว่า
  • 2:03 - 2:05
    เอ๊ะ มันเป็นขนมไทยจริงเหรอนะคะ?
  • 2:05 - 2:09
    ขนมพวกนี้คือ ขนมที่แบบมีการเอามากินแบบเย็น
  • 2:09 - 2:12
    บางทีก็มีการแช่ให้น้ำกะทิเนี่ย กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
  • 2:12 - 2:15
    หรือว่ามีการไสน้ำแข็งใส่ลงไปนะคะ
  • 2:15 - 2:17
    เอ๊ ขนมพวกนี้มันเป็นขนมไทยจริงหรือเปล่า?
  • 2:17 - 2:20
    ยกตัวอย่างง่ายๆ สาคูแคนตาลูป คิดว่า เป็นขนมไทยไหม?
  • 2:20 - 2:21
    เอ๊า ก็เป็นสิ
  • 2:21 - 2:24
    เวลาที่ไปกินข้าวตามร้านอาหารไทยเนี่ย
  • 2:24 - 2:28
    เปิดไปหน้าของหวานทีไร ก็เจอสาคูแตนตาลูปประจำเลยนะ
  • 2:28 - 2:32
    หลายคนฟังปุ๊บไม่ปฏิเสธเลยค่ะว่า สาคูแคนตาลูปเนี่ยเป็นขนมไทย
  • 2:32 - 2:34
    แต่ลองมาดูสาคูแคนตาลูปกันดีๆ สิคะ
  • 2:34 - 2:38
    เราไปพูดถึงแค่ คำว่า แคนตาลูป ก่อนก็พอ
  • 2:38 - 2:39
    แคนตาลูปเนี่ยเป็นแตงจากที่ไหน?
  • 2:39 - 2:43
    แคนตาลูปเนี่ยนะคะ เป็นแตงที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดียค่ะ
  • 2:43 - 2:46
    แล้วก็มีการนำไปปลูกที่เมืองแถวๆ โรมนะคะ
  • 2:46 - 2:48
    ชื่อเมือง คันตาลูโป
  • 2:48 - 2:51
    อ่ะ พอไปอยู่ที่เมืองคันตาลูโป ก็เกิดมีชื่อเสียงขึ้นมา
  • 2:51 - 2:55
    คนก็เลยไปเรียกกันว่า อ่อ แตงจากเมืองคันตาลูโปๆ
  • 2:55 - 2:58
    พอแพร่กระจายเข้าไปถึงอังกฤษ
  • 2:58 - 3:01
    ไปอยู่ในภาษาอังกฤษ ก็ดันเรียกเพี้ยนกันอีกค่ะว่า แคนตาลูป
  • 3:01 - 3:05
    ดังนั้นนะคะ แคนตาลูปนี่ แค่ชื่อก็ไม่มีความเป็นไทยแล้วค่ะ
  • 3:05 - 3:06
    แล้วมาอยู่ในขนมไทยได้ยังไง? ถูกไหม?
  • 3:06 - 3:07
    เออ จริงด้วย
  • 3:07 - 3:10
    มานั่งคิดดีๆ นะ บางที่ที่ไปสั่งกินเนี่ย
  • 3:10 - 3:12
    ก็เป็นสาคูแคนตาลูปแบบร้อน
  • 3:12 - 3:14
    บางที่มันก็เป็นสาคูแคนตาลูปแบบเย็น
  • 3:14 - 3:16
    คือไอ้แบบร้อนนี่เข้าใจได้นะ
  • 3:16 - 3:19
    แต่ว่า แบบเย็นเนี่ย ที่มันแบบเป็นเกล็ดน้ำแข็งเลยอ่ะ
  • 3:19 - 3:21
    แล้วประเทศอากาศร้อนๆ แบบไทยเรา
  • 3:21 - 3:24
    จะไปมีขนมที่มันเป็นเกล็ดน้ำแข็งอย่างนั้นได้ยังไงอ่ะ?
  • 3:24 - 3:27
    หรืออย่างอีกอย่างนึงนะ ที่เป็นของโปรดของเราสองคนเลยใช่ไหม?
  • 3:27 - 3:29
    นั่นก็คือ ปังนมเย็นนะคะ
  • 3:29 - 3:30
    ใช่ เราสองคนก็
  • 3:30 - 3:33
    ก็เราสองคนก็ชอบอะไรเหมือนกันน่ะนะ
  • 3:33 - 3:34
    กลับมาพูดถึงปังนมเย็นกันดีกว่า
  • 3:34 - 3:37
    ปังนมเย็นนะคะ เป็นขนมไทยหรือเปล่า?
  • 3:37 - 3:40
    หลายคนฟังปุ๊บก็ เอ้า ขนมไทยสิ ปังนมเย็น
  • 3:40 - 3:41
    ฮู้ หน้าตาดูไท้ไทย
  • 3:41 - 3:44
    แต่ในปังนมเย็นเนี่ย เกล็ดน้ำแข็งมาเต็มขนาดนี้
  • 3:44 - 3:47
    เอ๊ คนไทยสมัยโบราณเรากินน้ำแข็งด้วยเหรอ?
  • 3:47 - 3:49
    กินตั้งแต่เมื่อไหร่? อะไร? ยังไง? นะคะ
  • 3:49 - 3:51
    จะบอกว่า บังเอิญมากๆ เลยค่ะ
  • 3:51 - 3:53
    ตอนที่วิวกำลังคิดจะทำคลิปนี้อยู่เนี่ย
  • 3:53 - 3:56
    ก็มีคนส่งคำถามเข้ามานะคะ ใน #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด
  • 3:56 - 3:59
    ที่เราเนี่ยมีไว้ตอบคำถามกันค่ะ
  • 3:59 - 4:02
    ซึ่งคุณคนนี้ ขอโทษจริงๆ วิวอ่านชื่อไม่ออกนะคะ
  • 4:02 - 4:04
    เค้าส่งคำถามเข้ามาได้น่าสนใจมาก
  • 4:04 - 4:09
    สรุปใจความง่ายๆ คือถามว่า ชาวไทยเราเนี่ย รู้จักน้ำแข็งเมื่อไหร่?
  • 4:09 - 4:11
    น้ำแข็งเข้ามาที่ประเทศไทยเมื่อไหร่นะคะ?
