WEBVTT

00:00:00.000 --> 00:00:01.780
ทำไมที่ญี่ปุ่นไม่มีขนมโตเกียว

00:00:01.780 --> 00:00:03.440
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ

00:00:03.440 --> 00:00:05.340
เป็นไงวันนี้ ฉากหลังแปลกตาไหมคะ

00:00:05.340 --> 00:00:06.580
เพราะว่าตอนนี้ฉากหลังของวิว

00:00:06.580 --> 00:00:08.980
อาจจะไม่ใช่เป็นชั้นหนังสือที่ทุกคนคุ้นเคยกันนะคะ

00:00:08.980 --> 00:00:09.940
แต่ว่าเป็นครัวค่ะ

00:00:09.980 --> 00:00:12.160
ถามว่าทำไม เพราะว่าตอนที่วิวอัดคลิปวิดีโอนี้

00:00:12.160 --> 00:00:14.000
เรายังอยู่ในช่วง Social Distance นะคะ

00:00:14.000 --> 00:00:16.040
เนื่องจากเหตุการณ์ COVID-19 นั่นเอง

00:00:16.080 --> 00:00:18.600
อยากรณรงค์ให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นะคะ

00:00:18.600 --> 00:00:20.460
ซึ่งแน่นอนว่าการอยู่บ้านนาน ๆ เนี่ย

00:00:20.460 --> 00:00:23.420
มันก็จะทำให้เราจะต้อง หากิจกรรมอะไรต่าง ๆ กันนะคะ

00:00:23.440 --> 00:00:26.840
ดังนั้น วันนี้ก็หากิจกรรมมาให้ทุกคนทำไปพร้อม ๆ กับวิวแล้วค่ะ

00:00:26.840 --> 00:00:29.320
ก็คือวันนี้วิวจะมาชวนทุกคนทำ

00:00:29.320 --> 00:00:30.580
ขนมโตเกียวนะคะ

00:00:30.580 --> 00:00:33.060
และแน่นอน การที่คุณอยู่ในช่อง Point of View เนี่ย

00:00:33.120 --> 00:00:35.140
จะมาทำขนมโตเกียวเฉย ๆ มันไม่ได้ค่ะ

00:00:35.140 --> 00:00:37.060
มันต้องมีความรู้ประกอบด้วย

00:00:37.060 --> 00:00:39.260
สนุก อร่อย แล้วต้องได้สาระประกอบด้วยนะคะ

00:00:39.260 --> 00:00:41.600
ดังนั้น เดี๋ยวเรามาคุยเรื่องขนมโตเกียวกัน

00:00:41.620 --> 00:00:44.280
พร้อม ๆ กับทำขนมโตเกียวไปด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ

00:00:44.280 --> 00:00:46.120
ที่สำคัญนะคะ ไม่ได้จะมาทำให้ดูเฉย ๆ

00:00:46.120 --> 00:00:47.180
แต่เดี๋ยวบอกสูตรด้วยค่ะ

00:00:47.180 --> 00:00:50.240
บอกเลยว่าขนมโตเกียวนี่เป็นขนมที่ทำง่ายมาก ๆ นะ

00:00:50.240 --> 00:00:53.240
ดังนั้นใครที่ออกไปกินขนมร้านลุงหน้าโรงเรียนไม่ได้

00:00:53.260 --> 00:00:56.160
แล้วคิดถึงขนมโตเกียวก็มาทำไปพร้อม ๆ กับวิวเลยดีกว่าค่ะ

00:00:56.240 --> 00:00:58.100
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง

00:00:58.100 --> 00:00:59.760
สนุกและก็ได้สาระกันหรือยังคะ

00:00:59.760 --> 00:01:01.500
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ

00:01:04.860 --> 00:01:06.100
พูดถึงขนมโตเกียวนะคะ

00:01:06.100 --> 00:01:08.920
เชื่อว่าเป็นขนมที่แทบทุกคนน่าจะเคยได้กินกันค่ะ

00:01:08.940 --> 00:01:11.600
เพราะว่าชอบขายกันอยู่ตามหน้าโรงเรียนอะไรต่าง ๆ ใช่ไหม

00:01:11.600 --> 00:01:13.600
แล้วก็เป็นขนมที่มีไส้หลากหลายนะคะ

00:01:13.620 --> 00:01:17.320
ซึ่งเอาจริง ๆ หลายคนพอฟังชื่อขนมโตเกียวก็จะรู้สึกว่า

00:01:17.320 --> 00:01:18.920
นี่มันเป็นขนมญี่ปุ่นแน่ ๆ

00:01:18.920 --> 00:01:20.080
แต่ว่าหลาย ๆ คนก็จะแบบ

00:01:20.080 --> 00:01:22.080
เฮ้ย ที่ญี่ปุ่นมันไม่มีขนมโตเกียวนะ

00:01:22.220 --> 00:01:24.640
ขอบอกเลยว่า ประวัติที่มาของขนมโตเกียวเนี่ย

00:01:24.760 --> 00:01:28.260
มันเกิดขึ้นจากการพัฒนาอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยนี่ล่ะค่ะ

00:01:28.300 --> 00:01:29.700
หลายคนฟังแบบนี้ก็จะแบบ

00:01:29.700 --> 00:01:31.900
อ้าว แล้วสรุปมันเป็นอาหารญี่ปุ่นหรืออาหารไทยกันแน่

00:01:32.060 --> 00:01:34.620
ก็ขอแนะนำให้ไปฟังคลิปนี้นะคะ กดไปตรงนี้เลย

00:01:34.620 --> 00:01:36.560
วิวเคยคุยกับอาป้อม หรือว่าเชฟป้อมเอาไว้นะคะ

00:01:36.560 --> 00:01:38.460
ว่าด้วยเรื่อง อาหารไทยคืออะไรค่ะ

00:01:38.640 --> 00:01:41.400
ซึ่งพอฟังคลิปนั้นจบเนี่ย จะทำให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้นนะ

00:01:41.420 --> 00:01:43.540
ว่าเราสามารถนิยามอาหารไทยได้ว่ายังไง

00:01:43.540 --> 00:01:45.900
อย่างไรก็ดี อยากรู้กันไหมว่าขนมโตเกียวเนี่ย

00:01:45.960 --> 00:01:48.440
เข้ามาในประเทศไทยได้ยังไง และมันพัฒนายังไง

00:01:48.600 --> 00:01:50.820
บอกเลยค่ะว่า ประวัติมันก็เป็นแบบนี้นี่แหละ

00:01:50.960 --> 00:01:53.540
ขนมโตเกียวเนี่ยนะคะ ถึงจะชื่อว่าโตเกียวก็ตาม

00:01:53.540 --> 00:01:55.580
แต่ว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นที่จังหวัดโตเกียว

00:01:55.580 --> 00:01:57.180
ประเทศญี่ปุ่น แต่อย่างใดค่ะ

00:01:57.260 --> 00:01:59.680
ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรานี่แหละ

00:01:59.740 --> 00:02:01.740
แต่ว่าจริง ๆ นะคะ ไม่มีใครทราบหรอกว่า

00:02:01.740 --> 00:02:03.660
มันเกิดขึ้นตอนไหน ใครเป็นคนประดิษฐ์

00:02:03.800 --> 00:02:07.060
อย่างไรก็ตามนะคะ จริง ๆ ที่ญี่ปุ่นเนี่ยก็มีขนมอยู่ชนิดนึงค่ะ

