-
วันนี้ฝนตก 1 ห่าใหญ่ ว่าแต่ห่านึงนี่มันเท่าไหร่นะ?
-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
บอกก่อนเลยนะคะว่า
-
ในคลิปวิดีโอนี้จะเต็มไปด้วยคำว่า ห่า เยอะแยะเต็มไปหมดเลยนะคะ
-
แต่ว่า มันไม่ใช่คำหยาบค่ะทุกคน
-
เชื่อว่า ช่วงนี้หลายคนน่าจะเดินทางไปไหนลำบากนิดนึงนะคะ
-
เพราะว่าฝนตกค่อนข้างมากค่ะ
-
เรียกได้ว่า ตกแทบจะตลอดเวลาเลยนะ
-
แล้วก็ตกทีก็ อือหือ กระหน่ำลงมามากมายค่ะ
-
ทำให้เราน่าจะได้ยินคำนึงมากขึ้นเรื่อยๆ นะคะ
-
นั่นก็คือ คำว่า ห่า นั่นเอง
-
หลายคนเนี่ยอาจจะไม่ได้ใช้คำนี้แล้ว
-
แต่ว่า ถ้าไปคุยกับพ่อแม่หรือว่าปู่ย่าตายายต่างๆ
-
อาจจะได้ยินว่า เอ้ย วันนี้ฝนตกห่าใหญ่เลย
-
แต่รู้ไหมคะว่า 1 ห่าเนี่ยคือเท่าไหร่?
-
เอ๊ แล้วเค้าวัดปริมาณปริมาตรน้ำฝนได้ยังไงในสมัยก่อน?
-
ในสมัยนี้แตกต่างกันยังไงนะคะ?
-
วันนี้วิวไปหาคำตอบมาตอบทุกคนเรียบร้อยแล้วค่ะ
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระกันหรือยังคะ?
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
แน่นอนนะคะว่า เรื่องฝนเนี่ยเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับมนุษยชาติมานานแสนนานค่ะ
-
ถ้าไม่มีฝน เราก็ไม่สามารถเพาะปลูกอะไรต่างๆ ได้นะคะ
-
ดังนั้นค่ะ ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงสมัยปัจจุบันเนี่ย
-
มันก็จะต้องมีการวัดปริมาณน้ำฝนใช่ไหมคะว่า
-
เอ๊ะ ช่วงนี้ฝนตกมากแค่ไหนอะไรยังไง?
-
เหมาะกับการเพาะปลูกหรือว่า สามารถเล่าให้เพื่อนฟังได้ว่า
-
เออ วันนี้ฝนตกเยอะฝนตกน้อยอะไรต่างๆ
-
เอาเป็นว่า มันต้องมีการวัดปริมาณน้ำฝนค่ะ
-
ว่าแต่ในสมัยก่อนเนี่ย
-
ในสมัยที่ยังไม่มีเทคโนโลยีอะไรต่างๆ เนี่ย
-
คิดว่า เค้าวัดปริมาณน้ำฝนด้วยอะไรกันคะ?
-
แน่นอนนะคะว่า คนสมัยก่อนเนี่ย เค้าก็จะต้องมีมาตราการวัดปริมาณน้ำฝนของตัวเองค่ะ
-
ซึ่งในสมัยก่อนเนี่ย มาตรานั้นเรียกว่า ห่า ค่ะ
-
คือเค้าจะวัดว่า
-
เออ วันนี้ฝนตก 1 ห่า วันนี้ฝนตก 2 ห่า
-
หรือว่าปีนี้ฝนตก 500 ห่าอะไรต่างๆ นะคะ
-
น่าจะเคยได้ยินกันจากตอนช่วงสงกรานต์ใช่ไหมที่มีการพยากรณ์กันต่างๆ ว่า
-
ปีนี้น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ฝนตก 500 ห่า อะไรประมาณอย่างนี้นะคะ
-
ทีนี้อยากรู้กันไหมว่า
-
เอ๊ แล้วเค้าวัดเป็นปริมาณห่ากันเนี่ย
-
แล้วเค้าวัดยังไง?
