< Return to Video

ทำไมญี่ปุ่นไม่มีขนมโตเกียว? ประวัติพร้อมวิธีทำ วิววันว่าง EP.1 | Point of View #stayhome #withme

  • 0:00 - 0:02
    ทำไมที่ญี่ปุ่นไม่มีขนมโตเกียว
  • 0:02 - 0:03
    สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
  • 0:03 - 0:05
    เป็นไงวันนี้ ฉากหลังแปลกตาไหมคะ
  • 0:05 - 0:07
    เพราะว่าตอนนี้ฉากหลังของวิว
  • 0:07 - 0:09
    อาจจะไม่ใช่เป็นชั้นหนังสือที่ทุกคนคุ้นเคยกันนะคะ
  • 0:09 - 0:10
    แต่ว่าเป็นครัวค่ะ
  • 0:10 - 0:12
    ถามว่าทำไม เพราะว่าตอนที่วิวอัดคลิปวิดีโอนี้
  • 0:12 - 0:14
    เรายังอยู่ในช่วง Social Distance นะคะ
  • 0:14 - 0:16
    เนื่องจากเหตุการณ์ COVID-19 นั่นเอง
  • 0:16 - 0:19
    อยากรณรงค์ให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นะคะ
  • 0:19 - 0:20
    ซึ่งแน่นอนว่าการอยู่บ้านนาน ๆ เนี่ย
  • 0:20 - 0:23
    มันก็จะทำให้เราจะต้อง หากิจกรรมอะไรต่าง ๆ กันนะคะ
  • 0:23 - 0:27
    ดังนั้น วันนี้ก็หากิจกรรมมาให้ทุกคนทำไปพร้อม ๆ กับวิวแล้วค่ะ
  • 0:27 - 0:29
    ก็คือวันนี้วิวจะมาชวนทุกคนทำ
  • 0:29 - 0:31
    ขนมโตเกียวนะคะ
  • 0:31 - 0:33
    และแน่นอน การที่คุณอยู่ในช่อง Point of View เนี่ย
  • 0:33 - 0:35
    จะมาทำขนมโตเกียวเฉย ๆ มันไม่ได้ค่ะ
  • 0:35 - 0:37
    มันต้องมีความรู้ประกอบด้วย
  • 0:37 - 0:39
    สนุก อร่อย แล้วต้องได้สาระประกอบด้วยนะคะ
  • 0:39 - 0:42
    ดังนั้น เดี๋ยวเรามาคุยเรื่องขนมโตเกียวกัน
  • 0:42 - 0:44
    พร้อม ๆ กับทำขนมโตเกียวไปด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ
  • 0:44 - 0:46
    ที่สำคัญนะคะ ไม่ได้จะมาทำให้ดูเฉย ๆ
  • 0:46 - 0:47
    แต่เดี๋ยวบอกสูตรด้วยค่ะ
  • 0:47 - 0:50
    บอกเลยว่าขนมโตเกียวนี่เป็นขนมที่ทำง่ายมาก ๆ นะ
  • 0:50 - 0:53
    ดังนั้นใครที่ออกไปกินขนมร้านลุงหน้าโรงเรียนไม่ได้
  • 0:53 - 0:56
    แล้วคิดถึงขนมโตเกียวก็มาทำไปพร้อม ๆ กับวิวเลยดีกว่าค่ะ
  • 0:56 - 0:58
    สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
  • 0:58 - 1:00
    สนุกและก็ได้สาระกันหรือยังคะ
  • 1:00 - 1:02
    ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
  • 1:05 - 1:06
    พูดถึงขนมโตเกียวนะคะ
  • 1:06 - 1:09
    เชื่อว่าเป็นขนมที่แทบทุกคนน่าจะเคยได้กินกันค่ะ
  • 1:09 - 1:12
    เพราะว่าชอบขายกันอยู่ตามหน้าโรงเรียนอะไรต่าง ๆ ใช่ไหม
  • 1:12 - 1:14
    แล้วก็เป็นขนมที่มีไส้หลากหลายนะคะ
  • 1:14 - 1:17
    ซึ่งเอาจริง ๆ หลายคนพอฟังชื่อขนมโตเกียวก็จะรู้สึกว่า
  • 1:17 - 1:19
    นี่มันเป็นขนมญี่ปุ่นแน่ ๆ
  • 1:19 - 1:20
    แต่ว่าหลาย ๆ คนก็จะแบบ
  • 1:20 - 1:22
    เฮ้ย ที่ญี่ปุ่นมันไม่มีขนมโตเกียวนะ
  • 1:22 - 1:25
    ขอบอกเลยว่า ประวัติที่มาของขนมโตเกียวเนี่ย
  • 1:25 - 1:28
    มันเกิดขึ้นจากการพัฒนาอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยนี่ล่ะค่ะ
  • 1:28 - 1:30
    หลายคนฟังแบบนี้ก็จะแบบ
  • 1:30 - 1:32
    อ้าว แล้วสรุปมันเป็นอาหารญี่ปุ่นหรืออาหารไทยกันแน่
  • 1:32 - 1:35
    ก็ขอแนะนำให้ไปฟังคลิปนี้นะคะ กดไปตรงนี้เลย
  • 1:35 - 1:37
    วิวเคยคุยกับอาป้อม หรือว่าเชฟป้อมเอาไว้นะคะ
  • 1:37 - 1:38
    ว่าด้วยเรื่อง อาหารไทยคืออะไรค่ะ
  • 1:39 - 1:41
    ซึ่งพอฟังคลิปนั้นจบเนี่ย จะทำให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้นนะ
  • 1:41 - 1:44
    ว่าเราสามารถนิยามอาหารไทยได้ว่ายังไง
  • 1:44 - 1:46
    อย่างไรก็ดี อยากรู้กันไหมว่าขนมโตเกียวเนี่ย
  • 1:46 - 1:48
    เข้ามาในประเทศไทยได้ยังไง และมันพัฒนายังไง
  • 1:49 - 1:51
    บอกเลยค่ะว่า ประวัติมันก็เป็นแบบนี้นี่แหละ
  • 1:51 - 1:54
    ขนมโตเกียวเนี่ยนะคะ ถึงจะชื่อว่าโตเกียวก็ตาม
  • 1:54 - 1:56
    แต่ว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นที่จังหวัดโตเกียว
  • 1:56 - 1:57
    ประเทศญี่ปุ่น แต่อย่างใดค่ะ
