Return to Video

เน็ตฟลิกซ์เปลี่ยนวงการบันเทิงไปอย่างไร และกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน

  • 0:01 - 0:04
    คริส แอนเดอร์สัน: เป็นเวลานานมาแล้ว
    ที่ผมทั้งหลงใหลและประหลาดใจ
  • 0:04 - 0:06
    ไปกับแง่มุมต่าง ๆ ของเน็ตฟลิกซ์
  • 0:06 - 0:08
    คุณทำสิ่งเกินคาดไว้มากมาย
    ผมขอพูดอย่างนั้น
  • 0:09 - 0:12
    หนึ่งในสิ่งเกินคาดเหล่านั้น
    ผมคิดว่าเมื่อประมาณ 6 ปีมาแล้ว
  • 0:13 - 0:17
    ในตอนนั้นบริษัทกำลังไปได้ดีมาก
  • 0:17 - 0:19
    แต่คุณยังเป็นแค่ผู้ให้บริการถ่ายทอดเนื้อหา
  • 0:19 - 0:22
    ทั้งภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ของผู้อื่น
  • 0:23 - 0:25
    คุณได้พิสูจน์กับวงการลงทุน
    ว่าคุณมาถูกทาง
  • 0:25 - 0:29
    ในการเปลี่ยนธุรกิจ
    จากการส่งแค่แผ่นดีวีดี
  • 0:29 - 0:31
    ไปเป็นการถ่ายทอดเนื้อหาออนไลน์
  • 0:31 - 0:32
    และคุณเติบโตอย่างรวดเร็ว
  • 0:32 - 0:35
    ในตอนนั้นคุณมีสมาชิกถึง 6 ล้านคน
    และมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง
  • 0:35 - 0:38
    แต่คุณก็เลือกช่วงเวลานั้น
  • 0:38 - 0:43
    ในการตัดสินใจครั้งสำคัญยิ่ง
    ชนิดเอาบริษัทเป็นเดิมพัน
  • 0:43 - 0:46
    การตัดสินใจนั้นคืออะไร
    และอะไรเป็นแรงจูงใจให้ทำอย่างนั้นครับ
  • 0:46 - 0:49
    รีด ฮาสติ้งส์: ผู้ประกอบธุรกิจ
    เครือข่ายเคเบิลทีวีในยุคที่ผ่านมา
  • 0:49 - 0:52
    เริ่มจากการใช้เนื้อหาของผู้อื่น
  • 0:52 - 0:54
    และเติบโตผ่านการ
    ผลิตเนื้อหาของตนเอง
  • 0:54 - 0:58
    เราเห็นแนวคิดนี้มาสักพักแล้ว
  • 0:59 - 1:03
    และเราได้พยายามเริ่มสร้างเนื้อหา
    ของเราเองตั้งแต่ปี 2005
  • 1:03 - 1:06
    ครั้งนั้นเรายังมีแค่ดีวีดี
    เราซื้อภาพยนตร์จาก Sundance
  • 1:06 - 1:09
    แมกกี้ จิลเลนฮาล "เชอรี่เบบี้"
    คือสิ่งที่นำเสนอด้วยดีวีดี
  • 1:09 - 1:11
    เราเป็นสตูดิโอขนาดเล็ก
  • 1:11 - 1:13
    แต่มันไม่ได้ผล เพราะเราเล็กเกินไป
  • 1:14 - 1:17
    และอย่างที่คุณกล่าว
    ในปี 2011
  • 1:17 - 1:21
    เท็ด ซารานดอส คู่หูผมที่เน็ตฟลิกซ์
    ซึ่งดูแลเนื้อหา
  • 1:21 - 1:23
    ตื่นเต้นมากกับ "เฮ้าส์ออฟคาร์ดส์"
  • 1:23 - 1:26
    ในขณะนั้น
    มันใช้ทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญ
  • 1:26 - 1:30
    เป็นการลงทุนที่วิเศษมาก
  • 1:30 - 1:32
    ถึงกับแข่งกับเอชบีโอได้เลย
  • 1:32 - 1:35
    เรื่องนั้นนับเป็นพัฒนาการครั้งใหญ่
    ที่เขาทำได้อย่างถูกต้องพอดี
  • 1:35 - 1:39
    คริส: มันสร้างรายได้เป็นสัดส่วนสำคัญ
    ให้กับบริษัทเลยทีเดียว
  • 1:39 - 1:41
    ในตอนนั้น
  • 1:41 - 1:45
    คุณมั่นใจได้อย่างไร
    ว่านั่นคือสิ่งที่คุ้มค่า
  • 1:45 - 1:46
    เพราะถ้ามันผิดพลาด
  • 1:46 - 1:49
    ก็อาจจะทำให้บริษัท
    เสียหายอย่างหนักได้เลย
  • 1:49 - 1:53
    รีด: จริง ๆ แล้วเราไม่มั่นใจเลย
    เป็นความกดดันอย่างใหญ่หลวง
  • 1:53 - 1:55
    พวกเราลุ้นกันมาก
  • 1:57 - 1:58
    ครับ มันน่ากลัว
  • 1:59 - 2:01
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:01 - 2:05
    คริส: นั่นไม่ใช่แค่การสร้างเนื้อหาใหม่
  • 2:05 - 2:08
    ถ้าผมเข้าใจถูกต้อง นั่นคือการ
  • 2:08 - 2:10
    นำเสนอแนวคิด
    การรับชมอย่างไม่หยุดพัก
  • 2:10 - 2:13
    ไม่ใช่แค่ "เราจะสร้างชุดเนื้อหาที่สุดยอด"
  • 2:13 - 2:15
    แต่ ตูม! ทำทั้งหมดรวดเดียวเลย
  • 2:15 - 2:18
    ขณะที่วิธีการรับชมของผู้บริโภค
    แบบนั้นยังไม่เคยถูกทดสอบ
  • 2:18 - 2:19
    ทำไมคุณถึงกล้าเสี่ยงอย่างนั้น
  • 2:20 - 2:22
    รีด: เราเติบโตมากับการส่งแผ่นดีวีดี
  • 2:22 - 2:24
    ซึ่งมีทั้งซีรีส์และการจัดชุดพิเศษ
  • 2:25 - 2:30
    พวกเราทุกคนมีประสบการณ์รับชม
    สุดยอดเนื้อหาจากเอชบีโอ
  • 2:30 - 2:33
    ผ่านทางดีวีดี ติด ๆ กัน หลาย ๆ ตอน
  • 2:33 - 2:35
    ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราฉุกคิด
  • 2:35 - 2:39
