< Return to Video

การภาวนาที่ละเอียดเข้าไป :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 30 พ.ย. 2567

  • Not Synced
    วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ดูแปลก ดูสงบผิดปกติ
  • Not Synced
    ธรรมดามาฟังเทศน์วันเสาร์จะวอกแวกๆ
  • Not Synced
    เตรียมจะไปเที่ยวต่อ
  • Not Synced
    พยายามศึกษาธรรมะเอาไว้
  • Not Synced
    ดูพระไตรปิฎกได้ก็ดู
  • Not Synced
    ดูฉบับเต็มไม่ได้ดูฉบับย่อก็ได้
  • Not Synced
    พระไตรปิฎกสำหรับประชาชน
  • Not Synced
    ของ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ เป็นเบื้องต้น
  • Not Synced
    สนใจรายละเอียดตรงไหนก็ไปอ่านฉบับเต็มเอา
  • Not Synced
    ก่อนหลวงพ่อจะเจอหลวงปู่ดูลย์
  • Not Synced
    หลวงพ่อพยายามแสวงหาหนทางปฏิบัติ
  • Not Synced
    ตั้งแต่เด็กๆ ทำแต่สมาธิ
  • Not Synced
    ทำอานาปานสติสงบเฉยๆ
  • Not Synced
    คิดว่าศาสนาพุทธมีอะไรมากกว่าความสงบ
  • Not Synced
    ก็พยายามช่วยตัวเอง
    ตอนนั้นไม่มีครูบาอาจารย์
  • Not Synced
    ยังทำงานอยู่
  • Not Synced
    อ่านพระไตรปิฎก อ่านหลายรอบ
  • Not Synced
    ได้เห็นธรรมะดีๆ มากมายในพระไตรปิฎก
  • Not Synced
    แต่ว่าเราไม่รู้จะตั้งต้นอย่างไร
  • Not Synced
    หลักของการปฏิบัติมีมากมายเหลือเกิน
  • Not Synced
    ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้
  • Not Synced
    จนมาเจอหลวงปู่ดูลย์
  • Not Synced
    ท่านสอนให้หลวงพ่ออ่านจิตตัวเอง
  • Not Synced
    พื้นฐานเราเคยอ่านตำรับตำรา มา
  • Not Synced
    หลวงปู่ดูลย์ท่านก็บอกว่า
  • Not Synced
    “อ่านหนังสือมามากแล้ว
    ต่อไปนี้อ่านจิตตนเอง”
  • Not Synced
    ท่านทราบว่าอ่านมามาก
  • Not Synced
    แล้วท่านก็แนะนำให้อ่านจิตตนเอง
  • Not Synced
    ก็พยายามมาอ่านจิตตัวเองมาเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ทีแรกอ่านไม่เป็นก็ไปแทรกแซงจิต
  • Not Synced
    ไปฝึกจิตให้ว่างๆ
  • Not Synced
    ยังติดคำว่าว่างอยู่
  • Not Synced
    อ่านหนังสือท่านอาจารย์พุทธทาส
  • Not Synced
    มีคำว่า ว่างๆ เยอะ
  • Not Synced
    อ่านหนังสือเซนก็มีแต่คำว่าว่างเยอะแยะเลย
  • Not Synced
    เลยไปทำจิตว่างๆ
  • Not Synced
    ไปเจอหลวงปู่ดูลย์
    ทำอยู่ 3 เดือนแล้วขึ้นไปกราบท่านอีกที
  • Not Synced
    ท่านบอกทำผิดแล้วล่ะ
  • Not Synced
    ให้ไปอ่านจิตไม่ได้ให้ไปแต่งจิต
  • Not Synced
    ให้มันนิ่งๆ ว่างๆ นี้เป็นการปรุงแต่งเอาเอง
  • Not Synced
    ให้อ่านเอาท่านบอกอย่างนี้
  • Not Synced
    หลวงพ่อก็มาเริ่มอ่าน
  • Not Synced
    เวลาเราอ่านหนังสือ คิดถึงการอ่านหนังสือ
  • Not Synced
    เราไม่ใช่นักประพันธ์เราไม่ใช่คนแต่งหนังสือ
  • Not Synced
    เราเป็นแค่คนอ่าน เราไม่ใช่นักวิจารณ์
  • Not Synced
    เราเป็นแค่คนอ่าน
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นเวลาจะอ่านจิตตัวเอง
  • Not Synced
    ก็อ่านเหมือนเราอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
  • Not Synced
    หรือดูเหมือนดูละคร
  • Not Synced
    เวลาเราดูละครเราไม่ใช่คนแต่งบทละคร
  • Not Synced
    เราไม่ใช่ผู้กำกับ
  • Not Synced
    เราไม่ใช่นักวิจารณ์ เราเป็นแค่คนดู
  • Not Synced
    กว่าจะจับเคล็ดคำว่า “ดู” ได้
  • Not Synced
    คำว่า “เห็นตามความเป็นจริง” ได้
  • Not Synced
    ใช้เวลาเหมือนกัน ทำผิดอยู่ 3 เดือน
  • Not Synced
    พยายามไปปรุงแต่งจิตเป็น
    นักประพันธ์แต่งให้จิตมันดี
  • Not Synced
    เวลามันไม่ดีเราก็เป็น
    นักวิจารณ์บอกตอนนี้มันไม่ดี
  • Not Synced
    ไม่ใช่นักดู ไม่ใช่นักอ่าน
  • Not Synced
    พอมาอ่านทำอย่างไร ก็ดูไป
  • Not Synced
    จิตใจของเราแต่ละวันไม่เคยเหมือนกัน
  • Not Synced
    บางวันจิตใจเรามีความสุข
  • Not Synced
    บางวันจิตใจเรามีความทุกข์
  • Not Synced
    บางวันจิตเราเป็นกุศลเยอะ
  • Not Synced
    บางวันเป็นอกุศลเยอะ
  • Not Synced
    บางวันสงบ บางวันฟุ้งซ่าน
  • Not Synced
    ภาวนาแล้วเห็นแต่ละวัน
    จิตเราไม่เคยเหมือนกันเลย
  • Not Synced
    เราก็ภาวนาไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ
  • Not Synced
    เดินจงกรมเหมือนกันทุกวัน
  • Not Synced
    แต่จิตเราไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    เห็นแต่ละวันไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    อย่างหลวงพ่อเวลาอยู่ที่บ้าน
  • Not Synced
    จะไหว้พระสวดมนต์แล้วก็นั่งสมาธิ ไม่ได้เดิน
  • Not Synced
    เพราะบ้านเป็นบ้านโบราณบ้านไม้
  • Not Synced
    เวลาเดินแล้วมันร้องเอี๊ยดๆ หนวกหูคนอื่นเขา
  • Not Synced
    แต่เวลาออกมาจากบ้าน ทุกก้าวที่เดิน
  • Not Synced
    รู้สึกไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ตามรู้ตามเห็นไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    พอมาอ่านเราก็จะเห็นเลย
    แต่ละวันจิตเราไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    ทั้งๆ ที่ภาวนาเหมือนกัน
  • Not Synced
    ต่อมาดูได้ละเอียดมากขึ้น
  • Not Synced
    ไม่ได้ดูเป็นวันๆ หรอก
  • Not Synced
    ดูเป็นช่วงเวลา
  • Not Synced
    ตอนเช้าตอนตื่นนอนจิตใจเราเป็นแบบนี้
  • Not Synced
    ตอนสายๆ หน่อยเป็นอย่างนี้
  • Not Synced
    ตอนเที่ยงจิตใจเราเป็นอย่างนี้
  • Not Synced
    ตอนบ่ายจิตใจเป็นอย่างนี้
  • Not Synced
    ตอนเย็นๆ จิตใจเป็นอย่างนี้
  • Not Synced
    ตอนค่ำๆ ตอนดึกๆ จิตใจไม่เหมือนกันสักที
  • Not Synced
    ทั้งๆ ที่เป็นวันเดียวกัน
  • Not Synced
    ก่อนจะมาเห็นตรงนี้ได้ก็
    เห็นแต่ละวันไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    พอภาวนามากเข้าๆ
    เราเห็นว่าแต่ละห้วงเวลาไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    อย่างตอนเช้าตื่นมา
    แล้วเช้าแต่ละวันก็ยังไม่เหมือนกันอีก
  • Not Synced
    อย่างเช้าวันจันทร์ตอนนั้นรับราชการ
  • Not Synced
    เช้าวันจันทร์เบื่อ ขี้เกียจ
  • Not Synced
    เช้าวันอังคารก็เบื่อมาก
  • Not Synced
    เช้าวันพุธชักจะอุเบกขาแล้ว เฉยๆ แล้ว
  • Not Synced
    เช้าวันพฤหัสเริ่มสดชื่น
  • Not Synced
    พอเช้าวันศุกร์นี้กระดี๊กระด๊า
  • Not Synced
    แต่ละวันไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    ทั้งๆ ที่เป็นห้วงเวลาเดียวกัน
  • Not Synced
    แต่ละวันก็ยังไม่เหมือนกันอีก
  • Not Synced
    ตอนสายๆ แต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    ตอนเที่ยงก็ไม่เหมือนกัน สังเกตไป
  • Not Synced
    ตอนเย็นๆ หลวงพ่อสังเกตตัวเอง
  • Not Synced
    จิตหลวงพ่อจะมีกำลังมาก
  • Not Synced
    ตอนเป็นโยมจิตจะมีกำลังมาก
  • Not Synced
    ตอนสัก 4 โมงเย็นไปแล้ว
  • Not Synced
    คล้ายๆ ทำงานใกล้จะเลิกงานแล้ว
  • Not Synced
    จิตใจเริ่มสดชื่น
  • Not Synced
    ตอนทำงานก็เครียดไม่ใช่ไม่เครียด
  • Not Synced
    เพราะงานที่ทำนี้ งานที่เครียดมากๆ เลย
  • Not Synced
    งานอยู่สภาความมั่นคง
  • Not Synced
    วันๆ ก็เป็นเรื่องหาข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูล
  • Not Synced
    หาทางออกในการแก้ปัญหาแต่ละเรื่อง
  • Not Synced
    เรื่องปวดหัวทั้งนั้นล่ะ
  • Not Synced
    พอได้เวลาจะเลิกงานใจเริ่มผ่อนคลาย
  • Not Synced
    ฉะนั้นเวลาสังเกตตัวเอง
  • Not Synced
    ตอนเย็นๆ ตอนเลิกงานจิตจะมีกำลัง
  • Not Synced
    จิตจะสดชื่นเกิดสมาธิโดยที่ไม่ต้องนั่งสมาธิ
