WEBVTT 00:00:00.577 --> 00:00:03.052 ผมรู้ว่ามันออกจะฟังดูแปลก 00:00:03.052 --> 00:00:06.346 แต่ผมคิดว่าหุ่นยนต์ สามารถสร้างแรงบันดาลใจ 00:00:06.346 --> 00:00:08.734 ให้เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นได้ 00:00:08.734 --> 00:00:12.363 ผมโตขึ้นในเมืองเบธเลแฮม รัฐเพนซิลวาเนีย 00:00:12.363 --> 00:00:14.684 แหล่งกำเนิดเหล็กเบธเลแฮม 00:00:14.684 --> 00:00:16.763 พ่อของผมเป็นวิศวกร 00:00:16.763 --> 00:00:19.614 ผมเติบโตขึ้นมา โดยมีพ่อคอยสอน 00:00:19.614 --> 00:00:20.773 ว่าสิ่งต่างๆ ทำงานอย่างไร 00:00:20.773 --> 00:00:23.588 เราสร้างโปรเจคต่างๆ ด้วยกัน 00:00:23.588 --> 00:00:26.380 เช่นจรวดของเล่น รถแข่งบังคับในราง 00:00:26.380 --> 00:00:29.664 นี่คือรถโกคาร์ทที่เราสร้างด้วยกัน 00:00:29.664 --> 00:00:31.883 และนั่นคือผมที่นั่งหลังพวงมาลัย 00:00:31.883 --> 00:00:35.702 พร้อมด้วยพี่สาวและเพื่อนรักของผมในตอนนั้น 00:00:35.702 --> 00:00:37.825 แล้ววันหนึ่ง 00:00:37.825 --> 00:00:40.932 พ่อกลับบ้าน ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบ 00:00:40.932 --> 00:00:43.236 และบนโต๊ะอาหาร เขาก็ประกาศขึ้นว่า 00:00:43.236 --> 00:00:49.674 โครงการต่อไปของเรา คือการสร้างหุ่นยนต์ NOTE Paragraph 00:00:49.674 --> 00:00:50.783 หุ่นยนต์นะครับ 00:00:50.783 --> 00:00:53.035 ตอนนั้น ผมตื่นเต้นกับมันมาก 00:00:53.035 --> 00:00:54.625 เพราะที่โรงเรียน 00:00:54.625 --> 00:00:56.700 มีเด็กเกเรคนหนึ่งชื่อเควิน 00:00:56.700 --> 00:00:58.946 และเขาชอบแกล้งผม 00:00:58.946 --> 00:01:01.360 เพียงเพราะผมเป็นเด็กชาวยิวคนเดียวในห้อง 00:01:01.360 --> 00:01:04.173 ดังนั้นผมจึงแทบรอไม่ได้ที่จะเริ่มโปรเจคนี้ 00:01:04.173 --> 00:01:07.995 เพื่อที่ผมจะให้เควินได้เจอกับเจ้าหุ่นยนต์ของผม (เสียงหัวเราะ) 00:01:07.995 --> 00:01:19.058 (เสียงหุ่นยนต์) NOTE Paragraph 00:01:19.058 --> 00:01:23.933 แต่นั่นไม่ใช่หุ่นยนต์แบบที่พ่อคิดเอาไว้ในใจ 00:01:23.933 --> 00:01:27.661 คือ เขาเป็นเจ้าของโรงงานชุบโครเมียม 00:01:27.661 --> 00:01:29.837 และพวกเขาต้องการเคลื่อนย้าย 00:01:29.837 --> 00:01:32.933 ชิ้นส่วนเหล็กหนักๆ จากถังน้ำยาเคมีถังหนึ่ง ไปอีกถังหนึ่ง 00:01:32.933 --> 00:01:36.723 ดังนั้นพ่อจึงต้องการหุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบนี้ 00:01:36.723 --> 00:01:39.822 เพื่อให้มันยกของหนักๆ ได้ NOTE Paragraph 00:01:39.822 --> 00:01:43.727 แต่พ่อผมก็ไม่ได้หุ่นยนต์แบบที่เขาต้องการเช่นกัน 00:01:43.727 --> 00:01:46.324 พ่อและผมสร้างมันหลายปี 00:01:46.324 --> 00:01:48.302 แต่นั่นมันเป็นในช่วงปี 1970 00:01:48.302 --> 00:01:50.828 เทคโนโลยีที่พวกมือสมัครเล่นจะใช้ได้ 00:01:50.828 --> 00:01:53.485 ก็ยังไม่มีในตอนนั้น 00:01:53.485 --> 00:01:57.230 ดังนั้น พ่อจึงต้องทำงานแบบนี้ด้วยมือต่อไปเรื่อยๆ 00:01:57.230 --> 00:01:59.505 และ 2-3 ปีหลังจากนั้น 00:01:59.505 --> 00:02:03.644 เขาถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง NOTE Paragraph 00:02:03.644 --> 00:02:06.949 เห็นไหมครับ สิ่งที่หุ่นยนต์ที่เราพยายามสร้าง 00:02:06.949 --> 00:02:10.216 ได้บอกแก่พ่อ ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวการยกของหนัก 00:02:10.216 --> 00:02:14.524 แต่มันคือคำเตือนเกี่ยวกับการที่พ่อต้องสัมผัสสารพิษ 