1 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ดูแปลก ดูสงบผิดปกติ 2 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ธรรมดามาฟังเทศน์วันเสาร์จะวอกแวกๆ 3 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เตรียมจะไปเที่ยวต่อ 4 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พยายามศึกษาธรรมะเอาไว้ 5 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูพระไตรปิฎกได้ก็ดู 6 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูฉบับเต็มไม่ได้ดูฉบับย่อก็ได้ 7 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระไตรปิฎกสำหรับประชาชน 8 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ของ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ เป็นเบื้องต้น 9 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สนใจรายละเอียดตรงไหนก็ไปอ่านฉบับเต็มเอา 10 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก่อนหลวงพ่อจะเจอหลวงปู่ดูลย์ 11 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อพยายามแสวงหาหนทางปฏิบัติ 12 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตั้งแต่เด็กๆ ทำแต่สมาธิ 13 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำอานาปานสติสงบเฉยๆ 14 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่าศาสนาพุทธมีอะไรมากกว่าความสงบ 15 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็พยายามช่วยตัวเอง ตอนนั้นไม่มีครูบาอาจารย์ 16 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยังทำงานอยู่ 17 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านพระไตรปิฎก อ่านหลายรอบ 18 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ได้เห็นธรรมะดีๆ มากมายในพระไตรปิฎก 19 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ว่าเราไม่รู้จะตั้งต้นอย่างไร 20 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลักของการปฏิบัติมีมากมายเหลือเกิน 21 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ 22 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จนมาเจอหลวงปู่ดูลย์ 23 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านสอนให้หลวงพ่ออ่านจิตตัวเอง 24 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พื้นฐานเราเคยอ่านตำรับตำรา มา 25 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงปู่ดูลย์ท่านก็บอกว่า 26 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 “อ่านหนังสือมามากแล้ว ต่อไปนี้อ่านจิตตนเอง” 27 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านทราบว่าอ่านมามาก 28 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วท่านก็แนะนำให้อ่านจิตตนเอง 29 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็พยายามมาอ่านจิตตัวเองมาเรื่อยๆ 30 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทีแรกอ่านไม่เป็นก็ไปแทรกแซงจิต 31 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปฝึกจิตให้ว่างๆ 32 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยังติดคำว่าว่างอยู่ 33 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านหนังสือท่านอาจารย์พุทธทาส 34 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีคำว่า ว่างๆ เยอะ 35 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านหนังสือเซนก็มีแต่คำว่าว่างเยอะแยะเลย 36 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เลยไปทำจิตว่างๆ 37 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปเจอหลวงปู่ดูลย์ ทำอยู่ 3 เดือนแล้วขึ้นไปกราบท่านอีกที 38 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านบอกทำผิดแล้วล่ะ 39 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ให้ไปอ่านจิตไม่ได้ให้ไปแต่งจิต 40 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ให้มันนิ่งๆ ว่างๆ นี้เป็นการปรุงแต่งเอาเอง 41 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ให้อ่านเอาท่านบอกอย่างนี้ 42 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อก็มาเริ่มอ่าน 43 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาเราอ่านหนังสือ คิดถึงการอ่านหนังสือ 44 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไม่ใช่นักประพันธ์เราไม่ใช่คนแต่งหนังสือ 45 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราเป็นแค่คนอ่าน เราไม่ใช่นักวิจารณ์ 46 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราเป็นแค่คนอ่าน 47 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นเวลาจะอ่านจิตตัวเอง 48 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็อ่านเหมือนเราอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง 49 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือดูเหมือนดูละคร 50 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาเราดูละครเราไม่ใช่คนแต่งบทละคร 51 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไม่ใช่ผู้กำกับ 52 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไม่ใช่นักวิจารณ์ เราเป็นแค่คนดู 53 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กว่าจะจับเคล็ดคำว่า “ดู” ได้ 54 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คำว่า “เห็นตามความเป็นจริง” ได้ 55 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้เวลาเหมือนกัน ทำผิดอยู่ 3 เดือน 56 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พยายามไปปรุงแต่งจิตเป็น นักประพันธ์แต่งให้จิตมันดี 57 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลามันไม่ดีเราก็เป็น นักวิจารณ์บอกตอนนี้มันไม่ดี 58 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่นักดู ไม่ใช่นักอ่าน 59 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอมาอ่านทำอย่างไร ก็ดูไป 60 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตใจของเราแต่ละวันไม่เคยเหมือนกัน 61 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางวันจิตใจเรามีความสุข 62 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางวันจิตใจเรามีความทุกข์ 63 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางวันจิตเราเป็นกุศลเยอะ 64 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางวันเป็นอกุศลเยอะ 65 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางวันสงบ บางวันฟุ้งซ่าน 66 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาแล้วเห็นแต่ละวัน จิตเราไม่เคยเหมือนกันเลย 67 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็ภาวนาไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ 68 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินจงกรมเหมือนกันทุกวัน 69 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่จิตเราไม่เหมือนกัน 70 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นแต่ละวันไม่เหมือนกัน 71 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างหลวงพ่อเวลาอยู่ที่บ้าน 72 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะไหว้พระสวดมนต์แล้วก็นั่งสมาธิ ไม่ได้เดิน 73 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะบ้านเป็นบ้านโบราณบ้านไม้ 74 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาเดินแล้วมันร้องเอี๊ยดๆ หนวกหูคนอื่นเขา 75 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่เวลาออกมาจากบ้าน ทุกก้าวที่เดิน 76 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึกไปเรื่อยๆ 77 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตามรู้ตามเห็นไปเรื่อยๆ 78 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอมาอ่านเราก็จะเห็นเลย แต่ละวันจิตเราไม่เหมือนกัน 79 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทั้งๆ ที่ภาวนาเหมือนกัน 80 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต่อมาดูได้ละเอียดมากขึ้น 81 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ได้ดูเป็นวันๆ หรอก 82 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูเป็นช่วงเวลา 83 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเช้าตอนตื่นนอนจิตใจเราเป็นแบบนี้ 84 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนสายๆ หน่อยเป็นอย่างนี้ 85 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเที่ยงจิตใจเราเป็นอย่างนี้ 86 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนบ่ายจิตใจเป็นอย่างนี้ 87 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเย็นๆ จิตใจเป็นอย่างนี้ 88 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนค่ำๆ ตอนดึกๆ จิตใจไม่เหมือนกันสักที 89 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทั้งๆ ที่เป็นวันเดียวกัน 90 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก่อนจะมาเห็นตรงนี้ได้ก็ เห็นแต่ละวันไม่เหมือนกัน 91 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอภาวนามากเข้าๆ เราเห็นว่าแต่ละห้วงเวลาไม่เหมือนกัน 92 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างตอนเช้าตื่นมา แล้วเช้าแต่ละวันก็ยังไม่เหมือนกันอีก 93 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเช้าวันจันทร์ตอนนั้นรับราชการ 94 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เช้าวันจันทร์เบื่อ ขี้เกียจ 95 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เช้าวันอังคารก็เบื่อมาก 96 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เช้าวันพุธชักจะอุเบกขาแล้ว เฉยๆ แล้ว 97 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เช้าวันพฤหัสเริ่มสดชื่น 98 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอเช้าวันศุกร์นี้กระดี๊กระด๊า 99 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ละวันไม่เหมือนกัน 100 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทั้งๆ ที่เป็นห้วงเวลาเดียวกัน 101 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ละวันก็ยังไม่เหมือนกันอีก 102 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนสายๆ แต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน 103 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเที่ยงก็ไม่เหมือนกัน สังเกตไป 104 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเย็นๆ หลวงพ่อสังเกตตัวเอง 105 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตหลวงพ่อจะมีกำลังมาก 106 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเป็นโยมจิตจะมีกำลังมาก 107 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนสัก 4 โมงเย็นไปแล้ว 108 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คล้ายๆ ทำงานใกล้จะเลิกงานแล้ว 109 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตใจเริ่มสดชื่น 110 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนทำงานก็เครียดไม่ใช่ไม่เครียด 111 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะงานที่ทำนี้ งานที่เครียดมากๆ เลย 112 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 งานอยู่สภาความมั่นคง 113 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันๆ ก็เป็นเรื่องหาข้อมูลวิเคราะห์ข้อมูล 114 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หาทางออกในการแก้ปัญหาแต่ละเรื่อง 115 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรื่องปวดหัวทั้งนั้นล่ะ 116 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอได้เวลาจะเลิกงานใจเริ่มผ่อนคลาย 117 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นเวลาสังเกตตัวเอง 118 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเย็นๆ ตอนเลิกงานจิตจะมีกำลัง 119 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตจะสดชื่นเกิดสมาธิโดยที่ไม่ต้องนั่งสมาธิ 120 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นตรงนี้เป็นนาทีทองสำหรับหลวงพ่อ 121 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พวกเราก็ต้องไปดูตัวเอง 122 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาช่วงไหนในแต่ละวัน 123 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นช่วงที่สติของเราดีสมาธิของเราดี 124 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ช่วงเวลานั้นเป็นเวลานาทีทองของวันนั้น 