00:02:07.060 --> 00:02:09.920
ที่หน้าตาคล้ายขนมโตเกียวสุด ๆ อยู่เหมือนกันนะ

00:02:10.200 --> 00:02:12.080
ชื่อว่าขนม Angomaki ค่ะ

00:02:12.240 --> 00:02:14.600
เป็นเครปสไตล์ญี่ปุ่นนะ ใส่ไส้ถั่วแดง

00:02:14.660 --> 00:02:17.700
แล้วหลัง ๆ ก็มีการประยุกต์ใส่ไส้ต่าง ๆ มากมายเลยค่ะ

00:02:17.780 --> 00:02:20.560
ก็จริง ๆ ชื่อขนมก็มาจาก Ango ที่แปลว่า ถั่วแดง

00:02:20.600 --> 00:02:22.660
แล้วก็ Maki ที่แปลว่า ม้วนนั่นเองนะคะ

00:02:23.040 --> 00:02:26.180
เขาว่าขนมชนิดนี้ เป็นขนมที่ขายในสมัยเอโดะค่ะ

00:02:26.220 --> 00:02:28.000
ขายอยู่ในร้านยากิโซบะนะ

00:02:28.060 --> 00:02:30.780
ใช้เตายากิโซบะนั่นแหละทำขนมขึ้นมานะ

00:02:31.040 --> 00:02:34.200
ดูไปดูมาหน้าตาก็คล้ายขนมโตเกียวอยู่เหมือนกันนะคะ

00:02:34.340 --> 00:02:36.720
แต่ว่าวิวเนี่ยยังหาหลักฐานอ้างอิงไม่ได้นะคะว่า

00:02:36.760 --> 00:02:39.120
สรุปนี่คือที่มาของขนมโตเกียวจริง ๆ หรือเปล่า

00:02:39.240 --> 00:02:41.280
ก็เลยได้แต่เดากันไปเดากันมาค่ะ

00:02:41.280 --> 00:02:42.480
มันอาจจะบังเอิญเหมือนกัน

00:02:42.480 --> 00:02:45.640
หรือมันอาจจะเป็นที่มาของขนมโตเกียวจริง ๆ ก็ได้นะคะ

00:02:45.700 --> 00:02:47.760
เพราะว่า ก็หน้าตามันก็เหมือนขนมโตเกียว

00:02:47.760 --> 00:02:49.940
แล้วมันก็เกิดขึ้นที่โตเกียวจริง ๆ ด้วย

00:02:50.180 --> 00:02:54.480
แต่ที่แน่ ๆ นะคะ ที่โตเกียวนี่ไม่มีขนมชื่อโตเกียวแน่นอนค่ะ

00:02:54.720 --> 00:02:56.900
แต่อย่างไรก็ตามนะคะ หลายคนเนี่ยเขาสัณนิษฐานว่า

00:02:56.920 --> 00:03:00.240
ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2510

00:03:00.240 --> 00:03:02.500
ที่ห้างสรรพสินค้าไทยไดมารูค่ะ

00:03:02.720 --> 00:03:04.680
ห้างนี้ก็อารมณ์คล้าย ๆ เซ็นทรัลนะคะ

00:03:04.680 --> 00:03:07.240
คือมีหลายสาขา ไปเปิดที่ต่างประเทศอะไรต่าง ๆ

00:03:07.240 --> 00:03:08.620
ก็ยังใช้ชื่อ เซ็นทรัล อยู่

00:03:08.780 --> 00:03:10.560
ไดมารูนี่ก็เป็นห้างของญี่ปุ่นนะคะ

00:03:10.560 --> 00:03:11.820
มีหลากหลายที่เลยทีเดียว

00:03:11.840 --> 00:03:14.760
ใครที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นบ่อย ๆ น่าจะคุ้นกันดีค่ะ

00:03:14.820 --> 00:03:17.160
อย่างที่โอซาก้านี่ก็มีทั้ง ไดมารูอุเมะดะ

00:03:17.220 --> 00:03:19.520
ไดมารูชินไซบาชิ อะไรอย่างนี้เลยใช่ไหมคะ

00:03:19.620 --> 00:03:21.920
ซึ่งไดมารูเนี่ยก็มาเปิดที่ประเทศไทย

00:03:22.020 --> 00:03:23.560
แถบราชประสงค์ นี่แหละค่ะ

00:03:23.620 --> 00:03:27.080
แล้วก็เป็นห้างที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยนะคะในยุคสมัยนั้น

00:03:27.200 --> 00:03:30.580
แน่นอนว่าเป็นห้างญี่ปุ่นทั้งที่ก็ต้องมีขนมญี่ปุ่นขายค่ะ

00:03:30.640 --> 00:03:32.240
เขาเลยเชื่อว่าขนมโตเกียวเนี่ย

00:03:32.240 --> 00:03:34.820
ถือกำเนิดที่ห้างไทยไดมารูแห่งนี้นี่แหละ

00:03:34.880 --> 00:03:36.000
โดยที่ห้างแห่งนี้นะคะ

00:03:36.020 --> 00:03:38.640
ดัดแปลงมาจากขนมโดรายากิของญี่ปุ่นค่ะ

00:03:38.720 --> 00:03:40.700
โดรายากินี่ก็จะเป็นขนมที่คล้าย ๆ กับ

00:03:40.700 --> 00:03:42.820
เป็นแป้งแพนเค้กสองชิ้นประกบกันนะคะ

00:03:42.820 --> 00:03:46.220
แล้วตรงกลางก็ใส่ไส้ค่ะ มักจะเป็นไส้ถั่วแดงนั่นเอง

00:03:46.300 --> 00:03:48.160
ซึ่งหลายคนคุ้นชื่อกันดีนะคะ

00:03:48.160 --> 00:03:50.620
เพราะว่าเป็นขนมที่โดราเอมอนชอบนั่นเองค่ะ

00:03:50.660 --> 00:03:53.300
แต่ว่าแทนที่จะเอามาประกบกันแบบเดิมเนี่ยนะคะ

00:03:53.300 --> 00:03:55.660
เขาก็เปลี่ยนค่ะ เอามาใช้วิธีม้วนเอานะ

00:03:55.660 --> 00:03:57.620
แล้วก็เพิ่มไส้ต่าง ๆ เข้าไปค่ะ

00:03:57.620 --> 00:04:00.640
เสร็จแล้วก็ตั้งชื่อใหม่ให้คนไทยในสมัยที่ยังไม่คุ้นเคย

00:04:00.640 --> 00:04:03.380
กับภาษาญี่ปุ่นอย่างทุกวันนี้จำได้ง่ายขึ้นนะคะ

00:04:03.440 --> 00:04:06.620
ไหน ๆ ทำขนมญี่ปุ่นขึ้นมาจะใช้ชื่ออะไรไปดีกว่า

00:04:06.620 --> 00:04:08.480
ชื่อเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นใช่ไหมคะ

00:04:08.600 --> 00:04:10.840
ดังนั้น ขนมชนิดนี้ก็เลยได้ชื่อว่า

00:04:10.840 --> 00:04:12.640
ขนมโตเกียวตั้งแต่นั้นมาค่ะ

00:04:12.720 --> 00:04:14.180
แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ หลายคนเนี่ย