  • 1:57 - 2:00
    ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรานี่แหละ
  • 2:00 - 2:02
    แต่ว่าจริง ๆ นะคะ ไม่มีใครทราบหรอกว่า
  • 2:02 - 2:04
    มันเกิดขึ้นตอนไหน ใครเป็นคนประดิษฐ์
  • 2:04 - 2:07
    อย่างไรก็ตามนะคะ จริง ๆ ที่ญี่ปุ่นเนี่ยก็มีขนมอยู่ชนิดนึงค่ะ
  • 2:07 - 2:10
    ที่หน้าตาคล้ายขนมโตเกียวสุด ๆ อยู่เหมือนกันนะ
  • 2:10 - 2:12
    ชื่อว่าขนม Angomaki ค่ะ
  • 2:12 - 2:15
    เป็นเครปสไตล์ญี่ปุ่นนะ ใส่ไส้ถั่วแดง
  • 2:15 - 2:18
    แล้วหลัง ๆ ก็มีการประยุกต์ใส่ไส้ต่าง ๆ มากมายเลยค่ะ
  • 2:18 - 2:21
    ก็จริง ๆ ชื่อขนมก็มาจาก Ango ที่แปลว่า ถั่วแดง
  • 2:21 - 2:23
    แล้วก็ Maki ที่แปลว่า ม้วนนั่นเองนะคะ
  • 2:23 - 2:26
    เขาว่าขนมชนิดนี้ เป็นขนมที่ขายในสมัยเอโดะค่ะ
  • 2:26 - 2:28
    ขายอยู่ในร้านยากิโซบะนะ
  • 2:28 - 2:31
    ใช้เตายากิโซบะนั่นแหละทำขนมขึ้นมานะ
  • 2:31 - 2:34
    ดูไปดูมาหน้าตาก็คล้ายขนมโตเกียวอยู่เหมือนกันนะคะ
  • 2:34 - 2:37
    แต่ว่าวิวเนี่ยยังหาหลักฐานอ้างอิงไม่ได้นะคะว่า
  • 2:37 - 2:39
    สรุปนี่คือที่มาของขนมโตเกียวจริง ๆ หรือเปล่า
  • 2:39 - 2:41
    ก็เลยได้แต่เดากันไปเดากันมาค่ะ
  • 2:41 - 2:42
    มันอาจจะบังเอิญเหมือนกัน
  • 2:42 - 2:46
    หรือมันอาจจะเป็นที่มาของขนมโตเกียวจริง ๆ ก็ได้นะคะ
  • 2:46 - 2:48
    เพราะว่า ก็หน้าตามันก็เหมือนขนมโตเกียว
  • 2:48 - 2:50
    แล้วมันก็เกิดขึ้นที่โตเกียวจริง ๆ ด้วย
  • 2:50 - 2:54
    แต่ที่แน่ ๆ นะคะ ที่โตเกียวนี่ไม่มีขนมชื่อโตเกียวแน่นอนค่ะ
  • 2:55 - 2:57
    แต่อย่างไรก็ตามนะคะ หลายคนเนี่ยเขาสัณนิษฐานว่า
  • 2:57 - 3:00
    ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2510
  • 3:00 - 3:02
    ที่ห้างสรรพสินค้าไทยไดมารูค่ะ
  • 3:03 - 3:05
    ห้างนี้ก็อารมณ์คล้าย ๆ เซ็นทรัลนะคะ
  • 3:05 - 3:07
    คือมีหลายสาขา ไปเปิดที่ต่างประเทศอะไรต่าง ๆ
  • 3:07 - 3:09
    ก็ยังใช้ชื่อ เซ็นทรัล อยู่
  • 3:09 - 3:11
    ไดมารูนี่ก็เป็นห้างของญี่ปุ่นนะคะ
  • 3:11 - 3:12
    มีหลากหลายที่เลยทีเดียว
  • 3:12 - 3:15
    ใครที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นบ่อย ๆ น่าจะคุ้นกันดีค่ะ
  • 3:15 - 3:17
    อย่างที่โอซาก้านี่ก็มีทั้ง ไดมารูอุเมะดะ
  • 3:17 - 3:20
    ไดมารูชินไซบาชิ อะไรอย่างนี้เลยใช่ไหมคะ
  • 3:20 - 3:22
    ซึ่งไดมารูเนี่ยก็มาเปิดที่ประเทศไทย
  • 3:22 - 3:24
    แถบราชประสงค์ นี่แหละค่ะ
  • 3:24 - 3:27
    แล้วก็เป็นห้างที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยนะคะในยุคสมัยนั้น
  • 3:27 - 3:31
    แน่นอนว่าเป็นห้างญี่ปุ่นทั้งที่ก็ต้องมีขนมญี่ปุ่นขายค่ะ
  • 3:31 - 3:32
    เขาเลยเชื่อว่าขนมโตเกียวเนี่ย
  • 3:32 - 3:35
    ถือกำเนิดที่ห้างไทยไดมารูแห่งนี้นี่แหละ
  • 3:35 - 3:36
    โดยที่ห้างแห่งนี้นะคะ
  • 3:36 - 3:39
    ดัดแปลงมาจากขนมโดรายากิของญี่ปุ่นค่ะ
  • 3:39 - 3:41
    โดรายากินี่ก็จะเป็นขนมที่คล้าย ๆ กับ
  • 3:41 - 3:43
    เป็นแป้งแพนเค้กสองชิ้นประกบกันนะคะ
  • 3:43 - 3:46
    แล้วตรงกลางก็ใส่ไส้ค่ะ มักจะเป็นไส้ถั่วแดงนั่นเอง
  • 3:46 - 3:48
    ซึ่งหลายคนคุ้นชื่อกันดีนะคะ
  • 3:48 - 3:51
    เพราะว่าเป็นขนมที่โดราเอมอนชอบนั่นเองค่ะ
  • 3:51 - 3:53
    แต่ว่าแทนที่จะเอามาประกบกันแบบเดิมเนี่ยนะคะ
  • 3:53 - 3:56
    เขาก็เปลี่ยนค่ะ เอามาใช้วิธีม้วนเอานะ
  • 3:56 - 3:58
    แล้วก็เพิ่มไส้ต่าง ๆ เข้าไปค่ะ
  • 3:58 - 4:01
    เสร็จแล้วก็ตั้งชื่อใหม่ให้คนไทยในสมัยที่ยังไม่คุ้นเคย
  • 4:01 - 4:03
    กับภาษาญี่ปุ่นอย่างทุกวันนี้จำได้ง่ายขึ้นนะคะ
  • 4:03 - 4:07
    ไหน ๆ ทำขนมญี่ปุ่นขึ้นมาจะใช้ชื่ออะไรไปดีกว่า
  • 4:07 - 4:08
    ชื่อเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นใช่ไหมคะ
  • 4:09 - 4:11
    ดังนั้น ขนมชนิดนี้ก็เลยได้ชื่อว่า