    คุณรู้ไหมว่าเนื้อหาที่เป็นตอน ๆ
    โดยเฉพาะซีรีส์
  • 2:39 - 2:42
    จะทรงพลังมาก
    หากรับชมได้ทั้งหมดในคราวเดียว
  • 2:42 - 2:45
    ซึ่งเป็นสิ่งที่โทรทัศน์ปกติทำไม่ได้
  • 2:45 - 2:48
    ทั้งสองประเด็นนั้นทำให้
    การตอบรับดีมาก
  • 2:49 - 2:53
    คริส: แล้วผลออกมาเป็นตัวเลข
    ชัดเจนทันทีเลยไหมครับ
  • 2:53 - 2:57
    ว่าจำนวนชั่วโมงที่มีการรับชม
    เนื้อหาที่ผลิตเอง เช่น "เฮ้าออฟคาร์ดส์"
  • 2:57 - 2:59
    สามารถสร้างกำไรให้คุณได้มากกว่า
  • 2:59 - 3:02
    การซื้อเนื้อหาของคนอื่นมาฉาย
  • 3:03 - 3:07
    รีด: เราเป็นระบบสมาชิก
    จึงไม่ได้เก็บข้อมูลลึกขนาดนั้น
  • 3:07 - 3:10
    ที่จริงแล้วมันเป็นการสร้าง
    ตราสินค้าให้แข็งแกร่งขึ้น
  • 3:10 - 3:12
    เพื่อให้ผู้คนอยากสมัครสมาชิกมากขึ้น
  • 3:12 - 3:14
    ซึ่ง "เฮ้าออฟคาร์ดส์" ทำได้ตามนั้นเลย
  • 3:14 - 3:16
    เพราะผู้คนจำนวนมากจะพูดถึงมัน
  • 3:16 - 3:18
    และเชื่อมโยงชื่อนั้นมาถึงเรา
  • 3:19 - 3:22
    ขณะที่เรื่อง "แมดเม็น"
    สุดยอดซีรีย์ของค่าย ACM ที่เรานำมาฉาย
  • 3:22 - 3:24
    ผู้ชมไม่รู้สึกเชื่อมโยงกับเน็ตฟลิกซ์
  • 3:24 - 3:26
    แม้ผู้ชมจะรับชมผ่านเน็ตฟลิกซ์
  • 3:26 - 3:30
    คริส: คุณจึงผลิตสุดยอดซีรีส์เหล่านี้ขึ้นมา
  • 3:31 - 3:35
    "นาร์โคส์" "เจสซีกา โจนส์"
    "ออเรนจ์อีสเดอะนิวแบล็ก" "เดอะคราวน์"
  • 3:35 - 3:38
    "แบล็กมิลเรอร์" ซึ่งผมชื่นชอบส่วนตัว
  • 3:38 - 3:40
    "เสตรนเจอร์ธิงส์" และอื่น ๆ
  • 3:40 - 3:42
    และในปีนี้
  • 3:42 - 3:45
    ขนาดการลงทุนที่คุณวางแผนไว้
    ในการสร้างเนื้อหาใหม่
  • 3:45 - 3:47
    ไม่ใช่ 100 ล้านเหรียญอีกต่อไป
  • 3:47 - 3:48
    มันจะเป็นเท่าไรครับ
  • 3:48 - 3:51
    รีด: ประมาณ 8 พันล้านเหรียญ ทั่วโลก
  • 3:52 - 3:54
    และนั่นยังไม่พอ
  • 3:55 - 3:58
    ยังมีสุดยอดรายการอีกมาก
    บนเครือข่ายอื่น ๆ
  • 3:58 - 4:00
    หนทางยังยาวไกลสำหรับเรา
  • 4:00 - 4:03
    คริส: แต่ 8 พันล้าน
  • 4:03 - 4:08
    ณ ตอนนี้ก็มากกว่าผู้ผลิตเนื้อหา
    รายอื่น ๆ อยู่แล้วใช่ไหมครับ
  • 4:08 - 4:10
    รีด: ไม่ใช่ครับ
    ดิสนีย์ยังเงินหนากว่านั้น
  • 4:10 - 4:13
    และถ้าซื้อกิจการฟอกซ์ได้
    ดิสนีย์ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นอีก
  • 4:14 - 4:17
    และ 8 พันล้านนี่คือกระจายไปทั่วโลก
  • 4:17 - 4:20
    จริง ๆ มันเลยไม่ได้เยอะขนาดนั้น
  • 4:21 - 4:23
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:23 - 4:26
    คริส: แต่ก็ชัดเจนว่า บาร์รี่ ดิลเลอร์
    และอีกหลายคนในธุรกิจสื่อ
  • 4:26 - 4:28
    รู้สึกว่าบริษัทนี้มาจากไหนก็ไม่รู้
  • 4:28 - 4:31
    จู่ ๆ ก็เติบโตและปฏิวัติธุรกิจอย่างแท้จริง
  • 4:31 - 4:34
    ดังเช่นที่บล็อกบัสเตอร์เคยกล่าวไว้ว่า
  • 4:34 - 4:36
    "เราจะสร้างวีดีโอ
    ที่ได้รับความนิยมถล่มทลาย"
  • 4:36 - 4:39
    และใน 6 ปีให้หลัง
    บล็อกบัสเตอร์ก็ใหญ่เทียบเท่าดิสนีย์
  • 4:39 - 4:44
    ผมหมายความว่า เรื่องแบบนี้
    แทบเป็นไปไม่ได้ แต่กลับเป็นไปได้
  • 4:44 - 4:47
    รีด: ต้องยกให้เป็นความดีของอินเทอร์เน็ต
    ซึ่งก้าวหน้าเร็วมาก
  • 4:48 - 4:50
    ทุกอย่างรอบตัวเราเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
  • 4:50 - 4:55
    คริส: ผมคิดว่า วัฒนธรรมของเน็ตฟลิกซ์
    จะต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดา
  • 4:55 - 5:01
    ที่ทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญ
    ซึ่งผมจะไม่เรียกว่า "บ้าระห่ำ"
  • 5:01 - 5:02
    แต่เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ
    และไตร่ตรองดีแล้ว
  • 5:02 - 5:04
    รีด: ใช่เลย
  • 5:04 - 5:06
    เรามีจุดแข็งอย่างหนึ่ง
    นั่นคือเราเกิดและเติบโตมากับดีวีดี
  • 5:06 - 5:09
    และเรารู้แล้วว่าการเติบโตนั้น
    เป็นแค่เรื่องชั่วคราว
  • 5:09 - 5:11
    ไม่มีใครคิดว่าเราจะส่งดีวีดี
    ทางไปรษณีย์ได้เป็นร้อยปี
