< Return to Video

เดวิด คริสเตียน: ประวัติศาสตร์ภาพใหญ่

  • 0:00 - 0:03
    ผมจะเริ่มจากวีดีโอนี้
  • 0:09 - 0:12
    ใช่ครับ มันคือไข่ที่ถูกตีแล้ว
  • 0:13 - 0:15
    แต่เมื่อคุณมองไป
  • 0:15 - 0:17
    ผมหวังว่าคุณจะเริ่มรู้สึก
  • 0:17 - 0:20
    แปลกตาไปเล็กน้อย
  • 0:21 - 0:24
    เพราะคุณจะเห็นว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
  • 0:24 - 0:27
    คือไข่ใบนั้นกำลังกลับเข้ารูปเข้าร่าง
  • 0:27 - 0:29
    คุณจะเห็นว่า ไข่ขาวกับไข่แดงถูกแยกออกจากกัน
  • 0:29 - 0:32
    และมันกำลังย้อนกลับขึ้นไปอยู่ในเปลือกไข่
  • 0:32 - 0:35
    และเรารู้อยู่แก่ใจของเรา
  • 0:35 - 0:38
    ว่านี่ไม่ใช่หนทางของจักรวาล
  • 0:39 - 0:42
    ไข่คนเป็นของที่เละเทะ มันอร่อย แต่ก็เละ
  • 0:42 - 0:45
    แต่ไข่ฟองหนึ่งมันช่างสวยงาม ซับซ้อนเหลือเกิน
  • 0:45 - 0:47
    ที่ยังสามารถสร้างสิ่งที่ซับซ้อนยิ่งกว่าได้อีก
  • 0:47 - 0:49
    เช่น ไข่กลายเป็นไก่
  • 0:49 - 0:51
    และเรารู้อยู่แก่ใจ
  • 0:51 - 0:53
    ว่าจักรวาลไม่ได้เดินหน้า
  • 0:53 - 0:55
    จากสิ่งเละๆ กลายเป็นความซับซ้อน
  • 0:55 - 0:57
    ที่จริง ความรู้สึกนึ้
  • 0:57 - 1:00
    ถูกบรรยายด้วยกฎรากฐานของฟิสิกส์
  • 1:00 - 1:03
    กฎของอุณหพลศาสตร์ข้อที่สอง หรือกฎของเอนโทรปี
  • 1:03 - 1:05
    นั่นก็คือ
  • 1:05 - 1:08
    แนวโน้มทั่วไปของจักรวาล
  • 1:08 - 1:10
    คือการย้ายจากความเป็นระเบียบ
  • 1:10 - 1:12
    และมีโครงสร้าง
  • 1:12 - 1:14
    ไปสู่ความไม่มีระเบียบ และไม่มีโครงสร้าง
  • 1:14 - 1:16
    ที่จริง ก็คือกลายเป็นของเละเทะนั่นแหละ
  • 1:16 - 1:18
    และนั่นก็คือเหตุผลที่วีดีโอนี้
  • 1:18 - 1:20
    มันดูแปลกๆ
  • 1:20 - 1:22
    แต่กระนั้น
  • 1:22 - 1:24
    ลองมองไปรอบๆตัวเราดูสิ
  • 1:24 - 1:26
    สิ่งที่เราเห็นรอบตัว
  • 1:26 - 1:28
    คือความซับซ้อนอย่างมหาศาล
  • 1:28 - 1:31
    เอริค ไบน์ฮอคเกอร์ ประเมินไว้ว่า ในนิวยอร์ค ซิตี้เพียงเมืองเดียว
  • 1:31 - 1:35
    มีสินค้าที่แตกต่างกันประมาณ 1 หมื่นล้านชิ้น วางจำหน่ายอยู่
  • 1:35 - 1:38
    คิดเป็นหลายร้อยเท่าของจำนวนสปีชีส์
  • 1:38 - 1:40
    ที่มีบนโลกใบนี้
  • 1:40 - 1:42
    และมันถูกค้าขายโดยสปีชีส์เดียว
  • 1:42 - 1:44
    ที่มีเกือบ 7 พันล้านตัว
  • 1:44 - 1:47
    ผู้ซึ่งถูกเชื่อมโยงด้วยการค้า การเดินทาง และอินเตอร์เน็ต
  • 1:47 - 1:49
    เข้าสู่ระบบระดับโลก
  • 1:49 - 1:52
    ที่มีความซับซ้อนอย่างมหัศจรรย์
  • 1:52 - 1:54
    และนี่คือคำถามที่ย่ิงใหญ่
  • 1:54 - 1:56
    ในจักรวาล
  • 1:56 - 1:59
    ที่มีกฎอุณหพลศาสตร์ข้อที่สองกำกับอยู่
  • 1:59 - 2:01
    มันเป็นไปได้อย่างไร
  • 2:01 - 2:04
    ที่เราจะมีความซับซ้อนมากมายดังที่ผมกล่าวถึง --
  • 2:04 - 2:07
    ความซับซ้อนในแบบที่ผมและคุณก็มีอยู่ในตัว
  • 2:07 - 2:10
    หรือรวมไปถึงศูนย์ประชุมแบบนี้
  • 2:10 - 2:13
    คำตอบที่เป็นไปได้ก็คือ
  • 2:13 - 2:16
    จักรวาลสามารถสร้างความซับซ้อนได้
  • 2:16 - 2:18
    แต่ด้วยความยากลำบากอย่างมาก
  • 2:18 - 2:20
    กล่าวสั้นๆ
  • 2:20 - 2:22