  • Not Synced
    ฉะนั้นตรงนี้เป็นนาทีทองสำหรับหลวงพ่อ
  • Not Synced
    พวกเราก็ต้องไปดูตัวเอง
  • Not Synced
    เวลาช่วงไหนในแต่ละวัน
  • Not Synced
    เป็นช่วงที่สติของเราดีสมาธิของเราดี
  • Not Synced
    ช่วงเวลานั้นเป็นเวลานาทีทองของวันนั้น
  • Not Synced
    เราควรจะสงวนควรจะรักษา
    ช่วงเวลานี้เอาไว้ภาวนา
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นหลวงพ่อ
    พอเลิกงานแล้วไม่ทำอะไรหรอก
  • Not Synced
    กลับบ้าน
  • Not Synced
    ไม่เอานาทีทองตัวนี้ไปทำลายทิ้ง ไปเที่ยว
  • Not Synced
    คนเขาก็ชวนไปเที่ยว
    ผับเที่ยวบาร์อะไรอย่างนี้
  • Not Synced
    ไม่ไป บอกไม่ชอบ
  • Not Synced
    แล้วจริงๆ ก็คือไม่ชอบไม่ได้โกหก
  • Not Synced
    เคยหลุดเข้าไปในบาร์หรือในผับอะไรทีหนึ่ง
  • Not Synced
    นี่มันนรกชัดๆ เลย
  • Not Synced
    เสียงก็ดัง ไฟก็วูบๆ วาบๆ คนก็หลง
  • Not Synced
    แล้วก็ดื่มน้ำทองแดงกัน
  • Not Synced
    เข้าไปเห็นครั้งเดียวเข็ดเลย หนีตลอด ไม่ยอม
  • Not Synced
    ใครชวนอย่างไรก็ไม่ไป
  • Not Synced
    เรื่องอะไรอยู่ดีๆ
    เป็นมนุษย์ดีๆ ไปตกนรกเล่น
  • Not Synced
    ฉะนั้นพอเลิกงานตกเย็นตกค่ำ
  • Not Synced
    หลวงพ่อภาวนา
  • Not Synced
    ขึ้นรถเมล์กลับบ้านก็ภาวนา
  • Not Synced
    ตอนเช้าขึ้นรถเมล์ไปทำงานก็ภาวนา
  • Not Synced
    ตอนจะกินข้าวก็ภาวน
  • Not Synced
    า ภาวนาไม่ใช่ไปนั่งพุทโธๆ อะไรหรอก
  • Not Synced
    มีสติอ่านจิตใจตัวเองไปไม่หยุด
  • Not Synced
    จิตใจเรามีความสุขก็รู้ จิตใจเราทุกข์ก็รู้
  • Not Synced
    จิตสงบก็รู้ จิตฟุ้งซ่านก็รู้
  • Not Synced
    ฝึกไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ต่อมาสติแข็งแรงมากขึ้นๆ สมาธิดีขึ้น
  • Not Synced
    คราวนี้ไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
    ของจิตตามห้วงเวลาแล้ว
  • Not Synced
    ถ้าอ่อนที่สุดก็เห็นว่าแต่ละวันไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    ถ้าพัฒนาขึ้นมาแล้วเห็นว่า
    แต่ละเวลาไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    พอสติเราเร็วจริงๆ สมาธิเราดีจริงๆ
  • Not Synced
    เราจะเห็นว่าแต่ละขณะไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    อย่างตอนเช้านี้
  • Not Synced
    จิตเราเปลี่ยนไป
    ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้งแล้ว
  • Not Synced
    แค่ช่วงเช้าแป๊บเดียวนั้น
  • Not Synced
    ค่อยๆ สังเกตเอา
  • Not Synced
    อย่างออกจากบ้านหรืออยู่ในบ้าน
  • Not Synced
    ตอนเช้าจะไปทำงาน
  • Not Synced
    พยายามจะขับถ่ายกลัวไปปวดท้องกลางทาง
  • Not Synced
    วันนี้ขับถ่ายสะดวก
  • Not Synced
    จิตใจสบายรู้สึกผ่อนคลาย
  • Not Synced
    วันนี้ท้องผูกไม่ยอมถ่ายกลุ้มใจ
  • Not Synced
    ไม่ได้รู้แค่ว่าถ่ายได้ไม่ได้
  • Not Synced
    รู้เข้ามาถึงจิตถึงใจเลย
  • Not Synced
    จิตใจยินดีพอใจหรือจิตใจกลุ้มใจ
  • Not Synced
    นี่คือการปฏิบัติ
  • Not Synced
    ถ้าปฏิบัติเก่งเฉพาะตอนนั่งสมาธิ
    เดินจงกรมถือว่ายังอ่อนหัดมากเลย
  • Not Synced
    ต้องฝึกให้ได้ มีสติอยู่ทุกขณะ
  • Not Synced
    คำว่า “ทุกขณะ” ไม่ถึงขณะตามตำราอภิธรรม
  • Not Synced
    ตำราอภิธรรมบอกว่าลัดนิ้วมือหนึ่ง
  • Not Synced
    จิตเกิดดับแสนโกฏิขณะ
  • Not Synced
    ลัดนิ้วมือ ดีดนิ้วทีหนึ่ง
  • Not Synced
    จิตเกิดดับแสนโกฏิขณะ อันนั้นตำรา
  • Not Synced
    ทางวิทยาศาสตร์ก็พบว่า
  • Not Synced
    มันมีช่วงเวลากว่าที่จิตจะ
    ขึ้นมารับอารมณ์แต่ละครั้ง
  • Not Synced
    แล้วรู้เรื่องว่าอะไรเป็นอะไร ใช้เวลา
  • Not Synced
    แต่ไม่ถึงวินาทีผุดความรู้สึกขึ้นมาแล้ว
  • Not Synced
    เราก็ดูจากความเป็นจริงที่เราเห็น
  • Not Synced
    ไม่ได้ดูจากตำรา
  • Not Synced
    ตำราก็อาจจะถูกก็ได้
  • Not Synced
    แต่สติเราไม่ละเอียดพอที่จะเห็น
  • Not Synced
    ต้องตีความอย่างนี้ไว้ก่อน ไม่ใช่
  • Not Synced
    ทำได้ไม่เหมือนตำราบอกตำราผิด
  • Not Synced
    อันนั้นเซลฟ์จัดเกินไปแล้ว
  • Not Synced
    เราดูเท่าที่เราดูได้
  • Not Synced
    หลวงพ่อเห็นว่าจิตมันเปลี่ยนอยู่ทุกขณะ
  • Not Synced
    ขณะอะไรไม่ใช่ขณะจิตหรอก
  • Not Synced
    ขณะที่ตาเห็นรูปก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จิต
  • Not Synced
    ขณะที่หูได้ยินเสียง
    ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จิต
  • Not Synced
    ขณะที่จมูกได้กลิ่น
    ลิ้นกระทบรสกายกระทบสัมผัส
  • Not Synced
    ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จิต
  • Not Synced
    ขณะที่จิตมันคิด
  • Not Synced
    จิตมันคิดนึกปรุงแต่งก็เกิดความเปลี่ยนแปลง
  • Not Synced
    คิดเรื่องนี้เกิดสุข คิดเรื่องนี้เกิดทุกข์
  • Not Synced
    คิดเรื่องนี้เกิดราคะ คิดเรื่องนี้เกิดโทสะ
  • Not Synced
    อยู่เฉยๆ จะมีโทสะได้ไหม ไม่ได้หรอก
  • Not Synced
    ต้องตามหลังความคิดเรียกพยาบาทวิตกมาก่อน
  • Not Synced
    อยู่ๆ จะเกิดราคารุนแรงอะไรได้ไหม ไม่ได้
  • Not Synced
    ต้องมีกามวิตกมาก่อน
  • Not Synced
    แล้วทั้งหมดต้องหลง
  • Not Synced
    ทีแรกเราไม่เห็นขนาดนั้น
  • Not Synced
    เราภาวนาเราเห็นว่าจิตเราเปลี่ยนทุกขณะ
  • Not Synced
    ขณะที่กระทบอารมณ์นั่นล่ะ ไม่ใช่ขณะจิตหรอก
  • Not Synced
    ตาเห็นรูป
  • Not Synced
    ทีแรกบอกเห็นรูปใจก็โกรธขึ้นมาอะไรอย่างนี้
  • Not Synced
    ดูละเอียดลงไปอีก ไม่ต้องตั้งใจดู
  • Not Synced
    แต่เราฝึกสติของเราไปเรื่อยๆ
    ฝึกสมาธิของเราไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    มันจะเห็นได้ละเอียดๆๆ เข้าไปอีก
  • Not Synced
    ขณะที่ตาเห็นรูป
  • Not Synced
    จิตไม่มีความสุขไม่มีความทุกข์
  • Not Synced
    จิตเฉยๆ ขณะที่ตามองเห็น
  • Not Synced
    จะเกิดสุขเกิดทุกข์
    เกิดกุศลอกุศลมาเกิดทีหลัง
  • Not Synced
    พอตาเห็นรูปปุ๊บมันจะมีการแปล
  • Not Synced
    เราจะเห็นการแปลความหมายของรูป
  • Not Synced
    รูปนี้คืออะไร
  • Not Synced
    แล้วอนุสัยความคุ้นเคยมันก็ให้ค่าออกมา
  • Not Synced
    พอใจรูปนี้สวยงาม เห็นดอกไม้สวย
  • Not Synced
    ตรงที่ตาเห็นดอกไม้สวยไม่มีคำว่าสวยหรอก
  • Not Synced
    ตาเห็นรูปเฉยๆ ตาไม่เห็นของสวยหรอก
  • Not Synced
    ตาเห็นแล้วก็จิตมันแปล
    ว่านี่ดอกไม้นี่ดอกกุหลาบ
  • Not Synced
    สวยเชียว ดอกก็โตสวย
  • Not Synced
    พอมีการให้ค่าขึ้นมา
  • Not Synced
    ใจก็ยินดีพอใจ ราคะก็เกิด
  • Not Synced
    ตามหลังความคิดมา ความคิดที่เป็นกามวิตก
  • Not Synced
    กระบวนการมันจะค่อย
    ยิ่งภาวนามันยิ่งละเอียดๆๆ เข้าไป
  • Not Synced
    เราจะรู้เลยว่าขณะที่ตามองเห็นไม่มีกิเลส
  • Not Synced
    แล้วจิตก็เป็นอุเบกขา
  • Not Synced
    ขณะหูได้ยินเสียงก็ไม่มีกิเลส
  • Not Synced
    ขณะที่จมูกได้กลิ่น
    ลิ้นกระทบรส กายกระทบสัมผัส
  • Not Synced
    ก็ยังไม่มีกิเลส
  • Not Synced
    ตรงที่ใจมันกระทบความคิดแล้วความคิดมันนำไป
  • Not Synced
    กิเลสมันก็ทำงานขึ้นมาได้
  • Not Synced
    คอยรู้คอยดูค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    แล้ววันหนึ่งก็เข้าใจหรอก
  • Not Synced
    สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นก็ดับ
  • Not Synced
    ไม่มีสิ่งใดที่เกิด
    แล้วสิ่งนั้นไม่ดับ ไม่มีเลย
  • Not Synced