125 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราควรจะสงวนควรจะรักษา ช่วงเวลานี้เอาไว้ภาวนา 126 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นหลวงพ่อ พอเลิกงานแล้วไม่ทำอะไรหรอก 127 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กลับบ้าน 128 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่เอานาทีทองตัวนี้ไปทำลายทิ้ง ไปเที่ยว 129 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนเขาก็ชวนไปเที่ยว ผับเที่ยวบาร์อะไรอย่างนี้ 130 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ไป บอกไม่ชอบ 131 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วจริงๆ ก็คือไม่ชอบไม่ได้โกหก 132 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เคยหลุดเข้าไปในบาร์หรือในผับอะไรทีหนึ่ง 133 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่มันนรกชัดๆ เลย 134 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เสียงก็ดัง ไฟก็วูบๆ วาบๆ คนก็หลง 135 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็ดื่มน้ำทองแดงกัน 136 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เข้าไปเห็นครั้งเดียวเข็ดเลย หนีตลอด ไม่ยอม 137 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใครชวนอย่างไรก็ไม่ไป 138 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรื่องอะไรอยู่ดีๆ เป็นมนุษย์ดีๆ ไปตกนรกเล่น 139 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นพอเลิกงานตกเย็นตกค่ำ 140 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อภาวนา 141 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขึ้นรถเมล์กลับบ้านก็ภาวนา 142 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเช้าขึ้นรถเมล์ไปทำงานก็ภาวนา 143 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนจะกินข้าวก็ภาวน 144 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 า ภาวนาไม่ใช่ไปนั่งพุทโธๆ อะไรหรอก 145 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีสติอ่านจิตใจตัวเองไปไม่หยุด 146 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตใจเรามีความสุขก็รู้ จิตใจเราทุกข์ก็รู้ 147 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตสงบก็รู้ จิตฟุ้งซ่านก็รู้ 148 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฝึกไปเรื่อยๆ 149 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต่อมาสติแข็งแรงมากขึ้นๆ สมาธิดีขึ้น 150 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คราวนี้ไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ของจิตตามห้วงเวลาแล้ว 151 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าอ่อนที่สุดก็เห็นว่าแต่ละวันไม่เหมือนกัน 152 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าพัฒนาขึ้นมาแล้วเห็นว่า แต่ละเวลาไม่เหมือนกัน 153 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอสติเราเร็วจริงๆ สมาธิเราดีจริงๆ 154 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราจะเห็นว่าแต่ละขณะไม่เหมือนกัน 155 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างตอนเช้านี้ 156 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเราเปลี่ยนไป ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้งแล้ว 157 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แค่ช่วงเช้าแป๊บเดียวนั้น 158 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ค่อยๆ สังเกตเอา 159 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างออกจากบ้านหรืออยู่ในบ้าน 160 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเช้าจะไปทำงาน 161 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พยายามจะขับถ่ายกลัวไปปวดท้องกลางทาง 162 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้ขับถ่ายสะดวก 163 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตใจสบายรู้สึกผ่อนคลาย 164 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้ท้องผูกไม่ยอมถ่ายกลุ้มใจ 165 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ได้รู้แค่ว่าถ่ายได้ไม่ได้ 166 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้เข้ามาถึงจิตถึงใจเลย 167 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตใจยินดีพอใจหรือจิตใจกลุ้มใจ 168 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่คือการปฏิบัติ 169 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าปฏิบัติเก่งเฉพาะตอนนั่งสมาธิ เดินจงกรมถือว่ายังอ่อนหัดมากเลย 170 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องฝึกให้ได้ มีสติอยู่ทุกขณะ 171 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คำว่า “ทุกขณะ” ไม่ถึงขณะตามตำราอภิธรรม 172 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตำราอภิธรรมบอกว่าลัดนิ้วมือหนึ่ง 173 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดดับแสนโกฏิขณะ 174 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ลัดนิ้วมือ ดีดนิ้วทีหนึ่ง 175 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดดับแสนโกฏิขณะ อันนั้นตำรา 176 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทางวิทยาศาสตร์ก็พบว่า 177 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันมีช่วงเวลากว่าที่จิตจะ ขึ้นมารับอารมณ์แต่ละครั้ง 178 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วรู้เรื่องว่าอะไรเป็นอะไร ใช้เวลา 179 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ไม่ถึงวินาทีผุดความรู้สึกขึ้นมาแล้ว 180 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็ดูจากความเป็นจริงที่เราเห็น 181 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ได้ดูจากตำรา 182 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตำราก็อาจจะถูกก็ได้ 183 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่สติเราไม่ละเอียดพอที่จะเห็น 184 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องตีความอย่างนี้ไว้ก่อน ไม่ใช่ 185 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำได้ไม่เหมือนตำราบอกตำราผิด 186 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันนั้นเซลฟ์จัดเกินไปแล้ว 187 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราดูเท่าที่เราดูได้ 188 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อเห็นว่าจิตมันเปลี่ยนอยู่ทุกขณะ 189 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะอะไรไม่ใช่ขณะจิตหรอก 190 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะที่ตาเห็นรูปก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จิต 191 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะที่หูได้ยินเสียง ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จิต 192 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะที่จมูกได้กลิ่น ลิ้นกระทบรสกายกระทบสัมผัส 193 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จิต 194 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะที่จิตมันคิด 195 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตมันคิดนึกปรุงแต่งก็เกิดความเปลี่ยนแปลง 196 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดเรื่องนี้เกิดสุข คิดเรื่องนี้เกิดทุกข์ 197 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดเรื่องนี้เกิดราคะ คิดเรื่องนี้เกิดโทสะ 198 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยู่เฉยๆ จะมีโทสะได้ไหม ไม่ได้หรอก 199 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องตามหลังความคิดเรียกพยาบาทวิตกมาก่อน 200 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยู่ๆ จะเกิดราคารุนแรงอะไรได้ไหม ไม่ได้ 201 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องมีกามวิตกมาก่อน 202 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วทั้งหมดต้องหลง 203 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทีแรกเราไม่เห็นขนาดนั้น 204 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราภาวนาเราเห็นว่าจิตเราเปลี่ยนทุกขณะ 205 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะที่กระทบอารมณ์นั่นล่ะ ไม่ใช่ขณะจิตหรอก 206 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตาเห็นรูป 207 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทีแรกบอกเห็นรูปใจก็โกรธขึ้นมาอะไรอย่างนี้ 208 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูละเอียดลงไปอีก ไม่ต้องตั้งใจดู 209 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่เราฝึกสติของเราไปเรื่อยๆ ฝึกสมาธิของเราไปเรื่อยๆ 210 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันจะเห็นได้ละเอียดๆๆ เข้าไปอีก 211 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะที่ตาเห็นรูป 212 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตไม่มีความสุขไม่มีความทุกข์ 213 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเฉยๆ ขณะที่ตามองเห็น 214 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จะเกิดสุขเกิดทุกข์ เกิดกุศลอกุศลมาเกิดทีหลัง 215 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอตาเห็นรูปปุ๊บมันจะมีการแปล 216 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราจะเห็นการแปลความหมายของรูป 217 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รูปนี้คืออะไร 218 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วอนุสัยความคุ้นเคยมันก็ให้ค่าออกมา 219 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอใจรูปนี้สวยงาม เห็นดอกไม้สวย 220 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงที่ตาเห็นดอกไม้สวยไม่มีคำว่าสวยหรอก 221 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตาเห็นรูปเฉยๆ ตาไม่เห็นของสวยหรอก 222 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตาเห็นแล้วก็จิตมันแปล ว่านี่ดอกไม้นี่ดอกกุหลาบ 223 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สวยเชียว ดอกก็โตสวย 224 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอมีการให้ค่าขึ้นมา 225 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใจก็ยินดีพอใจ ราคะก็เกิด 226 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตามหลังความคิดมา ความคิดที่เป็นกามวิตก 227 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระบวนการมันจะค่อย ยิ่งภาวนามันยิ่งละเอียดๆๆ เข้าไป 228 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราจะรู้เลยว่าขณะที่ตามองเห็นไม่มีกิเลส 229 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วจิตก็เป็นอุเบกขา 230 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะหูได้ยินเสียงก็ไม่มีกิเลส 231 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะที่จมูกได้กลิ่น ลิ้นกระทบรส กายกระทบสัมผัส 232 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็ยังไม่มีกิเลส 233 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงที่ใจมันกระทบความคิดแล้วความคิดมันนำไป 234 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กิเลสมันก็ทำงานขึ้นมาได้ 235 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คอยรู้คอยดูค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ 236 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้ววันหนึ่งก็เข้าใจหรอก 237 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นก็ดับ 238 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่มีสิ่งใดที่เกิด แล้วสิ่งนั้นไม่ดับ ไม่มีเลย 239 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราภาวนาเรื่อยๆ เราก็เห็นสุขเกิดแล้วสุขก็ดับ 240 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทุกข์เกิดแล้วทุกข์ก็ดับ 241 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กุศลเกิดแล้วกุศลก็ดับ 242 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อกุศล โลภ โกรธ หลงเกิดแล้วมันก็ดับ 243 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตที่ไปดูรูปเกิดแล้วก็ดับ ตรงนี้ละเอียด 244 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ละเอียดกว่าที่จะรู้ จิตสุขจิตทุกข์จิตดีจิตชั่ว 245 