คาร์ล ฮอโนร์ ชื่นชมความเชื่องช้า
-
0:01 - 0:03ผมอยากจะเริ่มด้วยข้อสังเกตที่ว่า
-
0:03 - 0:05ถ้าหากมีอะไรที่ผมได้เรียนรู้จากปีที่ผ่านมา
-
0:05 - 0:07สิ่งนั้นคือ ความขัดแย้งอย่างที่สุด
-
0:07 - 0:09ของการตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับความเชื่องช้า
-
0:09 - 0:11คือการที่คุณต้องประชาสัมพันธ์มันอย่างเร็วมากๆ
-
0:12 - 0:14ดูเหมือนวาผมใช้เวลาส่วนใหญ่ทุกวันนี้
-
0:14 - 0:17เดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง
สตูดิโอหนึ่งไปอีกสตูดิโอหนึ่ง -
0:17 - 0:19การสัมภาษณ์หนึ่งไปอีกการสัมภาษณ์หนึ่ง
-
0:19 - 0:21เสิร์ฟหนังสือในลักษณะชิ้นเล็กๆคำเดียวหมด
-
0:21 - 0:23เพราะทุกคน ทุกวันนี้
-
0:23 - 0:25อยากจะรู้ว่าทำยังไงจะช้าลง
-
0:25 - 0:28แต่พวกเขาอยากจะรู้ว่าจะช้าลงได้ยังไง อย่างเร็วที่สุด
-
0:28 - 0:30ผมทำสปอตกับ CNN เมื่อวันก่อน
-
0:30 - 0:33ซึ่งผมใช้เวลาในการแต่งหน้า
มากกว่าเวลาที่ผมพูดออกอากาศเสียอีกแน่ะ -
0:34 - 0:36และผมคิดว่า นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนี่นา
รึเปล่า? -
0:36 - 0:38เพราะว่านั่นเป็นโลกแบบที่เรากำลังใช้ชีวิตกันอยู่ทุกวันนี้
-
0:38 - 0:41โลกที่ติดอยู่กับการเคลื่อนให้เร็วไปข้างหน้า
-
0:41 - 0:43โลกที่หมกมุ่นอยู่กับความเร็ว
-
0:43 - 0:46ทำทุกอย่างให้เร็วขึ้น อัดเข้าไปให้มากขึ้นๆ
-
0:46 - 0:48ในช่วงเวลาที่น้อยลงๆ
-
0:48 - 0:50ทุกช่วงขณะของวัน ช่างรู้สึกเหมือนกับ
-
0:50 - 0:52การวิ่งแข่งกับนาฬิกา
-
0:52 - 0:54ผมจะขอยืมวลีจากแครี่ ฟิชเชอร์ (Carrie Fisher)
มาสักหน่อย -
0:54 - 0:56ซึ่งก็อยู่ในชีวประวัติผมนั่นแหละ
ผมก็แค่เอ่ยมันออกมาอีกครั้ง -
0:56 - 0:59"ทุกวันนี้ แม้กระทั่งความพึงพอใจกึ่งสำเร็จรูป
ก็ยังใช่เวลานานเกินไป" (เสียงหัวเราะ) -
0:59 - 1:01และ
-
1:01 - 1:03ถ้าคุณคิดถึงว่าเราจะทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นได้ยังไง
เราจะทำยังไง? -
1:03 - 1:06เราทำให้มันเร็วขึ้น ใช่มั้ย? เมื่อก่อนเราเคยกดเบอร์ (dial)
ตอนนี้เรากดเบอร์แบบเร็ว (speed dial) -
1:06 - 1:09เราเคยอ่าน ตอนนี้เราอ่านเร็ว
เราเคยเดิน ตอนนี้เราเดินเร็ว -
1:09 - 1:12และแน่นอน เราเคยเดท ตอนนี้เราเดทเร็ว
-
1:12 - 1:15และแม้กระทั่งสิ่งที่ช้ามากๆโดยธรรมชาติของมันอยู่แล้ว
-
1:15 - 1:18เราพยายามและเร่งมันให้เร็วขึ้นด้วย
-
1:18 - 1:20เมื่อไม่นานมานี้ ผมอยู่ในนิวยอร์ค
และผมเดินผ่านยิม -
1:20 - 1:22ที่มีโฆษณาที่หน้าต่างเกี่ยวกับคอร์สใหม่
คอร์สใหม่ช่วงเย็น -
1:23 - 1:26และ คุณลองเดาดู มันคือโยคะแบบเร็ว (speed yoga)
-
1:26 - 1:29เพราะงั้นนี่คือ ทางออกที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับคนทำงานทั้งหลายที่ไม่มีเวลา -
1:29 - 1:31ซึ่งต้องการจะนมัสการพระอาทิตย์ (ท่าหนึ่งของโยคะ)
-
1:31 - 1:33แต่ต้องการที่จะให้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น
-
1:34 - 1:36ผมหมายความว่า เหล่านี้เป็นตัวอย่างสุดขั้วหนึ่ง
-
1:36 - 1:38และมันก็น่าขันและน่าหัวเราะเสียเหลือเกิน
-
1:38 - 1:40แต่ มันก็มีจุดที่น่ากังวล
-
1:40 - 1:43และผมคิดว่า ในความเร่งรีบจนหัวหมุนของชีวิตประจำวัน
-
1:43 - 1:46เรามักจะมองไม่เห็นความเสียหาย
-
1:46 - 1:49ที่เกิดขึ้นจากการใช่ชีวิตแบบนกโรดรันเนอร์
(นกที่วิ่งเร็วมาก) ของเรา -
1:49 - 1:52เราถูกบ่มอยู่ในวัฒนธรรมแห่งความเร็ว
-
1:52 - 1:54ที่เราแทบจะไม่สังเกตถึงค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
-
1:54 - 1:56กับทุกๆด้านของชีวิตเรา
-
1:56 - 1:58ด้านสุขภาพของเรา อาหารของเรา การทำงานของเรา
-
1:58 - 2:01ความสัมพันธ์ของเรา สิ่งแวดล้อม และชุมชนของเรา
-
2:01 - 2:03และบางครั้ง เราก็ต้องมี
-
2:03 - 2:05เสียงปลุกเตือน ใช่มั้ย
-
2:05 - 2:08เพื่อที่จะเตือนเราถึงความจริงที่ว่า
เรากำลังรีบๆใช้ชีวิตของเรา -
2:08 - 2:10แทนที่จะใช้ชีวิตของเราอย่างเต็มที่
-
2:10 - 2:12เรากำลังใช้ชีวิตที่เร็ว แทนที่จะเป็นชีวิตที่ดี
-
2:12 - 2:14และผมคิดว่าสำหรับหลายๆคน
เสียงปลุกเตือนนั้น -
2:14 - 2:16ก็คือ การเจ็บป่วย
-
2:16 - 2:19อาการเหนือยล้าขนาดหนัก
หรือในท้ายที่สุดร่างกายก็พูดว่า -
2:19 - 2:21"ฉันรับมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว"
แล้วก็โยนผ้ายอมแพ้ -
2:21 - 2:23หรือบางที ความสัมพันธ์ก็เลือนหายไปราวกับหมอกควัน
