เราจะรู้จักดิสโทเปียได้อย่างไร โดย อเล็กซ์ เกดเลอร์
-
0:07 - 0:10คุณเคยลองนึกภาพโลกในอุดมคติไหม
-
0:10 - 0:13โลกที่ไม่มีสงคราม ความหิวโหย
หรืออาชญากรรม -
0:13 - 0:15ถ้าเคย คุณก็ไม่ได้คิดเพียงคนเดียว
-
0:15 - 0:19เพลโต จินตนาการถึงรัฐที่รุ่งเรืองทางปัญญา
ปกครองโดยราชานักปราชญ์ -
0:19 - 0:22ศาสนามากมายให้คำมั่นเกี่ยวกับ
ชีวิตที่ดีหลังความตาย -
0:22 - 0:23ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
-
0:23 - 0:27หลายกลุ่มชนพยายามสร้างสวรรค์บนดิน
-
0:27 - 0:33หนังสือของโธมัส มอร์ ค.ศ.1516
ชื่อยูโธเปีย ให้แนวคิดเรื่องนี้ -
0:33 - 0:36ยูโทเปีย ภาษากรีก คือ "ไม่มีที่ไหนเหมือน"
-
0:36 - 0:38ถึงแม้ว่าชื่อจะบอกเล่าถึงความเป็นไปไม่ได้
-
0:38 - 0:40นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
และนักการเมืองหัวก้าวหน้า -
0:40 - 0:44ก็ยังหวังที่จะทำให้ความฝันเหล่านั้น
กลายมาเป็นความจริง -
0:44 - 0:48แค่ความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า
จบลงด้วยการกลายเป็นฝันร้าย -
0:48 - 0:51นำมาซึ่งสงคราม
ความอดอยาก และการกดขี่ -
0:51 - 0:54การตั้งคำถามของศิลปิน
ต่อแนวคิดยูโทเปีย -
0:54 - 0:59นำมาซึ่งงานเขียนแบบดิสโทเปีย
สถานที่ไม่น่าพึงปรารถนา -
0:59 - 1:03งานเขียนแบบดิสโทเปียชิ้นแรก ๆ
คือการเดินทางของกัลลิเวอร์ โดย โจนาธาน สวิฟต์ -
1:03 - 1:07ตลอดการเดินทาง กัลลิเวอร์
ได้พบกับสังคมในจินตนาการ -
1:07 - 1:12บางแห่งก็ดูน่าประทับใจในตอนแรก
แต่กลับกลายเป็นสังคมที่มีข้อบกพร่องมากมาย -
1:12 - 1:14บนเกาะลอยฟ้า ลาพุลต้า
-
1:14 - 1:18นักวิทยาศาสตร์และนักวางแผนสังคม
พยายามวางแผนใหญ่โต แต่ก็ไร้ผล -
1:18 - 1:22เพราะพวกเขาละเลยต่อความต้องการพื้นฐาน
ของคนในสังคมด้านล่าง -
1:22 - 1:25ส่วนชาว ฮูนืนีม ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกัน
อย่างราบรื่อนในสังคมแห่งการใช้เหตุผล -
1:25 - 1:30ก็ไม่สามารถอดทนต่อความบกพร่องต่าง ๆ
ของมนุษย์ธรรมดาได้ -
1:30 - 1:33จากนวนิยายเรื่องนี้ สวิฟต์
ได้วางแบบพิมพ์เขียวของนวนิยายดิสโธเปีย -
1:33 - 1:37ให้เป็นโลกที่ซึ่งนำเอาแนวคิด
ในสังคมร่วมสมัย -
1:37 - 1:39มาขยายให้ถึงขีดสุด
-
1:39 - 1:42เพื่อเปิดเผยให้เห็นข้อบกพร่องที่อยู่ภายใน
-
1:42 - 1:47และในอีกไม่กี่ศตวรรณข้างหน้า
ก็จะยิ่งเต็มไปด้วยวัตถุดิบสำหรับการเขียน -
1:47 - 1:50เทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่ให้คำสัญญา
ว่าจะปลดปล่อยแรงงานให้เป็นอิสระ -
1:50 - 1:54กลับกักขังพวกเขาให้อยู่ในโรงงาน และสลัม
-
1:54 - 1:57ในขณะที่เจ้าของกิจการร่ำรวยยิ่งกว่าพระราชา
-
1:57 - 2:02ในช่วงปลายปีค.ศ.1800 หลายคนกลัวว่า
สถานการณ์นี้อาจจะนำไปสู่อนาคตแบบไหน -
2:02 - 2:06ผลงานเรื่อง "The Time Machine" (จักรกลเวลา)
ของ เฮช จี เวลล์ จินตนาการถึงโลกชนชั้นสูง -
2:06 - 2:09และชนชั้นแรงงาน
วิวัฒนาการไปเป็นมนุษย์คนละสายพันธุ์ -
2:09 - 2:14ในขณะที่เรื่อง "The Iron Heel" (ท็อปบู๊ตทมิฬ) ของแจ็ค ลอนดอน
เสนอภาพการกุมอำนาจของกลุ่มทรราช -