  • 4:11 - 4:15
    ดังนั้นไหนๆ ก็ไหนๆ วิวขออนุญาตรวมคำถามของเค้ากับคำถามของวิวเนี่ย
  • 4:15 - 4:18
    เข้าเป็นคลิปวิดีโอนี้ คลิปวิดีโอเดียวกันเลยค่ะ
  • 4:18 - 4:20
    วันนี้เราจะมาตอบคำถามกันนะคะว่า
  • 4:20 - 4:24
    สรุปแล้วเนี่ย คนไทยเราเนี่ย เริ่มบริโภคน้ำแข็งกันเมื่อไหร่?
  • 4:24 - 4:28
    แล้วขนมที่เป็นเกร็ดน้ำแข็งต่างๆ มีการใส่น้ำแข็งลงไป
  • 4:28 - 4:30
    อย่างสาคูแคนตาลูป หรือว่าปังนมเย็นเนี่ย
  • 4:30 - 4:32
    นับเป็นขนมไทยไหมนะคะ?
  • 4:32 - 4:34
    ก่อนอื่นนะ ก่อนที่เราจะไปถึงจุดที่ว่า
  • 4:34 - 4:37
    ปังนมเย็นกับสาคูแคนตาลูปเป็นขนมไทยไหมเนี่ย?
  • 4:37 - 4:39
    เรามาเริ่มที่คำถามแรกกันก่อนดีกว่าค่ะ
  • 4:39 - 4:42
    น้ำแข็งเข้ามาที่ประเทศไทยครั้งแรกเมื่อไหร่?
  • 4:42 - 4:44
    อ่ะ มาละ เจ๊แกสาระมาเต็มละค่ะ
  • 4:44 - 4:46
    มา จัดมาเลยๆ เล่ามา
  • 4:46 - 4:49
    อ่ะ ถ้าเราพูดถึงอะไรที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งเนี่ยนะคะ
  • 4:49 - 4:52
    ก็ต้องบอกว่า จริงๆ ความรู้เรื่องเกล็ดน้ำแข็ง หรืออะไรต่างๆ ของคนไทยเนี่ย
  • 4:52 - 4:54
    น่าจะมีมาก่อนหน้านี้แล้วแหละ
  • 4:54 - 4:57
    เพราะว่าประเทศไทยเรา ถึงจะไม่มีหิมะ ถึงจะไม่มีน้ำแข็ง
  • 4:57 - 4:59
    แต่เราก็มีลูกเห็บใช่ไหมคะ?
  • 4:59 - 5:02
    ซึ่งมันก็คือ น้ำแข็งนี่แหละที่ตกลงมาจากฟากฟ้า
  • 5:02 - 5:05
    เท่านั้นยังไม่พอ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเนี่ย
  • 5:05 - 5:09
    ก็มีการเดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสใช่ไหม?
  • 5:09 - 5:14
    ในบันทึกของราชทูตสมัยนั้นก็มีการบันทึกถึงการที่ไปเจอหิมงหิมะอะไรด้วย
  • 5:14 - 5:17
    ดังนั้นเราข้ามไปเรื่องความรู้เรื่องเกี่ยวกับเกล็ดน้ำแข็งนะคะ
  • 5:17 - 5:20
    แต่ถามว่า คนไทยเนี่ย เริ่มบริโภคน้ำแข็งเมื่อไหร่?
  • 5:20 - 5:23
    มีการนำเข้าน้ำแข็งมาที่ไทยครั้งแรกเมื่อไหร่นะคะ?
  • 5:23 - 5:26
    ก็ต้องบอกว่า เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ค่ะ
  • 5:26 - 5:29
    เพราะว่าในช่วงเวลานั้นอ่ะ เป็นช่วงเวลาที่คนไทยเนี่ยนะคะ
  • 5:29 - 5:32
    มีการเดินทางค้าขายกับต่างชาติค่ะ
  • 5:32 - 5:34
    โดยเฉพาะชาติตะวันตกนะคะ
  • 5:34 - 5:37
    ก็มีการเดินทางค้าขายกันอย่างแบบว่า แพร่หลายค่ะ
  • 5:37 - 5:40
    ก็มีการนำสินค้าส่งออก นำเข้าสินค้าอะไรต่างๆ
  • 5:40 - 5:41
    แลกเปลี่ยนกันไปมา
  • 5:41 - 5:44
    แน่นอนว่า น้ำแข็งก็เป็นหนึ่งในสินค้านั้นค่ะ
  • 5:44 - 5:46
    โดยเราสันนิษฐานกันนะคะว่า
  • 5:46 - 5:52
    น้ำแข็งเนี่ย น่าจะเข้ามาที่ประเทศไทยครั้งแรก ช่วงระหว่างปี 2405-2411 ค่ะ
  • 5:52 - 5:54
    ถามว่า ทำไมต้องเป็นตัวเลขนี้?
  • 5:54 - 6:00
    เพราะว่าตัวเลขนี้ 2405 คือปีประสูติของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพค่ะ
  • 6:00 - 6:05
    ส่วน 2411 เนี่ยนะคะ คือปีที่สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตค่ะ
  • 6:05 - 6:09
    เพราะว่า เราเนี่ยสันนิษฐานจากบันทึกในสมัยทรงพระเยาว์นะคะ
  • 6:09 - 6:11
    ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพค่ะว่า
  • 6:11 - 6:13
    เออ น้ำแข็งเข้ามาช่วงเวลานั้น
  • 6:13 - 6:15
    ดังนั้นก็ตีความได้ว่า ประมาณนี้แหละค่ะ
  • 6:15 - 6:18
    ซึ่งตอนนั้นเนี่ย ถามว่า เข้ามาได้ยังไงนะคะ?
  • 6:18 - 6:22
    ก็มากับเรือกลไฟค่ะ ชื่อว่า เรือเจ้าพระยา นะคะ
  • 6:22 - 6:27
    ซึ่งเจ้าของเนี่ย ก็คือ พระภาษีสมบัติบริบูรณ์ค่ะ หรือว่า ยิ้ม พิศลยบุตร นะคะ
  • 6:27 - 6:30
    เอ้า แล้วเอาเข้ามายังไง? สมัยนั้นมีตู้เย็นแล้วเหรอ?