-
สมัยก่อน 1 ห่าคือเท่าไหร่นะคะ?
-
ก็ต้องบอกว่า สมัยก่อนเนี่ยเค้าไม่รู้จะวัดปริมาณน้ำฝนด้วยวิธีไหนค่ะ
-
คือเราไม่สามารถไปกวาดเอาน้ำทั้งหมดที่มันตกลงมาจากฟ้า ลงมาที่แผ่นดิน
-
แล้วก็มาวัดปริมาตรได้ใช่ไหมคะ?
-
ดังนั้นวิธีค่ะ เค้าก็เลยใช้วิธี เอาภาชนะอะไรบางอย่างเนี่ย
-
วางแล้วก็รองน้ำฝนไปค่ะ
-
แล้วก็ดูว่า เออ ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการที่น้ำฝนเนี่ย
-
จะเต็มภาชนะนั้นนะคะ
-
แล้วก็นับเป็น 1 หน่วยค่ะ
-
ซึ่งพอจะต้องเลือกภาชนะนี้มานะคะ
-
คนสมัยก่อนก็ไม่รู้จะเลือกอะไรค่ะ
-
ถ้าสมมติว่า ไปเลือกโอ่งหรือเลือกตุ่มนะคะ
-
ก็จะมีขนาดใหญ่มากเกินไป
-
สมมติว่า เลือกโอ่งมาเนี่ย
-
โอโห้ กว่าฝนจะตกลงมา
-
นึกสภาพโอ่งโล่งๆ นะ แล้วปล่อยให้ฝนตกลงมาๆ ตกๆๆๆ
-
จะเต็มโอ่งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะคะ
-
จะวัดเป็น 1 หน่วยเนี่ย มันก็เยอะเกินไป
-
ส่วนจะไปเอาพวกภาชนะเล็กๆ น้อยๆ อย่างพวกชามหม้อไห
-
อะไรต่างๆ มาเนี่ย
-
มันก็ เอ๊ แต่ละบ้านก็มีขนาดไม่เท่ากัน
-
หม้อบ้านนี้กับหม้อบ้านนี้ อาจจะไม่เท่ากันก็ได้
-
ดังนั้นคนในสมัยโบราณนะคะ ก็เลยมีการตกลงร่วมกันค่ะ
-
ที่จะใช้ภาชนะอย่างนึงนะคะ ในการวัดปริมาณน้ำฝนค่ะ
-
ซึ่งภาชนะอย่างนั้นเนี่ย เป็นภาชนะที่มีขนาดค่อนข้างจะแน่นอน
-
สิ่งนั้นก็คือ บาตรพระ นั่นเองค่ะ
-
คือในพระวินัยเนี่ย มีการกำหนดขนาดบาตรพระไว้ค่อนข้างจะแน่นอนใช่ไหม?
-
มีการกำหนดพระวินัยต่างๆ มากมายว่า
-
พระจะต้องใช้บาตรอย่างนั้นอย่างนี้นะ
-
ใช้ได้แค่บาตรที่ทำจากดินเผา หรือว่าบาตรที่ทำจากเหล็กนะ
-
ทำจากวัสดุอื่นก็ไม่ได้
-
แล้วทีนี้ขนาดของบาตรเนี่ย ก็จะต้องเป็นขนาดที่ได้มาตรฐานค่ะ
-
ซึ่งตามพระวินัยเนี่ย ขนาดบาตรแบ่งเป็นทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกันนะคะ
-
มีขนาดเล็ก ขนาดกลาง แล้วก็ขนาดใหญ่ค่ะ
-
ขนาดเล็กเนี่ยนะคะ คือขนาดที่ใส่ข้าวสุกเต็มค่ะ เต็มปุ๊บ
-
แล้วคนกินเนี่ย ประมาณ 2 คนอิ่มค่ะ
-
ส่วนขนาดกลางเนี่ยนะคะ
-
เมื่อใส่ข้าวสุกเต็มเนี่ย ก็กินกันประมาณ 5 คนอิ่มค่ะ
-
