-
ทำไมที่ญี่ปุ่นไม่มีขนมโตเกียว
-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
เป็นไงวันนี้ ฉากหลังแปลกตาไหมคะ
-
เพราะว่าตอนนี้ฉากหลังของวิว
-
อาจจะไม่ใช่เป็นชั้นหนังสือที่ทุกคนคุ้นเคยกันนะคะ
-
แต่ว่าเป็นครัวค่ะ
-
ถามว่าทำไม เพราะว่าตอนที่วิวอัดคลิปวิดีโอนี้
-
เรายังอยู่ในช่วง Social Distance นะคะ
-
เนื่องจากเหตุการณ์ COVID-19 นั่นเอง
-
อยากรณรงค์ให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นะคะ
-
ซึ่งแน่นอนว่าการอยู่บ้านนาน ๆ เนี่ย
-
มันก็จะทำให้เราจะต้อง หากิจกรรมอะไรต่าง ๆ กันนะคะ
-
ดังนั้น วันนี้ก็หากิจกรรมมาให้ทุกคนทำไปพร้อม ๆ กับวิวแล้วค่ะ
-
ก็คือวันนี้วิวจะมาชวนทุกคนทำ
-
ขนมโตเกียวนะคะ
-
และแน่นอน การที่คุณอยู่ในช่อง Point of View เนี่ย
-
จะมาทำขนมโตเกียวเฉย ๆ มันไม่ได้ค่ะ
-
มันต้องมีความรู้ประกอบด้วย
-
สนุก อร่อย แล้วต้องได้สาระประกอบด้วยนะคะ
-
ดังนั้น เดี๋ยวเรามาคุยเรื่องขนมโตเกียวกัน
-
พร้อม ๆ กับทำขนมโตเกียวไปด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ
-
ที่สำคัญนะคะ ไม่ได้จะมาทำให้ดูเฉย ๆ
-
แต่เดี๋ยวบอกสูตรด้วยค่ะ
-
บอกเลยว่าขนมโตเกียวนี่เป็นขนมที่ทำง่ายมาก ๆ นะ
-
ดังนั้นใครที่ออกไปกินขนมร้านลุงหน้าโรงเรียนไม่ได้
-
แล้วคิดถึงขนมโตเกียวก็มาทำไปพร้อม ๆ กับวิวเลยดีกว่าค่ะ
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
-
สนุกและก็ได้สาระกันหรือยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
พูดถึงขนมโตเกียวนะคะ
-
เชื่อว่าเป็นขนมที่แทบทุกคนน่าจะเคยได้กินกันค่ะ
-
เพราะว่าชอบขายกันอยู่ตามหน้าโรงเรียนอะไรต่าง ๆ ใช่ไหม
-
แล้วก็เป็นขนมที่มีไส้หลากหลายนะคะ
-
ซึ่งเอาจริง ๆ หลายคนพอฟังชื่อขนมโตเกียวก็จะรู้สึกว่า
-
นี่มันเป็นขนมญี่ปุ่นแน่ ๆ
-
แต่ว่าหลาย ๆ คนก็จะแบบ
-
เฮ้ย ที่ญี่ปุ่นมันไม่มีขนมโตเกียวนะ
-
ขอบอกเลยว่า ประวัติที่มาของขนมโตเกียวเนี่ย
-
มันเกิดขึ้นจากการพัฒนาอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยนี่ล่ะค่ะ
-
หลายคนฟังแบบนี้ก็จะแบบ
-
อ้าว แล้วสรุปมันเป็นอาหารญี่ปุ่นหรืออาหารไทยกันแน่
-
ก็ขอแนะนำให้ไปฟังคลิปนี้นะคะ กดไปตรงนี้เลย
-
วิวเคยคุยกับอาป้อม หรือว่าเชฟป้อมเอาไว้นะคะ
-
ว่าด้วยเรื่อง อาหารไทยคืออะไรค่ะ
-
ซึ่งพอฟังคลิปนั้นจบเนี่ย จะทำให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้นนะ
-
ว่าเราสามารถนิยามอาหารไทยได้ว่ายังไง
-
อย่างไรก็ดี อยากรู้กันไหมว่าขนมโตเกียวเนี่ย
-
เข้ามาในประเทศไทยได้ยังไง และมันพัฒนายังไง
-
บอกเลยค่ะว่า ประวัติมันก็เป็นแบบนี้นี่แหละ
-
ขนมโตเกียวเนี่ยนะคะ ถึงจะชื่อว่าโตเกียวก็ตาม
-
แต่ว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นที่จังหวัดโตเกียว
