สวัสดีค่ะ วิวจาก Channel Point of view ค่ะ กลับมาอีกครั้งนะคะกับซีรีส์รามเกียรติ์ ทุกวันพุธเช่นเดิมเลยค่ะ ซึ่งตอนนี้นะคะ แน่นอนว่าเป็นกำเนิดของตัวละคร ที่สำคัญอีกตัวหนึ่งในเรื่องนะคะ เรายังวนเวียนอยู่กับพวกกำเนิดละครต่างๆนะ เพราะว่าเรื่องราวทั้งหมดเพิ่งจะเริ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้นอย่าถามนะ ว่าเมื่อไหร่จะจบ จากชื่อวีดีโอข้างล่างเนี่ย ตอนนี้คงเห็นกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าเป็นตอนกำเนิดองคต ซึ่งเป็นทหารลิงตัวสำคัญตัวหนึ่งของพระรามเลยนะคะ รับประกันเลยนะคะว่า การเกิดขององคตเนี่ย เป็นการเกิดที่วายป่วงพอสมควร แล้วก็ แซ่บ ดราม่า เพราะว่าการเกิดนี้นะคะ เป็นหนึ่งในการเกิดที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น 1 ในการเกิดที่อนาถที่สุดในวรรณคดีไทยคะ จากหนังสือวรรณคดีไทยไดเจสต์ เล่มนี้เอง ซึ่งวิวเขียนเองนะคะ อย่าลืมไปอุดหนุนกันได้ ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือว่าใครหาไม่เจอ เพราะมันหาค่อนข้างยาก ขาดตลาดพอสมควร ซื้อได้ทาง link ด้านล่างเลยค่ะ จบการขายของอย่างรวดเร็ว ได้เวลาที่จะเข้าสู่เนื้อเรื่องแล้วค่ะ ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลย มัวแต่ขายหนังสือตัวเองลืมบอกนะคะ ว่ากำเนิดองคต เวอร์ชั่นที่เราจะนำมาจากเล่มเดิมค่ะ ก็คือ บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นะคะ ปกติเวลาเราจะพูดถึงกำเนินของตัวละครสักตัวหนึ่งเนี่ย เรามักจะเริ่มจากพ่อแล้วก็แม่ ใช่ไหมค่ะ แต่เราน่าจะฟังมาจากตอนก่อนๆ แล้วว่า ตัวละครในรามเกียรติ์เนี่ย เรามักจะไม่ค่อยพูดถึงพ่อกับแม่เป็นหลัก เรื่องราวกำเนิดขององคตนี้ค่ะ เริ่มต้นที่ยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่าวิรุฬหก วิรุฬหกนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพ่อแม่ขององคตแต่อย่างใดนะคะ เป็นยักษ์ตนหนึ่งที่มีฤทธิ์มาก อาศัยอยู่ในเมืองบาดาล และเป็นสาวกที่ซื่อสัตย์ของพระอิศวรนะคะ ในแต่ละปีนะคะ วิรุฬหกก็จะขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรถึง 7 ครั้งด้วยกันค่ะ ก็เรียกได้ว่าไปบ่อยๆ ว่างั้นเถอะ วันหนึ่งถึงกำหนดที่วิรุฬหก