แอนดรูว์ บลัม (Andrew Blum): อินเตอร์เน็ตคืออะไรกันแน่?
-
0:01 - 0:03ผมมักเขียนบทความเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม
-
0:03 - 0:05และสิ่งก่อสร้าง
การเขียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมนั้น -
0:05 - 0:08ตั้งอยู่บนข้อสมมุติอย่างหนึ่ง
-
0:08 - 0:11นักออกแบบออกแบบอาคาร ซึ่งจะกลายเป็นสถานที่
-
0:11 - 0:13หรือนักออกแบบหลายคนออกแบบหลายอาคาร
-
0:13 - 0:16ซึ่งจะกลายเป็นเมือง
โดยไม่ได้สนใจการผสมผสานกันอย่างซับซ้อน -
0:16 - 0:19ระหว่างแรงทางการเมือง วัฒนกรรม และเศรษฐกิจที่
-
0:19 - 0:22ก่อรูปร่างสถานที่เหล่านี้ขึ้น และในที่สุด คุณก็สามารถไป
-
0:22 - 0:24และเยี่ยมชมมันได้ คุณเดินรอบ ๆ มันได้
-
0:24 - 0:26คุณดมกลิ่นมันได้ แล้วคุณก็รู้สึกถึงมันได้
-
0:26 - 0:30คุณรู้สึกถึงสัมผัสของสถานที่เหล่านั้น
-
0:30 - 0:32แต่สิ่งที่สะดุดผมตลอดหลายปีมานี้
-
0:32 - 0:35ก็คือ ผมออกไปยังโลกกว้างน้อยลงเรื่อยๆ
-
0:35 - 0:39และผมยิ่งนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานขึ้นเรื่อยๆ
-
0:39 - 0:43โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2007 เมื่อผมได้ไอโฟนมา
-
0:43 - 0:45ผมไม่ใช่แค่นั่งอยู่หน้าจอทั้งวันเท่านั้น
-
0:45 - 0:47ในตอนเย็นผมต้องลุกขึ้นมา
-
0:47 - 0:50และมองหาหน้าจอเล็ก ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าผม
-
0:50 - 0:53และที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ ความเร็ว
-
0:53 - 0:56ที่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับโลกกายภาพเปลี่ยนไป
-
0:56 - 0:58ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้
-
0:58 - 1:01จะเรียกมันว่า 15 ปีที่แล้วกับโลกออนไลน์
-
1:01 - 1:04หรือจะเรียกว่า 4 ถึง 5 ปีแห่งการออนไลน์ตลอดเวลา
-
1:04 - 1:07ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งรอบตัวเราได้เปลี่ยนไปโดยที่
-
1:07 - 1:09ความสนใจเราถูกแบ่งแยกเสมอ
-
1:09 - 1:12เราทั้งมองภายในหน้าจอ และเรามองออกไป
-
1:12 - 1:13ยังโลกรอบตัวเรา
-
1:13 - 1:16และสิ่งที่กระทบผมยิ่งกว่า สิ่งที่
-
1:16 - 1:19ผมติดใจคือว่า โลกที่อยู่ในหน้าจอ
-
1:19 - 1:23นั้นดูจะไม่มีความเป็นจริงทางกายภาพของมันเอง
-
1:23 - 1:26หากคุณเข้าไปหารูปของอินเตอร์เน็ต
-
1:26 - 1:29นี่คือสิ่งที่คุณจะเจอ ภาพชื่อดังของ ออปต์ (Opte)
-
1:29 - 1:32ที่แสดงให้เห็นว่าอินเตอร์เน็ต
เป็นเหมือนทางช้างเผือกที่กว้างใหญ่ -
