-
สวัสดีค่ะ
-
วิวจาก Channel Point of view ค่ะ
-
กลับมาอีกครั้งนะคะกับซีรีส์รามเกียรติ์
-
ทุกวันพุธเช่นเดิมเลยค่ะ
-
ซึ่งตอนนี้นะคะ
-
แน่นอนว่าเป็นกำเนิดของตัวละคร
-
ที่สำคัญอีกตัวหนึ่งในเรื่องนะคะ
-
เรายังวนเวียนอยู่กับพวกกำเนิดละครต่างๆนะ
-
เพราะว่าเรื่องราวทั้งหมดเพิ่งจะเริ่มขึ้นนั่นเอง
-
ดังนั้นอย่าถามนะ ว่าเมื่อไหร่จะจบ
-
จากชื่อวีดีโอข้างล่างเนี่ย ตอนนี้คงเห็นกันแล้วใช่ไหมคะ
-
ว่าเป็นตอนกำเนิดองคต
-
ซึ่งเป็นทหารลิงตัวสำคัญตัวหนึ่งของพระรามเลยนะคะ
-
รับประกันเลยนะคะว่า
-
การเกิดขององคตเนี่ย เป็นการเกิดที่วายป่วงพอสมควร
-
แล้วก็ แซ่บ ดราม่า
-
เพราะว่าการเกิดนี้นะคะ
-
เป็นหนึ่งในการเกิดที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น
-
1 ในการเกิดที่อนาถที่สุดในวรรณคดีไทยคะ
-
จากหนังสือวรรณคดีไทยไดเจสต์ เล่มนี้เอง
-
ซึ่งวิวเขียนเองนะคะ อย่าลืมไปอุดหนุนกันได้ ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
-
หรือว่าใครหาไม่เจอ เพราะมันหาค่อนข้างยาก
-
ขาดตลาดพอสมควร ซื้อได้ทาง link ด้านล่างเลยค่ะ
-
จบการขายของอย่างรวดเร็ว ได้เวลาที่จะเข้าสู่เนื้อเรื่องแล้วค่ะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลย
-
มัวแต่ขายหนังสือตัวเองลืมบอกนะคะ ว่ากำเนิดองคต
-
เวอร์ชั่นที่เราจะนำมาจากเล่มเดิมค่ะ
-
ก็คือ บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นะคะ
-
ปกติเวลาเราจะพูดถึงกำเนินของตัวละครสักตัวหนึ่งเนี่ย
-
เรามักจะเริ่มจากพ่อแล้วก็แม่ ใช่ไหมค่ะ
-
แต่เราน่าจะฟังมาจากตอนก่อนๆ แล้วว่า
-
ตัวละครในรามเกียรติ์เนี่ย
-
เรามักจะไม่ค่อยพูดถึงพ่อกับแม่เป็นหลัก
-
เรื่องราวกำเนิดขององคตนี้ค่ะ
-
เริ่มต้นที่ยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่าวิรุฬหก
-
วิรุฬหกนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ขององคตแต่อย่างใดนะคะ
-
เป็นยักษ์ตนหนึ่งที่มีฤทธิ์มาก
-
อาศัยอยู่ในเมืองบาดาล และเป็นสาวกที่ซื่อสัตย์ของพระอิศวรนะคะ
-
ในแต่ละปีนะคะ วิรุฬหกก็จะขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรถึง 7 ครั้งด้วยกันค่ะ
-
ก็เรียกได้ว่าไปบ่อยๆ ว่างั้นเถอะ
-
วันหนึ่งถึงกำหนดที่วิรุฬหก
-
จะต้องขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรที่เขาไกรลาสคะ
-
วิรุฬหกก็แต่งองค์ทรงเครื่อง แต่งตัวสวยงาม เดินทางไปที่เขาไกรลาส
-
ปกติเวลาไปที่เขาไกรลาสเนี่ย
-
นึกสภาพสภาพว่าเป็นภูเขา ใช่ไหม
-
มีบันใด บันใด บันใด บันใด
-
ที่นนทกเคยล้างเท้าคนอยู่ตรงนั้นแหละ
-
ส่วนด้านบนเนี่ยก็จะเป็น
-