  • 6:30 - 6:32
    ขนน้ำแข็งเข้ามาที่ประเทศไทยเนี่ย
  • 6:32 - 6:34
    แน่นอนนะคะ สมัยนั้นยังไม่มีตู้เย็นค่ะ
  • 6:34 - 6:38
    ดังนั้น เค้าก็ต้องมีวิธีการรักษาความเย็นในแบบของเค้าค่ะ
  • 6:38 - 6:40
    คือตอนนั้นเนี่ย ตอนที่เอาใส่เรือมาเนี่ยนะคะ
  • 6:40 - 6:44
    เค้าเอาใส่มาในหีบไม้ค่ะ แล้วก็เป็นไม้ฉำฉาอ่ะนะ
  • 6:44 - 6:48
    นอกจากนี้ก็จะมีการโรยขี้เลื่อยไว้ค่ะ เพื่อกักเก็บความเย็นนะคะ
  • 6:48 - 6:50
    ส่วนถ้าใครถามว่า แล้วเอาเข้ามาจากไหน?
  • 6:50 - 6:53
    ต้องบอกว่า เอาเข้ามาจากสิงคโปร์ค่ะ
  • 6:53 - 6:56
    โดยจริงๆ แล้วเค้าตีความออกเป็น 2 ทฤษฎีด้วยกันนะคะ
  • 6:56 - 7:00
    ทฤษฎีแรกบอกว่า น่าจะเอามาจากที่ผลิตในสิงคโปร์เลยเนี่ยแหละ
  • 7:00 - 7:03
    เพราะว่ามีการประดิษฐ์เครื่องทำน้ำแข็งที่ประเทศออสเตรเลียนะคะ
  • 7:03 - 7:08
    แต่ว่า เอาจริงๆ เทคโนโลยีสมัยนั้นน่ะ มันไม่ได้แพร่กระจายเร็วเท่าทุกวันนี้
  • 7:08 - 7:12
    ไม่ใช่ว่าแบบ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ออกวันนี้ พรุ่งนี้ขายกันทั่วโลกนะคะ
  • 7:12 - 7:13
    มันต้องค่อยๆ แบบผลิต
  • 7:13 - 7:15
    มีไม่กี่เครื่อง อะไรอย่างนี้
  • 7:15 - 7:17
    ดังนั้นก็เลยมีอีกทฤษฎีนึงค่ะว่า
  • 7:17 - 7:21
    สิงคโปร์เนี่ย อาจจะยังไม่ได้ผลิตน้ำแข็งเองได้ขนาดส่งขายน่ะนะ
  • 7:21 - 7:24
    อาจจะเป็นว่า น้ำแข็งที่มาที่ประเทศไทยเนี่ย
  • 7:24 - 7:26
    นำเข้ามาจากประเทศอื่นอีกต่อนึงนะคะ
  • 7:26 - 7:29
    เป็นประเทศที่มีน้ำแข็ง เป็นเมืองหนาวอะไรอยู่แล้ว
  • 7:29 - 7:31
    เป็นน้ำแข็งธรรมชาติอ่ะนะ
  • 7:31 - 7:32
    ตัดแบ่งมาขายค่ะ
  • 7:32 - 7:37
    แล้วก็ส่งมาที่สิงคโปร์ ก่อนที่สิงคโปร์เนี่ยจะส่งมาขายที่กรุงเทพต่ออีกต่อนึงค่ะ
  • 7:37 - 7:39
    อย่างไรก็ตามนะคะ นึกสภาพสมัยก่อนค่ะ
  • 7:39 - 7:42
    เรือเจ้าพระยาเนี่ย เรือกลไฟเนี่ยนะคะ
  • 7:42 - 7:45
    วิ่งรอบนึงจากกรุงเทพ-สิงคโปร์ สิงคโปร์-กรุงเทพเนี่ย
  • 7:45 - 7:46
    ใช้เวลา 15 วันค่ะ
  • 7:46 - 7:50
    ดังนั้นนะคะ น้ำแข็งในสมัยนั้นก็จะเข้ามาทุก 15 วัน
  • 7:50 - 7:51
    ไม่ได้มีทุกวันน่ะนะ
  • 7:51 - 7:53
    ทีนี้พอปริมาณมันมีน้อยเนี่ย
  • 7:53 - 7:56
    รอบนึงขนมา ก็คงขนมาไม่ได้เยอะหรอกค่ะ
  • 7:56 - 7:57
    ต้องมีสินค้าอื่นด้วยใช่ไหม?
  • 7:57 - 8:01
    ก็เลยทำให้น้ำแข็งเนี่ยนะคะ กลายเป็นของหายาก แล้วก็มีราคาสูงค่ะ
  • 8:01 - 8:04
    คนที่จะได้กินน้ำแข็งนะ ก็เลยต้องเป็น ชนชั้นสูงค่ะ
  • 8:04 - 8:07
    เช่น เจ้านาย แล้วก็ขุนนางในสมัยนั้นนะคะ
  • 8:07 - 8:09
    โห แล้วคนไทยสมัยก่อนไม่แตกตื่นแย่เหรอ?
  • 8:09 - 8:13
    คือ เคยได้ยินสำนวนไทยป้ะ? บอกว่า ปั้นน้ำเป็นตัวอย่างนี้?
  • 8:13 - 8:14
    น้ำแข็งนี่มาเป็นก้อนเลย
  • 8:14 - 8:16
    นึกสภาพคนไม่เคยเห็นน้ำแข็งมาก่อน
  • 8:16 - 8:18
    จะต้องคิดว่า ปั่นน้ำเป็นตัวแน่ๆ เลย
  • 8:18 - 8:20
    แน่นอน ตื่นเต้นนะคะ
  • 8:20 - 8:23
    อย่างเช่นที่ เสฐียรโกเศศ หรือว่า พระยาอนุมานราชธน เนี่ยนะคะ
  • 8:23 - 8:26
    เคยบันทึกไว้ในหนังสือฟื้นความหลังเล่มหนึ่งค่ะ
  • 8:26 - 8:27
    ก็เล่าเนื้อหาประมาณว่า
  • 8:27 - 8:30
    เออ สมัยท่านเด็กๆ เนี่ยนะ มีการนำน้ำแข็งเข้ามาเนี่ย
  • 8:30 - 8:32
    คนตื่นเต้นกันมากนะคะ
  • 8:32 - 8:34
    แล้วบางคนก็ไม่เชื่อว่า มีน้ำแข็ง
  • 8:34 - 8:38
    ถึงขนาดที่ว่า ต้องมีการเอาน้ำแข็งเนี่ยไปตั้งที่ศาลาสหทัยนะคะ
  • 8:38 - 8:41
    แล้วก็ให้คนเนี่ย เข้าไปดูว่า เฮ้ย แก น้ำแข็งมันมีจริงๆ
  • 8:41 - 8:43
    เนี่ย น้ำมันเป็นตัวได้จริงๆ นะ
  • 8:43 - 8:43
    มันเย็นด้วย
  • 8:43 - 8:45
    อูหู้ แปลกจังเลย นะคะ
  • 8:45 - 8:49
    บางคนถึงขนาดที่ต้องขอแบ่งน้ำแข็งนะคะ เอากลับไปที่บ้านเลย
  • 8:49 - 8:51
    เอาไปอวดคนที่บ้านว่า แก น้ำแข็งมีจริง
  • 8:51 - 8:55
    ที่สำคัญนะคะ ความไม่รู้เนี่ยก็มาพร้อมกับความเชื่อแปลกๆ ค่ะ
  • 8:55 - 8:57
    ไม่ว่าจะเป็นบอกว่า เฮ้ยแก อย่าไปกินนะ น้ำแข็งอ่ะ
  • 8:57 - 8:59
    กินแล้วมันปวดฟัน
  • 8:59 - 9:01
    อ่ะ อันนี้อาจจะเป็นว่า เสียวฟันหรือเปล่านะคะ?