  • 5:11 - 5:15
    ซึ่งคุณก็จะวิตกมาก
    ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
  • 5:15 - 5:18
    และนั่นเป็นส่วนหนึ่ง
    ของแนวคิดพื้นฐานของเรา
  • 5:18 - 5:20
    คือการกังวลอย่างจริงจัง
    ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
  • 5:20 - 5:22
    ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบ
  • 5:22 - 5:23
    และเมื่อพูดถึงวัฒนธรรมองค์กร
  • 5:23 - 5:25
    ส่วนสำคัญคืออิสรภาพ
    และความรับผิดชอบ
  • 5:25 - 5:29
    ผมภูมิใจกับตัวเองที่มีเรื่อง
    ให้ตัดสินใจน้อยมากในไตรมาสหนึ่ง
  • 5:30 - 5:32
    และเราทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในเรื่องนี้
  • 5:32 - 5:34
    มีบางครั้งที่ผมไม่ต้องตัดสินใจอะไรเลย
  • 5:34 - 5:35
    ตลอดทั้งไตรมาส
  • 5:36 - 5:37
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:37 - 5:40
    (เสียงปรบมือ)
  • 5:40 - 5:44
    คริส: มีเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก
    เกี่ยวกับพนักงานของคุณ
  • 5:44 - 5:46
    ตัวอย่างเช่น ผมดูในแบบสำรวจ
  • 5:46 - 5:51
    เหมือนว่าพนักงานเน็ตฟลิกซ์
    ได้รับเงินเดือนสูงสุด
  • 5:51 - 5:54
    เมื่อเทียบกับคนในองค์กรอื่น
    ที่มีตำแหน่งใกล้เคียงกัน
  • 5:54 - 5:57
    และมีแนวโน้มจะลาออกต่ำสุด
  • 5:57 - 6:02
    และหากคุณลองค้นหา
    ว่าวัฒนธรรมองค์กรของเน็ตฟลิกซ์มีอะไรบ้าง
  • 6:02 - 6:07
    คุณจะเห็นคำตักเตือนที่น่าประหลาดใจ
    ที่มีต่อพนักงาน
  • 6:07 - 6:08
    ลองยกตัวอย่างสักหน่อยไหมครับ
  • 6:09 - 6:13
    รีด: บริษัทแรกของผม
    ค่อนข้างหมกมุ่นกับกระบวนการ
  • 6:13 - 6:14
    ย้อนไปช่วงทศวรรษ 1990
  • 6:15 - 6:16
    เมื่อใดที่ผู้คนทำงานผิดพลาด
  • 6:16 - 6:18
    เราจะพยายามสร้างกระบวนการ
    ขึ้นมาควบคุม
  • 6:18 - 6:20
    เพื่อให้มั่นใจว่าข้อผิดพลาดนั้น
    จะไม่เกิดขึ้นอีก
  • 6:20 - 6:24
    ซึ่งค่อนข้างจะเถรตรงเกินไป
  • 6:24 - 6:27
    ปัญหาคือ เมื่อเราพยายามจะสร้างระบบ
    ที่ป้องกันความไม่ฉลาดของผู้คน
  • 6:27 - 6:30
    กลับยิ่งมีแต่คนไม่ฉลาด
    ที่อยากทำงานกับเรา
  • 6:31 - 6:35
    และหลังจากนั้น ตลาดก็เปลี่ยนไป
    ในกรณีนี้คือจากภาษา C++ ไปเป็น Java
  • 6:35 - 6:37
    แต่คุณก็รู้ดี ว่ามันย่อมมี
    การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
  • 6:37 - 6:39
    ที่บริษัทไม่สามารถปรับตัวได้
  • 6:39 - 6:42
    และบริษัทก็ถูกซื้อไป
    โดยคู่แข่งรายใหญ่สุด
  • 6:43 - 6:48
    ที่เน็ตฟลิกซ์ ผมจึงเน้นอย่างมาก
    กับการทำงานโดยไม่มีกระบวนการ
  • 6:48 - 6:49
    โดยที่งานไม่โกลาหล
  • 6:50 - 6:52
    เราได้พัฒนากลไกทั้งหมดนี้
  • 6:52 - 6:55
    ทั้งการมีสุดยอดพนักงาน
    การเห็นสอดคล้องกัน
  • 6:55 - 6:58
    การพูดได้อย่างเปิดเผย
    การแบ่งปันข้อมูล
  • 6:58 - 7:01
    ภายในองค์กร ผู้คนต่างทึ่ง
    กับข้อมูลมหาศาลที่แบ่งปันกัน
  • 7:01 - 7:03
    รวมทั้งกลยุทธ์หลักต่าง ๆ
  • 7:03 - 7:06
    เราเหมือนเป็นพวก "ต่อต้านแอปเปิ้ล"
    รู้ไหมว่าเขาแบ่งฝ่ายงานอย่างไร
  • 7:06 - 7:10
    เราทำตรงข้ามกันเลย นั่นคือ
    ทุกคนจะได้รับข้อมูลทุกอย่าง
  • 7:10 - 7:13
    เราพยายามสร้างความรู้สึก
    รับผิดชอบให้กับผู้คน
  • 7:13 - 7:15
    และความสามารถในการทำสิ่งต่าง ๆ
  • 7:15 - 7:18
    ผมพบว่า การตัดสินใจใหญ่ ๆ
    ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
  • 7:18 - 7:21
    ที่ผมไม่รู้มาก่อนเลย
    ซึ่งดีมาก
  • 7:21 - 7:23
    และส่วนใหญ่
    การตัดสินใจเหล่านั้นเกิดเป็นผลดี
  • 7:23 - 7:26
    คริส: เหมือนกับว่าคุณตื่นมา
    แล้วมาอ่านเจอทางอินเทอร์เน็ต
  • 7:26 - 7:27
    รีด: ก็มีบ้าง
  • 7:27 - 7:29
    คริส: แบบว่า อ้อ
    เรากำลังบุกตลาดจีน
  • 7:29 - 7:30
    รีด: ใช่ นั่นเป็นก้าวใหญ่อันหนึ่ง
  • 7:31 - 7:37
    คริส: และคุณอนุญาตให้พนักงาน
    กำหนดวันลาพักร้อนเอง
  • 7:37 - 7:38
    นั่นมัน ..
