< Return to Video

Why do people have different Karma?

  • 0:01 - 0:05
    เสียงระฆัง
  • 0:06 - 0:31
    ทำไมมนุษย์จึงมีกรรมที่แตกต่างกัน
  • 0:31 - 0:38
    คำถามของผมคือ
    ทำไมมนุษย์จึงมีกรรมแตกต่างกัน
  • 0:40 - 0:41
    ขอบคุณครับ
  • 0:44 - 0:50
    น้องท่านนี้ถามว่า ทำไมมนุษย์แต่ละคน
    จึงมีกรรมที่แตกต่างกัน
  • 0:56 - 0:57
    แน่ใจเหรอ?
  • 0:57 - 1:02
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:02 - 1:05
    แน่ใจเหรอว่ามนุษย์แต่ละคนมีกรรมต่างกัน
  • 1:09 - 1:12
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:14 - 1:17
    ผมก็ว่าผมมั่นใจนะครับ แต่ตอนนี้...
  • 1:17 - 1:29
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:32 - 1:34
    กรรม คือการกระทำ
  • 1:35 - 1:38
    คำว่ากรรม หมายถึงการกระทำ
  • 1:41 - 1:45
    ชื่ออาตมา นัท ฮัน แปลว่า หนึ่งการกระทำ
    เท่านั้น
  • 1:47 - 1:51
    นัท หมายถึง หนึ่ง
    ฮัน หมายถึง การกระทำ
  • 1:54 - 1:57
    อาตมาก็ไม่รู้ว่าทำอะไรเหมือนกัน
  • 1:57 - 2:00
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:05 - 2:10
    กรรม อาจจะอยู่ในรูปของเหตุ
    หรืออาจจะอยู่ในรูปของผลก็ได้
  • 2:12 - 2:16
    เหตุกรรม หมายถึง การกระทำที่เป็นเหตุ
  • 2:17 - 2:25
    และผลกรรม หมายถึง กรรมที่เป็นผล
  • 2:27 - 2:31
    เหตุและผลนี้เป็นสิ่งที่อยู่ด้วยกัน
  • 2:31 - 2:34
    เธอไม่สามารถแยกเหตุออกจากผลได้
  • 2:34 - 2:38
    และก็ไม่สามารถแยกผลออกจากเหตุได้
  • 2:39 - 2:44
    มันเหมือนกับเมล็ดข้าวโพด..เป็นเหตุ
  • 2:45 - 2:49
    และต้นข้าวโพด..เป็นผล
  • 2:50 - 2:53
    กระนั้นมันก็ไม่ใช่ของสองสิ่ง
  • 2:54 - 2:59
    เธอไม่สามารถแยกเมล็ดข้าวโพดจาก
    ต้นข้าวโพดได้
  • 2:59 - 3:04
    และเธอก็ไม่สามารถแยกเอาต้นข้าวโพด
    ออกจากเมล็ดข้าวโพดได้
  • 3:04 - 3:06
    ดังนั้น เหตุและผล..
