4 บทเรียนจากหุ่นยนต์ ในเรื่องการเป็นมนุษย์
-
0:01 - 0:03ผมรู้ว่ามันออกจะฟังดูแปลก
-
0:03 - 0:06แต่ผมคิดว่าหุ่นยนต์ สามารถสร้างแรงบันดาลใจ
-
0:06 - 0:09ให้เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นได้
-
0:09 - 0:12ผมโตขึ้นในเมืองเบธเลแฮม รัฐเพนซิลวาเนีย
-
0:12 - 0:15แหล่งกำเนิดเหล็กเบธเลแฮม
-
0:15 - 0:17พ่อของผมเป็นวิศวกร
-
0:17 - 0:20ผมเติบโตขึ้นมา โดยมีพ่อคอยสอน
-
0:20 - 0:21ว่าสิ่งต่างๆ ทำงานอย่างไร
-
0:21 - 0:24เราสร้างโปรเจคต่างๆ ด้วยกัน
-
0:24 - 0:26เช่นจรวดของเล่น รถแข่งบังคับในราง
-
0:26 - 0:30นี่คือรถโกคาร์ทที่เราสร้างด้วยกัน
-
0:30 - 0:32และนั่นคือผมที่นั่งหลังพวงมาลัย
-
0:32 - 0:36พร้อมด้วยพี่สาวและเพื่อนรักของผมในตอนนั้น
-
0:36 - 0:38แล้ววันหนึ่ง
-
0:38 - 0:41พ่อกลับบ้าน ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบ
-
0:41 - 0:43และบนโต๊ะอาหาร เขาก็ประกาศขึ้นว่า
-
0:43 - 0:50โครงการต่อไปของเรา คือการสร้างหุ่นยนต์
-
0:50 - 0:51หุ่นยนต์นะครับ
-
0:51 - 0:53ตอนนั้น ผมตื่นเต้นกับมันมาก
-
0:53 - 0:55เพราะที่โรงเรียน
-
0:55 - 0:57มีเด็กเกเรคนหนึ่งชื่อเควิน
-
0:57 - 0:59และเขาชอบแกล้งผม
-
0:59 - 1:01เพียงเพราะผมเป็นเด็กชาวยิวคนเดียวในห้อง
-
1:01 - 1:04ดังนั้นผมจึงแทบรอไม่ได้ที่จะเริ่มโปรเจคนี้
-
1:04 - 1:08เพื่อที่ผมจะให้เควินได้เจอกับเจ้าหุ่นยนต์ของผม
(เสียงหัวเราะ) -
1:08 - 1:19(เสียงหุ่นยนต์)
-
1:19 - 1:24แต่นั่นไม่ใช่หุ่นยนต์แบบที่พ่อคิดเอาไว้ในใจ
-
1:24 - 1:28คือ เขาเป็นเจ้าของโรงงานชุบโครเมียม
-
1:28 - 1:30และพวกเขาต้องการเคลื่อนย้าย
-
1:30 - 1:33ชิ้นส่วนเหล็กหนักๆ จากถังน้ำยาเคมีถังหนึ่ง ไปอีกถังหนึ่ง
-
1:33 - 1:37ดังนั้นพ่อจึงต้องการหุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบนี้
-
1:37 - 1:40เพื่อให้มันยกของหนักๆ ได้
-
1:40 - 1:44แต่พ่อผมก็ไม่ได้หุ่นยนต์แบบที่เขาต้องการเช่นกัน
-
1:44 - 1:46พ่อและผมสร้างมันหลายปี
-
1:46 - 1:48แต่นั่นมันเป็นในช่วงปี 1970
-
1:48 - 1:51เทคโนโลยีที่พวกมือสมัครเล่นจะใช้ได้
-
1:51 - 1:53ก็ยังไม่มีในตอนนั้น
-
1:53 - 1:57ดังนั้น พ่อจึงต้องทำงานแบบนี้ด้วยมือต่อไปเรื่อยๆ
-
1:57 - 2:00และ 2-3 ปีหลังจากนั้น
-
2:00 - 2:04เขาถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง
-
2:04 - 2:07เห็นไหมครับ สิ่งที่หุ่นยนต์ที่เราพยายามสร้าง
-
2:07 - 2:10ได้บอกแก่พ่อ ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวการยกของหนัก
-
2:10 - 2:15แต่มันคือคำเตือนเกี่ยวกับการที่พ่อต้องสัมผัสสารพิษ
-
2:15 - 2:18พ่อไม่ได้ตระหนักในตอนนั้น
-
2:18 - 2:20เขาเป็นลูคิเมีย
-
2:20 - 2:23และตายเมื่ออายุ 45 ปี
-
2:23 - 2:26ผมเสียใจมาก
-
2:26 - 2:30และผมไม่เคยลืมเรื่องหุ่นยนต์ที่พ่อกับผมพยายามสร้าง
-
2:30 - 2:35ตอนผมเข้าเรียนมหาลัย ผมตัดสินใจเลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ เหมือนพ่อ