1:32 - 1:34ที่ที่เราไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงไหน
-
1:34 - 1:36เราไม่สามารถรับรู้ถึงความสุดยอดของมันได้หมด
-
1:36 - 1:40มันทำให้ผมนึกถึงรูปของโลกจากยานอพอลโล
-
1:40 - 1:43ภาพลูกหินสีเงิน ที่อยู่เคว้งคว้างในอวกาศ
-
1:43 - 1:45ผมคิดว่านะ ว่าเราไม่สามารถเข้าใจมันได้ท้งหมด
-
1:45 - 1:49เราเป็นสิ่งเล็กๆในพื้นที่ที่กว้างใหญ่นี้เสมอ
-
1:49 - 1:52ผมไม่มีทางที่จะเอาโลกใบนี้ กับหน้าจอนี้
-
1:52 - 1:55และโลกภายภาพรอบตัวผม
-
1:55 - 1:58มาผสานเป็นหนึ่งเดียวกันได้เลย
-
1:58 - 2:01แต่แล้วมันก็เกิดขึ้น
-
2:01 - 2:04วันหนึ่งอินเตอร์เน็ตผมเสีย ซึ่งก็เสียเป็นพักๆ
-
2:04 - 2:07ช่างเคเบิลก็มาซ่อมมัน เขาก็เริ่มด้วย
-
2:07 - 2:09กลุ่มสายเคเบิลสกปรกหลังเก้าอี้ผม
-
2:09 - 2:12แล้วเขาก็ไล่ตามมันไปยังหน้าอาคาร ชั้นใต้ดิน ออกไปสนามหลังบ้าน
-
2:12 - 2:15มีสายเคเบิลมัดใหญ่อยู่ติดผนัง
-
2:15 - 2:18แล้วเขาก็เห็นกระรอกวิ่งไปตามสาย
-
2:18 - 2:20แล้วเขาก็บอกว่า "นี่ล่ะปัญหา
-
2:20 - 2:25กระรอกมันกำลังเคี้ยวอินเตอร์เน็ตคุณอยู่" (เสียงหัวเราะ)
-
2:25 - 2:28ผมประหลาดใจ เพราะอินเตอร์เน็ต
-
2:28 - 2:31เป็นไอเดียเหนือธรรมชาติ เป็นมาตรฐานที่ปฎิวัติทุกสิ่ง
-
2:31 - 2:35ตั้งแต่การช็อปปิ้ง การออกเดต ไปจนถึงการปฏิวัติ
-
2:35 - 2:37มันไม่ใช่สิ่งที่กระรอก
-
2:37 - 2:41จะเคี้ยวได้นะ (เสียงหัวเราะ)
-
2:41 - 2:43แต่ที่จริง มันกลับเกิดขึ้นได้
-
2:43 - 2:46กระรอกตัวหนึ่งเคี้ยวอินเตอร์เน็ตได้จริง ๆ (เสียงหัวเราะ)
-
2:46 - 2:48แล้วผมก็เกิดภาพในหัวว่า จะเกิดอะไรขึ้น
-
2:48 - 2:50ถ้าเรากระชากสายจากผนัง แล้วไล่ตามมันไป
-
2:50 - 2:52มันจะไปยังที่ใด?
-
2:52 - 2:55อินเตอร์เน็ตที่จริงแล้วเป็นสถานที่ที่คุณไปเยี่ยมได้ไหม?
-
2:55 - 2:57ผมจะไปยังไง? ผมจะเจอใคร?
-
2:57 - 3:00คุณก็รู้ จะมีอะไรไหมอยู่ ณ ที่นั้น?
-
3:00 - 3:03คำตอบ ในทุกคำถาม คือ ไม่
-
3:03 - 3:06นี่คืออินเตอร์เน็ต กล่องสีดำที่มีไฟสีแดง
-
3:06 - 3:09ปรากฏในซิดคอมเรื่อง "The IT Crowd".
-
3:09 - 3:13ปกติมันจะอยู่บนยอดบิ๊กเบน
-
3:13 - 3:16เพราะนั่นคือที่ที่คุณจะรับส่งสัญญาณได้ดีที่สุด
-
3:16 - 3:19แต่พวกเขาตกลงว่า ผู้ร่วมงานของพวกเขาสามารถยืม
-
3:19 - 3:22มันไปตอนบ่ายเพื่อใช้แสดงในออฟฟิศได้
-
3:22 - 3:25ผู้อาวุโสแห่งอินเตอร์เน็ต ยอมที่จะพรากจากมัน
เป็นเวลาสั้นๆ -
3:25 - 3:28เธอมองมัน และกล่าวว่า
-
3:28 - 3:31"นี่คืออินเตอร์เน็ตเหรอ? อินเตอร์เน็ตทั้งหมดเนี่ยนะ? มันหนักไหม?"