00:04:14.180 --> 00:04:16.740
พูดถึงประวัติขนมโตเกียวก็น่าจะหยุดตรงนี้นะว่า

00:04:16.760 --> 00:04:18.920
ได้รับอิทธิพลมาจากโดรายากิแล้วก็จบ

00:04:18.940 --> 00:04:20.080
แต่นี่ช่อง Point of View ค่ะ

00:04:20.080 --> 00:04:21.720
เราจะขุดลึกไปกว่านั้นนะคะ

00:04:21.720 --> 00:04:23.980
เพราะว่าจริง ๆ แล้วขนมโดรายากิเนี่ย

00:04:24.020 --> 00:04:26.140
ก็ไม่ใช่ขนมญี่ปุ่นจ๋าขนาดนั้นค่ะ

00:04:26.200 --> 00:04:29.780
แต่ว่าเป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาติอื่นอีกทีนึงนะคะ

00:04:29.880 --> 00:04:32.580
ฟังมาถึงตอนนี้นะคะ หลายคนก็น่าจะร้องอ๋อแล้วแหละ

00:04:32.580 --> 00:04:34.620
เพราะว่าเมื่อกี้วิวก็เผลอหลุดมาแล้วใช่ไหมว่า

00:04:34.640 --> 00:04:37.400
โดรายากิเนี่ยเกิดจากแพนเค้กสองชิ้นประกบกัน

00:04:37.440 --> 00:04:40.360
ดังนั้นมันต้องได้รับอิทธิพลจากแพนเค้กแน่ ๆ เลย

00:04:40.380 --> 00:04:42.680
วิวขอบอกว่าไม่ใช่ค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว

00:04:42.680 --> 00:04:45.680
แป้งของขนมโดรายากิเนี่ย ไม่ใช่แป้งแพนเค้กนะคะ

00:04:45.740 --> 00:04:48.600
แต่เป็นแป้งของขนมโปรตุเกสอีกชนิดนึงต่างหาก

00:04:48.640 --> 00:04:50.760
นั่นก็คือ Castella Cake นะคะ

00:04:50.800 --> 00:04:52.800
ที่เข้ามาในญี่ปุ่นผ่านมิชชันนารีนะคะ

00:04:52.840 --> 00:04:55.180
ในสมัยคริสตศตวรรษที่ 16 ค่ะ

00:04:55.220 --> 00:04:57.860
ขนม castella cake เนี่ยก็จะเป็น sponge cake นะคะ

00:04:57.940 --> 00:05:01.340
ซึ่งเนื้อเนี่ยมันจะฟูนุ่มกว่าแพนเค้กที่เนื้อจะแน่นกว่า

00:05:01.340 --> 00:05:03.180
texture ก็จะต่างกันนิดนึงค่ะ

00:05:03.220 --> 00:05:04.900
ดังนั้นแป้งของโดรายากินะคะ

00:05:04.900 --> 00:05:07.440
ก็เลยเนื้อจะนุ่มกว่าแพนเค้กแบบคลาสสิกค่ะ

00:05:07.480 --> 00:05:10.720
ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในที่มานะคะ ที่ทำให้แพนเค้กแบบญี่ปุ่น

00:05:10.720 --> 00:05:12.540
หรือที่เค้าเรียกว่า แพนเกกิ เนี่ย

00:05:12.540 --> 00:05:14.100
จะมีเนื้อนุ่มฟูนะคะ

00:05:14.100 --> 00:05:16.020
แตกต่างจากแพนเค้กสไตล์ตะวันตก

00:05:16.020 --> 00:05:18.320
ที่จะแบนแล้วก็เนื้อแน่นกว่านั่นเองค่ะ

00:05:18.340 --> 00:05:20.660
คนไทยเราคุ้นกับแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่นเนอะ

00:05:20.740 --> 00:05:24.420
ดังนั้นถ้าไปสั่งที่ประเทศแถบตะวันตก อย่าตกใจกันค่ะ

00:05:24.420 --> 00:05:26.360
ที่แพนเค้กมันจะหนาแล้วก็แน่นนะคะ

00:05:26.440 --> 00:05:29.560
ซึ่งเอาจริง ๆ เนี่ย สมัยนี้ในญี่ปุ่นเนี่ย ก็มีบางคนนะคะ

00:05:29.560 --> 00:05:32.800
ประยุกต์ทำโดรายากิแบบต่าง ๆ ขึ้นมามากมายเหมือนกันนะ

00:05:32.800 --> 00:05:34.880
ทั้งเอาไส้นู้นไส้นี้มาใส่เพิ่มเติม

00:05:34.880 --> 00:05:36.940
ไม่ได้มีแค่ไส้ถั่วแดงเหมือนแต่ก่อนแล้ว

00:05:36.960 --> 00:05:39.300
ไส้คัสตาร์ดครีม ไส้เกาลัดก็มีค่ะ

00:05:39.320 --> 00:05:42.080
หรือบางคนก็ใส่ครีมสดเข้าไปด้วย เรียกว่า

00:05:42.080 --> 00:05:43.500
นามะโดรายากิ ค่ะ

00:05:43.500 --> 00:05:45.400
หรือว่าโดรายากิสดนั่นเองนะ

00:05:45.400 --> 00:05:48.360
หนักกว่านั้นอีกก็เป็นแบบที่ไม่ใช่แบบสองแผ่นประกบกัน

00:05:48.360 --> 00:05:50.540
ก็มีเหมือนกัน บางคนเขาก็เอามาม้วน ๆ ๆ

00:05:50.540 --> 00:05:51.920
แล้วใส่ไส้แปลก ๆ นะคะ

00:05:51.920 --> 00:05:54.400
เรียกว่า โรลโดรายากิ ก็มีเหมือนกัน

00:05:54.460 --> 00:05:58.000
เอ้า พอเอาโดรายากิมาโรลนี่ก็ คล้ายโตเกียวเข้าไปอีกค่ะ

00:05:58.100 --> 00:06:00.800
แต่โตเกียวของไทยเนี่ยอาจจะมีการประยุกต์มากกว่านิดนึง

00:06:00.800 --> 00:06:02.840
คือทำแป้งให้บางแล้วก็กรอบนะคะ

00:06:02.860 --> 00:06:05.000
เพราะว่าคนไทยเราชอบอะไรกรอบ ๆ ไง ใช่ไหม

00:06:05.000 --> 00:06:08.180
โอ้โห เห็นไหมคะว่าศิลปะวัฒนธรรมของแต่ละชาติเนี่ย

00:06:08.220 --> 00:06:10.640
หายากมาก ๆ เลยนะคะที่จะมีอะไรออริจินัล

00:06:10.680 --> 00:06:12.540
อย่าให้วิวคุ้ยต่อเลยว่าโปรตุเกสเนี่ย

00:06:12.540 --> 00:06:14.280
ไปได้ castella cake มาจากอะไร

00:06:14.300 --> 00:06:16.500
เพราะทุกคนก็คิดแค่ว่าอยากทำอาหารของตัวเอง

00:06:16.500 --> 00:06:18.260
ให้อร่อยแล้วก็ถูกปากมากที่สุด

00:06:18.300 --> 00:06:20.340
จะสร้างสรรค์ขึ้นมาเพิ่ม ประยุกต์ต่อ

00:06:20.340 --> 00:06:22.160
หรือว่าได้รับอิทธิพลมาจากชาติอื่น

00:06:22.240 --> 00:06:24.400
ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบแบบไหนค่ะ

00:06:24.420 --> 00:06:27.880
สำหรับตอนนี้ คนที่ชอบขนมโตเกียว ฟังวิวมามากพอแล้ว

00:06:27.920 --> 00:06:29.920
อยากไปทำขนมโตเกียวกินกันหรือยังคะ

00:06:29.980 --> 00:06:32.280
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ ไปดูวิธีทำกันเลยค่ะ