-
ประเทศญี่ปุ่น แต่อย่างใดค่ะ
-
ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรานี่แหละ
-
แต่ว่าจริง ๆ นะคะ ไม่มีใครทราบหรอกว่า
-
มันเกิดขึ้นตอนไหน ใครเป็นคนประดิษฐ์
-
อย่างไรก็ตามนะคะ จริง ๆ ที่ญี่ปุ่นเนี่ยก็มีขนมอยู่ชนิดนึงค่ะ
-
ที่หน้าตาคล้ายขนมโตเกียวสุด ๆ อยู่เหมือนกันนะ
-
ชื่อว่าขนม Angomaki ค่ะ
-
เป็นเครปสไตล์ญี่ปุ่นนะ ใส่ไส้ถั่วแดง
-
แล้วหลัง ๆ ก็มีการประยุกต์ใส่ไส้ต่าง ๆ มากมายเลยค่ะ
-
ก็จริง ๆ ชื่อขนมก็มาจาก Ango ที่แปลว่า ถั่วแดง
-
แล้วก็ Maki ที่แปลว่า ม้วนนั่นเองนะคะ
-
เขาว่าขนมชนิดนี้ เป็นขนมที่ขายในสมัยเอโดะค่ะ
-
ขายอยู่ในร้านยากิโซบะนะ
-
ใช้เตายากิโซบะนั่นแหละทำขนมขึ้นมานะ
-
ดูไปดูมาหน้าตาก็คล้ายขนมโตเกียวอยู่เหมือนกันนะคะ
-
แต่ว่าวิวเนี่ยยังหาหลักฐานอ้างอิงไม่ได้นะคะว่า
-
สรุปนี่คือที่มาของขนมโตเกียวจริง ๆ หรือเปล่า
-
ก็เลยได้แต่เดากันไปเดากันมาค่ะ
-
มันอาจจะบังเอิญเหมือนกัน
-
หรือมันอาจจะเป็นที่มาของขนมโตเกียวจริง ๆ ก็ได้นะคะ
-
เพราะว่า ก็หน้าตามันก็เหมือนขนมโตเกียว
-
แล้วมันก็เกิดขึ้นที่โตเกียวจริง ๆ ด้วย
-
แต่ที่แน่ ๆ นะคะ ที่โตเกียวนี่ไม่มีขนมชื่อโตเกียวแน่นอนค่ะ
-
แต่อย่างไรก็ตามนะคะ หลายคนเนี่ยเขาสัณนิษฐานว่า
-
ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2510
-
ที่ห้างสรรพสินค้าไทยไดมารูค่ะ
-
ห้างนี้ก็อารมณ์คล้าย ๆ เซ็นทรัลนะคะ
-
คือมีหลายสาขา ไปเปิดที่ต่างประเทศอะไรต่าง ๆ
-
ก็ยังใช้ชื่อ เซ็นทรัล อยู่
-
ไดมารูนี่ก็เป็นห้างของญี่ปุ่นนะคะ
-
มีหลากหลายที่เลยทีเดียว
-
ใครที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นบ่อย ๆ น่าจะคุ้นกันดีค่ะ
-
อย่างที่โอซาก้านี่ก็มีทั้ง ไดมารูอุเมะดะ
-
ไดมารูชินไซบาชิ อะไรอย่างนี้เลยใช่ไหมคะ
-
ซึ่งไดมารูเนี่ยก็มาเปิดที่ประเทศไทย
-
แถบราชประสงค์ นี่แหละค่ะ
-
แล้วก็เป็นห้างที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยนะคะในยุคสมัยนั้น
-
แน่นอนว่าเป็นห้างญี่ปุ่นทั้งที่ก็ต้องมีขนมญี่ปุ่นขายค่ะ
-
เขาเลยเชื่อว่าขนมโตเกียวเนี่ย
-
ถือกำเนิดที่ห้างไทยไดมารูแห่งนี้นี่แหละ
-
โดยที่ห้างแห่งนี้นะคะ
-
ดัดแปลงมาจากขนมโดรายากิของญี่ปุ่นค่ะ
-
โดรายากินี่ก็จะเป็นขนมที่คล้าย ๆ กับ
-
เป็นแป้งแพนเค้กสองชิ้นประกบกันนะคะ
-
แล้วตรงกลางก็ใส่ไส้ค่ะ มักจะเป็นไส้ถั่วแดงนั่นเอง
-
ซึ่งหลายคนคุ้นชื่อกันดีนะคะ
-
เพราะว่าเป็นขนมที่โดราเอมอนชอบนั่นเองค่ะ
-
แต่ว่าแทนที่จะเอามาประกบกันแบบเดิมเนี่ยนะคะ
-
เขาก็เปลี่ยนค่ะ เอามาใช้วิธีม้วนเอานะ
-
แล้วก็เพิ่มไส้ต่าง ๆ เข้าไปค่ะ
-
เสร็จแล้วก็ตั้งชื่อใหม่ให้คนไทยในสมัยที่ยังไม่คุ้นเคย
-
กับภาษาญี่ปุ่นอย่างทุกวันนี้จำได้ง่ายขึ้นนะคะ
-