    มีบางสิ่งที่เพื่อนผม เฟรด สเปียร์ เรียกว่า
  • 2:22 - 2:24
    "เงื่อนไขโกลดิลอกซ์" --
  • 2:24 - 2:26
    ไม่ร้อนเกินไป ไม่เย็นเกินไป
  • 2:26 - 2:29
    เหมาะสมสำหรับการสร้างความซับซ้อนพอดิบพอดี
  • 2:29 - 2:31
    ณ จุดนั้น สิ่งที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ก็จะเกิดขึ้น
  • 2:31 - 2:33
    และเมื่อมีความซับซ้อนมากขึ้น
  • 2:33 - 2:35
    เราก็จะได้เห็นความซับซ้อนที่มากขึ้นไปอีก
  • 2:35 - 2:38
    และนี่คือวิธีที่ความซับซ้อนก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ
  • 2:38 - 2:40
    ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
  • 2:40 - 2:43
    ในแต่ละช่วงนั้นก็เป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์
  • 2:43 - 2:46
    เพราะเราจะได้เห็นสิ่งใหม่เอี่ยม
  • 2:46 - 2:49
    ที่อยู่ดีๆก็เกิดขึ้นในจักรวาลแห่งนี้
  • 2:49 - 2:51
    เราพูดถึงเหตุการณ์เหล่านี้ในประวัติศาสตร์ภาพใหญ่
  • 2:51 - 2:53
    ในฐานะชั่วขณะแห่งการเปลี่ยนแปลง
  • 2:53 - 2:55
    และในแต่ละช่วงการเปลี่ยนแปลงนั้น
  • 2:55 - 2:57
    การเดินหน้าต่อไปก็ยากลำบากขึ้น
  • 2:57 - 3:00
    เพราะสิ่งที่ซับซ้อนขึ้น ก็จะบอบบาง
  • 3:00 - 3:02
    เสี่ยงจะถูกทำลายมากขึ้น
  • 3:02 - 3:05
    เงื่อนไขในการเดินหน้าต่อก็รัดตัวขึ้น
  • 3:05 - 3:07
    และมันก็ยากขึ้นเรื่อยๆ
  • 3:07 - 3:09
    ในการสร้างความซับซ้อนต่อไป
  • 3:09 - 3:12
    ในฐานะที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนมากๆ
  • 3:12 - 3:15
    เราจำเป็นอย่างที่สุด ที่ต้องรู้เรื่องเหล่านี้ไว้
  • 3:15 - 3:17
    ว่าจักรวาลสร้างความซับซ้อนได้อย่างไร
  • 3:17 - 3:19
    โดยก้าวผ่านกฎข้อที่สอง
  • 3:19 - 3:21
    และทำไมความซับซ้อน
  • 3:21 - 3:23
    ก็หมายถึงความเสี่ยง
  • 3:23 - 3:25
    และความเปราะบาง
  • 3:25 - 3:28
    และนั่นคือเรื่องราวที่เราเล่าในประวัติศาสตร์ภาพใหญ่
  • 3:28 - 3:30
    แต่ในการที่เราจะทำสิ่งนั้น เราอาจจะต้อง
  • 3:30 - 3:32
    ทำในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้
  • 3:32 - 3:36
    นั่นก็คือ เก็บข้อมูลประวัติศาสตร์จักรวาลทั้งหมด
  • 3:37 - 3:39
    งั้นเรามาทำกันเถอะ
  • 3:39 - 3:41
    (เสียงหัวเราะ)
  • 3:41 - 3:44
    เราเริ่มจากย้อนเวลากลับไป
  • 3:44 - 3:47
    สัก 13.7 พันล้านปีที่แล้ว
  • 3:47 - 3:50
    ถึงจุดกำเนิดของกาลเวลา
  • 3:57 - 3:59
    รอบๆตัวเรา ไม่มีอะไรเลย
  • 3:59 - 4:03
    ไม่มีแม้กระทั่งกาลเวลา หรือปริภูมิ
  • 4:03 - 4:06
    ลองนึกถึงสิ่งที่มืดที่สุด ที่ว่างที่สุด ที่คุณจะจินตนาการได้
  • 4:06 - 4:08
    และยกกำลังมันเข้าไปอีกเป็นล้านๆครั้ง
  • 4:08 - 4:10
    และนั่นคือที่ที่เราอยู่
  • 4:10 - 4:13
    ในทันใดนั้น
  • 4:13 - 4:16
    แบง! จักรวาลผุดขึ้นมา ทั้งจักรวาล
  • 4:16 - 4:18
    และเราก็ได้ก้าวข้ามจุดเปลี่ยนแรก
  • 4:18 - 4:20
    จักรวาลยังเล็กมากนัก เล็กกว่าอะตอมเสียอีก
  • 4:20 - 4:22
    มันร้อนมาก
  • 4:22 - 4:24
    ในตัวมัน มีทุกอย่างที่รวมกันเป็นจักรวาลทุกวันนี้
  • 4:24 - 4:26
    คุณคงนึกภาพออก มันกำลังคึกคักเลยทีเดียว