00:06:32.320 --> 00:06:34.500
เป็นไงบ้างคะได้ฟังประวัติขนมโตเกียวกันไปแล้ว

00:06:34.500 --> 00:06:35.980
วันนี้ก็ขอมาสั้น ๆ นิดนึงนะ

00:06:35.980 --> 00:06:38.160
เพราะว่าเดี๋ยวเราจะไปทำขนมโตเกียวกันค่ะ

00:06:38.220 --> 00:06:40.960
แต่ก่อนอื่นนะคะ ก่อนที่เราจะไปเริ่มทำแป้งโตเกียว

00:06:40.960 --> 00:06:42.620
ก่อนที่เราจะไปเริ่มหมุน ๆ ๆ ๆ

00:06:42.640 --> 00:06:44.640
เหมือนกับคุณลุงหน้าโรงเรียนเนี่ยนะคะ

00:06:44.660 --> 00:06:47.740
อย่างแรกที่เราต้องทำก่อนเลยก็คือ เตรียมไส้นั่นเองค่ะ

00:06:47.800 --> 00:06:49.900
ซึ่งขนมโตเกียวเนี่ยมันมีได้หลากหลายไส้เนอะ

00:06:49.940 --> 00:06:52.000
เพราะว่าแล้วแต่ว่าใครจะประยุกต์ขึ้นมานะคะ

00:06:52.060 --> 00:06:54.780
อย่างวันนี้ที่วิวจะทำก็กะว่าจะทำไส้เค็มค่ะ

00:06:54.880 --> 00:06:57.260
ก็จะมีไส้ไข่ ไส้ไส้กรอก แล้วก็ไส้ครีมค่ะ

00:06:57.260 --> 00:06:59.340
ดังนั้นอย่างแรกที่เราต้องทำกันนะคะก็คือ

00:06:59.380 --> 00:07:01.500
ไส้ที่ต้องมีการเตรียมการมากที่สุดค่ะ

00:07:01.500 --> 00:07:02.860
นั่นก็คือไส้ครีมนั่นเอง

00:07:02.980 --> 00:07:04.880
วันนี้เราจะกวนครีมด้วยตัวเองกันเลยนะคะ

00:07:04.960 --> 00:07:06.080
มา เริ่มทำกันเลยดีกว่า

00:07:06.140 --> 00:07:08.260
สำหรับวัตถุดิบในการทำไส้ครีมของเราในวันนี้นะคะ

00:07:08.260 --> 00:07:11.260
ที่เราจะใช้ก็คือ หนึ่ง ไข่ไก่ค่ะ ใช้แต่ไข่แดงนะ

00:07:11.260 --> 00:07:14.900
แล้วก็ นม น้ำตาล กลิ่นวนิลา

00:07:15.220 --> 00:07:18.580
แล้วก็แป้งสาลี ที่จะทำให้ไส้ครีมของเราเนี่ยข้นขึ้นนั่นเองค่ะ

00:07:18.580 --> 00:07:19.840
เดี๋ยวเรามาเริ่มทำกันเลย

00:07:19.920 --> 00:07:21.920
ขั้นตอนแรกในการทำไส้ครีมของเรานะคะ

00:07:21.920 --> 00:07:23.760
ก็คือการแยกไข่ขาวไข่แดงค่ะ

00:07:23.820 --> 00:07:26.440
ซึ่งเราจะไม่ทำแบบกอล์ฟมาเยือนแล้วโยนไข่ก่อนเริ่มนะคะ

00:07:26.440 --> 00:07:28.240
แต่ว่าเราจะแยกไข่ขาวไข่แดงเลยนะ

00:07:29.140 --> 00:07:31.320
ก็เริ่มจากอย่างนี้ก่อนนะคะ

00:07:31.400 --> 00:07:33.800
จริง ๆ มันก็มีหลายวิธีอะนะในการแยกไข่ขาวไข่แดง

00:07:33.800 --> 00:07:35.440
แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนเลย

00:07:35.540 --> 00:07:38.560
แต่วันนี้วิวจะใช้วิธีนี้ ก็ใช้เปลือกไข่นี่แหละ

00:07:38.660 --> 00:07:40.720
ในการตวงกันไปตวงกันมานะฮะ

00:07:40.720 --> 00:07:42.520
เราเคยเล่น Cooking Mama กันอยู่แล้ว

00:07:42.560 --> 00:07:45.200
ก็อันนี้ล่ะค่ะ Cooking Mama Real-life นะคะทุกคน

00:07:45.200 --> 00:07:46.840
แยกไปแยกมา เอาให้ไข่ขาว

00:07:46.860 --> 00:07:49.120
ออกไปให้หมดที่สุดที่ทำได้นะคะ

00:07:49.120 --> 00:07:50.400
อะ ประมาณนี้แล้วกันนะคะ

00:07:50.400 --> 00:07:52.380
แล้วก็ใส่ไข่แดงลงไปก่อนเลย

00:07:52.540 --> 00:07:54.540
หลังจากนั้นเราก็ทิ้งไข่ขาวไปค่ะ

00:07:54.540 --> 00:07:57.340
หรือใครจะเก็บไว้ใช้เป็นแบบไส้โตเกียวไส้ไข่

00:07:57.340 --> 00:07:58.380
ก็ได้นะเหมือนกัน

00:07:58.520 --> 00:08:00.020
หลังจากใส่ไขเข้าไปแล้วนะคะ

00:08:00.180 --> 00:08:02.220
จริง ๆ แล้วเราสามารถใส่สลับกันได้นะ

00:08:02.220 --> 00:08:04.060
ใส่ทุกอย่างลงไปในหม้อทีเดียวเลย

00:08:04.060 --> 00:08:04.840
แล้วเดี๋ยวเราคนทีเดียว

00:08:04.840 --> 00:08:06.540
แต่ว่าจากประสบการณ์วิวเนี่ยนะคะ

00:08:06.540 --> 00:08:07.840
ถ้าใส่แป้งลงไปทีหลัง

00:08:07.900 --> 00:08:10.160
แป้งมันจะลอยอยู่เหนือของเหลวค่ะ แล้วมันจะคนยาก

00:08:10.160 --> 00:08:13.260
ดังนั้นเราจะใส่แป้งลงไปก่อนนะคะ 1 ช้อนโต๊ะด้วยกันค่ะ

00:08:13.260 --> 00:08:14.980
แล้วก็โป๊ะมันลงไปเลย

00:08:15.260 --> 00:08:16.840
นม 1/2 ถ้วยตวงค่ะ

00:08:17.040 --> 00:08:20.660
ซึ่งอันนี้เป็นถ้วย 1/2 นะคะ หรือ 120 มล. นั่นเอง

00:08:20.660 --> 00:08:21.680
ใส่ลงไป

00:08:23.020 --> 00:08:24.500
เทมันลงไปเลย

00:08:24.580 --> 00:08:28.120
หลังจากนั้นค่ะ ก็คือใส่น้ำตาลลงไป ทั้งหมด 1/6 ถ้วยตวงนะคะ