00:02:14.524 --> 00:02:17.501 พ่อไม่ได้ตระหนักในตอนนั้น 00:02:17.501 --> 00:02:19.640 เขาเป็นลูคิเมีย 00:02:19.640 --> 00:02:22.862 และตายเมื่ออายุ 45 ปี 00:02:22.862 --> 00:02:25.703 ผมเสียใจมาก 00:02:25.703 --> 00:02:30.278 และผมไม่เคยลืมเรื่องหุ่นยนต์ที่พ่อกับผมพยายามสร้าง 00:02:30.278 --> 00:02:34.589 ตอนผมเข้าเรียนมหาลัย ผมตัดสินใจเลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ เหมือนพ่อ 00:02:34.589 --> 00:02:39.535 ผมเรียนที่ คาร์เนกี้ เมลอน (Carnegie Mellon) และได้รับปริญญาเอกในสาขาหุ่นยนต์ 00:02:39.535 --> 00:02:42.629 ผมศึกษาเกี่ยวกับหุ่นยนต์ตั้งแต่นั้นมา NOTE Paragraph 00:02:42.629 --> 00:02:44.267 ดังนั้น สิ่งที่ผมจะเล่าให้คุณฟัง 00:02:44.267 --> 00:02:46.981 คือโปรเจคหุ่นยนต์ 4 ตัว 00:02:46.981 --> 00:02:54.025 และวิธีที่พวกมันสร้างแรงบันดาลใจให้ผม เป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น 00:02:54.025 --> 00:02:59.774 เมื่อปี 1993 ผมเป็นศาสตราจารย์หนุ่มอยู่ที่ USC 00:02:59.774 --> 00:03:02.811 และในตอนนั้นผมเพิ่งสร้างห้องปฏิบัติการ หุ่นยนต์ของผมเอง 00:03:02.811 --> 00:03:06.396 และปีนั้นเป็นปีที่ เวิร์ลไวด์เว็บ เปิดตัว 00:03:06.396 --> 00:03:07.572 ผมจำได้ว่านักเรียนของผม 00:03:07.572 --> 00:03:09.276 เป็นคนบอกผมเรื่องนี้ 00:03:09.276 --> 00:03:11.895 และเราต่างก็พากันทึ่ง 00:03:11.895 --> 00:03:15.329 เราเริ่มเล่นกับมัน และบ่ายวันนั้นเอง 00:03:15.329 --> 00:03:19.182 เราก็ตระหนักว่าเราสามารถใช้วิธีเชื่อมต่อสากลแบบใหม่นี้ 00:03:19.182 --> 00:03:21.725 เพื่อให้ใครก็ตามบนโลก 00:03:21.725 --> 00:03:24.773 ควบคุมหุ่นยนต์ในห้องปฏิบัติการของเราได้ NOTE Paragraph 00:03:24.773 --> 00:03:30.481 ดังนั้น แทนที่จะให้พวกมันต่อสู้ หรือทำงานโรงงานหนักๆ 00:03:30.481 --> 00:03:32.967 เราตัดสินใจสร้างสวนดอกไม้ 00:03:32.967 --> 00:03:34.943 เอาหุ่นยนต์ใส่ไว้ตรงกลาง 00:03:34.943 --> 00:03:37.296 แล้วเราเรียกมันว่า สวนดอกไม้ทางไกล 00:03:37.296 --> 00:03:40.899 เราติดกล้องไว้กับที่จับบนมือ 00:03:40.899 --> 00:03:43.608 ของหุ่นยนต์ และเราเขียนสคริปต์ 00:03:43.608 --> 00:03:46.769 และซอฟท์แวร์พิเศษไว้ ที่ให้ทุกคนบนโลก สามารถเข้ามา 00:03:46.769 --> 00:03:49.098 และด้วยการคลิ้กบนจอภาพ 00:03:49.098 --> 00:03:51.271 พวกเขาสามารถสั่งให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่ไปรอบๆ 00:03:51.271 --> 00:03:53.587 และชมสวนดอกไม้ได้ 00:03:53.587 --> 00:03:57.207 เรายัง ติดตั้งซอฟท์แวร์แวร์อื่นๆ 00:03:57.207 --> 00:04:00.626 ที่ยอมให้คุณเข้าไปมีส่วนร่วม ช่วยเรารดน้ำต้นไม้ 00:04:00.626 --> 00:04:03.671 จากระยะไกล และถ้าคุณรดน้ำมันเพียงไม่กี่ครั้ง 00:04:03.671 --> 00:04:07.256 เราจะให้เมล็ดพันธุ์กับคุณเพื่อปลูกเอง NOTE Paragraph 00:04:07.256 --> 00:04:10.527 นี่เป็นโปรเจคหนึ่ง เป็นโปรเจคทางวิศวกรรม 00:04:10.527 --> 00:04:13.303 และเราตีพิมพ์งานวิจัยเกี่ยวกับการออกแบบ 00:04:13.303 --> 00:04:15.552 การออกแบบระบบ แต่เราก็คิดว่ามัน 00:04:15.552 --> 00:04:18.638 เป็นศิลปะชิ้นหนึ่งด้วยเช่นกัน 00:04:18.638 --> 00:04:20.811 หลังจากถูกสร้างขึ้นเพียงปีเดียว มันได้รับการเชิญ 00:04:20.811 --> 00:04:23.855 จากพิพิธภัณฑ์ อาร์ส อิเล็คโทรนิคส์ (Ars