  • 3:09 - 3:12
    ไม่ได้เป็นสิ่งที่แยกขาดจากกัน
  • 3:13 - 3:16
    สิ่งหนึ่งเป็นความสืบทอดจากของอีกสิ่งหนึ่ง
  • 3:17 - 3:22
    ต้นข้าวโพดเป็นการสืบทอดจากเมล็ด
    ในทิศทางไปสู่อนาคต
  • 3:23 - 3:28
    และเมล็ดข้าวโพดก็เป็นความสืบเนื่อง
    จากต้นข้าวโพด ในทิศทางไปในอดีต
  • 3:29 - 3:39
    ถ้าไม่มีเมล็ดข้าวโพด
    ต้นข้าวโพดก็ไม่มีอดีต
  • 3:40 - 3:46
    และถ้าไม่มีต้นข้าวโพด
    เมล็ดข้าวโพดก็ไม่มีอนาคต
  • 3:46 - 3:53
    มันเป็นความร่วมมือที่ยอดเยี่ยม บนฐาน
    ของความไม่มีตัวตน
  • 3:53 - 3:55
    มีเพียงความสืบต่อ
  • 3:57 - 4:01
    และนี่ก็เป็นในมุมมองของกาลเวลา
  • 4:02 - 4:06
    ถ้ามองจากมุมมองของเหตุการณ์ก็เช่นกัน
  • 4:07 - 4:11
    มันมีสิ่งที่เราเรียกว่ากรรมหมู่
  • 4:13 - 4:15
    และกรรมของแต่ละคน
  • 4:17 - 4:26
    เธอกำลังพูดถึงกรรมของแต่ละคน ว่ามันต่างกัน
    จากของคนอื่น
  • 4:26 - 4:36
    แต่ถ้าเธอสามารถแยกความต่างของกรรมบุคคล
    และกรรมหมู่ นับว่าเธอก้าวหน้าขึ้นมาก
  • 4:38 - 4:45
    เพราะมุมมองของกรรมบุคคลและกรรมหมู่นั้น
    ก็เป็นของคู่ที่สืบต่อกันมา
  • 4:51 - 4:59
    เมื่อเด็กน้อยบอกกับพ่อเขาว่า
  • 5:00 - 5:03
    "นี่มันร่างกายของฉัน" "ชีวิตของฉัน"
  • 5:04 - 5:13
    "ฉันมีสิทธิที่จะทำอะไรก็ได้
    กับร่างกายของฉัน" "ชีวิตของฉัน"
  • 5:13 - 5:16
    นั่นเป็นมุมมองที่ "ฉัน" ไม่ใช่ "เธอ"
  • 5:17 - 5:20
    ฉันมีร่างกายของตัวเอง ความรู้สึกของตัวเอง
    ชีวิตของตัวเอง
  • 5:20 - 5:24
    ฉันมีสิทธิจะทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ
  • 5:25 - 5:27
    และเยาวชนที่พูดอย่างนี้
  • 5:27 - 5:32
    พวกเขาไม่รู้หรอกว่าพวกเขา คือการสืบเนื่อง
    จากพ่อและแม่
  • 5:33 - 5:40
    และที่จริงพวกเขาไม่มีสิทธิเลย
    ที่จะทำร้ายพ่อ หรือร่างกายตัวเอง
  • 5:40 - 5:44
    การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรม
  • 5:45 - 5:48
    เธอกำลังฆ่าพ่อ ฆ่าแม่
  • 5:48 - 5:50
    ฆ่าบรรพบุรุษทั้งหลายเมื่อเธอฆ่าตัวตาย
  • 5:51 - 5:54
    ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเธอ
  • 5:54 - 5:59
    ร่างกายนี้เป็นสมบัติของบิดามารดา
    ของบรรพบุรุษ
  • 5:59 - 6:05
    และหากเธอมองเห็นอย่างนั้น
    เธอย่อมไม่สามารถจะทำอย่างที่คนอื่นทำได้ลง
  • 6:06 - 6:08
    เป็นการกระทำจากมิจฉาทิฏฐิ
  • 6:10 - 6:14
    ดังนั้นการทำสมาธิ จะช่วยให้
    เข้ามาเห็นความเป็นเหตุปัจจัยของสิ่งต่างๆ
  • 6:14 - 6:20
    ความไม่ใช่ตัวตน ซึ่งจะทำให้เราประพฤติ
    ตนอย่างเหมาะสม
  • 6:21 - 6:23
    ไม่ก่อให้เกิดทุกข์ นั่นคือกรรม
  • 6:24 - 6:30
    และร่างกายของเรา ก็ไม่ใช่ของเราคนเดียว
  • 6:33 - 6:36
    มันเป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นในขณะเดียวกัน
  • 6:36 - 6:45
    ร่างกายนี้เป็นองค์รวมที่ประกอบขึ้นจาก
    ชาติ เผ่าพันธุ์ วัฒนธรรมของเรา
  • 6:46 - 6:48
    ของบรรพบุรุษ
  • 6:48 - 6:51
    ฉะนั้นเธอไม่ได้เป็นตัวของตัวเองโดยสมบูรณ์
  • 6:51 - 6:54
    เธอเป็นส่วนหนึ่งของส่วนอื่นๆ
  • 6:54 - 7:00
    และมันขึ้นกับมุมมองว่าเราเป็นส่วนหนึ่ง
    ขององค์รวมมากหรือน้อยแค่ไหน
  • 7:06 - 7:08
    สมมติ..
