เรารู้อะไร (และไม่รู้อะไร) เกี่ยวกับอีโบลา - อเล็กซ์ เจนเลอร์ (Alex Gendler)
-
0:07 - 0:09ในฤดูร้อน ปี ค.ศ. 1976
-
0:09 - 0:14การระบาดปริศนาได้เกิดขึ้น
ที่สองเมืองในแอฟริกากลาง -
0:14 - 0:17คร่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่
-
0:17 - 0:18นักวิจัยทางการแพทย์ได้คาดว่า
-
0:18 - 0:22ไวรัสมาร์เบอร์ (Marburg) จอมวายร้าย
เป็นฆาตกรผู้ก่อเหตุ -
0:22 - 0:27แต่สิ่งที่พวกเขาได้เห็นทางกล้องจุลทรรศน์
เป็นเชื้อก่อโรคใหม่ -
0:27 - 0:31ซึ่งน่าจะตั้งชื่อตามแม่น้ำอีโบลา
ซึ่งอยู่ใกล้ๆ -
0:31 - 0:33คล้ายกับไข้เหลือง หรือไข้เลือดออก
-
0:33 - 0:39โรคดังกล่าวที่เกิดจากอีโบลาไวรัส
เป็นไข้เลือดออกชนิดรุนแรง -
0:39 - 0:42มันเริ่มด้วยการโจมตี
เซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน -
0:42 - 0:44และหักล้างการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน
-
0:44 - 0:46ทำให้ไวรัสสามารถเพิ่มจำนวนได้
-
0:46 - 0:50ประมาณสอง ถึงยี่สิบวันหลังจากการติดเชื้อ
-
0:50 - 0:52อาการเริ่มแรก เช่นมีไข้สูง
-
0:52 - 0:53ปวดเมื่อย
-
0:53 - 0:55และเจ็บคอ
-
0:55 - 0:57เหมือนกับไข้หวัดธรรมดาทั่วไป
-
0:57 - 0:59แต่รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วไปสู่ การอาเจียน
-
0:59 - 1:01เป็นผื่น
-
1:01 - 1:02และท้องร่วง
-
1:02 - 1:03และเมื่อไวรัสได้แพร่กระจาย
-
1:03 - 1:06มันเข้าบุกต่อมน้ำเหลือง
และอวัยวะสำคัญ -
1:06 - 1:10เช่นไต และตับ
ทำให้อวัยวะเหล่านี้สูญเสียการทำงาน -
1:10 - 1:14แต่ตัวไวรัสเอง ไม่ได้เป็นผู้ฆ่าเหยื่อผู้เป็นอีโบล่า
-
1:14 - 1:19แต่ทว่า เป็นเซลล์ที่ตายเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ได้กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันมากเกินไป -
1:19 - 1:21เรียกว่า ไซโตไคน์ สตรอม (cytokine storm)
-
1:21 - 1:25การระเบิดของการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
นี้ทำให้เส้นเลือดเสียหาย -
1:25 - 1:28ทำให้เกิดทั้งการเสียเลือดภายนอกและภายใน
-
1:28 - 1:32การเสียของเหลวที่มากเกินไป
และอาการแทรกซ้อนที่เกิดตามมา -
1:32 - 1:37เป็นอันตรายถึงชีวิตภายในหก ถึงสิบหกวัน
นับจากวันแรกที่เห็นอาการ -
1:37 - 1:39ทว่าภายใต้การดูแล
และการรักษาโดยการคืนน้ำ -
1:39 - 1:43สามารถลดอัตราการเสียชีวิต
ของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ -
1:43 - 1:46เป็นความโชคดี
ในขณะที่อีโบล่ามีความรุนแรงมาก -
1:46 - 1:49มีสองสามปัจจัยที่จำกัดการแพร่กระจายของมัน
-
1:49 - 1:53ไม่เหมือนกับไวรัสที่เพิ่มจำนวน
ผ่านอนุภาคเล็กๆ ในอากาศ -
1:53 - 1:56อีโบล่าพบได้แค่ในของเหลวจากร่างกาย
-
1:56 - 1:57เช่นน้ำลาย
-
1:57 - 1:57เลือด
-
1:57 - 1:58น้ำเมือก
-
1:58 - 1:59อาเจียน
-
1:59 - 2:00หรืออุจจาระ
-
2:00 - 2:01เพื่อที่จะแพร่กระจายไป
-
2:01 - 2:05สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกถ่ายทอด
จากผู้ที่เป็นโรคไปยังอีกคนหนึ่ง -
2:05 - 2:09ผ่านช่องทางเช่น ตา ปาก หรือจมูก
-
2:09 - 2:11และเพราะความรุนแรงของโรค
-
2:11 - 2:14เพิ่มขึ้นโดยขึ้นตรงกับ
ปริมาณของไวรัส -
2:14 - 2:17แม้ว่าผู้ที่ติดเชื้อ ก็แทบจะไม่แพร่โรค
-
2:17 - 2:20จนกว่าพวกเขาจะเริ่มมีอาการ