ไหน ๆ ทำขนมญี่ปุ่นขึ้นมาจะใช้ชื่ออะไรไปดีกว่า
-
ชื่อเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นใช่ไหมคะ
-
ดังนั้น ขนมชนิดนี้ก็เลยได้ชื่อว่า
-
ขนมโตเกียวตั้งแต่นั้นมาค่ะ
-
แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ หลายคนเนี่ย
-
พูดถึงประวัติขนมโตเกียวก็น่าจะหยุดตรงนี้นะว่า
-
ได้รับอิทธิพลมาจากโดรายากิแล้วก็จบ
-
แต่นี่ช่อง Point of View ค่ะ
-
เราจะขุดลึกไปกว่านั้นนะคะ
-
เพราะว่าจริง ๆ แล้วขนมโดรายากิเนี่ย
-
ก็ไม่ใช่ขนมญี่ปุ่นจ๋าขนาดนั้นค่ะ
-
แต่ว่าเป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาติอื่นอีกทีนึงนะคะ
-
ฟังมาถึงตอนนี้นะคะ หลายคนก็น่าจะร้องอ๋อแล้วแหละ
-
เพราะว่าเมื่อกี้วิวก็เผลอหลุดมาแล้วใช่ไหมว่า
-
โดรายากิเนี่ยเกิดจากแพนเค้กสองชิ้นประกบกัน
-
ดังนั้นมันต้องได้รับอิทธิพลจากแพนเค้กแน่ ๆ เลย
-
วิวขอบอกว่าไม่ใช่ค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว
-
แป้งของขนมโดรายากิเนี่ย ไม่ใช่แป้งแพนเค้กนะคะ
-
แต่เป็นแป้งของขนมโปรตุเกสอีกชนิดนึงต่างหาก
-
นั่นก็คือ Castella Cake นะคะ
-
ที่เข้ามาในญี่ปุ่นผ่านมิชชันนารีนะคะ
-
ในสมัยคริสตศตวรรษที่ 16 ค่ะ
-
ขนม castella cake เนี่ยก็จะเป็น sponge cake นะคะ
-
ซึ่งเนื้อเนี่ยมันจะฟูนุ่มกว่าแพนเค้กที่เนื้อจะแน่นกว่า
-
texture ก็จะต่างกันนิดนึงค่ะ
-
ดังนั้นแป้งของโดรายากินะคะ
-
ก็เลยเนื้อจะนุ่มกว่าแพนเค้กแบบคลาสสิกค่ะ
-
ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในที่มานะคะ ที่ทำให้แพนเค้กแบบญี่ปุ่น
-
หรือที่เค้าเรียกว่า แพนเกกิ เนี่ย
-
จะมีเนื้อนุ่มฟูนะคะ
-
แตกต่างจากแพนเค้กสไตล์ตะวันตก
-
ที่จะแบนแล้วก็เนื้อแน่นกว่านั่นเองค่ะ
-
คนไทยเราคุ้นกับแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่นเนอะ
-
ดังนั้นถ้าไปสั่งที่ประเทศแถบตะวันตก อย่าตกใจกันค่ะ
-
ที่แพนเค้กมันจะหนาแล้วก็แน่นนะคะ
-
ซึ่งเอาจริง ๆ เนี่ย สมัยนี้ในญี่ปุ่นเนี่ย ก็มีบางคนนะคะ
-
ประยุกต์ทำโดรายากิแบบต่าง ๆ ขึ้นมามากมายเหมือนกันนะ
-
ทั้งเอาไส้นู้นไส้นี้มาใส่เพิ่มเติม
-
ไม่ได้มีแค่ไส้ถั่วแดงเหมือนแต่ก่อนแล้ว
-
ไส้คัสตาร์ดครีม ไส้เกาลัดก็มีค่ะ
-
หรือบางคนก็ใส่ครีมสดเข้าไปด้วย เรียกว่า
-
นามะโดรายากิ ค่ะ
-
หรือว่าโดรายากิสดนั่นเองนะ
-
หนักกว่านั้นอีกก็เป็นแบบที่ไม่ใช่แบบสองแผ่นประกบกัน
-
ก็มีเหมือนกัน บางคนเขาก็เอามาม้วน ๆ ๆ
-
แล้วใส่ไส้แปลก ๆ นะคะ
-
เรียกว่า โรลโดรายากิ ก็มีเหมือนกัน
-
เอ้า พอเอาโดรายากิมาโรลนี่ก็ คล้ายโตเกียวเข้าไปอีกค่ะ
-
แต่โตเกียวของไทยเนี่ยอาจจะมีการประยุกต์มากกว่านิดนึง
-
คือทำแป้งให้บางแล้วก็กรอบนะคะ
-
เพราะว่าคนไทยเราชอบอะไรกรอบ ๆ ไง ใช่ไหม
-
โอ้โห เห็นไหมคะว่าศิลปะวัฒนธรรมของแต่ละชาติเนี่ย