-
3:31 - 3:35พวกเขาบอกว่า "ไม่หรอก อินเตอร์เน็ตไม่มีน้ำหนักเลย"
-
3:35 - 3:37ได้ยินแล้วผมอายทีเดียว ผมกำลังมองหาสิ่งนี้
-
3:37 - 3:40ที่ดูโง่มากที่จะตามหามัน
-
3:40 - 3:42อินเตอร์เน็ตคือก้อนไร้รูปร่าง
-
3:42 - 3:45หรือกล่องสีดำบื้อๆ ที่มีไฟสีแดงกะพริบอยู่
-
3:45 - 3:47มันไม่ใช่โลกแห่งความจริงข้างนอกนั่น
-
3:47 - 3:50แต่อันที่จริง มันเป็นอย่างนั้น
มันมีโลกแห่งความจริงของอินเตอร์เน็ตอยู่ภายนอก -
3:50 - 3:52และนั่นคือสิ่งที่ผมใช้เวลาสองปีอยู่กับมัน
-
3:52 - 3:56ในที่เหล่านี้ของอินเตอร์เน็ต
ผมอยู่ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ -
3:56 - 3:58ที่ใช้พลังงานมากเท่าที่เมืองที่เราอยู่
-
3:58 - 4:01และผมเยี่ยมสถานที่แบบนี้ เช่นเลขที่ 60 ถนนฮัดสัน ในนิวยอร์ก
-
4:01 - 4:03ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารบนโลกนี้
-
4:03 - 4:06หนึ่งในรายชื่อสั้น ๆ ประมาณโหลนึง
-
4:06 - 4:09ซึ่งมีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อกัน
-
4:09 - 4:10มากกว่าที่ใดๆ
-
4:10 - 4:13และการเชื่อมต่อนั้นเป็นกระบวนการทางกายภาพอย่างปฏิเสธไม่ได้
-
4:13 - 4:15มันเหมือนกับราวน์เตอร์ของเครือข่ายนึง เฟสบุคหรือ
-
4:15 - 4:18กูเกลิ หรือ บีที หรือ คอมแคสต์ หรือ ไทม์ วอร์เนอร์ อะไรก็ตาม
-
4:18 - 4:20เชื่อมต่อกันด้วยสายใยแก้วนำแสงสีเหลืองขึ้นไป
-
4:20 - 4:23ตามเพดานและลงไปในเราเตอร์ของเครือข่ายอื่น
-
4:23 - 4:28และนั่นเป็นเรื่องกายภาพ
และนั่นเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างน่าประหลาด -
4:28 - 4:31อาคารอย่างเช่น 60 ฮัดสัน และอื่น ๆ อีกโหลนึง
-
4:31 - 4:33มีเครือข่ายอีก 10 เท่าเชื่อมต่อกัน
-
4:33 - 4:35มากกว่าอาคารลำดับชั้นรองลงมา
-
4:35 - 4:37ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ที่จริงๆ
-
4:37 - 4:40โดยเฉพาะ 60 ฮัดสัน นั้นน่าสนใจเพราะมันคือบ้าน
-
4:40 - 4:43ของเครือข่ายสำคัญประมาณหกเครือข่าย
-
4:43 - 4:45ซึ่งเป็นเครือข่ายเคเบิลใต้ทะเล
-
4:45 - 4:47เดินทางใต้มหาสมุทร
-
4:47 - 4:49เชื่อมต่อยุโรปและอเมริกา และเชื่อมต่อเราทุกคน
-
4:49 - 4:53และนั่นคือเคเบิลที่ผมอยากเจาะจงโดยเฉพาะ
-
4:53 - 4:57หากอินเตอร์เน็ตคือปรากฏการณ์ระดับโลก
-
4:57 - 4:59หากเราอยู่ในหมู่บ้านที่ชื่อว่าโลกได้
นั่นเป็นเพราะเรามีสายเคเบิล -
4:59 - 5:01ใต้มหาสมุทรแบบนี้
-
5:01 - 5:04และในมิตินี้ มันเล็กอย่างเหลือเชื่อ
-
5:04 - 5:07คุณสามารถถือมันในมือคุณได้ มันเหมือนกับสายยางในสวน