ที่อยู่ของพระอิศวรอยู่ด้านบนใช่ไหม ปกติพระอิศวรก็จะเปิดบ้าน เหมือนห้องรับแขก
-
แล้วตัวเองก็นั่งอยู่ตรงนั้น ให้ใครที่อยากมาเยี่ยม
-
ก็เข้ามาเฝ้า เข้ามาเฝ้า
-
วันนั้นค่ะ วิรุฬหกก็เดินตามบันใดขึ้นไป ตามปกติ
-
กะว่าจะไปเฝ้าพระอิศวร
-
เข้าใจว่าพระอิศวรเนี่ย ออกจากห้องนอนด้านหลังละ
-
ออกมานั่งตรงที่ห้องรับแขกเรียบร้อย
-
ด้วยความที่เป็นยักษ์ที่เคารพพระอิศวรมากนะคะ
-
วิรุฬหกก็เลยเดินขึ้นไป
-
แบบสงบเสงี่ยม เจี๋ยมเจี้ยม นอบน้อมสุดขีด
-
ประมาณว่าหมอบคลานขึ้นไป
-
อารมณ์ว่าแบบก้าวขึ้นบันใด หนึ่งขั้น
-
ก็ขอเคารพพระอิศวรหนึ่งที
-
ก้าวขึ้นบันใดหนึ่งขั้นก็ขอเคารพพระอิศวรอีกหนึ่งที
-
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ตีนเขา ขึ้นไปจนจะถึงยอดเขานะคะ
-
บังเอิญว่าวันนั้นค่ะ พระอิศวร
-
ยังนอนอยู่ ยังไม่ได้ออกมาห้องรับแขก ยังนอนอยู่ในห้องนอน
-
วิรุฬหกก็เหมือนคำนับลมไปเรื่อยๆ คำนับอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไร
-
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้นะคะจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
-
ถ้าไม่มีตุ๊กแกอยู่ตัวหนึ่งเนี่ย เกาะอยู่ตรงริมเขาไกลลาสนะ
-
ตุ๊กแกตัวนี้ก็เกาะอยู่แล้วก็มองแล้ว ก็แบบ หื้อ
-
วิรุฬหกมันคำนับใครวะ
-
คำนับใครอะ คำนับใคร พระอิศวรก็ไม่อยู่
-
ตุ๊กแกไม่รู้จะร้องยังไง ก็เลยร้อง
-
ตุ๊กแก!
-
พอวิรุฬหกคำนับอีกทีหนึ่ง ตุ๊กแก ก็ ตุ๊กแก! ก็แบบ คำนับ ตุ๊กแก!
-
ไปสักพัก วิรุฬหกโดนแบบนั้นไปสักพักหนึ่ง
-
ก็เริ่มรู้ตัวแล้วแหละ ว่าแบบ อะไร นี่ตุ๊กแกมันร้องเป็นจังหวะเกินไปละ
-
ทำไมต้องเป็นจังหวะตรงกับที่ฉันคำนับทุกทีเลย
-
นี่ให้จังหวะฉันรึเปล่า
-
ก็เลยมองขึ้นไปบนเขาไกรลาสค่ะ
-
ปรากฏว่ามองขึ้นไป อ่าว พระอิศวรก็ไม่อยู่
-
นี่ฉันคำนับอะไรก็ไม่รู้
-
อีตุ๊กแก แก นี่แกล้อเลียนฉันใช่ไหม
-
โกรธ โกรธแล้วนะ
-
ด้วยความโมโห วิรุฬหกไม่รู้จะทำอะไร
-
ก็เลยหยิบสังวาลย์ของตัวเอง
-
สังวาลย์นี่คือสร้อยที่ห้อยๆ พาดๆ อยู่นะ
-
ก็เลยหยิบสังวาลย์ของตัวเอง ซึ่งเป็นสังวาลย์นาค ทำจากพญานาคอะนะ
-
เขวี้ยงใส่ตุ๊กแกเต็มแรงประมาณว่าแบบแกตายซะ
-
นะคะ
-
เขวี้ยงไป แน่นอนตุ๊กแกไม่เหลือซาก
-
ตาย แบนติดเขาไกรลาส
-
แต่ด้วยความที่วิรุฬหกมีฤทธิ์มาก มีฤทธิ์แบบมากๆ อะนะ
-
ไม่ใช่แค่ตุ๊กแกที่ตาย ไอ่สังวาลย์เนี่ยชนเขาไกรลาส
-
แล้วเขาไกรลาสก็เอียงตามแรงไปเลย
-
สรุปก็คือภูเขาเอียงอีกแล้วนะคะ
-
ว่าแล้ว วิรุฬหกก็อารมณ์เสีย
-
สะบัดก้นกลับบ้านไปเลย แล้วก็หายไปจากเรื่องนี้
-
ไม่ได้มีบทบาทอะไรไปอีกนานนะคะ
-