Electronics Museum) ในออสเตรีย 00:04:23.855 --> 00:04:26.855 เพื่อนำไปติดตั้งไว้ในล็อบบี้ 00:04:26.855 --> 00:04:29.273 ผมภูมิใจที่จะบอกว่ามันยังคงออนไลน์อยู่ที่นั่น 00:04:29.273 --> 00:04:34.256 24 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลาเกือบ 9 ปีมาแล้ว 00:04:34.256 --> 00:04:38.055 หุ่นตัวนั้นถูกควบคุมโดยคนจำนวนมาก 00:04:38.055 --> 00:04:41.141 กว่าหุ่นยนต์ตัวไหนๆ ในประวัติศาสตร์ NOTE Paragraph 00:04:41.141 --> 00:04:42.695 ทีนี้ วันหนึ่ง 00:04:42.695 --> 00:04:45.012 จู่ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์ 00:04:45.012 --> 00:04:47.027 จากนักเรียนคนหนึ่ง 00:04:47.027 --> 00:04:51.697 ผู้ซึ่งถามคำถามง่ายๆ แต่ลึกซื้ง 00:04:51.697 --> 00:04:56.235 เขาถามว่า "หุ่นยนต์ตัวนั้นมันมีอยู่จริงๆ หรือเปล่าครับ?" 00:04:56.235 --> 00:04:59.000 ทุกคนคิดเอาเองว่ามันมีอยู่จริง 00:04:59.000 --> 00:05:01.331 และเราก็รู้ว่ามันมีอยู่จริงเพราะเราสร้างมันกับมือ 00:05:01.331 --> 00:05:02.871 แต่ผมเข้าใจสิ่งที่เขาถาม 00:05:02.871 --> 00:05:05.464 เพราะมันก็เป็นไปได้ที่จะถ่ายรูปจำนวนมาก 00:05:05.464 --> 00:05:09.825 ของดอกไม้ในสวน แล้วจัดเรียงมัน 00:05:09.825 --> 00:05:12.054 ในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มันดูเหมือนว่า 00:05:12.054 --> 00:05:15.128 มันมีหุ่นยนต์อยู่ ทั้งที่มันไม่มีจริง 00:05:15.128 --> 00:05:16.369 และยิ่งผมคิดเกี่ยวกับคำถามนี้มากเท่าไหร่ 00:05:16.369 --> 00:05:19.920 ผมก็ไม่สามารถหาคำตอบที่ดี ว่าเขาจะแยกมันออกได้อย่างไร NOTE Paragraph 00:05:19.920 --> 00:05:22.807 นั่นเป็นตอนช่วงที่ผมได้รับเสนอตำแหน่ง 00:05:22.807 --> 00:05:24.880 ที่เบิร์กลีย์แห่งนี้ 00:05:24.880 --> 00:05:28.432 เมื่อผมมาถึง ผมพยามหาตัว ฮิวเบิร์ต ดรายฟัส (Hubert Dreyfus) 00:05:28.432 --> 00:05:32.097 ผู้ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญาชื่อก้องโลก 00:05:32.097 --> 00:05:34.471 ผมเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขาพูดว่า 00:05:34.471 --> 00:05:38.031 "นี่คือหนึ่งในปัญหาหลัก ที่เก่าแก่ที่สุด 00:05:38.031 --> 00:05:41.633 ในวิชาปรัชญา มันย้อนไปถึงสมัยของกลุ่มวิมตินิยม (Skeptics), 00:05:41.633 --> 00:05:43.593 จนถึงสมัย เดอคาร์ท (Descartes) 00:05:43.593 --> 00:05:46.763 นี่คือปัญหาในสาขาญาณวิทยา 00:05:46.763 --> 00:05:50.513 การศึกษาว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าบางอย่างมีอยู่จริง" NOTE Paragraph 00:05:50.513 --> 00:05:52.736 ดังนั้น เขาและผมจึงเริ่มร่วมงานกัน 00:05:52.736 --> 00:05:55.777 เราตั้งศัพท์ใหม่ โทรญาณวิทยา (telepistemology) 00:05:55.777 --> 00:05:59.303 การศึกษาของความรู้จากระยะไกล 00:05:59.303 --> 00:06:02.055 เราได้เชิญศิลปิน วิศวกร 00:06:02.055 --> 00:06:05.119 และนักปราชญ์ชั้นนำ มาเพื่อเขียนเรียงความเกี่ยวกับสิ่งนี้ 00:06:05.119 --> 00:06:07.459 และผลที่ได้ ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้ 00:06:07.459 --> 00:06:10.080 จากสำนักพิมพ์ MIT 00:06:10.080 --> 00:06:12.412 ดังนั้น ต้องขอบคุณนักเรียนคนนั้นที่สงสัย 00:06:12.412 --> 00:06:15.215 ในสิ่งที่คนอื่นๆ ทึกทักเอาเองว่าเป็นจริง 00:06:15.215 --> 00:06:19.423 โปรเจคนี้สอนผมบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับชีวิต 00:06:19.423 --> 00:06:23.496 ซึ่งก็คือ จงสงสัยสมมุติฐานทั้งหลาย NOTE Paragraph 00:06:23.496 --> 00:06:26.144 โปรเจคที่สองที่ผมจะเล่าให้คุณฟัง 00:06:26.144 --> 00:06:28.023 เกิดขึ้นมาจาก สวนดอกไม้ทางไกล 00:06:28.023 --> 00:06:30.599 ในขณะที่มันกำลังทำงานอยู่ นักเรียนของผมและตัวผมนั้นสนใจ 00:06:30.599 --> 00:06:33.361 ว่าผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร 00:06:33.361 --> 00:06:34.982 และพวกเขาทำอะไรกับสวนดอกไม้ 00:06:34.982 --> 00:06:37.244 เราจึงเริ่มคิดว่า ถ้าหุ่นยนต์สามารถออกจาก 00:06:37.244 --> 00:06:39.327 สวนดอกไม้ แล้วออกไปยัง 00:06:39.327 --> 00:06:41.319 สภาวะแวดล้อมอื่นๆ ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นล่ะ? 00:06:41.319 --> 00:06:43.498 เช่น ถ้ามันเข้าไปในงานเลี้ยงอาหารเย็น 00:06:43.498 --> 00:06:48.696 ที่ทำเนียบขาวล่ะ? (เสียงหัวเราะ) 00:06:48.696 --> 00:06:51.537 เพราะตอนนั้นเราสนใจในเรื่องการออกแบบระบบ 00:06:51.537 --> 00:06:54.823 และการติดต่อกับผู้ใช้มากกว่าในเรื่องฮาร์ดแวร์ 00:06:54.823 --> 00:06:56.857 เราตัดสินใจกันว่า 00:06:56.857 --> 00:07:00.535 แทนที่จะให้หุ่นยนต์แทนตัวมนุษย์เพื่อไปงานปาร์ตี้ 00:07:00.535 --> 00:07:03.378 เราจะให้มนุษย์ทำหน้าที่แทนหุ่นยนต์ 00:07:03.378 --> 00:07:05.978 เราเรียกมันว่า นักแสดงทางไกล NOTE Paragraph 00:07:05.978 --> 00:07:08.010 เราให้มนุษย์ 00:07:08.010 --> 00:07:11.017 ใครบางคนที่ชอบสังสรรค์ และชอบเข้าสังคม 00:07:11.017 --> 00:07:14.159 และเธอถูกให้สวมชุดที่มีหมวก 00:07:14.159 --> 00:07:16.729 ที่ติดตั้งเครื่องมือหลายชนิด กล้อง ไมโครโฟน 00:07:16.729 --> 00:07:20.469 และเป้หลังที่มีการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เนตไร้สาย 00:07:20.469 --> 00:07:23.828 แนวคิดก็คือ เธอจะไปยังสภาพแวดล้อมที่น่าสนใจและห่างไกล 00:07:23.828 --> 00:07:27.643 และจากนั้น โดยผ่านทางอินเตอร์เนต 00:07:27.643 --> 00:07:30.794 ผู้คนสามารถได้รับประสบการณ์เช่นเดียวกับที่เธอได้รับ 00:07:30.794 --> 00:07:33.731 พวกเขาจะได้เห็นสิ่งที่เธอเห็น 00:07:33.731 --> 00:07:37.038 แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ พวกเขาจะได้มีส่วนร่วม 00:07:37.038 --> 00:07:39.986 โดยการมีปฏิสัมพันธ์กัน 00:07:39.986 --> 00:07:43.691 และเสนอความเห็นว่าเธอควรจะทำอะไรต่อไป 00:07:43.691 --> 00:07:45.907 และเธอควรจะไปไหน 00:07:45.907 --> 00:07:49.069 และสื่อสารสิ่งเหล่านั้นไปยังนักแสดงทางไกล 00:07:49.069 --> 00:07:51.514 เรามีโอกาสที่จะนำนักแสดงทางไกล 00:07:51.514 --> 00:07:55.129 ไปยังงานประกาศรางวัลเว็บบี (Webby Awards) ในซานฟรานซิสโก 00:07:55.129 --> 00:07:59.240 และในปีนั้น แซม โดแนลสัน (Sam Donaldson) ได้เป็นพิธีกร 00:07:59.240 --> 00:08:02.882 ก่อนที่ม่านจะเปิดขึ้น ผมมีเวลา 30 วินาที 00:08:02.882 --> 00:08:07.340 เพื่ออธิบายให้คุณโดแนลสันฟังว่าเราจะทำอะไร 00:08:07.340 --> 00:08:09.204 และผมกล่าวว่า " นักแสดงทางไกล 00:08:09.204 --> 00:08:11.660 กำลังจะเป็นพิธีกรคู่กับคุณบนเวที 00:08:11.660 --> 00:08:13.858 และนี่เป็นโปรเจคการทดลองใหม่ 00:08:13.858 --> 00:08:16.483 และผู้คนจำนวนมากกำลังดูเธออยู่บนหน้าจอ 00:08:16.483 --> 00:08:18.788 และเธอมีกล้อง 00:08:18.788 --> 