-
หายากมาก ๆ เลยนะคะที่จะมีอะไรออริจินัล
-
อย่าให้วิวคุ้ยต่อเลยว่าโปรตุเกสเนี่ย
-
ไปได้ castella cake มาจากอะไร
-
เพราะทุกคนก็คิดแค่ว่าอยากทำอาหารของตัวเอง
-
ให้อร่อยแล้วก็ถูกปากมากที่สุด
-
จะสร้างสรรค์ขึ้นมาเพิ่ม ประยุกต์ต่อ
-
หรือว่าได้รับอิทธิพลมาจากชาติอื่น
-
ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบแบบไหนค่ะ
-
สำหรับตอนนี้ คนที่ชอบขนมโตเกียว ฟังวิวมามากพอแล้ว
-
อยากไปทำขนมโตเกียวกินกันหรือยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ ไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ
-
เป็นไงบ้างคะได้ฟังประวัติขนมโตเกียวกันไปแล้ว
-
วันนี้ก็ขอมาสั้น ๆ นิดนึงนะ
-
เพราะว่าเดี๋ยวเราจะไปทำขนมโตเกียวกันค่ะ
-
แต่ก่อนอื่นนะคะ ก่อนที่เราจะไปเริ่มทำแป้งโตเกียว
-
ก่อนที่เราจะไปเริ่มหมุน ๆ ๆ ๆ
-
เหมือนกับคุณลุงหน้าโรงเรียนเนี่ยนะคะ
-
อย่างแรกที่เราต้องทำก่อนเลยก็คือ เตรียมไส้นั่นเองค่ะ
-
ซึ่งขนมโตเกียวเนี่ยมันมีได้หลากหลายไส้เนอะ
-
เพราะว่าแล้วแต่ว่าใครจะประยุกต์ขึ้นมานะคะ
-
อย่างวันนี้ที่วิวจะทำก็กะว่าจะทำไส้เค็มค่ะ
-
ก็จะมีไส้ไข่ ไส้ไส้กรอก แล้วก็ไส้ครีมค่ะ
-
ดังนั้นอย่างแรกที่เราต้องทำกันนะคะก็คือ
-
ไส้ที่ต้องมีการเตรียมการมากที่สุดค่ะ
-
นั่นก็คือไส้ครีมนั่นเอง
-
วันนี้เราจะกวนครีมด้วยตัวเองกันเลยนะคะ
-
มา เริ่มทำกันเลยดีกว่า
-
สำหรับวัตถุดิบในการทำไส้ครีมของเราในวันนี้นะคะ
-
ที่เราจะใช้ก็คือ หนึ่ง ไข่ไก่ค่ะ ใช้แต่ไข่แดงนะ
-
แล้วก็ นม น้ำตาล กลิ่นวนิลา
-
แล้วก็แป้งสาลี ที่จะทำให้ไส้ครีมของเราเนี่ยข้นขึ้นนั่นเองค่ะ
-
เดี๋ยวเรามาเริ่มทำกันเลย
-
ขั้นตอนแรกในการทำไส้ครีมของเรานะคะ
-
ก็คือการแยกไข่ขาวไข่แดงค่ะ
-
ซึ่งเราจะไม่ทำแบบกอล์ฟมาเยือนแล้วโยนไข่ก่อนเริ่มนะคะ
-
แต่ว่าเราจะแยกไข่ขาวไข่แดงเลยนะ
-
ก็เริ่มจากอย่างนี้ก่อนนะคะ
-
จริง ๆ มันก็มีหลายวิธีอะนะในการแยกไข่ขาวไข่แดง
-
แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนเลย
-
แต่วันนี้วิวจะใช้วิธีนี้ ก็ใช้เปลือกไข่นี่แหละ
-
ในการตวงกันไปตวงกันมานะฮะ
-
เราเคยเล่น Cooking Mama กันอยู่แล้ว
-
ก็อันนี้ล่ะค่ะ Cooking Mama Real-life นะคะทุกคน
-
แยกไปแยกมา เอาให้ไข่ขาว
-
ออกไปให้หมดที่สุดที่ทำได้นะคะ
-
อะ ประมาณนี้แล้วกันนะคะ
-
แล้วก็ใส่ไข่แดงลงไปก่อนเลย
-
หลังจากนั้นเราก็ทิ้งไข่ขาวไปค่ะ
-
หรือใครจะเก็บไว้ใช้เป็นแบบไส้โตเกียวไส้ไข่
-
ก็ได้นะเหมือนกัน
-
หลังจากใส่ไขเข้าไปแล้วนะคะ
-
จริง ๆ แล้วเราสามารถใส่สลับกันได้นะ
-
ใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อทีเดียวเลย
-
แล้วเดี๋ยวเราคนทีเดียว
-
แต่ว่าจากประสบการณ์วิวเนี่ยนะคะ
-
ถ้าใส่แป้งลงไปทีหลัง