  • 4:11 - 4:13
    ขนมโตเกียวตั้งแต่นั้นมาค่ะ
  • 4:13 - 4:14
    แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ หลายคนเนี่ย
  • 4:14 - 4:17
    พูดถึงประวัติขนมโตเกียวก็น่าจะหยุดตรงนี้นะว่า
  • 4:17 - 4:19
    ได้รับอิทธิพลมาจากโดรายากิแล้วก็จบ
  • 4:19 - 4:20
    แต่นี่ช่อง Point of View ค่ะ
  • 4:20 - 4:22
    เราจะขุดลึกไปกว่านั้นนะคะ
  • 4:22 - 4:24
    เพราะว่าจริง ๆ แล้วขนมโดรายากิเนี่ย
  • 4:24 - 4:26
    ก็ไม่ใช่ขนมญี่ปุ่นจ๋าขนาดนั้นค่ะ
  • 4:26 - 4:30
    แต่ว่าเป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาติอื่นอีกทีนึงนะคะ
  • 4:30 - 4:33
    ฟังมาถึงตอนนี้นะคะ หลายคนก็น่าจะร้องอ๋อแล้วแหละ
  • 4:33 - 4:35
    เพราะว่าเมื่อกี้วิวก็เผลอหลุดมาแล้วใช่ไหมว่า
  • 4:35 - 4:37
    โดรายากิเนี่ยเกิดจากแพนเค้กสองชิ้นประกบกัน
  • 4:37 - 4:40
    ดังนั้นมันต้องได้รับอิทธิพลจากแพนเค้กแน่ ๆ เลย
  • 4:40 - 4:43
    วิวขอบอกว่าไม่ใช่ค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว
  • 4:43 - 4:46
    แป้งของขนมโดรายากิเนี่ย ไม่ใช่แป้งแพนเค้กนะคะ
  • 4:46 - 4:49
    แต่เป็นแป้งของขนมโปรตุเกสอีกชนิดนึงต่างหาก
  • 4:49 - 4:51
    นั่นก็คือ Castella Cake นะคะ
  • 4:51 - 4:53
    ที่เข้ามาในญี่ปุ่นผ่านมิชชันนารีนะคะ
  • 4:53 - 4:55
    ในสมัยคริสตศตวรรษที่ 16 ค่ะ
  • 4:55 - 4:58
    ขนม castella cake เนี่ยก็จะเป็น sponge cake นะคะ
  • 4:58 - 5:01
    ซึ่งเนื้อเนี่ยมันจะฟูนุ่มกว่าแพนเค้กที่เนื้อจะแน่นกว่า
  • 5:01 - 5:03
    texture ก็จะต่างกันนิดนึงค่ะ
  • 5:03 - 5:05
    ดังนั้นแป้งของโดรายากินะคะ
  • 5:05 - 5:07
    ก็เลยเนื้อจะนุ่มกว่าแพนเค้กแบบคลาสสิกค่ะ
  • 5:07 - 5:11
    ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในที่มานะคะ ที่ทำให้แพนเค้กแบบญี่ปุ่น
  • 5:11 - 5:13
    หรือที่เค้าเรียกว่า แพนเกกิ เนี่ย
  • 5:13 - 5:14
    จะมีเนื้อนุ่มฟูนะคะ
  • 5:14 - 5:16
    แตกต่างจากแพนเค้กสไตล์ตะวันตก
  • 5:16 - 5:18
    ที่จะแบนแล้วก็เนื้อแน่นกว่านั่นเองค่ะ
  • 5:18 - 5:21
    คนไทยเราคุ้นกับแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่นเนอะ
  • 5:21 - 5:24
    ดังนั้นถ้าไปสั่งที่ประเทศแถบตะวันตก อย่าตกใจกันค่ะ
  • 5:24 - 5:26
    ที่แพนเค้กมันจะหนาแล้วก็แน่นนะคะ
  • 5:26 - 5:30
    ซึ่งเอาจริง ๆ เนี่ย สมัยนี้ในญี่ปุ่นเนี่ย ก็มีบางคนนะคะ
  • 5:30 - 5:33
    ประยุกต์ทำโดรายากิแบบต่าง ๆ ขึ้นมามากมายเหมือนกันนะ
  • 5:33 - 5:35
    ทั้งเอาไส้นู้นไส้นี้มาใส่เพิ่มเติม
  • 5:35 - 5:37
    ไม่ได้มีแค่ไส้ถั่วแดงเหมือนแต่ก่อนแล้ว
  • 5:37 - 5:39
    ไส้คัสตาร์ดครีม ไส้เกาลัดก็มีค่ะ
  • 5:39 - 5:42
    หรือบางคนก็ใส่ครีมสดเข้าไปด้วย เรียกว่า
  • 5:42 - 5:44
    นามะโดรายากิ ค่ะ
  • 5:44 - 5:45
    หรือว่าโดรายากิสดนั่นเองนะ
  • 5:45 - 5:48
    หนักกว่านั้นอีกก็เป็นแบบที่ไม่ใช่แบบสองแผ่นประกบกัน
  • 5:48 - 5:51
    ก็มีเหมือนกัน บางคนเขาก็เอามาม้วน ๆ ๆ
  • 5:51 - 5:52
    แล้วใส่ไส้แปลก ๆ นะคะ
  • 5:52 - 5:54
    เรียกว่า โรลโดรายากิ ก็มีเหมือนกัน
  • 5:54 - 5:58
    เอ้า พอเอาโดรายากิมาโรลนี่ก็ คล้ายโตเกียวเข้าไปอีกค่ะ
  • 5:58 - 6:01
    แต่โตเกียวของไทยเนี่ยอาจจะมีการประยุกต์มากกว่านิดนึง
  • 6:01 - 6:03
    คือทำแป้งให้บางแล้วก็กรอบนะคะ
  • 6:03 - 6:05
    เพราะว่าคนไทยเราชอบอะไรกรอบ ๆ ไง ใช่ไหม
  • 6:05 - 6:08
    โอ้โห เห็นไหมคะว่าศิลปะวัฒนธรรมของแต่ละชาติเนี่ย
  • 6:08 - 6:11
    หายากมาก ๆ เลยนะคะที่จะมีอะไรออริจินัล
  • 6:11 - 6:13
    อย่าให้วิวคุ้ยต่อเลยว่าโปรตุเกสเนี่ย
  • 6:13 - 6:14
    ไปได้ castella cake มาจากอะไร
  • 6:14 - 6:16
    เพราะทุกคนก็คิดแค่ว่าอยากทำอาหารของตัวเอง
  • 6:16 - 6:18
    ให้อร่อยแล้วก็ถูกปากมากที่สุด
  • 6:18 - 6:20
    จะสร้างสรรค์ขึ้นมาเพิ่ม ประยุกต์ต่อ
  • 6:20 - 6:22