    เราภาวนาเรื่อยๆ
    เราก็เห็นสุขเกิดแล้วสุขก็ดับ
  • Not Synced
    ทุกข์เกิดแล้วทุกข์ก็ดับ
  • Not Synced
    กุศลเกิดแล้วกุศลก็ดับ
  • Not Synced
    อกุศล โลภ โกรธ หลงเกิดแล้วมันก็ดับ
  • Not Synced
    จิตที่ไปดูรูปเกิดแล้วก็ดับ ตรงนี้ละเอียด
  • Not Synced
    ละเอียดกว่าที่จะรู้
    จิตสุขจิตทุกข์จิตดีจิตชั่ว
  • Not Synced
    คือเห็นจิตมันเกิดดับทางอายตนะทั้ง 6
  • Not Synced
    จิตเกิดที่ตาดับที่ตา จิตเกิดที่หูดับที่หู
  • Not Synced
    จิตเกิดที่จมูกดับที่จมูก
    เกิดที่ลิ้นดับที่ลิ้น
  • Not Synced
    เกิดที่ร่างกายดับที่กาย
    จิตเกิดที่ใจก็ดับที่ใจ
  • Not Synced
    จิตเกิดที่ไหนก็ดับที่นั้น
    จิตไม่ได้มีดวงเดียว
  • Not Synced
    หัดภาวนาทีแรกเรารู้สึกจิตมีดวงเดียว
  • Not Synced
    แล้วก็เที่ยวร่อนเร่ไปทางทวารทั้ง 6
  • Not Synced
    คิดว่าจิตมีดวงเดียว
  • Not Synced
    ดวงนี้หลงไปดูพอรู้ทันมันก็วิ่งกลับมา
  • Not Synced
    มันหลงไปฟังพอรู้ทันมันก็วิ่งกลับมา
  • Not Synced
    เข้าฐาน เห็นจิตเหมือนตัวแมงมุม
  • Not Synced
    เดี๋ยวก็วิ่งไปข้างซ้าย
    เดี๋ยวก็วิ่งไปข้างขวา
  • Not Synced
    เดี๋ยวขึ้นข้างบนเดี๋ยวลงข้างล่าง
  • Not Synced
    แมงมุมมีตัวเดียววิ่งไปวิ่งมา
  • Not Synced
    พอเราภาวนาละเอียดเข้าๆ เราเห็น
  • Not Synced
    จิตเกิดที่ไหนก็ดับที่นั้น
  • Not Synced
    จิตเสวยอารมณ์อันไหนก็ดับพร้อมอารมณ์อันนั้น
  • Not Synced
    เกิดดับไปด้วยกัน
  • Not Synced
    มันถี่ยิบขึ้นมา จะเห็น
  • Not Synced
    ทีแรกเรายังไม่เห็นหรอก
  • Not Synced
    เราต้องฝึกให้มีจิตที่เป็นผู้รู้ก่อน
  • Not Synced
    จิตตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมา
  • Not Synced
    เป็นมหากุศลจิตประกอบด้วยปัญญา
  • Not Synced
    เกิดขึ้นโดยไม่ได้จงใจ
  • Not Synced
    ต้องเป็นจิตชนิดนี้ถึงจะมีกำลังมากพอ
  • Not Synced
    ที่จะเดินปัญญาได้จริง
  • Not Synced
    ไม่อย่างนั้นยังเป็นปัญญาพื้นๆ คิดๆ เอา
  • Not Synced
    แต่ถ้าจะขึ้นวิปัสสนาปัญญา
  • Not Synced
    จิตต้องตั้งมั่นอัตโนมัติมีกำลัง
  • Not Synced
    ของฟรีไม่มีก็ต้องฝึก
  • Not Synced
    วิธีฝึกให้จิตตั้งมั่นทำอะไรดี
  • Not Synced
    ทำได้ 2 วิธี หนึ่ง
    ฝึกเข้าฌานที่ประกอบด้วยสติ
  • Not Synced
    อันที่สอง อาศัยสัมมาสติ
    หรือสติระลึกรู้รูปนามกายใจ
  • Not Synced
    พอสติเราระลึกรู้รูปธรรมนามธรรม
  • Not Synced
    ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
  • Not Synced
    จิตที่ตั้งมั่นก็จะเกิดขึ้นเอง
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นเจริญสัมมาสติให้มาก
    แล้วสัมมาสมาธิจะเกิดร่วมด้วย
  • Not Synced
    เกิดด้วยกันกับสัมมาสติ
  • Not Synced
    ขาดสตินี่
  • Not Synced
    สัมมาสัมมาทั้งหลายหายหมดเลยไม่เหลือเลย
  • Not Synced
    ฉะนั้นต้องฝึกสติให้ดี
  • Not Synced
    วิธีฝึกสติอยู่ในหลักสูตร
    ชื่อการเจริญสติปัฏฐาน
  • Not Synced
    มี 4 อย่าง กาย เวทนา จิต ธรรม
  • Not Synced
    ถนัดอันไหนเอาอันนั้น แล้วได้ทุกอัน
  • Not Synced
    สุดท้ายได้ทั้งหมดล่ะ
  • Not Synced
    อย่างเราหัดรู้สึกร่างกาย
  • Not Synced
    ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึก
    ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึกไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ต่อมาจิตเราหลงไป
  • Not Synced
    ร่างกายเราขยับปุ๊บเรารู้เลยว่าจิตหลงไปแล้ว
  • Not Synced
    มันก็เข้ามารู้จิตได้
  • Not Synced
    สติปัฏฐาน 4 มันก็
    เหมือนโต๊ะตัวเดียวกันนี้ล่ะ
  • Not Synced
    แต่มันมี 4 มุม
  • Not Synced
    แข็งแรงหน่อยก็ยกมุมใด
    มุมหนึ่งมันก็ขึ้นมาหมดแล้ว
  • Not Synced
    ได้หมดล่ะ ไม่ยาก
  • Not Synced
    ชาวพุทธเราอย่าทิ้งการเจริญสติปัฏฐาน
  • Not Synced
    ตราบใดที่ยังมีการเจริญสติปัฏฐานอยู่
  • Not Synced
    การบรรลุมรรคผลนิพพานยังมีความเป็นไปได้
  • Not Synced
    ไม่เจริญสติปัฏฐาน
    ไม่มีทางบรรลุมรรคผลอะไรหรอก
  • Not Synced
    วิชาสติปัฏฐานเป็นวิชาที่ดี
  • Not Synced
    ส่วนวิชาที่จะอยู่กับโลก
  • Not Synced
    เขาเรียก เดรัจฉานวิชา
  • Not Synced
    พระพุทธเจ้าไม่ได้ด่าเดรัจฉานวิชา
  • Not Synced
    อย่าเข้าใจผิด
  • Not Synced
    ตัวอย่างเดรัจฉานวิชาคืออะไร
  • Not Synced
    แพทยศาสตร์นี้เดรัจฉานวิชา
  • Not Synced
    รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
  • Not Synced
    ทันตแพทยศาสตร์ นิเทศศาสตร์
  • Not Synced
    เดรัจฉานวิชาทั้งนั้นเลย
  • Not Synced
    วิชาหมอนวดก็เดรัจฉานวิชา
  • Not Synced
    คำว่าเดรัจฉานวิชาไม่ได้แปลว่า
    วิชาของสัตว์เดรัจฉาน
  • Not Synced
    ดิรัจฉาน ตัวนี้แบบไปทางขวางไปทางนี้ ขวาง
  • Not Synced
    สัตว์เดรัจฉาน สังเกตไหม
  • Not Synced
    กระดูกสันหลังมักจะขวาง คือขนานกับโลก
  • Not Synced
    เดรัจฉานวิชาคือวิชาที่จะอยู่กับโลก
  • Not Synced
    จำเป็นต้องมีไหม จำเป็น
  • Not Synced
    ถ้าขืนไม่มีเดรัจฉานวิชาทำมาหากินไม่เป็น
  • Not Synced
    รู้วิธีเลี้ยงเด็กก็เดรัจฉานวิชา
  • Not Synced
    รู้วิธีเลี้ยงเสือ ตอนนี้หมูเด้งจืดแล้ว
  • Not Synced
    ตอนนี้มีเสือชื่ออะไร น้องเอวา
  • Not Synced
    คนเลี้ยงเสือได้เขาก็มีวิชาของเขา
  • Not Synced
    ให้เราไปเลี้ยง เสือเอาไปกิน
  • Not Synced
    ฉะนั้นเดรัจฉานวิชาไม่ใช่วิชาต่ำต้อย
  • Not Synced
    เป็นวิชาที่ต้องเอาไว้อยู่กับโลก
  • Not Synced
    สิ่งที่ตรงข้ามกับเดรัจฉานวิชา
    คือวิชาทางตั้ง แนวตั้ง
  • Not Synced
    เดรัจฉานวิชามันแนวขนาน ขนานไปกับโลก
  • Not Synced
    แนวตั้งคือการปฏิบัติธรรมนั่นล่ะ
  • Not Synced
    พัฒนาไตรสิกขาศีล สมาธิ ปัญญาขึ้นมา
  • Not Synced
    แล้วลงท้ายไปเจริญสติปัฏฐานให้ได้
  • Not Synced
    ในที่สุดก็จะพ้นโลก
  • Not Synced
    เหมือนยิงจรวด ยิงจรวดขึ้นไปอย่างนี้
  • Not Synced
    ถ้าเครื่องบินมันขนานกับโลกมันก็ไปอย่างนี้
  • Not Synced
    ไปจากที่หนึ่งของโลกไปอีกที่หนึ่งของโลก
  • Not Synced
    ถ้าเป็นทางจิตใจก็คือ
    จากภพนี้ก็ย้ายไปอีกภพหนึ่ง
  • Not Synced
    ก็เวียนว่ายตายเกิดในภพน้อยภพใหญ่
  • Not Synced
    แต่วิชาโลกุตตระ วิชาแนวตั้ง
  • Not Synced
    เหมือนจรวดลอยขึ้นไปพ้นจากโลก
  • Not Synced
    อยู่เหนือโลกก็คือคำว่า โลกุตตระ
  • Not Synced
    คนยุคนี้ไม่เรียนธรรมะ ก็
  • Not Synced
    ชอบวิจารณ์ตัดสินพระบ้าง ตัดสินฆราวาสบ้าง
  • Not Synced
    ว่าทำไม่ถูกอะไร อย่างนี้
  • Not Synced
    อย่างวิชาหมอดูเป็นเดรัจฉานวิชา
  • Not Synced
    พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
  • Not Synced
    ที่ท่านห้ามมีอันเดียว
  • Not Synced
    ห้ามพระประกอบอาชีพทางเดรัจฉานวิชา
  • Not Synced
    ท่านห้ามตัวนี้ต่างหากล่ะ
  • Not Synced
    ท่านไม่ได้ห้ามฆราวาส อย่ามั่ว
  • Not Synced
    ถ้าพระไปรักษาโรค
  • Not Synced
    พระสมัยโบราณจะรักษาโรค
  • Not Synced
    คนไม่สบายไม่รู้จะไปไหน โรงพยาบาลไม่มี
  • Not Synced
    หามกันไปหาพระ กระดูกหักให้พระต่อให้
  • Not Synced
    พระทำเดรัจฉานวิชาไหม ทำ
  • Not Synced
    อาบัติไหมไม่อาบัติ
  • Not Synced
    เพราะไม่ได้เอาไว้ทำมาหากิน
  • Not Synced
    ทำเพื่อสงเคราะห์โลก
  • Not Synced
    ไม่มีความละเอียดรอบคอบไม่เข้าใจ
    เรื่องธรรมวินัยแล้วชอบตัดสิน
