hideCaptions and subtitles not only enhance the accessibility of your media content but also impact viewer engagement and memory retention.
🤓 Learn with Amara.org about The Psychology Behind Captioning and Subtitles !

< Return to Video

Not having to die, that's horrible!

  • 0:02 - 0:04
    (เสียงระฆัง)
  • 0:06 - 0:09
    หากไม่มีการเกิดและการตาย
  • 0:09 - 0:14
    เราก็เหมือนถูกสาปให้มีชีวิตอยู่ตลอดไป
    ชาติแล้วชาติเล่า
  • 0:14 - 0:32
    สำหรับผมแล้วนี่ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
    แต่เป็นความทุกข์และความสิ้นหวังต่างหาก
  • 0:34 - 0:38
    ถ้าธรรมชาติที่แท้จริงของเรา
    ไม่มีการเกิดและตาย
  • 0:38 - 0:44
    ก็หมายความว่า เราจะต้องอยู่ตลอดไป
  • 0:44 - 0:47
    เกิดแล้วเกิดอีก เกิดแล้วเกิดอีก
  • 0:48 - 0:51
    สำหรับผมแล้ว
    คำสอนที่ว่าไม่มีการเกิด การตายนั้น
  • 0:51 - 0:54
    ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา แต่เป็นปัญหาต่างหาก
  • 0:54 - 0:55
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:56 - 0:58
    คือผมไม่รู้สึก...เอิ่ม
  • 0:58 - 1:06
    คือผมไม่เข้าใจจริงจัง แถมยังรู้สึกหดหู่
    ปนงงกับคำสอนจริงๆ นะครับ
  • 1:06 - 1:12
    คือมันไม่ใช่แค่คิดนะครับ แต่รู้สึกด้วย
  • 1:12 - 1:16
    สำหรับผม มันไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย
    นอกจากทำให้หดหู่และเซ็งชีวิตหนักขึ้น
  • 1:17 - 1:19
    สำหรับผม ถ้าผมตายก็อยากจะตายไปเลยมากกว่า
  • 1:19 - 1:22
    ดีกว่าต้องกลับชาติมามีชีวิตอีกครั้ง
  • 1:24 - 1:27
    (แม่ชี)
    นมัสการท่านอาจารย์ สวัสดีญาติธรรมทุกท่าน
  • 1:27 - 1:28
    กัลยาณมิตรท่านนี้บอกว่า
  • 1:28 - 1:32
    คำสอนเกี่ยวกับธรรมชาติที่แท้จริง
    ที่ว่าไม่มีการเกิดและการตายนั้น
  • 1:32 - 1:36
    ดูเหมือนจะบอกว่าเราต้องอยู่ตลอดไป
  • 1:36 - 1:41
    สำหรับเขาแล้ว นี่ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
  • 1:41 - 1:43
    แต่กลับเป็นความทุกข์อย่างหนึ่ง
  • 1:43 - 1:44
    ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงคิดเอาเท่านั้น
  • 1:44 - 1:48
    แต่เกิดความกลัวและสิ้นหวังอย่างจริงจัง
  • 1:48 - 1:51
    สำหรับเขาแล้ว มันคงจะดีกว่า
  • 1:51 - 1:54
    ที่จะตายแล้วเกิดใหม่
  • 1:54 - 1:56
    ...ถ้าทำได้
  • 1:56 - 1:58
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:58 - 2:02
    เพราะถ้าเราตายได้ ก็หมายความว่า
    ชีวิตนั้นมีจำกัดและมีคุณค่า
  • 2:02 - 2:05
    ฉะนั้นเราก็ควร
    จะหาความสุขใส่ตัวให้มากที่สุด
  • 2:05 - 2:07
    แต่ถ้าเราเกิดใหม่อยู่ต่อไปเรื่อยๆ
  • 2:07 - 2:10
    ช้าเร็วเราก็ต้องเบื่อแน่นอน
  • 2:10 - 2:14
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:17 - 2:20
    โลกนี้มีคนอยู่สองประเภท
  • 2:20 - 2:21
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:21 - 2:28
    ประเภทหนึ่ง อยากมีชีวิตอยู่ตลอดไป
  • 2:28 - 2:31
    พวกนี้กลัวตายมาก
  • 2:32 - 2:35
    ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเราจึงพบว่า
  • 2:35 - 2:39
    หลายต่อหลายคนแสวงหาความเป็นอมตะ
  • 2:42 - 2:49
    ในลัทธิเต๋า ก็มีความพยายามทดลอง
    สมุนไพร ยา สารเคมีต่างๆ
  • 2:49 - 2:53
    ที่ช่วยให้เป็นอมตะ
  • 2:56 - 2:59
    ก็คือ...คือ...