00:08:21.699 มีไมโครโฟน และหูฟังอยู่ในหู 00:08:21.699 --> 00:08:23.146 และผู้คนจำนวนมาก จะให้คำแนะนำ 00:08:23.146 --> 00:08:24.514 ว่าเธอควรทำอะไรต่อไป ผ่านทางระบบเครือข่าย" 00:08:24.514 --> 00:08:27.723 และเขากล่าวว่า "เดี๋ยวก่อนนะ 00:08:27.723 --> 00:08:34.098 นั่นเหมือนงานของผมเลยนี่" (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:08:34.098 --> 00:08:36.029 เขาชอบแนวคิดนี้ 00:08:36.029 --> 00:08:38.369 และเมื่อนักแสดงระยะไกลเดินขึ้นสู่เวที 00:08:38.369 --> 00:08:41.190 เธอเดินตรงไปหาเขา และเธอจูบเขานานทีเดียว 00:08:41.190 --> 00:08:44.296 บนริมฝีปากเสียด้วย (เสียงหัวเราะ) 00:08:44.296 --> 00:08:45.427 พวกเราประหลาดใจมาก 00:08:45.427 --> 00:08:47.444 เราไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น 00:08:47.444 --> 00:08:50.136 และเขาตอบสนองได้ดีมาก เขากอดเธอครั้งใหญ่เป็นการตอบแทน 00:08:50.136 --> 00:08:51.905 และมันออกมาดูดีมาก 00:08:51.905 --> 00:08:53.969 แต่คืนนั้น ระหว่างที่เรากำลังเก็บของกลับ 00:08:53.969 --> 00:08:57.577 ผมถามนักแสดงทางไกล ว่าเหล่าผู้กำกับทางไกล 00:08:57.577 --> 00:09:03.135 ตัดสินใจกันอย่างไรว่าจะให้เธอจูบ แซม โดแนลสัน 00:09:03.135 --> 00:09:05.347 และเธอกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้บอกให้ทำ 00:09:05.347 --> 00:09:07.781 เธอเล่าว่า ตอนที่เธอกำลังจะก้าวขึ้นเวที 00:09:07.781 --> 00:09:10.093 เหล่าผู้กำกับทางไกลยังมัวแต่เถียงกันอยู่ว่าจะให้ทำอะไร 00:09:10.093 --> 00:09:12.500 ดังนั้นเธอเลยเดินขึ้นบนเวลาแล้วทำ 00:09:12.500 --> 00:09:18.022 ในสิ่งที่รู้สึกเป็นธรรมชาติมากที่สุด (เสียงหัวเราะ) 00:09:18.022 --> 00:09:21.692 ดังนั้น ความสำเร็จของนักแสดงทางไกลคืนนั้น 00:09:21.692 --> 00:09:26.065 เป็นเพราะเธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม 00:09:26.065 --> 00:09:28.422 เธอรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเชื่อสัญชาตญาณ 00:09:28.422 --> 00:09:32.286 และโปรเจคนั้นสอนผมบทเรียนชีวิตอีกบทหนึ่ง 00:09:32.286 --> 00:09:38.665 ซึ่งก็คือ ถ้าคุณกำลังลังเล ให้ด้นสด (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:09:38.665 --> 00:09:41.745 ทีนี้ โปรเจคที่สาม ผุดขึ้นจาก 00:09:41.745 --> 00:09:46.638 ประสบการณ์ของผม เมื่อตอนที่พ่ออยู่ในโรงพยาบาล 00:09:46.638 --> 00:09:48.878 เขาได้รับการรักษา 00:09:48.878 --> 00:09:52.511 โดยเคมีบำบัด และมีการรักษาที่เกี่ยวเนื่องด้วย 00:09:52.511 --> 00:09:57.559 ซึ่งเรียกว่า การฝังแร่กัมมันตรังสี ซึ่งเม็ดกัมมันตรังสีเล็กๆ 00:09:57.559 --> 00:10:01.770 จะถูกนำไปฝังไว้ในร่างกายเพื่อรักษาเนื้อร้าย 00:10:01.770 --> 00:10:03.867 และวิธีทำก็คือ 00:10:03.867 --> 00:10:08.258 ศัลยแพทย์แทงเข็มหลายๆ เข็มเข้าไปในร่างกาย 00:10:08.258 --> 00:10:10.850 เพื่อฉีดเม็ดกัมมันตรังสีเข้าไป 00:10:10.850 --> 00:10:14.283 และเข็มเหล่านี้ แทงเข้าไปในทิศทางขนานกัน 00:10:14.283 --> 00:10:17.258 ดังนั้น มันเป็นปกติ ถ้าเข็มบางเล่ม 00:10:17.258 --> 00:10:22.075 จะแทงไปโดนอวัยวะสำคัญ และผลที่ตามมาคือ 00:10:22.075 --> 00:10:27.138 เข็มทำลายอวัยวะเหล่านั้น ซึ่งสร้างความเสียหาย 00:10:27.138 --> 00:10:30.625 และนำไปสู่การบาดเจ็บและสร้างผลข้างเคียง 00:10:30.625 --> 00:10:33.125 