-
5:07 - 5:11แต่ในอีกมิตินึง มันแผ่ขยายอย่างไม่น่าเชื่อ
-
5:11 - 5:13ขยายไปเท่าที่คุณจะนึกได้
-
5:13 - 5:16มันขยายข้ามมหาสมุทร มันยาวสาม ห้า
-
5:16 - 5:18หรือแปดพันไมล์
-
5:18 - 5:21และหากวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยีการคำนวณ
-
5:21 - 5:24นั้นซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ หลักการทางกายภาพพื้นฐาน
-
5:24 - 5:28นั้นก็ง่ายอย่างน่าตะลึง แสงเคลื่อนที่จากปลายหนึ่งของมหาสมุทร
-
5:28 - 5:31และออกไปยังอีกปลายหนึ่ง และมันมัก
-
5:31 - 5:34มาจากอาคารหนึ่ง ที่เรียกว่าสถานีภาคพื้น
-
5:34 - 5:37ที่ตั้งอยู่อย่างเนียนๆ ในย่านริมทะเลเล็กๆ
-
5:37 - 5:40และมีตัวขยายที่ตั้งอยู่บนพื้นมหาสมุทร
-
5:40 - 5:42ที่ดูคล้ายปลาทูน่าครีบฟ้า
-
5:42 - 5:46และทุก ๆ 50 ไมล์มันจะขยายสัญญาณ
-
5:46 - 5:49และเนื่องจากอัตราการส่งนั้นเร็วมาก
หน่วยเป็น 10 กิกะไบต์ต่อวินาที -
5:49 - 5:52ความยาวคลื่นของแสง อาจเป็นพันเท่า
ของอินเตอร์เน็ตที่บ้านคุณ -
5:52 - 5:55หรือสามารถส่งวิดีโอได้ถึง 10,000 สตรีม
-
5:55 - 5:58ไม่เพียงแค่นั้น คุณไม่ได้ใช้แค่ความยาวคลื่นแสงเดียว
-
5:58 - 6:01ผ่านไฟเบอร์เส้นหนึ่ง
-
6:01 - 6:04แต่คุณใส่ 50 หรือ 60 หรือ 70 ความยาวคลื่นหรือสีของแสงต่าง ๆ กัน
-
6:04 - 6:07ผ่านไฟเบอร์อันเดียว และคุณอาจมี
-
6:07 - 6:09ไฟเบอร์แปดเส้นในสายเส้นเดียว สี่เส้นไป สี่เส้นกลับ
-
6:09 - 6:13และพวกมันเล็กมาก มันหนาเท่ากับเส้นผม
-
6:13 - 6:15มันต่อกับพื้นทวีปสักที่
-
6:15 - 6:17พวกมันถูกเชื่อมต่อในหลุมแบบนี้เลย
-
6:17 - 6:20นี่คือที่ที่สายเคเบิลยาว 5,000 ไมล์มาเชื่อมกัน
-
6:20 - 6:25ในฮาลิแฟกซ์ สายเคเบิลที่ลากจากฮาลิแฟกซ์ไปยังไอร์แลนด์
-
6:25 - 6:28และภูมิทัศน์กำลังเปลี่ยนไป เมื่อสามปีที่แล้ว
-
6:28 - 6:30ตอนที่ผมเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ เรามีเคเบิลสายเดียว
-
6:30 - 6:33ลากลงไปยังชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา
-
6:33 - 6:36แสดงในแผนที่นี้โดย สตีฟ ซอง (Steve Song)
ด้วยเส้นสีดำบางนั่น -
6:36 - 6:40ตอนนี้มีสายเคเบิลหกสายที่ถูกวาง ชายฝั่งละสามเส้น
-
6:40 - 6:43เมื่อมีประเทศหนึ่งเชื่อมต่อกับเคเบิลสายหนึ่ง
-
6:43 - 6:45เขาก็จะรู้ว่ามันไม่พอ ที่จะสร้าง
-
6:45 - 6:48อุตสาหกรรมอย่างหนึ่งใกล้ๆ เขาต้องรู้ว่าการเชื่อมต่อ
-
6:48 - 6:50นั่นไม่ใช่แค่ชั่วคราว แต่ถาวร
เพราะหากสายเคเบิลขาด -
6:50 - 6:52คุณต้องส่งเรือออกไปในน้ำ
