< Return to Video

The Marvel Symphonic Universe

  • 0:05 - 0:06
    ผมมีคำถามให้คุณ
  • 0:06 - 0:10
    คิดว่าฮัมเพลงจาก Star War ได้หรือไม่
  • 0:28 - 0:30
    แล้ว James Bond ล่ะ
  • 0:41 - 0:43
    Harry Potter ล่ะ
  • 0:56 - 1:01
    คำถามสุดท้าย : ฮัมเพลงจาก
    หนังของ Marvel ได้ไหม
  • 1:05 - 1:08
    ผมเป็นแฟนพันธ์ุแท้ Marvel เลยแหละ
    แต่ผมคิดว่าผม....
  • 1:08 - 1:11
    ผมคิดไม่ออกสักเพลงเลย
  • 1:17 - 1:18
    ไม่อ่ะ
    ไม่เหมือนกัน
  • 1:19 - 1:22
    คิดว่าน่าจะรู้นะ แต่ก็ไม่
  • 1:23 - 1:23
    เวรล่ะ
  • 1:28 - 1:31
    ฉันไม่คิดว่าจะมีนะ Theme Song เนี่ย
  • 1:31 - 1:33
    ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ
  • 1:33 - 1:38
    เพราะว่าจักรวาล Marvel เป็นแฟรนไชส์ที่
    ทำเงินได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
  • 1:38 - 1:41
    มากกว่า Star Wars
    มากกว่า James Bond อีก
  • 1:41 - 1:43
    มากกว่า Harry Potter ด้วย
  • 1:43 - 1:46
    แล้วอะไรที่หายไป
  • 1:57 - 2:01
    ปัญหาแรกเลยคือ
    เพลงส่วนมากปลุกอารมณ์คนดูไม่ได้
  • 2:01 - 2:04
    มาดูฉากนี้จาก Iron Man ภาคแรก
  • 2:05 - 2:08
    วันที่ 11 การทดลองที่ 37
    เวอร์ชั่น 2.0
  • 2:08 - 2:11
    ไม่มีความเห็นดีกว่านี้
    งั้นเตรียมดับไฟหุ่น
  • 2:11 - 2:15
    ถ้าฉันไม่ได้ติดไฟแล้วแกพ่นใส่ฉันนะ
    จะบริจาคให้วัด
  • 2:15 - 2:17
    เรียบร้อยนะ ช้าๆ นิ่มๆ
  • 2:17 - 2:20
    มันเบามากก
    ลองฟังอีกที
  • 2:20 - 2:24
    แต่ครั้งนี้มีแค่ดนตรี
  • 2:37 - 2:40
    คุณรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไหม
  • 2:41 - 2:43
    แล้วถ้าเราเอาดนตรีออกล่ะ
  • 2:44 - 2:48
    วันที่ 11 การทดลองที่ 37
    เวอร์ชั่น 2.0
  • 2:48 - 2:51
    ไม่มีความเห็นดีกว่านี้
    งั้นเตรียมดับไฟหุ่น
  • 2:51 - 2:54
    ถ้าฉันไม่ได้ติดไฟแล้วแกพ่นใส่ฉันนะ
    จะบริจาคให้วัด
  • 2:54 - 2:56
    เรียบร้อยนะ ช้าๆ นิ่มๆ
  • 2:57 - 3:01
    ฉากนี้ทำได้ดีเลย
    ไม่ต้องใช้ดนตรีประกอบด้วย
  • 3:01 - 3:03
    นี่แหละทำไมคุณถึงไม่ได้สนได้ดนตรีเลย
  • 3:03 - 3:07
    เหมือนเป็นเครื่องปรับอากาศในพื้นหลัง
    เมื่อฟังสักพักจะไม่สนใจมันอีกเลย
  • 3:08 - 3:10
    อีกปัญหาหนึ่งก็คือใช้ดนตรีที่คาดเดาได้
  • 3:10 - 3:13
    ดังนั้นสิ่งที่คุณเห็นคือสิ่งที่ได้
  • 3:13 - 3:16
    ถ้าคุณเห็นอะไรสนุกๆ
    คุณจะได้ยินดนตรีสนุกๆ
  • 3:30 - 3:33
    ถ้าคุณเห็นอะไรเศร้าๆ