-
2:23 - 2:25เพราะเราไม่มีเวลา ไม่มีความอดทน
-
2:25 - 2:27หรือไม่มีความสงบ
-
2:27 - 2:29ที่จะอยู่กับคนอื่น ฟังคนอื่น
-
2:29 - 2:31และเสียงปลุกเตือนของผมก็เกิดขึ้น
ตอนที่ผมเริ่ม -
2:31 - 2:34อ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกชายฟัง
-
2:34 - 2:36ผมพบว่า ในช่วงสุดท้ายของวัน
-
2:36 - 2:39ผมเข้าไปในห้องของเขา
และผมก็ไม่สามารถทำตัวให้ช้าลงได้ -
2:39 - 2:41ผมอ่าน "แมวน้อยในหมวก (The Cat in The Hat)"
อย่างรวดเร็ว -
2:41 - 2:43ผมข้ามบางบรรทัดตรงนี้
-
2:43 - 2:45บางย่อหน้าตรงนั้น และบางครั้งก็ทั้งหน้า
-
2:45 - 2:48และแน่นอน ลูกชายตัวน้อยของผมรู้เรื่องราว
ในหนังสือทั้งหมด และเราก็จะเถียงกัน -
2:48 - 2:51และสิ่งที่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่สุด ใกล้ชิดที่สุด
-
2:51 - 2:53อ่อนโยนที่สุด ของวัน
-
2:53 - 2:56เมื่อพ่อนั่งลงแล้วอ่านหนังสือให้ลูกฟัง
-
2:56 - 2:59กลับกลายเป็นการต่อสู้ประหัตประหาร
ของความต้องการที่มีต่อกัน -
2:59 - 3:01การปะทะกันระหว่างความเร็วของผม
-
3:01 - 3:04กับความช้าของเค้า
-
3:04 - 3:06แล้วมันก็เป็นอย่างนี้ไปสักระยะ
-
3:06 - 3:08จนกระทั้ง ตอนที่ผมจับได้ว่าผมอ่านผ่านๆ
บทความในหนังสือพิมพ์อันหนึ่ง -
3:08 - 3:10เกี่ยวกับเคล็ดลับต่างๆเพื่อประหยัดเวลา
สำหรับคนทำอะไรเร็ว -
3:10 - 3:12และหนึ่งในนั้นก็ได้อ้างอิงหนังสือชุดหนึ่งที่ชื่อว่า
-
3:12 - 3:14"นิทานก่อนนอนหนึ่งนาที"
-
3:14 - 3:17และผมรังเกียจที่จะพูดคำนี้ในตอนนี้
-
3:17 - 3:19แต่ปฏิกิริยาแรกที่ผมมีในตอนนั้น แตกต่างจากนี้มาก
-
3:19 - 3:21ปฏิกิริยาแรกของผมคือ
-
3:21 - 3:23"ฮัลเลลูย่า! เป็นความคิดที่เยี่ยมอะไรอย่างนี้!
-
3:23 - 3:26นี่แน่ๆ คือสิ่งฉันมองหาสำหรับการเร่ง
ช่วงเวลานิทานก่อนนอนให้เร็วขึ้น -
3:26 - 3:28แต่ ขอบคุณเหลือเกิน
-
3:28 - 3:30หลอดไฟบนหัวผมก็สว่างขึ้นมา
และปฏิกิริยาถัดไปของผมก็แตกต่างออกไปอย่างมาก -
3:31 - 3:33และผมถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วก็คิดว่า
-
3:33 - 3:35"โอ้ มันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆเหรอ?
-
3:35 - 3:37ฉันอยู่ในสภาวะเร่งรีบ จนถึงขนาดต้องเตรียมการ
-
3:37 - 3:40โกงลูกชายตัวเอง ด้วยการเล่าเรื่องสั้นๆ ในตอนท้ายของวัน?
-
3:41 - 3:43แล้วผมก็วางหนังสือพิมพ์ไว้ห่างๆ
-
3:43 - 3:45ตอนนั้นผมกำลังจะขึ้นเครืองบิน และผมก็นั่งอยู่ตรงนั้น
-
3:45 - 3:47และผมทำอะไรที่ผมไม่ได้ทำมานานมาก
นั่นก็คือ ผมไม่ทำอะไรเลย -
3:47 - 3:50ผมเพียงแต่คิด และคิดนานและหนัก
-
3:50 - 3:53และพอถึงตอนที่ผมลงจากเครืองบิน
ผมตัดสินใจว่าผมอยากจะทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับมัน -
3:53 - 3:56ผมอยากจะสำรวจวัฒนธรรมความเร่งริบ
แบบนกโรดรันเนอร์นี้ -
3:56 - 3:59และดูว่ามันกำลังทำอะไรกับผมและทุกคนอยู่บ้าง
-
3:59 - 4:01และผมมีสองคำถามอยู่ในหัว
-
4:01 - 4:04คำถามแรก เรากลายเป็นคนที่เร็วขนาดนี้ได้ยังไง?
-
4:04 - 4:06และคำถามที่สองคือ มันเป็นไปได้มั้ย
-
4:06 - 4:09หรือเป็นความต้องการของคนอื่นๆ รึเปล่า ที่จะช้าลง?
-
4:09 - 4:11ตอนนี้ ถ้าคุณคิดถึง
-
4:11 - 4:14ว่าโลกเร่งความเร็วขึ้นมากได้ยังไง
ผู้ต้องสงสัยทั่วไปก็จะประดังประเดเข้ามา -
4:14 - 4:16คุณจะคิดถึง การกลายเป็นเมือง
-
4:16 - 4:19บริโภคนิยม ที่ทำงาน เทคโนโลยี
-
4:19 - 4:21แต่ผมว่า ถ้าคุณมองผ่าน
-
4:21 - 4:24แรงกดดันเหล่านี้
คุณก็จะเห็นแรงขับที่ลึกกว่านั้น -
4:24 - 4:27ใจกลางของคำถาม
-
4:27 - 4:29นั่นก็คือ เราคิดยังไงเกี่ยวกับเวลา โดยตัวของมันเอง
-
4:29 - 4:32ในวัฒนธรรมอื่นๆ เวลาเป็นวัฏจักร
-
4:32 - 4:35มันถูกมองว่าเป็นอะไรที่เคลื่อนไหวอยู่ใน
-
4:35 - 4:37วงจรที่ใหญ่และไม่เร่งรีบ
-
4:37 - 4:39มันมักจะเริ่มใหม่และเติมเชื่อเพลิงด้วยตัวมันเอง
-
4:39 - 4:41ในขณะที่ในวัฒนธรรมตะวันตก เวลาเป็นเส้นตรง
-
4:41 - 4:43มันเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด
-
4:43 - 4:45และมันก็มักจะหมดไปเสมอๆ
-
4:45 - 4:47ถ้าคุณไม่ใช่มัน คุณก็เสียมันไป
-
4:47 - 4:50"เวลาเป็นเงินเป็นทอง" อย่างที่เบนจามิน แฟรงคลินกล่าว
-
4:50 - 4:52และผมคิดว่า สิ่งที่วลีนี้ทำกับเราในทางจิตวิทยา
-
4:52 - 4:54ก็คือว่า มันได้สร้างสมการไว้ว่า
-
4:54 - 4:56เวลาเป็นสิ่งขาดแคลน เราจะทำยังไงดี?
-
4:56 - 4:58เอาล่ะๆ เราก็เร่งตัวเองขึ้น ใช่มั้ย?
-
4:58 - 5:00เราพยายามทำอะไรให้มากขึ้นด้วยเวลาที่น้อยลง
-
5:00 - 5:02เราแปลงทุกช่วงเวลาของแต่ละวัน
-
5:02 - 5:04ไปเป็นการแข่งขันเพื่อเข้าเส้นชัย
-
5:04 - 5:07เส้นชัย ที่บังเอิญว่า เราไม่มีทางไปถึง
-
5:07 - 5:09แต่มันก็ยังเป็นเส้นชัยอยู่ดี
-
5:09 - 5:11และผมเดาว่า คำถามคือ
-
5:11 - 5:13แล้วมันเป็นไปได้เหรอที่จะหลุดพ้นจากความคิดแบบนั้น?
-
5:13 - 5:15และขอบคุณเหลือเกิน
คำตอบคือใช่ -
5:15 - 5:17เพราะสิ่งที่ผมค้นเจอตอนที่ผมเริ่มมองไปรอบๆ ก็คือว่า
-
5:17 - 5:20มันมีการตีกลับระดับโลกต่อวัฒนธรรมแบบนี้
-
5:20 - 5:23ที่บอกว่าเราเร็วกว่าก็คือดีกว่าเสมอ
และยุ่งกว่าก็คือดีที่สุด -
5:23 - 5:26ทั่วโลก ผู้คนกำลังทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึง
-
5:26 - 5:28พวกเขากำลังทำตัวช้าลง และพบว่า
-
5:28 - 5:31ถึงแม้ความเขื่อแบบเก่าๆ บอกคุณว่า
ถ้าคุณช้าลง คุณก็จะตายบนถนน -
5:31 - 5:33แต่สิ่งที่เป็นในทางตรงกันข้ามต่างหากที่เป็นความจริง
-
5:33 - 5:35การช้าลงในช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้น
-
5:35 - 5:37ผู้คนพบว่า พวกเขาทำทุกอย่างได้ดีขึ้น
-
5:37 - 5:40พวกเขากินดีขึ้น มีเซ็กส์ที่ดีขึ้น ออกกำลังกายดีขึ้น
-
5:40 - 5:43ทำงานดีขึ้น ใช้ชีวิตดีขึ้น
-
5:43 - 5:46และในห้วงขนาดใหญ่ของเวลาและสถานที่
-
5:46 - 5:49และพฤติกรรมการลดความเร็วนี้
-
5:49 - 5:52มันมีสิ่งที่ผู้เรียกกันว่า
-
5:52 - 5:54"การเคลื่อนไหวเชื่องช้าอย่างเป็นสากล" ดำรงอยู่
-
5:54 - 5:57เอาล่ะ ถ้าคุณจะอนุญาตให้ผมแสดงความเจ้าเล่ห์เล็กๆน้อยๆ
-
5:59 - 6:02ผมจะให้คุณดูภาพรวมแบบเร็วๆของ
-
6:02 - 6:05สิ่งที่กำลังดำเนินไปภายในการเคลื่อนไหวเชื่องช้านั้น
ถ้าคุณคิดถึงอาหาร -
6:05 - 6:07หลายคนคงจะเคยได้ยินการเคลื่อนไหวของ
การกินแบบเนิบช้า (Slow Food) -
6:07 - 6:09มันเริ่มต้นในอิตาลี แต่ตอนนี้กระจายไปทั่วโลก
-
6:09 - 6:11และมีสมาชิก 100,000 คน
-
6:11 - 6:13ใน 50 ประเทศ
-
6:13 - 6:16และมันได้รับการขับเคลื่อน
ภายใต้ข้อความเรียบง่ายและมีเหตุผล -
6:16 - 6:19ที่ว่า เราจะมีความสุขมากขึ้นและสุขภาพดีขึ้น
-
6:19 - 6:21จากอาหารของพวกเรา
-
6:21 - 6:25ถ้าเราได้เก็บเกี่ยว ปรุงอาหาร และบริโภคมัน
ในระดับความเร็วที่เหมาะสม -
6:25 - 6:27เช่นเดียวกัน ผมคิดว่า การปะทุของ
-
6:27 - 6:30ความเคลื่อนไหวด้านฟาร์มออร์แกนิก
และยุครุ่งเรืองของตลาดเกษตรกร -
6:30 - 6:33ก็เป็นอีกภาพหนึ่ง
-
6:33 - 6:36ของความจริงที่ว่า ผู้คนกำลังดิ้นรนหลีกหนี
-
6:36 - 6:38จากการกิน ปรุง และเก็บเกี่ยวอาหารของพวกเขา
-
6:38 - 6:40ภายใต้ตารางเวลาเชิงอุตสาหกรรม
-
6:40 - 6:43พวกเขาต้องการกลับไปสู่จังหวะที่ช้าลง
-
6:43 - 6:46และจากความเคลื่อนไหวเรื่องการกินแบบเนิบช้า
ก็ได้เกิดสิ่งหนึ่ง -
6:46 - 6:49ที่เรียกว่า การเคลื่อนไหวเพื่อเมืองที่เนิบช้า (Slow Cities)
ซึ่งได้เริ่มขึ้นที่อืตาลี -
6:49 - 6:51แต่ได้กระจายไปยังยุโรปและพื้นที่อื่นๆ
-
6:51 - 6:53และในการเคลื่อนไหวนี้
-
6:53 - 6:56เมืองเริ่มทบทวนการจัดการพื้นที่เมืองของตัวเอง
-
6:56 - 6:59เพื่อที่ผู้คนจะได้รับการสนับสนุนให้ช้าลง
-
6:59 - 7:01และสูดกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ
และพูดคุยกับคนอื่นๆ -
7:01 - 7:03เพราะงั้นพวกเขาก็อาจจะจำกัดการจราจร
-
7:03 - 7:06หรือเพิ่มเก้าอี้ในสวนสาธารณะหรือพื้นที่สีเขียว
-
7:06 - 7:09และบางที การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็จะรวมกันกลายเป็น
อะไรที่มากกว่าแค่ผลลัพธ์ของการรวมชิ้นส่วน -