    หรือว่าได้รับอิทธิพลมาจากชาติอื่น
  • 6:22 - 6:24
    ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบแบบไหนค่ะ
  • 6:24 - 6:28
    สำหรับตอนนี้ คนที่ชอบขนมโตเกียว ฟังวิวมามากพอแล้ว
  • 6:28 - 6:30
    อยากไปทำขนมโตเกียวกินกันหรือยังคะ
  • 6:30 - 6:32
    ถ้าพร้อมกันแล้วก็ ไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ
  • 6:32 - 6:34
    เป็นไงบ้างคะได้ฟังประวัติขนมโตเกียวกันไปแล้ว
  • 6:34 - 6:36
    วันนี้ก็ขอมาสั้น ๆ นิดนึงนะ
  • 6:36 - 6:38
    เพราะว่าเดี๋ยวเราจะไปทำขนมโตเกียวกันค่ะ
  • 6:38 - 6:41
    แต่ก่อนอื่นนะคะ ก่อนที่เราจะไปเริ่มทำแป้งโตเกียว
  • 6:41 - 6:43
    ก่อนที่เราจะไปเริ่มหมุน ๆ ๆ ๆ
  • 6:43 - 6:45
    เหมือนกับคุณลุงหน้าโรงเรียนเนี่ยนะคะ
  • 6:45 - 6:48
    อย่างแรกที่เราต้องทำก่อนเลยก็คือ เตรียมไส้นั่นเองค่ะ
  • 6:48 - 6:50
    ซึ่งขนมโตเกียวเนี่ยมันมีได้หลากหลายไส้เนอะ
  • 6:50 - 6:52
    เพราะว่าแล้วแต่ว่าใครจะประยุกต์ขึ้นมานะคะ
  • 6:52 - 6:55
    อย่างวันนี้ที่วิวจะทำก็กะว่าจะทำไส้เค็มค่ะ
  • 6:55 - 6:57
    ก็จะมีไส้ไข่ ไส้ไส้กรอก แล้วก็ไส้ครีมค่ะ
  • 6:57 - 6:59
    ดังนั้นอย่างแรกที่เราต้องทำกันนะคะก็คือ
  • 6:59 - 7:02
    ไส้ที่ต้องมีการเตรียมการมากที่สุดค่ะ
  • 7:02 - 7:03
    นั่นก็คือไส้ครีมนั่นเอง
  • 7:03 - 7:05
    วันนี้เราจะกวนครีมด้วยตัวเองกันเลยนะคะ
  • 7:05 - 7:06
    มา เริ่มทำกันเลยดีกว่า
  • 7:06 - 7:08
    สำหรับวัตถุดิบในการทำไส้ครีมของเราในวันนี้นะคะ
  • 7:08 - 7:11
    ที่เราจะใช้ก็คือ หนึ่ง ไข่ไก่ค่ะ ใช้แต่ไข่แดงนะ
  • 7:11 - 7:15
    แล้วก็ นม น้ำตาล กลิ่นวนิลา
  • 7:15 - 7:19
    แล้วก็แป้งสาลี ที่จะทำให้ไส้ครีมของเราเนี่ยข้นขึ้นนั่นเองค่ะ
  • 7:19 - 7:20
    เดี๋ยวเรามาเริ่มทำกันเลย
  • 7:20 - 7:22
    ขั้นตอนแรกในการทำไส้ครีมของเรานะคะ
  • 7:22 - 7:24
    ก็คือการแยกไข่ขาวไข่แดงค่ะ
  • 7:24 - 7:26
    ซึ่งเราจะไม่ทำแบบกอล์ฟมาเยือนแล้วโยนไข่ก่อนเริ่มนะคะ
  • 7:26 - 7:28
    แต่ว่าเราจะแยกไข่ขาวไข่แดงเลยนะ
  • 7:29 - 7:31
    ก็เริ่มจากอย่างนี้ก่อนนะคะ
  • 7:31 - 7:34
    จริง ๆ มันก็มีหลายวิธีอะนะในการแยกไข่ขาวไข่แดง
  • 7:34 - 7:35
    แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนเลย
  • 7:36 - 7:39
    แต่วันนี้วิวจะใช้วิธีนี้ ก็ใช้เปลือกไข่นี่แหละ
  • 7:39 - 7:41
    ในการตวงกันไปตวงกันมานะฮะ
  • 7:41 - 7:43
    เราเคยเล่น Cooking Mama กันอยู่แล้ว
  • 7:43 - 7:45
    ก็อันนี้ล่ะค่ะ Cooking Mama Real-life นะคะทุกคน
  • 7:45 - 7:47
    แยกไปแยกมา เอาให้ไข่ขาว
  • 7:47 - 7:49
    ออกไปให้หมดที่สุดที่ทำได้นะคะ
  • 7:49 - 7:50
    อะ ประมาณนี้แล้วกันนะคะ
  • 7:50 - 7:52
    แล้วก็ใส่ไข่แดงลงไปก่อนเลย
  • 7:53 - 7:55
    หลังจากนั้นเราก็ทิ้งไข่ขาวไปค่ะ
  • 7:55 - 7:57
    หรือใครจะเก็บไว้ใช้เป็นแบบไส้โตเกียวไส้ไข่
  • 7:57 - 7:58
    ก็ได้นะเหมือนกัน
  • 7:59 - 8:00
    หลังจากใส่ไขเข้าไปแล้วนะคะ
  • 8:00 - 8:02
    จริง ๆ แล้วเราสามารถใส่สลับกันได้นะ
  • 8:02 - 8:04
    ใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อทีเดียวเลย
  • 8:04 - 8:05
    แล้วเดี๋ยวเราคนทีเดียว
  • 8:05 - 8:07
    แต่ว่าจากประสบการณ์วิวเนี่ยนะคะ
  • 8:07 - 8:08
    ถ้าใส่แป้งลงไปทีหลัง
  • 8:08 - 8:10
    แป้งมันจะลอยอยู่เหนือของเหลวค่ะ แล้วมันจะคนยาก
  • 8:10 - 8:13
    ดังนั้นเราจะใส่แป้งลงไปก่อนนะคะ 1 ช้อนโต๊ะด้วยกันค่ะ
  • 8:13 - 8:15
    แล้วก็โป๊ะมันลงไปเลย
  • 8:15 - 8:17
    นม 1/2 ถ้วยตวงค่ะ
  • 8:17 - 8:21
    ซึ่งอันนี้เป็นถ้วย 1/2 นะคะ หรือ 120 มล. นั่นเอง
  • 8:21 - 8:22
    ใส่ลงไป
  • 8:23 - 8:24
    เทมันลงไปเลย
  • 8:25 - 8:28
    หลังจากนั้นค่ะ ก็คือใส่น้ำตาลลงไป ทั้งหมด 1/6 ถ้วยตวงนะคะ
  • 8:28 - 8:31
    ซึ่งตามสไตล์คนชอบหวานก็จะใส่เยอะหน่อยนะคะ