ส่วนขนาดใหญ่สุดเนี่ยก็คือ 10 คนอิ่มอ่ะนะ
-
ทีนี้เค้าก็เลือกหยิบเอาบาตรขนาดกลาง หรือว่าขนาด 5 คนอิ่มขึ้นมาค่ะ
-
ซึ่งบาตรเนี่ย มันก็จะขนาดพอๆ กันหมดนะคะ เมื่อมีการกำหนดแบบนี้
-
แล้วก็เลือกใช้บาตรพระบาตรอันนี้แหละค่ะ ไปตั้งไว้กลางแจ้งเนอะ
-
ทีนี้พอฝนตกลงมานะคะ เค้าก็จะคอยดูว่า
-
ฝนตกเนี่ย เต็มบาตรหรือยังค่ะ
-
เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝนตกเต็มบาตรนะคะ
-
เค้าก็จะนับว่า นี่แหละคือ ฝนตก 1 ห่านะคะ
-
ดังนั้นถ้าสมมติวางบาตรไว้
-
อ่ะ ตกเต็มไป 1 บาตรแล้วฝนหยุด
-
ก็จะแปลว่า รอบนี้ฝนตก 1 ห่า
-
สมมติว่าเต็มแล้วยังไม่หยุด
-
อ่ะ เทน้ำทิ้ง รองอีกรอบ
-
เต็มไปอีกรอบ
-
ก็จะกลายเป็น ฝนตก 2 ห่า 3 ห่า 4 ห่า ไปเรื่อยๆ อย่างนี้นี่แหละค่ะ
-
ดังนั้นนะคะ วิธีวัดน้ำฝนของคนสมัยโบราณก็คือ
-
การใช้บาตรพระ นั่นเองค่ะ
-
1 บาตรก็เท่ากับ 1 ห่านะคะ
-
ซึ่งหลายคนก็จะสงสัยนะว่า
-
เอ๊ แล้วไอ้ 1 ห่าเนี่ย มันเกี่ยวข้องอะไรกับโรคห่าหรือเปล่า?
-
มันเกี่ยวกับว่า อุ๊ย ฝนตกลงมาเยอะ
-
เหมือนกับโรคห่าลง
-
ซึ่งเป็นโรคระบาดในสมัยก่อนหรือเปล่านะคะ?
-
ก็ต้องบอกว่า จริงๆ แล้วจากการที่วิวไปอ่านงานของอ.นววรรณ พันธุเมธามาเนี่ย
-
ท่านสันนิษฐานว่า ไม่เกี่ยวกันค่ะ
-
เพราะว่า แม้ว่าจะเป็นคำว่า ห่า เหมือนกัน
-
แล้วมันดูเป็นคำไท๊ไทยเหมือนกัน
-
ดูเป็นอะไรที่มันเยอะๆ เหมือนกัน
-
แต่ถ้าสมมติว่า เราไปดูที่ภาษาถิ่นนะคะ
-
พวกภาษาไทยใหญ่ ไทยนู้น ไทยนี้เนี่ย
-
จะเห็นว่า เค้าใช้คนละคำกันค่ะ
-
คือมันมีคำที่มันคล้ายๆ กันแหละ
-
แต่ว่าในบางถิ่นเนี่ยนะคะ
-
คำที่หมายถึงโรคระบาดเนี่ย
-
เค้าก็จะใช้แบบ หา เห้อ อะไรอย่างนี้
-
ในขณะที่ฝนตกเนี่ย มันอาจจะเป็น หา ห่า ห้า อะไรอย่างนี้
-
คือวรรณยุกต์มันค่อนข้างจะแตกต่างกันค่ะ
-
ดังนั้นนะคะ เค้าก็เลยสันนิษฐานว่า
-
2 คำนี้เป็นคนละคำกันค่ะ
-
ทีนี้เราก็รู้กันแล้วนะคะว่า คนสมัยโบราณเนี่ย วัดปริมาณน้ำฝนยังไง
-
แต่อยากรู้กันไหมว่า คนสมัยนี้ เค้าวัดปริมาณน้ำฝนยังไง?
-
เราน่าจะเคยได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศกันใช่ไหม?