เหลือไว้แต่ปัญหาที่ตัวเองสร้าง คือเขาไกรลาสเนี่ยเอียง
-
ตัดฉากมาที่พระอิศวรนะคะ กำลังนอนอย่างมีความสุขอยู่ในบ้าน
-
ก็กำลังนอน นอนอยู่
-
อยู่ดีๆ ก็มีอะไรก็ไม่รู้เขย่าบ้าน
-
แบบแรงมาก แล้วบ้านก็เอียงนะคะ
-
พระอิศวรตื่นมาก็เลยแบบ
-
เกิดอะไรขึ้น ไหนๆๆ อะไม่เป็นไร เรามีฌาน
-
พระอิศวรก็เลยนั่งสมาธิสอดส่องฌาณ ดูนู่นนี่นั่น
-
แล้วก็พบว่า อ่อ วิรุฬหกเนี่ย เอาสังวาลย์ปาตุ๊กแกใช่ไหม
-
แย่ละ เดี๋ยวฉันตั้งหาทางทำให้
-
เขาไกรลาสเนี่ย ตั้งตรงกลับมาเหมือนเดิม
-
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าทำไม พระอิศวรถึงไม่เอาขึ้นมาด้วยตัวเอง
-
ทั้งที่ตัวเองก็มีฤทธิ์ค่อนข้างมากนะ
-
พระอิศวรก็เลยป่าวประกาศออกไปหาทุกคนนะคะ บอกว่า
-
อะ สวัสดีทุกคน ใครสามารถ
-
เอาเขาไกรลาสกลับมาตั้งตรงเหมือนเดิมได้ ข้าจะมีรางวัลให้
-
อยากขออะไรขอมาเลย
-
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าทำไมพระอิศวรถึงจำ
-
คราวเขาพระสุเมรุไม่ได้
-
จริงๆ ถ้าเกิดไปเรียกพาลีกับสุครีพกลับมาดึงแบบเดิม อาจจะดึงขึ้นก็ได้นะ
-
แต่พรอิศวรคราวนี้ไม่ค่ะ ก็ป่าวประกาศไปทั่วๆ
-
เหล่าเทวดานางฟ้าต่างๆ ก็พยายามมาฉุดกระฉากลากถูเขาไกลลาส
-
ให้กลับมาเหมือนเดิม ฉุดยังไงก็ฉุดไม่สำเร็จคะ ยังไงก็ไม่ขึ้น
-
สุดท้ายนะคะ พระอิศวรก็เลยคิดว่าแบบ
-
เออ จะว่าไปที่เมืองลงกาเนี่ย ก็มี
-
ลูกของท้าวลัสเตียนอยู่ ท้าวลัสเตียนเนี่ยเป็นคนที่มีฤทธิ์มาก
-
แถมลูกเนี่ยนะ มีตั้งสิบหน้ายี่สิบมือ
-
น่าจะมีแรงมากๆ เลยแหละ เรียนวิชาอะไรมาก็เยอะ
-
เออ ไปเรียกมันมาดีว่า ว่าแล้วนะคะพระอิศวรก็เรียกเทวดา
-
นางฟ้าแถวนั่น อะ อะ ไปตามทศกัณฐ์มาซิ
-
ไปตามมาจากเมืองลงกาเลย เอามา บอกว่าข้าเรียก
-
แน่นอนว่าทศกัณฐ์ พอรู้ว่าพระอิศวรเรียกก็จะต้องรีบ
-
ตาลีตาเหลือกขึ้นมาบนสวรรณ์นะคะ ด้วยความที่
-
ทศกัณฐ์เป็นคนที่เคารพพระอิศวรมากนะ พอมาถึง
-
พระอิศวรก็บอกว่า ทศกัณฐ์บ้านข้าเอียงเนี่ย
-
ดันขึ้นมาให้เหมือนเดิมหน่อย
-
สำหรับทศกันฐ์นะคะ การดันเขาไกรลาสขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรค่ะ
-
ทศกัณฐ์ก็แค่แปลงร่างให้ตัวเองใหญ่มาก สูงเท่าภูเขา
-
แล้วก็ยืนอยู่ข้างภูเขา เอามือตัวเอง ยี่สิบมือเนี่ย จับภูเขาแล้วก็ดัน
-
กลับขึ้นไปที่เดิมนะคะ
-
พอดันเสร็จ ด้วยความที่ทศกัณฐ์เป็นคนที่
-
แบบว่า ไม่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนใดๆ
-
พระอิศวรบอกขออะไรก็ได้ ฉันก็ขออะไรก็ได้
-
ทำความดีความชอบระดับนี้คิดว่าทศกัณฐ์อยากได้อะไรคะ
-
แทนที่จะอยากได้อะไรดีๆ ด้วยนะ ทศกัณฐ์รู้สึกว่าแบบ
-
สิ่งที่ฉันอยากได้ที่สุดคือ เมีย!