  • 7:39 - 7:41
    รีด: ใช่ วันลาพักร้อน
    คือสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่ง
  • 7:42 - 7:45
    เพราะในทางปฏิบัติ
    คนส่วนใหญ่ก็จะทำอย่างนั้นอยู่ดี
  • 7:45 - 7:49
    นั่นแหละ เรามีอิสรภาพมากมาย
  • 7:50 - 7:54
    คริส: รวมทั้งความกล้าหาญ ซึ่งคุณอยากให้
    เป็นคุณค่าพื้นฐานขององค์กร
  • 7:55 - 7:57
    รีด: ใช่เลย เราอยากให้พนักงานพูดความจริง
  • 7:57 - 8:01
    เราพูดกันว่า "การเห็นต่างอย่างเงียบ ๆ
    คือการไม่ซื่อสัตย์"
  • 8:02 - 8:07
    เราจะรับไม่ได้ หากปล่อยผ่านการตัดสินใจ
    โดยที่ไม่ได้แสดงความเห็นของคุณออกมา
  • 8:07 - 8:09
    และโดยส่วนใหญ่คือ
    โดยที่ไม่ได้เขียนบันทึกไว้
  • 8:09 - 8:12
    พวกเราเน้นมาก
    กับการตัดสินใจได้อย่างดี
  • 8:12 - 8:15
    ซึ่งต้องอาศัยการโต้เถียง
    ที่เกิดเป็นประจำ
  • 8:15 - 8:18
    แต่เราไม่ได้โต้เถียงอย่างรุนแรง
    เช่น ตะโกนด่ากัน
  • 8:18 - 8:19
    ไม่ใช่แบบนั้น
  • 8:19 - 8:22
    ความสงสัยใคร่รู้
    ทำให้ผู้คนแสดงความเห็น
  • 8:23 - 8:26
    คริส: คุณยังมีอาวุธลับอีกอย่าง
    ที่เน็ตฟลิกซ์
  • 8:26 - 8:29
    นั่นคือคลังข้อมูลมหาศาล
  • 8:29 - 8:32
    เราได้ยินมาในช่วงสัปดาห์นี้
  • 8:32 - 8:36
    ว่าคุณกำลังเดินหน้าทำสิ่งที่น่าทึ่ง
  • 8:36 - 8:38
    โดยสร้างอัลกอริธึม หรือกลไกคำนวณ
    อันชาญฉลาดที่เน็ตฟลิกซ์
  • 8:38 - 8:42
    ย้อนไปก่อนหน้า คุณเปิดกลไกคำนวณ
    ให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็น
  • 8:42 - 8:46
    และประกาศว่า "ถ้ามีใคร
    สร้างระบบแนะนำเนื้อหาได้ดีกว่าเรา
  • 8:46 - 8:48
    เราจะให้รางวัลหนึ่งล้านเหรียญ"
  • 8:48 - 8:49
    และคุณก็จ่ายจริง ๆ
  • 8:49 - 8:52
    สำหรับกลไกคำนวณ
    ที่ดีกว่าของคุณ 10 เปอร์เซ็นต์
  • 8:52 - 8:53
    รีด: ถูกต้องครับ
  • 8:53 - 8:55
    คริส: ถือเป็นการตัดสินใจที่ดีไหม
    จะทำอีกหรือเปล่า
  • 8:55 - 8:59
    รีด: มันน่าตื่นเต้นมาก ตอนนั้นคือปี 2007
  • 8:59 - 9:01
    แต่เราก็ไม่ได้ทำแบบนั้นอีก
  • 9:01 - 9:03
    ชัดเจนว่ามันเป็นเครื่องมือที่
    ออกแบบเป็นพิเศษมาก ๆ
  • 9:04 - 9:07
    ผมมองว่ามันเป็นโชคในจังหวะเวลาที่ดี
  • 9:07 - 9:09
    ไม่ได้เป็นแนวทางการทำงานปกติ
  • 9:10 - 9:14
    เราลงทุนไปเยอะมากในกลไกคำนวณ
  • 9:14 - 9:17
    เพื่อให้เราแนะนำเนื้อหาได้ลงตัว
    กับแต่ละคน
  • 9:17 - 9:20
    เพื่อให้สนุกและง่ายในการค้นหา
  • 9:20 - 9:24
    คริส: ที่คุณทำ เหมือนเป็น
    การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ
  • 9:24 - 9:25
    ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้
  • 9:25 - 9:30
    คุณถามผู้คนว่า
    "คุณคิดอย่างไรกับภาพยนตร์ 10 เรื่องนี้"
  • 9:30 - 9:33
    "เรื่องไหนที่คุณว่าดีที่สุด"
  • 9:33 - 9:38
    และพยายามจับคู่ภาพยนตร์เหล่านั้น
    กับคำแนะนำภาพยนตร์เรื่องใหม่
  • 9:38 - 9:40
    แต่คุณก็เปลี่ยนวิธีไปจากนั้น
  • 9:40 - 9:41
    เล่าให้พวกเราฟังหน่อยครับ
  • 9:41 - 9:42
    รีด: ได้เลยครับ
  • 9:42 - 9:45
    ทุกคนจะให้คะแนน "ชินเลอร์ส์ลิสต์"
    ในระดับ 5 ดาว
  • 9:45 - 9:49
    และให้คะแนน "เดอะดูโอเวอร์"
    ของอดัม แซนด์เลอร์ แค่ 3 ดาว
  • 9:49 - 9:52
    แต่สิ่งที่คุณเปิดดูจริง ๆ
    ในช่วงสุดสัปดาห์
  • 9:52 - 9:54
    เกือบทั้งหมดจะเป็นของอดัม แซนด์เลอร์
  • 9:54 - 9:59
    สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อคุณคิดวิเคราะห์ถึงคุณภาพ
  • 9:59 - 10:01
    มันจะคล้าย ๆ กับความทะเยอะทะยานส่วนตัว
  • 10:02 - 10:04
    แต่การเอาใจผู้ใช้งานได้ดีกว่านั้น
  • 10:05 - 10:07
    คือการพิจารณาสิ่งที่ผู้ใช้งาน
    เลือกจริง ๆ
  • 10:07 - 10:12
    พวกเขาแสดงออกว่า
    ชื่นชอบความบันเทิงในแบบง่าย ๆ
  • 10:12 - 10:15
    คริส: ผมขอเวลาสัก 2-3 นาที
    พูดถึงเรื่องนี้
  • 10:15 - 10:18
    เพราะผมสนใจประเด็นนี้มาก
    ไม่ใช่กับแค่เน็ตฟลิกซ์
  • 10:18 - 10:20
    แต่เป็นภาพรวมของอินเทอร์เน็ต
  • 10:20 - 10:22
    ความแตกต่างระหว่างคุณค่า
    ในอุดมคติ
  • 10:22 - 10:25
    กับสิ่งที่แสดงออกจริง
  • 10:25 - 10:28
    ซึ่งคุณฉลาดมากที่ไม่สนใจ
    กับสิ่งที่ผู้คนพูดมากนัก
  • 10:28 - 10:32
    แต่สังเกตสิ่งที่ผู้คนทำ