-
2:35 - 2:40ผมเรียนที่ คาร์เนกี้ เมลอน (Carnegie Mellon) และได้รับปริญญาเอกในสาขาหุ่นยนต์
-
2:40 - 2:43ผมศึกษาเกี่ยวกับหุ่นยนต์ตั้งแต่นั้นมา
-
2:43 - 2:44ดังนั้น สิ่งที่ผมจะเล่าให้คุณฟัง
-
2:44 - 2:47คือโปรเจคหุ่นยนต์ 4 ตัว
-
2:47 - 2:54และวิธีที่พวกมันสร้างแรงบันดาลใจให้ผม
เป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น -
2:54 - 3:00เมื่อปี 1993 ผมเป็นศาสตราจารย์หนุ่มอยู่ที่ USC
-
3:00 - 3:03และในตอนนั้นผมเพิ่งสร้างห้องปฏิบัติการ
หุ่นยนต์ของผมเอง -
3:03 - 3:06และปีนั้นเป็นปีที่ เวิร์ลไวด์เว็บ เปิดตัว
-
3:06 - 3:08ผมจำได้ว่านักเรียนของผม
-
3:08 - 3:09เป็นคนบอกผมเรื่องนี้
-
3:09 - 3:12และเราต่างก็พากันทึ่ง
-
3:12 - 3:15เราเริ่มเล่นกับมัน และบ่ายวันนั้นเอง
-
3:15 - 3:19เราก็ตระหนักว่าเราสามารถใช้วิธีเชื่อมต่อสากลแบบใหม่นี้
-
3:19 - 3:22เพื่อให้ใครก็ตามบนโลก
-
3:22 - 3:25ควบคุมหุ่นยนต์ในห้องปฏิบัติการของเราได้
-
3:25 - 3:30ดังนั้น แทนที่จะให้พวกมันต่อสู้ หรือทำงานโรงงานหนักๆ
-
3:30 - 3:33เราตัดสินใจสร้างสวนดอกไม้
-
3:33 - 3:35เอาหุ่นยนต์ใส่ไว้ตรงกลาง
-
3:35 - 3:37แล้วเราเรียกมันว่า สวนดอกไม้ทางไกล
-
3:37 - 3:41เราติดกล้องไว้กับที่จับบนมือ
-
3:41 - 3:44ของหุ่นยนต์ และเราเขียนสคริปต์
-
3:44 - 3:47และซอฟท์แวร์พิเศษไว้ ที่ให้ทุกคนบนโลก สามารถเข้ามา
-
3:47 - 3:49และด้วยการคลิ้กบนจอภาพ
-
3:49 - 3:51พวกเขาสามารถสั่งให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปรอบๆ
-
3:51 - 3:54และชมสวนดอกไม้ได้
-
3:54 - 3:57เรายัง ติดตั้งซอฟท์แวร์แวร์อื่นๆ
-
3:57 - 4:01ที่ยอมให้คุณเข้าไปมีส่วนร่วม ช่วยเรารดน้ำต้นไม้
-
4:01 - 4:04จากระยะไกล และถ้าคุณรดน้ำมันเพียงไม่กี่ครั้ง
-
4:04 - 4:07เราจะให้เมล็ดพันธุ์กับคุณเพื่อปลูกเอง
-
4:07 - 4:11นี่เป็นโปรเจคหนึ่ง เป็นโปรเจคทางวิศวกรรม
-
4:11 - 4:13และเราตีพิมพ์งานวิจัยเกี่ยวกับการออกแบบ
-
4:13 - 4:16การออกแบบระบบ แต่เราก็คิดว่ามัน
-
4:16 - 4:19เป็นศิลปะชิ้นหนึ่งด้วยเช่นกัน
-
4:19 - 4:21หลังจากถูกสร้างขึ้นเพียงปีเดียว มันได้รับการเชิญ
-
4:21 - 4:24จากพิพิธภัณฑ์ อาร์ส อิเล็คโทรนิคส์ (Ars Electronics Museum) ในออสเตรีย
-
4:24 - 4:27เพื่อนำไปติดตั้งไว้ในล็อบบี้
-
4:27 - 4:29ผมภูมิใจที่จะบอกว่ามันยังคงออนไลน์อยู่ที่นั่น
-
4:29 - 4:3424 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลาเกือบ 9 ปีมาแล้ว
-
4:34 - 4:38หุ่นตัวนั้นถูกควบคุมโดยคนจำนวนมาก
-
4:38 - 4:41กว่าหุ่นยนต์ตัวไหนๆ ในประวัติศาสตร์
-
4:41 - 4:43ทีนี้ วันหนึ่ง
-
4:43 - 4:45จู่ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์
-
4:45 - 4:47จากนักเรียนคนหนึ่ง
-
4:47 - 4:52ผู้ซึ่งถามคำถามง่ายๆ แต่ลึกซื้ง
-
4:52 - 4:56เขาถามว่า "หุ่นยนต์ตัวนั้นมันมีอยู่จริงๆ หรือเปล่าครับ?"