-
คือ มีนางอัคคีอยู่ในเมืองแล้ว ไม่พอ สวยไม่พอ อยากได้เมียสวยๆ
-
แล้วถามว่าผู้หญิงคนไหนสวยอันดับต้นๆ ของโลก
-
เมียพระอิศวร พระอุมา นั่นเอง
-
ทศกัณฐ์ก็เลยบอกว่า เออ พระอิศวรครับ
-
ในเมื่อท่านบอกว่าขออะไรก็ได้บนโลกใบนี้น่ะนะ
-
ข้าขอพระอุมาไปเป็นเมียข้าละกัน
-
ถามว่าพระอิศวรช็อคไหม ช็อค โกรธไหม ไม่รู้ แต่ว่า
-
พระอิศวรรู้ว่าต่อให้ทศกัณฐ์ได้พระอุมาไป
-
ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะพระอุมานี่ถือว่าเป็นพระมารดาแห่งโลก
-
แค่จะแตะตัวยังแตะไม่ได้เลยว่างั้นเถอะ
-
พระอิศวรก็เลยบอกว่า อะ อะ อะ อยากได้ก็เอาไปละกัน
-
ข้าให้เจ้า
-
ไม่มีใครไปถามพระอุมานะ ว่าจริงๆ พระอุมารู้สึกยังไง
-
พระอุมาอาจจะโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ
-
หรือจะกลายเป็นพระแม่กาลี
-
อยู่ตรงนั้นแล้วก็ได้นะ
-
แต่ว่าสุดท้ายแล้วนะคะ
-
ทศกัณฐ์ก็ได้พระอุมาไปค่ะ
-
ปกติได้สาวงามมา
-
ก็จะต้องช้อนตัวอุ้ม แล้วก็เหาะกลับเมืองใช่ไหม
-
แต่คราวนี้ทศกัณฐ์ไม่สามารถทำได้
-
เพราะแค่เข้าไปใกล้ๆ จะช้อนอุ้ม ก็แบบ
-
ร้อน โอ้ย ร้อนจังเลย
-
ไม่โอเคทำยังไงดี ไม่ได้ๆ
-
สุดท้ายนะคะ
-
ด้วยความที่พระอุมาเป็นของสูงค่ะ ทศกัณฐ์ทำอะไรไม่ได้
-
ก็เลยได้แต่ช้อนเท้าพระอุมาเนี่ย
-
เอาไว้เหนือหัวตัวเอง แล้วกก็เหาะกลับเมืองไป
-
เหาะไปครึ่งทาง ร้อนก็ร้อน เพราะว่าจับเท้าพระอุมายังร้อนเลย
-
แถมแดดก็เผา นู่นนี่นั้น
-
สุดท้ายทศกัณฐ์
-
ทำอะไรไม่ได้นะคะ ก็เลยพาพระอุมาลงไปเดินที่พื้นค่ะ
-
แน่นอนว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าไปนะคะ
-
เหล่าเทวดานางฟ้า
-
ก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องนะ เฮ้ย ที่ทศกัณฐ์เนี่ย
-
ขอพระอุมาไป ทำยังไงนะ
-
ใครจะมาแก้ปัญหาใก้เราดี
-
คิดว่าใครจะเป็นคนมาแก้ปัญหาให้พระอิศวรคะ
-
แนะนอนนะคะ เหล่าเทวดา นางฟ้า ก็เลยวิ่งไปฟ้อง
-
พระนารายณ์ ค่ะ
-
ซึ่งพระนารายณ์เนี่ยก็บอกว่า อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ทศกัณฐ์มันเอาไป
-
ก็ทำอะไร ไม่ได้ มา มา เดี๋ยวเราจัดการให้เอง
-
ว่าแล้วค่ะ พระนารายณ์ก็แปลงร่างนะคะ
-
เป็นยักษ์แก่ น่าเกลียดอยู่ตนหนึ่งนะ
-