00:08:28.120 --> 00:08:30.760
ซึ่งตามสไตล์คนชอบหวานก็จะใส่เยอะหน่อยนะคะ

00:08:30.800 --> 00:08:33.440
แต่อันนี้อาจจะเยอะไปนิดนึง เอาคืนไปนิดนึง

00:08:33.680 --> 00:08:36.700
และน้ำตาลก็หกนะคะ

00:08:37.820 --> 00:08:39.400
เดี๋ยวก็จะโดนแม่ด่า

00:08:39.600 --> 00:08:41.180
แต่ไม่เป็นไรนะคะ แม่ไม่ได้ดูคลิปนี้

00:08:41.180 --> 00:08:42.040
รึเปล่า ไม่รู้

00:08:42.180 --> 00:08:44.320
จุ๊ ๆ ๆ อย่าบอกแม่นะว่าน้ำตาลหก

00:08:44.340 --> 00:08:45.420
พอใส่ลงไปเรียบร้อยนะคะ

00:08:45.420 --> 00:08:48.300
เราก็ใส่สิ่งสุดท้าย นั่นก็คือกลิ่นวนิลานั่นเองค่ะ

00:08:48.300 --> 00:08:51.760
ก็กะ ๆ แล้วก็ใส่ลงไปนะ ตามแต่ว่าชอบความหอมขนาดไหน

00:08:52.500 --> 00:08:55.140
เป็นอันครบทุกเครื่องปรุงแล้วนะคะ

00:08:55.200 --> 00:08:58.360
สิ่งถัดไปที่เราต้องทำก็คือ เปิดไฟเลยจ้า

00:08:58.400 --> 00:09:00.460
จริง ๆ ก็อย่าเปิดไฟแรงเกินไปนะ

00:09:00.460 --> 00:09:01.800
แต่สำหรับวิว วิวใช้เตาไฟฟ้า

00:09:01.800 --> 00:09:03.740
มันต้องมีการวอร์มเตาก่อนนิดนึงนะคะ

00:09:03.880 --> 00:09:06.780
หลังจากนั้นก็จัดการคน คนเข้าไป

00:09:06.840 --> 00:09:09.160
อยากบอกทุกคนว่าพยายามอย่าหยุดคนนะคะ

00:09:09.240 --> 00:09:12.440
เพราะว่าไม่งั้นนมมันจะฟู่ แล้วมันก็จะไหม้นะ

00:09:12.440 --> 00:09:14.260
เราก็จะคนไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละ

00:09:14.320 --> 00:09:15.880
เห็นไหม มันก็จะเริ่มเข้ากันแล้ว

00:09:15.900 --> 00:09:18.840
ส่วนแป้งมันก็จะแบบต้องอาศัยการขยี้ ๆ นิดนึง

00:09:18.840 --> 00:09:20.340
ให้มันเข้ากันนะคะ

00:09:20.560 --> 00:09:21.900
หลังจากที่เราคนไปสักพักนะคะ

00:09:21.900 --> 00:09:24.080
เราก็จะเริ่มเห็นว่ามันข้นขึ้นเรื่อย ๆ นะ

00:09:24.080 --> 00:09:25.860
ตามความสุกของแป้งนะคะ

00:09:25.920 --> 00:09:27.660
มองด้วยตาอาจจะสังเกตยากนิดนึง

00:09:27.660 --> 00:09:29.380
แต่ว่าถ้าเป็นคนที่คนเอง

00:09:29.380 --> 00:09:31.240
ก็จะสัมผัสได้ว่ามันเริ่มข้นขึ้นแล้วนะ

00:09:31.360 --> 00:09:34.060
นี่เห็นไหม ๆ ๆ ตอนนี้จะเริ่มข้นขึ้นเร็วมากนะคะ

00:09:34.120 --> 00:09:36.320
เพราะฉะนั้นห้ามหยุดคนเด็ดขาดนะทุกคน

00:09:36.380 --> 00:09:38.260
เห็นไหม texture มันเริ่มเปลี่ยนนะคะ

00:09:38.340 --> 00:09:40.400
หลังจากที่มันเริ่มข้นขึ้นเลเวลนึงแล้ว

00:09:40.400 --> 00:09:42.540
มันเดือดแล้วนะคะ ก็รีบปิดไฟนะคะ

00:09:42.680 --> 00:09:44.560
แล้วคนต่อนะ อย่าให้มันเดือด

00:09:44.560 --> 00:09:46.100
อย่าให้มันไหม้ติดก้นหม้อ

00:09:46.220 --> 00:09:48.420
เห็นไหมว่ามันข้นแล้ว เป็นครีมแล้วนะ

00:09:48.420 --> 00:09:51.380
ซึ่งหลายคนดูตรงนี้ก็จะแบบ เฮ้ย ครีมมันยังไม่ข้นเลย

00:09:51.380 --> 00:09:52.880
มันยังดูไม่ใช่ครีมโตเกียว

00:09:52.960 --> 00:09:56.000
เดี๋ยวพอมันคายความร้อนนะคะ มันก็จะแข็งขึ้นนะคะ

00:09:56.000 --> 00:09:57.500
เพราะว่าแป้งมันสุกนั่นเอง

00:09:57.520 --> 00:10:00.420
ตอนนี้เราก็เอาให้มันแค่ลดความร้อนลงหน่อย

00:10:00.420 --> 00:10:01.500
เพื่อให้มันไม่ติดก้นหม้อ

00:10:01.500 --> 00:10:03.080
แล้วเดี๋ยวเราจะเอามันไปพักไว้นะคะ

00:10:03.260 --> 00:10:06.220
เอาล่ะเรียบร้อยค่ะ ทีนี้ก็เสร็จเรียบร้อยนะคะ

00:10:06.220 --> 00:10:07.600
สำหรับครีมไส้โตเกียวของเรา

00:10:07.600 --> 00:10:09.900
เดี๋ยวเราทิ้งมันไว้ เดี๋ยวเรากลับมาดูกันทีหลังนะคะ

00:10:09.900 --> 00:10:11.660
สำหรับตอนนี้ไปทำแป้งโตเกียวกันก่อน

00:10:11.840 --> 00:10:12.680
ขั้นตอนถัดไปนะคะ

00:10:12.680 --> 00:10:15.420
เราก็จะมาเริ่มผสมแป้งโตเกียวกันค่ะ

00:10:15.420 --> 00:10:17.320
อย่างแรกเลยเราจะเอาของแห้งทั้งหมด

00:10:17.320 --> 00:10:19.760
ผสมกันลงไปก่อนนะคะ ก็คือ แป้งนั่นเอง

00:10:19.800 --> 00:10:22.260
ซึ่งอันนี้เราจะใช้ทั้งหมด 2 ถ้วยตวงค่ะ

00:10:22.260 --> 00:10:24.960
แต่ว่าเนื่องจากวิวหาถ้วยตวงถ้วยเต็มของตัวเองไม่เจอนะ

00:10:24.960 --> 00:10:26.220
วิวก็เลยใช้ถ้วยครึ่งนี่แหละค่ะ

00:10:26.300 --> 00:10:28.820
ดังนั้นวิวจะใส่ไป 4 นะ อย่าแปลกใจนะจ๊ะทุกคน

00:10:29.060 --> 00:10:31.560
อะ ใส่ลงไปทั้งหมดหนึ่งถ้วย

00:10:32.200 --> 00:10:33.040
สามถ้วย

00:10:33.160 --> 00:10:36.200
โอเค 4 ถ้วยตวงค่ะ เรียบร้อยนะคะ

00:10:36.240 --> 00:10:38.560
ไปต่อที่ของแห้งชิ้นที่สองนะคะ

00:10:38.560 --> 00:10:40.460
นั่นก็คือ ผงฟูนั่นเอง

00:10:40.460 --> 00:10:42.900
อันนี้ผงฟูหรือว่า baking powder นะคะ

00:10:42.900 --> 00:10:45.800
เราจะใช้ทั้งหมด 1 ช้อนโต๊ะนะฮะ

00:10:45.800 --> 00:10:47.080
ก็โบ๊ะมันลงไปเลยนะคะ

00:10:47.200 --> 00:10:50.920
หลังจากนั้นก็ใส่น้ำตาลค่ะ ทั้งหมด 2 ช้อนโต๊ะนะคะ

00:10:51.980 --> 00:10:54.120
1 2 ช้อนโต๊ะค่ะ

00:10:54.200 --> 00:10:56.960
แล้วก็ตามด้วยของแห้งอันสุดท้ายนั่นก็คือเกลือนั่นเอง