-
แป้งมันจะลอยอยู่เหนือของเหลวค่ะ แล้วมันจะคนยาก
-
ดังนั้นเราจะใส่แป้งลงไปก่อนนะคะ 1 ช้อนโต๊ะด้วยกันค่ะ
-
แล้วก็โป๊ะมันลงไปเลย
-
นม 1/2 ถ้วยตวงค่ะ
-
ซึ่งอันนี้เป็นถ้วย 1/2 นะคะ หรือ 120 มล. นั่นเอง
-
ใส่ลงไป
-
เทมันลงไปเลย
-
หลังจากนั้นค่ะ ก็คือใส่น้ำตาลลงไป ทั้งหมด 1/6 ถ้วยตวงนะคะ
-
ซึ่งตามสไตล์คนชอบหวานก็จะใส่เยอะหน่อยนะคะ
-
แต่อันนี้อาจจะเยอะไปนิดนึง เอาคืนไปนิดนึง
-
และน้ำตาลก็หกนะคะ
-
เดี๋ยวก็จะโดนแม่ด่า
-
แต่ไม่เป็นไรนะคะ แม่ไม่ได้ดูคลิปนี้
-
รึเปล่า ไม่รู้
-
จุ๊ ๆ ๆ อย่าบอกแม่นะว่าน้ำตาลหก
-
พอใส่ลงไปเรียบร้อยนะคะ
-
เราก็ใส่สิ่งสุดท้าย นั่นก็คือกลิ่นวนิลานั่นเองค่ะ
-
ก็กะ ๆ แล้วก็ใส่ลงไปนะ ตามแต่ว่าชอบความหอมขนาดไหน
-
เป็นอันครบทุกเครื่องปรุงแล้วนะคะ
-
สิ่งถัดไปที่เราต้องทำก็คือ เปิดไฟเลยจ้า
-
จริง ๆ ก็อย่าเปิดไฟแรงเกินไปนะ
-
แต่สำหรับวิว วิวใช้เตาไฟฟ้า
-
มันต้องมีการวอร์มเตาก่อนนิดนึงนะคะ
-
หลังจากนั้นก็จัดการคน คนเข้าไป
-
อยากบอกทุกคนว่าพยายามอย่าหยุดคนนะคะ
-
เพราะว่าไม่งั้นนมมันจะฟู่ แล้วมันก็จะไหม้นะ
-
เราก็จะคนไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละ
-
เห็นไหม มันก็จะเริ่มเข้ากันแล้ว
-
ส่วนแป้งมันก็จะแบบต้องอาศัยการขยี้ ๆ นิดนึง
-
ให้มันเข้ากันนะคะ
-
หลังจากที่เราคนไปสักพักนะคะ
-
เราก็จะเริ่มเห็นว่ามันข้นขึ้นเรื่อย ๆ นะ
-
ตามความสุกของแป้งนะคะ
-
มองด้วยตาอาจจะสังเกตยากนิดนึง
-
แต่ว่าถ้าเป็นคนที่คนเอง
-
ก็จะสัมผัสได้ว่ามันเริ่มข้นขึ้นแล้วนะ
-
นี่เห็นไหม ๆ ๆ ตอนนี้จะเริ่มข้นขึ้นเร็วมากนะคะ
-
เพราะฉะนั้นห้ามหยุดคนเด็ดขาดนะทุกคน
-
เห็นไหม texture มันเริ่มเปลี่ยนนะคะ
-
หลังจากที่มันเริ่มข้นขึ้นเลเวลนึงแล้ว
-
มันเดือดแล้วนะคะ ก็รีบปิดไฟนะคะ
-
แล้วคนต่อนะ อย่าให้มันเดือด
-
อย่าให้มันไหม้ติดก้นหม้อ
-
เห็นไหมว่ามันข้นแล้ว เป็นครีมแล้วนะ
-
ซึ่งหลายคนดูตรงนี้ก็จะแบบ เฮ้ย ครีมมันยังไม่ข้นเลย
-
มันยังดูไม่ใช่ครีมโตเกียว
-
เดี๋ยวพอมันคายความร้อนนะคะ มันก็จะแข็งขึ้นนะคะ
-
เพราะว่าแป้งมันสุกนั่นเอง
-
ตอนนี้เราก็เอาให้มันแค่ลดความร้อนลงหน่อย
-
เพื่อให้มันไม่ติดก้นหม้อ
-
แล้วเดี๋ยวเราจะเอามันไปพักไว้นะคะ
-
เอาล่ะเรียบร้อยค่ะ ทีนี้ก็เสร็จเรียบร้อยนะคะ
-
สำหรับครีมไส้โตเกียวของเรา
-
เดี๋ยวเราทิ้งมันไว้ เดี๋ยวเรากลับมาดูกันทีหลังนะคะ
-
สำหรับตอนนี้ไปทำแป้งโตเกียวกันก่อน
-
ขั้นตอนถัดไปนะคะ
-
เราก็จะมาเริ่มผสมแป้งโตเกียวกันค่ะ
-
อย่างแรกเลยเราจะเอาของแห้งทั้งหมด
-
ผสมกันลงไปก่อนนะคะ ก็คือ แป้งนั่นเอง
-
ซึ่งอันนี้เราจะใช้ทั้งหมด 2 ถ้วยตวงค่ะ
-
แต่ว่าเนื่องจากวิวหาถ้วยตวงถ้วยเต็มของตัวเองไม่เจอนะ
-
วิวก็เลยใช้ถ้วยครึ่งนี่แหละค่ะ
-