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คือเห็นจิตมันเกิดดับทางอายตนะทั้ง 6 246 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดที่ตาดับที่ตา จิตเกิดที่หูดับที่หู 247 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดที่จมูกดับที่จมูก เกิดที่ลิ้นดับที่ลิ้น 248 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดที่ร่างกายดับที่กาย จิตเกิดที่ใจก็ดับที่ใจ 249 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดที่ไหนก็ดับที่นั้น จิตไม่ได้มีดวงเดียว 250 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หัดภาวนาทีแรกเรารู้สึกจิตมีดวงเดียว 251 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็เที่ยวร่อนเร่ไปทางทวารทั้ง 6 252 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่าจิตมีดวงเดียว 253 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดวงนี้หลงไปดูพอรู้ทันมันก็วิ่งกลับมา 254 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันหลงไปฟังพอรู้ทันมันก็วิ่งกลับมา 255 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เข้าฐาน เห็นจิตเหมือนตัวแมงมุม 256 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวก็วิ่งไปข้างซ้าย เดี๋ยวก็วิ่งไปข้างขวา 257 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวขึ้นข้างบนเดี๋ยวลงข้างล่าง 258 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แมงมุมมีตัวเดียววิ่งไปวิ่งมา 259 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอเราภาวนาละเอียดเข้าๆ เราเห็น 260 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดที่ไหนก็ดับที่นั้น 261 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเสวยอารมณ์อันไหนก็ดับพร้อมอารมณ์อันนั้น 262 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดดับไปด้วยกัน 263 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันถี่ยิบขึ้นมา จะเห็น 264 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทีแรกเรายังไม่เห็นหรอก 265 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราต้องฝึกให้มีจิตที่เป็นผู้รู้ก่อน 266 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมา 267 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นมหากุศลจิตประกอบด้วยปัญญา 268 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดขึ้นโดยไม่ได้จงใจ 269 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องเป็นจิตชนิดนี้ถึงจะมีกำลังมากพอ 270 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่จะเดินปัญญาได้จริง 271 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่อย่างนั้นยังเป็นปัญญาพื้นๆ คิดๆ เอา 272 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าจะขึ้นวิปัสสนาปัญญา 273 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตต้องตั้งมั่นอัตโนมัติมีกำลัง 274 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ของฟรีไม่มีก็ต้องฝึก 275 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วิธีฝึกให้จิตตั้งมั่นทำอะไรดี 276 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำได้ 2 วิธี หนึ่ง ฝึกเข้าฌานที่ประกอบด้วยสติ 277 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันที่สอง อาศัยสัมมาสติ หรือสติระลึกรู้รูปนามกายใจ 278 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอสติเราระลึกรู้รูปธรรมนามธรรม 279 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง 280 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตที่ตั้งมั่นก็จะเกิดขึ้นเอง 281 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นเจริญสัมมาสติให้มาก แล้วสัมมาสมาธิจะเกิดร่วมด้วย 282 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดด้วยกันกับสัมมาสติ 283 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขาดสตินี่ 284 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สัมมาสัมมาทั้งหลายหายหมดเลยไม่เหลือเลย 285 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นต้องฝึกสติให้ดี 286 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วิธีฝึกสติอยู่ในหลักสูตร ชื่อการเจริญสติปัฏฐาน 287 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มี 4 อย่าง กาย เวทนา จิต ธรรม 288 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถนัดอันไหนเอาอันนั้น แล้วได้ทุกอัน 289 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สุดท้ายได้ทั้งหมดล่ะ 290 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเราหัดรู้สึกร่างกาย 291 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึก ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึกไปเรื่อยๆ 292 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต่อมาจิตเราหลงไป 293 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายเราขยับปุ๊บเรารู้เลยว่าจิตหลงไปแล้ว 294 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันก็เข้ามารู้จิตได้ 295 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สติปัฏฐาน 4 มันก็ เหมือนโต๊ะตัวเดียวกันนี้ล่ะ 296 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่มันมี 4 มุม 297 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แข็งแรงหน่อยก็ยกมุมใด มุมหนึ่งมันก็ขึ้นมาหมดแล้ว 298 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ได้หมดล่ะ ไม่ยาก 299 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชาวพุทธเราอย่าทิ้งการเจริญสติปัฏฐาน 300 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตราบใดที่ยังมีการเจริญสติปัฏฐานอยู่ 301 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การบรรลุมรรคผลนิพพานยังมีความเป็นไปได้ 302 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่เจริญสติปัฏฐาน ไม่มีทางบรรลุมรรคผลอะไรหรอก 303 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วิชาสติปัฏฐานเป็นวิชาที่ดี 304 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ส่วนวิชาที่จะอยู่กับโลก 305 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เขาเรียก เดรัจฉานวิชา 306 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระพุทธเจ้าไม่ได้ด่าเดรัจฉานวิชา 307 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าเข้าใจผิด 308 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวอย่างเดรัจฉานวิชาคืออะไร 309 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แพทยศาสตร์นี้เดรัจฉานวิชา 310 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ 311 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทันตแพทยศาสตร์ นิเทศศาสตร์ 312 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดรัจฉานวิชาทั้งนั้นเลย 313 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วิชาหมอนวดก็เดรัจฉานวิชา 314 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คำว่าเดรัจฉานวิชาไม่ได้แปลว่า วิชาของสัตว์เดรัจฉาน 315 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดิรัจฉาน ตัวนี้แบบไปทางขวางไปทางนี้ ขวาง 316 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สัตว์เดรัจฉาน สังเกตไหม 317 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระดูกสันหลังมักจะขวาง คือขนานกับโลก 318 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดรัจฉานวิชาคือวิชาที่จะอยู่กับโลก 319 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จำเป็นต้องมีไหม จำเป็น 320 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าขืนไม่มีเดรัจฉานวิชาทำมาหากินไม่เป็น 321 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้วิธีเลี้ยงเด็กก็เดรัจฉานวิชา 322 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้วิธีเลี้ยงเสือ ตอนนี้หมูเด้งจืดแล้ว 323 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนนี้มีเสือชื่ออะไร น้องเอวา 324 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนเลี้ยงเสือได้เขาก็มีวิชาของเขา 325 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ให้เราไปเลี้ยง เสือเอาไปกิน 326 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นเดรัจฉานวิชาไม่ใช่วิชาต่ำต้อย 327 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นวิชาที่ต้องเอาไว้อยู่กับโลก 328 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สิ่งที่ตรงข้ามกับเดรัจฉานวิชา คือวิชาทางตั้ง แนวตั้ง 329 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดรัจฉานวิชามันแนวขนาน ขนานไปกับโลก 330 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แนวตั้งคือการปฏิบัติธรรมนั่นล่ะ 331 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พัฒนาไตรสิกขาศีล สมาธิ ปัญญาขึ้นมา 332 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วลงท้ายไปเจริญสติปัฏฐานให้ได้ 333 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในที่สุดก็จะพ้นโลก 334 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เหมือนยิงจรวด ยิงจรวดขึ้นไปอย่างนี้ 335 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเครื่องบินมันขนานกับโลกมันก็ไปอย่างนี้ 336 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปจากที่หนึ่งของโลกไปอีกที่หนึ่งของโลก 337 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเป็นทางจิตใจก็คือ จากภพนี้ก็ย้ายไปอีกภพหนึ่ง 338 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็เวียนว่ายตายเกิดในภพน้อยภพใหญ่ 339 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่วิชาโลกุตตระ วิชาแนวตั้ง 340 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เหมือนจรวดลอยขึ้นไปพ้นจากโลก 341 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยู่เหนือโลกก็คือคำว่า โลกุตตระ 342 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนยุคนี้ไม่เรียนธรรมะ ก็ 343 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชอบวิจารณ์ตัดสินพระบ้าง ตัดสินฆราวาสบ้าง 344 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ว่าทำไม่ถูกอะไร อย่างนี้ 345 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างวิชาหมอดูเป็นเดรัจฉานวิชา 346 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ว่าอะไร 347 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่ท่านห้ามมีอันเดียว 348 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ห้ามพระประกอบอาชีพทางเดรัจฉานวิชา 349 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านห้ามตัวนี้ต่างหากล่ะ 350 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านไม่ได้ห้ามฆราวาส อย่ามั่ว 351 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าพระไปรักษาโรค 352 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระสมัยโบราณจะรักษาโรค 353 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนไม่สบายไม่รู้จะไปไหน โรงพยาบาลไม่มี 354 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หามกันไปหาพระ กระดูกหักให้พระต่อให้ 355 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระทำเดรัจฉานวิชาไหม ทำ 356 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาบัติไหมไม่อาบัติ 357 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะไม่ได้เอาไว้ทำมาหากิน 358 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำเพื่อสงเคราะห์โลก 359 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่มีความละเอียดรอบคอบไม่เข้าใจ เรื่องธรรมวินัยแล้วชอบตัดสิน 360 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระทำอย่างนี้ไม่ถูก อันนี้ก็ไม่ถูก นั่นก็ไม่ถูก 361 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระดีๆ ก็คือพระพุทธรูป 362 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ห้ามกระดุกกระดิกทำอะไรไม่ได้เลย 363 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอไม่ได้เรียนไม่ได้ศึกษาแล้วก็ 364 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชอบมั่วชอบตีความชอบตัดสิน มั่วมาก 365 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำให้พระธรรมวินัยศาสนาอยู่ยาก อยู่ลำบาก 366 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ธรรมะจริงๆ สูญหายไป 367 