  • 9:01 - 9:04
    หรือว่าบอกว่า เฮ้ยแก อย่าไปกินน้ำแข็งนะ มันใส่ยาอะไรก็ไม่รู้
  • 9:04 - 9:08
    ทำให้น้ำเนี่ยขึ้นมาเป็นตัว มันจะต้องเป็นเวทมนตร์แน่ๆ เลย
  • 9:08 - 9:10
    หรืออันนี้นะคะ ที่บอกว่า แก น้ำแข็งมันเป็นของแสลง
  • 9:10 - 9:13
    ถึงมันจะเย็นนะ แต่กินลงไปแล้วมันจะร้อนใน
  • 9:13 - 9:16
    อันนี้ส่วนตัววิวเนี่ยเคยได้ยินเหมือนกันนะ สมัยเด็กๆ ค่ะ
  • 9:16 - 9:19
    อย่างนี้แปลว่า คนก็จะไม่กินน้ำแข็งกันใช่ไหม?
  • 9:19 - 9:20
    เพราะว่าไม่คุ้นเคย
  • 9:20 - 9:22
    ใครบอก? ใครบอกว่า ไม่กินนะคะ
  • 9:22 - 9:23
    กินค่ะ
  • 9:23 - 9:25
    แต่ว่า คนที่กินเนี่ย จะเป็นชนชั้นสูงนะคะ
  • 9:25 - 9:28
    ที่มีตังค์ สามารถซื้อน้ำแข็งมาได้ค่ะ
  • 9:28 - 9:30
    สมัยแรกๆ เลยเนี่ย ชนชั้นสูงนะคะ
  • 9:30 - 9:34
    ก็มีการเอาน้ำแข็งเนี่ยมาเป็นวัตถุดิบในการทำไอศกรีมนะคะ
  • 9:34 - 9:38
    นอกจากนี้ แน่นอนว่า คนไทยเราเนี่ยเป็นคนที่จับเล็กผสมน้อยเก่งอยู่แล้ว
  • 9:38 - 9:40
    ดังนั้นพอน้ำแข็งเข้ามาเนี่ยนะคะ
  • 9:40 - 9:43
    ก็เลยมีการผลิตขึ้นมาเป็นขนม เป็นอาหารอะไร
  • 9:43 - 9:47
    เรียกได้ว่า พัฒนาต่อยอดจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้เลยทีเดียวค่ะ
  • 9:47 - 9:50
    ยกตัวอย่างง่ายๆ อ่ะ อย่างไอ้สาคูแคนตาลูปที่เราคุยกันมาเนี่ย
  • 9:50 - 9:54
    ก็อาจจะเกิดจากการที่ อ่ะ คนไทยเรามีขนมที่เป็นน้ำกะทิ
  • 9:54 - 9:56
    เราก็กินกับแตงอยู่แล้วใช่ไหม?
  • 9:56 - 9:57
    เป็นแตงไทยอะไรอย่างนี้
  • 9:57 - 10:00
    พอมันมีแคนตาลูปเข้ามา เค้าก็อาจจะแบบเปลี่ยน
  • 10:00 - 10:02
    เช่น เฮ้ย แตงไทยไม่ค่อยหอม แคนตาลูปหอมกว่า
  • 10:02 - 10:04
    เอาแคนตาลูปใส่โบ้มลงไป บึ้ม
  • 10:04 - 10:07
    อูว ได้สาคูมาจากภาคใต้ เอาสาคูใส่โบ้มลงไป บึ้ม
  • 10:07 - 10:09
    แล้วก็แบบ หูว มีน้ำแข็งด้วย
  • 10:09 - 10:12
    อุ๊ย เอาน้ำแข็งมาทำให้กะทิมันเย็นดีกว่า
  • 10:12 - 10:14
    กินร้อนๆ มันจะแบบ ไม่เข้ากับอากาศบ้านเรา
  • 10:14 - 10:18
    ก็เลยกลายเป็นสาคูแคนตาลูปแบบทุกวันนี้ ก็เป็นได้เช่นกันค่ะ
  • 10:18 - 10:20
    นี่แหละนะคะ เค้าเรียกว่า การต่อยอดค่ะ
  • 10:20 - 10:22
    คือคนที่ทำอาหารเนี่ย เค้าไม่ได้มาคิดหรอกว่า
  • 10:22 - 10:27
    ฉันกำลังทำขนมไทยอยู่ ขนมนี้จะต้องเป็นวัตถุดิบจากไทยเท่านั้น
  • 10:27 - 10:28
    ไม่ค่ะ คนสมัยนั้นเค้าคิดอะไร?
  • 10:28 - 10:30
    เค้าคิดแค่ว่า อันนี้อร่อยๆๆ
  • 10:30 - 10:33
    เอ้า เอามารวมกัน บึ้ม ออกมาเป็นอาหารชนิดใหม่ค่ะ
  • 10:33 - 10:36
    หรืออีกอย่างที่น่าสนใจกว่านั้นนะ คือที่มาของปังนมเย็นค่ะ
  • 10:36 - 10:40
    ต้องบอกว่า ปังนมเย็นเนี่ยมีวิวัฒนาการของตัวเองที่น่าสนใจเหมือนกันนะคะ
  • 10:40 - 10:42
    ไหน น่าสนใจยังไง?