ดังนั้น นักเรียนของผมและตัวผม จึงคิดกันว่า 00:10:33.125 --> 00:10:36.610 ถ้าเราปรับปรุงระบบ 00:10:36.610 --> 00:10:40.395 เพื่อให้เหล่าเข็มทิ่มมาจากหลายๆ ทิศทางหล่ะ? NOTE Paragraph 00:10:40.395 --> 00:10:43.172 ดังนั้น เราจำลองสิ่งนี้ และพัฒนา 00:10:43.172 --> 00:10:45.761 ระเบียบวิธีคิดที่หาทางที่ให้ผลดีที่สุด และเราจำลองมัน 00:10:45.761 --> 00:10:48.038 เราสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า เราสามารถเลี่ยง 00:10:48.038 --> 00:10:51.805 อวัยวะที่ละเอียดอ่อน และยังครอบคลุม 00:10:51.805 --> 00:10:55.313 เนื้องอกไว้ด้วยรังสีได้ครบถ้วน NOTE Paragraph 00:10:55.313 --> 00:10:58.811 ดังนั้น เราจึงทำงานร่วมกับเหล่าแพทย์ที่ UCSF 00:10:58.811 --> 00:11:01.507 และวิศวกรที่ จอห์น ฮอปกินส์ (John Hopkins) 00:11:01.507 --> 00:11:05.089 เรากำลังสร้างหุ่นยนต์ที่ 00:11:05.089 --> 00:11:08.346 ออกแบบมาเป็นพิเศษ และมีข้อต่อจำนวนมาก ที่ทำให้ 00:11:08.346 --> 00:11:12.604 เข็มสามารถแทงเข้าไปในแง่มุมต่างๆ กันไม่จำกัด 00:11:12.604 --> 00:11:15.770 และคุณจะเห็นได้ว่า เหล่าเข็มสามารถเลี่ยงอวัยวะสำคัญ 00:11:15.770 --> 00:11:19.908 และยังไปถึงจุดหมายที่ต้องการไปได้ 00:11:19.908 --> 00:11:23.225 ดังนั้น โดยการตั้งข้อสงสัยสมมุติฐานที่ว่า เข็มทั้งหมด 00:11:23.225 --> 00:11:26.170 ต้องขนานกัน โปรเจคนี้สอนผม 00:11:26.170 --> 00:11:29.470 ถึงบทเรียนสำคัญว่า 00:11:29.470 --> 00:11:33.837 เมื่อเส้นทางของคุณถูกขวางกั้น จงหักมุม NOTE Paragraph 00:11:33.837 --> 00:11:38.238 และโปรเจคสุดท้ายก็เกี่ยวกับหุ่นยนต์ด้านการแพทย์เช่นกันครับ 00:11:38.238 --> 00:11:42.278 นี่คือสิ่งที่ต่อยอดมาจากระบบที่มีชื่อว่า 00:11:42.278 --> 00:11:45.866 หุ่นยนต์ผ่าตัด ดาวินชี 00:11:45.866 --> 00:11:48.334 และนี่เป็นอุปกรณ์ที่จำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว 00:11:48.334 --> 00:11:51.666 มันถูกใช้ในโรงพยาบาลกว่า 2000 แห่งทั่วโลก 00:11:51.666 --> 00:11:54.194 แนวคิดคือมันสามารถให้ศัลยแพทย์ 00:11:54.194 --> 00:11:58.443 ผ่าตัดอย่างสบายในสภาพแวดล้อมของเขา 00:11:58.443 --> 00:12:03.434 แต่หน้าที่ย่อยๆ อื่นๆ ในการผ่าตัด 00:12:03.434 --> 00:12:06.481 เป็นหน้าที่ซ้ำๆ ที่น่าเบื่อ เช่น การเย็บแผล 00:12:06.481 --> 00:12:08.846 และในปัจจุบันนี้ ทุกอย่างถูกทำ 00:12:08.846 --> 00:12:13.266 ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของศัลยแพทย์ 00:12:13.266 --> 00:12:15.924 ดังนั้นศัลยแพทย์จึงเกิดความล้าในระยะยาว 00:12:15.924 --> 00:12:17.219 เราจึงคิดว่า 00:12:17.219 --> 00:12:19.484 ถ้าเราตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์ 00:12:19.484 --> 00:12:21.971 ทำงานยิบย่อยเหล่านี้แทนหล่ะ 00:12:21.971 --> 00:12:23.691 และนั่นจะช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมีสมาธิ 00:12:23.691 --> 00:12:26.347 กับงานที่ซับซ้อนมากขึ้นในการผ่าตัดได้ 00:12:26.347 --> 00:12:29.595 และจะช่วยร่นเวลาการผ่าตัดให้สั้นลง 00:12:29.595 --> 00:12:32.618 ถ้าเราทำให้หุ่นยนต์ทำงานเหล่านี้ให้เร็วยิ่งขึ้น NOTE Paragraph 00:12:32.618 --> 00:12:35.052 ทีนี้ มันยากที่จะโปรแกรมหุ่นยนต์ให้ทำงานละเอียดแบบนี้ 00:12:35.052 --> 00:12:39.131 แต่เพื่อนร่วมงานของผม ปีเตอร์ แอบบีล (Pieter Abbeel) 