7:09 - 7:12เพราะผมคิดว่า ถ้าเมืองเนิบช้ากลายเป็นเมืองเนิบช้าจริงๆ
-
7:12 - 7:14มันก็เหมือนกับการประกาศทางปรัชญาอย่างหนึ่ง
-
7:14 - 7:17มันกำลังบอกกับส่วนอื่นๆของโลก และกับผู้คนในเมืองนั้น
-
7:17 - 7:19ว่าพวกเราเชื่อว่า ในศตวรรษที่ 21
-
7:19 - 7:23ความเขื่องช้ามีบทบาทสำคัญ
-
7:23 - 7:25เกี่ยวกับการรักษาโรค ผมคิดว่ามีคนจำนวนมากถูกหลอก
-
7:25 - 7:27โดยความเชื่อประเภทซ่อมเร็ว
-
7:27 - 7:29ที่คุณจะเจอในการรักษาแบบทั่วไป
-
7:29 - 7:31และคนเป็นล้านบนโลกใบนี้กำลังหันไปสู่
-
7:31 - 7:34รูปแบบการรักษาทางเลือกและการเสริมสร้าง
-
7:34 - 7:36ทึ่ดูเหมือนจะตกไปอยู่ในหมวด
-
7:36 - 7:39การรักษาที่เนิบช้า นุ่มนวล และเป็นองค์รวมมากกว่า
-
7:39 - 7:42เอาล่ะ เป็นที่ชัดเจนว่า การรักษาแบบเสริมเหล่านี้
ยังตกอยู่ในความคลุมเครือหลายอย่าง -
7:42 - 7:45และโดยส่วนตัว ผมสงสัยว่าการดีทอกซ์ด้วยกาแฟ
-
7:45 - 7:48จะมีทางได้รับการยอมรับเป็นกระแสหลักหรือไม่
-
7:48 - 7:50แต่การรักษาประเภทอื่นๆ
-
7:50 - 7:53เช่น การฝังเข็มและการนวด
แม้จะเพียงเพื่อการผ่อนคลาย -
7:53 - 7:55มันก็เห็นได้ชัดเจนว่ามีผลดีบางอย่าง
-
7:55 - 7:57และวิทยาลัยทางการแพทย์อันเลอเกียรติในทุกที่
-
7:57 - 8:00กำลังเริ่มศึกษาสิ่งเหล่านี้
เพื่อจะศึกษาดูว่ามันทำงานยังไง -
8:00 - 8:02และเราจะเรียนรู้อะไรจากมันได้บ้าง
-
8:02 - 8:04เซ็กส์
มันมีเซ็กส์แบบแดกด่วนเต็มไปหมด ใช่มั้ย? -
8:04 - 8:07ผมกำลังจะพูดถึง...
-
8:07 - 8:10เอิ่ม...
ผมไม่ได้เจตนาจะพูดอะไรสองแง่สามง่ามตรงนั้นนะ -
8:10 - 8:13ผมแค่พยายามจะปูทางแบบช้าไปยังออกซ์ฟอร์ด
-
8:13 - 8:15และผมเดินผ่านร้านขายหนังสือพิมพฺ์
และผมเห็นนิตยสาร -
8:15 - 8:17นิตยสารผู้ชาย ซึ่งมีคำโปรยบนหน้าปกว่า
-
8:17 - 8:20"จะพาคู่ไปสู่จุดสุดยอดได้ยังไงภายใน 30 วินาที"
-
8:20 - 8:22เห็นไหม แม้กระทั่งเซ็กส์
-
8:22 - 8:24ก็ยังต้องมีการจับเวลาเลยเดี๋ยวนี้
-
8:24 - 8:26เอาล่ะ
-
8:26 - 8:28ผมชอบความเร็วมากพอๆกับคนถัดไป
-
8:28 - 8:31แต่ผมคิดว่า มันมีอะไรมากมายที่เราจะได้
-
8:31 - 8:33จากการมีเซ็กส์แบบเนิบช้า
จากการช้าลงในห้องนอน -
8:33 - 8:36คุณค่อยๆสัมผัส
-
8:36 - 8:39ชั่วขณะเหล่านั้นของจิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ
-
8:39 - 8:42และคุณก็จะไปถึงจุดนั้นที่ดีกว่าด้วยการก่อร่างเหล่านี้
-
8:42 - 8:44เอาเป็นว่า คุณจะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่า
-
8:44 - 8:47วง Pointer Sisters พูดเอาไว้อย่างชัดเจน ใช่มั้ยครับ
-
8:47 - 8:50ตามที่พวกเขาร้องเพลงชื่นชม "คนรักที่มีมืออันเชื่องช้า"
-
8:50 - 8:52เราทุกหัวหัวเราะเยาะ Sting
-
8:52 - 8:54เมื่อตอนที่เขาสนใจเซ็กส์แบบตันตระเมื่อหลายปีก่อน
-
8:54 - 8:57แต่พอคุณกรอมาข้างหน้าสักสองสามปี
และคุณจะพบคุณรักหลากวัย -
8:57 - 8:59เข้าร่วมเวิร์กชอป หรืออาจจะ
-
8:59 - 9:02ลองมันในเตียงของพวกเขาเอง เพื่อหาวิธี
-
9:02 - 9:05ชะลอความเร็วและมีเซ็กส์ที่ดีขึ้น
-
9:05 - 9:07และแน่นอน ในอิตาลี --
ดูเหมือนว่าคนอิตาเลียนจะรู้ว่า -
9:07 - 9:09จะเจอความสุขสันต์ของพวกเขาได้ที่ไหน --
-
9:09 - 9:12พวกเขาได้เริ่มการเคลื่อนไหวเพื่อเซ็กส์ที่เนิบช้าอย่างเป็นทางการ
-
9:13 - 9:15ในที่ทำงาน
-
9:15 - 9:17แทบจะทั่วโลก
-
9:17 - 9:19อเมริกาเหนือเป็นข้อยกเว้น
-
9:19 - 9:21ชั่วโมงทำงานได้ลดลง
-
9:21 - 9:23และยุโรปเป็นตัวอย่างนั้น
-
9:23 - 9:26และผู้คนพบว่า คุณภาพชีวิตพวกเขาดีขึ้น
-
9:26 - 9:28เมื่อพวกเขาทำงานน้อยลง
-
9:28 - 9:30และชั่วโมงทำงานที่มีประสิทธืภาพก็เพิ่มขึ่้น