  • 3:00 - 3:06
    พวกเขาแสวงหาชีวิตอันเป็นนิรันดร์
  • 3:09 - 3:14
    เบื้องหลังของความปรารถนาอย่างนั้น
  • 3:14 - 3:23
    คือความกลัวการดับสูญ
  • 3:23 - 3:28
    กลัวการไม่มีตัวตน
  • 3:29 - 3:32
    ไม่อยากจะเปลี่ยนผ่านจาก "ความมีตัวตน"
  • 3:32 - 3:36
    ไปสู่ความไม่มี
    มันเป็นความคิดที่น่ากลัว
  • 3:36 - 3:41
    เราต้องมาทำความเข้าใจ
    พวกที่แสวงหาความอมตะ
  • 3:41 - 3:43
    ผู้ไม่ปรารถนาต่อความตาย
  • 3:43 - 3:46
    พวกเขาก็เป็นทุกข์กับ
    ความคิด ความเชื่อเช่นนั้น
  • 3:46 - 3:51
    เที่ยวแสวงหาหนทางแห่งความไม่ตาย
  • 3:52 - 3:56
    หวาดหวั่นต่อความรู้สึกไม่มีตัวตน
  • 3:58 - 4:00
    ขณะที่
  • 4:00 - 4:05
    บางพวก กลับเหนื่อยหน่ายกับการมีชีวิตอยู่
  • 4:07 - 4:16
    พออายุผ่านไป 50, 70 ปี หรือบางที 30
    ก็เริ่มเบื่อ
  • 4:18 - 4:23
    รู้สึกว่าการจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้น
    เป็นทุกข์เหลือเกิน
  • 4:24 - 4:28
    พวกนี้จึงปรารถนาภาวะของความไม่มีตัวตน
  • 4:30 - 4:34
    บางคนคิดว่าการฆ่าตัวตาย
  • 4:34 - 4:37
    เป็นทางพ้นทุกข์
  • 4:37 - 4:42
    เป็นการเปลี่ยนผ่านจากความ "มี"
    ไปสู่ความ "ไม่มี"
  • 4:43 - 4:50
    และความปรารถนาเช่นนี้
    มีรากมาจากความเห็นที่ผิด
  • 4:51 - 4:55
    ที่เข้าใจว่ามีสภาวะบางอย่าง
    ที่เรียกว่า "ความไม่มีตัวตน"
  • 4:55 - 4:58
    "ความไม่คงอยู่"
  • 5:00 - 5:02
    "ความดับสูญ"
  • 5:03 - 5:11
    จึงอยากจะบรรลุถึงสภาวะอย่างนั้น
    เพื่อว่าจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์อีกต่อไป
  • 5:11 - 5:14
    ไม่ต้องทนเบื่ออีกต่อไป
  • 5:15 - 5:17
    ถึงได้ปรารถนาสภาวะแห่ง "ความไม่มี"
  • 5:18 - 5:22
    เพื่อที่....จะหายไป
  • 5:23 - 5:27
    และความปรารถนาอย่างนี้
    ก็มีฐานมาจากความเห็นผิดเช่นกัน
  • 5:27 - 5:31
    ทีนี้...มุมมองที่ถูกต้องคือ
  • 5:32 - 5:35
    การเกิด และการตาย
    หรือความมีชีวิต และความตาย
  • 5:35 - 5:37
    เป็นสิ่งที่มาเป็นคู่ "ด้วยกันเสมอ"
  • 5:37 - 5:41
    เราจะไปแยกอย่างหนึ่ง
    ออกจากอีกอย่างหนึ่งไม่ได้เลย
  • 5:43 - 5:46
    คือ ตอนนี้
    เธอกำลังแสวงหา "ภาวะความตาย (ดับ)"
  • 5:47 - 5:50