    จนค้นพบสิ่งนั้น
  • 10:32 - 10:36
    "สุดยอดมาก ผมไม่เคยคิดว่าจะชอบดู
    รายการทำอาหารแนวใหม่
  • 10:36 - 10:38
    ที่ชื่อ "เนลด์อิต"
  • 10:38 - 10:39
    รีด: มันชื่อ "เนลด์อิต" ใช่มั้ย
  • 10:39 - 10:42
    คริส: มันตลกมาก ผมไม่เคยคิดมาก่อน
  • 10:42 - 10:44
    แต่มันอาจจะมีความเสี่ยงหรือไม่
  • 10:44 - 10:49
    หากเราทำตามสิ่งที่ระบบค้นพบ
    จากพฤติกรรมคนดูมากเกินไป
  • 10:49 - 10:52
    รีด: พวกเรายินดีมาก ที่ทำให้ผู้คนมีความสุข
  • 10:52 - 10:56
    บางครั้งคุณก็อยากผ่อนคลาย
    และดูรายการอย่าง "เนลด์อิต"
  • 10:57 - 10:59
    ซึ่งสนุก ไม่เครียด
  • 10:59 - 11:02
    แต่ในบางเวลา ผู้คนก็อยากดูรายการที่เข้มข้น
  • 11:02 - 11:05
    "มัดบาวน์" ได้รับการเสนอชื่อ
    ชิงออสการ์
  • 11:05 - 11:07
    มันเป็นรายการที่ยอดเยี่ยมและเข้มข้น
  • 11:08 - 11:12
    ผู้คนรับชม "มัดบาวน์" รวมกันมากกว่า
    20 ล้านชั่วโมง
  • 11:12 - 11:16
    ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหาศาล
    กว่าการฉายในโรงภาพยนตร์
  • 11:16 - 11:17
    หรือช่องทางใด ๆ
  • 11:17 - 11:21
    เรามีทั้งรายการที่เหมือนขนมหวาน
    แต่ก็มีรายการที่เป็นผักมีประโยชน์มากมาย
  • 11:21 - 11:26
    และถ้าคุณได้รับในสัดส่วนที่พอดี
    คุณก็ได้บริโภคถูกหลักโภชนาการ
  • 11:26 - 11:28
    คริส: ใช่เลย
  • 11:28 - 11:33
    แต่จะเป็นไปได้ไหมที่กลไกคำนวณ
    จะพาคนดูออกไปจากผักมีประโยชน์
  • 11:33 - 11:34
    ไปหาแต่ขนมหวาน
  • 11:34 - 11:35
    ถ้าคุณไม่จัดการให้ดี
  • 11:35 - 11:38
    เราเพิ่งคุยกันถึงยูทิวบ์ ที่กลไกคำนวณ
  • 11:38 - 11:41
    ที่ฉลาดมากขึ้น
  • 11:41 - 11:46
    มีแนวโน้มที่จะพาคนไปชมเนื้อหาที่สุดโต่ง
    หรือจำเพาะเจาะจงมากขึ้น
  • 11:46 - 11:49
    จึงจินตนาการได้ไม่ยาก
    ว่ากลไกคำนวณของเน็ตฟลิกซ์
  • 11:49 - 11:53
    จากค่าพฤติกรรมต่าง ๆ
    ที่ระบบค้นพบ จะค่อย ๆ
  • 11:53 - 11:54
    รีด: ก็เป็นไปได้
  • 11:54 - 11:58
    คริส: พวกเราคงเคยรับชม
    เนื้อหาวาบหวิวที่มีความรุนแรง
  • 11:58 - 11:59
    หรือบางคนก็อาจจะเคย
  • 11:59 - 12:01
    แต่ว่า
  • 12:01 - 12:03
    (เสียงหัวเราะ)
  • 12:03 - 12:04
    ไม่ใช่ผม
  • 12:05 - 12:08
    ผมเป็นเด็กไร้เดียงสา
    ไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงเรื่องพวกนี้
  • 12:08 - 12:09
    แต่
  • 12:09 - 12:10
    (เสียงหัวเราะ)
  • 12:10 - 12:12
    แต่มันก็เป็นไปได้ใช่ไหม
  • 12:13 - 12:16
    รีด: ในทางปฏิบัติ คุณพูดถูก
    ที่เราไม่ควรอิงตามกลไกคำนวณอย่างเดียว
  • 12:16 - 12:18
    มีส่วนผสมของความเห็นกับสิ่งที่เรายึดถือ
  • 12:18 - 12:20
    และเราเป็นผู้คัดสรรเนื้อหามาบริการ
  • 12:20 - 12:22
    เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการ
    อย่างเฟซบุ๊คหรือยูทิวบ์
  • 12:22 - 12:25
    เรามีประเด็นที่ต้องคิดน้อยกว่า
  • 12:25 - 12:30
    ซึ่งก็คือ อะไรคือเนื้อหาอันยอดเยี่ยม
    ที่เราจะได้มา
  • 12:30 - 12:33
    แต่ในมุมมองนั้น กลไกคำนวณก็เป็นเครื่องมือ
  • 12:34 - 12:39
    คริส: จอห์น ดูเออร์เพิ่งพูดถึง
    การประเมินสิ่งที่ควรประเมิน
  • 12:39 - 12:42
    สำหรับธุรกิจ สิ่งที่ควรประเมิน ผมคิดว่า
  • 12:42 - 12:44
    คือการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการ
  • 12:44 - 12:48
    ซึ่งผมคิดว่า
    เป็นข้อได้เปรียบที่แตกต่างของคุณ
  • 12:49 - 12:55
    ฐานผู้ใช้บริการเติบโตขึ้นตามระยะเวลา
    ที่เขาใช้ไปกับเน็ตฟลิกซ์หรือเปล่า
  • 12:56 - 12:57
    ทำให้พวกเขา
    ยังคงใช้บริการต่อหรือไม่
  • 12:58 - 13:02
    หรือเป็นผลจากการมีรายการ
  • 13:02 - 13:04
    ที่ไม่ต้องใช้เวลามาก
  • 13:04 - 13:07
    อย่างเช่นการชมรายการ
    "เนลด์อิต" จบทั้งชุด หรืออะไรก็ตาม
  • 13:07 - 13:09
    ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เข้าถึงได้มากกว่า
    พวกเขาอาจจะคิดว่า
  • 13:09 - 13:12
    "เรื่องนี้มันอิ่มใจ
    เรื่องนั้นมันสุดยอด
  • 13:12 - 13:14
    ฉันดีใจที่ได้ดูเรื่องนี้
    ร่วมกับครอบครัว"
  • 13:14 - 13:17
    ที่ว่ามานั้นเป็นแนวทางหนึ่ง
    ของรูปแบบธุรกิจหรือไม่
  • 13:17 - 13:19
    ที่ซึ่งมีปริมาณเนื้อหาน้อยกว่า
    แต่ได้รับอรรถรสมากกว่า