ดังนั้นวิวจะใส่ไป 4 นะ อย่าแปลกใจนะจ๊ะทุกคน
-
อะ ใส่ลงไปทั้งหมดหนึ่งถ้วย
-
สามถ้วย
-
โอเค 4 ถ้วยตวงค่ะ เรียบร้อยนะคะ
-
ไปต่อที่ของแห้งชิ้นที่สองนะคะ
-
นั่นก็คือ ผงฟูนั่นเอง
-
อันนี้ผงฟูหรือว่า baking powder นะคะ
-
เราจะใช้ทั้งหมด 1 ช้อนโต๊ะนะฮะ
-
ก็โบ๊ะมันลงไปเลยนะคะ
-
หลังจากนั้นก็ใส่น้ำตาลค่ะ ทั้งหมด 2 ช้อนโต๊ะนะคะ
-
1 2 ช้อนโต๊ะค่ะ
-
แล้วก็ตามด้วยของแห้งอันสุดท้ายนั่นก็คือเกลือนั่นเอง
-
จริง ๆ ต้องใส่ประมาณ 1 ช้อนชานะคะ
-
ถามว่าใส่เกลือลงไปทำไม
-
ก็คือมันเป็นการตัดรสนิดนึงนะ ให้มันแบบกลมกล่อมจ้า
-
1 2
-
เวลาเห็นวิวพูดกับทำอะไรไม่ตรงกันนะคะ
-
ก็คือช้อนตวงมันไม่ได้ขนาดนั่นเองนะคะ
-
ก็เลยบางทีอาจจะใช้ช้อนครึ่ง ก็คือใช้ 2 ช้อนแทนอะไรอย่างนี้
-
แล้วเราก็จัดการคนของแห้งทั้งหมดให้เข้ากันก่อนนะคะ
-
แล้วก็แหวก ๆ ไว้ตรงกลางนิดนึง
-
ของเปียกอย่างแรกที่เราต้องใส่ก็คือ ไข่ไก่ 2 ฟองนั่นเอง
-
เราก็ตอกลงไปเลยนะคะ ไม่ต้องแยกไข่แดงไข่ขาวแล้ว
-
อันนี้เราใช้ทั้งฟองนะ
-
1 2
-
ถัดไปนะคะก็ได้แก่นมนั่นเอง
-
เราใส่ทั้งหมด 1 1/2 ถ้วยตวงนะคะ
-
1 ถ้วยตวงแล้ว
-
แล้วก็อีก 1/2 นะทุกคน
-
ทีนี้ก็ถึงอีกหนึ่งขั้นตอนนะคะที่หลายคนจะตกใจ
-
นั่นก็คือน้ำมันพืชนั่นเอง
-
เราจะใส่น้ำมันพืชลงไป 1/4 ถ้วยตวงค่ะ
-
อะ ใส่มันลงไปเลย
-
ก็เป็นอันครบเรียบร้อยนะคะ
-
แต่สำหรับใครที่ชอบวนิลา
-
ก็สามารถใส่กลิ่นวนิลาลงไปแต่งนิดหน่อยได้เหมือนกันนะคะ
-
เทมันลงไปแล้วเราก็จัดการคนทุกอย่างให้เข้ากันนะคะ
-
คนไปเลย คน ๆ ๆ
-
จริง ๆ สูตรนี้นะคะมันไม่ใช่สูตรแป้งโตเกียวหรอก
-
หลายคนที่เคยทำแพนเค้กมาก็จะคุ้น ๆ ว่า
-
เฮ้ย นี่มันสูตรแพนเค้กรึเปล่า อะไรยังไงนะ
-
ใช่ นี่คือสูตรแพนเค้กค่ะ
-
คือจริง ๆ ถ้าจะเป็นแป้งโตเกียว
-
แบบที่เขาขายกันตามร้านข้างถนนเนี่ยนะ
-
เขาก็จะใช้น้ำปูนใสใช้อะไรด้วย จะเป็นอีกสูตรนึง
-
มันก็จะได้แป้งกรอบ ๆ เหมือนกับแป้งเครป
-
พวกแบบเครปที่เราชอบกินกัน เครปตามโรงเรียนน่ะค่ะ
-
แต่ว่าเนื่องจากเราอยู่บ้านไง น้ำปูนใสก็จะหายากนิดนึง
-
เราใช้แป้งแพนเค้กทดแทนกันก็พอได้ค่ะ
-
เพราะว่าเวลาที่เราเอาแพนเค้ก เอาไม่ใช่สูตร fluffy นะ
-
เอาสูตรแบบแพนเค้กแบน ๆ นะ เอามาทำเป็นโตเกียวเนี่ย
-
มันก็จะได้หน้าตา texture คล้าย ๆ กันอยู่ค่ะ
-
แล้วก็ทำไม่ได้ยากขนาดนั้นนะจ๊ะทุกคน
-
ดังนั้น เวลาเราอยู่บ้านเราก็ประยุกต์ ๆ
-
อะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ
-
อะ เดี๋ยวเราคนให้มันเข้ากันก่อน
-
แล้วเดี๋ยวเรามาดูกันว่าจะเป็นยังไงต่อนะ
-
นี่นะคะ หลังจากที่เราทิ้งไส้ครีมของเราไว้แป๊บนึงนะคะ
-
ตอนนี้ไส้ครีมของเราก็ข้นได้ที่แล้วนะคะ
-
พร้อมสำหรับการทำโตเกียวแล้ว
-
แล้วก็แป้งก็ได้ที่แล้วเรียบร้อย
-