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นมาแทนที่ 368 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีพูดแล้วโก้เก๋ดี 369 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พูดแล้วแหมดูดีจังเลย 370 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนที่พูดแล้วดูดีที่มีชื่อเสียงที่สุดเลย 371 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คือเทวทัต 372 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เทวทัตเป็นคนเสนอพระพุทธเจ้า 373 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกต่อไปนี้พระต้องมักน้อยสันโดษ 374 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องดำรงชีวิตด้วยอาหารบิณฑบาตเท่านั้น 375 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องใช้ผ้าบังสุกุลจีวรเท่านั้น 376 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องไม่มีกุฏิไม่มีอะไร 377 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่สร้างวัดสร้างวาอะไร 378 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยู่ตามธรรมชาติธรรมดา 379 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องกินมังสวิรัติ ฟังแล้วดี 380 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พวกคนไม่ฉลาดก็เคลิ้ม 381 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เทวทัตเคร่งครัดกว่าพระพุทธเจ้าอีก 382 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ส่วนหนึ่งพวกพระก็ยังตามไปเลย 383 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตามเทวทัตไปเป็นร้อยๆ เลย 384 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วต่อมาพระโมคคัลลานะ สารีบุตร 385 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านไปอธิบายธรรมะให้ฟัง 386 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนที่ท่านเข้าไปสำนักของเทวทัต 387 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เทวทัตกำลังเทศน์ให้ลูกศิษย์ฟังอยู่ 388 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอเห็นพระโมคคัลลานะ สารีบุตรเข้าไปก็ดีใจ 389 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นึกว่าแปรพักตร์จากพระพุทธเจ้า มาเป็นสาวกของเทวทัตแล้ว 390 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เทวทัตก็บอกว่าช่วยเทศน์แทนหน่อย 391 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อยแล้วจะไปนอน 392 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอตื่นมาลูกศิษย์หายไปหมดแล้ว 393 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มาฟังเทศน์พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร 394 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ผิดชอบชั่วดีถอยออกมาเลย 395 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เหลือที่ไม่ถอยออกมาไม่มาก 396 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พวกที่ถอยออกมาก็มาภาวนา 397 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จำไม่ได้ว่าออกมาแล้วภาวนาแล้วผลเป็นอย่างไร 398 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่มีเรื่องเล่าอันหนึ่ง 399 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันนี้ต้องใช้วิจารณญาณในการฟัง 400 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สำนวนนี้เคยคุ้นๆ ไหม 401 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องใช้วิจารณญาณในการฟัง 402 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อก่อนหลวงพ่อเคยรู้จักพระองค์หนึ่ง ตอนหลวงพ่อยังไม่บวช 403 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านพิการมือนิ้วท่านติดกันอย่างนี้ 404 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ติดกันหมดเลย 405 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วท่านบอกท่านพิการมาแต่เด็กเลย 406 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สงสัยบาปกรรมอะไรทำให้พิการอย่างนี้ 407 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านก็ระลึกๆ ไป จริงหรือเปล่าไม่รู้ 408 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันนี้ท่านเล่าพิสูจน์ไม่ได้ 409 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านบอกท่านเคยเป็นลูกศิษย์เทวทัต 410 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่กลับใจแล้ว กลับใจแล้ว 411 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเป็นลูกศิษย์เทวทัตก็ประกาศ ว่าต่อไปนี้จะไม่ไหว้พระพุทธเจ้าแล้ว 412 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วต่อมาก็เปลี่ยนใจกลับเข้ามา 413 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกว่าอกุศลนี่ นิ้วของท่านเป็นแบบนี้ 414 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แยกออกจากกันไม่ได้ ทำได้แค่นี้ 415 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จริงหรือเปล่าไม่รู้ 416 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันนี้เรื่องของกรรมเป็นเรื่องอจินไตย 417 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่การกระทำทั้งหลายทั้งปวงย่อมมีผลแน่นอน 418 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ลูกศิษย์เทวทัตปรามาสพระพุทธเจ้า ปรามาสพระสาวก 419 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็ต้องรับวิบาก เทวทัตก็ต้องรับวิบาก 420 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นเวลาเราได้ยินใครเขาเสนอวาทะ 421 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คมคายดูดีเหลือเกินเลย 422 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องทบทวนว่ามันตรงกับพระไตรปิฎกหรือเปล่า 423 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีการเสนออะไรที่เข้มมากๆ 424 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระพุทธเจ้าท่านไม่เอา ท่านบอก 425 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวศาสนาจะอยู่ยาก ศาสนาจะอันตรธานเร็ว 426 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเป็นพระบอกต้องฉันเจอย่างเดียว 427 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชาวบ้านเขาไม่ได้กินเจ 428 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใครเขาจะมาหาอาหารเจให้ทุกวันๆ 429 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สุดท้ายพระอาหารไม่พอแล้วก็อยู่ไม่ได้ 430 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศาสนาก็หายไป พระหายไปไม่มีใครสืบทอด 431 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านจะไม่สุดโต่งๆ 432 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศาสนาถึงได้ยืนยาวมาถึงทุกวันนี้ 433 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำไมมาเรื่องนี้ได้ก็ไม่รู้ 434 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รวมความก็คือต้องเจริญสติปัฏฐาน 435 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อสอนอยู่ทุกวี่ทุกวันก็เรื่องนี้ล่ะ 436 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ก่อนที่เราจะมาเจริญสติปัฏฐานได้ 437 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บทเรียนของเราต้องครบ ไตรสิกขา 438 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีลต้องรักษา 439 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตั้งใจไว้ก่อนจะรักษาศีล 5 ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 440 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรื่องรักษาศีลก็เคยมี คนถามหลวงปู่เทสก์กระมัง 441 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกว่า ถ้าท่านเดินไปแล้วเห็นผู้หญิงตกน้ำ 442 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระจะกระโดดลงไปช่วย 443 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาบัติไหมไปจับตัวผู้หญิง 444 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ช่วยจิตจะเศร้าหมองไหม 445 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าจิตเศร้าหมองแสดงว่า 446 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงนั้นเราต้องทำชั่วอะไรสักอย่างแล้ว 447 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเราเห็นผู้หญิงตกน้ำ แล้วเราก็อุเบกขา 448 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จริงๆ แล้วจิตจะไม่ดีเลย จิตจะกระด้าง 449 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นสัตว์ลำบากแล้วเฉยเมย 450 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่าความเฉยเมยคืออุเบกขา ไม่ใช่ 451 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นความใจไม้ไส้ระกำ 452 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านบอกว่าท่านก็ใช้วิธีนี้สิ 453 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านกระโดดลงไปในน้ำไปอยู่ใกล้ๆ เขา 454 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวเขาก็เกาะท่านท่านก็ว่ายเข้าฝั่ง 455 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านว่าอย่างนี้ แต่หลวงพ่อคงไม่เอา 456 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขืนมาเกาะเราก็พากันจมแน่เลย 457 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หาไม้หาอะไรโยนให้ ให้เกาะ ก็ต้องช่วย 458 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จำเป็นจริงๆ 459 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็ลงไปลากขึ้นมาแล้วมาปลงอาบัติเอา 460 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีก็ต้องคิดต้องพิจารณา 461 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถือศีลเคร่งๆ ไปเลยแบบงมงายก็ใช้ไม่ได้ 462 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีลรักษาไปเพื่อให้จิตใจเป็นปกติ 463 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพื่อให้หมู่สงฆ์สงบสุข 464 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพื่อให้คนที่ยังไม่เลื่อมใสเกิดเลื่อมใส 465 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพื่อให้คนที่เลื่อมใสแล้ว 466 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีความมั่นคงในพระศาสนา เลื่อมใสมั่นคง 467 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีลไม่ได้ถือเอาไว้ทรมานตัวเอง 468 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีลไม่ได้ถือไว้ใจร้ายกับคนอื่น 469 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นก็ต้องรู้จักอะไรควรอะไรไม่ควร 470 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นมีพระมีข่าวเรื่อยเลย ดูแลแม่ 471 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เช็ดอึเช็ดฉี่อาบน้ำให้อะไรให้ 472 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถามว่าถูก ไม่ถูก ก็ไม่ถูก 473 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าไม่มีใครทำให้ก็ต้องทำ 474 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาบัติร้ายแรงไหม อาบัติไม่ร้ายแรง 475 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาบัติที่ร้ายแรงคือภิกษุมี ความกำหนัดจับต้องกายหญิง 476 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ได้มีความกำหนัดมีแต่ความเมตตา 477 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดีกรีมันมี 478 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ว่ามันผิดร้ายแรงแค่ไหน 479 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่เห็นอะไรก็บอกจับสึกๆ 480 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทุกวันนี้ง่ายเหลือเกิน เจอพระไม่ชอบใจ บอกจับสึก 481 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นต้องเรียน ขอแนะนำ 482 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อ่านพระไตรปิฎกดีที่สุดเลยหัดอ่านไป 483 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พระวินัย พระสูตรพวกนี้ อ่าน 484 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อภิธรรมอ่านไม่รู้เรื่อง 485 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องไปเรียนอภิธัมมัตถสังคหะอะไรพวกนั้นก่อน 486 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ศีลต้องรักษา สมาธิต้องฝึก 487 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทุกวันแบ่งเวลาไว้เลย 488 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถึงเวลาจะต้องปฏิบัติในรูปแบบ 489 