    แล้วก็พยายามแยกเอา "ภาวะความมีชีวิต"
    ออกมาต่างหาก
  • 5:51 - 5:52
    มันเป็นไปไม่ได้เลย
  • 5:52 - 5:59
    เพราะสองสิ่งนี้มา "คู่กันเสมอ"
    เหมือนข้างซ้ายและข้างขวา
  • 5:59 - 6:02
    เราจะไปแยกซ้ายออกจากขวาไม่ได้
  • 6:02 - 6:04
    หรือจะแยกขวาออกจากซ้ายก็ไม่ได้
  • 6:04 - 6:10
    มันเป็นกฏของธรรมชาติเลย ซึ่งเราจะเห็นได้
    เมื่อเราเจริญสติลึกลงไปภายใน
  • 6:10 - 6:16
    เราจะเห็นได้เลยว่าพวกนี้เป็นเพียง
    "การสมมติเรียกขึ้นมาเท่านั้น"
  • 6:17 - 6:22
    คำว่า "ซ้าย" หรือ "ขวา"
    เป็นคำพูดในหัวต่างหาก
  • 6:22 - 6:26
    เป็นความคิดมากเสียกว่าความเป็นจริง
  • 6:27 - 6:30
    ฉะนั้นคำพูดประเภท เบื่อ-ไม่เบื่อ
  • 6:30 - 6:34
    ทุกข์ - สุข
    มีตัวตน - ไม่มีตัวตน
  • 6:34 - 6:39
    เป็นเพียงการ "จำแนกด้วยความคิด"
  • 6:39 - 6:44
    จากฐานการตีความของสมอง
    หาใช่ความเป็นจริง
  • 6:46 - 6:51
    เราทำราวกับว่าเรารู้ว่าอะไรคือความจริง
  • 6:51 - 6:56
    และ..เราก็เพียงแค่ต้องการ
    จัดหมวดหมู่ความจริง
  • 6:56 - 7:00
    แต่ความจริงที่เราคิดว่าเรา "รู้" เนี่ย
  • 7:00 - 7:03
    เป็นเพียงการตีความของจิต
  • 7:03 - 7:08
    "เกิด" และ "ตาย" ก็เป็นเพียง
    การตีความของความคิด
  • 7:11 - 7:15
    มันไม่ใช่ความเป็นจริง
  • 7:15 - 7:17
    และเราก็ได้เรียนในคอร์สภาวนานี้
  • 7:17 - 7:20
    ว่า "การเกิด" "ชีวิต" และ "ความตาย"
  • 7:20 - 7:23
    เป็นเพียงทัศนะ หาใช่ความจริงไม่
  • 7:23 - 7:28
    รวมไปถึง "การคงอยู่" หรือ "การไม่คงอยู่"
    เป็นความตรงข้ามที่มาเป็นคู่
  • 7:28 - 7:36
    ที่เป็นพื้นฐานของทัศนะ
    "ความเกิด" และ "ความตาย"
  • 7:37 - 7:40
    และถ้าฟังจากคำถามของเธอจะบอกชัดว่า
  • 7:40 - 7:43
    เธอยังคงเชื่อ ใน...
  • 7:43 - 7:47
    ในความมีตัวตน เชื่อว่ามีวิญญาณ...
  • 7:47 - 7:50
    ที่จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
  • 7:50 - 7:53
    แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น
  • 7:53 - 7:55
    ไม่มีสิ่งใดเลย ที่จะสามารถ
    คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง
  • 7:55 - 7:58
    แม้สักช่วงขณะเดียว
  • 7:59 - 8:04
    แล้วใครกันล่ะที่เบื่อ?