  • Not Synced
    พระทำอย่างนี้ไม่ถูก
    อันนี้ก็ไม่ถูก นั่นก็ไม่ถูก
  • Not Synced
    พระดีๆ ก็คือพระพุทธรูป
  • Not Synced
    ห้ามกระดุกกระดิกทำอะไรไม่ได้เลย
  • Not Synced
    พอไม่ได้เรียนไม่ได้ศึกษาแล้วก็
  • Not Synced
    ชอบมั่วชอบตีความชอบตัดสิน มั่วมาก
  • Not Synced
    ทำให้พระธรรมวินัยศาสนาอยู่ยาก อยู่ลำบาก
  • Not Synced
    ธรรมะจริงๆ สูญหายไป
  • Not Synced
    สัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นมาแทนที่
  • Not Synced
    บางทีพูดแล้วโก้เก๋ดี
  • Not Synced
    พูดแล้วแหมดูดีจังเลย
  • Not Synced
    คนที่พูดแล้วดูดีที่มีชื่อเสียงที่สุดเลย
  • Not Synced
    คือเทวทัต
  • Not Synced
    เทวทัตเป็นคนเสนอพระพุทธเจ้า
  • Not Synced
    บอกต่อไปนี้พระต้องมักน้อยสันโดษ
  • Not Synced
    ต้องดำรงชีวิตด้วยอาหารบิณฑบาตเท่านั้น
  • Not Synced
    ต้องใช้ผ้าบังสุกุลจีวรเท่านั้น
  • Not Synced
    ต้องไม่มีกุฏิไม่มีอะไร
  • Not Synced
    ไม่สร้างวัดสร้างวาอะไร
  • Not Synced
    อยู่ตามธรรมชาติธรรมดา
  • Not Synced
    ต้องกินมังสวิรัติ ฟังแล้วดี
  • Not Synced
    พวกคนไม่ฉลาดก็เคลิ้ม
  • Not Synced
    เทวทัตเคร่งครัดกว่าพระพุทธเจ้าอีก
  • Not Synced
    ส่วนหนึ่งพวกพระก็ยังตามไปเลย
  • Not Synced
    ตามเทวทัตไปเป็นร้อยๆ เลย
  • Not Synced
    แล้วต่อมาพระโมคคัลลานะ สารีบุตร
  • Not Synced
    ท่านไปอธิบายธรรมะให้ฟัง
  • Not Synced
    ตอนที่ท่านเข้าไปสำนักของเทวทัต
  • Not Synced
    เทวทัตกำลังเทศน์ให้ลูกศิษย์ฟังอยู่
  • Not Synced
    พอเห็นพระโมคคัลลานะ สารีบุตรเข้าไปก็ดีใจ
  • Not Synced
    นึกว่าแปรพักตร์จากพระพุทธเจ้า
    มาเป็นสาวกของเทวทัตแล้ว
  • Not Synced
    เทวทัตก็บอกว่าช่วยเทศน์แทนหน่อย
  • Not Synced
    เมื่อยแล้วจะไปนอน
  • Not Synced
    พอตื่นมาลูกศิษย์หายไปหมดแล้ว
  • Not Synced
    มาฟังเทศน์พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร
  • Not Synced
    รู้ผิดชอบชั่วดีถอยออกมาเลย
  • Not Synced
    เหลือที่ไม่ถอยออกมาไม่มาก
  • Not Synced
    พวกที่ถอยออกมาก็มาภาวนา
  • Not Synced
    จำไม่ได้ว่าออกมาแล้วภาวนาแล้วผลเป็นอย่างไร
  • Not Synced
    แต่มีเรื่องเล่าอันหนึ่ง
  • Not Synced
    อันนี้ต้องใช้วิจารณญาณในการฟัง
  • Not Synced
    สำนวนนี้เคยคุ้นๆ ไหม
  • Not Synced
    ต้องใช้วิจารณญาณในการฟัง
  • Not Synced
    เมื่อก่อนหลวงพ่อเคยรู้จักพระองค์หนึ่ง
    ตอนหลวงพ่อยังไม่บวช
  • Not Synced
    ท่านพิการมือนิ้วท่านติดกันอย่างนี้
  • Not Synced
    ติดกันหมดเลย
  • Not Synced
    แล้วท่านบอกท่านพิการมาแต่เด็กเลย
  • Not Synced
    สงสัยบาปกรรมอะไรทำให้พิการอย่างนี้
  • Not Synced
    ท่านก็ระลึกๆ ไป จริงหรือเปล่าไม่รู้
  • Not Synced
    อันนี้ท่านเล่าพิสูจน์ไม่ได้
  • Not Synced
    ท่านบอกท่านเคยเป็นลูกศิษย์เทวทัต
  • Not Synced
    แต่กลับใจแล้ว กลับใจแล้ว
  • Not Synced
    ตอนเป็นลูกศิษย์เทวทัตก็ประกาศ
    ว่าต่อไปนี้จะไม่ไหว้พระพุทธเจ้าแล้ว
  • Not Synced
    แล้วต่อมาก็เปลี่ยนใจกลับเข้ามา
  • Not Synced
    บอกว่าอกุศลนี่ นิ้วของท่านเป็นแบบนี้
  • Not Synced
    แยกออกจากกันไม่ได้ ทำได้แค่นี้
  • Not Synced
    จริงหรือเปล่าไม่รู้
  • Not Synced
    อันนี้เรื่องของกรรมเป็นเรื่องอจินไตย
  • Not Synced
    แต่การกระทำทั้งหลายทั้งปวงย่อมมีผลแน่นอน
  • Not Synced
    ลูกศิษย์เทวทัตปรามาสพระพุทธเจ้า
    ปรามาสพระสาวก
  • Not Synced
    ก็ต้องรับวิบาก เทวทัตก็ต้องรับวิบาก
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นเวลาเราได้ยินใครเขาเสนอวาทะ
  • Not Synced
    คมคายดูดีเหลือเกินเลย
  • Not Synced
    ต้องทบทวนว่ามันตรงกับพระไตรปิฎกหรือเปล่า
  • Not Synced
    บางทีการเสนออะไรที่เข้มมากๆ
  • Not Synced
    พระพุทธเจ้าท่านไม่เอา ท่านบอก
  • Not Synced
    เดี๋ยวศาสนาจะอยู่ยาก ศาสนาจะอันตรธานเร็ว
  • Not Synced
    อย่างเป็นพระบอกต้องฉันเจอย่างเดียว
  • Not Synced
    ชาวบ้านเขาไม่ได้กินเจ
  • Not Synced
    ใครเขาจะมาหาอาหารเจให้ทุกวันๆ
  • Not Synced
    สุดท้ายพระอาหารไม่พอแล้วก็อยู่ไม่ได้
  • Not Synced
    ศาสนาก็หายไป พระหายไปไม่มีใครสืบทอด
  • Not Synced
    ฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านจะไม่สุดโต่งๆ
  • Not Synced
    ศาสนาถึงได้ยืนยาวมาถึงทุกวันนี้
  • Not Synced
    ทำไมมาเรื่องนี้ได้ก็ไม่รู้
  • Not Synced
    รวมความก็คือต้องเจริญสติปัฏฐาน
  • Not Synced
    หลวงพ่อสอนอยู่ทุกวี่ทุกวันก็เรื่องนี้ล่ะ
  • Not Synced
    แต่ก่อนที่เราจะมาเจริญสติปัฏฐานได้
  • Not Synced
    บทเรียนของเราต้องครบ ไตรสิกขา
  • Not Synced
    ศีลต้องรักษา
  • Not Synced
    ตั้งใจไว้ก่อนจะรักษาศีล 5
    ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • Not Synced
    เรื่องรักษาศีลก็เคยมี
    คนถามหลวงปู่เทสก์กระมัง
  • Not Synced
    บอกว่า ถ้าท่านเดินไปแล้วเห็นผู้หญิงตกน้ำ
  • Not Synced
    พระจะกระโดดลงไปช่วย
  • Not Synced
    อาบัติไหมไปจับตัวผู้หญิง
  • Not Synced
    ไม่ช่วยจิตจะเศร้าหมองไหม
  • Not Synced
    ถ้าจิตเศร้าหมองแสดงว่า
  • Not Synced
    ตรงนั้นเราต้องทำชั่วอะไรสักอย่างแล้ว
  • Not Synced
    อย่างเราเห็นผู้หญิงตกน้ำ แล้วเราก็อุเบกขา
  • Not Synced
    จริงๆ แล้วจิตจะไม่ดีเลย จิตจะกระด้าง
  • Not Synced
    เห็นสัตว์ลำบากแล้วเฉยเมย
  • Not Synced
    คิดว่าความเฉยเมยคืออุเบกขา ไม่ใช่
  • Not Synced
    เป็นความใจไม้ไส้ระกำ
  • Not Synced
    ท่านบอกว่าท่านก็ใช้วิธีนี้สิ
  • Not Synced
    ท่านกระโดดลงไปในน้ำไปอยู่ใกล้ๆ เขา
  • Not Synced
    เดี๋ยวเขาก็เกาะท่านท่านก็ว่ายเข้าฝั่ง
  • Not Synced
    ท่านว่าอย่างนี้ แต่หลวงพ่อคงไม่เอา
  • Not Synced
    ขืนมาเกาะเราก็พากันจมแน่เลย
  • Not Synced
    หาไม้หาอะไรโยนให้ ให้เกาะ ก็ต้องช่วย
  • Not Synced
    จำเป็นจริงๆ
  • Not Synced
    ก็ลงไปลากขึ้นมาแล้วมาปลงอาบัติเอา
  • Not Synced
    บางทีก็ต้องคิดต้องพิจารณา
  • Not Synced
    ถือศีลเคร่งๆ ไปเลยแบบงมงายก็ใช้ไม่ได้
  • Not Synced
    ศีลรักษาไปเพื่อให้จิตใจเป็นปกติ
  • Not Synced
    เพื่อให้หมู่สงฆ์สงบสุข
  • Not Synced
    เพื่อให้คนที่ยังไม่เลื่อมใสเกิดเลื่อมใส
  • Not Synced
    เพื่อให้คนที่เลื่อมใสแล้ว
  • Not Synced
    มีความมั่นคงในพระศาสนา เลื่อมใสมั่นคง
  • Not Synced
    ศีลไม่ได้ถือเอาไว้ทรมานตัวเอง
  • Not Synced
    ศีลไม่ได้ถือไว้ใจร้ายกับคนอื่น
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นก็ต้องรู้จักอะไรควรอะไรไม่ควร
  • Not Synced
    เห็นมีพระมีข่าวเรื่อยเลย ดูแลแม่
  • Not Synced
    เช็ดอึเช็ดฉี่อาบน้ำให้อะไรให้
  • Not Synced
    ถามว่าถูก ไม่ถูก ก็ไม่ถูก
  • Not Synced
    ถ้าไม่มีใครทำให้ก็ต้องทำ
  • Not Synced
    อาบัติร้ายแรงไหม อาบัติไม่ร้ายแรง
  • Not Synced
    อาบัติที่ร้ายแรงคือภิกษุมี
    ความกำหนัดจับต้องกายหญิง
  • Not Synced
    ไม่ได้มีความกำหนัดมีแต่ความเมตตา
  • Not Synced
    ดีกรีมันมี
  • Not Synced
    ว่ามันผิดร้ายแรงแค่ไหน
  • Not Synced
    ไม่ใช่เห็นอะไรก็บอกจับสึกๆ
  • Not Synced
    ทุกวันนี้ง่ายเหลือเกิน
    เจอพระไม่ชอบใจ บอกจับสึก
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นต้องเรียน ขอแนะนำ
  • Not Synced
    อ่านพระไตรปิฎกดีที่สุดเลยหัดอ่านไป
  • Not Synced
