WEBVTT 00:00:06.953 --> 00:00:09.856 คุณเคยลองนึกภาพโลกในอุดมคติไหม 00:00:09.856 --> 00:00:12.676 โลกที่ไม่มีสงคราม ความหิวโหย หรืออาชญากรรม 00:00:12.676 --> 00:00:14.636 ถ้าเคย คุณก็ไม่ได้คิดเพียงคนเดียว 00:00:14.636 --> 00:00:19.206 เพลโต จินตนาการถึงรัฐที่รุ่งเรืองทางปัญญา ปกครองโดยราชานักปราชญ์ 00:00:19.206 --> 00:00:22.077 ศาสนามากมายให้คำมั่นเกี่ยวกับ ชีวิตที่ดีหลังความตาย 00:00:22.077 --> 00:00:23.382 ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา 00:00:23.382 --> 00:00:27.447 หลายกลุ่มชนพยายามสร้างสวรรค์บนดิน 00:00:27.447 --> 00:00:32.926 หนังสือของโธมัส มอร์ ค.ศ.1516 ชื่อยูโธเปีย ให้แนวคิดเรื่องนี้ 00:00:32.926 --> 00:00:35.517 ยูโทเปีย ภาษากรีก คือ "ไม่มีที่ไหนเหมือน" 00:00:35.517 --> 00:00:37.707 ถึงแม้ว่าชื่อจะบอกเล่าถึงความเป็นไปไม่ได้ 00:00:37.707 --> 00:00:40.077 นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ และนักการเมืองหัวก้าวหน้า 00:00:40.077 --> 00:00:44.068 ก็ยังหวังที่จะทำให้ความฝันเหล่านั้น กลายมาเป็นความจริง 00:00:44.068 --> 00:00:48.007 แค่ความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า จบลงด้วยการกลายเป็นฝันร้าย 00:00:48.007 --> 00:00:50.837 นำมาซึ่งสงคราม ความอดอยาก และการกดขี่ 00:00:50.837 --> 00:00:53.988 การตั้งคำถามของศิลปิน ต่อแนวคิดยูโทเปีย 00:00:53.988 --> 00:00:58.768 นำมาซึ่งงานเขียนแบบดิสโทเปีย สถานที่ไม่น่าพึงปรารถนา 00:00:58.768 --> 00:01:03.418 งานเขียนแบบดิสโทเปียชิ้นแรก ๆ คือการเดินทางของกัลลิเวอร์ โดย โจนาธาน สวิฟต์ 00:01:03.418 --> 00:01:06.738 ตลอดการเดินทาง กัลลิเวอร์ ได้พบกับสังคมในจินตนาการ 00:01:06.738 --> 00:01:11.728 บางแห่งก็ดูน่าประทับใจในตอนแรก แต่กลับกลายเป็นสังคมที่มีข้อบกพร่องมากมาย 00:01:11.728 --> 00:01:13.628 บนเกาะลอยฟ้า ลาพุลต้า 00:01:13.628 --> 00:01:18.287 นักวิทยาศาสตร์และนักวางแผนสังคม พยายามวางแผนใหญ่โต แต่ก็ไร้ผล 00:01:18.287 --> 00:01:22.147 เพราะพวกเขาละเลยต่อความต้องการพื้นฐาน ของคนในสังคมด้านล่าง 00:01:22.147 --> 00:01:25.168 ส่วนชาว ฮูนืนีม ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกัน อย่างราบรื่อนในสังคมแห่งการใช้เหตุผล 00:01:25.168 --> 00:01:30.128 ก็ไม่สามารถอดทนต่อความบกพร่องต่าง ๆ ของมนุษย์ธรรมดาได้ 00:01:30.128 --> 00:01:33.488 จากนวนิยายเรื่องนี้ สวิฟต์ ได้วางแบบพิมพ์เขียวของนวนิยายดิสโธเปีย 00:01:33.488 --> 00:01:37.179 ให้เป็นโลกที่ซึ่งนำเอาแนวคิด ในสังคมร่วมสมัย 00:01:37.179 --> 00:01:38.928 มาขยายให้ถึงขีดสุด 00:01:38.928 --> 00:01:42.258 เพื่อเปิดเผยให้เห็นข้อบกพร่องที่อยู่ภายใน 00:01:42.258 --> 00:01:46.952 และในอีกไม่กี่ศตวรรณข้างหน้า ก็จะยิ่งเต็มไปด้วยวัตถุดิบสำหรับการเขียน 00:01:46.952 --> 00:01:50.129 เทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่ให้คำสัญญา ว่าจะปลดปล่อยแรงงานให้เป็นอิสระ 00:01:50.129 --> 00:01:53.575 กลับกักขังพวกเขาให้อยู่ในโรงงาน และสลัม 00:01:53.575 --> 00:01:57.465 ในขณะที่เจ้าของกิจการร่ำรวยยิ่งกว่าพระราชา 00:01:57.495 --> 00:02:02.399 ในช่วงปลายปีค.