  • 4:26 - 4:29
    และขยายตัวอย่างรวดเร็ว
  • 4:29 - 4:31
    ตอนแรกมันก็เป็นแค่ภาพจางๆ ปกคลุมไปทั่ว
  • 4:31 - 4:34
    จากนั้น เริ่มมีสิ่งแปลกใหม่เกิดขึ้นในหมอกจางๆ เหล่านั้น
  • 4:34 - 4:36
    ภายในวินาทีแรก
  • 4:36 - 4:39
    พลังงานแตกละเอียดออกเป็นกำลังชนิดต่างๆ
  • 4:39 - 4:41
    รวมถึงพลังแม่เหล็กไฟฟ้า และแรงดึงดูด
  • 4:41 - 4:44
    และพลังงานเหล่านี้ก็ร่ายเวทย์มนต์
  • 4:44 - 4:47
    ก่อตัวขึ้นกลายเป็นสสาร
  • 4:47 - 4:49
    กลายเป็นควาร์กซึ่งกลายเป็นโปรตอน
  • 4:49 - 4:52
    และเลปตอนที่มีอิเล็กตรอนด้วย
  • 4:52 - 4:54
    และทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นภายในวินาทีแรก
  • 4:54 - 4:59
    จากนั้น ลองเดินหน้าไปสัก 380,000 ปี
  • 4:59 - 5:02
    คิดเป็นสองเท่าของระยะเวลาที่มนุษย์อาศัยอยู่บนโลกนี้
  • 5:02 - 5:05
    จากนั้น อะตอมพื้นฐานก็เริ่มเกิดขึ้น
  • 5:05 - 5:08
    มีไฮโดรเจน และฮีเลียม
  • 5:08 - 5:10
    ผมขอหยุดไว้ตรงนี้ก่อนชั่วคราว
  • 5:10 - 5:13
    ที่ 380,000 ปีหลังจากการกำเนิดของจักรวาล
  • 5:13 - 5:15
    เพราะเรารู้จักมันค่อนข้างดี
  • 5:15 - 5:17
    เกี่ยวกับจักรวาล ณ เวลานี้
  • 5:17 - 5:20
    ที่สุดแล้ว เรารู้ว่ามันเรียบง่ายมาก
  • 5:20 - 5:22
    มันมีกลุ่มควันใหญ่โต
  • 5:22 - 5:24
    ที่ประกอบไปด้วยไฮโดรเจนและฮีเลียม
  • 5:24 - 5:26
    และมันไม่มีโครงสร้างใดๆทั้งสิ้น
  • 5:26 - 5:29
    เป็นเพียงของเละๆในระดับจักรวาล
  • 5:29 - 5:31
    แต่นั่นไม่ได้เป็นจริงทั้งหมด
  • 5:31 - 5:33
    การศึกษาหลังๆมา
  • 5:33 - 5:36
    โดยดาวเทียม เช่นดาวเทียม WMAP
  • 5:36 - 5:40
    แสดงให้เห็นว่า มีความแตกต่างกันในพื้นหลัง
  • 5:40 - 5:42
    สิ่งที่คุณเห็นอยู่นี้
  • 5:42 - 5:45
    บริเวณสีน้ำเงิน เย็นกว่าบริเวณสีแดง
  • 5:45 - 5:47
    ประมาณ 1000 องศา
  • 5:47 - 5:49
    ซึ่งเป็นเพียงความแตกต่างเล็กน้อย
  • 5:49 - 5:51
    แต่ก็มากพอที่จะทำให้จักรวาลเดินหน้าต่อไปได้
  • 5:51 - 5:53
    สู่ความซับซ้อนขั้นต่อไป
  • 5:53 - 5:55
    และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
  • 5:55 - 5:58
    แรงดึงดูดจะแรงขึ้น
  • 5:58 - 6:00
    เมื่อมีสสารอยู่มากขึ้น
  • 6:00 - 6:02
    เพราะฉะนั้น เมื่อมีบริเวณที่หนาแน่นกว่าบริเวณอื่น
  • 6:02 - 6:04
    แรงดึงดูดก็เริ่มดูดกลุ่มควัน
  • 6:04 - 6:06
    ที่มีไฮโดรเจน และฮีเลียมเข้าด้วยกัน
  • 6:06 - 6:08
    เราจินตนาการถึงจักรวาลแตกออก
  • 6:08 - 6:10
    กลายเป็นกลุ่มควันล้านๆ กลุ่ม
  • 6:10 - 6:12
    และแต่ละกลุ่ม ก็เริ่มรวมตัวเข้าหากัน
  • 6:12 - 6:15
    แรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้น เมื่อมันเริ่มรวมตัว
  • 6:15 - 6:17
    อุณหภูมิในใจกลางกลุ่มควันก็เริ่มสูงขึ้น
  • 6:17 - 6:19
    จากนั้น ในใจกลางของกลุ่มควันเหล่านั้น
  • 6:19 - 6:22
    อุณหภูมิก้าวข้ามจุดเปลี่ยนแปลง
  • 6:22 - 6:24
    ที่ 10 ล้านองศา
  • 6:24 - 6:26
    โปรตอนเริ่มเข้าปฎิกิริยาฟิวชั่น
  • 6:26 - 6:29
    จากนั้นก็มีการแผ่พลังงานจำนวนออกมา
  • 6:29 - 6:31
    และ แบง!