-
4:56 - 4:59ทุกคนคิดเอาเองว่ามันมีอยู่จริง
-
4:59 - 5:01และเราก็รู้ว่ามันมีอยู่จริงเพราะเราสร้างมันกับมือ
-
5:01 - 5:03แต่ผมเข้าใจสิ่งที่เขาถาม
-
5:03 - 5:05เพราะมันก็เป็นไปได้ที่จะถ่ายรูปจำนวนมาก
-
5:05 - 5:10ของดอกไม้ในสวน แล้วจัดเรียงมัน
-
5:10 - 5:12ในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มันดูเหมือนว่า
-
5:12 - 5:15มันมีหุ่นยนต์อยู่ ทั้งที่มันไม่มีจริง
-
5:15 - 5:16และยิ่งผมคิดเกี่ยวกับคำถามนี้มากเท่าไหร่
-
5:16 - 5:20ผมก็ไม่สามารถหาคำตอบที่ดี ว่าเขาจะแยกมันออกได้อย่างไร
-
5:20 - 5:23นั่นเป็นตอนช่วงที่ผมได้รับเสนอตำแหน่ง
-
5:23 - 5:25ที่เบิร์กลีย์แห่งนี้
-
5:25 - 5:28เมื่อผมมาถึง ผมพยามหาตัว ฮิวเบิร์ต ดรายฟัส (Hubert Dreyfus)
-
5:28 - 5:32ผู้ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญาชื่อก้องโลก
-
5:32 - 5:34ผมเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขาพูดว่า
-
5:34 - 5:38"นี่คือหนึ่งในปัญหาหลัก ที่เก่าแก่ที่สุด
-
5:38 - 5:42ในวิชาปรัชญา มันย้อนไปถึงสมัยของกลุ่มวิมตินิยม (Skeptics),
-
5:42 - 5:44จนถึงสมัย เดอคาร์ท (Descartes)
-
5:44 - 5:47นี่คือปัญหาในสาขาญาณวิทยา
-
5:47 - 5:51การศึกษาว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าบางอย่างมีอยู่จริง"
-
5:51 - 5:53ดังนั้น เขาและผมจึงเริ่มร่วมงานกัน
-
5:53 - 5:56เราตั้งศัพท์ใหม่ โทรญาณวิทยา (telepistemology)
-
5:56 - 5:59การศึกษาของความรู้จากระยะไกล
-
5:59 - 6:02เราได้เชิญศิลปิน วิศวกร
-
6:02 - 6:05และนักปราชญ์ชั้นนำ มาเพื่อเขียนเรียงความเกี่ยวกับสิ่งนี้
-
6:05 - 6:07และผลที่ได้ ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้
-
6:07 - 6:10จากสำนักพิมพ์ MIT
-
6:10 - 6:12ดังนั้น ต้องขอบคุณนักเรียนคนนั้นที่สงสัย
-
6:12 - 6:15ในสิ่งที่คนอื่นๆ ทึกทักเอาเองว่าเป็นจริง
-
6:15 - 6:19โปรเจคนี้สอนผมบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับชีวิต
-
6:19 - 6:23ซึ่งก็คือ จงสงสัยสมมุติฐานทั้งหลาย
-
6:23 - 6:26โปรเจคที่สองที่ผมจะเล่าให้คุณฟัง
-
6:26 - 6:28เกิดขึ้นมาจาก สวนดอกไม้ทางไกล
-
6:28 - 6:31ในขณะที่มันกำลังทำงานอยู่ นักเรียนของผมและตัวผมนั้นสนใจ
-
6:31 - 6:33ว่าผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร
-
6:33 - 6:35และพวกเขาทำอะไรกับสวนดอกไม้
-
6:35 - 6:37เราจึงเริ่มคิดว่า ถ้าหุ่นยนต์สามารถออกจาก
-
6:37 - 6:39สวนดอกไม้ แล้วออกไปยัง
-
6:39 - 6:41สภาวะแวดล้อมอื่นๆ ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นล่ะ?