-
9:30 - 9:32เห็นได้ชัดเจนว่ามีปัญหาเกี่ยวกับ
-
9:32 - 9:34การทำงาน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในฝรั่งเศส
-
9:34 - 9:36มากไป เร็วไป ตึงไป
-
9:36 - 9:39แต่บางประเทศในยุโรป โดยเฉพาะประเทศนอร์ดิกทั้งหลาย
-
9:39 - 9:41กำลังแสดงให้เห็นว่ามันเป็นไปได้
-
9:41 - 9:43ที่จะมีเศรษฐกิจแบบโคตรจะเจ๋ง
-
9:43 - 9:45โดยไม่จำเป็นต้องบ้างาน
-
9:45 - 9:47และนอร์เวย์ สวีเดน
-
9:47 - 9:49เดนมาร์ก และฟินแลนด์ ตอนนี้ติดอยู่ใน
-
9:49 - 9:52หกอันดับต้นๆ ของประเทศ
ที่มีความสามารถทางการแข่งขันสูงบนโลกใบนี้ -
9:52 - 9:54และพวกทำงานด้วยจำนวนชั่วโมงที่จะทำให้คนอเมริกัน
-
9:54 - 9:56ที่ทำงานในจำนวนชั่วโมงเฉลี่ยต้องร่ำไห้ด้วยความอิจฉา
-
9:56 - 9:59และถ้าคุณมองเลยระดับประเทศไป
-
9:59 - 10:01ลงไปยังระดับบริษัท
-
10:01 - 10:02บริษัทจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่ตระหนักว่า
-
10:02 - 10:04พวกเขาจำต้องยอมให้พนักงาน
-
10:04 - 10:06ทำงานน้อยขั่วโมงลง หรือไม่ก็ถอดปลั๊กไปเลยเพื่อ
-
10:06 - 10:09ไปพักเที่ยง นั่งอยู่ในห้องเงียบๆ
-
10:10 - 10:13หรือปิดแบล็กเบอร์รี่ ปิดแลปทอปของพวกเขา
เหมือนอย่างคุณข้างหลัง -
10:14 - 10:16ปิดมือถือ
-
10:16 - 10:19ระหว่างช่วงวันทำงาน หรือสุดสัปดาห์
เพื่อพวกเขาจะได้มีเวลาเติมพลังงาน -
10:19 - 10:21และเพื่อให้สมองได้เข้าสู่
-
10:21 - 10:24สภาวะการสร้างสรรค์ทางความคิด
-
10:25 - 10:28ทุกวันนี้ มันไม่ใช่แค่
-
10:28 - 10:30ผู้ใหญ่เท่านั้นหรอกนะ เด็กก็เป็นด้วย
-
10:31 - 10:34ผมอายุ 37 และวัยเด็กของผมจบลงในกลางยุค 80
-
10:34 - 10:36เมื่อผมมองดูเด็กทุกวันนี้
ผมก็ต้องประหลาดใจกับ -
10:36 - 10:38การที่พวกเขาต้องเร่งทำการบ้านมากขึ้น
-
10:38 - 10:40ติวมากขึ้น ทำกิจกรรมนอกเวลามากขึ้น
-
10:40 - 10:43มากกว่าที่พวกเราจะเคยได้เห็นในคนรุ่นก่อน
-
10:43 - 10:45และอีเมล์บางฉบับที่กระตุกใจให้เศร้าตามได้มากที่สุด
-
10:45 - 10:47ที่ผมได้รับบนเว็บไซต์ของผม
-
10:47 - 10:50จริงๆแล้ว มาจากวัยรุ่น
-
10:50 - 10:52ที่กำลังร่อแร่อยู่บนความเหนื่อยล้าสาหัส
เขาวิงวอนให้ผม -
10:52 - 10:54เขียนไปหาพ่อแม่ของพวกเขา
-
10:54 - 10:57เพื่อช่วยให้พวกเขาช้าลง
เพื่อช่วยให้พวกเขาหลุดออกจาก -
10:57 - 11:00กงล้อที่กำลังวิ่งเต็มสูบอันนี้
-
11:00 - 11:02แต่ขอบคุณที่มันก็ยังมีการตีกลับ
ในการเลี้ยงดูลูกเช่นกัน -
11:02 - 11:04และคุณก็จะเจอว่า เมืองเล็กๆในสหรัฐฯ
-
11:04 - 11:07ตอนนี้กำลังรวมตัวกัน เพื่อต่อต้านกิจกรรมนอกเวลา
-
11:07 - 11:09ในบางวันของเดือน เพื่อที่ว่าผู้คนจะ
-
11:09 - 11:12ลดความกดดันลง และมีเวลาครอบครัว และข้าลง
-
11:13 - 11:16การบ้านก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง
มีการแบนการบ้าน -
11:17 - 11:19ในโลกพัฒนาแล้ว
-
11:19 - 11:22ในโรงโรงเรียนที่สุมการบ้านมาเป็นเวลาหลายปี
-
11:22 - 11:24และตอนนี้พวกเขากำลังพบว่า
การทำน้อยๆ ก็มากได้ -
11:24 - 11:26เพราะงั้น มีกรณีเกิดขึ้นในสกอตแลนด์เมื่อเร็วๆนี้
-
11:26 - 11:28ที่โรงเรียนเอกชนขั้นยอด ที่ถ้าจะเข้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียม
-
11:28 - 11:30ได้แบนการบ้าน
-
11:30 - 11:32สำหรับเด็กทุกคนที่อายุต่ำกว่า 13 ปี
-
11:32 - 11:34และผู้ปกครองชั้นเยี่ยมก็พากันสติแตกแล้วพูดว่า
-
11:34 - 11:36"คุณกำลัง -- คุณก็รู้นี่ ลูกของพวกเราจะเรียนแย่ลง"
-- ครูใหญ่ก็บอกว่า -
11:36 - 11:39"ไม่ ไม่ ลูกของพวกคุณต้องชะลอช่วงสุดท้ายของวันให้ช้าลง"
-