-
2:20 - 2:24ในขณะที่อีโบล่าสามารถมีชีวิต
อยู่บนพื้นผิวได้หลายชั่วโมง -
2:24 - 2:28และการติดต่อผ่านการจาม หรือไอ
ก็เป็นไปได้ทางทฤษฏี -
2:28 - 2:32การติดเชิ้อที่เรารู้ทั้งหมดนั้น
เกิดจากการสัมผัสโดยตรง -
2:32 - 2:35กับผู้ที่ป่วยหนัก
-
2:35 - 2:37ความเสี่ยงสูงสุดจึงตกอยู่กับ
ผู้ทำงานด้านการแพทย์ -
2:37 - 2:40และเพื่อนๆ หรือญาติของผู้ป่วย
-
2:40 - 2:43นั่นเป็นเหตุว่าทำไม
แม้ว่ามันจะมีผลกระทบที่น่ากลัว -
2:43 - 2:47อีโบลาก็ยังคงร้ายแรงน้อยกว่า
การติดเชื้อทั่วไป -
2:47 - 2:48เช่นโรคหัด
-
2:48 - 2:49มาลาเรีย
-
2:49 - 2:51หรือแม้แต่ไข้หวัด
-
2:51 - 2:53เมื่อการระบาดเกิดขึ้นไปแล้ว
-
2:53 - 2:55ไวรัสนี้จะไม่อยู่ในกลุ่มประชากรมนุษย์
-
2:55 - 2:58จนกระทั่งการระบาดถัดไป
-
2:58 - 3:00แต่ในขณะที่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี
อย่างไม่ต้องสงสัย -
3:00 - 3:03มันก็ทำให้เราศึกษาอีโบลาได้ยาก
-
3:03 - 3:06นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า
ค้างคาวกินผลไม้เป็นพาหะทางธรรมชาติ -
3:06 - 3:10แต่การแพร่กระจายมายังมนุษ์นั้น
ยังไม่เป็นที่เข้าใจ -
3:10 - 3:13ยิ่งไปกว่านั้น
ในหลายประเทศที่เกิดการระบาดของโรค -
3:13 - 3:17ต้องประสบปัญหาสาธารณูปโภคพื้นฐาน
และสุขอนามัยที่ย่ำแย่ -
3:17 - 3:19ซึ่งทำให้โรคนี้สามารถแพร่กระจายออกไปได้
-
3:19 - 3:20และความอดอยากในพื้นที่นี้
-
3:20 - 3:23ผนวกกับกรณีศึกษาที่ค่อนข้างน้อย
-
3:23 - 3:29หมายถึงมันมีแรงกระตุ้นทางเศรษฐศาสตร์น้อย
สำหรับบริษัทยาที่จะลงทุนกับการวิจัย -
3:29 - 3:32อย่างไรก็ดีการแพทย์เชิงทดลองก็ให้ความหวัง
-
3:32 - 3:34และรัฐบาลทั้งหลายก็ให้ทุนสนับสนุน
หน่วยวัคซีน -
3:34 - 3:36เช่นในปี ค.ศ. 2014
-
3:36 - 3:40ทางออกเดียวที่ได้ผลในวงกว้าง
และมีประสิทธิภาพต่อการระบาดของอีโบลา คือ -
3:40 - 3:41การแยกผู้ป่วย
-
3:41 - 3:43สุขอนามัย
-
3:43 - 3:44และความรู้
- Title:
- เรารู้อะไร (และไม่รู้อะไร) เกี่ยวกับอีโบลา - อเล็กซ์ เจนเลอร์ (Alex Gendler)
- Description:
-
ชมบทเรียนแบบเต็มที่: http://ed.ted.com/lessons/what-we-know-and-don-t-know-about-ebola-alex-gendler
อีโบลาไวรัสที่แสนจะร้ายกาจ ได้เกิดการระบาดหลักๆ ตั้งแต่มันเกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1976 ซึ่งมีการระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในปี ค.ศ. 2014
ไวรัสนี้แพร่กระจายได้อย่างไร และมันทำอะไรกับร่างกายเรากันแน่ อเล็กซ์ เจนเลอร์ให้รายละเอียดว่าอีโบลาคืออะไร และทำไมมันถึงยากที่จะศึกษาบทเรียนโดย Alex Gendler, แอนิเมชันโดย Andrew Foerster
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:01
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler | ||
Pakawat Wongwaiyut edited Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler | ||
Pakawat Wongwaiyut edited Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler | ||
Pakawat Wongwaiyut accepted Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler | ||
Pakawat Wongwaiyut edited Thai subtitles for What we know (and don't know) about Ebola - Alex Gendler |