00:10:56.980 --> 00:10:59.280
จริง ๆ ต้องใส่ประมาณ 1 ช้อนชานะคะ

00:10:59.320 --> 00:11:00.940
ถามว่าใส่เกลือลงไปทำไม

00:11:00.940 --> 00:11:05.020
ก็คือมันเป็นการตัดรสนิดนึงนะ ให้มันแบบกลมกล่อมจ้า

00:11:05.500 --> 00:11:06.420
1 2

00:11:06.740 --> 00:11:08.760
เวลาเห็นวิวพูดกับทำอะไรไม่ตรงกันนะคะ

00:11:08.760 --> 00:11:11.200
ก็คือช้อนตวงมันไม่ได้ขนาดนั่นเองนะคะ

00:11:11.200 --> 00:11:15.060
ก็เลยบางทีอาจจะใช้ช้อนครึ่ง ก็คือใช้ 2 ช้อนแทนอะไรอย่างนี้

00:11:15.140 --> 00:11:18.360
แล้วเราก็จัดการคนของแห้งทั้งหมดให้เข้ากันก่อนนะคะ

00:11:18.540 --> 00:11:20.240
แล้วก็แหวก ๆ ไว้ตรงกลางนิดนึง

00:11:20.240 --> 00:11:23.120
ของเปียกอย่างแรกที่เราต้องใส่ก็คือ ไข่ไก่ 2 ฟองนั่นเอง

00:11:23.120 --> 00:11:26.120
เราก็ตอกลงไปเลยนะคะ ไม่ต้องแยกไข่แดงไข่ขาวแล้ว

00:11:26.120 --> 00:11:27.640
อันนี้เราใช้ทั้งฟองนะ

00:11:27.880 --> 00:11:29.640
1 2

00:11:29.720 --> 00:11:31.700
ถัดไปนะคะก็ได้แก่นมนั่นเอง

00:11:31.700 --> 00:11:34.160
เราใส่ทั้งหมด 1 1/2 ถ้วยตวงนะคะ

00:11:34.160 --> 00:11:35.320
1 ถ้วยตวงแล้ว

00:11:35.440 --> 00:11:37.940
แล้วก็อีก 1/2 นะทุกคน

00:11:38.000 --> 00:11:40.200
ทีนี้ก็ถึงอีกหนึ่งขั้นตอนนะคะที่หลายคนจะตกใจ

00:11:40.200 --> 00:11:41.160
นั่นก็คือน้ำมันพืชนั่นเอง

00:11:41.160 --> 00:11:43.920
เราจะใส่น้ำมันพืชลงไป 1/4 ถ้วยตวงค่ะ

00:11:44.040 --> 00:11:45.660
อะ ใส่มันลงไปเลย

00:11:45.660 --> 00:11:46.840
ก็เป็นอันครบเรียบร้อยนะคะ

00:11:46.840 --> 00:11:48.020
แต่สำหรับใครที่ชอบวนิลา

00:11:48.040 --> 00:11:51.020
ก็สามารถใส่กลิ่นวนิลาลงไปแต่งนิดหน่อยได้เหมือนกันนะคะ

00:11:51.440 --> 00:11:54.720
เทมันลงไปแล้วเราก็จัดการคนทุกอย่างให้เข้ากันนะคะ

00:11:54.800 --> 00:11:56.500
คนไปเลย คน ๆ ๆ

00:11:56.660 --> 00:11:58.860
จริง ๆ สูตรนี้นะคะมันไม่ใช่สูตรแป้งโตเกียวหรอก

00:11:58.860 --> 00:12:01.280
หลายคนที่เคยทำแพนเค้กมาก็จะคุ้น ๆ ว่า

00:12:01.280 --> 00:12:03.260
เฮ้ย นี่มันสูตรแพนเค้กรึเปล่า อะไรยังไงนะ

00:12:03.260 --> 00:12:04.460
ใช่ นี่คือสูตรแพนเค้กค่ะ

00:12:04.640 --> 00:12:06.460
คือจริง ๆ ถ้าจะเป็นแป้งโตเกียว

00:12:06.460 --> 00:12:09.060
แบบที่เขาขายกันตามร้านข้างถนนเนี่ยนะ

00:12:09.100 --> 00:12:11.740
เขาก็จะใช้น้ำปูนใสใช้อะไรด้วย จะเป็นอีกสูตรนึง

00:12:11.740 --> 00:12:14.080
มันก็จะได้แป้งกรอบ ๆ เหมือนกับแป้งเครป

00:12:14.100 --> 00:12:16.780
พวกแบบเครปที่เราชอบกินกัน เครปตามโรงเรียนน่ะค่ะ

00:12:16.860 --> 00:12:20.260
แต่ว่าเนื่องจากเราอยู่บ้านไง น้ำปูนใสก็จะหายากนิดนึง

00:12:20.260 --> 00:12:22.380
เราใช้แป้งแพนเค้กทดแทนกันก็พอได้ค่ะ

00:12:22.380 --> 00:12:25.420
เพราะว่าเวลาที่เราเอาแพนเค้ก เอาไม่ใช่สูตร fluffy นะ

00:12:25.420 --> 00:12:28.240
เอาสูตรแบบแพนเค้กแบน ๆ นะ เอามาทำเป็นโตเกียวเนี่ย

00:12:28.240 --> 00:12:30.820
มันก็จะได้หน้าตา texture คล้าย ๆ กันอยู่ค่ะ

00:12:30.840 --> 00:12:33.260
แล้วก็ทำไม่ได้ยากขนาดนั้นนะจ๊ะทุกคน

00:12:33.340 --> 00:12:35.240
ดังนั้น เวลาเราอยู่บ้านเราก็ประยุกต์ ๆ

00:12:35.240 --> 00:12:36.100
อะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ

00:12:36.100 --> 00:12:37.560
อะ เดี๋ยวเราคนให้มันเข้ากันก่อน

00:12:37.560 --> 00:12:39.240
แล้วเดี๋ยวเรามาดูกันว่าจะเป็นยังไงต่อนะ

00:12:39.340 --> 00:12:41.980
นี่นะคะ หลังจากที่เราทิ้งไส้ครีมของเราไว้แป๊บนึงนะคะ