  • 7:10 - 7:16
    เธอบอกว่าเธอมี..เส้นประสาท
  • 7:16 - 7:21
    เส้นประสาทตาของเธอ อยู่ด้านหลังลูกตา
  • 7:23 - 7:29
    และเธอบอกว่าเส้นประสาทตาของเธอ
    นี่มันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนใคร
  • 7:32 - 7:34
    มันเป็นของเธอคนเดียว
    เส้นประสาทตาเป็นของเธอ
  • 7:35 - 7:38
    มันเป็นอะไรที่ของเธอคนเดียว
  • 7:39 - 7:45
    คนอื่นมองไม่เห็น ไม่รับรู้ถึงมัน
  • 7:45 - 7:47
    เธอรับรู้คนเดียว
  • 7:48 - 7:54
    นี่คือตัวอย่างการมองแบบปัจเจก
    และการมองแบบองค์รวม
  • 7:55 - 7:57
    แต่สมมติเธอเป็นคนขับรถเมล์
  • 7:57 - 8:00
    ชีวิตอื่นๆ ผูกอยู่กับเส้นประสาทตาของเธอ
  • 8:00 - 8:04
    แบบนี้ เส้นประสาทตาของเธอ
    จะไม่ใช่ของเธอคนเดียวอีกต่อไป
  • 8:04 - 8:09
    มันเป็นของทุกคน เพราะชีวิตของทุกคน
    ขึ้นกับมัน
  • 8:10 - 8:15
    ดังนั้นประสาทตาที่เธอบอกว่า
    เป็นของเธอคนเดียว
  • 8:15 - 8:17
    ความจริงมันเป็นของส่วนรวม
  • 8:19 - 8:24
    ถ้าเธอมีมุมมองของกรรมส่วนรวม
    และกรรมส่วนบุคคล
  • 8:25 - 8:32
    และกรรมใดๆ ไม่ว่าจะส่วนรวมหรือส่วนบุคคล
    มีผลต่อส่วนรวมทั้งสิ้น
  • 8:37 - 8:40
    และกรรม อาจจะมีผลดีหรือเลว
  • 8:42 - 8:51
    เมื่อคน 600 คนมาเข้าปฏิบัติ เรามาทำอะไร
    ด้วยกัน
  • 8:51 - 8:53
    เราทำกิจกรรมร่วมกันเป็นหมู่
  • 8:53 - 8:59
    นั่ง เดิน หายใจ ยิ้ม แบ่งปันเรื่องราว
  • 9:01 - 9:06
    และนี่...นี่ก็เป็นกรรมส่วนรวม
  • 9:06 - 9:08
    และเราก็ได้ประโยชน์จากสิ่งนี้
  • 9:08 - 9:13
    ในโลกนี้ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่ไม่ได้
    ฝึกแบบเรา
  • 9:13 - 9:22
    พวกเขาดื่ม แล้วก็ร้องรำทำเพลง
    ใช้เวลาไปในอีกรูปแบบนึง
  • 9:25 - 9:28
    และก็..