-
6:41 - 6:43เช่น ถ้ามันเข้าไปในงานเลี้ยงอาหารเย็น
-
6:43 - 6:49ที่ทำเนียบขาวล่ะ? (เสียงหัวเราะ)
-
6:49 - 6:52เพราะตอนนั้นเราสนใจในเรื่องการออกแบบระบบ
-
6:52 - 6:55และการติดต่อกับผู้ใช้มากกว่าในเรื่องฮาร์ดแวร์
-
6:55 - 6:57เราตัดสินใจกันว่า
-
6:57 - 7:01แทนที่จะให้หุ่นยนต์แทนตัวมนุษย์เพื่อไปงานปาร์ตี้
-
7:01 - 7:03เราจะให้มนุษย์ทำหน้าที่แทนหุ่นยนต์
-
7:03 - 7:06เราเรียกมันว่า นักแสดงทางไกล
-
7:06 - 7:08เราให้มนุษย์
-
7:08 - 7:11ใครบางคนที่ชอบสังสรรค์ และชอบเข้าสังคม
-
7:11 - 7:14และเธอถูกให้สวมชุดที่มีหมวก
-
7:14 - 7:17ที่ติดตั้งเครื่องมือหลายชนิด กล้อง ไมโครโฟน
-
7:17 - 7:20และเป้หลังที่มีการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เนตไร้สาย
-
7:20 - 7:24แนวคิดก็คือ เธอจะไปยังสภาพแวดล้อมที่น่าสนใจและห่างไกล
-
7:24 - 7:28และจากนั้น โดยผ่านทางอินเตอร์เนต
-
7:28 - 7:31ผู้คนสามารถได้รับประสบการณ์เช่นเดียวกับที่เธอได้รับ
-
7:31 - 7:34พวกเขาจะได้เห็นสิ่งที่เธอเห็น
-
7:34 - 7:37แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ พวกเขาจะได้มีส่วนร่วม
-
7:37 - 7:40โดยการมีปฏิสัมพันธ์กัน
-
7:40 - 7:44และเสนอความเห็นว่าเธอควรจะทำอะไรต่อไป
-
7:44 - 7:46และเธอควรจะไปไหน
-
7:46 - 7:49และสื่อสารสิ่งเหล่านั้นไปยังนักแสดงทางไกล
-
7:49 - 7:52เรามีโอกาสที่จะนำนักแสดงทางไกล
-
7:52 - 7:55ไปยังงานประกาศรางวัลเว็บบี (Webby Awards)
ในซานฟรานซิสโก -
7:55 - 7:59และในปีนั้น แซม โดแนลสัน (Sam Donaldson) ได้เป็นพิธีกร
-
7:59 - 8:03ก่อนที่ม่านจะเปิดขึ้น ผมมีเวลา 30 วินาที
-
8:03 - 8:07เพื่ออธิบายให้คุณโดแนลสันฟังว่าเราจะทำอะไร
-
8:07 - 8:09และผมกล่าวว่า " นักแสดงทางไกล
-
8:09 - 8:12กำลังจะเป็นพิธีกรคู่กับคุณบนเวที
-
8:12 - 8:14และนี่เป็นโปรเจคการทดลองใหม่
-
8:14 - 8:16และผู้คนจำนวนมากกำลังดูเธออยู่บนหน้าจอ
-
8:16 - 8:19และเธอมีกล้อง
-
8:19 - 8:22มีไมโครโฟน และหูฟังอยู่ในหู
-
8:22 - 8:23และผู้คนจำนวนมาก จะให้คำแนะนำ
-
8:23 - 8:25ว่าเธอควรทำอะไรต่อไป ผ่านทางระบบเครือข่าย"
-
8:25 - 8:28และเขากล่าวว่า "เดี๋ยวก่อนนะ
-
8:28 - 8:34นั่นเหมือนงานของผมเลยนี่" (เสียงหัวเราะ)
-
8:34 - 8:36เขาชอบแนวคิดนี้
-
8:36 - 8:38และเมื่อนักแสดงระยะไกลเดินขึ้นสู่เวที
-