  • 8:31 - 8:33
    แต่อันนี้อาจจะเยอะไปนิดนึง เอาคืนไปนิดนึง
  • 8:34 - 8:37
    และน้ำตาลก็หกนะคะ
  • 8:38 - 8:39
    เดี๋ยวก็จะโดนแม่ด่า
  • 8:40 - 8:41
    แต่ไม่เป็นไรนะคะ แม่ไม่ได้ดูคลิปนี้
  • 8:41 - 8:42
    รึเปล่า ไม่รู้
  • 8:42 - 8:44
    จุ๊ ๆ ๆ อย่าบอกแม่นะว่าน้ำตาลหก
  • 8:44 - 8:45
    พอใส่ลงไปเรียบร้อยนะคะ
  • 8:45 - 8:48
    เราก็ใส่สิ่งสุดท้าย นั่นก็คือกลิ่นวนิลานั่นเองค่ะ
  • 8:48 - 8:52
    ก็กะ ๆ แล้วก็ใส่ลงไปนะ ตามแต่ว่าชอบความหอมขนาดไหน
  • 8:52 - 8:55
    เป็นอันครบทุกเครื่องปรุงแล้วนะคะ
  • 8:55 - 8:58
    สิ่งถัดไปที่เราต้องทำก็คือ เปิดไฟเลยจ้า
  • 8:58 - 9:00
    จริง ๆ ก็อย่าเปิดไฟแรงเกินไปนะ
  • 9:00 - 9:02
    แต่สำหรับวิว วิวใช้เตาไฟฟ้า
  • 9:02 - 9:04
    มันต้องมีการวอร์มเตาก่อนนิดนึงนะคะ
  • 9:04 - 9:07
    หลังจากนั้นก็จัดการคน คนเข้าไป
  • 9:07 - 9:09
    อยากบอกทุกคนว่าพยายามอย่าหยุดคนนะคะ
  • 9:09 - 9:12
    เพราะว่าไม่งั้นนมมันจะฟู่ แล้วมันก็จะไหม้นะ
  • 9:12 - 9:14
    เราก็จะคนไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละ
  • 9:14 - 9:16
    เห็นไหม มันก็จะเริ่มเข้ากันแล้ว
  • 9:16 - 9:19
    ส่วนแป้งมันก็จะแบบต้องอาศัยการขยี้ ๆ นิดนึง
  • 9:19 - 9:20
    ให้มันเข้ากันนะคะ
  • 9:21 - 9:22
    หลังจากที่เราคนไปสักพักนะคะ
  • 9:22 - 9:24
    เราก็จะเริ่มเห็นว่ามันข้นขึ้นเรื่อย ๆ นะ
  • 9:24 - 9:26
    ตามความสุกของแป้งนะคะ
  • 9:26 - 9:28
    มองด้วยตาอาจจะสังเกตยากนิดนึง
  • 9:28 - 9:29
    แต่ว่าถ้าเป็นคนที่คนเอง
  • 9:29 - 9:31
    ก็จะสัมผัสได้ว่ามันเริ่มข้นขึ้นแล้วนะ
  • 9:31 - 9:34
    นี่เห็นไหม ๆ ๆ ตอนนี้จะเริ่มข้นขึ้นเร็วมากนะคะ
  • 9:34 - 9:36
    เพราะฉะนั้นห้ามหยุดคนเด็ดขาดนะทุกคน
  • 9:36 - 9:38
    เห็นไหม texture มันเริ่มเปลี่ยนนะคะ
  • 9:38 - 9:40
    หลังจากที่มันเริ่มข้นขึ้นเลเวลนึงแล้ว
  • 9:40 - 9:43
    มันเดือดแล้วนะคะ ก็รีบปิดไฟนะคะ
  • 9:43 - 9:45
    แล้วคนต่อนะ อย่าให้มันเดือด
  • 9:45 - 9:46
    อย่าให้มันไหม้ติดก้นหม้อ
  • 9:46 - 9:48
    เห็นไหมว่ามันข้นแล้ว เป็นครีมแล้วนะ
  • 9:48 - 9:51
    ซึ่งหลายคนดูตรงนี้ก็จะแบบ เฮ้ย ครีมมันยังไม่ข้นเลย
  • 9:51 - 9:53
    มันยังดูไม่ใช่ครีมโตเกียว
  • 9:53 - 9:56
    เดี๋ยวพอมันคายความร้อนนะคะ มันก็จะแข็งขึ้นนะคะ
  • 9:56 - 9:58
    เพราะว่าแป้งมันสุกนั่นเอง
  • 9:58 - 10:00
    ตอนนี้เราก็เอาให้มันแค่ลดความร้อนลงหน่อย
  • 10:00 - 10:02
    เพื่อให้มันไม่ติดก้นหม้อ
  • 10:02 - 10:03
    แล้วเดี๋ยวเราจะเอามันไปพักไว้นะคะ
  • 10:03 - 10:06
    เอาล่ะเรียบร้อยค่ะ ทีนี้ก็เสร็จเรียบร้อยนะคะ
  • 10:06 - 10:08
    สำหรับครีมไส้โตเกียวของเรา
  • 10:08 - 10:10
    เดี๋ยวเราทิ้งมันไว้ เดี๋ยวเรากลับมาดูกันทีหลังนะคะ
  • 10:10 - 10:12
    สำหรับตอนนี้ไปทำแป้งโตเกียวกันก่อน
  • 10:12 - 10:13
    ขั้นตอนถัดไปนะคะ
  • 10:13 - 10:15
    เราก็จะมาเริ่มผสมแป้งโตเกียวกันค่ะ
  • 10:15 - 10:17
    อย่างแรกเลยเราจะเอาของแห้งทั้งหมด
  • 10:17 - 10:20
    ผสมกันลงไปก่อนนะคะ ก็คือ แป้งนั่นเอง
  • 10:20 - 10:22
    ซึ่งอันนี้เราจะใช้ทั้งหมด 2 ถ้วยตวงค่ะ
  • 10:22 - 10:25
    แต่ว่าเนื่องจากวิวหาถ้วยตวงถ้วยเต็มของตัวเองไม่เจอนะ
  • 10:25 - 10:26
    วิวก็เลยใช้ถ้วยครึ่งนี่แหละค่ะ
  • 10:26 - 10:29
    ดังนั้นวิวจะใส่ไป 4 นะ อย่าแปลกใจนะจ๊ะทุกคน
  • 10:29 - 10:32
    อะ ใส่ลงไปทั้งหมดหนึ่งถ้วย
  • 10:32 - 10:33
    สามถ้วย
  • 10:33 - 10:36
    โอเค 4 ถ้วยตวงค่ะ เรียบร้อยนะคะ
  • 10:36 - 10:39
    ไปต่อที่ของแห้งชิ้นที่สองนะคะ
  • 10:39 - 10:40
    นั่นก็คือ ผงฟูนั่นเอง
  • 10:40 - 10:43
    อันนี้ผงฟูหรือว่า baking powder นะคะ
  • 10:43 - 10:46
    เราจะใช้ทั้งหมด 1 ช้อนโต๊ะนะฮะ
  • 10:46 - 10:47
    ก็โบ๊ะมันลงไปเลยนะคะ
