เสียงระฆัง เสียงระฆัง (คำถามเป็นภาษาต่างประเทศ) หากพื้นฐานอย่างหนึ่งของศาสนาพุทธ คือความรักในธรรมชาติ ทำไมสิ่งนี้จึงไม่เท่ากันกับความรักแท้ของชายหนุ่มหญิงสาว ระหว่างคนสองคน รวมทั้งการแสดงออกของความรัก ต่อกันและกัน มีท่านใดทวนคำถามมั้ยครับ ดูเหมือนว่าจะเป็นคำถามที่น่าสนใจ (เสียงหัวเราะ) เธอถามว่าหากศาสนาพุทธสนับสนุนความรักต่อธรรมชาติแล้ว ไฉนจึงไม่สนับสนุนความรัก ฉันชู้สาวระหว่างชายหญิง รวมทั้งการแสดงออกถึงความรักนั้นระหว่างคนสองคน พระพุทธเจ้าทรงเป็นครูสอนความรัก รักแท้ ความรักต่อธรรมชาตินั้นควรเป็นรักแท้ และถ้าหากมันเป็นความรักที่แท้มันย่อมนำมาซึ่งความสุข ทั้งต่อเธอและต่อธรรมชาติ เช่นกันกับความรักเชิงชู้สาวด้วย ถ้ามันเป็นรักแท้ มันย่อมนำมาซึ่งความสุขมหาศาล แต่หากไม่ใช่ มันย่อมนำมาซึ่งความทุกข์สู่ตัวเธอ รวมทั้งอีกบุคคลหนึ่งเช่นกัน ในคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น รักแท้มีองค์ประกอบ 4 อย่าง อย่างแรก: เมตตา - ความเป็นมิตร มันคือความสามารถ ที่จะนำความสุขมาให้ หากเธอไม่สามารถเผื่อแผ่ความสุขได้นั่นไม่ใช่รักแท้ ในแง่ความรักเชิงชู้สาว หากเธอไม่สามารถช่วยให้อีกฝ่ายมีความสุขได้ มันก็ไม่ใช่รักแท้ ดังนั้นหากเธอบ่มเพาะตนเองให้สามารถที่จะ เผื่อแผ่ความสุขออกไป ให้ตัวเธอเองและให้เขา/หล่อน ถ้าขาดสิ่งนี้ ทั้งคู่ย่อมมีความทุกข์ องค์ประกอบที่ 2 ของรักแท้ คือ ความเห็นอกเห็นใจ ความเห็นอกเห็นใจ เป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่คอยช่วยขจัดความทุกข์ มันสามารถเปลี่ยนแปลงความทุกข์ในตัวเธอและอีกคนหนึ่ง ถ้าเธอเปลี่ยนมันไม่ได้ ทั้งไม่สามารถดูแลความทุกข์ ของตัวเองและอีกฝ่ายได้ นั่นก็ไม่ใช่รักแท้ นี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไม "กรุณา" จึงเป็นองค์ประกอบที่ 2 ของรักแท้ มันควรได้รับการบ่มเพาะให้มีขึ้น ทั้งในตัวเธอและในอีกฝ่าย จะเป็นความรักเชิงชู้สาวหรือไม่ นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ อะไรคือรักแท้ อะไรไม่ใช่ต่างหาก จริงไหม? องค์ประกอบที่ 3 ของความรัก คือ ความเบิกบานใจ ถ้าในความรักนั้น เธอทำให้อีกฝ่ายร้องไห้ตลอดเวลา และเธอก็ร้องไห้ตลอดเวลา มันก็ไม่ใช่ความรักที่แท้ (เสียงหัวเราะ) ไม่เกี่ยวว่าจะเชิงชู้สาวหรือไม่ รักแท้ จะโอบอุ้มและครอบคลุม ไม่แยกส่วน ความทุกข์ของเขา คือ ความทุกข์ของเธอ ความสุขของเขา คือ ความสุขของเธอ ไม่มีว่าความทุกข์หรือความสุข "ของใคร" อีกต่อไป นี่คือความรักที่แท้ มีองค์ประกอบของความโอบอุ้ม ไม่กีดกั้น ไม่แบ่งแยก ไม่มีแนวกั้น ระหว่างเธอและอีกฝ่าย ด้วยจิตวิญญาณเช่นนั้น เธอพูดไม่ออกหรอกว่า "นั่นมันเรื่องของเธอ!" ไม่ใช่ ปัญหาของเธอก็คือปัญหาของฉัน ความทุกข์ของฉันก็คือ ความทุกข์ของเธอ นี่เป็นองค์ประกอบที่ 4 ของรักแท้ และถ้าหากความรักเชิงชู้สาวมีครบ ทั้งองค์ประกอบ 4 อย่างเหล่านี้ มันย่อมนำความสุขมากมาย มาให้ได้เช่นกัน พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสปฏิเสธรักแท้ ถ้าเธอประสบความสำเร็จ ในการมีความรักแบบชายหนุ่มหญิงสาว เธอจะบ่มเพาะเมตตาและกรุณาได้อย่างมากมาย และไม่นานนัก รักของเธอ จะแผ่ขยายออกไป อีกฝ่ายจะไม่ใช่เป็นเพียง วัตถุที่ตั้งแห่งความรักอีกต่อไป เพราะรักของเธอจะเจริญเติบโตไปอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งรักของเธอโอบอุ้มทุกคนเอาไว้ และความสุข ก็กลายเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน นี่คือรักของพระพุทธองค์ คือความหมายขององค์ประกอบที่ 4 ของความรัก นั่นคือ ความโอบอุ้มไม่แบ่งแยก หากมันเป็นรักแท้ มันย่อมเติบโตต่อไปเรื่อยๆ โอบอุ้มยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่จำกัดเฉพาะเพียงมนุษย์ รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ พืชพรรณนานา และธาตุทั้งหลาย นั่นเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ "มหากรุณา" "มหาเมตตา" นั่นแหละคือรักของพระพุทธองค์ (เสียงระฆัง)