  • 10:42 - 10:44
    โม้มาขนาดนี้ ไหนเล่าให้คนดูฟังซิ
  • 10:44 - 10:47
    คือสมัยก่อนเนี่ย ปังนมเย็นไม่ได้ชื่อว่า ปังนมเย็นค่ะ
  • 10:47 - 10:48
    แต่สันนิษฐานนะ อันนี้วิวสันนิษฐานว่า
  • 10:48 - 10:52
    ปังนมเย็นเนี่ย น่าจะวิวัฒนาการมาจากน้ำแข็งไสค่ะ
  • 10:52 - 10:55
    และมันไม่ใช่ว่าแบบ น้ำแข็งไสแล้ว บึ้ม ข้ามมาเป็นปังนมเย็นเลยนะคะ
  • 10:55 - 10:58
    แต่ว่า มันมีขนมอีกชนิดนึงคั่นกลางค่ะ
  • 10:58 - 11:00
    ขนมชนิดนั้นเรียกว่า จ้ำบ๊ะ
  • 11:00 - 11:03
    เอ้า ใครเคยได้ยินชื่อขนมจ้ำบ๊ะบ้างคะ?
  • 11:03 - 11:06
    สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยินชื่อขนมจ้ำบ๊ะนะคะ
  • 11:06 - 11:08
    เรามาฟังประวัติสั้นๆ ของขนมชนิดนี้ดีกว่า
  • 11:08 - 11:12
    เริ่มต้นเนี่ย จ้ำบ๊ะ แปลง่ายๆ ก็แปลว่า น้ำแข็งไสนี่แหละค่ะ
  • 11:12 - 11:14
    ก็คือการที่เอาน้ำแข็งเนี่ย มาไสนะคะ
  • 11:14 - 11:15
    กิริยาการไสคืออย่างนี้นะ
  • 11:15 - 11:18
    ดังนั้นไม่ใช่ใสที่แปลว่าแบบ ใสสะอาด นะคะ
  • 11:18 - 11:19
    น้ำแข็งไส สะกดแบบนี้นะ
  • 11:19 - 11:21
    ก็คือการเอาน้ำแข็งเนี่ย มาไสนะคะ
  • 11:21 - 11:23
    แล้วก็เทลงมาเป็นถ้วยใช่ไหม?
  • 11:23 - 11:25
    เสร็จแล้วก็ราดน้ำหวานนะคะ ราดๆๆ
  • 11:25 - 11:28
    แล้วก็มีการเอาเครื่องต่างๆ มาใส่ค่ะ
  • 11:28 - 11:30
    ซึ่งจากการที่วิวไปอ่านงานวิจัยมาเนี่ยนะ
  • 11:30 - 11:34
    เค้าสันนิษฐานกันว่า ไอ้ขนมประเภทนี้ มันเริ่มที่จังหวัดเพชรบุรีค่ะ
  • 11:34 - 11:37
    โดยเริ่มจากการที่เค้าเนี่ย เอาข้าวเช้าที่กินเหลือนะคะ
  • 11:37 - 11:38
    ก็คือ ปาท่องโก๋
  • 11:38 - 11:41
    ซึ่งจริงๆ ใครเคยดูคลิปวิวน่าจะรู้ว่า มันเรียกว่า อิ่วจาก้วย นะคะ
  • 11:41 - 11:44
    คือเอาปาท่องโก๋เนี่ยที่กินเหลือตอนเช้า ไปทอดเพิ่มอีกรอบ
  • 11:44 - 11:46
    แล้วก็เอามาใส่กับน้ำแข็งไส
  • 11:46 - 11:49
    เสร็จแล้วก็เอาเครื่องใส่ เอาน้ำหวานราดนะคะ
  • 11:49 - 11:53
    ก็เลยกลายมาเป็นขนมไอ้น้ำแข็งไส ต้นตำหรับแบบเพชรบุรีเนี่ยแหละค่ะ
  • 11:53 - 11:56
    โดยเครื่องที่เค้าใส่นะ ก็ใส่ได้หลากหลายเลย
  • 11:56 - 12:00
    จะเป็นมันเชื่อม พุทราเชื่อม เฉาก๊วย ทับทิมกรอบ ลูกชิด
  • 12:00 - 12:01
    อะไร ใส่ได้หมดเลยค่ะ
  • 12:01 - 12:04
    ซึ่งในยุคแรกเนี่ยนะคะ เค้าก็ยังไม่เรียกจ้ำบ๊ะหรอกค่ะ
  • 12:04 - 12:05
    เค้าเรียกน้ำแข็งไสนี่แหละ
  • 12:05 - 12:09
    จนกระทั่งช่วงที่เค้าเนี่ยเริ่มราดนมข้นหวานลงไปเนี่ยนะคะ
  • 12:09 - 12:11
    เค้าถึงเริ่มเรียกขนมชนิดนี้ว่า จ้ำบ๊ะ ค่ะ
  • 12:11 - 12:14
    พอราดนมข้นหวานลงไป เริ่มรู้สึกแล้วใช่ไหมว่า
  • 12:14 - 12:16
    เนี่ย เหมือนปังนมเย็นที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้นะคะ
  • 12:16 - 12:21
    ดังนั้นก็เลยสันนิษฐานได้ว่า ปังนมเย็นเนี่ย น่าจะวิวัฒนาการมาจากจ้ำบ๊ะ
  • 12:21 - 12:25
    ซึ่งจ้ำบ๊ะเนี่ย ก็น่าจะวิวัฒนาการมาจากน้ำแข็งไสนั่นเองค่ะ
  • 12:25 - 12:28
    เดี๋ยวๆๆ จ้ำบ๊ะเนี่ย เคยได้ยินนะคำนี้
  • 12:28 - 12:29
    มันไม่ใช่ของหวานไม่ใช่เหรอ?
  • 12:29 - 12:31
    มันคือชื่ออย่างอื่นไม่ใช่เหรอ?