  • 10:47 - 10:51
    หลังจากนั้นก็ใส่น้ำตาลค่ะ ทั้งหมด 2 ช้อนโต๊ะนะคะ
  • 10:52 - 10:54
    1 2 ช้อนโต๊ะค่ะ
  • 10:54 - 10:57
    แล้วก็ตามด้วยของแห้งอันสุดท้ายนั่นก็คือเกลือนั่นเอง
  • 10:57 - 10:59
    จริง ๆ ต้องใส่ประมาณ 1 ช้อนชานะคะ
  • 10:59 - 11:01
    ถามว่าใส่เกลือลงไปทำไม
  • 11:01 - 11:05
    ก็คือมันเป็นการตัดรสนิดนึงนะ ให้มันแบบกลมกล่อมจ้า
  • 11:06 - 11:06
    1 2
  • 11:07 - 11:09
    เวลาเห็นวิวพูดกับทำอะไรไม่ตรงกันนะคะ
  • 11:09 - 11:11
    ก็คือช้อนตวงมันไม่ได้ขนาดนั่นเองนะคะ
  • 11:11 - 11:15
    ก็เลยบางทีอาจจะใช้ช้อนครึ่ง ก็คือใช้ 2 ช้อนแทนอะไรอย่างนี้
  • 11:15 - 11:18
    แล้วเราก็จัดการคนของแห้งทั้งหมดให้เข้ากันก่อนนะคะ
  • 11:19 - 11:20
    แล้วก็แหวก ๆ ไว้ตรงกลางนิดนึง
  • 11:20 - 11:23
    ของเปียกอย่างแรกที่เราต้องใส่ก็คือ ไข่ไก่ 2 ฟองนั่นเอง
  • 11:23 - 11:26
    เราก็ตอกลงไปเลยนะคะ ไม่ต้องแยกไข่แดงไข่ขาวแล้ว
  • 11:26 - 11:28
    อันนี้เราใช้ทั้งฟองนะ
  • 11:28 - 11:30
    1 2
  • 11:30 - 11:32
    ถัดไปนะคะก็ได้แก่นมนั่นเอง
  • 11:32 - 11:34
    เราใส่ทั้งหมด 1 1/2 ถ้วยตวงนะคะ
  • 11:34 - 11:35
    1 ถ้วยตวงแล้ว
  • 11:35 - 11:38
    แล้วก็อีก 1/2 นะทุกคน
  • 11:38 - 11:40
    ทีนี้ก็ถึงอีกหนึ่งขั้นตอนนะคะที่หลายคนจะตกใจ
  • 11:40 - 11:41
    นั่นก็คือน้ำมันพืชนั่นเอง
  • 11:41 - 11:44
    เราจะใส่น้ำมันพืชลงไป 1/4 ถ้วยตวงค่ะ
  • 11:44 - 11:46
    อะ ใส่มันลงไปเลย
  • 11:46 - 11:47
    ก็เป็นอันครบเรียบร้อยนะคะ
  • 11:47 - 11:48
    แต่สำหรับใครที่ชอบวนิลา
  • 11:48 - 11:51
    ก็สามารถใส่กลิ่นวนิลาลงไปแต่งนิดหน่อยได้เหมือนกันนะคะ
  • 11:51 - 11:55
    เทมันลงไปแล้วเราก็จัดการคนทุกอย่างให้เข้ากันนะคะ
  • 11:55 - 11:56
    คนไปเลย คน ๆ ๆ
  • 11:57 - 11:59
    จริง ๆ สูตรนี้นะคะมันไม่ใช่สูตรแป้งโตเกียวหรอก
  • 11:59 - 12:01
    หลายคนที่เคยทำแพนเค้กมาก็จะคุ้น ๆ ว่า
  • 12:01 - 12:03
    เฮ้ย นี่มันสูตรแพนเค้กรึเปล่า อะไรยังไงนะ
  • 12:03 - 12:04
    ใช่ นี่คือสูตรแพนเค้กค่ะ
  • 12:05 - 12:06
    คือจริง ๆ ถ้าจะเป็นแป้งโตเกียว
  • 12:06 - 12:09
    แบบที่เขาขายกันตามร้านข้างถนนเนี่ยนะ
  • 12:09 - 12:12
    เขาก็จะใช้น้ำปูนใสใช้อะไรด้วย จะเป็นอีกสูตรนึง
  • 12:12 - 12:14
    มันก็จะได้แป้งกรอบ ๆ เหมือนกับแป้งเครป
  • 12:14 - 12:17
    พวกแบบเครปที่เราชอบกินกัน เครปตามโรงเรียนน่ะค่ะ
  • 12:17 - 12:20
    แต่ว่าเนื่องจากเราอยู่บ้านไง น้ำปูนใสก็จะหายากนิดนึง
  • 12:20 - 12:22
    เราใช้แป้งแพนเค้กทดแทนกันก็พอได้ค่ะ
  • 12:22 - 12:25
    เพราะว่าเวลาที่เราเอาแพนเค้ก เอาไม่ใช่สูตร fluffy นะ
  • 12:25 - 12:28
    เอาสูตรแบบแพนเค้กแบน ๆ นะ เอามาทำเป็นโตเกียวเนี่ย
  • 12:28 - 12:31
    มันก็จะได้หน้าตา texture คล้าย ๆ กันอยู่ค่ะ
  • 12:31 - 12:33
    แล้วก็ทำไม่ได้ยากขนาดนั้นนะจ๊ะทุกคน
  • 12:33 - 12:35
    ดังนั้น เวลาเราอยู่บ้านเราก็ประยุกต์ ๆ
  • 12:35 - 12:36
    อะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ
  • 12:36 - 12:38
    อะ เดี๋ยวเราคนให้มันเข้ากันก่อน
  • 12:38 - 12:39
    แล้วเดี๋ยวเรามาดูกันว่าจะเป็นยังไงต่อนะ
  • 12:39 - 12:42
    นี่นะคะ หลังจากที่เราทิ้งไส้ครีมของเราไว้แป๊บนึงนะคะ
  • 12:42 - 12:44
    ตอนนี้ไส้ครีมของเราก็ข้นได้ที่แล้วนะคะ
  • 12:44 - 12:46
    พร้อมสำหรับการทำโตเกียวแล้ว
  • 12:46 - 12:47
    แล้วก็แป้งก็ได้ที่แล้วเรียบร้อย
  • 12:47 - 12:49
    ดังนั้นมาเริ่มทำกันเลยดีกว่าค่ะ
  • 12:49 - 12:51
    อย่างแรกนะคะที่ทุกคนต้องทำก็คือการวอร์มเตานั่นเอง
  • 12:51 - 12:53
    เราต้องหาอุณหภูมิที่เหมาะสมของเตา
  • 12:53 - 12:55
    ซึ่งก็คือไม่ร้อนเกินไปแล้วก็ไม่เย็นเกินไป
  • 12:55 - 12:57
    แต่ว่าแนะนำให้ทดสอบกันดูก่อนนะ
  • 12:57 - 13:00