-
6:52 - 6:55โยนตะขอจับลงไปด้านข้าง
เกี่ยวมันขึ้น หาอีกปลายนึง -
6:55 - 6:58เชื่อมสองปลายเข้าด้วยกัน แล้วทิ้งมันกลับลงไป
-
6:58 - 7:03มันเป็นกระบวนการทางกายภาพล้วน ๆ
-
7:03 - 7:07และนี่คือเพื่อนผม ไซมอน คูปเปอร์ (Simon Cooper)
ผู้ที่ไม่นานมานี้ -
7:07 - 7:10ทำงานให้ Tata Communications ในฝ่ายการสื่อสาร
-
7:10 - 7:13ของ Tata กลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของอินเดีย
-
7:13 - 7:16และผมไม่เคยเจอเขา เราแค่ติดต่อกัน
-
7:16 - 7:19ผ่านระบบทางไกลนี้ ซึ่งทำให้ผม
-
7:19 - 7:23คิดว่าเขาเป็นมนุษย์ในอินเตอร์เน็ตเสมอ (หัวเราะ)
-
7:23 - 7:26และเขาเป็นชาวอังกฤษ อุตสาหกรรมสายเคเบิลใต้ทะเลนั้น
-
7:26 - 7:30นำโดยชาวอังกฤษ และพวกเขาดูเหมือนจะอายุ 42 กันหมด
-
7:30 - 7:33(เสียงหัวเราะ) เพราะพวกเขาล้วนเริ่มต้นพร้อมกัน
-
7:33 - 7:36โดยความนิยมประมาณ 20 ปีที่แล้ว
-
7:36 - 7:39และ Tata ได้ก่อตัวขึ้นจากอุตสาหกรรมการสื่อสาร
-
7:39 - 7:42โดยเขาซื้อเคเบิลสองสาย อันหนึ่งข้ามแอตแลนติก
-
7:42 - 7:45และอีกอันข้ามแปซิฟิก และทำการเพิ่มส่วน
-
7:45 - 7:48ต่อจากมัน กระทั่งได้สร้างเข็มขัดรอบโลกขึ้น
-
7:48 - 7:50ซึ่งหมายความว่า เขาสามารถส่งบิตของคุณไปทางตะวันออกหรือตกก็ได้
-
7:50 - 7:53เขามี -- มันคือลำแสงจริงวิ่งรอบโลก
-
7:53 - 7:55และหากสายเคเบิลพังในแปซิฟิก มันจะส่งไป
-
7:55 - 7:58อีกทาง แล้วเมื่อทำเช่นนั้น
-
7:58 - 8:02เขาก็เริ่มหาที่ต่อสายอันต่อไป
-
8:02 - 8:04เขามองหาทีที่ยังไม่ได้เชื่อมต่อ นั่นหมายถึง
-
8:04 - 8:07เหนือและใต้ โดยเฉพาะเคเบิลที่ไปยังแอฟริกา
-
8:07 - 8:11แต่สิ่งที่ประทับใจผมคือ
จินตนาการด้านภูมิศาสตร์ อันไม่น่าเชื่อของไซมอน -
8:11 - 8:14เขาคิดถึงโลกที่มีการขยายตัวอย่างเหลือเชื่อ
-
8:14 - 8:17และผมสนใจเป็นพิเศษเพราะผมอยากเห็น
-
8:17 - 8:20สายเคเบิลเหล่านี้สร้างขึ้น เพื่อที่ทุกครั้งที่ออนไลน์
-
8:20 - 8:22เราจะรู้สึกถึงชั่วขณะของการเชื่อมต่อ
-
8:22 - 8:26ความใกล้ชิดชั่วขณะ เช่น ทวีต หรือโพสต์เฟสบุค
-
8:26 - 8:30หรืออีเมล์ และมันดูเหมือนมีกระบวนการกายภาพคู่กัน
-
8:30 - 8:32มันดูเหมือนว่าขณะที่ทวีปถูกเชื่อมต่อกัน
-
8:32 - 8:34และผมอยากเห็นช่วงเวลานั้น
-
8:34 - 8:36และไซมอนกำลังทำเคเบิลใหม่
-
8:36 - 8:39ระบบเคเบิลแอฟริกาตะวันตก หรือ WACS
(West Africa Cable System) -
8:39 - 8:41ซึ่งเชื่อมจากลิสบอนลงไปยังฝั่งตะวันตกของแอฟริกา
-
8:41 - 8:44ไปยังโกตดิวัวร์ กานา ไนจีเรีย และแคมอรูน