  • 12:31 - 12:31
    อ่ะ ใช่ๆๆ
  • 12:31 - 12:34
    สำหรับใครที่เคยได้ยินชื่อ จ้ำบ๊ะ มาจากที่อื่นนะคะ
  • 12:34 - 12:38
    อันนี้แถมให้นิดนึงนะ จ้ำบ๊ะคือเป็น ระบำแบบนึงของไทย
  • 12:38 - 12:42
    พูดง่ายๆ ก็ระบำโป๊อ่ะค่ะ แบบโชว์เมียงูอะไรอย่างนี้อ่ะนะ
  • 12:42 - 12:43
    เพราะว่าคำว่า จ้ำ เนี่ยนะคะ
  • 12:43 - 12:46
    เค้าสันนิษฐานว่า มาจากคำว่า จัม ภาษาจีนแต้จิ๋วค่ะ
  • 12:46 - 12:48
    คือแบบว่า ใส่แรงอ่ะ ไม่ยั้งอ่ะ ปึ้กๆๆๆ อะไรอย่างนี้
  • 12:48 - 12:51
    แทงไม่ยั้งอ่ะ หรือว่า ไม่ยั้งอ่ะ ประมาณนี้
  • 12:51 - 12:53
    อธิบายไม่ถูกเหมือนกันเป็นภาษาไทยอ่ะนะ
  • 12:53 - 12:55
    ส่วนคำว่า บ๊ะ เนี่ยแปลว่า เนื้อ ค่ะ
  • 12:55 - 12:57
    เหมือนแบบหมูบ๊ะช่ออ่ะ ประมาณนั้นเลยนะ
  • 12:57 - 12:59
    ทีนี้ พอมันเอามาผสมกัน กลายเป็นจ้ำบ๊ะ
  • 12:59 - 13:01
    ก็เลยเหมือนแบบ ส่ายเนื้อแบบไม่ยั้งนะคะ
  • 13:01 - 13:05
    ก็เลยเป็นการเต้นแบบโชว์เนื้อหนังมังสา อะไรประมาณนี้ค่ะ
  • 13:05 - 13:08
    ซึ่งถามว่า จ้ำบ๊ะขนมกับไอ้จ้ำบ๊ะโชว์เนี่ย เป็นอย่างเดียวกันหรือเปล่า?
  • 13:08 - 13:11
    ก็ต้องบอกว่า มันเป็นที่มาของชื่อค่ะ
  • 13:11 - 13:14
    คือ เค้าบอกว่า ลักษณะการที่เอาน้ำแข็งเนี่ยมาไสๆๆ
  • 13:14 - 13:16
    แล้วก็เทใส่ถ้วยเนี่ยนะ
  • 13:16 - 13:17
    ทรงมันเหมือนกับหน้าอกผู้หญิงค่ะ
  • 13:17 - 13:20
    ส่วนการที่ราดน้ำเชื่อมนะ แล้วก็ใส่ของตกแต่งลงไปเนี่ย
  • 13:20 - 13:24
    มันเหมือนกับชุดของนักเต้นจ้ำบ๊ะนะคะ ที่สีสันสดใสค่ะ
  • 13:24 - 13:29
    และสุดท้ายนะคะ กิริยาของการราดนมข้นส่ายๆ ลงไปเนี่ย
  • 13:29 - 13:31
    มันก็กิริยาการส่ายนมนั่นเองนะ
  • 13:31 - 13:35
    ดังนั้นมันก็เลยมีคนปิ๊งว่า อุ๊ย ฉันเรียกขนมชนิดนี้ว่า จ้ำบ๊ะ ดีกว่านะคะ
  • 13:35 - 13:38
    สุดท้ายชื่อ จ้ำบ๊ะ เนี่ย มันก็เลยแพร่กระจายไปทั่วประเทศค่ะ
  • 13:38 - 13:41
    ใช้เรียกแทนชื่อของน้ำแข็งไสนั่นเองน่ะนะ
  • 13:41 - 13:43
    ก่อนที่ชื่อนี้จะหายไป
  • 13:43 - 13:47
    แล้วก็วิวัฒนาการอิท่าไหนไม่รู้กลายมาเป็นปังนมเย็นแบบทุกวันนี้นี่แหละค่ะ
  • 13:47 - 13:48
    สรุปง่ายๆ นะคะ
  • 13:48 - 13:53
    เห็นไหมว่า ของกินเนี่ย มันเป็นวัฒนธรรมที่แบบพัฒนาได้ตลอดเวลาค่ะ
  • 13:53 - 13:55
    ขนาดน้ำแข็งที่แต่ก่อนไทยเราเนี่ย ไม่มีเลยนะคะ
  • 13:55 - 13:58
    ยังกลายมาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบของขนมไทยได้เลยค่ะ
  • 13:58 - 14:01
    แถมมันก็พัฒนามาเรื่อยๆ ไม่หยุดเลยนะคะ
  • 14:01 - 14:04
    ตั้งแต่สมัยที่คนเนี่ยขอแบ่งน้ำแข็งไปอมเล่นเฉยๆ
  • 14:04 - 14:08
    พัฒนาเอามาทำเป็นไอศกรีมเลียนแบบต่างชาติ
  • 14:08 - 14:10
    เอามาทำน้ำแข็งไส เอามาทำจ้ำบ๊ะ
  • 14:10 - 14:12
    พัฒนาเป็นปังนมเย็น
  • 14:12 - 14:14
    เอามาทำให้กะทิเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
  • 14:14 - 14:16
    กลายมาเป็นสาคูแคนตาลูปเย็น
  • 14:16 - 14:18
    ดังนั้นจากคำถามตอนต้นนู่นนะคะว่า
  • 14:18 - 14:22
    ไอ้พวกขนมที่มันใส่น้ำแข็งเนี่ย มันนับเป็นขนมไทยไหม?
  • 14:22 - 14:24
    หรือว่าสาคูแคนตาลูปเป็นขนมไทยไหม?
  • 14:24 - 14:26
    ปังนมเย็นเป็นขนมไทยไหมนะคะ?
  • 14:26 - 14:28
    ถ้าถามวิวเนี่ยนะคะ ก็ตอบเลยว่า เป็นค่ะ
  • 14:28 - 14:31
    เพราะว่าคนไทยเราเนี่ย ก็คุ้นกับการเอาอะไรรอบๆ ตัวเนี่ยนะคะ
  • 14:31 - 14:35
    มาประยุกต์ให้เข้ากับสิ่งที่ตัวเองต้องการเสมอค่ะ
  • 14:35 - 14:36
    อย่างขนม อย่างอาหารเนี่ย
  • 14:36 - 14:39
    เจออะไรก็เอามาประยุกต์ให้เข้ากับลิ้นของตัวเองนั่นแหละค่ะ
  • 14:39 - 14:42
    ซึ่งเอาจริงๆ นะคะ เหมือนกับทุกคลิปวิดีโอที่วิวทำมาเนี่ยแหละ
  • 14:42 - 14:44
    ส่วนตัวไม่อยากให้ไปโฟกัสนะคะว่า
  • 14:44 - 14:47
    อะไรเป็นของไทย หรือไม่เป็นของไทย หรือว่าเป็นของชาติไหนกันแน่?