    ดังนั้นไม่แปลกเลยนะคะ ถ้าชิ้นแรกที่เทลงไปเนี่ยมันจะเละนะ
  • 13:00 - 13:03
    เราหาช้อนมาคันนึงนะ ใครจะใช้ช้อนกินข้าวก็ได้
  • 13:03 - 13:06
    แต่ว่าถ้าบ้านใครมีช้อนตักซุปแบบวิวก็จะเหมาะมากนะคะ
  • 13:06 - 13:08
    ก็อย่างนี้เลย เทมันลงไปนะคะ
  • 13:08 - 13:10
    เสร็จแล้วอย่าแรงเกินไปแล้วอย่าเบาเกินไป
  • 13:10 - 13:11
    ขยี้มันออกมาค่ะ
  • 13:11 - 13:15
    ให้มันหน้าตาเหมือนกับที่คุณลุงโตเกียวทำให้เราดู
  • 13:15 - 13:18
    อ้า ประมาณนั้นเลย เสร็จปุ๊บก็รอมันสุกแป๊บนึงนะคะ
  • 13:18 - 13:21
    สังเกตว่าถ้าใครเคยทำแพนเค้กน่าจะเก็ตนะว่า
  • 13:21 - 13:23
    ไอ้ปุด ๆ ๆ ๆ เนี่ย ที่มันเป็นฟองอากาศนี่แปลว่ามัน
  • 13:23 - 13:25
    แป้งมันเริ่มสุกนะคะ
  • 13:25 - 13:26
    เพราะว่าด้วยความเป็นโตเกียว
  • 13:26 - 13:28
    เราต้องการให้สีข้างนอกมันสวยงามนิดนึง
  • 13:28 - 13:30
    เราก็ต้องใช้เวลารอนิดนึงนะ
  • 13:30 - 13:32
    พอมันเริ่มสุกนะคะ ก็ได้เวลาที่เราจะใส่ไส้ละ
  • 13:32 - 13:34
    อะ อย่างอันนี้วิวก็จะใส่ไส้ครีมก่อนเลยนะคะ
  • 13:34 - 13:37
    เราก็โปะไส้ครีมของเราเนี่ยลงไป
  • 13:37 - 13:38
    ชึบ อ้า เป็นก้อน
  • 13:38 - 13:40
    อยากได้เยอะใส่เยอะ อยากได้น้อยใส่น้อย
  • 13:40 - 13:42
    นี่คือข้อดีของการทำเองนะคะ
  • 13:42 - 13:44
    อันนี้ขั้นตอนนี้ถ้าใครเป็นเด็ก ๆ ระวังนิดนึงนะ
  • 13:44 - 13:47
    มันจะร้อนนะคะ รอให้มันสุกแว่บนึง
  • 13:47 - 13:48
    แล้วก็เอาอะไรแซะ
  • 13:48 - 13:50
    เหมือนถ้าเป็นปกติเราจะใช้เกรียงใช่ไหม
  • 13:50 - 13:52
    เราก็จัดการม้วนมันเลย
  • 13:53 - 13:54
    นี่ เห็นไหม สีสัน
  • 13:55 - 13:58
    นี่นะคะ แล้วก็ทิ้งมันไว้แป๊บนึงให้มันติดกัน
  • 13:58 - 14:02
    แล้วเราก็จะได้ขนมโตเกียวของเราแล้ว
  • 14:02 - 14:04
    เป็นยังไงบ้างทุกคน เหมือนไหม
  • 14:04 - 14:05
    เห็นไหม เหมือนตามร้านเลยนะคะ
  • 14:05 - 14:07
    แล้วเราก็เอาไปใส่ไว้ เรียบร้อย
  • 14:07 - 14:09
    มาทำไส้ต่อไปกันดีกว่า
  • 14:09 - 14:11
    มา เรามาทำไส้ถัดไปกันนะ
  • 14:11 - 14:14
    อะ ก็เหมือนเดิมเลยนะคะ ตักเทมันลงไป
  • 14:14 - 14:16
    แล้วก็ค่อย ๆ บี้นะคะ
  • 14:17 - 14:19
    บี้มันออกมา ๆ
  • 14:19 - 14:22
    อยากได้แผ่นใหญ่ตักเยอะ อยากได้แผ่นเล็กก็ตักน้อยนะคะ
  • 14:22 - 14:25
    หลายคนชอบกินโตเกียวไส้ไข่นกกระทานะ
  • 14:25 - 14:26
    นี่ก็มีมาเหมือนกันนะคะ
  • 14:26 - 14:28
    นี่หลายคนไม่รู้นะว่าไข่นกกระทาอะ
  • 14:28 - 14:30
    จุดที่ต่างจากไข่ไก่ก็คือ
  • 14:30 - 14:31
    เปลือกมันเนี่ยเหนียวกว่าเยอะนะคะ
  • 14:31 - 14:35
    ก็อาจจะ ตอนแกะก็จะลำบากชีวิตนิดนึงนะ
  • 14:35 - 14:36
    มันจะเหนียวมากนะ เพราะว่ามันเล็กด้วยแหละ
  • 14:36 - 14:39
    เทมันลงไป ชึบ
  • 14:40 - 14:42
    ก็ทำการตีไข่ให้แตกนะฮะ
  • 14:43 - 14:46
    ตีไข่ ๆ อะ ราดมันไปทั่ว ๆ นะ
  • 14:46 - 14:49
    เสร็จแล้วก็ นี่เลย ตามสูตรคุณลุงเลยนะฮะ
  • 14:49 - 14:51
    ใส่แม็กกี้ลงไปนิดนึงค่ะ
  • 14:52 - 14:54
    อย่าเยอะไม่งั้นจะเค็มนะทุกคน
  • 14:55 - 14:57
    แล้วก็ใส่พริกไทยลงไปนะฮะ
  • 14:59 - 15:03
    ใส่เสร็จปุ๊บ เรามีไส้กรอกเราก็เอาไส้กรอกแปะลงไปนิดนึง
  • 15:03 - 15:05
    รอทุกอย่างสุกแป๊บนึงนะคะ
  • 15:05 - 15:06
    เสร็จปุ๊บนะคะ พอมันเริ่มสุกอ
  • 15:06 - 15:09
    เราก็จัดการแซะมันออกมา แล้วก็ม้วนเลย
  • 15:13 - 15:15
    ใครกลัวก็มีที่หนีบก็ใช้ได้นะ ใครกลัวร้อน
  • 15:15 - 15:17
    แต่ใครไม่กลัวร้อน จะเอามือไปจกก็ได้
  • 15:17 - 15:18
    แต่ไม่แนะนำนะจ๊ะ
  • 15:18 - 15:21
    ทีนี้นะคะก็ได้จะได้เป็นขนมโตเกียว เรียบร้อย
  • 15:44 - 15:45
    นี่เป็นไงมั่งคะ
  • 15:45 - 15:48
    เราก็เสร็จแล้วนะกับขนมโตเกียวร้อน ๆ จากเตานะคะ
  • 15:48 - 15:50
    ที่เรากินได้เลย กินให้ดูด้วย นี่
  • 15:50 - 15:51