8:38 - 8:41เธอเดินตรงไปหาเขา และเธอจูบเขานานทีเดียว
-
8:41 - 8:44บนริมฝีปากเสียด้วย (เสียงหัวเราะ)
-
8:44 - 8:45พวกเราประหลาดใจมาก
-
8:45 - 8:47เราไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
-
8:47 - 8:50และเขาตอบสนองได้ดีมาก เขากอดเธอครั้งใหญ่เป็นการตอบแทน
-
8:50 - 8:52และมันออกมาดูดีมาก
-
8:52 - 8:54แต่คืนนั้น ระหว่างที่เรากำลังเก็บของกลับ
-
8:54 - 8:58ผมถามนักแสดงทางไกล ว่าเหล่าผู้กำกับทางไกล
-
8:58 - 9:03ตัดสินใจกันอย่างไรว่าจะให้เธอจูบ แซม โดแนลสัน
-
9:03 - 9:05และเธอกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้บอกให้ทำ
-
9:05 - 9:08เธอเล่าว่า ตอนที่เธอกำลังจะก้าวขึ้นเวที
-
9:08 - 9:10เหล่าผู้กำกับทางไกลยังมัวแต่เถียงกันอยู่ว่าจะให้ทำอะไร
-
9:10 - 9:12ดังนั้นเธอเลยเดินขึ้นบนเวลาแล้วทำ
-
9:12 - 9:18ในสิ่งที่รู้สึกเป็นธรรมชาติมากที่สุด (เสียงหัวเราะ)
-
9:18 - 9:22ดังนั้น ความสำเร็จของนักแสดงทางไกลคืนนั้น
-
9:22 - 9:26เป็นเพราะเธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม
-
9:26 - 9:28เธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเชื่อสัญชาตญาณ
-
9:28 - 9:32และโปรเจคนั้นสอนผมบทเรียนชีวิตอีกบทหนึ่ง
-
9:32 - 9:39ซึ่งก็คือ ถ้าคุณกำลังลังเล ให้ด้นสด (เสียงหัวเราะ)
-
9:39 - 9:42ทีนี้ โปรเจคที่สาม ผุดขึ้นจาก
-
9:42 - 9:47ประสบการณ์ของผม เมื่อตอนที่พ่ออยู่ในโรงพยาบาล
-
9:47 - 9:49เขาได้รับการรักษา
-
9:49 - 9:53โดยเคมีบำบัด และมีการรักษาที่เกี่ยวเนื่องด้วย
-
9:53 - 9:58ซึ่งเรียกว่า การฝังแร่กัมมันตรังสี ซึ่งเม็ดกัมมันตรังสีเล็กๆ
-
9:58 - 10:02จะถูกนำไปฝังไว้ในร่างกายเพื่อรักษาเนื้อร้าย
-
10:02 - 10:04และวิธีทำก็คือ
-
10:04 - 10:08ศัลยแพทย์แทงเข็มหลายๆ เข็มเข้าไปในร่างกาย
-
10:08 - 10:11เพื่อฉีดเม็ดกัมมันตรังสีเข้าไป
-
10:11 - 10:14และเข็มเหล่านี้ แทงเข้าไปในทิศทางขนานกัน
-
10:14 - 10:17ดังนั้น มันเป็นปกติ ถ้าเข็มบางเล่ม
-
10:17 - 10:22จะแทงไปโดนอวัยวะสำคัญ และผลที่ตามมาคือ
-
10:22 - 10:27เข็มทำลายอวัยวะเหล่านั้น ซึ่งสร้างความเสียหาย
-
10:27 - 10:31และนำไปสู่การบาดเจ็บและสร้างผลข้างเคียง
-
10:31 - 10:33ดังนั้น นักเรียนของผมและตัวผม จึงคิดกันว่า
-
10:33 - 10:37ถ้าเราปรับปรุงระบบ
-
10:37 - 10:40เพื่อให้เหล่าเข็มทิ่มมาจากหลายๆ ทิศทางหล่ะ?