ศ.1800 หลายคนกลัวว่า สถานการณ์นี้อาจจะนำไปสู่อนาคตแบบไหน 00:02:02.399 --> 00:02:06.329 ผลงานเรื่อง "The Time Machine" (จักรกลเวลา) ของ เฮช จี เวลล์ จินตนาการถึงโลกชนชั้นสูง 00:02:06.329 --> 00:02:09.209 และชนชั้นแรงงาน วิวัฒนาการไปเป็นมนุษย์คนละสายพันธุ์ 00:02:09.209 --> 00:02:14.040 ในขณะที่เรื่อง "The Iron Heel" (ท็อปบู๊ตทมิฬ) ของแจ็ค ลอนดอน เสนอภาพการกุมอำนาจของกลุ่มทรราช 00:02:14.040 --> 00:02:17.399 ที่ปกครองคนยากจนส่วนใหญ่ 00:02:17.399 --> 00:02:22.609 ศตวรรษใหม่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้น และน่าหวาดหวั่น 00:02:22.609 --> 00:02:26.680 ความก้าวหน้าทางการแพทย์ ก้าวข้าม ขีดจำกัดด้านชีวพันธุกรรม 00:02:26.680 --> 00:02:29.350 ในขณะที่การโทรคมนาคม ทำให้เกิดการติดต่อสื่อสารกันได้ในทันที 00:02:29.350 --> 00:02:31.980 ระหว่างผู้ปกครองและประชาชน 00:02:31.980 --> 00:02:36.159 ในนวนิยายเรื่อง "Brave New World" (โลกที่เราเชื่อ) ของ อัลดัส ฮักซ์เลย์ ประชากรถูกออกแบบพันธุกรรม 00:02:36.159 --> 00:02:39.910 และกำหนดสถานะ เพื่อให้แต่ละคนทำตาม บทบาททางสังคมของตนเอง 00:02:39.910 --> 00:02:42.690 ในขณะที่รัฐใช้การโฆษณาชวนเชื่อ กับยาเสพติด ทำให้สังคมมีความสุข 00:02:42.690 --> 00:02:46.490 เห็นได้ชัดว่า ลักษณะสำคัญของความเป็นมนุษย์ สูญหายไปจากสังคมนี้ 00:02:46.490 --> 00:02:52.020 แต่เรื่องดิสโทเปียที่เรารู้จักกันดี ไม่ใช่เรื่องที่เกิดจากจินตนาการ 00:02:52.020 --> 00:02:55.101 ขณะที่ยุโรปประสบกับสงครามอุตสาหกรรม ที่ไม่เคยประสบมาก่อน 00:02:55.101 --> 00:02:57.673 การเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบใหม่ ได้เข้ามามีอำนาจ 00:02:57.673 --> 00:03:01.100 บ้างก็ให้คำสัญญาว่า จะลบล้างความแตกต่าง ระหว่างชนชั้นทางสังคม 00:03:01.100 --> 00:03:04.331 ในขณะที่บางแนวคิดก็พยายามหล่อหลอมประชาชน ด้วยมรดกภูมิปัญญา 00:03:04.331 --> 00:03:07.621 ผลลัพธ์คือโลกในความเป็นจริง ที่ประสบกับภาวะดิสโทเปีย 00:03:07.621 --> 00:03:11.572 ภาวะที่ชีวิตอยู่ภายใต้สายตาจับผิดของรัฐ 00:03:11.572 --> 00:03:16.902 และโทษประหารคือผลลัพท์ ของการไม่เข้าพวก 00:03:16.902 --> 00:03:19.812 นักเขียนหลายคนในยุคนี้ ไม่เพียงสังเกตเห็นความน่ากลัวเหล่านั้น 00:03:19.812 --> 00:03:22.231 แต่พวกเขาใช้ชีวิตในช่วงเวลาเช่นนั้น 00:03:22.231 --> 00:03:26.782 หนังสือนวนิยายโซเวียตเรื่อง "We" (พวกเรา) ของ เยฟกีนี่ แซมยาติน ได้อธิบายถึงอนาคต 00:03:26.782 --> 00:03:30.652 ที่ซึ่งเสรีภาพและความเป็นตัวของตัวเอง จะถูกกำจัดทิ้งไป 00:03:30.652 --> 00:03:34.832 หนังสือเล่มนี้ห้ามเผยแพร่ในโซเวียต และเป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนจอรจ์ ออร์เวล 00:03:34.832 --> 00:03:39.533 ผู้ซึ่งอยู่แนวหน้าในการต่อสู้กับแนวคิด แบบ ฟาสต์ซิส และ คอมมิวนิสต์ 00:03:39.533 --> 00:03:43.362 นิยายของเขาเรื่อง "Animal Farm" (ฟาร์มสัตว์) จงใจล้อเลียนการปกครองของโซเวียต 00:03:43.362 --> 00:03:50.442 ผลงานอมตะ "1984" วิพากย์วิจารณ์ภาพรวม