  • 8:05 - 8:07
    เพราะเธอ ณ ขณะนี้
  • 8:07 - 8:13
    ก็ไม่ใช่เธอเมื่อตะกี้
  • 8:15 - 8:19
    ทั้งนี้เพราะเรายังดูลงไปไม่ลึกพอ
  • 8:20 - 8:26
    ยังไม่สัมผัสถึงธรรมชาติแท้จริง ที่ไม่มี
    การแบ่งแยก "ความเกิด - ความดับ"
  • 8:27 - 8:31
    ไม่มี "ของตน - ของผู้อื่น"
    ไม่มี "ความคงอยู่ - ไม่คงอยู่"
  • 8:31 - 8:37
    ผู้ปรารถนาจะแจ้งในนิพพาน
  • 8:39 - 8:46
    อาจจะมีความคิดแบบนี้ก็ได้ว่า
    เมื่อได้สัมผัสนิพพานแล้ว
  • 8:47 - 8:51
    เราไม่ต้องเกิดอีกต่อไป
  • 8:52 - 8:57
    ว่าเรา (ตอนนี้) อยู่ในสถานะของ
    "ความไม่เป็นอะไร"
  • 9:00 - 9:05
    นั่นเป็น "มิจฉาทิฏฐิ" ที่สุดในเรื่องนิพพาน
  • 9:05 - 9:10
    เข้าใจว่านิพพานคือ การดับสิ้น
  • 9:10 - 9:14
    สำหรับบางคน การดับสิ้น คือทางพ้นทุกข์
  • 9:15 - 9:20
    เพราะไม่ต้องเกิดใหม่เพื่อเป็นทุกข์อีกต่อไป
  • 9:22 - 9:23
    นี่คือ "ความเห็นผิด"
  • 9:23 - 9:29
    คนจำนวนมาก ไปจนถึงนักศึกษา
    ศาสนาพุทธชาวตะวันตก
  • 9:29 - 9:37
    เชื่อว่าเป้าหมายของศาสนาพุทธคือ
    "การดับสูญ"
  • 9:41 - 9:44
    การอยู่ในสภาพ "ไม่เป็นอะไร" ชั่วนิรันดร์
  • 9:44 - 9:51
    ทว่าพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัส
    "ปฏิเสธ" หลายครั้งเหลือเกินว่า
  • 9:51 - 9:54
    เป้าหมายของเรา
    "ไม่ใช่การบรรลุสู่ความไม่มีไม่เป็นอะไร"
  • 9:54 - 9:59
    หรือเพื่อ...เพื่อ...
  • 9:59 - 10:02
    "บรรลุสู่การขาดสูญ"
  • 10:02 - 10:04
    ทรงตรัสย้ำเสมอว่า
  • 10:04 - 10:07
    "เราไม่ได้สอนให้บรรลุถึงความดับสูญ
  • 10:07 - 10:11
    แต่เราแสดงให้เห็นถึง
  • 10:11 - 10:15
    ภาวะที่อยู่เหนือเลยขึ้นไป
    ทั้งจากมุมมองสมมติแห่ง
  • 10:16 - 10:20
    "ความขาดสูญ และ ความมีตัวตนเที่ยงแท้"
  • 10:20 - 10:24
    ซึ่งเป็นสองสิ่งที่เป็นคู่ตรงข้ามกัน
  • 10:27 - 10:34
    ความอมตะ เป็นความสุดโต่งข้างหนึ่ง
  • 10:34 - 10:40
    วิญญาณที่ไม่มีวันตาย
  • 10:40 - 10:44
    คือความเห็นสุดโต่งไปข้างหนึ่ง
  • 10:44 - 10:49
    และความขาดสูญ
    ก็เป็นความสุดโต่งอีกข้างหนึ่ง
  • 10:49 - 10:55
    ดังนั้น สัมมาทิฏฐิ (มุมมองที่ถูกต้อง) คือ
    การมองข้ามพ้นสมมติทั้ง 2 นี้
  • 10:55 - 10:57
    ความคงอยู่ชั่วนิรันดร์
  • 10:57 - 11:01
    และ....