2:14 - 2:17ที่ปกครองคนยากจนส่วนใหญ่
-
2:17 - 2:23ศตวรรษใหม่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้น
และน่าหวาดหวั่น -
2:23 - 2:27ความก้าวหน้าทางการแพทย์ ก้าวข้าม
ขีดจำกัดด้านชีวพันธุกรรม -
2:27 - 2:29ในขณะที่การโทรคมนาคม
ทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารกันได้ในทันที -
2:29 - 2:32ระหว่างผู้ปกครองและประชาชน
-
2:32 - 2:36ในนวนิยายเรื่อง "Brave New World" (โลกที่เราเชื่อ) ของ อัลดัส ฮักซ์เลย์ ประชากรถูกออกแบบพันธุกรรม
-
2:36 - 2:40และกำหนดสถานะ เพื่อให้แต่ละคนทำตาม
บทบาททางสังคมของตนเอง -
2:40 - 2:43ในขณะที่รัฐใช้การโฆษณาชวนเชื่อ
กับยาเสพติด ทำให้สังคมมีความสุข -
2:43 - 2:46เห็นได้ชัดว่า ลักษณะสำคัญของความเป็นมนุษย์
สูญหายไปจากสังคมนี้ -
2:46 - 2:52แต่เรื่องดิสโทเปียที่เรารู้จักกันดี
ไม่ใช่เรื่องที่เกิดจากจินตนาการ -
2:52 - 2:55ขณะที่ยุโรปประสบกับสงครามอุตสาหกรรม
ที่ไม่เคยประสบมาก่อน -
2:55 - 2:58การเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบใหม่
ได้เข้ามามีอำนาจ -
2:58 - 3:01บ้างก็ให้คำสัญญาว่า จะลบล้างความแตกต่าง
ระหว่างชนชั้นทางสังคม -
3:01 - 3:04ในขณะที่บางแนวคิดก็พยายามหล่อหลอมประชาชน
ด้วยมรดกภูมิปัญญา -
3:04 - 3:08ผลลัพธ์คือโลกในความเป็นจริง
ที่ประสบกับภาวะดิสโทเปีย -
3:08 - 3:12ภาวะที่ชีวิตอยู่ภายใต้สายตาจับผิดของรัฐ
-
3:12 - 3:17และโทษประหารคือผลลัพท์
ของการไม่เข้าพวก -
3:17 - 3:20นักเขียนหลายคนในยุคนี้
ไม่เพียงสังเกตเห็นความน่ากลัวเหล่านั้น -
3:20 - 3:22แต่พวกเขาใช้ชีวิตในช่วงเวลาเช่นนั้น
-
3:22 - 3:27หนังสือนวนิยายโซเวียตเรื่อง "We" (พวกเรา)
ของ เยฟกีนี่ แซมยาติน ได้อธิบายถึงอนาคต -
3:27 - 3:31ที่ซึ่งเสรีภาพและความเป็นตัวของตัวเอง
จะถูกกำจัดทิ้งไป -
3:31 - 3:35หนังสือเล่มนี้ห้ามเผยแพร่ในโซเวียต
และเป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนจอรจ์ ออร์เวล -
3:35 - 3:40ผู้ซึ่งอยู่แนวหน้าในการต่อสู้กับแนวคิด
แบบ ฟาสต์ซิส และ คอมมิวนิสต์ -
3:40 - 3:43นิยายของเขาเรื่อง "Animal Farm" (ฟาร์มสัตว์)
จงใจล้อเลียนการปกครองของโซเวียต -
3:43 - 3:50ผลงานอมตะ "1984" วิพากย์วิจารณ์ภาพรวม
ของการรวบอำนาจ ควบคุมสื่อมวลชน และการใช้ภาษา -
3:50 - 3:54และในสหรัฐอเมริกา นวนิยายของซินแคลร์ ลูอิส
เรื่อง "It Can't Happen Here" (มันไม่ควรเกิดขึ้นที่นี่) -
3:54 - 3:59วาดภาพให้เห็นว่าแนวคิดแบบประชาธิปไตย
เปลี่ยนเป็นฟาสต์ซิสได้ง่ายดายเพียงใด -
3:59 - 4:01ในช่วงหลายสิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
-
4:01 - 4:03นักเขียนจินตนาการว่า เทคโนโลยีแบบใหม่
-
4:03 - 4:07เช่น พลังงานนิวเคลียร์ ปัญญาประดิษฐ์
และการเดินทางไปในอวกาศ -
4:07 - 4:10จะมีความหมายอย่างไรต่ออนาคตของมนุษยชาติ
-
4:10 - 4:12ซึ่งความคิดแบบนี้ขัดแย้งยิ่งกับจินตนาการ
เรื่องความก้าวหน้าที่สวยงาม ซึ่งมักปรากฏในสื่อทั่วไป -
4:12 - 4:18นวนิยายวิทยาศาสตร์แนวดิสโทเปีย
กลายเป็นภาพยนตร์ การ์ตูน และเกมส์ -
4:18 - 4:21หุ่นยนต์ที่ต่อต้านผู้สร้าง