  • 6:31 - 6:33
    เราก็ได้ดาวฤกษ์ดวงแรก
  • 6:33 - 6:37
    200 ล้านปีหลังบิ๊กแบง
  • 6:37 - 6:40
    ดาวฤกษ์เริ่มผุดขึ้นทั่วจักรวาล
  • 6:40 - 6:42
    เป็นพันๆล้านดวง
  • 6:42 - 6:45
    และจักรวาลก็เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น
  • 6:45 - 6:48
    และเริ่มซับซ้อนมากขึ้น
  • 6:48 - 6:50
    ดาวฤกษ์เริ่มสร้างเงื่อนไข
  • 6:50 - 6:53
    ที่ก้าวข้ามจุดเปลี่ยนแปลงอีกสองจุด
  • 6:53 - 6:55
    เมื่อดาวฤกษ์ดวงใหญ่ๆดับลง
  • 6:55 - 6:58
    มันดึงอุณหภูมิขึ้นไปสูงมากๆ
  • 6:58 - 7:01
    จนโปรตอนเริ่มเกิดฟิวชั่นในหลายๆรูปแบบ
  • 7:01 - 7:04
    จนเกิดธาตุทั้งหมดที่เห็นในตารางธาตุ
  • 7:04 - 7:07
    ถ้าคุณสวมแหวงทองคำเหมือนผม
  • 7:07 - 7:10
    แหวนนี่แหละถูกสร้างขึ้นจากการระเบิดของซุปเปอร์โนวา
  • 7:10 - 7:13
    ในตอนนี้ จักรวาลก็เร่ิมมีความซับซ้อนทางเคมีแล้ว
  • 7:13 - 7:16
    และเมื่อมีความซับซ้อนทางเคมีมากขึ้น
  • 7:16 - 7:18
    ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างสิ่งต่างๆมากขึ้น
  • 7:18 - 7:20
    และสิ่งที่เกิดขึ้น
  • 7:20 - 7:22
    ก็คือ รอบๆดวงอาทิตย์รุ่นเยาว์
  • 7:22 - 7:24
    และดาวฤกษ์รุ่นเยาว์ต่างๆ
  • 7:24 - 7:26
    ธาตุต่างๆเร่ิมรวมตัว วิ่งไปวิ่งมา
  • 7:26 - 7:28
    พลังงานจากดาวฤกษ์เหวี่ยงมันไปมา
  • 7:28 - 7:31
    ทำให้เกิดอนุภาค เกิดเกล็ดหิมะ
  • 7:31 - 7:33
    เกิดผงธุลี
  • 7:33 - 7:35
    เกิดก้อนหิน เกิดอุกกาบาต
  • 7:35 - 7:38
    และในที่สุดก็มีดาวเคราะห์ และดวงจันทร์บริวาร
  • 7:38 - 7:41
    และนั่นคือความเป็นมาของระบบสุริยะจักรวาล
  • 7:41 - 7:44
    ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 4.5 พันล้านปีที่แล้ว
  • 7:44 - 7:47
    ดาวเคราะห์อย่างโลกของเรา
  • 7:47 - 7:50
    มีความซับซ้อนมากกว่าดาวฤกษ์ค่อนข้างมาก
  • 7:50 - 7:53
    เพราะมีส่วนประกอบที่หลากหลายกว่ามาก
  • 7:53 - 7:56
    ดังนั้น เราก็ได้ก้าวข้ามจุดเปลี่ยนที่สี่แล้ว
  • 7:57 - 8:00
    อะไรๆก็เริ่มยากขึ้นแล้วล่ะ
  • 8:01 - 8:03
    ขั้นต่อไป เราเริ่มเห็นตัวตน
  • 8:03 - 8:05
    ที่มีความเปราะบางมาก
  • 8:05 - 8:07
    แตกหักได้ง่ายมาก
  • 8:07 - 8:10
    แต่ก็มีความสร้างสรรค์มากขึ้นอย่างมาก
  • 8:10 - 8:13
    และสามารถสร้างความซับซ้อนได้เก่งยิ่งขึ้น
  • 8:13 - 8:15
    แน่นอน ผมกำลังพูดถึง
  • 8:15 - 8:17
    สิ่งมีชีวิต
  • 8:17 - 8:19
    สิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาเคมี
  • 8:19 - 8:22
    เราเป็นหีบห่อเคมีขนาดใหญ่
  • 8:23 - 8:26
    เคมีเป็นสิ่งที่ถูกปกครองโดยพลังแม่เหล็กไฟฟ้า
  • 8:26 - 8:28
    ซึ่งทำงานในระดับที่เล็กกว่าแรงดึงดูดมาก
  • 8:28 - 8:30
    ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณและผม
  • 8:30 - 8:32
    จึงมีขนาดเล็กกว่าดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์
  • 8:32 - 8:35
    แล้วมาถึงคำถามที่ว่า
  • 8:35 - 8:37
    อะไรคือเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับเคมีเหล่านี้
  • 8:37 - 8:39
    ก่อนอื่น คุณต้องมีพลังงาน
  • 8:39 - 8:41
    แต่ไม่ใช่มีมากเกินไปนะ
  • 8:41 - 8:43
    ในใจกลางดาวฤกษ์ มีพลังงานมากเกิน
  • 8:43 - 8:46
    ที่อะตอมอะไรก็ตามที่รวมตัวกันได้ ก็จะถูกแยกออกจากกันทันที
  • 8:46 - 8:48
    และไม่ใช่มีพลังงานน้อยเกิน
  • 8:48 - 8:50
    ในพื้นที่ระหว่างกาแล็กซี่ มีพลังงานน้อยเหลือเกิน
  • 8:50 - 8:53
    จนอะตอมไม่สามารถรวมตัวกันได้
  • 8:53 - 8:55
    สิ่งที่คุณต้องการ คือพลังงานที่พอเหมาะ
  • 8:55 - 8:57
    และดาวเคราะห์นี่แหละ คือที่ที่เหมาะสม
  • 8:57 - 9:00
    เพราะมันอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ แต่ก็ไม่ใกล้เกินไป
  • 9:00 - 9:03
    คุณต้องมีธาตุที่หลากหลายด้วย
  • 9:03 - 9:06
    และคุณต้องมีของเหลว เช่นน้ำ
  • 9:06 - 9:08
    ทำไมน่ะหรือ?