  • 11:01 - 11:04
    ความดับสูญสู่ความไม่มีอะไร
  • 11:04 - 11:10
    ฉะนั้น การมาเจริญสติเข้ามาดู
    ก็เพื่อละมุมมองที่ผิดเหล่านี้
  • 11:10 - 11:14
    มีมุมมองสมมติแห่ง
    ความเป็นคู่ มากมายที่รอให้เราละ
  • 11:15 - 11:17
    และเมื่อเราละทัศนะเหล่านี้ออกไปได้
  • 11:17 - 11:19
    เราจะพบสันติสุข
  • 11:19 - 11:22
    ไม่มีความกังวลอีกต่อไป
  • 11:22 - 11:25
    โดยเฉพาะ เลิกกังวลว่าจะมี
    "เรา" ที่จะต้อง
  • 11:25 - 11:32
    ไปเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ
  • 11:32 - 11:35
    มันไม่มีการเกิดและการตายที่แท้จริง
  • 11:35 - 11:39
    ไม่มีใคร ที่ต้องไปเกิดไปตาย
  • 11:39 - 11:44
    ทั้งหมดเป็นเพียงสมมติเท่านั้น
  • 11:45 - 11:48
    เมื่อเห็นแจ้งอย่างนี้ จะรู้สึกโปร่งโล่ง
  • 11:48 - 11:51
    เราจะไม่กลัวอีกต่อไป
  • 11:51 - 11:56
    เราจะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
    เปลี่ยนสู่สภาพใหม่อยู่ตลอดเวลา
  • 11:56 - 12:00
    ปีติและความสุขจึงเกิดขึ้นได้
  • 12:00 - 12:04
    ความจางคลายแห่งทุกข์จึงเกิดขึ้นได้
  • 12:04 - 12:09
    และด้วยมุมมองนี้เอง เราสามารถช่วยใครต่อใคร
    อีกหลายคน ให้เป็นทุกข์น้อยลง
  • 12:10 - 12:12
    ชีวิตย่อมมีความหมาย
  • 12:13 - 12:17
    เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยหน่าย
    ซังกะตายในชีวิต
  • 12:17 - 12:21
    เพราะรู้ว่าชีวิตนั้นมีความหมาย
  • 12:21 - 12:24
    มีประโยชน์
  • 12:24 - 12:32
    รู้ว่าสามารถส่งผ่านความเห็นอกเห็นใจ
    และความปรีดา
  • 12:32 - 12:36
    ช่วยเยียวยาความทุกข์ในโลก
  • 12:37 - 12:42
    ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าวิญญาณจะเที่ยง
  • 12:42 - 12:46
    หรือ...หรือ...
  • 12:46 - 12:50
    ไม่เที่ยง
    จะมองว่าคงอยู่ตลอดไป
  • 12:50 - 12:52
    หรือจะมองว่าขาดสูญ
  • 12:52 - 12:55
    เพราะใจเป็นอิสระต่อทิฏฐิเหล่านี้
  • 12:55 - 12:57
    ฉะนั้น นิพพาน อย่างแรกเลยคือ
  • 12:57 - 13:02
    เป็นความดับทุกข์ในแบบที่ว่านี้
    โดยสิ้นเชิง
  • 13:02 - 13:07
    เช่น ความกลัว ความโกรธ ความผิดหวัง
  • 13:07 - 13:10
    ความดับทุกข์โดยสิ้นเชิงนี้จะเป็นไปได้
    ก็ต่อเมื่อ
  • 13:10 - 13:17
    เธอสามารถขจัดความคิดของสิ่งที่เป็นของคู่
    อย่างเกิดและตาย
  • 13:17 - 13:20
    มีตัวตน และไม่มีตัวตน
  • 13:21 - 13:26
    ดังนั้น เราสามารถนิยาม "นิพพาน" แบบชัดเจน
  • 13:26 - 13:29
    ว่าเป็นภาวะปราศจากการคิดปรุงแต่ง
  • 13:30 - 13:37
    และความสิ้นทุกข์ก็เริ่มต้นจากตรงนี้แหละ
  • 13:38 - 13:39
    (เสียงหัวเราะ)
  • 13:39 - 13:41
    ดีมาก! ยิ้มสวย!
  • 13:41 - 13:44
    (เสียงหัวเราะ)
  • 13:44 - 13:46
    ยิ้มสวยมาก
  • 13:48 - 13:53
    เชื่อมโยง บันดาลใจ เติมเต็ม
  • 13:53 - 14:25
    (เสียงระฆัง)
Title:
Not having to die, that's horrible!
Description:

more » « less
Video Language:
English
Duration:
14:25
Panwaree Rattanalerthada edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 12, 2017, 10:54 AM
Ning Ning edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 10, 2017, 5:54 AM
Ning Ning edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 10, 2017, 5:49 AM
Ning Ning edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 10, 2017, 5:48 AM
Ning Ning edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 10, 2017, 12:52 AM
Ning Ning edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 10, 2017, 12:46 AM
Ning Ning edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 9, 2017, 12:32 AM
Ning Ning edited Thai subtitles for Not having to die, that's horrible! Aug 8, 2017, 5:39 PM
Show all

Thai subtitles

Revisions

  • Revision 14 Edited
    Panwaree Rattanalerthada Aug 12, 2017, 10:54 AM