แล้วก็ลงไปดักรอทศกัณฐ์
-
ตรงทางที่จะเข้ากรุงลงกา
-
ไปถึงก็ปลูกต้นไม้ก่อน ไม่ใช่รักธรรมชาตินะ เป็นอุบาย
-
คือเอาต้นไม้มาต้นหนึ่ง เสร็จแล้วก็แทนที่จะปลูก
-
แบบปกติเนี่ย ก็กลับหัวลงเอารากชี้ขึ้นฟ้า
-
เอายอดเนี่ย ปักลงดิน แล้วก็รดน้ำพรวนดิน
-
อย่างมีความสุข แกล้งทำเป็นคนบ้าไปเรื่อยๆ
-
ฝ่ายทศกัณฐ์นะคะ พาพระอุมาเดินผ่านมา
-
อุ้ย ไอ้ยักษ์แก่น่าเกลียด ทำอะไรโง่ๆ
-
ปลูกต้นไม้แบบนี้มันจะไปขึ้นได้ยังไง
-
ด้วยความที่เป็นพระราชานะ
-
เหมือนแบบใส่ใจเรื่องของชาวบ้านชาวช่อง
-
เขาไปทั่วอะนะ
-
ฝั่งพระนารายณ์ที่ปลอมตัวมานะคะ
-
ก็แกล้งทำเป็นบ้าค่ะ
-
ก็หัวเราะ
-
ใครว่าข้าโง่ คนโง่น่ะ ท่านต่างหาก
-
ไม่เคยเห็นใครโง่ขนาดนี้มาก่อนเลยนะ
-
ทศกัณฐ์ได้ยินอย่างนี้ก็ เอ๊ะ
-
ก็แบบ ห่ะ ปกติในแถวกรุงลงกาไม่มีใครกล้าด่าฉันนะ
-
แกเป็นใครมาจากไหนแกด่าฉันทำไม
-
ไหนฉันโง่ยังไงบอกมาซิ ฉันโง่ยังไง
-
พระนารายณ์ก้เลยบอกว่า โอ้ย จะไม่ให้ว่าโง่ได้ยังไง เนี่ย!
-
ไปขอสาวมาแทนที่จะขอสาวที่ดีๆมา
-
ขอสาวที่เป็นกาลากิณีมา
-
แตะตัวยังไม่ได้เลย พาเข้าเมือง ไม่คิดว่าเมือง
-
มันจะวอดวายไปทั้งเมืองเลยเหรอ แทนที่จะไปขอสาวดีๆ มา
-
เนี่ย ที่บนสวรรค์มีสาวคนหนึ่ง ชือว่านางมณโฑ
-
สวยมาก แล้วก็เป็นข้ารับใช้ของพระอุมา
-
ถ้าเกิดไปได้คนนั้นมา น่าจะชีวิตคงจะดีกว่านี้นะ
-
พอทศกัณฐ์ได้ยินอย่างนั้นก็เลยบอกว่า เอ่อ เป็นความคิดที่ดี
-
ว่าแล้วก็เอาพระอุมา กลับไปคืนพระอิศวรเหมือนเดิมค่ะ
-
แล้วก็ขอเปลี่ยนเป็นนางมณโฑมา
-
เรื่องราวก็ควรจะจบแบบแฮปปี้
-
แต่! มันยังไม่จบ เพราะว่า
-
เราบอกว่าตอนนี้คือตอนกำเนินองคต องคตยังไม่เกิดเลย
-
คือทศกัณฐ์เนี่ย พอได้นางมณโฑมา
-
ด้วยความดีใจนะคะ ก็อุ้มนางมณโฑค่ะ คราวนี้อุ้มได้แล้วใช่ไหม
-
เหาะกลับเมืองอย่างมีความสุข ระหว่างที่เหาะกลับมา ก็แบบ
-
หยอกล้อกับนางมณโฑมาตลอดทาง
-
เหาะไปหอมแก้ม
-
นู่นนี่นั่น เพลินไปเรื่อยนะคะ ปรากฎว่าทศกัณฐ์ค่ะ
-
เหาะผ่านน่านฟ้าของเมืองขีดขิน
-
เมืองขีดขิตคือเมืองของพาลีกับสุครีพ จำได้ใช่ไหม
-
พาลีเนี่ยกำลังว่าราชการอยู่อย่างมีความสุข
-
ก็ อ่าว วันนี้เสนาบดีคนนี้ทำหน้าที่นั้น ทำหน้าที่นี้
-
เงยหน้าขึ้นไปนอกหน้าต่าง