-
10:40 - 10:43ดังนั้น เราจำลองสิ่งนี้ และพัฒนา
-
10:43 - 10:46ระเบียบวิธีคิดที่หาทางที่ให้ผลดีที่สุด และเราจำลองมัน
-
10:46 - 10:48เราสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า เราสามารถเลี่ยง
-
10:48 - 10:52อวัยวะที่ละเอียดอ่อน และยังครอบคลุม
-
10:52 - 10:55เนื้องอกไว้ด้วยรังสีได้ครบถ้วน
-
10:55 - 10:59ดังนั้น เราจึงทำงานร่วมกับเหล่าแพทย์ที่ UCSF
-
10:59 - 11:02และวิศวกรที่ จอห์น ฮอปกินส์ (John Hopkins)
-
11:02 - 11:05เรากำลังสร้างหุ่นยนต์ที่
-
11:05 - 11:08ออกแบบมาเป็นพิเศษ และมีข้อต่อจำนวนมาก ที่ทำให้
-
11:08 - 11:13เข็มสามารถแทงเข้าไปในแง่มุมต่างๆ กันไม่จำกัด
-
11:13 - 11:16และคุณจะเห็นได้ว่า เหล่าเข็มสามารถเลี่ยงอวัยวะสำคัญ
-
11:16 - 11:20และยังไปถึงจุดหมายที่ต้องการไปได้
-
11:20 - 11:23ดังนั้น โดยการตั้งข้อสงสัยสมมุติฐานที่ว่า เข็มทั้งหมด
-
11:23 - 11:26ต้องขนานกัน โปรเจคนี้สอนผม
-
11:26 - 11:29ถึงบทเรียนสำคัญว่า
-
11:29 - 11:34เมื่อเส้นทางของคุณถูกขวางกั้น จงหักมุม
-
11:34 - 11:38และโปรเจคสุดท้ายก็เกี่ยวกับหุ่นยนต์ด้านการแพทย์เช่นกันครับ
-
11:38 - 11:42นี่คือสิ่งที่ต่อยอดมาจากระบบที่มีชื่อว่า
-
11:42 - 11:46หุ่นยนต์ผ่าตัด ดาวินชี
-
11:46 - 11:48และนี่เป็นอุปกรณ์ที่จำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว
-
11:48 - 11:52มันถูกใช้ในโรงพยาบาลกว่า 2000 แห่งทั่วโลก
-
11:52 - 11:54แนวคิดคือมันสามารถให้ศัลยแพทย์
-
11:54 - 11:58ผ่าตัดอย่างสบายในสภาพแวดล้อมของเขา
-
11:58 - 12:03แต่หน้าที่ย่อยๆ อื่นๆ ในการผ่าตัด
-
12:03 - 12:06เป็นหน้าที่ซ้ำๆ ที่น่าเบื่อ เช่น การเย็บแผล
-
12:06 - 12:09และในปัจจุบันนี้ ทุกอย่างถูกทำ
-
12:09 - 12:13ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของศัลยแพทย์
-
12:13 - 12:16ดังนั้นศัลยแพทย์จึงเกิดความล้าในระยะยาว
-
12:16 - 12:17เราจึงคิดว่า
-
12:17 - 12:19ถ้าเราตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์
-
12:19 - 12:22ทำงานยิบย่อยเหล่านี้แทนหล่ะ
-
12:22 - 12:24และนั่นจะช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมีสมาธิ
-
12:24 - 12:26กับงานที่ซับซ้อนมากขึ้นในการผ่าตัดได้
-
12:26 - 12:30และจะช่วยร่นเวลาการผ่าตัดให้สั้นลง
-
12:30 - 12:33ถ้าเราทำให้หุ่นยนต์ทำงานเหล่านี้ให้เร็วยิ่งขึ้น
-
12:33 - 12:35ทีนี้ มันยากที่จะโปรแกรมหุ่นยนต์ให้ทำงานละเอียดแบบนี้
-
12:35 - 12:39แต่เพื่อนร่วมงานของผม ปีเตอร์ แอบบีล (Pieter Abbeel)
-
12:39 - 12:42ซึ่งอยู่ที่เบิร์กลีย์ ได้พัฒนา
-
12:42 - 12:47เทคนิคใหม่สำหรับสอนหุ่นยนต์ให้เรียนตามตัวอย่าง
-
12:47 - 12:50เขาสอนหุ่นยนต์ให้ขับเฮลิคอปเตอร์
-
12:50 - 12:53และทำท่าผาดแผลงได้อย่างงดงาม และน่าเหลือเชื่อ
-
12:53 - 12:56โดยการดูการบินของคนเก่งๆ
-
12:56 - 12:58ดังนั้น เราจึงเอาหุ่นยนต์แบบนี้มาตัวหนึ่ง
-
12:58 - 13:01เราร่วมงานกับปีเตอร์และนักเรียนของเขา
-