  • 9:08 - 9:11
    สำหรับก๊าซ อะตอมวิ่งสวนกันเร็วมาก
  • 9:11 - 9:13
    จนไม่สามารถจับตัวกันไว้ได้
  • 9:13 - 9:15
    ในของแข็ง
  • 9:15 - 9:18
    อะตอมก็อยู่ติดกัน จนขยับตัวไม่ได้
  • 9:18 - 9:20
    ในของเหลว
  • 9:20 - 9:22
    มันสามารถเดินไปมา จับตัวกัน
  • 9:22 - 9:25
    และรวมตัวกันกลายเป็นโมเลกุลได้
  • 9:25 - 9:28
    แล้วที่ไหนล่ะที่เราจะพบเงื่อนไขเหล่านี้ได้
  • 9:28 - 9:30
    ดาวเคราะห์เป็นที่ที่ดีที่สุด
  • 9:30 - 9:32
    และโลกของเรา
  • 9:32 - 9:34
    ก็เกือบจะสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
  • 9:34 - 9:36
    มันอยู่ในระยะที่พอเหมาะจากดาวฤกษ์
  • 9:36 - 9:39
    มีมหาสมุทร มีน้ำจำนวนมาก
  • 9:39 - 9:41
    และใต้มหาสมุทรเหล่านั้น
  • 9:41 - 9:43
    บริเวณจุดแตกของเปลือกโลก
  • 9:43 - 9:46
    เราก็มีความร้อน ที่เล็ดลอดมาจากใจกลางโลก
  • 9:46 - 9:48
    และเราก็มีความหลากหลายทางเคมี
  • 9:48 - 9:50
    เพราะฉะนั้น ปฏิกิริยาเคมีที่น่ามหัศจรรย์
  • 9:50 - 9:53
    ก็เกิดขึ้นตามจุดแตกเหล่านั้น
  • 9:53 - 9:56
    อะตอมรวมตัวกันในรูปแบบต่างๆ นาๆ
  • 9:57 - 9:59
    แต่แน่นอนว่า ชีวิตเป็นมากกว่า
  • 9:59 - 10:01
    ปฏิกิริยาทางเคมีหาได้ยาก
  • 10:01 - 10:03
    คุณทำให้โมเลกุลใหญ่ๆ
  • 10:03 - 10:05
    ที่เจริญเติบโตได้
  • 10:05 - 10:08
    มีความมั่นคงได้อย่างไร
  • 10:08 - 10:10
    ตรงนี้นี่แหละ ที่ชีวิตได้แนะนำให้เรารู้จัก
  • 10:10 - 10:13
    กับการพลิกแพลงใหม่เอี่ยม
  • 10:13 - 10:15
    เราไม่พยายามทำให้โมเลกุลมั่นคง
  • 10:15 - 10:17
    แต่เราทำให้แม่พิมพ์มันมั่นคงต่างหาก
  • 10:17 - 10:19
    แม่พิมพ์ที่จะส่งต่อข้อมูล
  • 10:19 - 10:21
    และก็ทำให้แม่พิมพ์เหล่านั้น สามารถทำสำเนาได้
  • 10:21 - 10:23
    และแน่นอนว่า ดีเอ็นเอ
  • 10:23 - 10:25
    ก็คือโมเลกุลแสนสวย
  • 10:25 - 10:27
    ที่บันทึกข้อมูลเหล่านั้น
  • 10:27 - 10:30
    คุณคงคุ้นเคยกับเกลียวคู่ในดีเอ็นเอ
  • 10:30 - 10:32
    แต่ละคู่ก็มีข้อมูลเก็บไว้
  • 10:32 - 10:34
    ดังนั้น ดีเอ็นเอมีข้อมูล
  • 10:34 - 10:37
    ถึงวิธีการสร้างสิ่งมีชีวิต
  • 10:37 - 10:39
    และดีเอ็นเอก็ทำสำเนาตัวเองได้
  • 10:39 - 10:41
    มันจึงทำสำเนาตัวเอง
  • 10:41 - 10:43
    และปล่อยแม่พิมพ์เหล่านั้นออกไปทั่วมหาสมุทร
  • 10:43 - 10:45
    ข้อมูลก็แพร่ขยายออกไป
  • 10:45 - 10:48
    สังเกตนะ ว่าข้อมูลเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของเรา
  • 10:48 - 10:50
    ความสวยงามของดีเอ็นเอนั้น
  • 10:50 - 10:52
    อยู่ที่ความไม่สมบูรณ์แบบของมัน
  • 10:52 - 10:54
    เมื่อมันทำสำเนาตัวเอง
  • 10:54 - 10:56
    ในทุกๆ พันล้านรอบ
  • 10:56 - 10:58
    มักจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
  • 10:58 - 11:00
    นั่นหมายความว่า
  • 11:00 - 11:03
    ดีเอ็นเอกำลังเรียนรู้
  • 11:03 - 11:05
    มันกำลังรวบรวมวิธีการใหม่ๆในการสร้างสิ่งมีชีวิต
  • 11:05 - 11:07
    เพราะความผิดพลาด บางทีก็ใช้งานได้จริง
  • 11:07 - 11:09
    ดังนั้น ดีเอ็นเอกำลังเรียนรู้
  • 11:09 - 11:12
    และกำลังสร้างความหลากหลาย ความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
  • 11:12 - 11:15
    เราสามารถเห็นการทำงานของมันได้ตลอด 4 พันล้านปีที่ผ่านมา
  • 11:15 - 11:17