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำไมหลวงพ่อไม่ใช้คำว่าถึงเวลา ให้ไปนั่งสมาธิให้ไปเดินจงกรม 490 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะว่าแต่ละคนรูปแบบ ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 491 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางคนกวาดพื้นอยู่เป็นเครื่องอยู่ 492 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นั่นคือการทำในรูปแบบของเขา 493 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนหลวงพ่อบวชครั้งแรกที่วัดชลประทาน 494 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อปัญญาเป็นพระอุปัชฌาย์ 495 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีพระผู้เฒ่าองค์หนึ่งกุฏิอยู่ติดๆ กัน 496 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านกวาดวัด ฉันข้าวเสร็จตอนเช้าก็กวาดวัดไป 497 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กวาดจากหน้าวัดไปท้ายวัด 498 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท้ายวัดกวาดมาหน้าวัด 499 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กวาดอยู่อย่างนั้นทั้งวัน 500 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อตอนนั้นโง่ ก็ไปบอก 501 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านบอกหลวงพ่อทำไมไม่นั่งสมาธิไม่เดินจงกรม 502 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมช่วยกวาด 503 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไปนั่งสมาธิกันดีกว่า 504 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านก็ยิ้มหวานหลวงพ่อ ยังจำรอยยิ้มของท่านได้ 505 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ท่านบอกคุณบวชสั้นๆ คุณไปนั่งสมาธิเดินจงกรม 506 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวผมกวาดเอง 507 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่ความโง่ของเรา 508 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่จริงท่านภาวนาทั้งวันเลย 509 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายท่านเคลื่อนไหวท่านกวาดใบไม้ 510 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กวาดถนนกวาดใบไม้กวาดไปเรื่อยๆ 511 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึก 512 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นรูปเคลื่อนไหวใจเป็นคนรู้ 513 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราภาวนาเป็นแล้วเราถึงนึกถึงท่านได้ 514 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โอ๊ยตายแล้ว 515 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไปบอกท่านด้วยความโง่ของเราแท้ๆ 516 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ประกอบด้วยเมตตา 517 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความโง่นั้นไม่ได้ประกอบด้วย 518 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูถูกว่าท่านไม่ยอมไปนั่งภาวนา 519 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรามีความเมตตาอยากให้ ท่านได้ภาวนาบ้างมีเวลาบ้าง 520 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นหลวงพ่อจะใช้คำว่าทำในรูปแบบ 521 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รูปแบบแต่ละคนไม่เหมือนกัน 522 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แค่กวาดวัดก็เป็นการปฏิบัติในรูปแบบแล้ว 523 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ได้เห็นรูปเคลื่อนไหวใจเป็นคนรู้ 524 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างบางคน 525 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อไปที่บ้านจิตสบาย เห็นมีคนหนึ่งส่งการบ้าน 526 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อดูแล้วคนนี้ ไม่เคยช่วยเมียทำงานบ้านเลย 527 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมียก็ชักโมโห 528 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกไปช่วยเมียทำงาน ช่วยเมียซักผ้า ถูบ้าน 529 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เขาเชื่อเขาไปทำ แล้วจิตใจเขาก็สบาย 530 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สบายเพราะอะไร เพราะเมียไม่ด่า 531 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมียไม่บ่นแล้วสบายใจ 532 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็รู้เนื้อรู้ตัว ทำงานไปรู้เนื้อรู้ตัวไป 533 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในครอบครัวก็ดีจิตใจตัวเองก็ดี 534 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่ทำในรูปแบบ 535 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่ทำในรูปแบบต้อง นั่งสมาธิท่านี้ต้องเดินท่านี้ 536 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีเดินจงกรมต้องกำหนดโน้นกำหนดนี้ 537 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีเท่านั้นจังหวะเท่านี้จังหวะ ทำแล้วเครียด 538 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำแล้วเครียดไม่ใช่การปฏิบัติหรอก 539 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำอกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด 540 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำอกุศลที่เกิดแล้วให้แรงขึ้น 541 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างทำแบบเครียดๆ ไปเรื่อยๆ 542 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อกุศลอะไรจะแรง กูเก่ง กูดีกว่าคนอื่น 543 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อกุศลพวกนี้จะเด่นขึ้นมา 544 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นถึงเวลาไปทำในรูปแบบ 545 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถนัดกรรมฐานอะไรเอานั้นล่ะ 546 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีต้นไม้เยอะก็ไปรดต้นไม้ 547 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างที่นี่ตกเย็นพระต้องไปรดต้นไม้ 548 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้นไม้มี 2 ส่วน 549 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้นไม้รอบๆ กุฏิอันนี้เช้าๆ เขาก็รดกันแล้ว 550 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทางเดินก็แบ่งกันกวาดทั่ววัด 551 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ฤดูนี้พอกวาดเสร็จคล้อยหลัง 552 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ลมพัดทีเดียวใบไม้ลงมาเต็มเหมือนเดิม 553 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ไม่ต้องกวาดซ้ำแล้ว 554 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะถ้ากวาดก็คือไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว 555 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างน้อยก็รักษาข้อวัตร 556 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กวาดแล้ว ตั้งใจกวาด 557 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเช้าก็รดต้นไม้รอบๆ กุฏิ 558 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนเย็นไปรดต้นไม้ฝั่งโน้น 559 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปปลูกป่ากันไว้ร่วมร้อยไร่ 560 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แบกน้ำตักน้ำใส่ถังเอาไปรดต้นไม้ 561 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รดทีละต้นทีละต้น 562 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฝั่งโน้นไม่รู้ต้นไม้กี่พันต้น ฝั่งโน้น 563 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถามว่าเสียเวลาภาวนาไหม ไม่เสีย 564 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาตักน้ำรู้สึกตัวหิ้วน้ำไปรู้สึกตัว 565 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าไม่รู้สึกทำอะไร ไม่รู้สึกตัวก็ทำน้ำหก 566 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือเดินตกหลุมตกบ่อแข้งขาเคล็ด 567 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางองค์ขาเส้นเอ็นพลิกเดินเผลอไปหน่อย 568 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่คือการปฏิบัติ ไปรดต้นไม้ 569 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทุกวันทำอย่างนี้ล่ะ 570 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นไหมต้องมีรักษาศีล 571 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต้องทำในรูปแบบทุกวันๆ 572 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็ต้องเจริญสติในชีวิตประจำวัน 573 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าทำได้อย่างที่บอก 3 อย่างนี้ 574 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มรรคผลไม่ไกลหรอก 575 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การเจริญสติในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ก็คือการเจริญสติปัฏฐานนั่นล่ะ 576 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเรามีสติเห็นร่างกายหายใจออก มีสติเห็นร่างกายหายใจเข้า 577 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้ววันไหนจิตใจเราฟุ้งซ่าน 578 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราเห็นร่างกายหายใจออกหายใจเข้าสักพักหนึ่ง 579 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตมันจะรวมลงไป จะพักผ่อนหายฟุ้งซ่าน 580 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันไหนจิตเรามีกำลังอยู่แล้ว หายใจออกรู้สึกหายใจเข้ารู้สึก 581 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราก็จะเห็นว่าร่างกายที่ หายใจเป็นคนละอันกับจิต 582 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายกับจิตแยกออกจากกัน 583 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขึ้นเจริญปัญญาแล้ว 584 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นแค่เราหายใจมันมีทั้งสมถะทั้งวิปัสสนา 585 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเวลาจะทำสมาธิเราก็หายใจไป 586 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วถ้าจิตมันต้องการพักผ่อนมันจะรวมสงบลงไป 587 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รวมเองไม่ต้องสั่งให้รวมเลย 588 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยกเว้นมีวสีชำนาญแล้ว 589 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นึกอยากรวมเมื่อไรก็รวมได้ทันที 590 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้ายังรวมไม่ได้ก็อย่าไปตกใจ 591 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถึงเวลาเราก็ทำกรรมฐานไป 592 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วถ้าจิตมันต้องการพัก มันรวมเองมันเข้าเอง 593 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนที่เกิดอริยมรรคอริยผลจิตก็รวมเอง 594 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าตั้งใจรวมไม่ค่อยได้เรื่องหรอก 595 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยังเจือโลภเจตนาอยู่ 596 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเราหายใจไป หายใจไป 597 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้จิตเรามีกำลังแล้ว 598 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันไม่รวม ไม่เคลิ้ม 599 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตั้งมั่นทรงตัวขึ้นมา 600 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สติระลึกรู้กายก็เห็นไตรลักษณ์ของกาย 601 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใครเป็นคนรู้กาย จิตเป็นคนรู้กาย แล้วก็เห็นไตรลักษณ์ของจิต 602 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวทนาเกิดขึ้นในกาย 603 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เเล้วก็เห็นว่าเวทนาในกายกับกายก็คนละอันกัน 604 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเป็นคนละอันกับจิต 605 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวทนาทางกายก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ 606 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตที่รู้เวทนาทางกายก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ 607 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราเห็นสังขาร จิตสังขาร 608 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตที่เป็นกุศลบ้างอกุศลบ้าง 609 