-
8:44 - 8:46และเขาบอกว่ามันจะมาในไม่ช้า
-
8:46 - 8:48ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
และเขาจะบอกผมเมื่อวันนั้นมาถึง -
8:48 - 8:51เขาแจ้งล่วงหน้าประมาณ 4 วัน
-
8:51 - 8:54ให้ผมไปที่หาดทางใต้ของลิสบอน
และในช่วงเก้าโมงเช้า -
8:54 - 8:58ชายคนนี้จะเดินขึ้นมาจากน้ำ (เสียงหัวเราะ)
-
8:58 - 9:02และเขาจะถือสายไนลอนสีเขียว สายน้ำหนักเบา
-
9:02 - 9:05ที่เรียกว่าสายส่งข้อมูล (messenger line)
ซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อแรก -
9:05 - 9:08ระหว่างทะเลกับแผ่นดิน
-
9:08 - 9:11การเชื่อมต่อนี้จะสร้างเส้นทาง 9,000 ไมล์สำหรับแสง
-
9:11 - 9:14รถแทรกเตอร์จะเริ่มดึงสายเคเบิล
-
9:14 - 9:17จากเรือวางเคเบิล โดยจะผูกสาย
-
9:17 - 9:20ไว้กับทุ่นลอยตัว จนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง
-
9:20 - 9:23คุณจะเห็นวิศวกรชาวอังกฤษที่คอยควบคุม
-
9:23 - 9:26และเมื่อมันอยู่ถูกที่แล้ว เขาก็จะกลับลงไปในน้ำ
-
9:26 - 9:29ถือมีดอันใหญ่ คอยตัดทุ่นออกทีละทุ่น
-
9:29 - 9:31ทุ่นก็จะลอยขึ้นไปในอากาศ ส่วนสายเคเบิล
-
9:31 - 9:33ก็จะตกลงไปอยู่บนพื้นทะเล
และเขาทำอย่างนั้นเรื่อยๆ -
9:33 - 9:35จนกว่าจะถึงเรือวางเคเบิล
-
9:35 - 9:38เมื่อถึงแล้ว พวกเขาจะให้น้ำผลไม้กับคุกกี้
-
9:38 - 9:40แล้วเขาก็จะกระโดดกลับไป ว่ายกลับฝั่ง
-
9:40 - 9:47แล้วกลับขึ้นมาจุดบุหรี่ (เสียงหัวเราะ)
-
9:47 - 9:50เมื่อเคเบิลอยู่บนฝั่งแล้ว
-
9:50 - 9:53เขาก็เตรียมเชื่อมต่อมันกับอีกฝั่ง
-
9:53 - 9:56ต่อกับเคเบิลที่เชื่อมลงมาจากสถานีภาคพื้น
-
9:56 - 9:59เริ่มจากตัดมันด้วยเลื่อยตัดโลหะ
-
9:59 - 10:02แล้วเฉือนพลาสติกหุ้มออก คล้ายๆงานพ่อครัว
-
10:02 - 10:04และสุดท้ายเขาก็ทำงาน
-
10:04 - 10:07เหมือนช่างเพชรพลอยเพื่อให้เส้นใยหนาเท่าเส้นผม
-
10:07 - 10:09ต่อเข้ากับเคเบิลที่ลากลงมา
-
10:09 - 10:12ด้วยเครื่องตอกรูนี้
-
10:12 - 10:15และเมื่อคุณเห็นคนพวกนี้จัดการเคเบิลด้วยเลื่อย
-
10:15 - 10:18คุณจะเลิกคิดว่าอินเตอร์เน็ตเป็นเพียงเมฆหมอกจางๆ
-
10:18 - 10:21มันเริ่มดูเหมือนของกายภาพที่น่าอัศจรรย์
-
10:21 - 10:24และที่ทำให้ผมตะลึงอีกอย่างคือ ของพวกนี้
-
10:24 - 10:27ล้วนมาจากเทคโนโลยีอันซับซ้อน
-
10:27 - 10:30ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ใหม่อย่างเหลือเชื่อ
กระบวนการทางกายภาพ -
10:30 - 10:33ที่มีอยู่เป็นเวลานาน และวัฒนธรรมก็ยังคงเหมือนเดิม
-