    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบนโลกใบนี้
  • 11:17 - 11:19
    สิ่งมีชีวิตค่อนข้างจะเรียบง่าย --
  • 11:19 - 11:21
    เป็นสัตว์เซลล์เดียว
  • 11:21 - 11:23
    แต่มีความหลากหลายอยู่มาก
  • 11:23 - 11:25
    และภายใน ก็ซ่อนความซับซ้อนมากมาย
  • 11:25 - 11:28
    จากนั้น เมื่อ 600 ถึง 800 ล้านปีที่แล้ว
  • 11:28 - 11:30
    สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ก็เริ่มกำเนิดขึ้น
  • 11:30 - 11:32
    เราเริ่มมีสิ่งมีชีวิตตระกูลเห็ด เริ่มมีปลา
  • 11:32 - 11:34
    เริ่มมีพืช
  • 11:34 - 11:37
    มีสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มีสัตว์เลื้อยคลาน
  • 11:37 - 11:40
    และแน่นอน เราก็มีไดโนเสาร์
  • 11:40 - 11:44
    และในบางครั้งบางคราว เราเจอะเจอกับภัยธรรมชาติ
  • 11:44 - 11:46
    65 ล้านปีที่แล้ว
  • 11:46 - 11:48
    อุกกาบาตตกลงมายังโลก
  • 11:48 - 11:50
    ใกล้คาบสมุทรยูคาตัน
  • 11:50 - 11:53
    เกิดเงื่อนไขที่เทียบเท่ากับสงครามนิวเคลียร์
  • 11:53 - 11:55
    และไดโนเสาร์ก็สูญพันธ์
  • 11:55 - 11:59
    ข่าวร้ายสำหรับเหล่าไดโนเสาร์
  • 11:59 - 12:02
    แต่เป็นข่าวดีของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม บรรพบุรุษของเรา
  • 12:02 - 12:04
    ที่รุ่งเรือง
  • 12:04 - 12:07
    จากที่ที่ไดโนเสาร์ทิ้งเอาไว้
  • 12:07 - 12:09
    และมนุษย์อย่างเรา
  • 12:09 - 12:12
    ก็เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการ
  • 12:12 - 12:15
    ที่เริ่มต้นเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว
  • 12:15 - 12:17
    จากการทักทายของอุกกาบาต
  • 12:18 - 12:21
    มนุษย์เกิดขึ้นเมื่อ 200,000 ปีที่แล้ว
  • 12:21 - 12:23
    และผมเชื่อว่าจุดนี้
  • 12:23 - 12:25
    คืออีกหนึ่งจุดเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
  • 12:25 - 12:27
    ผมจะอธิบายให้ฟังว่าทำไม
  • 12:27 - 12:30
    เรารู้แล้วว่าดีเอ็นเอเรียนรู้ได้
  • 12:30 - 12:32
    โดยการเก็บรวบรวมข้อมูล
  • 12:32 - 12:34
    แต่มันก็ช้ามากๆ
  • 12:34 - 12:36
    ดีเอ็นเอรวบรวมข้อมูล
  • 12:36 - 12:38
    จากข้อผิดพลาด
  • 12:38 - 12:41
    ที่มีประโยชน์โดยบังเอิญ
  • 12:41 - 12:43
    แต่ดีเอ็นเอก็ได้สร้างวิธีการเรียนรู้แบบใหม่
  • 12:43 - 12:46
    โดยสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีสมอง
  • 12:46 - 12:49
    และสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นสามารถเรียนรู้ได้โดยตรง
  • 12:49 - 12:52
    มันสามารถรวบรวมข้อมูล เรียนรู้ได้
  • 12:52 - 12:54
    แต่ที่น่าเสียดายคือ
  • 12:54 - 12:57
    เมื่อมันตาย ข้อมูลก็หายไปกับพวกมัน
  • 12:57 - 12:59
    สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่าง
  • 12:59 - 13:01
    ก็คือภาษาของมนุษย์
  • 13:01 - 13:03
    เรามีภาษา มีระบบในการติดต่อสื่อสาร
  • 13:03 - 13:06
    ที่ทรงพลัง และมีความแม่นยำมาก
  • 13:06 - 13:09
    จนเราสามารถแบ่งปันสิ่งที่เราเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำ
  • 13:09 - 13:12
    และสามารถรวบรวม เป็นการใช้ความจำร่วมกัน
  • 13:12 - 13:14
    และนั่นหมายความว่า
  • 13:14 - 13:17
    ข้อมูลอยู่ได้นานกว่าบุคคลที่เรียนรู้ข้อมูลนั้นๆ
  • 13:17 - 13:21
    และสามารถรวบรวมได้จากรุ่นสู่รุ่น
  • 13:21 - 13:23