11:39 - 11:42และเพิ่งเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง
ผลการสอบออกมา -
11:42 - 11:45และในวิชาคณิต วิทย์ คะแนนเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์
-
11:45 - 11:47จากคะแนนเฉลี่ยเมื่อปีที่แล้ว
-
11:47 - 11:49และผมคิดว่าสิงที่ชัดแจ้งมากๆก็คือ
-
11:49 - 11:52มหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งหลาย ที่มักจะได้รับการอ้างเป็นเหตุผล
-
11:52 - 11:54ในการที่ผู้คนพากันผลักดันและเร่งรัดลูกของตัวเองเอามากๆ
-
11:54 - 11:57ได้เริ่มสังเกตุว่า ความสามารถของนักศึกษา
-
11:57 - 12:00ที่เข้าเรียนกับพวกเขานั้นกำลังตกลง
เด็กๆเหล่ามีคะแนนดีมาก -
12:00 - 12:03มีประวัติ (CV) ที่แน่นไปด้วยกิจกรรมนอกเวลาต่างๆ
-
12:03 - 12:05ในแบบที่จะทำให้คุณปวดตาได้เลยทีเดียว
-
12:05 - 12:07แต่พวกเขาขาดไฟ
-
12:07 - 12:09พวกเขาขาดความสามารถในการคิด
อย่างสร้างสรรค์และนอกกรอบ -
12:09 - 12:12พวกเขาไม่รู้วิธีที่จะฝัน
เพราะงั้น สิงที่มหาวิทยาลัยขั้นนำ (Ivy League) เหล่านี้ -
12:12 - 12:14และออกซ์ฟอร์ดและแคมบริดจ์ และอื่นๆ ทำก็คือ
ส่งข้อความไปยัง -
12:14 - 12:17ผู้ปกครองและเด็กๆว่า
พวกเขาต้องชะลอความเร็วลงหน่อย -
12:17 - 12:20และอย่างเช่น ในฮาร์วาร์ด พวกเขาส่งจดหมาย
-
12:20 - 12:23ไปยังนักศึกษาปริญญาตรี ปีหนึ่ง
-
12:23 - 12:26บอกพวกเขาว่า พวกเขาจะได้อะไรจากชีวิตมากขึ้น
จากฮาร์วาร์ดมากขึ้น -
12:26 - 12:28ถ้าพวกเขาแตะเบรก
ถ้าพวกเขาทำอะไรช้าลง -
12:28 - 12:31แล้วให้เวลากับสิ่งต่างๆ
เวลาที่สิ่งต่างๆนั้นต้องการ -
12:31 - 12:33เพื่อสนุกกับมัน ซึมซับรสชาติของมัน
-
12:33 - 12:35และแม้กระทั่งในบางครั้งที่พวกเขาไม่ทำอะไรเลย
-
12:35 - 12:37และจดหมายฉบับนั้นชื่อว่า
-- ค่อนข้างจะชัดเจนมากนะ ผมว่า -- -
12:37 - 12:40"จงช้าลง!" -- ซึ่งมีเครื่องหมายตกใจลงท้าย
-
12:40 - 12:43ไม่ว่าคุณจะมองยังไง ข้อความนี้สำหรับผมก็เหมือนเดิม:
-
12:43 - 12:45คือ บ่อยครั้ง น้อยกว่ามักจะมากกว่า
-
12:45 - 12:48และบ่อยครั้ง ช้าลงมักจะดีกว่า
-
12:48 - 12:50แต่พูดแบบนั้นแล้ว แน่นอนว่า
-
12:50 - 12:52มันไม่ง่ายเลยที่จะช้าลง ใช่มั้ย?
-
12:52 - 12:54คุณคงได้ยินว่า ผมโดนใบสั่งขับรถเร็วเกินกำหนด
-
12:54 - 12:56ตอนที่ผมกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับหนังสือของผมที่เกี่ยวกับ
ประโยชน์ของความเชื่องช้า -
12:56 - 12:58และนั่นเป็นเรื่องจริงครับ
แต่ไม่ได้จริงซะทั้งหมด -
12:58 - 13:00จริงๆแล้ว ผมกำลังจะไปร่วมมื้อเย็น
-
13:00 - 13:02ที่จัดโดย Slow Food (หน่วยงาน) ในตอนนั้น
-
13:02 - 13:05และถ้านั่นยังน่าอายไม่พอ
ผมได้รับใบสั่งนั้นในอิตาลีครับ -
13:05 - 13:08และถ้าคุณสักคนเคยขับรถบนไฮเวย์ของอิตาลีแล้วล่ะก็
-
13:08 - 13:10คุณก็คงจะนึกออกค่อนข้างชัดเจนทีเดียว
ว่าผมขับเร็วแค่ไหน -
13:10 - 13:13(เสียงหัวเราะ)
-
13:13 - 13:15แต่ทำไมการช้าลงมันยากนักล่ะ?
-
13:15 - 13:17ผมคิดว่ามันมีหลายเหตุผลนะ
-
13:17 - 13:20หนึ่งคือ ความเร็วนั้นสนุก
คุณก็รู้ ความเร็วนั้นเซ็กซี่ -
13:20 - 13:23มันเร่งอะดรีนาลีนได้
มันยากที่จะเลิก -
13:23 - 13:25ผมคิดว่า มันมีมิติทางอภิปรัชญาอยู่นะ
-
13:25 - 13:27ที่ว่าความเร็วกลายมาเป็นหนทางในการกั้นเราจาก
-
13:27 - 13:29คำถามที่ใหญ่กว่า ลึกกว่า
-
13:29 - 13:31ในหัวของเราเต็มไปด้วย สิ่งรบกวน ความยุ่งวุ่นวาย
-
13:31 - 13:33จนเราไม่ต้องถามว่า
-
13:33 - 13:36ฉันสบายดีมั้ย? ฉันมีความสุขมั้ย?
ลูกๆของฉันโตขึ้นมาอย่างเหมาะสมหรือเปล่า? -
13:36 - 13:39นักการเมืองกำลังตัดสินใจแทนฉันได้ดีมั้ย?