    คุณจะได้ยินดนตรีเศร้าๆ
  • 3:45 - 3:49
    มันเป็นวิธีเซฟๆในการทำสกอร์หนัง
    เพราะมันให้สิ่งที่คนคาดหวังอยู่แล้ว
  • 3:49 - 3:52
    เพลงก็แค่ทำงานตรงไปตรงมาตามภาพ
  • 3:52 - 3:55
    ถ้าคนในฉากดูกลัว คนก็จะได้ยิน :
  • 4:01 - 4:04
    และนี่ ก็คือเหตุผลที่สองที่ทำให้สกอร์ไม่น่าจดจำ
  • 4:04 - 4:06
    มันไม่ท้าทายความคาดหวังของคนดู
  • 4:07 - 4:11
    แต่บางครั้ง หนังของ Marvel ก็มีเพลงที่โดดเด้งขึ้นมา
  • 4:11 - 4:13
    แค่คนทำหนังเขาไม่อยากให้เราได้ยินมัน
  • 4:13 - 4:16
    พวกเขาจะกลบมันด้วยเสียงอย่างนี้ :
  • 4:21 - 4:24
    [เขาถูกปฏิเสธการเป็นทหารเพราะปัญหาสุขภาพ]
  • 4:24 - 4:30
    [Steven Rogers กลับได้รับเลือกเข้าสู่โปรแกรมสำคัญ
    ในการรบของอเมริกา]
  • 4:30 - 4:36
    [โปรแกรมที่เปลี่ยนเขาให้เป็น
    ทหารที่เหนือใครคนแรกของโลก]
  • 4:38 - 4:40
    บทบรรยายนี้บอกในสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว
  • 4:40 - 4:43
    และเบี่ยงเบนเราจากอารมณ์ของซีน
  • 4:43 - 4:46
    แล้วถ้าเราจะไม่ทำอย่างนั้นล่ะ?
  • 5:14 - 5:15
    คุณรู้สึกถึงความต่างไหม?
  • 5:18 - 5:21
    เพลงประกอบเป็นเรื่องที่พึ่งรสนิยมส่วนบุคคลอย่างมาก
    และยังพึ่งพาเทรนด์ของยุคสมัยด้วย
  • 5:21 - 5:24
    ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
    รสนิยมต่อเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไป
  • 5:24 - 5:28
    ทุกวันนี้ คนทำหนังส่วนใหญ่คิดว่า
    เพลงประกอบควรจะเป็นสิ่งที่คนไม่สังเกตถึง
  • 5:29 - 5:32
    [นั่นเป็นคำพูดที่ผมได้ยินบ่อยมากๆ]
  • 5:32 - 5:34
    ["คนไม่ควรสังเกตมันได้"]
  • 5:34 - 5:37
    [ก็อาจจะใช่ แต่ทำไมเราต้องจำมันไม่ได้ล่ะ?]
  • 5:38 - 5:42
    [ผมเติบโตมากับหนัง Hitchcock และผมจำเพลง
    ที่ Bernard Herrmann ทำได้ทุกโน้ต]
  • 5:42 - 5:47
    [ผมเลยรู้สึกยากที่จะเข้าใจ
    ว่าทำไมมันถึงเป็นเรื่องที่ทุกคนคิด]
  • 5:47 - 5:49
    [ต่อความสัมพันธ์ของเพลงกับหนัง]
  • 5:49 - 5:53
    มีเรื่องสำคัญเรื่องนึงที่เรายังไม่ได้พูดถึง
  • 5:53 - 5:57
    ทุกวันนี้ การทำสกอร์ในอุตสาหกรรมหนัง
    เป็นไปตามขั้นตอนแบบนึง
  • 5:57 - 6:01
    และขั้นตอนนั้น เริ่มต้นจากสิ่งที่เราควรจะถกเถียงกัน
  • 6:02 - 6:08
    [Danny ก่อนหน้านี้คุณเคยบ่นเมื่อมีคนพูดถึงสกอร์ไกด์
    อะไรคือสิ่งดีและไม่ดีของมัน?]
  • 6:08 - 6:12
    [สำหรับผม สกอร์ไกด์คือสิ่งที่ทำลายตัวตนของผม]
  • 6:13 - 6:17
    [หน้าที่ผมคือ การทำให้ผกก.