    และนั่นคือเหตุผลที่เรา ในฐานะสปีชีส์หนึ่ง มีความสร้างสรรค์
  • 13:23 - 13:25
    และทรงพลังมาก
  • 13:25 - 13:27
    และนั่นคือเหตุผลที่เรามีประวัติศาสตร์
  • 13:27 - 13:30
    เราเหมือนจะเป็นสปีชีส์เดียวใน 4 พันล้านปี
  • 13:30 - 13:32
    ที่ได้ของขวัญชิ้นนี้
  • 13:32 - 13:34
    ผมเรียกความสามารถนี้ว่า
  • 13:34 - 13:36
    การเรียนรู้ร่วมกัน
  • 13:36 - 13:38
    นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง
  • 13:38 - 13:40
    เราเห็นการทำงานของมัน
  • 13:40 - 13:42
    ได้ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของมนุษยชาติ
  • 13:42 - 13:44
    เราวิวัฒนาการในฐานะสปีชีส์
  • 13:44 - 13:46
    ในทุ่งหญ้าในแอฟริกา
  • 13:46 - 13:49
    แต่เราก็เห็นมนุษย์ย้ายถิ่นฐานไปในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ --
  • 13:49 - 13:51
    ไปยังทะเลทราย ในป่าใหญ่
  • 13:51 - 13:53
    ในทุ่งหญ้ายุคน้ำแข็งของไซบีเรีย --
  • 13:53 - 13:55
    ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายมากๆ --
  • 13:55 - 13:57
    ไปยังอเมริกา และออสเตรเลเซีย
  • 13:57 - 13:59
    ในทุกการย้ายถิ่นฐาน ล้วนมีการเรียนรู้ --
  • 13:59 - 14:02
    เรียนรู้วิธีใหม่ในการอยู่กับสภาพแวดล้อม
  • 14:02 - 14:04
    วิธีใหม่ในการต่อสู้กับสิ่งรอบตัว
  • 14:04 - 14:06
    แล้วเมื่อ 10,000 ปีที่ผ่านมา
  • 14:06 - 14:08
    มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศครั้งใหญ่
  • 14:08 - 14:10
    จุดสิ้นสุดของยุคน้ำแข็ง
  • 14:10 - 14:13
    มนุษย์เรียนรู้การทำเกษตรกรรม
  • 14:13 - 14:15
    เกษตรกรรมเป็นแหล่งกำเนินพลังงานมหาศาล
  • 14:15 - 14:17
    และด้วยพลังงานเหล่านั้น
  • 14:17 - 14:19
    ประชากรมนุษย์ก็ทวีคูณขึ้นไม่รู้จบ
  • 14:19 - 14:21
    สังคมมนุษย์เติบใหญ่ขึ้น หนาแน่นขึ้น
  • 14:21 - 14:23
    เชื่อมต่อกันมากขึ้น
  • 14:23 - 14:27
    จากนั้นเมื่อ 500 ปีที่แล้ว
  • 14:27 - 14:29
    มนุษย์เริ่มเชื่อมต่อกันทั่วโลก
  • 14:29 - 14:31
    ผ่านการเดินเรือ ทางรถไฟ
  • 14:31 - 14:34
    ผ่านโทรเลข ผ่านอินเตอร์เน็ต
  • 14:34 - 14:36
    ตอนนี้เราเหมือนจะเห็น
  • 14:36 - 14:38
    ทั้งโลกเป็นเสมือนสมองหนึ่งเดียว
  • 14:38 - 14:40
    ที่มีมนุษย์ถึง 7 ล้านคนร่วมสร้าง
  • 14:40 - 14:45
    และสมองก้อนนั้น กำลังเรียนรู้ด้วยความเร็วแสง
  • 14:45 - 14:47
    และ 200 ปีที่ผ่านมา มีบางอย่างเกิดขึ้นอีก
  • 14:47 - 14:49
    เราพบเจอขุมทรัพย์พลังงานอีกอย่างหนึ่ง
  • 14:49 - 14:51
    จากเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • 14:51 - 14:54
    ด้วยฟอสซิล และการเรียนรู้ร่วมกัน
  • 14:54 - 14:56
    เป็นเหตุผลที่เราเห็นความซับซ้อนมหาศาล
  • 14:56 - 14:58
    อยู่รอบตัวเรา
  • 15:01 - 15:04
    และแล้วเราก็กลับมาสู่ปัจจุบัน
  • 15:04 - 15:06
    ในศูนย์ประชุมแห่งนี้
  • 15:06 - 15:08
    เราได้เดินทางไปบนเส้นทาง
  • 15:08 - 15:11
    ความยาวถึง 13.7 ล้านปี
  • 15:11 - 15:14
    ผมหวังว่าคุณก็เห็นด้วย ว่านี่เป็นเรื่องราวที่ทรงพลังมาก
  • 15:14 - 15:16
    มันเป็นเรื่องราวที่มนุษย์
  • 15:16 - 15:19
    ได้มีบทบาทที่สำคัญและน่าทึ่ง
  • 15:19 - 15:22
    แต่มันก็มีสัญญาณเตือนเหมือนกัน
  • 15:22 - 15:26
    การเรียนรู้ร่วมกัน เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
  • 15:26 - 15:28