ดังนั้นมาเริ่มทำกันเลยดีกว่าค่ะ
-
อย่างแรกนะคะที่ทุกคนต้องทำก็คือการวอร์มเตานั่นเอง
-
เราต้องหาอุณหภูมิที่เหมาะสมของเตา
-
ซึ่งก็คือไม่ร้อนเกินไปแล้วก็ไม่เย็นเกินไป
-
แต่ว่าแนะนำให้ทดสอบกันดูก่อนนะ
-
ดังนั้นไม่แปลกเลยนะคะ ถ้าชิ้นแรกที่เทลงไปเนี่ยมันจะเละนะ
-
เราหาช้อนมาคันนึงนะ ใครจะใช้ช้อนกินข้าวก็ได้
-
แต่ว่าถ้าบ้านใครมีช้อนตักซุปแบบวิวก็จะเหมาะมากนะคะ
-
ก็อย่างนี้เลย เทมันลงไปนะคะ
-
เสร็จแล้วอย่าแรงเกินไปแล้วอย่าเบาเกินไป
-
ขยี้มันออกมาค่ะ
-
ให้มันหน้าตาเหมือนกับที่คุณลุงโตเกียวทำให้เราดู
-
อ้า ประมาณนั้นเลย เสร็จปุ๊บก็รอมันสุกแป๊บนึงนะคะ
-
สังเกตว่าถ้าใครเคยทำแพนเค้กน่าจะเก็ตนะว่า
-
ไอ้ปุด ๆ ๆ ๆ เนี่ย ที่มันเป็นฟองอากาศนี่แปลว่ามัน
-
แป้งมันเริ่มสุกนะคะ
-
เพราะว่าด้วยความเป็นโตเกียว
-
เราต้องการให้สีข้างนอกมันสวยงามนิดนึง
-
เราก็ต้องใช้เวลารอนิดนึงนะ
-
พอมันเริ่มสุกนะคะ ก็ได้เวลาที่เราจะใส่ไส้ละ
-
อะ อย่างอันนี้วิวก็จะใส่ไส้ครีมก่อนเลยนะคะ
-
เราก็โปะไส้ครีมของเราเนี่ยลงไป
-
ชึบ อ้า เป็นก้อน
-
อยากได้เยอะใส่เยอะ อยากได้น้อยใส่น้อย
-
นี่คือข้อดีของการทำเองนะคะ
-
อันนี้ขั้นตอนนี้ถ้าใครเป็นเด็ก ๆ ระวังนิดนึงนะ
-
มันจะร้อนนะคะ รอให้มันสุกแว่บนึง
-
แล้วก็เอาอะไรแซะ
-
เหมือนถ้าเป็นปกติเราจะใช้เกรียงใช่ไหม
-
เราก็จัดการม้วนมันเลย
-
นี่ เห็นไหม สีสัน
-
นี่นะคะ แล้วก็ทิ้งมันไว้แป๊บนึงให้มันติดกัน
-
แล้วเราก็จะได้ขนมโตเกียวของเราแล้ว
-
เป็นยังไงบ้างทุกคน เหมือนไหม
-
เห็นไหม เหมือนตามร้านเลยนะคะ
-
แล้วเราก็เอาไปใส่ไว้ เรียบร้อย
-
มาทำไส้ต่อไปกันดีกว่า
-
มา เรามาทำไส้ถัดไปกันนะ
-
อะ ก็เหมือนเดิมเลยนะคะ ตักเทมันลงไป
-
แล้วก็ค่อย ๆ บี้นะคะ
-
บี้มันออกมา ๆ
-
อยากได้แผ่นใหญ่ตักเยอะ อยากได้แผ่นเล็กก็ตักน้อยนะคะ
-
หลายคนชอบกินโตเกียวไส้ไข่นกกระทานะ
-
นี่ก็มีมาเหมือนกันนะคะ
-
นี่หลายคนไม่รู้นะว่าไข่นกกระทาอะ
-
จุดที่ต่างจากไข่ไก่ก็คือ
-
เปลือกมันเนี่ยเหนียวกว่าเยอะนะคะ
-
ก็อาจจะ ตอนแกะก็จะลำบากชีวิตนิดนึงนะ
-
มันจะเหนียวมากนะ เพราะว่ามันเล็กด้วยแหละ
-
เทมันลงไป ชึบ
-
ก็ทำการตีไข่ให้แตกนะฮะ
-
ตีไข่ ๆ อะ ราดมันไปทั่ว ๆ นะ
-
เสร็จแล้วก็ นี่เลย ตามสูตรคุณลุงเลยนะฮะ
-
ใส่แม็กกี้ลงไปนิดนึงค่ะ
-
อย่าเยอะไม่งั้นจะเค็มนะทุกคน
-
แล้วก็ใส่พริกไทยลงไปนะฮะ
-
ใส่เสร็จปุ๊บ เรามีไส้กรอกเราก็เอาไส้กรอกแปะลงไปนิดนึง
-
รอทุกอย่างสุกแป๊บนึงนะคะ
-
เสร็จปุ๊บนะคะ พอมันเริ่มสุกอ
-
เราก็จัดการแซะมันออกมา แล้วก็ม้วนเลย
-
ใครกลัวก็มีที่หนีบก็ใช้ได้นะ ใครกลัวร้อน
-
แต่ใครไม่กลัวร้อน จะเอามือไปจกก็ได้
-
แต่ไม่แนะนำนะจ๊ะ
-
ทีนี้นะคะก็ได้จะได้เป็นขนมโตเกียว เรียบร้อย
-
นี่เป็นไงมั่งคะ
-