  • 14:47 - 14:51
    เวลาเราศึกษาเรื่องพวกนี้ จริงๆ เราควรจะศึกษามากกว่าค่ะว่า
  • 14:51 - 14:54
    เส้นทางการเดินทางของมันเนี่ย เดินทางมายังไงนะคะ?
  • 14:54 - 14:56
    จนกลายมาเป็นสิ่งที่เราเห็นทุกวันนี้
  • 14:56 - 14:59
    มันวิวัฒนาการมาจากอะไร? มันพัฒนามาจากอะไรค่ะ?
  • 14:59 - 15:03
    น่าจะเป็นการศึกษาที่น่าจะสนุกมากกว่า การพยายามจะตอบนะคะว่า
  • 15:03 - 15:05
    สิ่งนี้เป็นของชาตินั้น สิ่งนั้นเป็นของชาตินี้
  • 15:05 - 15:10
    ชาตินี้จะต้องอนุรักษ์ไว้ ชาตินี้จะต้องหวงแหนไว้ ไม่ให้ชาตินี้มายุ่ง
  • 15:10 - 15:12
    คือถามว่า อะไรเก่าๆ เนี่ยอนุรักษ์ไว้ดีไหมนะคะ?
  • 15:12 - 15:15
    คือก็ดีค่ะ อนุรักษ์ไว้เป็นภูมิปัญญา
  • 15:15 - 15:18
    อนุรักษ์ไว้ให้รู้ว่า เออ ของเก่าๆ มันเป็นอย่างนี้
  • 15:18 - 15:20
    แต่ถามว่า อนุรักษ์แล้วฟรีซค้างไว้อยู่ตรงนั้นเลย
  • 15:20 - 15:21
    ไม่ขยับดีไหม?
  • 15:21 - 15:24
    ส่วนตัวสำหรับวิวเนี่ยรู้สึกว่า มันไม่น่าจะเวิร์กค่ะ
  • 15:24 - 15:26
    เพราะว่า ถ้าเราไม่ได้มีการวิวัฒนาการเนี่ยนะคะ
  • 15:26 - 15:29
    ขนมไทยของเราก็คงไม่อร่อยเท่าทุกวันนี้แหละค่ะ
  • 15:29 - 15:32
    อาจจะแบบยังอมอ้อยควั่นกันอยู่ตั้งแต่สมัยนั้น
  • 15:32 - 15:33
    ตัดอ้อยมาแล้วก็กินได้เลยนะคะ
  • 15:33 - 15:36
    คงไม่มีตั้งแต่ทองหยิบ ทองหยอด
  • 15:36 - 15:38
    ไม่มีสาคูแคนตาลูป ไม่มีปังนมเย็น
  • 15:38 - 15:41
    แล้วก็ไม่มีขนมไทยอร่อยๆ อีกหลายชนิดเลยค่ะ
  • 15:41 - 15:43
    อูหูว สรุปซะสวยเชียว
  • 15:43 - 15:46
    เดี๋ยวๆ พูดมาขนาดนี้ จะสรุปแค่นี้จริงๆ เหรอ?
  • 15:46 - 15:48
    ใครบอกว่า จะมาบอกแค่นี้คะ?
  • 15:48 - 15:50
    จริงๆ นะคะที่จะมาบอกก็คือ
  • 15:50 - 15:53
    ตอนนี้มันมีขนมหวานชนิดใหม่พัฒนาขึ้นมาแล้วค่ะ
  • 15:53 - 15:55
    สำหรับใครที่ไม่อยากไปนั่งปั่นน้ำแข็ง
  • 15:55 - 15:58
    กว่าจะได้กินปังนมเย็นถ้วยนึง
  • 15:58 - 16:01
    หรือกว่าจะได้ไปหาสาคูแคนตาลูปเย็นๆ กินแก้วนึงนะคะ
  • 16:01 - 16:06
    คือ ตอนนี้นะคะ วอลล์ค่ะ เค้าพัฒนาไอศกรีมนะคะ จากถ้วยมาสู่แท่งค่ะ
  • 16:06 - 16:08
    มีสองรสชาติใหม่เลย นั่นก็คือ
  • 16:08 - 16:10
    เอเชียนดีไลท์ สาคูแคนตาลูปนะคะ
  • 16:10 - 16:13
    แล้วก็เอเชียนดีไลท์ ปังนมเย็นค่ะ
  • 16:13 - 16:15
    ใช่ค่ะ เราจะขายกันตรงๆ แบบนี้แหละ
  • 16:15 - 16:17
    ทำไม เจอของอร่อยขายไม่ได้เหรอ?
  • 16:17 - 16:20
    อ่ะ มีอะไรบอกมาให้หมด บอกมา คายออกมา
  • 16:20 - 16:21
    รอฟังแล้วเนี่ย
  • 16:21 - 16:24
    บอกเลยนะคะว่า ถึงรูปร่างเนี่ย มันจะเปลี่ยนไปมาเป็นแท่งแบบนี้
  • 16:24 - 16:25
    จากถ้วยนะคะ
  • 16:25 - 16:27
    แต่รสชาติข้างในยังเหมือนเดิมค่ะ
  • 16:27 - 16:30
    มาแกะให้ดูกันทีละรสเลยดีกว่านะ
  • 16:30 - 16:32
    เริ่มจากนี่ก่อนเลยนะคะ ปังนมเย็น ของโปรดของวิว
  • 16:32 - 16:33
    แกะแล้วนะ
  • 16:34 - 16:38
    จะบอกว่า แกะออกมานะ หอมนมเย็นขึ้นมาก่อนเลยทุกคน
  • 16:38 - 16:39
    หอมมากอ่ะ
  • 16:39 - 16:41
    คือที่บอกว่าเป็นไอศกรีมปังนมเย็นนะคะ
  • 16:41 - 16:43
    มันเป็นปังนมเย็นจริงๆ ค่ะทุกคน
  • 16:43 - 16:46
    คืออย่างแรกเลยนะ หยิบขึ้นมาอย่างที่บอกเมื่อกี้เลย
  • 16:46 - 16:50
    แกะซองปุ๊บ กลิ่นนมเย็นหอมเข้มข้นเตะจมูกขึ้นมาก่อนเลยค่ะ
  • 16:50 - 16:51
    คือแบบหอมมาก
  • 16:51 - 16:54
    สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับนมเย็นนี่ชอบแน่นอนนะคะ
  • 16:54 - 16:55
    แค่ได้กลิ่นก็ฟินแล้วค่ะ
  • 16:55 - 16:59
    และที่สำคัญ บอกว่าเป็นปังนมเย็น ต้องไม่ใช่มีแต่นมเย็นใช่ไหม?