00:12:39.131 --> 00:12:41.547 ซึ่งอยู่ที่เบิร์กลีย์ ได้พัฒนา 00:12:41.547 --> 00:12:47.170 เทคนิคใหม่สำหรับสอนหุ่นยนต์ให้เรียนตามตัวอย่าง 00:12:47.170 --> 00:12:49.937 เขาสอนหุ่นยนต์ให้ขับเฮลิคอปเตอร์ 00:12:49.937 --> 00:12:53.041 และทำท่าผาดแผลงได้อย่างงดงาม และน่าเหลือเชื่อ 00:12:53.041 --> 00:12:55.760 โดยการดูการบินของคนเก่งๆ 00:12:55.760 --> 00:12:58.348 ดังนั้น เราจึงเอาหุ่นยนต์แบบนี้มาตัวหนึ่ง 00:12:58.348 --> 00:13:00.530 เราร่วมงานกับปีเตอร์และนักเรียนของเขา 00:13:00.530 --> 00:13:03.193 และเราขอให้ศัลยแพทย์ 00:13:03.193 --> 00:13:07.644 ทำงานสักอย่าง ด้วยหุ่นยนต์ 00:13:07.644 --> 00:13:09.707 สิ่งที่เราทำคือ เราขอให้ศัลยแพทย์ 00:13:09.707 --> 00:13:10.985 ทำงานสักอย่าง ด้วยหุ่นยนต์ 00:13:10.985 --> 00:13:13.257 แล้วเราก็บันทึกการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ NOTE Paragraph 00:13:13.257 --> 00:13:15.385 นี่เป็นตัวอย่างครับ ผมจะใช้รูปเลขแปด 00:13:15.385 --> 00:13:17.625 การเขียนเส้นทางเป็นรูปเลขแปด เป็นตัวอย่าง 00:13:17.625 --> 00:13:21.255 มันออกหน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ เมื่อหุ่นยนต์ 00:13:21.255 --> 00:13:23.572 นี่คือหน้าตาเส้นทางของหุ่นยนต์ 00:13:23.572 --> 00:13:24.746 สามตัวอย่างนั่น 00:13:24.746 --> 00:13:27.208 นี่มันดีกว่าการให้มือใหม่ 00:13:27.208 --> 00:13:31.865 อย่างผมทำ แต่มันยังสั่น และไม่แม่น NOTE Paragraph 00:13:31.865 --> 00:13:33.937 ดังนั้นเราจึงบันทึกข้อมูลตัวอย่างเหล่านี้ 00:13:33.937 --> 00:13:37.649 แล้วก็ค่อยๆ ดูในแต่ละขั้นตอน 00:13:37.649 --> 00:13:41.281 ขั้นแรก เราใช้เทคนิคที่เรียกว่า ไดนามิกไทม์วอร์ปปิง 00:13:41.281 --> 00:13:43.463 จากสาขาด้านการรู้จำเสียงพูด และนี่ทำให้เรา 00:13:43.463 --> 00:13:46.303 สามารถจัดเรียงทุกตัวอย่างได้ 00:13:46.303 --> 00:13:49.232 และจากนั้นเราใช้ตัวกรองคาลแมน (Kalman filter) 00:13:49.232 --> 00:13:52.215 เทคนิคจากทฤษฎีการควบคุม ที่ทำให้ 00:13:52.215 --> 00:13:54.887 เราวิเคราะห์สัญญาณรบกวนได้ในทางสถิติ 00:13:54.887 --> 00:14:01.070 และคัดเอาเฉพาะทางเดินที่ต้องการที่รวมอยู่ในนั้นออกมา 00:14:01.070 --> 00:14:03.064 ทีนี้ สิ่งที่เราทำคือ เราเอา 00:14:03.064 --> 00:14:05.087 การสาธิตจากมนุษย์หลายๆ ครั้ง ซึ่งเต็มไปด้วยสัญญาณรบกวน และความไม่สมบูรณ์ 00:14:05.087 --> 00:14:08.178 เราดึงเฉพาะส่วนที่เป็นทางเดินที่เราต้องการ 00:14:08.178 --> 00:14:11.181 และส่วนที่ใช้ในการควบคุม สำหรับหุ่นยนต์ 00:14:11.181 --> 00:14:13.365 และเราสั่งให้หุ่นยนต์ทำงาน 00:14:13.365 --> 00:14:15.537 เราสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น 00:14:15.537 --> 00:14:18.199 จากนั้นก็ปรับตัวควบคุมต่างๆ ด้วยเทคนิค 00:14:18.199 --> 00:14:21.129 ที่เรียกว่าการควบคุมแบบเรียนรู้ซ้ำ 00:14:21.129 --> 00:14:25.106 จากนั้น เราเพิ่มความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย 00:14:25.106 --> 00:14:28.669 เราสังเกตผล และปรับแต่งตัวควบคุมอีกที 00:14:28.669 --> 00:14:31.191 แล้วก็สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น 00:14:31.191 --> 00:14:33.327 เราทำแบบนี้หลายๆ รอบ 00:14:33.327 --> 00:14:34.683 และนี่คือผลที่ได้ 00:14:34.683 --> 00:14:36.528 