    พระวินัย พระสูตรพวกนี้ อ่าน
  • Not Synced
    อภิธรรมอ่านไม่รู้เรื่อง
  • Not Synced
    ต้องไปเรียนอภิธัมมัตถสังคหะอะไรพวกนั้นก่อน
  • Not Synced
    ศีลต้องรักษา สมาธิต้องฝึก
  • Not Synced
    ทุกวันแบ่งเวลาไว้เลย
  • Not Synced
    ถึงเวลาจะต้องปฏิบัติในรูปแบบ
  • Not Synced
    ทำไมหลวงพ่อไม่ใช้คำว่าถึงเวลา
    ให้ไปนั่งสมาธิให้ไปเดินจงกรม
  • Not Synced
    เพราะว่าแต่ละคนรูปแบบ
    ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    บางคนกวาดพื้นอยู่เป็นเครื่องอยู่
  • Not Synced
    นั่นคือการทำในรูปแบบของเขา
  • Not Synced
    ตอนหลวงพ่อบวชครั้งแรกที่วัดชลประทาน
  • Not Synced
    หลวงพ่อปัญญาเป็นพระอุปัชฌาย์
  • Not Synced
    มีพระผู้เฒ่าองค์หนึ่งกุฏิอยู่ติดๆ กัน
  • Not Synced
    ท่านกวาดวัด ฉันข้าวเสร็จตอนเช้าก็กวาดวัดไป
  • Not Synced
    กวาดจากหน้าวัดไปท้ายวัด
  • Not Synced
    ท้ายวัดกวาดมาหน้าวัด
  • Not Synced
    กวาดอยู่อย่างนั้นทั้งวัน
  • Not Synced
    หลวงพ่อตอนนั้นโง่ ก็ไปบอก
  • Not Synced
    ท่านบอกหลวงพ่อทำไมไม่นั่งสมาธิไม่เดินจงกรม
  • Not Synced
    ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมช่วยกวาด
  • Not Synced
    เราไปนั่งสมาธิกันดีกว่า
  • Not Synced
    ท่านก็ยิ้มหวานหลวงพ่อ
    ยังจำรอยยิ้มของท่านได้
  • Not Synced
    ท่านบอกคุณบวชสั้นๆ คุณไปนั่งสมาธิเดินจงกรม
  • Not Synced
    เดี๋ยวผมกวาดเอง
  • Not Synced
    นี่ความโง่ของเรา
  • Not Synced
    ที่จริงท่านภาวนาทั้งวันเลย
  • Not Synced
    ร่างกายท่านเคลื่อนไหวท่านกวาดใบไม้
  • Not Synced
    กวาดถนนกวาดใบไม้กวาดไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึก
  • Not Synced
    เห็นรูปเคลื่อนไหวใจเป็นคนรู้
  • Not Synced
    เราภาวนาเป็นแล้วเราถึงนึกถึงท่านได้
  • Not Synced
    โอ๊ยตายแล้ว
  • Not Synced
    เราไปบอกท่านด้วยความโง่ของเราแท้ๆ
  • Not Synced
    แต่ประกอบด้วยเมตตา
  • Not Synced
    ความโง่นั้นไม่ได้ประกอบด้วย
  • Not Synced
    ดูถูกว่าท่านไม่ยอมไปนั่งภาวนา
  • Not Synced
    เรามีความเมตตาอยากให้
    ท่านได้ภาวนาบ้างมีเวลาบ้าง
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นหลวงพ่อจะใช้คำว่าทำในรูปแบบ
  • Not Synced
    รูปแบบแต่ละคนไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    แค่กวาดวัดก็เป็นการปฏิบัติในรูปแบบแล้ว
  • Not Synced
    ได้เห็นรูปเคลื่อนไหวใจเป็นคนรู้
  • Not Synced
    อย่างบางคน
  • Not Synced
    หลวงพ่อไปที่บ้านจิตสบาย
    เห็นมีคนหนึ่งส่งการบ้าน
  • Not Synced
    หลวงพ่อดูแล้วคนนี้
    ไม่เคยช่วยเมียทำงานบ้านเลย
  • Not Synced
    เมียก็ชักโมโห
  • Not Synced
    บอกไปช่วยเมียทำงาน ช่วยเมียซักผ้า ถูบ้าน
  • Not Synced
    เขาเชื่อเขาไปทำ แล้วจิตใจเขาก็สบาย
  • Not Synced
    สบายเพราะอะไร เพราะเมียไม่ด่า
  • Not Synced
    เมียไม่บ่นแล้วสบายใจ
  • Not Synced
    ก็รู้เนื้อรู้ตัว ทำงานไปรู้เนื้อรู้ตัวไป
  • Not Synced
    ในครอบครัวก็ดีจิตใจตัวเองก็ดี
  • Not Synced
    นี่ทำในรูปแบบ
  • Not Synced
    ไม่ใช่ทำในรูปแบบต้อง
    นั่งสมาธิท่านี้ต้องเดินท่านี้
  • Not Synced
    บางทีเดินจงกรมต้องกำหนดโน้นกำหนดนี้
  • Not Synced
    มีเท่านั้นจังหวะเท่านี้จังหวะ ทำแล้วเครียด
  • Not Synced
    ทำแล้วเครียดไม่ใช่การปฏิบัติหรอก
  • Not Synced
    ทำอกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด
  • Not Synced
    ทำอกุศลที่เกิดแล้วให้แรงขึ้น
  • Not Synced
    อย่างทำแบบเครียดๆ ไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    อกุศลอะไรจะแรง กูเก่ง กูดีกว่าคนอื่น
  • Not Synced
    อกุศลพวกนี้จะเด่นขึ้นมา
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นถึงเวลาไปทำในรูปแบบ
  • Not Synced
    ถนัดกรรมฐานอะไรเอานั้นล่ะ
  • Not Synced
    มีต้นไม้เยอะก็ไปรดต้นไม้
  • Not Synced
    อย่างที่นี่ตกเย็นพระต้องไปรดต้นไม้
  • Not Synced
    ต้นไม้มี 2 ส่วน
  • Not Synced
    ต้นไม้รอบๆ กุฏิอันนี้เช้าๆ เขาก็รดกันแล้ว
  • Not Synced
    ทางเดินก็แบ่งกันกวาดทั่ววัด
  • Not Synced
    แต่ฤดูนี้พอกวาดเสร็จคล้อยหลัง
  • Not Synced
    ลมพัดทีเดียวใบไม้ลงมาเต็มเหมือนเดิม
  • Not Synced
    แต่ไม่ต้องกวาดซ้ำแล้ว
  • Not Synced
    เพราะถ้ากวาดก็คือไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว
  • Not Synced
    อย่างน้อยก็รักษาข้อวัตร
  • Not Synced
    กวาดแล้ว ตั้งใจกวาด
  • Not Synced
    ตอนเช้าก็รดต้นไม้รอบๆ กุฏิ
  • Not Synced
    ตอนเย็นไปรดต้นไม้ฝั่งโน้น
  • Not Synced
    ไปปลูกป่ากันไว้ร่วมร้อยไร่
  • Not Synced
    แบกน้ำตักน้ำใส่ถังเอาไปรดต้นไม้
  • Not Synced
    รดทีละต้นทีละต้น
  • Not Synced
    ฝั่งโน้นไม่รู้ต้นไม้กี่พันต้น ฝั่งโน้น
  • Not Synced
    ถามว่าเสียเวลาภาวนาไหม ไม่เสีย
  • Not Synced
    เวลาตักน้ำรู้สึกตัวหิ้วน้ำไปรู้สึกตัว
  • Not Synced
    ถ้าไม่รู้สึกทำอะไร ไม่รู้สึกตัวก็ทำน้ำหก
  • Not Synced
    หรือเดินตกหลุมตกบ่อแข้งขาเคล็ด
  • Not Synced
    บางองค์ขาเส้นเอ็นพลิกเดินเผลอไปหน่อย
  • Not Synced
    นี่คือการปฏิบัติ ไปรดต้นไม้
  • Not Synced
    ทุกวันทำอย่างนี้ล่ะ
  • Not Synced
    เห็นไหมต้องมีรักษาศีล
  • Not Synced
    ต้องทำในรูปแบบทุกวันๆ
  • Not Synced
    แล้วก็ต้องเจริญสติในชีวิตประจำวัน
  • Not Synced
    ถ้าทำได้อย่างที่บอก 3 อย่างนี้
  • Not Synced
    มรรคผลไม่ไกลหรอก
  • Not Synced
    การเจริญสติในชีวิตประจำวัน
    ส่วนใหญ่ก็คือการเจริญสติปัฏฐานนั่นล่ะ
  • Not Synced
    อย่างเรามีสติเห็นร่างกายหายใจออก
    มีสติเห็นร่างกายหายใจเข้า
  • Not Synced
    แล้ววันไหนจิตใจเราฟุ้งซ่าน
  • Not Synced
    เราเห็นร่างกายหายใจออกหายใจเข้าสักพักหนึ่ง
  • Not Synced
    จิตมันจะรวมลงไป จะพักผ่อนหายฟุ้งซ่าน
  • Not Synced
    วันไหนจิตเรามีกำลังอยู่แล้ว
    หายใจออกรู้สึกหายใจเข้ารู้สึก
  • Not Synced
    เราก็จะเห็นว่าร่างกายที่
    หายใจเป็นคนละอันกับจิต
  • Not Synced
    ร่างกายกับจิตแยกออกจากกัน
  • Not Synced
    ขึ้นเจริญปัญญาแล้ว
  • Not Synced
    ฉะนั้นแค่เราหายใจมันมีทั้งสมถะทั้งวิปัสสนา
  • Not Synced
    อย่างเวลาจะทำสมาธิเราก็หายใจไป
  • Not Synced
    แล้วถ้าจิตมันต้องการพักผ่อนมันจะรวมสงบลงไป
  • Not Synced
    รวมเองไม่ต้องสั่งให้รวมเลย
  • Not Synced
    ยกเว้นมีวสีชำนาญแล้ว
  • Not Synced
    นึกอยากรวมเมื่อไรก็รวมได้ทันที
  • Not Synced
    แต่ถ้ายังรวมไม่ได้ก็อย่าไปตกใจ
  • Not Synced
    ถึงเวลาเราก็ทำกรรมฐานไป
  • Not Synced
    แล้วถ้าจิตมันต้องการพัก
    มันรวมเองมันเข้าเอง
  • Not Synced
    ตอนที่เกิดอริยมรรคอริยผลจิตก็รวมเอง
  • Not Synced
    ถ้าตั้งใจรวมไม่ค่อยได้เรื่องหรอก
  • Not Synced
    ยังเจือโลภเจตนาอยู่
  • Not Synced
    อย่างเราหายใจไป หายใจไป
  • Not Synced
    วันนี้จิตเรามีกำลังแล้ว
  • Not Synced
    มันไม่รวม ไม่เคลิ้ม
  • Not Synced
    ตั้งมั่นทรงตัวขึ้นมา
  • Not Synced
    สติระลึกรู้กายก็เห็นไตรลักษณ์ของกาย
  • Not Synced
    ใครเป็นคนรู้กาย จิตเป็นคนรู้กาย
    แล้วก็เห็นไตรลักษณ์ของจิต
  • Not Synced
    เวทนาเกิดขึ้นในกาย
  • Not Synced
    เเล้วก็เห็นว่าเวทนาในกายกับกายก็คนละอันกัน
  • Not Synced
    แล้วเป็นคนละอันกับจิต
  • Not Synced
    เวทนาทางกายก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