-
13:40 - 13:42อีกเหตุผลหนึ่ง -- ผมคิดว่า
บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักที่สุดก็ได้นะ -- -
13:42 - 13:45สาเหตุที่ทำให้เราพบว่าการช้าลงนั้นยาก
ก็คือ เรื่องข้อห้ามทางวัฒนธรรม -
13:45 - 13:48ที่พวกเราได้ฝังรากของการต่อต้านการช้าลงเอาไว้
-
13:48 - 13:50"ช้า" เป็นคำที่น่ารังเกียจในวัฒนธรรมของเรา
-
13:50 - 13:52มันเป็นคำยอดฮิตสำหรับคำว่า "ขึ้เกียจ" "พวกอู้งาน"
-
13:52 - 13:54สำหรับการเป็นใครบางคนที่ยอมแพ้
-
13:54 - 13:56คุณก็รู้ "เขาช้านะ"
จริงๆมันคือความหมายเดียวกับ -
13:56 - 13:59การเป็นคนโง่
-
13:59 - 14:01ผมเดาว่าการเคลื่อนไหวเพื่อความเนิบช้า
วัตถุประสงค์ของมัน -
14:01 - 14:03หรือเป้าหมายหลักของมัน
ก็คือเพื่อเข้าปะทะกับข้อห้ามนั้น -
14:03 - 14:06และเพื่อที่จะบอกว่า
-
14:06 - 14:08ใช่ บางครั้งการช้าไม่ใช่คำตอบ
-
14:08 - 14:10การช้าแบบแย่ๆมันก็มีอยู่นะ
-
14:10 - 14:12คุณรู้มั้ย เมื่อเร็วๆนี้ ผมติดอยู่บน M25
-
14:12 - 14:14ซึ่งคือถนนวงแหวนรอบลอนดอน
-
14:14 - 14:16และเสียเวลาไปสามชั่วโมงครึ่งบนนั้น
และผมบอกคุณได้เลยว่า -
14:16 - 14:18นั่นคือการช้าที่แย่มากจริงๆ
-
14:18 - 14:20แต่ความคิดใหม่
-
14:20 - 14:22ความคิดเชิงปฏิรูปของการเคลื่อนไหวเพื่อความเนิบช้า
-
14:22 - 14:24ก็คือว่า มันมีสิ่งที่เรียกว่า "การช้าที่ดี" อยู่ด้วย
-
14:24 - 14:26และการช้าที่ดีนั้นก็คือ การใช้เวลา
-
14:26 - 14:29กินข้าวกับครอบครัว โดยไม่เปิดทีวี
-
14:29 - 14:32หรือใช้เวลามองไปที่ปัญหาจากทุกมุม
-
14:32 - 14:34ของทุกคนในสำนักงาน
เพื่อที่จะตัดสินใจอย่างดีที่สุด -
14:34 - 14:36ในการทำงาน
-
14:36 - 14:38หรือแม้กระทั่งการใช้เวลา
-
14:38 - 14:40ให้ช้าลง
-
14:40 - 14:42เพื่อซึมซับชีวิตของคุณ
-
14:42 - 14:45เอาล่ะ หนึ่งในสิ่งที่ผมพบว่าน่ายินดีเป็นที่สุด
-
14:45 - 14:48เกี่ยวกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ซึ่งเกิดขึ้นรอบๆหนังสือเล่มนี้
-
14:48 - 14:51นับตั้งแต่ที่มันออกมา
ก็คือปฏิกริยาที่มีต่อมัน -
14:51 - 14:53และผมรู้ว่าเมื่อหนังสือเกี่ยวกับความช้าของผมออกมา
-
14:53 - 14:55มันจะได้รับการต้อนรับจากกลุ่มคนยุคใหม่
-
14:55 - 14:58แต่มันยังได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น
-
14:58 - 15:00จากโลกธุรกิจด้วย
-
15:00 - 15:02สื่อสายธุรกิจ แล้วก็
-
15:02 - 15:04บริษัทยักษ์ใหญ่และองค์กรชั้นนำทั้งหลาย
-
15:04 - 15:07เพราะผู้คนที่อยู่ชั้นต้นๆของห่วงโซ่ ผู้คนอย่างพวกคุณ
-
15:07 - 15:09ได้เริ่มตระหนักว่า
-
15:09 - 15:11มันมีความเร็วมากเกินไปในระบบ
-
15:11 - 15:14มันมีความยุ่งมากไป
และมันได้เวลาแล้ว -
15:14 - 15:18ที่จะหาหรือกลับไปยังศิลปะที่หายไปของการเปลี่ยนเกียร์
-
15:18 - 15:20สัญญาณที่ดีอีกอย่างก็คือ
-
15:20 - 15:22มันไม่ใช่แค่ในโลกพัฒนาแล้วเท่านั้น
-
15:22 - 15:25ที่ความคิดนี้กำลังกระเตื้อง
ในโลกกำลังพัฒนา -
15:25 - 15:27ในประเทศต่างๆที่กำลังอยู่บนขอบการก้าวกระโดด
-
15:27 - 15:29ไปสู่สถานะของโลกที่หนึ่ง -- จีน บราซิล
-
15:29 - 15:31ไทย โปแลนด์ และอื่นๆ --
-
15:31 - 15:34ประเทศเหล่านี้ได้สวมกอดความคิดของ
การเคลื่อนเพื่อความเนิบช้า -
15:34 - 15:37ผู้คนมากมายในนั้นเลยล่ะ
และมันก็ยังมีการถกเถียงกันเกิดขึ้น -
15:37 - 15:39ในสื่อของพวกเขา บนถนน
-
15:39 - 15:41เพราะพวกเขากำลังมองมาที่ตะวันตก
และพวกเขาก็กำลังพูดว่า -
15:41 - 15:44"อืม เราชอบแง่มุมนั้นของคุณนะ
-
15:44 - 15:46แต่เรายังไม่ค่อยแน่ใจกับมันเท่าไหร่นัก"
-
15:46 - 15:48ทั้งหมดนั่นก็หมายความว่า
-
15:48 - 15:51ผมเดาว่านะ
มันเป็นไปได้เหรอ? -
15:51 - 15:54นั่นเป็นคำถามหลักของพวกเราวันนี้
มันเป็นไปได้หรือ -
15:54 - 15:56ที่จะช้าลง?
-
15:56 - 15:58และผมมีความสุขที่สามารถที่จะบอกคุณได้ว่า
-
15:58 - 16:00คำตอบที่สะท้อนกลับมาคือ ใช่ อย่างชัดเจน
-
16:00 - 16:03และผมนำเสนอตัวผมเป็น ตัวอย่าง A
-
16:03 - 16:06คนประเภท นักเสพติดความเร็ว
-
16:06 - 16:08ที่เปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูแล้ว
-
16:08 - 16:10ผมยังชอบความเร็วอยู่นะ
คุณก็รู้ ผมอยู่ในลอนดอน -
16:10 - 16:12และผมทำงานเป็นนักข่าว
-
16:12 - 16:14และผมสนุกกับความวุ่นวายและความยุ่งเหยิง
-
16:14 - 16:16และอะดรีนาลีนที่มาจากทั้งสองอย่างนั้น
-
16:16 - 16:18ผมเล่นสควอชและไอซ์ฮอกกี้
-
16:18 - 16:21กีฬาที่เร็วทั้งสองแบบ
และต่อให้เอาอะไรมาแลก ผมก็ไม่มีทางเลิก -
16:22 - 16:25แต่ผมก็ยังรักษาความสัมพันธ์อันดีกับ
-
16:25 - 16:27เต่าที่อยู่ภายในของผมมาได้ในช่วงหนึ่งปีมานี้
-
16:27 - 16:28(เสียงหัวเราะ)
-
16:28 - 16:30และสิ่งนั้นหมายความว่า
-
16:30 - 16:33ผมไม่ได้
-
16:33 - 16:36ทำให้ตัวเองแบกหนักเกินความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว
-
16:36 - 16:39โหมดเบื้องต้นของผมไม่ใช่
-
16:39 - 16:41พวกบ้าความเร่งรีบอีกต่อไปแล้ว