  • 13:19 - 13:22
    หรืออาจจะเป็นเนื้อหาจรรโลงใจ
  • 13:23 - 13:25
    รีด: และผู้คนก็เลือกชม
    เนื้อหาที่จรรโลงใจ
  • 13:25 - 13:28
    คุณคิดถูกแล้ว
    คือเมื่อผู้คนพูดถึงเน็ตฟลิกซ์
  • 13:28 - 13:30
    เขาจะพูดถึงรายการ
    ที่ทำให้เขาฉุกคิด
  • 13:30 - 13:33
    "13 รีซันส์วาย" หรือ "เดอะคราวน์"
  • 13:33 - 13:36
    ล้วนแต่ส่งผลกระทบด้านบวก
    อย่างมากมาย
  • 13:36 - 13:39
    แม้แต่การเติบโต
    ของฐานผู้ใช้บริการที่คุณพูดถึง
  • 13:39 - 13:41
    ที่มาจากรายการใหญ่และน่าจดจำเหล่านั้น
  • 13:41 - 13:43
    แต่สิ่งที่เราอยากทำ
    คือการนำเสนอความหลากหลาย
  • 13:43 - 13:47
    คุณไม่อยากดูเนื้อหาแบบเดิม ๆ ทุกคืน
    ต่อให้เป็นเนื้อหาที่คุณชอบก็ตาม
  • 13:47 - 13:48
    คุณอยากลองดูเนื้อหาที่ต่างกันไป
  • 13:48 - 13:50
    ซึ่งเราไม่พบว่าผู้ชม
  • 13:51 - 13:54
    ชอบเนื้อหาวาบหวิวที่มีความรุนแรง
  • 13:54 - 13:57
    กลับกัน เราพบว่ามีการรับชม
    เนื้อหาที่หลากหลาย
  • 13:57 - 14:01
    "แบล็กมิลเรอร์" ตอนนี้เรากำลังถ่ายทำภาค 5
  • 14:02 - 14:05
    ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังไปได้ไม่สวย
    ตอนที่ยังฉายทางบีบีซีเท่านั้น
  • 14:05 - 14:08
    แต่กับรูปแบบการเผยแพร่แบบตามสั่ง
  • 14:08 - 14:11
    คุณสามารถผลิตรายการที่
    ใหญ่กว่ามาก ๆ ได้
  • 14:11 - 14:14
    คริส: คุณจะบอกว่ามนุษย์
    สามารถเสพติดได้
  • 14:14 - 14:16
    โดยทั้งเทพและมารของเขาเอง
  • 14:16 - 14:20
    รีด: แต่ก็นั่นแหละ
    เราพยายามไม่คิดถึงคำว่าเสพติด
  • 14:20 - 14:22
    แต่เราคิดถึงมันในด้านที่ว่า
  • 14:22 - 14:26
    คุณจะทำอะไรเมื่อคุณอยากจะพักผ่อน
  • 14:26 - 14:30
    คุณสามารถเปิดทีวีทั่วไป เล่นวิดีโอเกมส์
    หรือดูยูทิวบ์
  • 14:30 - 14:31
    หรือคุณอาจจะดูเน็ตฟลิกซ์
  • 14:31 - 14:35
    และถ้าเราจะทำตัวเองให้ดีเท่าที่จะทำได้
    ซึ่งเรามีเนื้อหาที่หลากหลาย
  • 14:35 - 14:37
    ผู้คนก็จะเลือกรับชมเรามากขึ้น
  • 14:37 - 14:41
    คริส: แต่ในองค์กรของคุณ
    ก็มีคน
  • 14:41 - 14:46
    ที่คอยติดตามต่อเนื่อง
    ถึงผลกระทบ
  • 14:46 - 14:49
    จากสุดยอดกลไกการคำนวณ
    ที่คุณสร้างขึ้น
  • 14:49 - 14:50
    แค่เพื่อให้รู้เท่าทันว่า
  • 14:50 - 14:53
    "เราแน่ใจไหมว่านี่คือทิศทาง
    ที่เราอยากไป"
  • 14:54 - 14:56
    รีด: ผมคิดว่าพวกเราได้เรียนรู้
  • 14:56 - 14:59
    แล้วคุณก็จะรู้สึกถ่อมตัวและพูดว่า
    "เห็นมั้ย ไม่มีเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ"
  • 14:59 - 15:03
    กลไกการคำนวณก็เป็นส่วนหนึ่ง
    มีเรื่องวิธีการผลิตเนื้อหาต่าง ๆ
  • 15:03 - 15:05
    และก็ยังมีด้านความสัมพันธ์
    กับสังคมต่าง ๆ
  • 15:06 - 15:08
    มีหลายประเด็น
    ที่เราต้องพิจารณา
  • 15:08 - 15:12
    ถ้าคุณหมกมุ่นเกินไป
    กับการ "เพิ่มยอดรับชม"
  • 15:12 - 15:13
    หรือ "เพิ่มผู้ใช้บริการ"
  • 15:14 - 15:18
    ก็เป็นไปได้ยากที่จะเติบโต
    หรือเป็นบริษัทยิ่งใหญ่อย่างที่ต้องการ
  • 15:18 - 15:21
    เราคิดว่าความสำเร็จ
    ประเมินได้จากหลากปัจจัย
  • 15:21 - 15:24
    คริส: พูดถึงกลไกการคำนวณ
    ที่เป็นประเด็นขึ้นมา
  • 15:24 - 15:26
    คุณเองเป็นกรรมการของเฟซบุ๊ค
  • 15:26 - 15:30
    และคุณก็ให้คำแนะนำกับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
  • 15:31 - 15:36
    เราควรรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ
    มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ที่ผู้คนยังไม่รู้
  • 15:37 - 15:40
    รีด: หลายคนรู้จักเขา หรือเคยเจอเขามาแล้ว
  • 15:40 - 15:42
    ผมหมายถึง เขาเป็นคนพิเศษ
  • 15:42 - 15:44
    เป็นคนชั้นนำอย่างแท้จริง
  • 15:44 - 15:50
    และเครือข่ายสังคม ไม่ว่าจะเป็นยูทิวบ์
    หรือเฟซบุ๊ค
  • 15:50 - 15:53
    ก็ชัดเจนว่ามีความพยายาม
    ที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว
  • 15:53 - 15:55
    ซึ่งจะเห็นได้จากเทคโนโลยีใหม่ต่าง ๆ
  • 15:55 - 15:58
    อย่างเมื่อวานนี้ที่เราพูดถึง
    ดีเอ็นเอที่พิมพ์ออกมาได้
  • 15:58 - 16:02
    ซึ่งมันมีทั้งด้านยอดเยี่ยมและด้านน่ากลัว
  • 16:02 - 16:04
    เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้