จะต้องขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรที่เขาไกรลาสคะ วิรุฬหกก็แต่งองค์ทรงเครื่อง แต่งตัวสวยงาม เดินทางไปที่เขาไกรลาส ปกติเวลาไปที่เขาไกรลาสเนี่ย นึกสภาพสภาพว่าเป็นภูเขา ใช่ไหม มีบันใด บันใด บันใด บันใด ที่นนทกเคยล้างเท้าคนอยู่ตรงนั้นแหละ ส่วนด้านบนเนี่ยก็จะเป็น ที่อยู่ของพระอิศวรอยู่ด้านบนใช่ไหม ปกติพระอิศวรก็จะเปิดบ้าน เหมือนห้องรับแขก แล้วตัวเองก็นั่งอยู่ตรงนั้น ให้ใครที่อยากมาเยี่ยม ก็เข้ามาเฝ้า เข้ามาเฝ้า วันนั้นค่ะ วิรุฬหกก็เดินตามบันใดขึ้นไป ตามปกติ กะว่าจะไปเฝ้าพระอิศวร เข้าใจว่าพระอิศวรเนี่ย ออกจากห้องนอนด้านหลังละ ออกมานั่งตรงที่ห้องรับแขกเรียบร้อย ด้วยความที่เป็นยักษ์ที่เคารพพระอิศวรมากนะคะ วิรุฬหกก็เลยเดินขึ้นไป แบบสงบเสงี่ยม เจี๋ยมเจี้ยม นอบน้อมสุดขีด ประมาณว่าหมอบคลานขึ้นไป อารมณ์ว่าแบบก้าวขึ้นบันใด หนึ่งขั้น ก็ขอเคารพพระอิศวรหนึ่งที ก้าวขึ้นบันใดหนึ่งขั้นก็ขอเคารพพระอิศวรอีกหนึ่งที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ตีนเขา ขึ้นไปจนจะถึงยอดเขานะคะ บังเอิญว่าวันนั้นค่ะ พระอิศวร ยังนอนอยู่ ยังไม่ได้ออกมาห้องรับแขก ยังนอนอยู่ในห้องนอน วิรุฬหกก็เหมือนคำนับลมไปเรื่อยๆ คำนับอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไร เหตุการณ์ทั้งหมดนี้นะคะจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ถ้าไม่มีตุ๊กแกอยู่ตัวหนึ่งเนี่ย เกาะอยู่ตรงริมเขาไกลลาสนะ ตุ๊กแกตัวนี้ก็เกาะอยู่แล้วก็มองแล้ว ก็แบบ หื้อ วิรุฬหกมันคำนับใครวะ คำนับใครอะ คำนับใคร พระอิศวรก็ไม่อยู่ ตุ๊กแกไม่รู้จะร้องยังไง ก็เลยร้อง ตุ๊กแก! พอวิรุฬหกคำนับอีกทีหนึ่ง ตุ๊กแก ก็ ตุ๊กแก! ก็แบบ คำนับ ตุ๊กแก! ไปสักพัก วิรุฬหกโดนแบบนั้นไปสักพักหนึ่ง ก็เริ่มรู้ตัวแล้วแหละ ว่าแบบ อะไร นี่ตุ๊กแกมันร้องเป็นจังหวะเกินไปละ ทำไมต้องเป็นจังหวะตรงกับที่ฉันคำนับทุกทีเลย นี่ให้จังหวะฉันรึเปล่า ก็เลยมองขึ้นไปบนเขาไกรลาสค่ะ ปรากฏว่ามองขึ้นไป อ่าว พระอิศวรก็ไม่อยู่ นี่ฉันคำนับอะไรก็ไม่รู้ อีตุ๊กแก แก นี่แกล้อเลียนฉันใช่ไหม โกรธ โกรธแล้วนะ ด้วยความโมโห วิรุฬหกไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยหยิบสังวาลย์ของตัวเอง สังวาลย์นี่คือสร้อยที่ห้อยๆ พาดๆ อยู่นะ ก็เลยหยิบสังวาลย์ของตัวเอง ซึ่งเป็นสังวาลย์นาค ทำจากพญานาคอะนะ เขวี้ยงใส่ตุ๊กแกเต็มแรงประมาณว่าแบบแกตายซะ นะคะ เขวี้ยงไป แน่นอนตุ๊กแกไม่เหลือซาก ตาย แบนติดเขาไกรลาส แต่ด้วยความที่วิรุฬหกมีฤทธิ์มาก มีฤทธิ์แบบมากๆ อะนะ ไม่ใช่แค่ตุ๊กแกที่ตาย ไอ่สังวาลย์เนี่ยชนเขาไกรลาส แล้วเขาไกรลาสก็เอียงตามแรงไปเลย สรุปก็คือภูเขาเอียงอีกแล้วนะคะ ว่าแล้ว วิรุฬหกก็อารมณ์เสีย สะบัดก้นกลับบ้านไปเลย แล้วก็หายไปจากเรื่องนี้ ไม่ได้มีบทบาทอะไรไปอีกนานนะคะ เหลือไว้แต่ปัญหาที่ตัวเองสร้าง คือเขาไกรลาสเนี่ยเอียง ตัดฉากมาที่พระอิศวรนะคะ กำลังนอนอย่างมีความสุขอยู่ในบ้าน ก็กำลังนอน นอนอยู่ อยู่ดีๆ ก็มีอะไรก็ไม่รู้เขย่าบ้าน แบบแรงมาก แล้วบ้านก็เอียงนะคะ พระอิศวรตื่นมาก็เลยแบบ เกิดอะไรขึ้น ไหนๆๆ อะไม่เป็นไร เรามีฌาน พระอิศวรก็เลยนั่งสมาธิสอดส่องฌาณ ดูนู่นนี่นั่น แล้วก็พบว่า อ่อ วิรุฬหกเนี่ย เอาสังวาลย์ปาตุ๊กแกใช่ไหม แย่ละ เดี๋ยวฉันตั้งหาทางทำให้ เขาไกรลาสเนี่ย ตั้งตรงกลับมาเหมือนเดิม ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าทำไม พระอิศวรถึงไม่เอาขึ้นมาด้วยตัวเอง ทั้งที่ตัวเองก็มีฤทธิ์ค่อนข้างมากนะ พระอิศวรก็เลยป่าวประกาศออกไปหาทุกคนนะคะ บอกว่า อะ สวัสดีทุกคน ใครสามารถ เอาเขาไกรลาสกลับมาตั้งตรงเหมือนเดิมได้ ข้าจะมีรางวัลให้ อยากขออะไรขอมาเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าทำไมพระอิศวรถึงจำ คราวเขาพระสุเมรุไม่ได้ จริงๆ ถ้าเกิดไปเรียกพาลีกับสุครีพกลับมาดึงแบบเดิม อาจจะดึงขึ้นก็ได้นะ แต่พรอิศวรคราวนี้ไม่ค่ะ ก็ป่าวประกาศไปทั่วๆ เหล่าเทวดานางฟ้าต่างๆ ก็พยายามมาฉุดกระฉากลากถูเขาไกลลาส ให้กลับมาเหมือนเดิม ฉุดยังไงก็ฉุดไม่สำเร็จคะ ยังไงก็ไม่ขึ้น สุดท้ายนะคะ พระอิศวรก็เลยคิดว่าแบบ เออ จะว่าไปที่เมืองลงกาเนี่ย ก็มี ลูกของท้าวลัสเตียนอยู่ ท้าวลัสเตียนเนี่ยเป็นคนที่มีฤทธิ์มาก แถมลูกเนี่ยนะ มีตั้งสิบหน้ายี่สิบมือ น่าจะมีแรงมากๆ เลยแหละ เรียนวิชาอะไรมาก็เยอะ เออ ไปเรียกมันมาดีว่า ว่าแล้วนะคะพระอิศวรก็เรียกเทวดา นางฟ้าแถวนั่น อะ อะ ไปตามทศกัณฐ์มาซิ ไปตามมาจากเมืองลงกาเลย เอามา บอกว่าข้าเรียก แน่นอนว่าทศกัณฐ์ พอรู้ว่าพระอิศวรเรียกก็จะต้องรีบ ตาลีตาเหลือกขึ้นมาบนสวรรณ์นะคะ ด้วยความที่ ทศกัณฐ์เป็นคนที่เคารพพระอิศวรมากนะ พอมาถึง พระอิศวรก็บอกว่า ทศกัณฐ์บ้านข้าเอียงเนี่ย ดันขึ้นมาให้เหมือนเดิมหน่อย สำหรับทศกันฐ์นะคะ การดันเขาไกรลาสขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรค่ะ ทศกัณฐ์ก็แค่แปลงร่างให้ตัวเองใหญ่มาก สูงเท่าภูเขา แล้วก็ยืนอยู่ข้างภูเขา เอามือตัวเอง ยี่สิบมือเนี่ย จับภูเขาแล้วก็ดัน กลับขึ้นไปที่เดิมนะคะ พอดันเสร็จ ด้วยความที่ทศกัณฐ์เป็นคนที่ แบบว่า ไม่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนใดๆ พระอิศวรบอกขออะไรก็ได้ ฉันก็ขออะไรก็ได้ ทำความดีความชอบระดับนี้คิดว่าทศกัณฐ์อยากได้อะไรคะ แทนที่จะอยากได้อะไรดีๆ ด้วยนะ ทศกัณฐ์รู้สึกว่าแบบ สิ่งที่ฉันอยากได้ที่สุดคือ เมีย! คือ มีนางอัคคีอยู่ในเมืองแล้ว ไม่พอ สวยไม่พอ อยากได้เมียสวยๆ แล้วถามว่าผู้หญิงคนไหนสวยอันดับต้นๆ ของโลก เมียพระอิศวร พระอุมา นั่นเอง ทศกัณฐ์ก็เลยบอกว่า เออ พระอิศวรครับ ในเมื่อท่านบอกว่าขออะไรก็ได้บนโลกใบนี้น่ะนะ ข้าขอพระอุมาไปเป็นเมียข้าละกัน ถามว่าพระอิศวรช็อคไหม ช็อค โกรธไหม ไม่รู้ แต่ว่า พระอิศวรรู้ว่าต่อให้ทศกัณฐ์ได้พระอุมาไป ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะพระอุมานี่ถือว่าเป็นพระมารดาแห่งโลก แค่จะแตะตัวยังแตะไม่ได้เลยว่างั้นเถอะ พระอิศวรก็เลยบอกว่า อะ อะ อะ อยากได้ก็เอาไปละกัน ข้าให้เจ้า ไม่มีใครไปถามพระอุมานะ ว่าจริงๆ พระอุมารู้สึกยังไง พระอุมาอาจจะโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ หรือจะกลายเป็นพระแม่กาลี อยู่ตรงนั้นแล้วก็ได้นะ แต่ว่าสุดท้ายแล้วนะคะ ทศกัณฐ์ก็ได้พระอุมาไปค่ะ ปกติได้สาวงามมา ก็จะต้องช้อนตัวอุ้ม แล้วก็เหาะกลับเมืองใช่ไหม แต่คราวนี้ทศกัณฐ์ไม่สามารถทำได้ เพราะแค่เข้าไปใกล้ๆ จะช้อนอุ้ม ก็แบบ ร้อน โอ้ย ร้อนจังเลย ไม่โอเคทำยังไงดี ไม่ได้ๆ สุดท้ายนะคะ ด้วยความที่พระอุมาเป็นของสูงค่ะ ทศกัณฐ์ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยได้แต่ช้อนเท้าพระอุมาเนี่ย เอาไว้เหนือหัวตัวเอง แล้วกก็เหาะกลับเมืองไป เหาะไปครึ่งทาง ร้อนก็ร้อน เพราะว่าจับเท้าพระอุมายังร้อนเลย แถมแดดก็เผา นู่นนี่นั้น สุดท้ายทศกัณฐ์ ทำอะไรไม่ได้นะคะ ก็เลยพาพระอุมาลงไปเดินที่พื้นค่ะ แน่นอนว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าไปนะคะ เหล่าเทวดานางฟ้า ก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องนะ เฮ้ย ที่ทศกัณฐ์เนี่ย ขอพระอุมาไป ทำยังไงนะ ใครจะมาแก้ปัญหาใก้เราดี คิดว่าใครจะเป็นคนมาแก้ปัญหาให้พระอิศวรคะ แนะนอนนะคะ เหล่าเทวดา นางฟ้า ก็เลยวิ่งไปฟ้อง พระนารายณ์ ค่ะ ซึ่งพระนารายณ์เนี่ยก็บอกว่า อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ทศกัณฐ์มันเอาไป ก็ทำอะไร ไม่ได้ มา มา เดี๋ยวเราจัดการให้เอง ว่าแล้วค่ะ พระนารายณ์ก็แปลงร่างนะคะ เป็นยักษ์แก่ น่าเกลียดอยู่ตนหนึ่งนะ แล้วก็ลงไปดักรอทศกัณฐ์ ตรงทางที่จะเข้ากรุงลงกา ไปถึงก็ปลูกต้นไม้ก่อน ไม่ใช่รักธรรมชาตินะ เป็นอุบาย คือเอาต้นไม้มาต้นหนึ่ง เสร็จแล้วก็แทนที่จะปลูก แบบปกติเนี่ย ก็กลับหัวลงเอารากชี้ขึ้นฟ้า เอายอดเนี่ย ปักลงดิน แล้วก็รดน้ำพรวนดิน อย่างมีความสุข แกล้งทำเป็นคนบ้าไปเรื่อยๆ ฝ่ายทศกัณฐ์นะคะ พาพระอุมาเดินผ่านมา อุ้ย ไอ้ยักษ์แก่น่าเกลียด ทำอะไรโง่ๆ ปลูกต้นไม้แบบนี้มันจะไปขึ้นได้ยังไง ด้วยความที่เป็นพระราชานะ เหมือนแบบใส่ใจเรื่องของชาวบ้านชาวช่อง เขาไปทั่วอะนะ ฝั่งพระนารายณ์ที่ปลอมตัวมานะคะ ก็แกล้งทำเป็นบ้าค่ะ ก็หัวเราะ ใครว่าข้าโง่ คนโง่น่ะ ท่านต่างหาก ไม่เคยเห็นใครโง่ขนาดนี้มาก่อนเลยนะ ทศกัณฐ์ได้ยินอย่างนี้ก็ เอ๊ะ ก็แบบ ห่ะ ปกติในแถวกรุงลงกาไม่มีใครกล้าด่าฉันนะ แกเป็นใครมาจากไหนแกด่าฉันทำไม ไหนฉันโง่ยังไงบอกมาซิ ฉันโง่ยังไง พระนารายณ์ก้เลยบอกว่า โอ้ย จะไม่ให้ว่าโง่ได้ยังไง เนี่ย! ไปขอสาวมาแทนที่จะขอสาวที่ดีๆมา ขอสาวที่เป็นกาลากิณีมา แตะตัวยังไม่ได้เลย พาเข้าเมือง ไม่คิดว่าเมือง มันจะวอดวายไปทั้งเมืองเลยเหรอ แทนที่จะไปขอสาวดีๆ มา เนี่ย ที่บนสวรรค์มีสาวคนหนึ่ง ชือว่านางมณโฑ สวยมาก แล้วก็เป็นข้ารับใช้ของพระอุมา ถ้าเกิดไปได้คนนั้นมา น่าจะชีวิตคงจะดีกว่านี้นะ พอทศกัณฐ์ได้ยินอย่างนั้นก็เลยบอกว่า เอ่อ เป็นความคิดที่ดี ว่าแล้วก็เอาพระอุมา กลับไปคืนพระอิศวรเหมือนเดิมค่ะ แล้วก็ขอเปลี่ยนเป็นนางมณโฑมา เรื่องราวก็ควรจะจบแบบแฮปปี้ แต่! มันยังไม่จบ เพราะว่า เราบอกว่าตอนนี้คือตอนกำเนินองคต องคตยังไม่เกิดเลย