  • Not Synced
    จิตที่รู้เวทนาทางกายก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
  • Not Synced
    เราเห็นสังขาร จิตสังขาร
  • Not Synced
    จิตที่เป็นกุศลบ้างอกุศลบ้าง
  • Not Synced
    ทีแรกเราก็เห็นว่าจิตเราโลภจิตเราโกรธ
  • Not Synced
    พอเราภาวนามากเข้าๆ เราเห็นว่า
  • Not Synced
    ความโลภ ความโกรธ
    ความหลงกับจิตเป็นคนละอันกัน
  • Not Synced
    ความโลภกับจิตคนละอันกัน
  • Not Synced
    ความโกรธกับจิตเป็นคนละอันกัน
  • Not Synced
    เป็นองค์ธรรมคนละชนิดกัน
  • Not Synced
    ตัวโลภตัวโกรธตัวหลงเป็นสังขาร
  • Not Synced
    เรียกว่าสังขารขันธ์ อยู่ในสังขารขันธ์
  • Not Synced
    จิตเป็นอีกขันธ์หนึ่งอยู่ในวิญญาณขันธ์
  • Not Synced
    เป็นคนละอันกัน
  • Not Synced
    คนทั่วไปบอกเราโกรธ
  • Not Synced
    อันนี้โง่ที่สุดแต่ไม่โง่มากไม่ถึงที่สุด
  • Not Synced
    โง่ที่สุดคือไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโกรธ
  • Not Synced
    ไปอาละวาดใส่คนอื่นแล้ว
  • Not Synced
    ดีขึ้นมาหน่อยเห็นว่าเรากำลังโกรธ
  • Not Synced
    ดีกว่านั้นก็คือเห็นว่า
    ความโกรธกับจิตคนละอันกัน
  • Not Synced
    มันแยกออกจากกัน
  • Not Synced
    แล้วดีกว่านั้นก็คือเห็นว่า
  • Not Synced
    ความโกรธก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
    จิตก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
  • Not Synced
    จิตก็เดินปัญญาละเอียดๆๆ เข้าไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    สุดท้ายก็เข้ามาที่จิต
  • Not Synced
    ก็เห็นจิตนั้นเกิดดับ
    จิตเกิดที่ไหนจิตก็ดับที่นั้น
  • Not Synced
    ตอนที่หลวงพ่อเห็นตรงนี้ทีแรก
  • Not Synced
    จิตเกิดที่ตาแล้วก็ดับที่หูแล้วก็ดับ
  • Not Synced
    เลยเกิดสงสัยแล้ว
    เราจะเอาจิตไปตั้งไว้ที่ไหนดี
  • Not Synced
    ก็เข้าไปกราบหลวงปู่ดูลย์
  • Not Synced
    หลวงปู่ครับ จิตมันตั้งอยู่ที่ไหน
  • Not Synced
    คิดว่ามันตั้งอยู่กลางอก
    คิดว่ามันอยู่ตรงนี้
  • Not Synced
    แล้วมันเกิดที่ตา ตัวนี้หายไป
  • Not Synced
    เกิดที่ตาแล้วก็ดับ เกิดที่หูแล้วก็ดับ
  • Not Synced
    แล้วเข้ามาตรงนี้ เห็นตัวนี้มันไหวๆๆ อยู่
  • Not Synced
    ก็เลยนึกว่าจิตมันอยู่ตรงนี้กระมัง
  • Not Synced
    แต่ไหนๆ เจอหลวงปู่แล้วถามหลวงปู่สักหน่อย
  • Not Synced
    หลวงปู่ครับจิตมันอยู่ที่ไหน
  • Not Synced
    จิตมันตั้งอยู่ที่ไหน
  • Not Synced
    หลวงปู่บอกจิตไม่มีที่ตั้ง
  • Not Synced
    บอกแค่นี้เราก็เข้าใจแล้ว
  • Not Synced
    เราไม่ต้องเอาจิตไปตั้งไว้ที่ไหนหรอก
  • Not Synced
    จิตตั้งอยู่กับอารมณ์
  • Not Synced
    เกิดพร้อมกับอารมณ์ ดับพร้อมกับอารมณ์
  • Not Synced
    จิตเกิดที่ไหน
  • Not Synced
    เกิดออกไปรู้อารมณ์ทางตา
    แล้วก็ดับพร้อมกับการรู้อารมณ์ทางตา
  • Not Synced
    ออกไปฟังเสียงแล้วก็ดับพร้อมกับเสียง
  • Not Synced
    พร้อมกับการฟังเสียง
  • Not Synced
    นี่มันเกิดดับ
  • Not Synced
    ภาวนาพอละเอียดๆ มันเข้ามาที่จิตนี่ล่ะ
  • Not Synced
    แล้วเห็นจิตมันสร้างภพสร้างชาติตลอดเวลาเลย
  • Not Synced
    แล้วภาวนาถ้าเราเข้าใจ
    ธรรมะประณีตขึ้น ประณีตขึ้น
  • Not Synced
    การปฏิบัติมันบีบวงมาที่จิต
  • Not Synced
    บางทีเราก็เห็นจิต บางทีเราก็ไม่เห็นจิต
  • Not Synced
    จิตตัวนี้คือจิตผู้รู้
  • Not Synced
    อะไรทำให้เรามองจิตผู้รู้ไม่ออก
  • Not Synced
    อาสวกิเลสทั้ง 4
  • Not Synced
    อาสวกิเลสเกิดเมื่อไร หาจิตผู้รู้ไม่เจอแล้ว
  • Not Synced
    อาสวะที่ดูง่ายๆ อย่างตัวภพดูง่าย
  • Not Synced
    จิตสร้างภพเมื่อไร
  • Not Synced
    จิตก็หลุดเข้าไปอยู่ไปเกิดในภพนั้น
  • Not Synced
    ถ้ารู้ทันปุ๊บจิตหลุดออกจากภพ ภพดับ
  • Not Synced
    จิตผู้รู้ก็เด่นดวงขึ้นมา
  • Not Synced
    มันจะเข้ามารู้ที่ตัวจิตผู้รู้ได้
  • Not Synced
    พอรู้ที่ตัวจิตผู้รู้ได้
  • Not Synced
    สิ่งที่ปิดกั้นทำให้เรารู้จิตผู้รู้ไม่ได้
    ก็คืออาสวกิเลสทั้ง 4 ตัวนั่นล่ะ
  • Not Synced
    กามาสวะเข้ามามาดึงจิตเราไป
  • Not Synced
    ดึงดูดจิตเราไปหากามคุณอารมณ์
  • Not Synced
    ภวาสวะจิตไปสร้างภพแล้วหลงอยู่ในภพอันนั้น
  • Not Synced
    อวิชชาสวะมันไม่รู้แจ้งอริยสัจ
  • Not Synced
    ทิฏฐาสวะ เวลาเราติดในความคิดความเห็น
  • Not Synced
    ถูกความคิดความเห็นย้อมเมื่อไร
  • Not Synced
    ตัวจิตผู้รู้เราก็สูญหายไป
  • Not Synced
    พอไม่ถูกอาสวะทั้ง 4 ย้อม สติสมาธิเราดี
  • Not Synced
    อาสวะเข้ามาย้อมไม่ได้
    จิตผู้รู้เด่นดวงขึ้นมา
  • Not Synced
    แล้ววันหนึ่งเราก็จะเห็น
  • Not Synced
    จิตผู้รู้เองก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
  • Not Synced
    จิตผู้รู้นั่นล่ะก็คือตัวทุกข์
  • Not Synced
    แล้วคือหัวโจกของตัวทุกข์
  • Not Synced
    ดูยากที่สุดเลยว่าคือตัวทุกข์
  • Not Synced
    เพราะว่าถ้าเราภาวนาเรามีจิตผู้รู้
  • Not Synced
    เรารู้สึกตัวนี้บรมสุข
  • Not Synced
    ถ้าเมื่อไรไม่ถูกอาสวะย้อม
  • Not Synced
    เห็นมันบ่อยๆ เนืองๆ รู้แจ้งแทงตลอด
  • Not Synced
    จิตผู้รู้นั่นล่ะคือตัวบรมทุกข์
  • Not Synced
    ทุกข์ยิ่งกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเลย
  • Not Synced
    พอรู้ทุกข์แจ่มแจ้งก็หมดความรักใคร่ยินดี
  • Not Synced
    หมดความอยาก หมดความยึดถือ
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นพอรู้ทุกข์แจ่มแจ้ง
  • Not Synced
    สมุทัยคือตัณหาอุปาทาน
    อะไรพวกนี้ก็ถูกทำลายทันที
  • Not Synced
    ดับอัตโนมัติ
  • Not Synced
    เราไม่ต้องดับตัณหา
  • Not Synced
    รู้ทุกข์แจ่มแจ้งเมื่อไรตัณหาดับเอง
  • Not Synced
    ดับอัตโนมัติ
  • Not Synced
    สิ้นตัณหาเมื่อไร นิโรธคือ
    นิพพานปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา
  • Not Synced
    นิโรธคือสภาวะที่สิ้นตัณหา
  • Not Synced
    หลวงพ่อเคยภาวนาผิด
  • Not Synced
    กำหนดจิตลงไปแล้วว่างลงไป
  • Not Synced
    คิดว่าฝึกเข้านิโรธไปแล้ว
  • Not Synced
    หลวงปู่บุญจันทร์ท่านมาเจอ ท่านด่าเอา
  • Not Synced
    นิพพานอะไรมีเข้ามีออก
  • Not Synced
    เลยรู้เลยไม่ใช่แล้ว
  • Not Synced
    ถ้ายังกำหนดจิตอย่างโน้นกำหนดจิตอย่างนี้
  • Not Synced
    ไม่ใช่ของจริงแล้ว
  • Not Synced
    ของจริงก็คือต้องรู้ทุกข์แจ่มแจ้ง
  • Not Synced
    จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งว่ามันคือตัวทุกข์
  • Not Synced
    จิตก็หมดความอยากหมดความยึดถือในตัวจิต
  • Not Synced
    สิ้นอยากเมื่อไรก็คือนิพพาน
  • Not Synced
    นิพพานคือสภาวะที่สิ้นตัณหา
  • Not Synced
    แล้วขณะนั้นอริยมรรคเกิดขึ้น
  • Not Synced
    นี่เส้นทาง เราทำไป
  • Not Synced
    เดินไปเรื่อยๆ มาตรงนี้ได้ด้วยการรักษาศีล
  • Not Synced
    ฝึกในรูปแบบให้จิตมีสมาธิขึ้นมา
  • Not Synced
    แล้วก็เอาจิตที่ตั้งมั่น
    มีสมาธิแล้วมาเดินปัญญา
  • Not Synced
    แยกธาตุแยกขันธ์แยกรูปแยกนามไป
  • Not Synced
    ทำสติปัฏฐาน 4 นั่นล่ะ
  • Not Synced
    ฝึกเรื่อยๆ
  • Not Synced
    สติปัฏฐานนั้นเป็นของวิเศษอีกอย่าง
  • Not Synced
    ในเบื้องต้นที่เราฝึกทำให้สติเราดีขึ้น
  • Not Synced
    ในเบื้องปลายทำให้เกิดปัญญา
  • Not Synced
    นี้หมดเวลาแล้ว เทศน์ละเอียดตรงนี้ไม่ทัน
  • Not Synced