  • 16:04 - 16:07
    เช่นโทรทัศน์ที่เริ่มเป็นที่นิยมในสหรัฐ
    ในยุคปี 2500 เศษ ๆ
  • 16:08 - 16:10
    มันถูกเรียกว่า "ดินแดนรกร้างอันกว้างใหญ่"
  • 16:10 - 16:13
    และโทรทัศน์จะทำลายความคิดผู้คน
  • 16:13 - 16:15
    แต่ความคิดผู้คนก็ยังเป็นปกติดี
  • 16:15 - 16:17
    มันมีการปรับตัวเกิดขึ้น
  • 16:17 - 16:20
    แต่ผมมองว่า
  • 16:20 - 16:22
    เทคโนโลยีใหม่มีทั้งด้านบวกและลบ
  • 16:23 - 16:25
    สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
    เราเพิ่งเข้าใจมัน
  • 16:25 - 16:28
    คริส: คณะกรรมการบริหารของเฟซบุ๊ค
    ให้ความสำคัญแค่ไหน
  • 16:28 - 16:30
    กับการพิจารณาประเด็นเหล่านี้
  • 16:30 - 16:32
    หรือเชื่อว่า จริง ๆ แล้ว
  • 16:32 - 16:35
    บริษัทถูกวิจารณ์ในแง่ลบเกินไป
  • 16:35 - 16:37
    รีด: เฟซบุ๊คไม่ได้ถูกปฏิบัติ
    อย่างเกินเลยไปทั้งหมด
  • 16:37 - 16:40
    ซึ่งมาร์คก็เป็นผู้นำในการ
    ปรับปรุงเฟซบุ๊ค
  • 16:40 - 16:43
    และเขาจริงจังกับเรื่องนี้อย่างมาก
  • 16:45 - 16:47
    คริส: รีด ผมอยากพูดถึงความมุ่งมั่น
    อีกด้านของคุณ
  • 16:47 - 16:52
    คุณบริหารเน็ตฟลิกซ์ได้อย่างดีเลิศ
    คุณเป็นมหาเศรษฐี
  • 16:52 - 16:57
    และคุณทุ่มเทเวลาและเงินทองจำนวนมาก
    ไปกับการศึกษา
  • 16:57 - 16:58
    รีด: ใช่ครับ
  • 16:58 - 17:01
    คริส: ทำไมต้องเป็นด้านการศึกษา
    และตอนนี้คุณทำอะไรอยู่บ้าง
  • 17:01 - 17:05
    รีด: ทันทีที่จบปริญญาตรี
    ผมไปเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
  • 17:05 - 17:09
    ต่อมาผมก็ทำธุรกิจ
    และกลายมาเป็นนักสังคมสงเคราะห์
  • 17:09 - 17:11
    ผมคิดว่าผมเอียงไปในด้านการศึกษา
  • 17:12 - 17:14
    และพยายามสร้างความแตกต่าง
    ให้เกิดขึ้น
  • 17:14 - 17:16
    และเรื่องสำคัญที่ผมค้นพบก็คือ
  • 17:16 - 17:19
    นักการศึกษาอยากทำงาน
    กับนักการศึกษาคนอื่น ๆ ที่มีฝีมือ
  • 17:19 - 17:22
    เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่มีเอกลักษณ์
    ในหลายด้านให้กับเยาวชน
  • 17:22 - 17:25
    ระบบของเราต้องการความหลากหลาย
  • 17:25 - 17:26
    มากกว่าที่เรามีตอนนี้
  • 17:26 - 17:30
    และต้องการองค์กรการศึกษา
    ที่เน้นนักการศึกษามากกว่านี้
  • 17:30 - 17:32
    ปัญหาที่ซับซ้อน คือ ขณะนี้ในสหรัฐฯ
  • 17:32 - 17:36
    หลายโรงเรียน
    ถูกบริหารโดยคณะกรรมการท้องถิ่น
  • 17:36 - 17:39
    และโรงเรียนต้องบรรลุความต้องการ
    ที่หลากหลายในชุมชน
  • 17:39 - 17:42
    และสิ่งที่เราต้องการคือ
    ความหลากหลายยิ่ง ๆ ขึ้นไป
  • 17:42 - 17:45
    ในสหรัฐฯ มีโรงเรียนรัฐบาล
    อยู่รูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า
  • 17:45 - 17:48
    โรงเรียนรัฐบาลที่เป็นอิสระ
    ซึ่งบริหารโดยองค์กรไม่แสวงกำไร
  • 17:48 - 17:50
    และผมให้ความสำคัญกับ
    โรงเรียนลักษณะนี้มาก
  • 17:50 - 17:52
    เพราะถ้าเรามีโรงเรียน
    ที่บริหารโดยองค์กรไม่แสวงกำไร
  • 17:52 - 17:56
    โรงเรียนเหล่านั้นจะมีเป้าหมายชัดเจน
    และดูแลนักการศึกษาได้ดี
  • 17:56 - 17:59
    ผมเป็นกรรมการเครือโรงเรียนรัฐบาล
    ที่เป็นอิสระ KIPP
  • 17:59 - 18:00
    ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายขนาดใหญ่
  • 18:01 - 18:06
    เยาวชน 30,000 คนต่อปี ได้รับการศึกษา
    ที่กระตุ้นการเรียนรู้อย่างมาก
  • 18:06 - 18:10
    คริส: วาดภาพให้ผมเข้าใจหน่อย
    ว่าโรงเรียนควรเป็นอย่างไร
  • 18:10 - 18:11
    รีด: ขึ้นอยู่กับเด็ก ๆ
  • 18:11 - 18:14
    คิดในแง่ว่า เมื่อมีเด็กหลากหลาย
    ก็มีความต้องการที่หลากลาย
  • 18:14 - 18:16
    ที่จะต้องบรรลุ
  • 18:16 - 18:17
    จึงไม่มีตัวแบบตายตัว
    เพียงอย่างเดียว
  • 18:17 - 18:19
    ซึ่งคุณอยากจะสามารถเลือกได้
  • 18:19 - 18:21
    ขึ้นอยู่กับเด็กและ
    สิ่งที่คุณคิดว่าเด็กจะต้องการ
  • 18:21 - 18:25
    ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับผู้สอน
    รวมถึงการตั้งคำถามและกระตุ้นให้เรียนรู้
  • 18:25 - 18:26
    ประมาณนั้น
  • 18:26 - 18:29
    ซึ่งการที่เด็ก ป.5
    กว่า 30 คน
  • 18:29 - 18:31
    ต้องเรียนสิ่งเดียวกัน
    ในเวลาเดียวกัน
  • 18:31 - 18:34
    ทำให้ภาพยุคอุตสาหกรรม