00:12:41.980 --> 00:12:43.840
ตอนนี้ไส้ครีมของเราก็ข้นได้ที่แล้วนะคะ

00:12:43.840 --> 00:12:45.540
พร้อมสำหรับการทำโตเกียวแล้ว

00:12:45.540 --> 00:12:47.120
แล้วก็แป้งก็ได้ที่แล้วเรียบร้อย

00:12:47.120 --> 00:12:48.680
ดังนั้นมาเริ่มทำกันเลยดีกว่าค่ะ

00:12:48.760 --> 00:12:51.160
อย่างแรกนะคะที่ทุกคนต้องทำก็คือการวอร์มเตานั่นเอง

00:12:51.160 --> 00:12:53.360
เราต้องหาอุณหภูมิที่เหมาะสมของเตา

00:12:53.360 --> 00:12:55.420
ซึ่งก็คือไม่ร้อนเกินไปแล้วก็ไม่เย็นเกินไป

00:12:55.420 --> 00:12:57.080
แต่ว่าแนะนำให้ทดสอบกันดูก่อนนะ

00:12:57.080 --> 00:13:00.080
ดังนั้นไม่แปลกเลยนะคะ ถ้าชิ้นแรกที่เทลงไปเนี่ยมันจะเละนะ

00:13:00.240 --> 00:13:03.000
เราหาช้อนมาคันนึงนะ ใครจะใช้ช้อนกินข้าวก็ได้

00:13:03.000 --> 00:13:05.780
แต่ว่าถ้าบ้านใครมีช้อนตักซุปแบบวิวก็จะเหมาะมากนะคะ

00:13:05.780 --> 00:13:07.640
ก็อย่างนี้เลย เทมันลงไปนะคะ

00:13:07.740 --> 00:13:10.140
เสร็จแล้วอย่าแรงเกินไปแล้วอย่าเบาเกินไป

00:13:10.140 --> 00:13:11.300
ขยี้มันออกมาค่ะ

00:13:11.320 --> 00:13:14.680
ให้มันหน้าตาเหมือนกับที่คุณลุงโตเกียวทำให้เราดู

00:13:14.860 --> 00:13:18.360
อ้า ประมาณนั้นเลย เสร็จปุ๊บก็รอมันสุกแป๊บนึงนะคะ

00:13:18.420 --> 00:13:20.660
สังเกตว่าถ้าใครเคยทำแพนเค้กน่าจะเก็ตนะว่า

00:13:20.700 --> 00:13:23.440
ไอ้ปุด ๆ ๆ ๆ เนี่ย ที่มันเป็นฟองอากาศนี่แปลว่ามัน

00:13:23.440 --> 00:13:24.880
แป้งมันเริ่มสุกนะคะ

00:13:24.880 --> 00:13:26.140
เพราะว่าด้วยความเป็นโตเกียว

00:13:26.140 --> 00:13:28.080
เราต้องการให้สีข้างนอกมันสวยงามนิดนึง

00:13:28.080 --> 00:13:29.540
เราก็ต้องใช้เวลารอนิดนึงนะ

00:13:29.660 --> 00:13:31.980
พอมันเริ่มสุกนะคะ ก็ได้เวลาที่เราจะใส่ไส้ละ

00:13:31.980 --> 00:13:34.400
อะ อย่างอันนี้วิวก็จะใส่ไส้ครีมก่อนเลยนะคะ

00:13:34.420 --> 00:13:36.600
เราก็โปะไส้ครีมของเราเนี่ยลงไป

00:13:36.740 --> 00:13:38.480
ชึบ อ้า เป็นก้อน

00:13:38.480 --> 00:13:40.180
อยากได้เยอะใส่เยอะ อยากได้น้อยใส่น้อย

00:13:40.180 --> 00:13:41.620
นี่คือข้อดีของการทำเองนะคะ

00:13:41.620 --> 00:13:44.060
อันนี้ขั้นตอนนี้ถ้าใครเป็นเด็ก ๆ ระวังนิดนึงนะ

00:13:44.060 --> 00:13:46.660
มันจะร้อนนะคะ รอให้มันสุกแว่บนึง

00:13:46.660 --> 00:13:48.500
แล้วก็เอาอะไรแซะ

00:13:48.500 --> 00:13:50.260
เหมือนถ้าเป็นปกติเราจะใช้เกรียงใช่ไหม

00:13:50.400 --> 00:13:52.480
เราก็จัดการม้วนมันเลย

00:13:52.640 --> 00:13:53.940
นี่ เห็นไหม สีสัน

00:13:55.360 --> 00:13:58.500
นี่นะคะ แล้วก็ทิ้งมันไว้แป๊บนึงให้มันติดกัน

00:13:58.500 --> 00:14:01.840
แล้วเราก็จะได้ขนมโตเกียวของเราแล้ว

00:14:01.840 --> 00:14:03.740
เป็นยังไงบ้างทุกคน เหมือนไหม

00:14:03.740 --> 00:14:05.240
เห็นไหม เหมือนตามร้านเลยนะคะ

00:14:05.280 --> 00:14:07.280
แล้วเราก็เอาไปใส่ไว้ เรียบร้อย

00:14:07.280 --> 00:14:08.800
มาทำไส้ต่อไปกันดีกว่า

00:14:08.980 --> 00:14:10.980
มา เรามาทำไส้ถัดไปกันนะ

00:14:11.000 --> 00:14:13.940
อะ ก็เหมือนเดิมเลยนะคะ ตักเทมันลงไป

00:14:13.940 --> 00:14:15.740
แล้วก็ค่อย ๆ บี้นะคะ

00:14:16.940 --> 00:14:19.400
บี้มันออกมา ๆ

00:14:19.440 --> 00:14:22.160
อยากได้แผ่นใหญ่ตักเยอะ อยากได้แผ่นเล็กก็ตักน้อยนะคะ

00:14:22.400 --> 00:14:24.600
หลายคนชอบกินโตเกียวไส้ไข่นกกระทานะ

00:14:24.600 --> 00:14:25.940
นี่ก็มีมาเหมือนกันนะคะ

00:14:26.060 --> 00:14:28.060
นี่หลายคนไม่รู้นะว่าไข่นกกระทาอะ

00:14:28.060 --> 00:14:29.600
จุดที่ต่างจากไข่ไก่ก็คือ

00:14:29.600 --> 00:14:31.200
เปลือกมันเนี่ยเหนียวกว่าเยอะนะคะ

00:14:31.280 --> 00:14:34.560
ก็อาจจะ ตอนแกะก็จะลำบากชีวิตนิดนึงนะ

00:14:34.560 --> 00:14:36.460
มันจะเหนียวมากนะ เพราะว่ามันเล็กด้วยแหละ

00:14:36.460 --> 00:14:39.060
เทมันลงไป ชึบ

00:14:40.240 --> 00:14:42.240
ก็ทำการตีไข่ให้แตกนะฮะ

00:14:43.020 --> 00:14:45.920
ตีไข่ ๆ อะ ราดมันไปทั่ว ๆ นะ

00:14:46.380 --> 00:14:49.000
เสร็จแล้วก็ นี่เลย ตามสูตรคุณลุงเลยนะฮะ

00:14:49.000 --> 00:14:50.720
ใส่แม็กกี้ลงไปนิดนึงค่ะ

00:14:52.480 --> 00:14:54.500
อย่าเยอะไม่งั้นจะเค็มนะทุกคน

00:14:54.560 --> 00:14:56.560
แล้วก็ใส่พริกไทยลงไปนะฮะ

00:14:59.160 --> 00:15:02.980
ใส่เสร็จปุ๊บ เรามีไส้กรอกเราก็เอาไส้กรอกแปะลงไปนิดนึง