-
16:42 - 16:44ผมไม่ได้ยิน
-
16:44 - 16:46เสียงรถม้าติดปีกของเวลาวนเวียนใกล้ๆอีกต่อไป
-
16:46 - 16:48หรืออย่างน้อย ก็ไม่มากเท่าที่ผมเคยได้ยินมาก่อน
-
16:48 - 16:51จริงๆผมก็ได้ยินมันแล้วล่ะตอนนี้ เพราะผมเห็นแล้วว่า
เวลาของผมกำลังจะหมดลง -
16:52 - 16:54และผลสรุปของทั้งหมดนั้นก็คือว่า
-
16:54 - 16:57ผมรู้สึกมีความสุขมากขึ้น สุขภาพดีขึ้น
-
16:57 - 17:00ทำงานได้ดีขึ้น มากกว่าที่ผมเคยเป็นมา
-
17:00 - 17:02ผมรู้สึกเหมือนผมกำลัง
-
17:02 - 17:05ใช้ชีวิต
มากกว่าที่จะแค่รีบร้อนผ่านมันไป -
17:06 - 17:08และบางที
มาตรวัดที่สำคัญที่สุดของ -
17:08 - 17:10ความสำเร็จของเรื่องนี้
-
17:10 - 17:13ก็คือ ผมรู้สึกว่าความสัมพันธ์ต่างๆของผมลึกซึ้งขึ้น
-
17:13 - 17:15ลุ่มลึกขึ้น เข้มแข็งขึ้น
-
17:15 - 17:18และสำหรับผม ผมเดาว่า การทดสอบ
-
17:18 - 17:20ว่านี่มันจะได้ผลหรือไม่ และมันจะมีความหมายยังไง
-
17:20 - 17:23ก็คือการได้เล่านิทานก่อนนอนเสมอๆ
เพราะนั่น -
17:23 - 17:26มันคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางนี้
-
17:26 - 17:28และมันยังมีข่าวน่าเบิกบานใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
-
17:28 - 17:30ในตอนท้ายของวัน
ผมเข้าไปในห้องลูกชาย -
17:30 - 17:32ผมไม่สวมนาฬืกา
ผมปิดคอมพิวเตอร์ -
17:32 - 17:34เพราะงั้นผมก็จะไม่ได้ยินเสียงอีเมล์เข้า
-
17:34 - 17:37และผมก็จะช้าลงสู่ระดับความเร็วของเขา
และเราก็อ่านนิทานกัน -
17:38 - 17:41และเพราะเด็กมักจะมีจังหวะของพวกเขา
และมีนาฬิกาภายใน -
17:41 - 17:43พวกเขาไม่เน้นคุณภาพของเวลา
-
17:43 - 17:45ที่คุณจะกำหนดเวลา 10 นาทีแล้วให้พวกเขาเปิดอกกับคุณ
-
17:45 - 17:48พวกเขาต้องการให้คุณเข้าสู่จังหวะของพวกเขา
-
17:48 - 17:50ผมพบว่า 10 นาทีในการเริ่มเล่าเรื่อง
-
17:50 - 17:52ลูกชายผมอยู่ก็จะพูดขึ้นมาว่า "พ่อครับ
-
17:52 - 17:54บางอย่างเกิดขึ้นที่สนามเด็กเล่นวันนี้
และมันกวนใจผมมากเลย" -
17:54 - 17:57แล้วเราก็จะเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้น
-
17:57 - 18:00และตอนนี้ผมพบว่า การเล่านิทานก่อนนอน
-
18:00 - 18:02ที่เคยเป็น
-
18:02 - 18:05กล่องในรายการที่ต้องทำของผม
บางอย่างที่ผมเคยกลัว -
18:05 - 18:07เพราะมันช้ามากและผมต้องผ่านมันไปให้ได้เร็วๆ
-
18:07 - 18:09ได้กลายมาเป็นรางวัลในช่วงท้ายของวันของผม
-
18:09 - 18:11บางอย่างที่ผมชื่นชม
-
18:11 - 18:13และผมก็มีตอนจบแบบฮอลลีวูด
-
18:13 - 18:15สำหรับการพูดของผมในบ่ายนี้
-
18:15 - 18:17ซึ่งจะเป็นอะไรประมาณว่า:
-
18:17 - 18:20เมื่อหลายเดือนก่อน
ผมกำลังเตรียมพร้อมที่จะ -
18:20 - 18:23เริ่มทัวร์หนังสือของผมอีกครั้งหนึ่ง
และผมเก็บกระเป๋าเรียบร้อย -
18:23 - 18:26ผมอยู่ชั้นล่างหน้าประตู
และผมกำลังรอแท็กซี่ -
18:26 - 18:28แล้วลูกชายผมก็เดินลงมาตามบันได
-
18:28 - 18:30เขาทำการ์ดให้ผม
และเขากำลังถือมันอยู่ -
18:30 - 18:32เขาเย็บการ์ดสองอันเข้าด้วยกัน อย่างนี้
-
18:32 - 18:35และติดสติกเกอร์ที่เขาชอบที่สุด
-
18:35 - 18:37ตัวการ์ตูน ทินทิน ที่ด้านหน้าของการ์ด
-
18:37 - 18:39และเขาพูดกับผมว่า
-
18:39 - 18:41หรือไม่เขาก็ยื่นให้ผม แล้วผมก็อ่านมัน
-
18:41 - 18:43และมันเขียนว่า "ถึงแด๊ดดี้ ด้วยรักจากเบนจามิน"
-
18:43 - 18:46และผมคิดว่า "โอ้ นี่ช่างน่ารักเหลือเกิน
-
18:46 - 18:49นี่เป็นการ์ดอวยพรให้โชคดีสำหรับทัวร์หนังสือรึเปล่านะ?"
-
18:49 - 18:51และเขาก็พูดว่า "ไม่ๆๆ แด๊ดดี้ นี่เป็นการ์ด
-
18:51 - 18:53สำหรับการเป็นนักอ่านนิทานที่ดีที่สุดในโลกต่างหาก"
-
18:53 - 18:56และผมคิด "ใช่เลย ไอ้การช้าลงอะไรนี่ มันได้ผลจริงๆนะ"
-
18:56 - 18:57ขอบคุณมากครับ
- Title:
- คาร์ล ฮอโนร์ ชื่นชมความเชื่องช้า
- Speaker:
- Carl Honoré
- Description:
-
นักข่าว คาร์ล ฮอโนร์ เชื่อว่า จุดเน้นของโลกตะวันตกเกี่ยวกับความเร็ว ได้กัดกร่อนสุขภาพ ประสิทธิภาพในการทำงาน และคุณภาพชีวิต แต่มันก็มีการตีกลับที่กำลังฟักตัวอยู่ จากการที่ผู้คนทุกวันนี้เริ่มแตะเบรกให้กับชีวิตที่ล้ำสมัยเหลือเกินของพวกเขา
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 18:57
Dimitra Papageorgiou approved Thai subtitles for In praise of slowness | ||
Yada Sattarujawong accepted Thai subtitles for In praise of slowness | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for In praise of slowness | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for In praise of slowness | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for In praise of slowness | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for In praise of slowness | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for In praise of slowness | ||
Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for In praise of slowness |