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทีแรกเราก็เห็นว่าจิตเราโลภจิตเราโกรธ 610 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอเราภาวนามากเข้าๆ เราเห็นว่า 611 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความโลภ ความโกรธ ความหลงกับจิตเป็นคนละอันกัน 612 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความโลภกับจิตคนละอันกัน 613 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความโกรธกับจิตเป็นคนละอันกัน 614 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นองค์ธรรมคนละชนิดกัน 615 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวโลภตัวโกรธตัวหลงเป็นสังขาร 616 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรียกว่าสังขารขันธ์ อยู่ในสังขารขันธ์ 617 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเป็นอีกขันธ์หนึ่งอยู่ในวิญญาณขันธ์ 618 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นคนละอันกัน 619 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คนทั่วไปบอกเราโกรธ 620 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อันนี้โง่ที่สุดแต่ไม่โง่มากไม่ถึงที่สุด 621 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โง่ที่สุดคือไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโกรธ 622 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปอาละวาดใส่คนอื่นแล้ว 623 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดีขึ้นมาหน่อยเห็นว่าเรากำลังโกรธ 624 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดีกว่านั้นก็คือเห็นว่า ความโกรธกับจิตคนละอันกัน 625 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันแยกออกจากกัน 626 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วดีกว่านั้นก็คือเห็นว่า 627 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ความโกรธก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ จิตก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ 628 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตก็เดินปัญญาละเอียดๆๆ เข้าไปเรื่อยๆ 629 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สุดท้ายก็เข้ามาที่จิต 630 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็เห็นจิตนั้นเกิดดับ จิตเกิดที่ไหนจิตก็ดับที่นั้น 631 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนที่หลวงพ่อเห็นตรงนี้ทีแรก 632 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดที่ตาแล้วก็ดับที่หูแล้วก็ดับ 633 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เลยเกิดสงสัยแล้ว เราจะเอาจิตไปตั้งไว้ที่ไหนดี 634 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็เข้าไปกราบหลวงปู่ดูลย์ 635 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงปู่ครับ จิตมันตั้งอยู่ที่ไหน 636 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่ามันตั้งอยู่กลางอก คิดว่ามันอยู่ตรงนี้ 637 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วมันเกิดที่ตา ตัวนี้หายไป 638 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดที่ตาแล้วก็ดับ เกิดที่หูแล้วก็ดับ 639 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเข้ามาตรงนี้ เห็นตัวนี้มันไหวๆๆ อยู่ 640 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ก็เลยนึกว่าจิตมันอยู่ตรงนี้กระมัง 641 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ไหนๆ เจอหลวงปู่แล้วถามหลวงปู่สักหน่อย 642 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงปู่ครับจิตมันอยู่ที่ไหน 643 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตมันตั้งอยู่ที่ไหน 644 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงปู่บอกจิตไม่มีที่ตั้ง 645 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บอกแค่นี้เราก็เข้าใจแล้ว 646 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไม่ต้องเอาจิตไปตั้งไว้ที่ไหนหรอก 647 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตตั้งอยู่กับอารมณ์ 648 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดพร้อมกับอารมณ์ ดับพร้อมกับอารมณ์ 649 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเกิดที่ไหน 650 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เกิดออกไปรู้อารมณ์ทางตา แล้วก็ดับพร้อมกับการรู้อารมณ์ทางตา 651 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ออกไปฟังเสียงแล้วก็ดับพร้อมกับเสียง 652 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พร้อมกับการฟังเสียง 653 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่มันเกิดดับ 654 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาพอละเอียดๆ มันเข้ามาที่จิตนี่ล่ะ 655 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วเห็นจิตมันสร้างภพสร้างชาติตลอดเวลาเลย 656 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วภาวนาถ้าเราเข้าใจ ธรรมะประณีตขึ้น ประณีตขึ้น 657 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 การปฏิบัติมันบีบวงมาที่จิต 658 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางทีเราก็เห็นจิต บางทีเราก็ไม่เห็นจิต 659 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตตัวนี้คือจิตผู้รู้ 660 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อะไรทำให้เรามองจิตผู้รู้ไม่ออก 661 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาสวกิเลสทั้ง 4 662 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาสวกิเลสเกิดเมื่อไร หาจิตผู้รู้ไม่เจอแล้ว 663 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาสวะที่ดูง่ายๆ อย่างตัวภพดูง่าย 664 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตสร้างภพเมื่อไร 665 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตก็หลุดเข้าไปอยู่ไปเกิดในภพนั้น 666 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้ารู้ทันปุ๊บจิตหลุดออกจากภพ ภพดับ 667 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตผู้รู้ก็เด่นดวงขึ้นมา 668 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันจะเข้ามารู้ที่ตัวจิตผู้รู้ได้ 669 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอรู้ที่ตัวจิตผู้รู้ได้ 670 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สิ่งที่ปิดกั้นทำให้เรารู้จิตผู้รู้ไม่ได้ ก็คืออาสวกิเลสทั้ง 4 ตัวนั่นล่ะ 671 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กามาสวะเข้ามามาดึงจิตเราไป 672 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดึงดูดจิตเราไปหากามคุณอารมณ์ 673 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภวาสวะจิตไปสร้างภพแล้วหลงอยู่ในภพอันนั้น 674 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อวิชชาสวะมันไม่รู้แจ้งอริยสัจ 675 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทิฏฐาสวะ เวลาเราติดในความคิดความเห็น 676 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถูกความคิดความเห็นย้อมเมื่อไร 677 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวจิตผู้รู้เราก็สูญหายไป 678 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอไม่ถูกอาสวะทั้ง 4 ย้อม สติสมาธิเราดี 679 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อาสวะเข้ามาย้อมไม่ได้ จิตผู้รู้เด่นดวงขึ้นมา 680 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้ววันหนึ่งเราก็จะเห็น 681 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตผู้รู้เองก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ 682 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตผู้รู้นั่นล่ะก็คือตัวทุกข์ 683 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วคือหัวโจกของตัวทุกข์ 684 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูยากที่สุดเลยว่าคือตัวทุกข์ 685 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะว่าถ้าเราภาวนาเรามีจิตผู้รู้ 686 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เรารู้สึกตัวนี้บรมสุข 687 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเมื่อไรไม่ถูกอาสวะย้อม 688 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นมันบ่อยๆ เนืองๆ รู้แจ้งแทงตลอด 689 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตผู้รู้นั่นล่ะคือตัวบรมทุกข์ 690 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทุกข์ยิ่งกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเลย 691 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอรู้ทุกข์แจ่มแจ้งก็หมดความรักใคร่ยินดี 692 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หมดความอยาก หมดความยึดถือ 693 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นพอรู้ทุกข์แจ่มแจ้ง 694 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สมุทัยคือตัณหาอุปาทาน อะไรพวกนี้ก็ถูกทำลายทันที 695 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดับอัตโนมัติ 696 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไม่ต้องดับตัณหา 697 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ทุกข์แจ่มแจ้งเมื่อไรตัณหาดับเอง 698 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดับอัตโนมัติ 699 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สิ้นตัณหาเมื่อไร นิโรธคือ นิพพานปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา 700 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นิโรธคือสภาวะที่สิ้นตัณหา 701 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อเคยภาวนาผิด 702 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กำหนดจิตลงไปแล้วว่างลงไป 703 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่าฝึกเข้านิโรธไปแล้ว 704 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงปู่บุญจันทร์ท่านมาเจอ ท่านด่าเอา 705 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นิพพานอะไรมีเข้ามีออก 706 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เลยรู้เลยไม่ใช่แล้ว 707 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้ายังกำหนดจิตอย่างโน้นกำหนดจิตอย่างนี้ 708 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ใช่ของจริงแล้ว 709 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ของจริงก็คือต้องรู้ทุกข์แจ่มแจ้ง 710 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งว่ามันคือตัวทุกข์ 711 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตก็หมดความอยากหมดความยึดถือในตัวจิต 712 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สิ้นอยากเมื่อไรก็คือนิพพาน 713 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นิพพานคือสภาวะที่สิ้นตัณหา 714 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วขณะนั้นอริยมรรคเกิดขึ้น 715 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี่เส้นทาง เราทำไป 716 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินไปเรื่อยๆ มาตรงนี้ได้ด้วยการรักษาศีล 717 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฝึกในรูปแบบให้จิตมีสมาธิขึ้นมา 718 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็เอาจิตที่ตั้งมั่น มีสมาธิแล้วมาเดินปัญญา 719 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แยกธาตุแยกขันธ์แยกรูปแยกนามไป 720 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำสติปัฏฐาน 4 นั่นล่ะ 721 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฝึกเรื่อยๆ 722 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สติปัฏฐานนั้นเป็นของวิเศษอีกอย่าง 723 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในเบื้องต้นที่เราฝึกทำให้สติเราดีขึ้น 724 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในเบื้องปลายทำให้เกิดปัญญา 725 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นี้หมดเวลาแล้ว เทศน์ละเอียดตรงนี้ไม่ทัน 726 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปหาฟังเอาก็แล้วกัน หลวงพ่อเทศน์เอาไว้เยอะแยะแล้ว 727 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ต่อไปตรวจการบ้าน 728 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 1: ในรูปแบบเดินจงกรม