  • 16:59 - 17:02
    เพราะว่าเค้านะคะ จะมีขนมปังเนี่ยอยู่ข้างในจริงๆ เลยค่ะ
  • 17:02 - 17:06
    และบอกเลยนะคะว่า จากที่ลองกินไปแล้วเนี่ย เครื่องเค้าแน่นมากจริงๆ ค่ะ
  • 17:06 - 17:08
    กัดเข้าไปเนี่ย เจอเครื่องทุกคำเลยนะคะ
  • 17:08 - 17:09
    ไม่เชื่อดูนี่
  • 17:11 - 17:14
    อือหือ ซูมอินกันเข้าไปดูเลยค่ะว่า
  • 17:14 - 17:16
    มันมีเนื้อขนมปังอยู่ข้างในจริงๆ นะทุกคน
  • 17:16 - 17:19
    ส่วนใครที่ชอบรสกะทิเนี่ยนะ
  • 17:19 - 17:21
    ก็รสนี้เลยค่ะ สาคูแคนตาลูปนะคะ
  • 17:21 - 17:23
    เดี๋ยวแกะให้ดูด้านในดีกว่า
  • 17:24 - 17:27
    นี่ ผ่าม อูหูว สีสวยงามนะคะ
  • 17:27 - 17:29
    เห็นส้มๆ นี่ไม่ใช่ชาไทยนะคะ
  • 17:29 - 17:32
    สีแคนตาลูปค่ะทุกคน แล้วแบบหอมกลิ่นแคนตาลูปมากๆ อ่ะ
  • 17:32 - 17:35
    หอมจริงนะคะ ไปลองซื้อมาดมกันได้
  • 17:35 - 17:37
    หมายถึงดมแล้วกินด้วยนะ ไม่ใช่ดมเฉยๆ
  • 17:37 - 17:38
    นี่ ใครชอบแคนตาลูปนะคะ
  • 17:38 - 17:41
    อันนี้ก็คือแบบที่บอกเลยว่า หอมแคนตาลูป
  • 17:41 - 17:41
    แล้วก็..
  • 17:42 - 17:45
    แล้วก็รสชาติแคนตาลูป หอมมาก อร่อยมาก
  • 17:45 - 17:48
    ที่สำคัญนะคะ เนื้อสาคูเนี่ย เหนียวนุ่ม เต็มคำนะคะ
  • 17:48 - 17:51
    คือกัดไปทุกคำเนี่ย มีสาคูแทรกอยู่จุ๊ดๆๆๆ
  • 17:51 - 17:53
    เป็น texture ที่แบบกลมกล่อม
  • 17:53 - 17:56
    นอกจากนี้นะคะ ไปอ่านมาแล้ว เค้าบอกว่า ทำจากกะทิแท้ด้วย
  • 17:56 - 17:58
    อือหืม perfect สุดๆ เลยค่ะ
  • 17:58 - 18:02
    เอาเป็นว่า ใครชอบรสไหนนะคะ ก็ไปหาซื้อกินกันได้ ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป
  • 18:02 - 18:06
    หรือว่าตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ก็มีขายเช่นกันนะคะ
  • 18:06 - 18:08
    ส่วนใครไม่สะดวก ไม่อยากออกไปไหน
  • 18:08 - 18:10
    ก็สามารถสั่งออนไลน์มาได้เช่นกัน
  • 18:10 - 18:12
    สะดวกสบายสุดๆ เลยนะคะ
  • 18:12 - 18:13
    ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ
  • 18:13 - 18:16
    เอาเป็นว่า วันนี้วิวขอตัวไปจัดการกับไอศกรีมก่อน
  • 18:16 - 18:19
    แต่ว่า ใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
  • 18:19 - 18:21
    แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ
  • 18:21 - 18:22
    แล้วพบกันใหม่โอกาสนะคะทุกคน
  • 18:22 - 18:25
    บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ
  • 18:25 - 18:26
    กินได้ทั้งแท่งอ่ะ
  • 18:27 - 18:29
    คือนี่ยังกินไม่หยุดเลยอ่ะ มาแบบหลายวันแล้วอ่ะ
  • 18:29 - 18:31
    คือแบบ คือกินแบบ อือหือ กินทุกวัน
  • 18:31 - 18:32
    ทุกคน มันอร่อยนะคะ
  • 18:32 - 18:34
    คือแบบนมเย็น ชอบอยู่แล้วไง
  • 18:34 - 18:35
    แล้วแบบอันนี้มันเป็นขนมปัง
  • 18:35 - 18:36
    ทางนั้นเป็นไงบ้างอ่ะ?
  • 18:36 - 18:39
    อือหือ สาคูแคนตาลูปก็อร่อยนะบอกเลย
  • 18:39 - 18:41
    ไม่ใช่มีแค่ปังนมเย็นที่อร่อย อืม
  • 18:41 - 18:43
    -อร่อยเนอะ
    -อือ
  • 18:43 - 18:45
    เอาเป็นว่า พอเหอะ ปิดคลิปไหม?
  • 18:45 - 18:46
    งั้นขอปิดคลิปแทนวิวเลยนะคะ
  • 18:46 - 18:48
    วันนี้ก็ลาไปก่อนละกันค่ะทุกคน
  • 18:48 - 18:51
    บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ
Title:
คนไทยเริ่มกินน้ำแข็งเมื่อไหร่ ขนมใส่น้ำแข็งเป็นขนมไทยไหม? | Point of View x Wall's
Description:

more » « less
Duration:
18:51

Thai subtitles

Revisions