-
วันนี้ฝนตกน้อยเป็นบางแห่ง
-
วันนี้ฝนตกปานกลาง
-
วันนี้ฝนตกหนัก
-
วันนี้ฝนตกหนักมาก
-
อ้าว แล้วฝนตกน้อย ฝนตกปานกลาง ฝนตกหนัก ฝนตกหนักมากเนี่ย มันแตกต่างกันยังไง?
-
เค้าก็แบบ ดูๆ แล้วก็แบบ เออ วันนี้ฝนน่าจะตกหนักนะ อะไรอย่างนี้หรือเปล่า?
-
ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่เลยค่ะ
-
แต่ว่ากรมอุตุฯ เนี่ย เค้ามีวิธีวัดปริมาณน้ำฝนของเค้านะคะ
-
ซึ่งหน่วยที่เค้าใช้วัดเนี่ยก็คือ หน่วยมิลลิเมตร นั่นเองค่ะ
-
อ่ะ พอฟังแล้ว หลายคนก็งงว่า
-
อ้าว แล้วทำไมวัดปริมาณน้ำฝนเป็นมิลลิเมตรล่ะ?
-
ในสมัยโบราณวัดเป็นห่า วัดเป็นขนาดบาตรก็ยังพอเข้าใจได้อยู่ว่า
-
เออ มันก็น้ำเต็มอะไรอย่างนี้
-
แล้วเป็นมิลลิเมตร แล้วจะไปวัดน้ำฝนยังไงว่ามันยาวเท่าไหร่? อะไรยังไงนะคะ?
-
ก็ต้องบอกว่า ไอ้ความยาวที่เค้าวัดเนี่ย
-
มันไม่ใช่ความยาวของเม็ดน้ำฝน หรือว่าอะไรทั้งสิ้นค่ะ
-
มันคือ ความสูงของน้ำฝนหลังจากตวงแล้วค่ะ
-
โดยวิธีที่กรมอุตุนิยมวิทยาเค้าวัดปริมาณน้ำฝนเนี่ยนะคะ
-
เค้าจะใช้อุปกรณ์นึงนะคะที่เรียกว่า Rain Gauge นั่นเอง
-
ซึ่งไอ้ Rain Gauge เนี่ยนะคะ ก็จะเป็นหน้าตาแบบตามภาพนี่เลยนะ
-
อ่ะ ลองมาผ่ามันดูว่า หน้าตามันเป็นยังไง?
-
อย่างแรกนะคะ มันก็จะมีขาตั้งก่อนค่ะ
-
ตั้งอยู่กลางแจ้ง
-
แล้วก็มีถังทรงกระบอกนะคะ
-
ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางเนี่ยประมาณ 8 นิ้ววางอยู่ค่ะ
-
เสร็จแล้วไอ้ถังใบล่างเนี่ย ก็จะมีถังใบบนอีกใบนึงนะคะ
-
ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้วเหมือนกันเนี่ย
-
วางครอบอยู่ประกอบกันค่ะ
-
ซึ่งถังใบบนเนี่ยนะคะ ตรงก้นถังเค้าจะทำเป็นรูปกรวยค่ะ
-
ออกเสียงชัดๆ นะทุกคน
-
รูปกรวยค่ะ
-
ซึ่งทำให้เวลาที่ฝนตกลงมาเนี่ยนะคะ
-
ถังไม่มีฝาปิดใช่ไหม?
-
น้ำฝนก็จะหยดๆๆ ลงมาในถังนะคะ
-
ไหลผ่านกรวย แล้วก็ลงไปเก็บอยู่ที่ถังใบล่างเนี่ยแหละค่ะ
-
ทีนี้เนื่องจากว่า ตรงบริเวณรอยต่อของถังเนี่ย มีลักษณะเป็นกรวยใช่ไหมคะ?
-
ดังนั้นเวลาน้ำตกลงมาเนี่ย มันก็จะไหลลงไปในถังอย่างง่ายเลยค่ะ
-
ก็ไหลลงไป ไหลๆๆ
-
แต่เวลาที่สมมติว่า ฝนหยุดตกละแดดออกอะไรต่างๆ
-
น้ำมันก็ระเหยกลับไปค่อนข้างยากค่ะ
-
เพราะว่ามันเหมือนมีฝาปิดอยู่ใช่ไหม?