    ลืมทุกสิ่งที่มาจากสกอร์ไกด์ให้ได้]
  • 6:17 - 6:20
    [ผมจะฟังมันแค่รอบเดียว ไม่มีครั้งที่สอง]
  • 6:20 - 6:24
    [ถ้าผกก.ติดหล่มไปกับมันแล้ว
    คราวนี้ก็เป็นงานยากของผม]
  • 6:25 - 6:26
    ย้อนกลับมาสักนิด :
  • 6:26 - 6:33
    สกอร์ไกด์คือการที่คุณยืมเพลงจากหนังเรื่องอื่นมาใช้ตอนตัด
    มาวางชั่วคราวก่อน แบบนี้:
  • 6:56 - 7:00
    สกอร์ไกด์ ควรจะต้องถูกแทนที่ด้วยสกอร์จริง
    ที่คอมโพเซอร์ทำให้หนังเรื่องนั้นๆ
  • 7:01 - 7:06
    แต่หลายครั้ง ผกก.และโปรดิวเซอร์กลับบอกให้
    คอมโพเซอร์ ลอกมัน
  • 7:35 - 7:39
    เท่าที่รู้ นี่คือครั้งเดียวที่ผมเห็นสตูดิโอ
    ยอมรับและขอโทษเป็นทางการ
  • 7:39 - 7:41
    กับการลอกสกอร์คนอื่น
  • 7:42 - 7:44
    สิ่งนี้แพร่ระบาดไปทั่ววงการ
  • 7:44 - 7:47
    หนังฟอร์มยักษ์ทั้งหลาย ต่างลอกสกอร์กันไปมา
  • 7:47 - 7:50
    ซึ่งมันเลยออกมาเหมือนกันไปหมด
    แค่ทำในแบบที่จะไม่โดนฟ้อง
  • 8:34 - 8:36
    ยิ่งหนัง Marvel ได้รับความนิยม
  • 8:36 - 8:40
    หนังอื่นก็เลยมีสกอร์เหมือนหนัง Marvel ไปหมด
  • 9:08 - 9:12
    ผมอยากจะเน้นว่า
    เราไม่โทษไปที่คอมโพสเซอร์
  • 9:12 - 9:15
    ระบบต่างหากที่ทำให้มันเป็นแบบนี้
  • 9:43 - 9:45
    ก่อนยุคของการใช้สกอร์ไกด์
  • 9:45 - 9:49
    ผกก.มักจะใช้การอ้างอิงเพลงจากหลายๆแหล่ง
    เพื่อทำความเข้าใจกับคนทำเพลง
  • 9:50 - 9:53
    แต่สิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงคือ
    การตัดต่อด้วยคอมพิวเตอร์
  • 9:53 - 9:58
    ซึ่งให้โอกาสผกก.วางเพลงที่ชอบตั้งแต่ช่วงตัดต่อ
  • 10:02 - 10:06
    และผกก.ก็จะจิ้มไปที่ไกด์และบอกให้
    "ทำตามนี้แหละ"
  • 10:06 - 10:09
    มันอาจไม่ใช่ว่าเพลงนั้นดีที่สุด
  • 10:09 - 10:11
    แต่เป็นเพราะพวกเขา คุ้นกับมันที่สุดตะหาก
  • 10:11 - 10:14
    [ในตอนทำโพสท์ มันมีหลายครั้งที่เราทำอะไรวนไปวนมา]
  • 10:14 - 10:18
    [เปลี่ยนไอเดียกันไปมา มีความคิดใหม่ๆ เวอร์ชั่นใหม่ๆ]
  • 10:18 - 10:21
    [แต่สุดท้ายเราก็ต้องใช้เพลงเดิม
    เพราะเพลงมันเหมือนติดอยู่กับภาพไปแล้ว]
  • 10:21 - 10:25
    [เขาอาจจะต้องทำงานกันสักปีก่อนคุณจะเข้ามาทำนะ]
  • 10:25 - 10:31
    [ยังไงก็ตาม พอเราลองเอาเพลงพวกนั้นออก
    กลายเป็นว่าคัตติ้งหนังมันไม่ดีไปซะงั้น]
  • 10:31 - 10:34
    [เพราะเขาตัดหนังไปกับ...