    ไปหาฟังเอาก็แล้วกัน
    หลวงพ่อเทศน์เอาไว้เยอะแยะแล้ว
  • Not Synced
    ต่อไปตรวจการบ้าน
  • Not Synced
    เบอร์ 1: ในรูปแบบเดินจงกรม
    และรู้สึกกายที่เคลื่อนไหว
  • Not Synced
    เมื่อจิตใจหลงไปคิดแล้วรู้
  • Not Synced
    เบอร์ 1: ในรูปแบบเดินจงกรม
    และรู้สึกกายที่เคลื่อนไหว
  • Not Synced
    เมื่อจิตใจหลงไปคิดแล้วรู้
  • Not Synced
    ถ้าดูจิตไม่ได้จะทำสมถะโดยคิดถึงพระพุทธเจ้า
  • Not Synced
    และครูบาอาจารย์พร้อมกับรู้สึกถึงร่างกาย
  • Not Synced
    ในชีวิตประจำวันเจริญสติโดยการรู้สึกกาย
  • Not Synced
    บางครั้งรู้ใจที่หลงไป
  • Not Synced
    ถ้าอยู่กับผู้อื่นจะหลงไปกับโลก
  • Not Synced
    นานๆ จะรู้สึกตัว
  • Not Synced
    ที่ปฏิบัติอยู่นี้ถูกต้องไหมคะ
  • Not Synced
    ถูก แล้วเรารู้ว่าตรงไหน
    เป็นจุดอ่อนเราก็เลี่ยงเสีย
  • Not Synced
    ยุ่งกับโลกน้อยๆ ยุ่งกับคนอื่นน้อยๆ
  • Not Synced
    ใช้ได้ ภาวนาไป
  • Not Synced
    เบอร์ 2
  • Not Synced
    เบอร์ 1 ตรงนี้จิตไม่เข้าฐาน ดูออกไหม
  • Not Synced
    จิตอยู่ข้างนอกนิดหนึ่ง
  • Not Synced
    อย่าดึงๆ
  • Not Synced
    หลวงพ่อบอกไว้เฉยๆ ไม่ต้องดึงจิตเข้ามา
  • Not Synced
    หายใจสิ หายใจสบายๆ
  • Not Synced
    เก่งๆ หายใจไป
  • Not Synced
    รู้สึกไหมตรงนี้กับเมื่อกี้ไม่เหมือนกัน
  • Not Synced
    เมื่อกี้จิตไม่ตั้งมั่นไม่ถึงฐาน
  • Not Synced
    จำตัวนี้ได้ก็โอเค แต่ว่าตรงนี้จงใจทำไม่ได้
  • Not Synced
    พอเรารู้ว่าจิตเราไม่เข้าฐาน
    เราก็ทำกรรมฐานของเราไป
  • Not Synced
    เดี๋ยวมันก็เข้าเองล่ะ
  • Not Synced
    แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าจิตเราไม่
    เข้าฐานทำอย่างไรมันก็ไม่เข้า
  • Not Synced
    เบอร์ 2
  • Not Synced
    ในรูปแบบทำทุกวัน
  • Not Synced
    เดินรู้สึกตัว ดูจิตหลงคิด รู้
  • Not Synced
    นั่งสมาธิ ดูจิตหลง รู้ เพ่ง รู้
  • Not Synced
    หลังๆ หลงบ่อยกว่าเพ่ง
  • Not Synced
    บางครั้งเห็นเหมือน
    เราดูการนั่งสมาธินั้นอยู่
  • Not Synced
    จิตทำงานเอง จนจิตสงบแต่ไม่นิ่งเฉย
  • Not Synced
    บางครั้งก็มีเคลิ้มไปบ้าง
  • Not Synced
    ขอหลวงพ่อตรวจการบ้านค่ะ
  • Not Synced
    ใช้ได้ ดี ต้องเพิ่มนั่นนิดหนึ่ง
  • Not Synced
    ทำความสงบเข้ามาเป็นระยะๆ
  • Not Synced
    กำลังสมาธิไม่พอ ใจมันจะฟุ้งง่าย
  • Not Synced
    ทำในรูปแบบแล้วก็ไม่เดินปัญญาตอนนั้น
  • Not Synced
    เช่น พุทโธๆๆ ไป
  • Not Synced
    สงบก็ช่างไม่สงบก็ช่างทำไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    เดี๋ยวมันสงบเอง แล้วจิตมันจะมีแรง
  • Not Synced
    ของเบอร์ 2 จิตมันยังไม่ค่อยมีแรง
  • Not Synced
    ที่ดูที่อะไรดูถูกแล้วล่ะ
  • Not Synced
    แต่มันดูด้วยจิตที่ไม่ค่อยมีแรง
  • Not Synced
    ฉะนั้นเรารู้ตรงนี้เป็นจุดอ่อน
    เราก็เพิ่มสมาธิขึ้น
  • Not Synced
    เบอร์ 3
  • Not Synced
    ทำในรูปแบบสม่ำเสมอ
  • Not Synced
    เมื่อก่อนคาดหวังจากการปฏิบัติ
  • Not Synced
    เดี๋ยวนี้คาดหวังน้อยลง
  • Not Synced
    เข้าใจความยึดมากขึ้น
  • Not Synced
    เห็นจิตใจทำงานได้เองบ่อยขึ้น
  • Not Synced
    รู้เผลอ รู้หลงมากกว่าเดิม
  • Not Synced
    โดยรวมมั่นใจในการปฏิบัติ มีความเห็นถูกขึ้น
  • Not Synced
    ตัวเราไม่มีอยู่จริง
  • Not Synced
    ชีวิตประจำวันอยู่กับอิริยาบถ 4
  • Not Synced
    เดิน ยืน นั่ง นอน คอยรู้สึก
  • Not Synced
    ทำไปเรื่อยๆ ไม่ท้อไม่เลิก
  • Not Synced
    ขอหลวงปู่ชี้แนะค่ะ
  • Not Synced
    ดี ที่ทำอยู่ใช้ได้
  • Not Synced
    แต่ปัญหาใหญ่ของนักปฏิบัติ
    ก็คือสมาธิมันไม่ค่อยพอกัน
  • Not Synced
    ของโยมสมาธิเยอะ เบอร์ 3
  • Not Synced
    แต่มันไม่เข้าที่มันไม่เข้าฐาน
  • Not Synced
    ขณะนี้จิตยังอยู่ข้างนอกรู้สึกไหม
  • Not Synced
    มองเห็นไหมว่า
    จิตมันไม่เข้ามาไม่เข้าหาตัวเอง
  • Not Synced
    ไม่โอปนยิโกน้อมเข้ามา น้อมเข้ามา
  • Not Synced
    สังเกตลงไปในร่างกายนี้
    รู้สึกลงไปในร่างกายบ่อยๆ
  • Not Synced
    เห็นแต่ความเป็นปฏิกูล อสุภะ
    ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
  • Not Synced
    ดูบ่อยๆ ดูอย่างนี้บ่อยๆ
  • Not Synced
    เบอร์ 4
  • Not Synced
    ภาวนาในรูปแบบ
  • Not Synced
    ดูการเคลื่อนไหวของร่างกายทุกวันเป็นหลัก
  • Not Synced
    ในชีวิตประจำวันดูร่างกาย
    เคลื่อนไหวสลับกับลมหายใจเข้าออก
  • Not Synced
    มีความคิดแทรกตอนที่ภาวนา
  • Not Synced
    ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในอดีต
  • Not Synced
    พยายามไม่สนใจความคิดเหล่านั้น
  • Not Synced
    และกลับมาดูที่อาการเคลื่อนไหวทางกายแทน
  • Not Synced
    ตอนนี้ทำถูกหรือไม่คะ
  • Not Synced
    ทำถูก แต่ตั้งใจมากไปหน่อย
  • Not Synced
    ตั้งใจใจจะเครียด จะแน่นๆ จะหนักๆ
  • Not Synced
    ถ้าภาวนาแล้วมันหนักมันแน่น
    แสดงว่าเราจงใจเยอะไป
  • Not Synced
    มันไม่ธรรมดา ตั้งใจเยอะไป
  • Not Synced
    ภาวนาใช้ใจธรรมดาๆ อย่าตั้งใจแรง รู้สึกไป
  • Not Synced
    คิดเยอะ อย่าคิดเยอะ
  • Not Synced
    เห็นไหมร่างกายขยับ
  • Not Synced
    รู้ว่าร่างกายขยับรู้ด้วยจิตธรรมดา
  • Not Synced
    จิตธรรมดาเลย
  • Not Synced
    ตรงนี้ไม่ธรรมดาแล้ว เมื่อกี้ธรรมดา
  • Not Synced
    ตรงนี้จิตหลง หลงคิด
  • Not Synced
    ยิ้มหวาน
  • Not Synced
    เห็นร่างกาย ยิ้มอย่างนี้ไม่เอา ยิ้มจอมปลอม
  • Not Synced
    ยิ้มแต่หน้า
  • Not Synced
    ใจมันแน่นรู้สึกไหม ใจมันยังแน่นอยู่
  • Not Synced
    ใจที่แน่นเกิดจากอยาก
  • Not Synced
    อยากปฏิบัติ อยากรู้ อยากเห็น
    อยากเป็น อยากได้ อยากดี
  • Not Synced
    อยากไม่ขาดสติ อยากเจริญ
  • Not Synced
    มีความอยากมาเมื่อไรใจจะแน่นๆ
  • Not Synced
    ใจที่ดีคือใจธรรมดา
  • Not Synced
    จิตธรรมดานั้นประภัสสรผ่องใส
  • Not Synced
    จิตธรรมดานั่นล่ะคือจิตผู้รู้
  • Not Synced
    แต่พอมีกิเลสมันเลยกลายเป็นจิตผู้หลงไป
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นจิตโดยตัวมันประภัสสรผ่องใส
  • Not Synced
    เศร้าหมองเพราะกิเลสที่จรมา
  • Not Synced
    เราไม่ต้องทำอะไร
    รู้ทันกิเลสที่จรมาก็แล้วกัน
  • Not Synced
    อย่างอยากปฏิบัติ รู้ทันว่าอยาก
  • Not Synced
    รู้ว่าอยากปฏิบัติ ความอยากปฏิบัติดับแล้ว
  • Not Synced
    ทำอย่างไร ก็ปฏิบัติไปด้วยใจที่ไม่ต้องอยาก
  • Not Synced
    ให้เป็นธรรมดาอย่างนี้
  • Not Synced
    เบอร์ 4 ตึงไป
  • Not Synced
    รู้สึกไหม มันจงใจมากไป ตั้งใจแรงไป
  • Not Synced
    เบอร์ 4 คอยเคลื่อนไหวกระดุกกระดิก
  • Not Synced
    แล้วก็เห็นร่างกายเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ไม่ต้องแกล้งทำ
  • Not Synced
    เราเคลื่อนไหวอยู่แล้วโดยธรรมชาติ
  • Not Synced
    เราหายใจร่างกายมันก็เคลื่อนไหว
  • Not Synced
    เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติธรรมดา
  • Not Synced
    มีหน้าที่ใช้ร่างกายทำอะไรก็ทำไป
  • Not Synced
    แต่มีสติรู้ไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ไม่ไปเพ่งเอาไว้ให้นิ่งๆ
  • Not Synced
    เบอร์ 5
  • Not Synced
    เห็นการเกิด
  • Not Synced
    แต่ไม่เห็นการดับของความโลภและความโกรธ
  • Not Synced
    เมื่อปวดกายก็ฝึกแยกใจกับ
    กายความปวดออกจากกัน
  • Not Synced