    ชัดขึ้นมาทันที
  • 18:34 - 18:38
    แต่การเปลี่ยนแปลงภายใต้
    โครงสร้างรัฐบาลปัจจุบัน
  • 18:38 - 18:39
    เป็นไปได้ยากมาก
  • 18:39 - 18:45
    แต่กระนั้น โรงเรียนแนวใหม่เหล่านี้
    ก็กำลังผลักดัน
  • 18:45 - 18:48
    ให้เด็ก ๆ ได้ลองสิ่งใหม่
  • 18:48 - 18:51
    มองว่าเป็นการปฏิรูป
    การกำกับดูแล
  • 18:51 - 18:52
    ที่องค์กรไม่แสวงหากำไร
  • 18:52 - 18:55
    สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง
    ทางการศึกษาได้
  • 18:56 - 19:00
    คริส: บางครั้งเราพบว่ามีคำวิจารณ์
    ว่าโรงเรียนแบบนี้
  • 19:00 - 19:02
    ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
  • 19:02 - 19:05
    กำลังดึงทรัพยากร
    ออกไปจากระบบการศึกษาภาครัฐ
  • 19:05 - 19:07
    เราควรกังวลในเรื่องนี้ไหม
  • 19:07 - 19:08
    รีด: พวกเขาคือโรงเรียนรัฐ
  • 19:08 - 19:11
    ผมหมายความว่า
    มีโรงเรียนรัฐหลายรูปแบบ
  • 19:12 - 19:14
    แต่ถ้าคุณดูที่ภาพรวม
    ของโรงเรียนรัฐที่เป็นอิสระ
  • 19:14 - 19:16
    โรงเรียนเหล่านี้เปิดโอกาส
    ให้เด็กที่บ้านรายได้น้อย
  • 19:16 - 19:19
    เพราะหากเด็กที่บ้านฐานะดี
    เกิดปัญหาในการเรียน
  • 19:19 - 19:21
    ผู้ปกครองก็จะพาเข้า
    โรงเรียนเอกชน
  • 19:21 - 19:22
    หรือย้ายบ้านไป
  • 19:22 - 19:25
    ขณะที่ครอบครัวรายได้น้อย
    ไม่มีทางเลือกนี้
  • 19:26 - 19:30
    สำหรับ KIPP เด็กที่ฐานะทางบ้านไม่ดี
    กว่าร้อยละ 80 มีอาหารกลางวันฟรีหรือราคาต่ำ
  • 19:30 - 19:33
    ขณะที่อัตราการได้เข้าเรียนต่อ
    ในระดับอุดมศึกษาน่าทึ่งมาก
  • 19:34 - 19:36
    คริส: รีด เมื่อสองสามปีก่อน
    คุณสัญญาว่าจะบริจาค
  • 19:36 - 19:39
    ทรัพย์สินเกินครึ่งของคุณ
  • 19:39 - 19:41
    ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
  • 19:41 - 19:44
    อยากรู้ว่าคุณบริจาคเพื่อการศึกษา
    ไปแล้วแค่ไหน
  • 19:44 - 19:45
    ในช่วงสองสามปีมานี้
  • 19:45 - 19:49
    รีด: หลายร้อยล้านเหรียญ
    ผมไม่แน่ใจว่ากี่ร้อยล้านเหรียญ
  • 19:49 - 19:51
    แต่เราก็ยังทำต่อไปเรื่อย ๆ
  • 19:51 - 19:52
    (เสียงปรบมือ)
  • 19:52 - 19:53
    ขอบคุณครับ
  • 19:53 - 19:55
    (เสียงปรบมือ)
  • 19:55 - 20:00
    ไม่นานมานี้ ในช่วงเวลาสั้น ๆ
    ผมลองเข้าวงการการเมืองแบบเต็มตัว
  • 20:00 - 20:01
    ทำงานกับ จอห์น ดูเออร์
  • 20:01 - 20:05
    แต่แม้ผมจะรักการทำงานกับจอห์น
    เส้นทางการเมืองของผมไม่รุ่งนัก
  • 20:05 - 20:08
    ผมรักธุรกิจ ผมรักการแข่งขัน
  • 20:08 - 20:11
    ผมรักที่จะไล่ตามดีสนีย์และเอชบีโอ
  • 20:11 - 20:12
    (เสียงหัวเราะ)
  • 20:12 - 20:13
    นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมเดินหน้า
  • 20:13 - 20:17
    ผมทำเพื่อจะเพิ่มมูลค่าให้เน็ตฟลิกซ์
  • 20:17 - 20:20
    ซึ่งสุดท้ายจะทำให้ผมบริจาค
    เพื่อโรงเรียนได้มากขึ้น
  • 20:20 - 20:23
    ดังนั้นในตอนนี้
    ผมคิดว่ามันเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
  • 20:24 - 20:27
    คริส: รีด คุณเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม
    คุณได้เปลี่ยนชีวิตของพวกเราทุกคน
  • 20:27 - 20:29
    และชีวิตของเด็กอีกหลายคน
  • 20:29 - 20:31
    ขอบคุณมากที่ให้เกียรติมาที่ TED ครับ
  • 20:31 - 20:36
    (เสียงปรบมือ)
Title:
เน็ตฟลิกซ์เปลี่ยนวงการบันเทิงไปอย่างไร และกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน
Speaker:
รีด ฮาสติ้งส์
Description:

เน็ตฟลิกซ์ได้เปลี่ยนโลกวงการบันเทิง เริ่มจากการส่งดีวีดีทางไปรษณีย์ เป็นถ่ายทอดเนื้อหาออนไลน์ มาจนถึงการสร้างเนื้อหายอดนิยมอย่าง "ออเรจน์อีสเดอะนิวแบล็ก" และ "เสตรนเจอร์ธิงส์" ซึ่งทำสำเร็จได้ด้วยการยอมเสี่ยง

ในการสนทนากับคริส แอนเดอร์สัน ผู้คัดเลือกเนื้อหาของ TED กับรีด ฮาสติ้งส์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าบริหารเน็ตฟลิกซ์ ได้เล่าให้ฟังถึงวัฒนธรรมภายในองค์กรที่ห้าวหาญ กลไกประมวลข้อมูลที่ช่วยแนะนำรายการ การลงทุนสร้างเนื้อหาใหม่มูลค่า 8 พันล้านเหรียญ ตลอดจนการบริจาคการกุศลเพื่อสนับสนุนการศึกษาแนวใหม่ และอื่น ๆ อีกมากมาย

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
20:51

Thai subtitles

Revisions Compare revisions