00:15:02.980 --> 00:15:04.620
รอทุกอย่างสุกแป๊บนึงนะคะ

00:15:04.700 --> 00:15:06.000
เสร็จปุ๊บนะคะ พอมันเริ่มสุกอ

00:15:06.040 --> 00:15:09.200
เราก็จัดการแซะมันออกมา แล้วก็ม้วนเลย

00:15:12.640 --> 00:15:15.420
ใครกลัวก็มีที่หนีบก็ใช้ได้นะ ใครกลัวร้อน

00:15:15.420 --> 00:15:17.100
แต่ใครไม่กลัวร้อน จะเอามือไปจกก็ได้

00:15:17.100 --> 00:15:18.260
แต่ไม่แนะนำนะจ๊ะ

00:15:18.260 --> 00:15:21.040
ทีนี้นะคะก็ได้จะได้เป็นขนมโตเกียว เรียบร้อย

00:15:43.920 --> 00:15:44.860
นี่เป็นไงมั่งคะ

00:15:44.880 --> 00:15:47.720
เราก็เสร็จแล้วนะกับขนมโตเกียวร้อน ๆ จากเตานะคะ

00:15:47.720 --> 00:15:49.620
ที่เรากินได้เลย กินให้ดูด้วย นี่

00:15:49.620 --> 00:15:51.420
เผื่อว่าใครจะอยากทำตามนะคะ

00:15:53.400 --> 00:15:55.900
หือ ใช้ได้ค่ะทุกคน

00:15:55.900 --> 00:15:59.000
ฝีมือตัวเอง ต้องชมอย่างเดียวนะ ด่าไม่ได้นะคะ

00:15:59.160 --> 00:16:01.500
และนี่นะคะก็คือ ขนมโตเกียวนั่นเองค่ะ

00:16:01.500 --> 00:16:04.720
ขนมแบบไทย ๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากขนมญี่ปุ่นนะคะ

00:16:04.780 --> 00:16:07.420
ก็แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน

00:16:07.420 --> 00:16:09.460
นั่นก็คือการเลือกรับสิ่งต่าง ๆ มาจากภายนอก

00:16:09.460 --> 00:16:12.120
แล้วก็ปรับใช้ให้เหมาะกับความเป็นไทยนั่นเองค่ะ

00:16:12.220 --> 00:16:14.080
ซึ่งจริง ๆ อันนี้มันก็เป็นการศึกษา

00:16:14.080 --> 00:16:16.160
พวกศิลปะวัฒนธรรมแบบที่วิวพูดบ่อย ๆ นั่นแหละว่า

00:16:16.240 --> 00:16:18.840
พวกนี้มันอย่าไปโฟกัสเลยว่าอะไรเป็นของประเทศไหน

00:16:18.840 --> 00:16:20.120
อะไรเป็นของอะไรต่าง ๆ นะคะ

00:16:20.120 --> 00:16:23.000
อยู่ที่ว่าประเทศไหนรับอะไรไป ได้รับอิทธิพลอะไรไป

00:16:23.000 --> 00:16:25.340
แล้วมาประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง เป็นยังไงมากกว่าค่ะ

00:16:25.520 --> 00:16:27.320
สำหรับวันนี้นะคะ ถ้าใครชื่นชมคลิปนี้

00:16:27.320 --> 00:16:28.580
อยากให้วิวมาทำอะไรแบบนี้อีก

00:16:28.580 --> 00:16:30.200
ก็คอมเมนต์มาด้านล่างได้เลยค่ะ

00:16:30.260 --> 00:16:31.420
แล้วก็ถ้าชอบคลิปนี้มาก ๆ

00:16:31.420 --> 00:16:32.740
อย่าลืม กด Like เป็นกำลังใจให้วิว

00:16:32.740 --> 00:16:34.720
แล้วก็กด Share เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันนะคะ

00:16:34.720 --> 00:16:36.440
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะทุกคน

00:16:36.440 --> 00:16:38.520
บาย ๆ สวัสดีค่ะ

00:16:38.600 --> 00:16:41.160
นี่นะ เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้มีแค่ขนมโตเกียวนะ

00:16:41.160 --> 00:16:43.400
ที่เราน่าทำในช่วงเวลาแบบนี้

00:16:43.400 --> 00:16:45.740
จริง ๆ มันมีอีกหลายเรื่องมากเลยที่วิวสามารถ

00:16:45.740 --> 00:16:47.620
เอามาทำแล้วก็เล่าให้ทุกคนฟังได้นะคะ

00:16:47.620 --> 00:16:49.340
อย่างเช่น เอาจริง ๆ ตอนแรกคลิปนี้

00:16:49.380 --> 00:16:52.160
ตอนแรกตั้งใจจะผัดข้าวผัดอเมริกันนะทุกคน

00:16:52.160 --> 00:16:54.420
เพราะว่ารู้ปะ ข้าวผัดอเมริกันก็เกิดในประเทศไทยนะ

00:16:54.760 --> 00:16:56.920
ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวไว้มาผัด ข้าวผัดอเมริกัน กัน

00:16:56.920 --> 00:16:58.600
แล้วก็เล่าเรื่องข้าวผัดอเมริกันละกันค่ะ

00:16:58.600 --> 00:17:02.280
สำหรับตอนนี้ก็ขออนุญาตไปเคลียร์แป้งทั้งหมดนี้ก่อนนะคะ

00:17:02.280 --> 00:17:03.940
นึกสภาพวาดทีละหนึ่งช้อน ๆ

00:17:03.940 --> 00:17:05.580
จะได้ขนมโตเกียวเยอะขนาดไหนนะคะ

00:17:05.920 --> 00:17:07.760
เอาเป็นว่าใครจะทำตามแล้วอยู่คนเดียว

00:17:07.940 --> 00:17:10.400
แค่จะกินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ลดสูตรเอาแล้วกันนะคะ

00:17:10.400 --> 00:17:12.280
หัดใช้วิชาเลขให้เป็นประโยชน์นะ

00:17:12.280 --> 00:17:15.420
อย่างเช่นวิวใช้หนึ่งถ้วยก็ลดลงเหลือแบบครึ่งถ้วย

00:17:15.420 --> 00:17:16.340
อะไรอย่างนี้ไปนะจ๊ะ

00:17:16.420 --> 00:17:18.120
ทำออกกล้องก็ทำสวย ๆ หน่อย

00:17:18.120 --> 00:17:21.080
พอทำแบบกินเองก็ชิ้นใหญ่ ๆ สะใจ

00:17:21.140 --> 00:17:23.580
เวลาไปซื้อแล้วมันแพง ชิ้นมันหลายบาท

00:17:23.580 --> 00:17:25.140
โปะมันเข้าไป อยากได้อะไรบ้าง

00:17:25.200 --> 00:17:28.560
ไส้กรอกสามชิ้นไรงี้ คิดว่าพอเหรอ ใส่ชีสด้วย

00:17:30.380 --> 00:17:32.180
โตเกียวไส้ไข่ไส้กรอกชีส

00:17:32.180 --> 00:17:34.520
ความเบื่อทำให้คนมีครีเอทีฟนะจ๊ะทุกคน

00:17:34.520 --> 00:17:36.320
เมื่อกี้ตอนโชว์ใช้พริกไทยธรรมดาใช่ป้ะ

00:17:36.360 --> 00:17:38.740
ตอนกินเองค่ะ พริกไทยฝรั่งค่ะ

00:17:39.880 --> 00:17:41.260
ทำเองไง อยากใส่อะไรก็ได้

00:17:41.320 --> 00:17:42.420
ไปพอแล่ว

00:17:42.420 --> 00:17:43.960
บาย ๆ ทุกคน สวัสดีค่ะ