    เฮ้อ! มันน่าหงุดหงิด]
  • 10:35 - 10:38
    ส่วนนึงของความน่าหงุดหงิด
    มาจากการใช้ซ้ำของคนทำงาน
  • 10:38 - 10:42
    ของที่ใช้ไปแล้วกับหนังเรื่องอื่น
    ซึ่งมันทำให้งานเราจบลงกับสิ่งที่น่าเบื่อที่สุด
  • 10:42 - 10:44
    จำนี่ได้ไหม?
  • 10:48 - 10:49
    งั้นลองสิ่งที่ต่างออกไปดู
  • 10:51 - 10:54
    ตอนต้นของหนังเรื่องนี้
    Thor เกลี้ยกล่อมเพื่อนๆให้ทำสิ่งผิดกฏหมาย
  • 10:54 - 10:55
    แล้วเขาก็ถูกแบน
  • 10:56 - 10:59
    พอช่วงนี้ของหนัง พวกเพื่อนก็ทำสิ่งผิดกฏหมาย
    เพื่อตามหาเขา
  • 10:59 - 11:01
    เขาไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ
    แต่พวกนั้นเต็มใจทำเอง
  • 11:01 - 11:05
    ถ้าเรารู้สึกถึงสิ่งนี้ได้จากเพลงล่ะ?
  • 11:21 - 11:26
    ผมไม่ได้บอกว่านี่คือสิ่งที่ถูกที่สุดนะ
    แต่ก็น่าลองแล้วกัน
  • 11:26 - 11:28
    เพราะมันทำให้ความรู้สึกของซีนอิ่มขึ้น
  • 11:29 - 11:31
    และทุกสิ่งที่ว่ามา มีให้เห็นในหนัง Marvel :
  • 11:31 - 11:37
    เสียงแบคกราวด์ เพลงตามภาพ ใส่เสียงบรรยาย
    แม้แต่สกอร์ไกด์
  • 11:38 - 11:42
    ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความต้องการเดียว :
    ทำทุกอย่างแบบปลอดภัย
  • 11:44 - 11:48
    เพลงนี้ไม่ได้แย่ตรงไหน แค่มันจืดและไร้รสนิยม
  • 11:49 - 11:53
    และเพราะ Marvel เลือกที่จะแลกความอิ่มของอารมณ์
    ไปกับการสร้างเซฟโซน
  • 11:53 - 11:55
    ผลลัพท์จึงเป็นแบบนี้
  • 12:03 - 12:07
    [โอ้ มาร์เวล?]
    [เอ่อ ไม่อะ]
  • 12:11 - 12:14
    แล้วอะไรที่ขาดหายไปในเพลงหนัง Marvel
    ความเสี่ยงไง
  • 12:16 - 12:21
    ความเสี่ยงที่จะสร้างความลึกทางอารมณ์กับคนดู
    ที่จะทำให้เขาจดจำเพลงในหนังได้
  • 12:22 - 12:25
    คนดู จะไม่จำอะไรเซฟๆ
  • 12:25 - 12:28
    คนจะจำเพลงที่แข็งแรงและเป็นตัวของตัวเอง
  • 12:33 - 12:38
    แต่เรายังเจอสิ่งที่ Marvel ทำให้คนดู
    เกิดปฏิกิริยาแบบนี้ได้
  • 12:41 - 12:45
    [Spiderman ! Spiderman ! Friendly
    neighborhood Spiderman !]
  • 12:45 - 12:51
    [Spins web any size, catch thieves, just like flies.
    Look out ! Here comes Spider-man!]
  • 12:53 - 12:57
    [Is he strong?
    Listen bud, he's got radioactive blood.]
  • 12:57 - 13:01
    [Can he swing from a thread
    Take a look overhead.]
  • 13:01 - 13:04
    [Hey there
    There goes the Spiderman.]
  • 13:05 - 13:09
    [In the chill of night
    At the scene of a crime]
  • 13:09 - 13:13
    [Like a streak of light
    He arrives just in time]
  • 13:14 - 13:21
    [Spiderman, Spiderman, Friendly neighborhood Spiderman,
    Wealth and fame, He's ignored, Action is his reward]
  • 13:21 - 13:29
    [To him, life is a great big bang up.
    Wherever there's a hang up, You'll find the Spider man]
  • 13:32 - 13:34
    นั่นมันน่าเหลือเชื่อจริงๆ! ขอบคุณมากครับ!
Title:
The Marvel Symphonic Universe
Description:

more » « less
Video Language:
English
Duration:
13:35

Thai subtitles

Revisions