-
เฮ้ย! ไอ่ทศกัณฐ์ ไอ่ยักษ์ยี่สิบมือแกกล้าดียังไง
-
อุ้มผู้หญิงข้าวหัวฉันไปเนี่ย นี่มันหยามกันชัดๆ
-
พาลีเห็นยังงั้น โกรธมากนะคะ เหาะออกจากหน้าต่างค่ะ
-
ขึ้นไป แล้วก็ไปชี้หน้าด่าทศกัณฐ์เลย บอกว่า
-
แก ไอ้ ไอ้ ไอ้ยักษ์ยี่สิบมือ
-
แกกล้าดียังไงมาเหาะข้ามหัวฉัน
-
ทศกัณฐ์ก็แบบ
-
แก ไอ้ลิงเขียว แกกล้าดียังไงมาว่าฉันเหาะข้ามหัวเเก
-
นี่มันอากาศท้องฟ้าธรรมดา นี่มันไม่มีเขต
-
น่างฟง น่างฟ้า อะไร
-
เหมือนเครื่องบินซะหน่อย จะได้บินผ่านไม่ได้
-
แล้ว ถ้าแกมาด่าฉันว่าฉันเหาะข้ามหัวแก
-
นี่แกไม่ออกมาหาเรื่องนกที่บินข้ามหัวแกเลยรึไง
-
บนฟ้ามันก็มีอะไรบินตั้งเยอะ ทำไมแกต้องมาหาเรื่องฉันด้วย
-
พอได้ยินแบบนั้นนะคะ พาลีก็แบบ โกรธ!
-
โกรธด้วย ประกอบกับกันไปเห็นนางมณโฑ
-
ที่ทศกัณฐ์อุ้มอยู่เนี่ย สวยด้วย
-
พาลีก็เลยหาเรื่องกันเต็มที่ค่ะ
-
สองฝั่งก็เลยเกิดการสู้กันขึ้น
-
ก็สู้ไป สู้ สู้ สู้ สู้
-
แน่นอนว่าพาลีได้รับพรจากพระอิศวรใช่ไหม
-
ว่าใครมาสู้ด้วยเนี่ย ขอให้พลังลดลงครึ่งหนึ่งแล้วมาเพิ่มให้พาลี
-
ดังนั้น พาลีก็เลยชนะแบบง่ายดายนะคะ
-
ทศกัณฐ์พ่ายแพ้อย่างหนักหน่วง
-
แล้วก็โดนชิงนางมณโฑไปค่ะ
-
ทศกัณฐ์เห็นท่าไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ได้ สู้ก็ไม่ได้
-
ไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยหนีกลับเมืองไปเลยนะคะ
-
กลับไปถึงก็ไปนั่งเครียดร้องไห้ฟูมฟาย
-
เหมือนคนจะเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ที่เมืองค่ะ
-
ฝั่งพาลีเนี่ย ได้นางมณโฑมา แน่นอนว่า
-
ก็ต้องมีการ จีบนางมณโฑ
-
แล้วก็จัดการนางมณโฑ เสร็จสรรพ
-
ให้นางมณโฑ อยู่ในเมืองในฐานะมเหสีนะ
-
จนกระทั่งนางมณโฑเนี่ยท้อง
-
ได้แบบครึ่งปี อะไรประมาณนี้
-
ฝั่งทศกัณฐ์นั่งซึมเศร้าอยู่ที่เมืองค่ะ
-
ก็อาละวาด นู่นนี่นั่น ใครเข้าหน้าไม่ติดสักคน
-
สนม กำนัน เดินเข้าพยายามจะมาดูแล นึกออกป่ะ
-
ผู้หญิงก็พยายามจะมาดูแล ทศกัณฐ์ก็แบบหงุดหงิด
-
ไม่เห็นมีใครสวยเท่านางมณโฑของฉันเลย
-
ออกไปให้หมด ใครมาคุยด้วยก็ไม่สนใจ
-
ใครพาผู้หญิงคนอื่นมาให้ก็แบบ นี่แกจะมาล้อฉันใช่ไหม ว่าฉัน
-
เสียนางมณโฑไปแล้วอะ
-
เอาอะไรมาให้ฉัน ไม่ ไม่ ไม่