ของการรวบอำนาจ ควบคุมสื่อมวลชน และการใช้ภาษา 00:03:50.442 --> 00:03:54.013 และในสหรัฐอเมริกา นวนิยายของซินแคลร์ ลูอิส เรื่อง "It Can't Happen Here" (มันไม่ควรเกิดขึ้นที่นี่) 00:03:54.013 --> 00:03:59.412 วาดภาพให้เห็นว่าแนวคิดแบบประชาธิปไตย เปลี่ยนเป็นฟาสต์ซิสได้ง่ายดายเพียงใด 00:03:59.412 --> 00:04:01.293 ในช่วงหลายสิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 00:04:01.293 --> 00:04:03.214 นักเขียนจินตนาการว่า เทคโนโลยีแบบใหม่ 00:04:03.214 --> 00:04:06.963 เช่น พลังงานนิวเคลียร์ ปัญญาประดิษฐ์ และการเดินทางไปในอวกาศ 00:04:06.963 --> 00:04:09.553 จะมีความหมายอย่างไรต่ออนาคตของมนุษยชาติ 00:04:09.553 --> 00:04:12.422 ซึ่งความคิดแบบนี้ขัดแย้งยิ่งกับจินตนาการ เรื่องความก้าวหน้าที่สวยงาม ซึ่งมักปรากฏในสื่อทั่วไป 00:04:12.422 --> 00:04:18.044 นวนิยายวิทยาศาสตร์แนวดิสโทเปีย กลายเป็นภาพยนตร์ การ์ตูน และเกมส์ 00:04:18.044 --> 00:04:21.403 หุ่นยนต์ที่ต่อต้านผู้สร้าง 00:04:21.403 --> 00:04:25.494 ในขณะที่ทีวีถ่ายทอดรายการบันเทิงที่มีคนฆ่ากัน เพื่อเอาใจคนส่วนใหญ่ของสังคม 00:04:25.494 --> 00:04:30.153 คนงานทำงานหนักในอาณานิคมในอวกาศ นอกโลกที่ทรัพยากรกำลังจะหมดไป 00:04:30.153 --> 00:04:34.003 โลกที่มีประชากรมากเกินไป เมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม 00:04:34.003 --> 00:04:36.644 และถึงสังคมจะเป็นเช่นนั้น เรื่องการเมืองก็ไม่ได้อยู่ไกลตัวเราเลย 00:04:36.644 --> 00:04:42.064 เพราะผลงานเรื่อง " Dr. Strangelove" และ "Watchmen" เปิดเผยความน่ากลัวของระเบิดปรมาณู 00:04:42.064 --> 00:04:44.645 ขณะที่เรื่อง "V for Vendetta" และ "The Handmaid's Tale" 00:04:44.645 --> 00:04:49.634 เตือนให้ทราบว่าสิทธิของเรา หมดสิ้นไปได้ง่ายดายในเวลาคับขัน 00:04:49.634 --> 00:04:53.294 ผลงานนวนิยายแนวดิสโทเปียในทุกวันนี้ สะท้อนความกังวลสังคมยุคใหม่ 00:04:53.294 --> 00:04:54.644 เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกัน 00:04:54.644 --> 00:04:55.634 ภาวะโลกร้อน 00:04:55.634 --> 00:04:56.705 อำนาจของรัฐบาล 00:04:56.705 --> 00:04:58.914 และโรคระบาดระดับโลก 00:04:58.914 --> 00:05:01.565 แล้วทำไมเราต้องสนใจวิธีคิด ที่มองโลกในแง่ร้ายทั้งหมดนี้ 00:05:01.565 --> 00:05:04.984 เพราะว่า แก่นแท้ของดิสโทเปีย คือเรื่องเล่าที่เตือนให้เราระมัดระวัง 00:05:04.984 --> 00:05:08.095 ถึงจะไม่เกี่ยวกับรัฐบาลหรือเทคโนโลยีใด อย่างเฉพาะเจาะจง 00:05:08.095 --> 00:05:14.344 แต่แนวคิดที่ว่ามนุษย์สามารถถูกหล่อหลอม ให้เป็นไปตามอุดมคติได้ ก็ควรทำให้เราฉุกคิด 00:05:14.344 --> 00:05:17.665 ลองคิดดูว่า ในสังคมที่สมบูรณ์แบบ ที่คุณจินตนาการไว้นั้น 00:05:17.665 --> 00:05:20.936 คุณได้จินตนาการด้วยไหมว่า จะต้องแลกด้วยอะไร จึงจะประสบความสำเร็จ 00:05:20.936 --> 00:05:24.355 คุณจะทำให้ผู้คนร่วมมือกันได้อย่างไร 00:05:24.355 --> 00:05:28.065 และคุณจะทำให้มันยั่งยืนได้อย่างไร 00:05:28.065 --> 00:05:30.055 ลองมองดูอีกครั้งว่า 00:05:30.055 --> 00:05:32.507 โลกในจินตนาการนั้นยังดูสมบูรณ์แบบอยู่จริงหรือ