นั่นคือเส้นทางเดินที่ต้องการ 00:14:36.528 --> 00:14:39.991 นี่คือหุ่นยนต์กำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วของมนุษย์ 00:14:39.991 --> 00:14:42.433 และนี่คือที่ความเร็ว 4 เท่าของมนุษย์ 00:14:42.433 --> 00:14:45.004 นี่คือ ที่ความเร็ว 7 เท่า 00:14:45.004 --> 00:14:48.641 และนี่ คือหุ่นยนต์ทำงานที่ความเร็ว 10 เท่า 00:14:48.641 --> 00:14:50.841 ของมนุษย์ 00:14:50.841 --> 00:14:53.791 เราสามารถทำให้หุ่นยนต์ทำงานละเอียดอ่อน 00:14:53.791 --> 00:14:57.015 ดังเช่นงานย่อยๆ ในการผ่าตัด 00:14:57.015 --> 00:15:00.262 ที่ความเร็ว 10 เท่าของมนุษย์ 00:15:00.262 --> 00:15:04.485 โปรเจคนี้ เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับการฝึกฝน 00:15:04.485 --> 00:15:06.658 และเรียนรู้ ที่จะทำบางอย่าง ครั้งแล้วครั้งเล่า 00:15:06.658 --> 00:15:09.415 โปรเจคนี้ก็ให้บทเรียนบทหนึ่ง นั่นก็คือ 00:15:09.415 --> 00:15:12.541 ถ้าคุณอยากทำอะไรให้เก่งๆ 00:15:12.541 --> 00:15:20.489 ไม่มีอะไรดีกว่าการฝึก ฝึก และฝึก NOTE Paragraph 00:15:20.505 --> 00:15:23.625 นี่คือสี่บทเรียนที่ผมได้เรียนรู้ 00:15:23.625 --> 00:15:26.752 จากหุ่นยนต์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา 00:15:26.752 --> 00:15:32.121 และสาขาด้านหุ่นยนต์ ได้พัฒนามาขึ้นมาก 00:15:32.121 --> 00:15:34.289 ตลอดเวลาที่ผ่านมา 00:15:34.289 --> 00:15:36.456 ทุกวันนี้ นักเรียนม.ปลาย สามารถสร้างหุ่นยนต์ 00:15:36.456 --> 00:15:40.481 เช่นเดียวกับหุ่นต์ในอุตสาหกรรมที่พ่อและผมพยายามจะสร้าง 00:15:40.481 --> 00:15:47.463 และตอนนี้ ผมมีลูกสาวคนหนึ่ง 00:15:47.463 --> 00:15:49.849 ชื่อ โอเดสซา 00:15:49.849 --> 00:15:51.682 เธออายุ 8 ขวบแล้ว 00:15:51.682 --> 00:15:54.106 และเธอชอบหุ่นยนต์เสียด้วย 00:15:54.106 --> 00:15:56.520 บางทีมันอาจเป็นพันธุกรรมนะครับ (เสียงหัวเราะ) 00:15:56.520 --> 00:16:00.167 ผมอยากให้เธอได้เจอกับพ่อของผม 00:16:00.167 --> 00:16:03.067 ตอนนี้ผมมีโอกาสสอนให้เธอรู้ว่าสิ่งต่างๆ ทำงานอย่างไร 00:16:03.067 --> 00:16:05.839 เราได้ทำโปรเจคต่างๆ ร่วมกัน และผมก็อยากรู้ว่า 00:16:05.839 --> 00:16:10.147 เธอจะได้บทเรียนอะไรจากโปรเจคเหล่านี้บ้าง NOTE Paragraph 00:16:10.147 --> 00:16:12.754 หุ่นยนต์ คือสิ่งที่ใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด 00:16:12.754 --> 00:16:14.983 ท่ามกลางเครื่องจักรที่เราสร้างขึ้น 00:16:14.983 --> 00:16:18.068 มันไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างบนโลกนี้ 00:16:18.068 --> 00:16:22.426 แต่ผมคิดว่ามันมีบางสิ่งที่สำคัญที่สอนเรา 00:16:22.426 --> 00:16:25.769 ผมขอเชิญทุกท่านให้ลองคิดเกี่ยวกับนวัตกรรมต่างๆ 00:16:25.769 --> 00:16:28.444 ที่คุณสนใจ 00:16:28.444 --> 00:16:31.660 จักรกลที่คุณอยากได้ 00:16:31.660 --> 00:16:34.829 และลองคิดว่ามันจะสอนอะไรแก่คุณ 00:16:34.829 --> 00:16:36.892 เพราะผมมีลางสังหรณ์ว่า 00:16:36.892 --> 00:16:38.979 หลายนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี 00:16:38.979 --> 00:16:41.637 อุปกรณ์ที่เราฝันถึง 00:16:41.637 --> 00:16:45.601 จะสร้างแรงบันดาลใจให้เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นได้ NOTE Paragraph 00:16:45.601 --> 00:16:49.186 ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)