คือทศกัณฐ์เนี่ย พอได้นางมณโฑมา ด้วยความดีใจนะคะ ก็อุ้มนางมณโฑค่ะ คราวนี้อุ้มได้แล้วใช่ไหม เหาะกลับเมืองอย่างมีความสุข ระหว่างที่เหาะกลับมา ก็แบบ หยอกล้อกับนางมณโฑมาตลอดทาง เหาะไปหอมแก้ม นู่นนี่นั่น เพลินไปเรื่อยนะคะ ปรากฎว่าทศกัณฐ์ค่ะ เหาะผ่านน่านฟ้าของเมืองขีดขิน เมืองขีดขิตคือเมืองของพาลีกับสุครีพ จำได้ใช่ไหม พาลีเนี่ยกำลังว่าราชการอยู่อย่างมีความสุข ก็ อ่าว วันนี้เสนาบดีคนนี้ทำหน้าที่นั้น ทำหน้าที่นี้ เงยหน้าขึ้นไปนอกหน้าต่าง เฮ้ย! ไอ่ทศกัณฐ์ ไอ่ยักษ์ยี่สิบมือแกกล้าดียังไง อุ้มผู้หญิงข้าวหัวฉันไปเนี่ย นี่มันหยามกันชัดๆ พาลีเห็นยังงั้น โกรธมากนะคะ เหาะออกจากหน้าต่างค่ะ ขึ้นไป แล้วก็ไปชี้หน้าด่าทศกัณฐ์เลย บอกว่า แก ไอ้ ไอ้ ไอ้ยักษ์ยี่สิบมือ แกกล้าดียังไงมาเหาะข้ามหัวฉัน ทศกัณฐ์ก็แบบ แก ไอ้ลิงเขียว แกกล้าดียังไงมาว่าฉันเหาะข้ามหัวเเก นี่มันอากาศท้องฟ้าธรรมดา นี่มันไม่มีเขต น่างฟง น่างฟ้า อะไร เหมือนเครื่องบินซะหน่อย จะได้บินผ่านไม่ได้ แล้ว ถ้าแกมาด่าฉันว่าฉันเหาะข้ามหัวแก นี่แกไม่ออกมาหาเรื่องนกที่บินข้ามหัวแกเลยรึไง บนฟ้ามันก็มีอะไรบินตั้งเยอะ ทำไมแกต้องมาหาเรื่องฉันด้วย พอได้ยินแบบนั้นนะคะ พาลีก็แบบ โกรธ! โกรธด้วย ประกอบกับกันไปเห็นนางมณโฑ ที่ทศกัณฐ์อุ้มอยู่เนี่ย สวยด้วย พาลีก็เลยหาเรื่องกันเต็มที่ค่ะ สองฝั่งก็เลยเกิดการสู้กันขึ้น ก็สู้ไป สู้ สู้ สู้ สู้ แน่นอนว่าพาลีได้รับพรจากพระอิศวรใช่ไหม ว่าใครมาสู้ด้วยเนี่ย ขอให้พลังลดลงครึ่งหนึ่งแล้วมาเพิ่มให้พาลี ดังนั้น พาลีก็เลยชนะแบบง่ายดายนะคะ ทศกัณฐ์พ่ายแพ้อย่างหนักหน่วง แล้วก็โดนชิงนางมณโฑไปค่ะ ทศกัณฐ์เห็นท่าไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ได้ สู้ก็ไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยหนีกลับเมืองไปเลยนะคะ กลับไปถึงก็ไปนั่งเครียดร้องไห้ฟูมฟาย เหมือนคนจะเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ที่เมืองค่ะ ฝั่งพาลีเนี่ย ได้นางมณโฑมา แน่นอนว่า ก็ต้องมีการ จีบนางมณโฑ แล้วก็จัดการนางมณโฑ เสร็จสรรพ ให้นางมณโฑ อยู่ในเมืองในฐานะมเหสีนะ จนกระทั่งนางมณโฑเนี่ยท้อง ได้แบบครึ่งปี อะไรประมาณนี้ ฝั่งทศกัณฐ์นั่งซึมเศร้าอยู่ที่เมืองค่ะ ก็อาละวาด