-
เหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้าเนาะ
-
กุมภกรรณกับพิเภกค่ะ ด้วยความเป็นห่วงไม่รู้จะทำยังไง
-
ก็เลยคิดว่าต้องมีใครสักคน
-
เข้าไปคุยกันทศกัณฐ์ให้ได้
-
ก็เลยไปบอกพระฤาษีโคบุตร ที่เป็นอาจารย์ของทศกัณฐ์ค่ะ
-
บอกว่า เข้ามาดูทศกัณฐ์หน่อย
-
พอพระฤาษีโคบุตรเข้ามานะคะ ก็ถามทศกัณฐ์ว่าแบบ
-
อ่าว ทศกัณฐ์เป็นอะไรลูก
-
ไหนเล่าให้อาจารย์ฟังซิ
-
พอพระอาจารย์มานะคะ ทศกัณฐ์ก็เลยตัดสินใจเปิดปากเล่าค่ะ
-
ว่าแบบ
-
เนี่ย ไปได้เมียมาคนหนึ่ง
-
โดนพาลีแย่ง ทำไงดีอาจารย์ นู่นนี่นั่น
-
พระฤาษีโคบุตรก็เลยบอกว่าไม่เห็นยากเลย
-
เนี่ย ข้าเป็นอาจารย์เจ้า เจ้าฟังข้าใช่ไหม
-
พาลีก็มีอาจารย์เหมือนกัน พาลีก็ฟังอาจารย์เหมือนกัน
-
ไปหาพระฤาษีอังคตสิ พระฤาษีอังคตเนี่ย
-
เป็นอาจารย์ของพาลีนะ พูดอะไรพาลีเชื่อหมด
-
ทศกัณฐ์ก็เลยตัดสินใจออกจากเมืองไปค่ะ
-
แล้วก็ไปร้องห่มร้องไห้ กอดขาพระฤาษีอังคตไว้
-
พระฤาษีอังคตก็แบบ
-
ห่ะ! ยักษ์ทศกัณฐ์
-
มาเกาะแข้ง เกาะขาฉันทำไม ไหนมีเรื่องอะไรเล่าให้ฟังซิ
-
ทศกัณฐ์ก็เลยร้องไห้ฟูมฟาย เล่าให้พระฤาษีอังคตฟังนะ
-
ว่าแบบ
-
เนี่ย ข้าอุสาห์ไปทำความดีความชอบกับพระอิศวรมา
-
จนพระอิศวรให้นางมณโฑมา ลูกศิษย์ท่านน่ะ มาแย่งของข้า
-
แล้วข้าก็สู้ไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงนะคะ
-
สุดท้ายพระฤาษีอังคตก็เลยบอก เออ เดี๋ยวข้าไปขอคืนให้นะ
-
แล้วพระฤาษีอังคตก็เข้าเมืองไปค่ะ
-
ไปบอกพาลีว่า เออ พาลี
-
ขอเมียคืนให้ทศกัณฐ์ด้วย เข้าใจไหม
-
ไปแย่งเขามายังงี้ได้ยังไงน่ะ ห่ะ
-
รู้ไหมว่าพระอิศวรประทานให้เขา
-
เป็นของเขา ไปแย่งเขามาไม่ได้
-
ตอนแรกนะคะ พาลีก็ไม่อยากคืนแต่ไม่รู้จะขัดอาจารย์ยังไง
-
ก็เลยบอกประมาณว่า
-
ก็อยากคืนอะนะ แต่คืนไม่ได้ คือตอนนี้นางมณโฑท้องอยู่
-
ถ้าเกิดคืนไปเดี๋ยวลูกจะไปอยู่ในเมืองยักษ์
-
เดี๋ยววุ่นวาย นู่นนี่นั่น
-
พระฤาษีบอก ไม่ใช่ปัญหา
-
นี่ไม่ใช่ประเด็น มีลูกใช่ไหม ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าผ่าออกให้
-
เอาไปอุ้มบุญไว้ที่อื่นก่อน แล้วเดี๋ยว
-
คลอดออกมาก็เป็นลูกเจ้าไง ส่วนนางมณโฑก็คืนทศกัณฐ์ไป
-