และรู้สึกกายที่เคลื่อนไหว 729 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อจิตใจหลงไปคิดแล้วรู้ 730 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 1: ในรูปแบบเดินจงกรม และรู้สึกกายที่เคลื่อนไหว 731 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อจิตใจหลงไปคิดแล้วรู้ 732 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าดูจิตไม่ได้จะทำสมถะโดยคิดถึงพระพุทธเจ้า 733 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 และครูบาอาจารย์พร้อมกับรู้สึกถึงร่างกาย 734 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในชีวิตประจำวันเจริญสติโดยการรู้สึกกาย 735 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางครั้งรู้ใจที่หลงไป 736 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าอยู่กับผู้อื่นจะหลงไปกับโลก 737 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นานๆ จะรู้สึกตัว 738 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่ปฏิบัติอยู่นี้ถูกต้องไหมคะ 739 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถูก แล้วเรารู้ว่าตรงไหน เป็นจุดอ่อนเราก็เลี่ยงเสีย 740 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยุ่งกับโลกน้อยๆ ยุ่งกับคนอื่นน้อยๆ 741 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้ได้ ภาวนาไป 742 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 2 743 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 1 ตรงนี้จิตไม่เข้าฐาน ดูออกไหม 744 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตอยู่ข้างนอกนิดหนึ่ง 745 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่าดึงๆ 746 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อบอกไว้เฉยๆ ไม่ต้องดึงจิตเข้ามา 747 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หายใจสิ หายใจสบายๆ 748 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เก่งๆ หายใจไป 749 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึกไหมตรงนี้กับเมื่อกี้ไม่เหมือนกัน 750 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อกี้จิตไม่ตั้งมั่นไม่ถึงฐาน 751 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จำตัวนี้ได้ก็โอเค แต่ว่าตรงนี้จงใจทำไม่ได้ 752 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอเรารู้ว่าจิตเราไม่เข้าฐาน เราก็ทำกรรมฐานของเราไป 753 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวมันก็เข้าเองล่ะ 754 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าจิตเราไม่ เข้าฐานทำอย่างไรมันก็ไม่เข้า 755 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 2 756 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในรูปแบบทำทุกวัน 757 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินรู้สึกตัว ดูจิตหลงคิด รู้ 758 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 นั่งสมาธิ ดูจิตหลง รู้ เพ่ง รู้ 759 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลังๆ หลงบ่อยกว่าเพ่ง 760 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางครั้งเห็นเหมือน เราดูการนั่งสมาธินั้นอยู่ 761 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตทำงานเอง จนจิตสงบแต่ไม่นิ่งเฉย 762 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางครั้งก็มีเคลิ้มไปบ้าง 763 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขอหลวงพ่อตรวจการบ้านค่ะ 764 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้ได้ ดี ต้องเพิ่มนั่นนิดหนึ่ง 765 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำความสงบเข้ามาเป็นระยะๆ 766 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กำลังสมาธิไม่พอ ใจมันจะฟุ้งง่าย 767 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำในรูปแบบแล้วก็ไม่เดินปัญญาตอนนั้น 768 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เช่น พุทโธๆๆ ไป 769 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สงบก็ช่างไม่สงบก็ช่างทำไปเรื่อยๆ 770 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวมันสงบเอง แล้วจิตมันจะมีแรง 771 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ของเบอร์ 2 จิตมันยังไม่ค่อยมีแรง 772 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ที่ดูที่อะไรดูถูกแล้วล่ะ 773 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่มันดูด้วยจิตที่ไม่ค่อยมีแรง 774 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นเรารู้ตรงนี้เป็นจุดอ่อน เราก็เพิ่มสมาธิขึ้น 775 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 3 776 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำในรูปแบบสม่ำเสมอ 777 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อก่อนคาดหวังจากการปฏิบัติ 778 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวนี้คาดหวังน้อยลง 779 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เข้าใจความยึดมากขึ้น 780 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นจิตใจทำงานได้เองบ่อยขึ้น 781 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้เผลอ รู้หลงมากกว่าเดิม 782 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โดยรวมมั่นใจในการปฏิบัติ มีความเห็นถูกขึ้น 783 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตัวเราไม่มีอยู่จริง 784 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชีวิตประจำวันอยู่กับอิริยาบถ 4 785 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดิน ยืน นั่ง นอน คอยรู้สึก 786 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำไปเรื่อยๆ ไม่ท้อไม่เลิก 787 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขอหลวงปู่ชี้แนะค่ะ 788 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดี ที่ทำอยู่ใช้ได้ 789 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ปัญหาใหญ่ของนักปฏิบัติ ก็คือสมาธิมันไม่ค่อยพอกัน 790 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ของโยมสมาธิเยอะ เบอร์ 3 791 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่มันไม่เข้าที่มันไม่เข้าฐาน 792 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขณะนี้จิตยังอยู่ข้างนอกรู้สึกไหม 793 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มองเห็นไหมว่า จิตมันไม่เข้ามาไม่เข้าหาตัวเอง 794 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่โอปนยิโกน้อมเข้ามา น้อมเข้ามา 795 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สังเกตลงไปในร่างกายนี้ รู้สึกลงไปในร่างกายบ่อยๆ 796 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นแต่ความเป็นปฏิกูล อสุภะ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา 797 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูบ่อยๆ ดูอย่างนี้บ่อยๆ 798 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 4 799 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาในรูปแบบ 800 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูการเคลื่อนไหวของร่างกายทุกวันเป็นหลัก 801 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ในชีวิตประจำวันดูร่างกาย เคลื่อนไหวสลับกับลมหายใจเข้าออก 802 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีความคิดแทรกตอนที่ภาวนา 803 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในอดีต 804 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พยายามไม่สนใจความคิดเหล่านั้น 805 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 และกลับมาดูที่อาการเคลื่อนไหวทางกายแทน 806 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตอนนี้ทำถูกหรือไม่คะ 807 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำถูก แต่ตั้งใจมากไปหน่อย 808 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตั้งใจใจจะเครียด จะแน่นๆ จะหนักๆ 809 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าภาวนาแล้วมันหนักมันแน่น แสดงว่าเราจงใจเยอะไป 810 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันไม่ธรรมดา ตั้งใจเยอะไป 811 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาใช้ใจธรรมดาๆ อย่าตั้งใจแรง รู้สึกไป 812 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดเยอะ อย่าคิดเยอะ 813 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นไหมร่างกายขยับ 814 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ว่าร่างกายขยับรู้ด้วยจิตธรรมดา 815 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตธรรมดาเลย 816 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงนี้ไม่ธรรมดาแล้ว เมื่อกี้ธรรมดา 817 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตรงนี้จิตหลง หลงคิด 818 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยิ้มหวาน 819 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นร่างกาย ยิ้มอย่างนี้ไม่เอา ยิ้มจอมปลอม 820 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ยิ้มแต่หน้า 821 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใจมันแน่นรู้สึกไหม ใจมันยังแน่นอยู่ 822 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใจที่แน่นเกิดจากอยาก 823 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยากปฏิบัติ อยากรู้ อยากเห็น อยากเป็น อยากได้ อยากดี 824 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยากไม่ขาดสติ อยากเจริญ 825 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีความอยากมาเมื่อไรใจจะแน่นๆ 826 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใจที่ดีคือใจธรรมดา 827 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตธรรมดานั้นประภัสสรผ่องใส 828 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตธรรมดานั่นล่ะคือจิตผู้รู้ 829 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่พอมีกิเลสมันเลยกลายเป็นจิตผู้หลงไป 830 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นจิตโดยตัวมันประภัสสรผ่องใส 831 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เศร้าหมองเพราะกิเลสที่จรมา 832 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราไม่ต้องทำอะไร รู้ทันกิเลสที่จรมาก็แล้วกัน 833 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างอยากปฏิบัติ รู้ทันว่าอยาก 834 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ว่าอยากปฏิบัติ ความอยากปฏิบัติดับแล้ว 835 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำอย่างไร ก็ปฏิบัติไปด้วยใจที่ไม่ต้องอยาก 836 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ให้เป็นธรรมดาอย่างนี้ 837 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 4 ตึงไป 838 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้สึกไหม มันจงใจมากไป ตั้งใจแรงไป 839 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 4 คอยเคลื่อนไหวกระดุกกระดิก 840 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วก็เห็นร่างกายเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ 841 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ต้องแกล้งทำ 842 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราเคลื่อนไหวอยู่แล้วโดยธรรมชาติ 843 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราหายใจร่างกายมันก็เคลื่อนไหว 844 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติธรรมดา 845 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีหน้าที่ใช้ร่างกายทำอะไรก็ทำไป 846 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่มีสติรู้ไปเรื่อยๆ 847 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่ไปเพ่งเอาไว้ให้นิ่งๆ 848 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 5 849 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นการเกิด 850 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ไม่เห็นการดับของความโลภและความโกรธ 851 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เมื่อปวดกายก็ฝึกแยกใจกับ กายความปวดออกจากกัน 852 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 โดยมีใจเห็นความปวดแทรกอยู่ในกาย 853 