เราก็เสร็จแล้วนะกับขนมโตเกียวร้อน ๆ จากเตานะคะ
-
ที่เรากินได้เลย กินให้ดูด้วย นี่
-
เผื่อว่าใครจะอยากทำตามนะคะ
-
หือ ใช้ได้ค่ะทุกคน
-
ฝีมือตัวเอง ต้องชมอย่างเดียวนะ ด่าไม่ได้นะคะ
-
และนี่นะคะก็คือ ขนมโตเกียวนั่นเองค่ะ
-
ขนมแบบไทย ๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากขนมญี่ปุ่นนะคะ
-
ก็แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน
-
นั่นก็คือการเลือกรับสิ่งต่าง ๆ มาจากภายนอก
-
แล้วก็ปรับใช้ให้เหมาะกับความเป็นไทยนั่นเองค่ะ
-
ซึ่งจริง ๆ อันนี้มันก็เป็นการศึกษา
-
พวกศิลปะวัฒนธรรมแบบที่วิวพูดบ่อย ๆ นั่นแหละว่า
-
พวกนี้มันอย่าไปโฟกัสเลยว่าอะไรเป็นของประเทศไหน
-
อะไรเป็นของอะไรต่าง ๆ นะคะ
-
อยู่ที่ว่าประเทศไหนรับอะไรไป ได้รับอิทธิพลอะไรไป
-
แล้วมาประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง เป็นยังไงมากกว่าค่ะ
-
สำหรับวันนี้นะคะ ถ้าใครชื่นชมคลิปนี้
-
อยากให้วิวมาทำอะไรแบบนี้อีก
-
ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้เลยค่ะ
-
แล้วก็ถ้าชอบคลิปนี้มาก ๆ
-
อย่าลืม กด Like เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กด Share เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันนะคะ
-
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะทุกคน
-
บาย ๆ สวัสดีค่ะ
-
นี่นะ เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้มีแค่ขนมโตเกียวนะ
-
ที่เราน่าทำในช่วงเวลาแบบนี้
-
จริง ๆ มันมีอีกหลายเรื่องมากเลยที่วิวสามารถ
-
เอามาทำแล้วก็เล่าให้ทุกคนฟังได้นะคะ
-
อย่างเช่น เอาจริง ๆ ตอนแรกคลิปนี้
-
ตอนแรกตั้งใจจะผัดข้าวผัดอเมริกันนะทุกคน
-
เพราะว่ารู้ปะ ข้าวผัดอเมริกันก็เกิดในประเทศไทยนะ
-
ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวไว้มาผัด ข้าวผัดอเมริกัน กัน
-
แล้วก็เล่าเรื่องข้าวผัดอเมริกันละกันค่ะ
-
สำหรับตอนนี้ก็ขออนุญาตไปเคลียร์แป้งทั้งหมดนี้ก่อนนะคะ
-
นึกสภาพวาดทีละหนึ่งช้อน ๆ
-
จะได้ขนมโตเกียวเยอะขนาดไหนนะคะ
-
เอาเป็นว่าใครจะทำตามแล้วอยู่คนเดียว
-
แค่จะกินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ลดสูตรเอาแล้วกันนะคะ
-
หัดใช้วิชาเลขให้เป็นประโยชน์นะ
-
อย่างเช่นวิวใช้หนึ่งถ้วยก็ลดลงเหลือแบบครึ่งถ้วย
-
อะไรอย่างนี้ไปนะจ๊ะ
-
ทำออกกล้องก็ทำสวย ๆ หน่อย
-
พอทำแบบกินเองก็ชิ้นใหญ่ ๆ สะใจ
-
เวลาไปซื้อแล้วมันแพง ชิ้นมันหลายบาท
-
โปะมันเข้าไป อยากได้อะไรบ้าง
-
ไส้กรอกสามชิ้นไรงี้ คิดว่าพอเหรอ ใส่ชีสด้วย
-
โตเกียวไส้ไข่ไส้กรอกชีส
-
ความเบื่อทำให้คนมีครีเอทีฟนะจ๊ะทุกคน
-
เมื่อกี้ตอนโชว์ใช้พริกไทยธรรมดาใช่ป้ะ
-
ตอนกินเองค่ะ พริกไทยฝรั่งค่ะ
-
ทำเองไง อยากใส่อะไรก็ได้
-
ไปพอแล่ว
-
บาย ๆ ทุกคน สวัสดีค่ะ