    และเราก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ
  • 15:28 - 15:31
    ว่าเราควบคุมมันได้หรือไม่
  • 15:31 - 15:34
    ผมจำได้ลางๆ เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก เติบโตที่ประเทศอังกฤษ
  • 15:34 - 15:37
    ใช้ชีวิตผ่านช่วงวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา
  • 15:37 - 15:39
    ในระยะเวลาหลายวัน
  • 15:39 - 15:41
    โลกทั้งใบ
  • 15:41 - 15:44
    เกือบจะถึงจุดหายนะ
  • 15:44 - 15:47
    และอาวุธในวันนั้น ก็ยังคงอยู่ทุกวันนี้
  • 15:47 - 15:49
    และพร้อมที่จะถูกใช้ในทุกเมื่อ
  • 15:49 - 15:51
    ถึงเราจะหลีกเลี่ยงจุดนั้นได้
  • 15:51 - 15:53
    ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่คอยเราอยู่
  • 15:53 - 15:56
    เรากำลังเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • 15:56 - 15:59
    ในระดับที่เราเริ่มพังทลายเงื่อนไข
  • 15:59 - 16:01
    ที่ทำให้อารยธรรมมนุษย์สร้างตัวขึ้นมาได้
  • 16:01 - 16:05
    ตลอด 10,000 ปีที่ผ่านมา
  • 16:05 - 16:07
    สิ่งที่ประวัติศาสตร์ภาพใหญ่นี้จะทำได้
  • 16:07 - 16:10
    คือแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน และความเปราะบาง
  • 16:10 - 16:12
    และอันตรายที่เรากำลังเผชิญ
  • 16:12 - 16:15
    แต่มันก็แสดงให้เราเห็น
  • 16:15 - 16:17
    ถึงพลังของเรา จากการเรียนรู้ร่วมกัน
  • 16:17 - 16:20
    และสุดท้ายนี้
  • 16:20 - 16:24
    นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ
  • 16:24 - 16:27
    ผมต้องการหลายของผม แดเนียล
  • 16:27 - 16:29
    และเพื่อนของเขา และรุ่นของเขา
  • 16:29 - 16:31
    ที่อยู่ทั่วโลกใบนี้
  • 16:31 - 16:34
    ได้รู้จักเรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งหมดของเรา
  • 16:34 - 16:36
    และรู้จักมันดีพอ
  • 16:36 - 16:38
    ที่จะเข้าใจ
  • 16:38 - 16:40
    ทั้งอุปสรรคที่เรากำลังเผชิญ
  • 16:40 - 16:43
    และโอกาสที่อยู่ใกล้เอื้อม
  • 16:43 - 16:45
    และนั่นก็คือเหตุผลที่พวกผม
  • 16:45 - 16:47
    กำลังสร้างแบบเรียนออนไลน์ฟรี
  • 16:47 - 16:49
    เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ภาพใหญ่
  • 16:49 - 16:51
    ให้กับนักเรียนมัธยมทั่วโลกได้ใช้
  • 16:51 - 16:54
    เราเชื่อว่าประวัติศาสตร์ภาพใหญ่นี้
  • 16:54 - 16:57
    จะเป็นเครื่องมือทางปัญญาที่สำคัญสำหรับพวกเขา
  • 16:57 - 17:00
    เพราะแดเนียลและเพื่อนของเขา
  • 17:00 - 17:02
    กำลังเผชิญความท้าทายที่ยิ่งใหญ่
  • 17:02 - 17:04
    และโอกาสที่ยิ่งใหญ่
  • 17:04 - 17:07
    อยู่ภายภาคหน้า ณ จุดเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
  • 17:07 - 17:11
    ในประวัติศาสตร์ของโลกที่สวยงามของเรา
  • 17:11 - 17:13
    (เสียงปรบมือ)
Title:
เดวิด คริสเตียน: ประวัติศาสตร์ภาพใหญ่
Speaker:
David Christian
Description:

ด้วยภาพประกอบที่น่าตื่นตาตื่นใจ เดวิด คริสเตียน เล่าถึงประวัติศาสตร์ของจักรวาล ตั้งแต่บิ๊กแบง ไปจนถึงการสร้างอินเตอร์เน็ต ภายในเวลา 18 นาที นี่คือ "ประวัติศาสตร์ภาพใหญ่" หรือมุมมองเปิดกว้าง ที่ทำให้เราได้เห็นถึงความซับซ้อน ชีวิต และมนุษยชาติ ควบคู่ไปกับความยิ่งใหญ่ของช่วงเวลาของจักรวาลแห่งนี้

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
17:19
Unnawut Leepaisalsuwanna added a translation

Thai subtitles

Revisions