นู่นนี่นั่น ใครเข้าหน้าไม่ติดสักคน สนม กำนัน เดินเข้าพยายามจะมาดูแล นึกออกป่ะ ผู้หญิงก็พยายามจะมาดูแล ทศกัณฐ์ก็แบบหงุดหงิด ไม่เห็นมีใครสวยเท่านางมณโฑของฉันเลย ออกไปให้หมด ใครมาคุยด้วยก็ไม่สนใจ ใครพาผู้หญิงคนอื่นมาให้ก็แบบ นี่แกจะมาล้อฉันใช่ไหม ว่าฉัน เสียนางมณโฑไปแล้วอะ เอาอะไรมาให้ฉัน ไม่ ไม่ ไม่ เหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้าเนาะ กุมภกรรณกับพิเภกค่ะ ด้วยความเป็นห่วงไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยคิดว่าต้องมีใครสักคน เข้าไปคุยกันทศกัณฐ์ให้ได้ ก็เลยไปบอกพระฤาษีโคบุตร ที่เป็นอาจารย์ของทศกัณฐ์ค่ะ บอกว่า เข้ามาดูทศกัณฐ์หน่อย พอพระฤาษีโคบุตรเข้ามานะคะ ก็ถามทศกัณฐ์ว่าแบบ อ่าว ทศกัณฐ์เป็นอะไรลูก ไหนเล่าให้อาจารย์ฟังซิ พอพระอาจารย์มานะคะ ทศกัณฐ์ก็เลยตัดสินใจเปิดปากเล่าค่ะ ว่าแบบ เนี่ย ไปได้เมียมาคนหนึ่ง โดนพาลีแย่ง ทำไงดีอาจารย์ นู่นนี่นั่น พระฤาษีโคบุตรก็เลยบอกว่าไม่เห็นยากเลย เนี่ย ข้าเป็นอาจารย์เจ้า เจ้าฟังข้าใช่ไหม พาลีก็มีอาจารย์เหมือนกัน พาลีก็ฟังอาจารย์เหมือนกัน ไปหาพระฤาษีอังคตสิ พระฤาษีอังคตเนี่ย เป็นอาจารย์ของพาลีนะ พูดอะไรพาลีเชื่อหมด ทศกัณฐ์ก็เลยตัดสินใจออกจากเมืองไปค่ะ แล้วก็ไปร้องห่มร้องไห้ กอดขาพระฤาษีอังคตไว้ พระฤาษีอังคตก็แบบ ห่ะ! ยักษ์ทศกัณฐ์ มาเกาะแข้ง เกาะขาฉันทำไม ไหนมีเรื่องอะไรเล่าให้ฟังซิ ทศกัณฐ์ก็เลยร้องไห้ฟูมฟาย เล่าให้พระฤาษีอังคตฟังนะ ว่าแบบ เนี่ย ข้าอุสาห์ไปทำความดีความชอบกับพระอิศวรมา จนพระอิศวรให้นางมณโฑมา ลูกศิษย์ท่านน่ะ มาแย่งของข้า แล้วข้าก็สู้ไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงนะคะ สุดท้ายพระฤาษีอังคตก็เลยบอก เออ เดี๋ยวข้าไปขอคืนให้นะ แล้วพระฤาษีอังคตก็เข้าเมืองไปค่ะ ไปบอกพาลีว่า เออ พาลี ขอเมียคืนให้ทศกัณฐ์ด้วย เข้าใจไหม ไปแย่งเขามายังงี้ได้ยังไงน่ะ ห่ะ รู้ไหมว่าพระอิศวรประทานให้เขา เป็นของเขา ไปแย่งเขามาไม่ได้ ตอนแรกนะคะ พาลีก็ไม่อยากคืนแต่ไม่รู้จะขัดอาจารย์ยังไง ก็เลยบอกประมาณว่า ก็อยากคืนอะนะ แต่คืนไม่ได้ คือตอนนี้นางมณโฑท้องอยู่ ถ้าเกิดคืนไปเดี๋ยวลูกจะไปอยู่ในเมืองยักษ์ เดี๋ยววุ่นวาย นู่นนี่นั่น พระฤาษีบอก ไม่ใช่ปัญหา นี่ไม่ใช่ประเด็น