    เผื่อว่าใครจะอยากทำตามนะคะ
  • 15:53 - 15:56
    หือ ใช้ได้ค่ะทุกคน
  • 15:56 - 15:59
    ฝีมือตัวเอง ต้องชมอย่างเดียวนะ ด่าไม่ได้นะคะ
  • 15:59 - 16:02
    และนี่นะคะก็คือ ขนมโตเกียวนั่นเองค่ะ
  • 16:02 - 16:05
    ขนมแบบไทย ๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากขนมญี่ปุ่นนะคะ
  • 16:05 - 16:07
    ก็แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน
  • 16:07 - 16:09
    นั่นก็คือการเลือกรับสิ่งต่าง ๆ มาจากภายนอก
  • 16:09 - 16:12
    แล้วก็ปรับใช้ให้เหมาะกับความเป็นไทยนั่นเองค่ะ
  • 16:12 - 16:14
    ซึ่งจริง ๆ อันนี้มันก็เป็นการศึกษา
  • 16:14 - 16:16
    พวกศิลปะวัฒนธรรมแบบที่วิวพูดบ่อย ๆ นั่นแหละว่า
  • 16:16 - 16:19
    พวกนี้มันอย่าไปโฟกัสเลยว่าอะไรเป็นของประเทศไหน
  • 16:19 - 16:20
    อะไรเป็นของอะไรต่าง ๆ นะคะ
  • 16:20 - 16:23
    อยู่ที่ว่าประเทศไหนรับอะไรไป ได้รับอิทธิพลอะไรไป
  • 16:23 - 16:25
    แล้วมาประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง เป็นยังไงมากกว่าค่ะ
  • 16:26 - 16:27
    สำหรับวันนี้นะคะ ถ้าใครชื่นชมคลิปนี้
  • 16:27 - 16:29
    อยากให้วิวมาทำอะไรแบบนี้อีก
  • 16:29 - 16:30
    ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้เลยค่ะ
  • 16:30 - 16:31
    แล้วก็ถ้าชอบคลิปนี้มาก ๆ
  • 16:31 - 16:33
    อย่าลืม กด Like เป็นกำลังใจให้วิว
  • 16:33 - 16:35
    แล้วก็กด Share เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันนะคะ
  • 16:35 - 16:36
    สำหรับวันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะทุกคน
  • 16:36 - 16:39
    บาย ๆ สวัสดีค่ะ
  • 16:39 - 16:41
    นี่นะ เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้มีแค่ขนมโตเกียวนะ
  • 16:41 - 16:43
    ที่เราน่าทำในช่วงเวลาแบบนี้
  • 16:43 - 16:46
    จริง ๆ มันมีอีกหลายเรื่องมากเลยที่วิวสามารถ
  • 16:46 - 16:48
    เอามาทำแล้วก็เล่าให้ทุกคนฟังได้นะคะ
  • 16:48 - 16:49
    อย่างเช่น เอาจริง ๆ ตอนแรกคลิปนี้
  • 16:49 - 16:52
    ตอนแรกตั้งใจจะผัดข้าวผัดอเมริกันนะทุกคน
  • 16:52 - 16:54
    เพราะว่ารู้ปะ ข้าวผัดอเมริกันก็เกิดในประเทศไทยนะ
  • 16:55 - 16:57
    ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวไว้มาผัด ข้าวผัดอเมริกัน กัน
  • 16:57 - 16:59
    แล้วก็เล่าเรื่องข้าวผัดอเมริกันละกันค่ะ
  • 16:59 - 17:02
    สำหรับตอนนี้ก็ขออนุญาตไปเคลียร์แป้งทั้งหมดนี้ก่อนนะคะ
  • 17:02 - 17:04
    นึกสภาพวาดทีละหนึ่งช้อน ๆ
  • 17:04 - 17:06
    จะได้ขนมโตเกียวเยอะขนาดไหนนะคะ
  • 17:06 - 17:08
    เอาเป็นว่าใครจะทำตามแล้วอยู่คนเดียว
  • 17:08 - 17:10
    แค่จะกินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ลดสูตรเอาแล้วกันนะคะ
  • 17:10 - 17:12
    หัดใช้วิชาเลขให้เป็นประโยชน์นะ
  • 17:12 - 17:15
    อย่างเช่นวิวใช้หนึ่งถ้วยก็ลดลงเหลือแบบครึ่งถ้วย
  • 17:15 - 17:16
    อะไรอย่างนี้ไปนะจ๊ะ
  • 17:16 - 17:18
    ทำออกกล้องก็ทำสวย ๆ หน่อย
  • 17:18 - 17:21
    พอทำแบบกินเองก็ชิ้นใหญ่ ๆ สะใจ
  • 17:21 - 17:24
    เวลาไปซื้อแล้วมันแพง ชิ้นมันหลายบาท
  • 17:24 - 17:25
    โปะมันเข้าไป อยากได้อะไรบ้าง
  • 17:25 - 17:29
    ไส้กรอกสามชิ้นไรงี้ คิดว่าพอเหรอ ใส่ชีสด้วย
  • 17:30 - 17:32
    โตเกียวไส้ไข่ไส้กรอกชีส
  • 17:32 - 17:35
    ความเบื่อทำให้คนมีครีเอทีฟนะจ๊ะทุกคน
  • 17:35 - 17:36
    เมื่อกี้ตอนโชว์ใช้พริกไทยธรรมดาใช่ป้ะ
  • 17:36 - 17:39
    ตอนกินเองค่ะ พริกไทยฝรั่งค่ะ
  • 17:40 - 17:41
    ทำเองไง อยากใส่อะไรก็ได้
  • 17:41 - 17:42
    ไปพอแล่ว
  • 17:42 - 17:44
    บาย ๆ ทุกคน สวัสดีค่ะ
Title:
ทำไมญี่ปุ่นไม่มีขนมโตเกียว? ประวัติพร้อมวิธีทำ วิววันว่าง EP.1 | Point of View #stayhome #withme
Description:

more » « less
Duration:
17:45

Thai subtitles

Revisions