13:01 - 13:03และเราขอให้ศัลยแพทย์
-
13:03 - 13:08ทำงานสักอย่าง ด้วยหุ่นยนต์
-
13:08 - 13:10สิ่งที่เราทำคือ เราขอให้ศัลยแพทย์
-
13:10 - 13:11ทำงานสักอย่าง ด้วยหุ่นยนต์
-
13:11 - 13:13แล้วเราก็บันทึกการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์
-
13:13 - 13:15นี่เป็นตัวอย่างครับ ผมจะใช้รูปเลขแปด
-
13:15 - 13:18การเขียนเส้นทางเป็นรูปเลขแปด เป็นตัวอย่าง
-
13:18 - 13:21มันออกหน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ เมื่อหุ่นยนต์
-
13:21 - 13:24นี่คือหน้าตาเส้นทางของหุ่นยนต์
-
13:24 - 13:25สามตัวอย่างนั่น
-
13:25 - 13:27นี่มันดีกว่าการให้มือใหม่
-
13:27 - 13:32อย่างผมทำ แต่มันยังสั่น และไม่แม่น
-
13:32 - 13:34ดังนั้นเราจึงบันทึกข้อมูลตัวอย่างเหล่านี้
-
13:34 - 13:38แล้วก็ค่อยๆ ดูในแต่ละขั้นตอน
-
13:38 - 13:41ขั้นแรก เราใช้เทคนิคที่เรียกว่า ไดนามิกไทม์วอร์ปปิง
-
13:41 - 13:43จากสาขาด้านการรู้จำเสียงพูด และนี่ทำให้เรา
-
13:43 - 13:46สามารถจัดเรียงทุกตัวอย่างได้
-
13:46 - 13:49และจากนั้นเราใช้ตัวกรองคาลแมน (Kalman filter)
-
13:49 - 13:52เทคนิคจากทฤษฎีการควบคุม ที่ทำให้
-
13:52 - 13:55เราวิเคราะห์สัญญาณรบกวนได้ในทางสถิติ
-
13:55 - 14:01และคัดเอาเฉพาะทางเดินที่ต้องการที่รวมอยู่ในนั้นออกมา
-
14:01 - 14:03ทีนี้ สิ่งที่เราทำคือ เราเอา
-
14:03 - 14:05การสาธิตจากมนุษย์หลายๆ ครั้ง ซึ่งเต็มไปด้วยสัญญาณรบกวน และความไม่สมบูรณ์
-
14:05 - 14:08เราดึงเฉพาะส่วนที่เป็นทางเดินที่เราต้องการ
-
14:08 - 14:11และส่วนที่ใช้ในการควบคุม สำหรับหุ่นยนต์
-
14:11 - 14:13และเราสั่งให้หุ่นยนต์ทำงาน
-
14:13 - 14:16เราสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น
-
14:16 - 14:18จากนั้นก็ปรับตัวควบคุมต่างๆ ด้วยเทคนิค
-
14:18 - 14:21ที่เรียกว่าการควบคุมแบบเรียนรู้ซ้ำ
-
14:21 - 14:25จากนั้น เราเพิ่มความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย
-
14:25 - 14:29เราสังเกตผล และปรับแต่งตัวควบคุมอีกที
-
14:29 - 14:31แล้วก็สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น
-
14:31 - 14:33เราทำแบบนี้หลายๆ รอบ
-
14:33 - 14:35และนี่คือผลที่ได้
-
14:35 - 14:37นั่นคือเส้นทางเดินที่ต้องการ
-
14:37 - 14:40นี่คือหุ่นยนต์กำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วของมนุษย์
-
14:40 - 14:42และนี่คือที่ความเร็ว 4 เท่าของมนุษย์
-
14:42 - 14:45นี่คือ ที่ความเร็ว 7 เท่า
-
14:45 - 14:49และนี่ คือหุ่นยนต์ทำงานที่ความเร็ว 10 เท่า
-
14:49 - 14:51ของมนุษย์
-
14:51 - 14:54เราสามารถทำให้หุ่นยนต์ทำงานละเอียดอ่อน
-
14:54 - 14:57ดังเช่นงานย่อยๆ ในการผ่าตัด
-
14:57 - 15:00ที่ความเร็ว 10 เท่าของมนุษย์
-
15:00 - 15:04โปรเจคนี้ เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับการฝึกฝน
-
15:04 - 15:07และเรียนรู้ ที่จะทำบางอย่าง ครั้งแล้วครั้งเล่า
-
15:07 - 15:09โปรเจคนี้ก็ให้บทเรียนบทหนึ่ง นั่นก็คือ
-