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อยากเดินปัญญาเป็น 854 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ไม่รู้ว่าจิตตั้งมั่นมากพอ และพร้อมที่จะเดินปัญญาไหมคะ 855 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาได้ดี จิตตั้งมั่น 856 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินปัญญาได้แต่จิตมันไม่ค่อยชอบเดินปัญญา 857 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ชอบเฉยๆ มากกว่า 858 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พอเวลาภาวนาพอจิตตั้งมั่นแล้ว 859 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันกลัวจิตตั้งมั่นจะหายไปพยายามรักษาเอาไว้ 860 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลาจิตตั้งมั่นแล้ว เบอร์ 5 861 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พิจารณาเข้าไปในร่างกายเลย 862 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พิจารณาเข้าไปเลย 863 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หัวกะโหลกเราเป็นอย่างนี้ มีตาโบ๋ๆ อย่างนี้ 864 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มีปากงับๆๆ ได้ ข้างล่างนะ ข้างบนไม่เป็นอย่างนี้ 865 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขากรรไกรอย่างนี้ ดูไปเรื่อยๆ ในร่างกาย 866 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พิจารณาลงไปให้ถึงกระดูกเลย 867 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นกระดูก กระดูกมันหมุนแล้ว 868 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระดูกตัวนี้หมุน 869 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คอยรู้สึกอย่างนี้ รู้สึกบ่อยๆ 870 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดีไม่ใช่ไม่ดี 871 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เก่ง เบอร์ 5 ใช้ได้ 872 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ว่าเดินปัญญาดูเข้าไปในกายเลย 873 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูเข้าไปเลย ดูเข้าไปที่กระดูกเลยก็ได้ 874 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นไหมกระดูกมันเคลื่อน 875 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 กระดูกมันขยับ เวลาปาก 876 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลากินข้าวเราขยับขากรรไกรบนหรือขากรรไกรล่าง 877 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขยับอย่างนี้ เราก็รู้ 878 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางคนไม่รู้ 879 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่าขยับข้างบน คิดว่าตัวนี้ขยับ 880 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วิธีพิสูจน์ง่ายๆ เอาคางไปเกยโต๊ะไว้ 881 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วจะพูดไม่ได้ 882 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูเข้าไปถึงกระดูกดูเข้าไป 883 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 6 884 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รักษาศีล 5 885 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาในรูปแบบด้วยการสวดมนต์ ทำวัตรเช้าเย็นทุกวัน 886 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพิ่งหยุดทำงานประจำ 887 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จึงใช้เวลาศึกษาในเรื่องขันธ์ 5 888 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทุกข์ และการเดินอริยสัจ 889 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใช้โยนิโสมนสิการในการพิจารณากายใจ 890 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นทุกข์และกิเลสได้ละเอียดขึ้น 891 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 รู้ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง 892 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นขันธ์แยกขณะผ่ารากฟันเทียม 893 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เลยเข้าใจที่หลวงพ่อสอนว่า 894 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แยกขันธ์แล้วให้ดูไตรลักษณ์ 895 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นถูกต้องไหมคะ 896 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถูก ดี 897 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จุดอ่อนยังมีนิดหนึ่ง 898 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เราอย่าคิด ความคิดมันล้ำไป ปัญญามันล้ำไป 899 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ตามรู้ตามเห็นสภาวะไปเรื่อยๆ 900 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่อย่างนั้นมันล้ำหน้าไป 901 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คอยคิดแต่เรื่องไตรลักษณ์ไปเรื่อยๆ 902 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องสมดุลกัน 903 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าปัญญาล้ำหน้าไป สมาธิไม่พอ ใจมันจะฟุ้ง 904 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 6 สังเกตไหมใจมันยังฟุ้งเล็กๆ อยู่ 905 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งการทำความสงบ ต้องทำ 906 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินปัญญามากไป จิตจะฟุ้งซ่าน 907 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นคนปัญญาเยอะ 908 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พวกปัญญาเยอะมีจุดอ่อนสมาธิคือไม่ค่อยพอ 909 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปทำสมาธิเพิ่มขึ้น 910 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำความสงบให้จิตอยู่กับเนื้อกับตัว 911 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 สงบ พักผ่อน 912 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตมีกำลังแล้วค่อยถอยออกมาเดินปัญญาต่อ 913 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่น่าห่วงเรื่องเดินปัญญา 914 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตมันเดินปัญญาเก่ง 915 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 7 916 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ปฏิบัติในรูปแบบทุกวันโดยทำ อานาปานสติอย่างน้อย 30 นาที 917 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ระหว่างวันเฝ้ารู้เวทนาที่เกิดขึ้นในร่างกาย 918 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เห็นทุกข์มากขึ้นและมักหลงคิดบ่อยๆ 919 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 บางครั้งก็หลงคิดไปนานแล้วถึงจะรู้สึกตัว 920 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ขอหลวงปู่ช่วยแนะนำ วิธีการปฏิบัติที่เหมาะกับจริตค่ะ 921 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตมันชอบคิด 922 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าจิตมันชอบคิดเราจะไปฝืน บอกมันอย่าคิดมันไม่เชื่อ 923 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พามันคิดไปเลยคิดอะไรก็ได้ 924 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดเรื่องโลกๆ ก็ยังได้เลย 925 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่คิดแล้วต้องลงไตรลักษณ์ให้ได้ 926 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างเราคิดถึงอะไรสวยๆ งามๆ 927 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่าเราไปเดินสวนสาธารณะดูดอกไม้งาม 928 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูทุ่งทานตะวัน ดูอะไรอย่างนี้ 929 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดูไปแหมใจมีความสุข 930 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วลงท้าย ดอกไม้มันเหี่ยวลงไป 931 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันก็ไม่ยั่งยืน ของสวยของงามอะไรอย่างนี้ 932 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ฉะนั้นคิดอะไรก็ได้ 933 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ให้ลงไตรลักษณ์ให้ได้ 934 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ลองไปทำดู เพราะจิตมันชอบคิด 935 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จิตมันชอบคิดไปฝืนไม่ให้คิดมันทำไม่ได้หรอก 936 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ส่วนที่กรรมฐานทำอยู่แล้ว 937 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ดีอยู่แล้วทำต่อไป 938 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ทำอานาปานสติ ทำอะไรไม่ผิดหรอก ทำไปเถอะ 939 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่เวลาช่วงไหนที่จิตมันฟุ้งซ่านมากๆ 940 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 พามันคิดแล้วลงไตรลักษณ์ 941 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าเป็นช่วงปกติก็หายใจไปรู้สึกไป 942 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 อย่างที่ทำอยู่ถูกแล้ว 943 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แยกออกไหม หมายถึงเวลาปกติก็ทำอย่างที่ทำนี้ 944 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ช่วงไหนที่ใจมันฟุ้งมาก 945 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดพิจารณาลงไปเลย 946 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดอะไรก็ได้แล้วลงไตรลักษณ์ให้ได้ก็แล้วกัน 947 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 8 948 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดินจงกรมวันละ 1.30 - 2 ชั่วโมง 949 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ระหว่างวันดูกายและจิตทำงาน 950 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ถ้าฟุ้งซ่านจะบริกรรมระลึกถึงพระรัตนตรัย 951 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หลวงพ่อให้ดูความเป็นอนัตตา 952 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดว่าพอจะเห็นว่ากายไม่ใช่เรา 953 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่จิตยังคงเป็นเราอยู่ 954 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เวลานั่งจะเพ่งมากเลยต้องเดิน 955 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 หรือใช้การพิจารณากายเคลื่อนไหว 956 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วรู้สึกตัวแทน 957 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไม่แน่ใจว่าดูความเป็นอนัตตาได้จริงไหมคะ 958 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 จริง ไปดูอีก ทำไป 959 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึกไป ดี ที่ทำอยู่ 960 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปทำต่อทำอีก 961 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เบอร์ 7 อย่างนี้จงใจเยอะไปแล้วเบอร์ 7 962 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดเอาเป็นเอาตาย 963 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ใจมันไม่สบาย จะไม่ได้สมาธิ 964 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดที่มันไม่รุนแรงนัก 965 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 คิดๆๆ ไป อันนี้เป็นอุบาย 966 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เป็นอุบายในการแก้เรื่อง จิตมันช่างคิดไม่ยอมหยุด 967 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 มันคิดไม่ยอมหยุด 968 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ไปห้ามมันไม่ได้ก็พามันคิดไป 969 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วลงไตรลักษณ์ให้ได้ เดี๋ยวมันหยุดเองล่ะ 970 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แต่ถ้าตอนไหนมันไม่ได้ ฟุ้งซ่านไม่ต้องไปคิดเยอะ รู้สึกไป 971 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เดี๋ยวสับสน 972 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 ภาวนาอยู่ดีๆ บอกหลวงพ่อให้ไปนั่งคิด 973 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เละเลย เสีย 974 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แล้วมาโทษหลวงพ่อสอนยังอย่างไร ฟุ้งไปเลย 975 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 แค่อุบายไว้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เวลามันคิดหนักๆ คิดไม่เลิก 976 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 วันนี้เทศน์ให้ฟังเท่านี้ 977 99:59:59,999 --> 99:59:59,999 เชิญ