-
เสียงระฆัง
-
เสียงระฆัง
-
(คำถามเป็นภาษาต่างประเทศ)
-
หากพื้นฐานอย่างหนึ่งของศาสนาพุทธ
-
คือความรักในธรรมชาติ
-
ทำไมสิ่งนี้จึงไม่เท่ากันกับความรักแท้ของชายหนุ่มหญิงสาว
-
ระหว่างคนสองคน
-
รวมทั้งการแสดงออกของความรัก
ต่อกันและกัน
-
มีท่านใดทวนคำถามมั้ยครับ
-
ดูเหมือนว่าจะเป็นคำถามที่น่าสนใจ
-
(เสียงหัวเราะ)
-
เธอถามว่าหากศาสนาพุทธสนับสนุนความรักต่อธรรมชาติแล้ว
-
ไฉนจึงไม่สนับสนุนความรัก
ฉันชู้สาวระหว่างชายหญิง
-
รวมทั้งการแสดงออกถึงความรักนั้นระหว่างคนสองคน
-
พระพุทธเจ้าทรงเป็นครูสอนความรัก
รักแท้
-
ความรักต่อธรรมชาตินั้นควรเป็นรักแท้
-
และถ้าหากมันเป็นความรักที่แท้มันย่อมนำมาซึ่งความสุข
-
ทั้งต่อเธอและต่อธรรมชาติ
-
เช่นกันกับความรักเชิงชู้สาวด้วย
ถ้ามันเป็นรักแท้
-
มันย่อมนำมาซึ่งความสุขมหาศาล
-
แต่หากไม่ใช่ มันย่อมนำมาซึ่งความทุกข์สู่ตัวเธอ
-
รวมทั้งอีกบุคคลหนึ่งเช่นกัน
-
ในคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น
-
รักแท้มีองค์ประกอบ 4 อย่าง
-
อย่างแรก: เมตตา - ความเป็นมิตร
-
มันคือความสามารถ
ที่จะนำความสุขมาให้
-
หากเธอไม่สามารถเผื่อแผ่ความสุขได้นั่นไม่ใช่รักแท้
-
ในแง่ความรักเชิงชู้สาว
-
หากเธอไม่สามารถช่วยให้อีกฝ่ายมีความสุขได้
-
มันก็ไม่ใช่รักแท้
-
ดังนั้นหากเธอบ่มเพาะตนเองให้สามารถที่จะ
-
เผื่อแผ่ความสุขออกไป
-
ให้ตัวเธอเองและให้เขา/หล่อน
-
ถ้าขาดสิ่งนี้ ทั้งคู่ย่อมมีความทุกข์
-
องค์ประกอบที่ 2 ของรักแท้ คือ
ความเห็นอกเห็นใจ
-
ความเห็นอกเห็นใจ เป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่คอยช่วยขจัดความทุกข์
-
มันสามารถเปลี่ยนแปลงความทุกข์ในตัวเธอและอีกคนหนึ่ง
-
ถ้าเธอเปลี่ยนมันไม่ได้
-
ทั้งไม่สามารถดูแลความทุกข์
ของตัวเองและอีกฝ่ายได้
-
นั่นก็ไม่ใช่รักแท้
-
นี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไม "กรุณา"
จึงเป็นองค์ประกอบที่ 2 ของรักแท้
-
มันควรได้รับการบ่มเพาะให้มีขึ้น
ทั้งในตัวเธอและในอีกฝ่าย
-
จะเป็นความรักเชิงชู้สาวหรือไม่
นั่นไม่ใช่ประเด็น
-
ประเด็นคือ อะไรคือรักแท้
-
อะไรไม่ใช่ต่างหาก จริงไหม?
-
องค์ประกอบที่ 3 ของความรัก
-
คือ ความเบิกบานใจ
-
ถ้าในความรักนั้น
-
เธอทำให้อีกฝ่ายร้องไห้ตลอดเวลา
-
และเธอก็ร้องไห้ตลอดเวลา
-
มันก็ไม่ใช่ความรักที่แท้
(เสียงหัวเราะ)
-
ไม่เกี่ยวว่าจะเชิงชู้สาวหรือไม่
-
รักแท้ จะโอบอุ้มและครอบคลุม
-
ไม่แยกส่วน
-
ความทุกข์ของเขา
คือ ความทุกข์ของเธอ
-
ความสุขของเขา
คือ ความสุขของเธอ
-
ไม่มีว่าความทุกข์หรือความสุข
"ของใคร" อีกต่อไป
-
นี่คือความรักที่แท้
-
มีองค์ประกอบของความโอบอุ้ม
ไม่กีดกั้น
-
ไม่แบ่งแยก ไม่มีแนวกั้น
-
ระหว่างเธอและอีกฝ่าย
-
ด้วยจิตวิญญาณเช่นนั้น
เธอพูดไม่ออกหรอกว่า
-
"นั่นมันเรื่องของเธอ!"
ไม่ใช่
-
ปัญหาของเธอก็คือปัญหาของฉัน
-
ความทุกข์ของฉันก็คือ
ความทุกข์ของเธอ
-
นี่เป็นองค์ประกอบที่ 4 ของรักแท้
-
และถ้าหากความรักเชิงชู้สาวมีครบ
ทั้งองค์ประกอบ 4 อย่างเหล่านี้
-
มันย่อมนำความสุขมากมาย
มาให้ได้เช่นกัน
-
พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสปฏิเสธรักแท้
-
ถ้าเธอประสบความสำเร็จ ในการมีความรักแบบชายหนุ่มหญิงสาว
-
เธอจะบ่มเพาะเมตตาและกรุณาได้อย่างมากมาย
-
และไม่นานนัก รักของเธอ
จะแผ่ขยายออกไป
-
อีกฝ่ายจะไม่ใช่เป็นเพียง
วัตถุที่ตั้งแห่งความรักอีกต่อไป
-
เพราะรักของเธอจะเจริญเติบโตไปอีกเรื่อยๆ
-
จนกระทั่งรักของเธอโอบอุ้มทุกคนเอาไว้
-
และความสุข ก็กลายเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน
-
นี่คือรักของพระพุทธองค์
-
คือความหมายขององค์ประกอบที่ 4
-
ของความรัก นั่นคือ ความโอบอุ้มไม่แบ่งแยก
-
หากมันเป็นรักแท้
มันย่อมเติบโตต่อไปเรื่อยๆ
-
โอบอุ้มยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่จำกัดเฉพาะเพียงมนุษย์
-
รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ พืชพรรณนานา
-
และธาตุทั้งหลาย
-
นั่นเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่
-
"มหากรุณา"
"มหาเมตตา"
-
นั่นแหละคือรักของพระพุทธองค์
-
(เสียงระฆัง)