15:09 - 15:13ถ้าคุณอยากทำอะไรให้เก่งๆ
-
15:13 - 15:20ไม่มีอะไรดีกว่าการฝึก ฝึก และฝึก
-
15:21 - 15:24นี่คือสี่บทเรียนที่ผมได้เรียนรู้
-
15:24 - 15:27จากหุ่นยนต์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
-
15:27 - 15:32และสาขาด้านหุ่นยนต์ ได้พัฒนามาขึ้นมาก
-
15:32 - 15:34ตลอดเวลาที่ผ่านมา
-
15:34 - 15:36ทุกวันนี้ นักเรียนม.ปลาย สามารถสร้างหุ่นยนต์
-
15:36 - 15:40เช่นเดียวกับหุ่นต์ในอุตสาหกรรมที่พ่อและผมพยายามจะสร้าง
-
15:40 - 15:47และตอนนี้ ผมมีลูกสาวคนหนึ่ง
-
15:47 - 15:50ชื่อ โอเดสซา
-
15:50 - 15:52เธออายุ 8 ขวบแล้ว
-
15:52 - 15:54และเธอชอบหุ่นยนต์เสียด้วย
-
15:54 - 15:57บางทีมันอาจเป็นพันธุกรรมนะครับ (เสียงหัวเราะ)
-
15:57 - 16:00ผมอยากให้เธอได้เจอกับพ่อของผม
-
16:00 - 16:03ตอนนี้ผมมีโอกาสสอนให้เธอรู้ว่าสิ่งต่างๆ ทำงานอย่างไร
-
16:03 - 16:06เราได้ทำโปรเจคต่างๆ ร่วมกัน และผมก็อยากรู้ว่า
-
16:06 - 16:10เธอจะได้บทเรียนอะไรจากโปรเจคเหล่านี้บ้าง
-
16:10 - 16:13หุ่นยนต์ คือสิ่งที่ใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด
-
16:13 - 16:15ท่ามกลางเครื่องจักรที่เราสร้างขึ้น
-
16:15 - 16:18มันไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างบนโลกนี้
-
16:18 - 16:22แต่ผมคิดว่ามันมีบางสิ่งที่สำคัญที่สอนเรา
-
16:22 - 16:26ผมขอเชิญทุกท่านให้ลองคิดเกี่ยวกับนวัตกรรมต่างๆ
-
16:26 - 16:28ที่คุณสนใจ
-
16:28 - 16:32จักรกลที่คุณอยากได้
-
16:32 - 16:35และลองคิดว่ามันจะสอนอะไรแก่คุณ
-
16:35 - 16:37เพราะผมมีลางสังหรณ์ว่า
-
16:37 - 16:39หลายนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี
-
16:39 - 16:42อุปกรณ์ที่เราฝันถึง
-
16:42 - 16:46จะสร้างแรงบันดาลใจให้เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นได้
-
16:46 - 16:49ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)
- Title:
- 4 บทเรียนจากหุ่นยนต์ ในเรื่องการเป็นมนุษย์
- Speaker:
- เคน โกลด์เบิร์ก (Ken Goldberg)
- Description:
-
ยิ่งหุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา เราควรต้องย้อนกลับมามองตัวเองในฐานะมนุษย์ด้วย ที่ TEDxBerkeley เคน โกลด์เบิร์ก แบ่งปันบทเรียน 4 ข้อที่เขาได้เรียนรู้จากการทำงานด้านหุ่นยนต์ (บันทึกจาก TEDxBerkeley)
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:09
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human | ||
PanaEk Warawit accepted Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human | ||
PanaEk Warawit commented on Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human | ||
PanaEk Warawit edited Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human | ||
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for 4 lessons from robots about being human |
PanaEk Warawit
แปลได้ดีมากครับ ผมแก้ไขคำผิดเล็กๆ น้อยๆ เพียงบางจุดเท่านั้น