-
ทีนี้ในทุกวันค่ะ เค้าก็จะรองน้ำฝนแบบนี้นะคะ
-
รองไว้ๆ
-
แล้วก็ทุกวันในเวลา 7 โมงเช้าค่ะ
-
เจ้าหน้าที่กรมอุตุนิยมวิทยาเนี่ยก็จะมาเปิดถังนี้นะคะ
-
แล้วเค้าก็จะเอาถ้วยตวงค่ะ ที่มีลักษณะเป็นแบบยาวๆ เนี่ยนะคะ
-
มีสเกลขีดอยู่ว่าเป็นกี่มิลลิเมตรๆๆ เนี่ยมาค่ะ
-
แล้วก็เทน้ำจากถังข้างล่างลงไปในถ้วยตวงนี้นะคะ
-
แล้วเค้าก็จะวัดค่ะว่า อ่อ วันนี้มีปริมาณน้ำฝนเนี่ยกี่มิลลิเมตรๆๆ นะคะ
-
ทีนี้เค้าก็จะมาดูค่ะว่า
-
ถ้าสมมติว่าตวงออกมาแล้วนะคะ
-
ขีดน้ำฝนมันขึ้นมาไม่ถึง 10 มิลลิเมตร
-
ก็จะแปลว่า วันนั้นมีฝนตกน้อยค่ะ
-
ส่วนถ้าสมมติว่ามันขึ้นมาตั้งแต่ 10.1 มิลลิเมตรถึง 35 มิลลิเมตรเนี่ยนะ
-
ก็จะถือว่า ฝนตกปานกลางนะคะ
-
ส่วนถ้าขึ้นไป 35.1 มิลลิเมตรถึง 90 มิลลิเมตรเนี่ย
-
ก็จะกลายเป็นฝนตกหนักค่ะ
-
แล้วถ้าสมมติว่าวันไหนเนี่ยที่มันทะลุปรอดเลยนะคะ
-
เกิน 90.1 มิลลิเมตรขึ้นไปเนี่ย
-
ก็จะกลายเป็นวันที่ฝนตกหนักมากนั่นเอง
-
นี่ก็คือวิธีที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้วัดปริมาณน้ำฝนของแต่ละวันนะคะ
-
โดยเค้าจะวัดแบบนี้ทุกวันในเวลา 7 โมงเช้านั่นเองค่ะ
-
คลิปนี้ก็น่าจะตอบคำถามของหลายๆ คนที่อยากรู้นะว่า
-
เอ๊ ฝนมันตกจากฟ้า แล้วเราจะวัดปริมาณน้ำฝนอะไรยังไงค่ะ
-
เป็นยังไงกันบ้างคะคลิปนี้?
-
ถ้าใครฟังแล้วรู้สึกว่า ชอบ
-
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังให้วิว แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันนะคะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ
-
บ๊าย บาย
-
สวัสดีค่ะ
-
ก็จบไปกับอีกคลิปนึงที่สั้นๆ นะคะ
-
แต่ว่าเชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้แหละ
-
คือหลายคนอยากรู้ไหม? ไม่อยากรู้
-
แต่ว่า วิวเนี่ย อยากรู้นะคะ
-
เพราะว่าช่วงนี้ก็นั่งมองฝนทุกวัน
-
แล้วก็รู้สึกว่า เออ ฝนตกอีกแล้ว ตกเยอะ
-
แล้วก็เคยได้ยินคำว่า ฝนตก 1 ห่า 2 ห่า 500 ห่ามาตั้งแต่เด็ก
-
ก็เลยไปหาคำตอบนี้มาตอบตัวเองเนี่ยแหละค่ะ
-
แล้วก็ไหนๆ หาคำตอบมาได้แล้ว
-
ก็เลยเอามาทำเป็นคลิปวิดีโอให้ทุกคนได้ดูไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ
-
หวังว่า จะชอบคลิปนี้กันนะคะทุกคน
-
วันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะ
-
บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