    โดยมีใจเห็นความปวดแทรกอยู่ในกาย
  • Not Synced
    อยากเดินปัญญาเป็น
  • Not Synced
    แต่ไม่รู้ว่าจิตตั้งมั่นมากพอ
    และพร้อมที่จะเดินปัญญาไหมคะ
  • Not Synced
    ภาวนาได้ดี จิตตั้งมั่น
  • Not Synced
    เดินปัญญาได้แต่จิตมันไม่ค่อยชอบเดินปัญญา
  • Not Synced
    ชอบเฉยๆ มากกว่า
  • Not Synced
    พอเวลาภาวนาพอจิตตั้งมั่นแล้ว
  • Not Synced
    มันกลัวจิตตั้งมั่นจะหายไปพยายามรักษาเอาไว้
  • Not Synced
    เวลาจิตตั้งมั่นแล้ว เบอร์ 5
  • Not Synced
    พิจารณาเข้าไปในร่างกายเลย
  • Not Synced
    พิจารณาเข้าไปเลย
  • Not Synced
    หัวกะโหลกเราเป็นอย่างนี้ มีตาโบ๋ๆ อย่างนี้
  • Not Synced
    มีปากงับๆๆ ได้ ข้างล่างนะ
    ข้างบนไม่เป็นอย่างนี้
  • Not Synced
    ขากรรไกรอย่างนี้ ดูไปเรื่อยๆ ในร่างกาย
  • Not Synced
    พิจารณาลงไปให้ถึงกระดูกเลย
  • Not Synced
    เห็นกระดูก กระดูกมันหมุนแล้ว
  • Not Synced
    กระดูกตัวนี้หมุน
  • Not Synced
    คอยรู้สึกอย่างนี้ รู้สึกบ่อยๆ
  • Not Synced
    ดีไม่ใช่ไม่ดี
  • Not Synced
    เก่ง เบอร์ 5 ใช้ได้
  • Not Synced
    แต่ว่าเดินปัญญาดูเข้าไปในกายเลย
  • Not Synced
    ดูเข้าไปเลย ดูเข้าไปที่กระดูกเลยก็ได้
  • Not Synced
    เห็นไหมกระดูกมันเคลื่อน
  • Not Synced
    กระดูกมันขยับ เวลาปาก
  • Not Synced
    เวลากินข้าวเราขยับขากรรไกรบนหรือขากรรไกรล่าง
  • Not Synced
    ขยับอย่างนี้ เราก็รู้
  • Not Synced
    บางคนไม่รู้
  • Not Synced
    คิดว่าขยับข้างบน คิดว่าตัวนี้ขยับ
  • Not Synced
    วิธีพิสูจน์ง่ายๆ เอาคางไปเกยโต๊ะไว้
  • Not Synced
    แล้วจะพูดไม่ได้
  • Not Synced
    ดูเข้าไปถึงกระดูกดูเข้าไป
  • Not Synced
    เบอร์ 6
  • Not Synced
    รักษาศีล 5
  • Not Synced
    ภาวนาในรูปแบบด้วยการสวดมนต์
    ทำวัตรเช้าเย็นทุกวัน
  • Not Synced
    เพิ่งหยุดทำงานประจำ
  • Not Synced
    จึงใช้เวลาศึกษาในเรื่องขันธ์ 5
  • Not Synced
    ทุกข์ และการเดินอริยสัจ
  • Not Synced
    ใช้โยนิโสมนสิการในการพิจารณากายใจ
  • Not Synced
    เห็นทุกข์และกิเลสได้ละเอียดขึ้น
  • Not Synced
    รู้ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง
  • Not Synced
    เห็นขันธ์แยกขณะผ่ารากฟันเทียม
  • Not Synced
    เลยเข้าใจที่หลวงพ่อสอนว่า
  • Not Synced
    แยกขันธ์แล้วให้ดูไตรลักษณ์
  • Not Synced
    เห็นถูกต้องไหมคะ
  • Not Synced
    ถูก ดี
  • Not Synced
    จุดอ่อนยังมีนิดหนึ่ง
  • Not Synced
    เราอย่าคิด ความคิดมันล้ำไป ปัญญามันล้ำไป
  • Not Synced
    ตามรู้ตามเห็นสภาวะไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ไม่อย่างนั้นมันล้ำหน้าไป
  • Not Synced
    คอยคิดแต่เรื่องไตรลักษณ์ไปเรื่อยๆ
  • Not Synced
    ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องสมดุลกัน
  • Not Synced
    ถ้าปัญญาล้ำหน้าไป สมาธิไม่พอ ใจมันจะฟุ้ง
  • Not Synced
    เบอร์ 6 สังเกตไหมใจมันยังฟุ้งเล็กๆ อยู่
  • Not Synced
    เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งการทำความสงบ ต้องทำ
  • Not Synced
    เดินปัญญามากไป จิตจะฟุ้งซ่าน
  • Not Synced
    เป็นคนปัญญาเยอะ
  • Not Synced
    พวกปัญญาเยอะมีจุดอ่อนสมาธิคือไม่ค่อยพอ
  • Not Synced
    ไปทำสมาธิเพิ่มขึ้น
  • Not Synced
    ทำความสงบให้จิตอยู่กับเนื้อกับตัว
  • Not Synced
    สงบ พักผ่อน
  • Not Synced
    จิตมีกำลังแล้วค่อยถอยออกมาเดินปัญญาต่อ
  • Not Synced
    ไม่น่าห่วงเรื่องเดินปัญญา
  • Not Synced
    จิตมันเดินปัญญาเก่ง
  • Not Synced
    เบอร์ 7
  • Not Synced
    ปฏิบัติในรูปแบบทุกวันโดยทำ
    อานาปานสติอย่างน้อย 30 นาที
  • Not Synced
    ระหว่างวันเฝ้ารู้เวทนาที่เกิดขึ้นในร่างกาย
  • Not Synced
    เห็นทุกข์มากขึ้นและมักหลงคิดบ่อยๆ
  • Not Synced
    บางครั้งก็หลงคิดไปนานแล้วถึงจะรู้สึกตัว
  • Not Synced
    ขอหลวงปู่ช่วยแนะนำ
    วิธีการปฏิบัติที่เหมาะกับจริตค่ะ
  • Not Synced
    จิตมันชอบคิด
  • Not Synced
    ถ้าจิตมันชอบคิดเราจะไปฝืน
    บอกมันอย่าคิดมันไม่เชื่อ
  • Not Synced
    พามันคิดไปเลยคิดอะไรก็ได้
  • Not Synced
    คิดเรื่องโลกๆ ก็ยังได้เลย
  • Not Synced
    แต่คิดแล้วต้องลงไตรลักษณ์ให้ได้
  • Not Synced
    อย่างเราคิดถึงอะไรสวยๆ งามๆ
  • Not Synced
    คิดว่าเราไปเดินสวนสาธารณะดูดอกไม้งาม
  • Not Synced
    ดูทุ่งทานตะวัน ดูอะไรอย่างนี้
  • Not Synced
    ดูไปแหมใจมีความสุข
  • Not Synced
    แล้วลงท้าย ดอกไม้มันเหี่ยวลงไป
  • Not Synced
    มันก็ไม่ยั่งยืน ของสวยของงามอะไรอย่างนี้
  • Not Synced
    ฉะนั้นคิดอะไรก็ได้
  • Not Synced
    แต่ให้ลงไตรลักษณ์ให้ได้
  • Not Synced
    ลองไปทำดู เพราะจิตมันชอบคิด
  • Not Synced
    จิตมันชอบคิดไปฝืนไม่ให้คิดมันทำไม่ได้หรอก
  • Not Synced
    ส่วนที่กรรมฐานทำอยู่แล้ว
  • Not Synced
    ดีอยู่แล้วทำต่อไป
  • Not Synced
    ทำอานาปานสติ ทำอะไรไม่ผิดหรอก ทำไปเถอะ
  • Not Synced
    แต่เวลาช่วงไหนที่จิตมันฟุ้งซ่านมากๆ
  • Not Synced
    พามันคิดแล้วลงไตรลักษณ์
  • Not Synced
    ถ้าเป็นช่วงปกติก็หายใจไปรู้สึกไป
  • Not Synced
    อย่างที่ทำอยู่ถูกแล้ว
  • Not Synced
    แยกออกไหม หมายถึงเวลาปกติก็ทำอย่างที่ทำนี้
  • Not Synced
    แต่ช่วงไหนที่ใจมันฟุ้งมาก
  • Not Synced
    คิดพิจารณาลงไปเลย
  • Not Synced
    คิดอะไรก็ได้แล้วลงไตรลักษณ์ให้ได้ก็แล้วกัน
  • Not Synced
    เบอร์ 8
  • Not Synced
    เดินจงกรมวันละ 1.30 - 2 ชั่วโมง
  • Not Synced
    ระหว่างวันดูกายและจิตทำงาน
  • Not Synced
    ถ้าฟุ้งซ่านจะบริกรรมระลึกถึงพระรัตนตรัย
  • Not Synced
    หลวงพ่อให้ดูความเป็นอนัตตา
  • Not Synced
    คิดว่าพอจะเห็นว่ากายไม่ใช่เรา
  • Not Synced
    แต่จิตยังคงเป็นเราอยู่
  • Not Synced
    เวลานั่งจะเพ่งมากเลยต้องเดิน
  • Not Synced
    หรือใช้การพิจารณากายเคลื่อนไหว
  • Not Synced
    แล้วรู้สึกตัวแทน
  • Not Synced
    ไม่แน่ใจว่าดูความเป็นอนัตตาได้จริงไหมคะ
  • Not Synced
    จริง ไปดูอีก ทำไป
  • Not Synced
    ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึกไป ดี ที่ทำอยู่
  • Not Synced
    ไปทำต่อทำอีก
  • Not Synced
    เบอร์ 7 อย่างนี้จงใจเยอะไปแล้วเบอร์ 7
  • Not Synced
    คิดเอาเป็นเอาตาย
  • Not Synced
    ใจมันไม่สบาย จะไม่ได้สมาธิ
  • Not Synced
    คิดที่มันไม่รุนแรงนัก
  • Not Synced
    คิดๆๆ ไป อันนี้เป็นอุบาย
  • Not Synced
    เป็นอุบายในการแก้เรื่อง
    จิตมันช่างคิดไม่ยอมหยุด
  • Not Synced
    มันคิดไม่ยอมหยุด
  • Not Synced
    ไปห้ามมันไม่ได้ก็พามันคิดไป
  • Not Synced
    แล้วลงไตรลักษณ์ให้ได้
    เดี๋ยวมันหยุดเองล่ะ
  • Not Synced
    แต่ถ้าตอนไหนมันไม่ได้
    ฟุ้งซ่านไม่ต้องไปคิดเยอะ รู้สึกไป
  • Not Synced
    เดี๋ยวสับสน
  • Not Synced
    ภาวนาอยู่ดีๆ บอกหลวงพ่อให้ไปนั่งคิด
  • Not Synced
    เละเลย เสีย
  • Not Synced
    แล้วมาโทษหลวงพ่อสอนยังอย่างไร ฟุ้งไปเลย
  • Not Synced
    แค่อุบายไว้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    เวลามันคิดหนักๆ คิดไม่เลิก
  • Not Synced
    วันนี้เทศน์ให้ฟังเท่านี้
  • Not Synced
    เชิญ
Title:
การภาวนาที่ละเอียดเข้าไป :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 30 พ.ย. 2567
Description:

more » « less
Video Language:
Thai
Duration:
01:07:31

Thai subtitles

Incomplete

Revisions Compare revisions