มีลูกใช่ไหม ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าผ่าออกให้ เอาไปอุ้มบุญไว้ที่อื่นก่อน แล้วเดี๋ยว คลอดออกมาก็เป็นลูกเจ้าไง ส่วนนางมณโฑก็คืนทศกัณฐ์ไป พาลีก็เลยไม่รู้จะทำไงนะคะ จำใจจะต้องไปเรียกนางมณโทฑออกมา พอนางมณโฑมาถึงนะคะ พาลีก็เล่าให้ฟัง บอกว่า เนี่ย อาจารย์ข้า พระฤาษีอังคต มาบอกว่าจะเจ้าส่งกลับคืนทศกัณฐ์แล้วนะ คือ ส่วนลูกเนี่ย เดี๋ยวดูแลให้ อะไรอย่างงี้ นางมณโฑได้ยินอย่างนั่นก็ตกใจมานะคะ แบบ ห่ะ! นี่จะให้ฉันมาสองผัวเหรอ ก็ร้องไห้ฟูมฟาย ร้อง ร้อง ร้อง ร้องจนกระทั่งตัวเองเนี่ยสลบไป ฝั่งพระฤาษีอังคต เห็นนางมณโฑสลบ อ่าว! ดีเลย ประหยัด ไม่ต้องใช้ยาสลบเลย สลบแล้วใช่ไหม งั้นข้าผ่าท้องเลยละกันนะพาลี พระฤาษีอังคตนะคะก็เลยผ่าท้องนางมณโฑค่ะ อุ้มลูกออกมา แล้วเอาลูกไปใส่ไว้ในท้องแพะตัวเมีย ตัวหนึ่ง ฝั่งนางมณโฑนี่ก็ปิดแผลอะไรให้เรียบร้อย เสกคาถา ฟิ้ง! ท้องเรียบเหมือนเดิมปกติ แล้วก็เอาไปส่งคืนให้ทศกัณฐ์ค่ะ แน่นอนว่าหลังจากที่แพะเนี่ยตั้งท้อง จนครบกำหนดคลอด อะไรแล้ว พระฤาษีก็กลับมาผ่าท้องแพะให้ แล้วเด็กที่คลอดออกมาจากแพะนั่น ก็คือองคตที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งทำให้วิวสังเกตได้ว่าคลิปในวันนี้ก็ยาวพอสมควรแล้ว ควรจะตัดไปขึ้นตอนใหม่คลิปหน้าแล้วกันค่ะ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะก็อย่าลืม กด like เป็นกำลังใจให้วิว กด share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกัน แล้วก็อย่าลืมกด subscribe เพื่อที่จะไม่พลาดวิดีโอใหม่ๆ นะคะ subscribe ไปแล้วอย่ากดปุ่มกระดิ่งด้วยนะ มันจะได้แจ้งเตือนทุกครั้งที่ออกคลิปใหม่ค่ะ จำตอนต้นที่โฆษณาวรรณคดีไทยไดเจสต์ไปได้ไหม อย่าลืมซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือว่า link ด้านล่างนะคะ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะขายตรงอะไรหรอกน้า วรรณคดีไทยไดเจสต์เนี่ย ถึงมันจะเป็นหนังสือที่ดีขนาดไหนก็ตาม ของมันต้องมีนะคะ สมควรมีติดบ้านไว้อย่างยิ่งยวดนะคะ แต่ก็ไม่ได้อยากจะขายตรงอะไร เท่าไหร่หรอก แค่บางทีรู้สึกว่ามันกลายเป็น signature ไปแล้วไง ถ้าไม่หยิบขึ้นมาบ่อยๆ ไม่หยิบมาขาย เดี๋ยวคนจะลืม เดี๋ยวคนจะคิดถึงกัน นะจ๊ะ บาย