-
4:21 - 4:25ในขณะที่ทีวีถ่ายทอดรายการบันเทิงที่มีคนฆ่ากัน
เพื่อเอาใจคนส่วนใหญ่ของสังคม -
4:25 - 4:30คนงานทำงานหนักในอาณานิคมในอวกาศ
นอกโลกที่ทรัพยากรกำลังจะหมดไป -
4:30 - 4:34โลกที่มีประชากรมากเกินไป
เมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม -
4:34 - 4:37และถึงสังคมจะเป็นเช่นนั้น
เรื่องการเมืองก็ไม่ได้อยู่ไกลตัวเราเลย -
4:37 - 4:42เพราะผลงานเรื่อง " Dr. Strangelove" และ "Watchmen" เปิดเผยความน่ากลัวของระเบิดปรมาณู
-
4:42 - 4:45ขณะที่เรื่อง "V for Vendetta"
และ "The Handmaid's Tale" -
4:45 - 4:50เตือนให้ทราบว่าสิทธิของเรา
หมดสิ้นไปได้ง่ายดายในเวลาคับขัน -
4:50 - 4:53ผลงานนวนิยายแนวดิสโทเปียในทุกวันนี้
สะท้อนความกังวลสังคมยุคใหม่ -
4:53 - 4:55เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกัน
-
4:55 - 4:56ภาวะโลกร้อน
-
4:56 - 4:57อำนาจของรัฐบาล
-
4:57 - 4:59และโรคระบาดระดับโลก
-
4:59 - 5:02แล้วทำไมเราต้องสนใจวิธีคิด
ที่มองโลกในแง่ร้ายทั้งหมดนี้ -
5:02 - 5:05เพราะว่า แก่นแท้ของดิสโทเปีย
คือเรื่องเล่าที่เตือนให้เราระมัดระวัง -
5:05 - 5:08ถึงจะไม่เกี่ยวกับรัฐบาลหรือเทคโนโลยีใด
อย่างเฉพาะเจาะจง -
5:08 - 5:14แต่แนวคิดที่ว่ามนุษย์สามารถถูกหล่อหลอม
ให้เป็นไปตามอุดมคติได้ ก็ควรทำให้เราฉุกคิด -
5:14 - 5:18ลองคิดดูว่า ในสังคมที่สมบูรณ์แบบ
ที่คุณจินตนาการไว้นั้น -
5:18 - 5:21คุณได้จินตนาการด้วยไหมว่า
จะต้องแลกด้วยอะไร จึงจะประสบความสำเร็จ -
5:21 - 5:24คุณจะทำให้ผู้คนร่วมมือกันได้อย่างไร
-
5:24 - 5:28และคุณจะทำให้มันยั่งยืนได้อย่างไร
-
5:28 - 5:30ลองมองดูอีกครั้งว่า
-
5:30 - 5:33โลกในจินตนาการนั้นยังดูสมบูรณ์แบบอยู่จริงหรือ
- Title:
- เราจะรู้จักดิสโทเปียได้อย่างไร โดย อเล็กซ์ เกดเลอร์
- Description:
-
ชมบทเรียนเต็ม: http://ed.ted.com/lessons/how-to-recognize-a-dystopia-alex-gendler
นวนิยายดิสโทเปีย ซึ่งเล่าถึงโลกที่ไม่สวยงาม อยู่ในจินตนาการของศิลปิน และผู้ชมจำนวนมากมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีแล้ว แต่เพราะเหตุใดเราจึงสนใจแนวคิดในแง่ร้ายเหล่านี้ อเล็กซ์ เกดเลอร์ อธิบายให้เราทราบว่า นวนิยายดิสโทเปีย เป็นเรื่องเล่าเพื่อเตือนให้เราทราบ ถึงอันตราย ถึงจะไม่ใช่จากรัฐบาลใด หรือเทคโนโลยีใด แต่จากแนวคิดที่ว่ามนุษยชาตินั้นสามารถถูกควบคุมให้อยู่ในลักษณะที่เป็นอุดมคติได้นั่นเอง
บทเรียนโดย Alex Gendler อะนิเมชั่นโดย TED-Ed - Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 05:56
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler | ||
Ashiraya Phobut accepted Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler | ||
Ashiraya Phobut edited Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler | ||
Rawee Ma declined Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler | ||
Rawee Ma edited Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for How to recognize a dystopia - Alex Gendler |