พาลีก็เลยไม่รู้จะทำไงนะคะ จำใจจะต้องไปเรียกนางมณโทฑออกมา
-
พอนางมณโฑมาถึงนะคะ พาลีก็เล่าให้ฟัง บอกว่า
-
เนี่ย อาจารย์ข้า พระฤาษีอังคต
-
มาบอกว่าจะเจ้าส่งกลับคืนทศกัณฐ์แล้วนะ
-
คือ ส่วนลูกเนี่ย เดี๋ยวดูแลให้ อะไรอย่างงี้
-
นางมณโฑได้ยินอย่างนั่นก็ตกใจมานะคะ แบบ
-
ห่ะ! นี่จะให้ฉันมาสองผัวเหรอ
-
ก็ร้องไห้ฟูมฟาย ร้อง ร้อง ร้อง
-
ร้องจนกระทั่งตัวเองเนี่ยสลบไป
-
ฝั่งพระฤาษีอังคต เห็นนางมณโฑสลบ
-
อ่าว! ดีเลย ประหยัด ไม่ต้องใช้ยาสลบเลย
-
สลบแล้วใช่ไหม งั้นข้าผ่าท้องเลยละกันนะพาลี
-
พระฤาษีอังคตนะคะก็เลยผ่าท้องนางมณโฑค่ะ อุ้มลูกออกมา
-
แล้วเอาลูกไปใส่ไว้ในท้องแพะตัวเมีย ตัวหนึ่ง
-
ฝั่งนางมณโฑนี่ก็ปิดแผลอะไรให้เรียบร้อย เสกคาถา ฟิ้ง!
-
ท้องเรียบเหมือนเดิมปกติ แล้วก็เอาไปส่งคืนให้ทศกัณฐ์ค่ะ
-
แน่นอนว่าหลังจากที่แพะเนี่ยตั้งท้อง
-
จนครบกำหนดคลอด อะไรแล้ว
-
พระฤาษีก็กลับมาผ่าท้องแพะให้
-
แล้วเด็กที่คลอดออกมาจากแพะนั่น
-
ก็คือองคตที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั่นเองค่ะ
-
ซึ่งทำให้วิวสังเกตได้ว่าคลิปในวันนี้ก็ยาวพอสมควรแล้ว
-
ควรจะตัดไปขึ้นตอนใหม่คลิปหน้าแล้วกันค่ะ
-
ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะก็อย่าลืม กด like เป็นกำลังใจให้วิว
-
กด share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกัน
-
แล้วก็อย่าลืมกด subscribe เพื่อที่จะไม่พลาดวิดีโอใหม่ๆ นะคะ
-
subscribe ไปแล้วอย่ากดปุ่มกระดิ่งด้วยนะ มันจะได้แจ้งเตือนทุกครั้งที่ออกคลิปใหม่ค่ะ
-
จำตอนต้นที่โฆษณาวรรณคดีไทยไดเจสต์ไปได้ไหม
-
อย่าลืมซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
-
หรือว่า link ด้านล่างนะคะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ บ๊าย บาย
-
สวัสดีค่ะ
-
ก็ไม่ได้ตั้งใจจะขายตรงอะไรหรอกน้า
-
วรรณคดีไทยไดเจสต์เนี่ย
-
ถึงมันจะเป็นหนังสือที่ดีขนาดไหนก็ตาม
-
ของมันต้องมีนะคะ
-
สมควรมีติดบ้านไว้อย่างยิ่งยวดนะคะ
-
แต่ก็ไม่ได้อยากจะขายตรงอะไร เท่าไหร่หรอก
-
แค่บางทีรู้สึกว่ามันกลายเป็น signature ไปแล้วไง
-
ถ้าไม่หยิบขึ้นมาบ่อยๆ ไม่หยิบมาขาย เดี๋ยวคนจะลืม
-
เดี๋ยวคนจะคิดถึงกัน นะจ๊ะ บาย