  • 9:29 - 9:36
    เราสามารถจะจัดสรรเวลา 3 สัปดาห์
    เพื่อจะมาอยู่ร่วมกัน
  • 9:38 - 9:43
    และเราก็ทำกรรมส่วนรวมด้วยกันรูปแบบนึง
  • 9:43 - 9:46
    ที่เราเชื่อว่ามันเป็นกรรมที่ดี
  • 9:47 - 9:50
    เพราะทุกวันเราบ่มเพาะเมล็ดพันธ์ุแห่งสติ
  • 9:51 - 9:57
    ความเข้าใจ ความเห็นใจให้เติบโตขึ้น
    ในตัวเราและในหมู่คณะ
  • 9:58 - 10:01
    ทั้งนี้ ในความเป็นส่วนรวม เราสามารถเห็น
    ความเป็นปัจเจก
  • 10:01 - 10:06
    บางคนจะภาวนาได้ดีกว่าบางคน
  • 10:06 - 10:20
    บางคนก็พบความเปลี่ยนแปลง สามารถ
    ละวางภาระและความกังวลได้ภายใน 5 วันแรก
  • 10:20 - 10:27
    บางคนก็ต้องใช้เวลามากกว่านั้น
    อาจจะต้องรอถึงสัปดาห์ที่ 3
  • 10:27 - 10:33
    ถึงจะเริ่มปล่อยวางความกังวล
  • 10:33 - 10:39
    ดังนั้นในองค์รวมจะมีความเป็นปัจเจกบุคคล
    และในปัจเจกบุคคลจะมีความเป็นองค์รวม
  • 10:40 - 10:46
    และไม่มีสิ่งใดที่เป็นปัจเจกโดยสมบูรณ์
    และก็ไม่มีความเป็นองค์รวมโดยสมบูรณ์
  • 10:46 - 10:48
    นี่คือความจริง และก็เป็นของคู่
    อีกอย่างหนึ่ง
  • 10:48 - 10:57
    และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้อง
    ใช้ความสังเกตให้มาก จึงจะสามารถ
    เห็นทางออก
  • 10:58 - 11:05
    แล้วเธอจะเห็นว่า กรรมทั้งหลาย
    ล้วนส่งผลต่อเราทุกคน
  • 11:08 - 11:14
    ไม่ว่าจะเป็นความดีแก่โลก
    ที่เราทำกันอยู่ที่นี่
  • 11:16 - 11:20
    เราจงมั่นใจว่ากรรมไม่หายไปไหน
  • 11:21 - 11:24
    ความคิดเห็นอกเห็นใจ และการให้อภัย
    ที่เราบ่มเพาะขึ้นมา
  • 11:26 - 11:29
    ไม่เพียงจะเยียวยาเรา แต่ยังเยียวยาโลกใบนี้
  • 11:29 - 11:38
    ฉะนั้น ใน 21 วันนี้ เราบ่มเพาะความคิด
    เห็นอกเห็นใจ เมตตากรุณา
  • 11:38 - 11:42
    นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถสงเคราะห์
    ให้แก่โลกได้
  • 11:43 - 11:50
    และ...เอิ่ม
  • 11:50 - 12:00
    และ..นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมกรรม
    ไม่เหมือนและก็ไม่ต่าง
  • 12:00 - 12:05
    เพราะความเหมือนกันหรือความแตกต่าง
    ก็เป็นคู่ตรงข้าม
  • 12:05 - 12:11
    ซึ่งถ้าหากเห็นถูกต้องนั้น ความจริงคือ
    คุณย่อมสามารถขจัดความเห็น
  • 12:11 - 12:12
    ใดๆ ที่เป็นลักษณะคู่ตรงข้ามเช่นนี้
  • 12:15 - 12:20
    สานสัมพันธ์ บันดาลใจ เติมเต็ม
  • 12:20 - 12:45
    (เสียงระฆัง)
Title:
Why do people have different Karma?
Description:

more » « less
Video Language:
English
Duration:
12:52

Thai subtitles

Revisions