10:33 - 10:35คุณเห็นกรรมกรท้องถิ่น คุณเห็นวิศวกรชาวอังกฤษ
-
10:35 - 10:39คอยสั่งงานอยู่เบื้องหลัง
และที่สำคัญกว่านั้น -
10:39 - 10:41สถานที่ก็ยังคงเป็นที่เดิม
เคเบิลเหล่านี้ยังคงต่อกับ -
10:41 - 10:44เมืองท่าดั้งเดิมเหล่านี้
สถานที่อย่างลิสบอน มอมบาซา -
10:44 - 10:47มุมไบ สิงคโปร์ นิวยอร์ก
-
10:47 - 10:52และกระบวนการบนฝั่งใช้เวลาสามถึงสี่วัน
-
10:52 - 10:56เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็วางฝาหลุม
-
10:56 - 10:59แล้วกดทรายทับ
-
10:59 - 11:02แล้วทุกคนก็จะลืมมัน
-
11:02 - 11:04และผมเห็นว่า เราพูดถึงอินเตอร์เน็ตกลุ่มเมฆบ่อย ๆ
-
11:04 - 11:06แต่ทุกครั้งที่เราใส่อะไรลงไปในกลุ่มเมฆ
-
11:06 - 11:08เรายกความรับผิดชอบมันไป
-
11:08 - 11:12เราเชื่อมต่อกับมันน้อยลง เราปล่อยให้คนอื่นจัดการแทน
-
11:12 - 11:13และนั่นไม่ถูกต้องนัก
-
11:13 - 11:16มีคำพูดของนีล สตีเฟนสัน ที่เจ๋งอยู่
-
11:16 - 11:20เขากล่าวว่า คนที่ถูกเชื่อมต่อควรรู้เกี่ยวกับการเชื่อมต่อบ้าง
-
11:20 - 11:22และผมว่า เราควรรู้
-
11:22 - 11:25ว่าอินเตอร์เน็ตของเรามาจากไหน และเราควรรู้ว่า
-
11:25 - 11:30มันเชื่อมต่อเราทั้งหมดด้วยกายภาพ
-
11:30 - 11:32ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)
-
11:32 - 11:35(เสียงปรบมือ)
-
11:35 - 11:38ขอบคุณ (เสียงปรบมือ)
- Title:
- แอนดรูว์ บลัม (Andrew Blum): อินเตอร์เน็ตคืออะไรกันแน่?
- Speaker:
- Andrew Blum
- Description:
-
เมื่อกระรอกตัวหนึ่งกัดสายเคเบิลและทำให้เขาต้องหลุดจากโลกออนไลน์ นักเขียนบทความ แอนดรูว์ บลัม เริ่มสงสัยว่าอินเตอร์เน็ตทำมาจากอะไรกันแน่ เขาเลยออกไปค้นหามัน - สายเคเบิลใต้น้ำ สวิทช์ลับ และของกายภาพอื่น ๆ ที่สร้างอินเตอร์เน็ตขึ้น
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 11:59
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Discover the physical side of the internet | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna accepted Thai subtitles for Discover the physical side of the internet | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna commented on Thai subtitles for Discover the physical side of the internet | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Discover the physical side of the internet | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Discover the physical side of the internet | ||
Umnouy Ponsukcharoen edited Thai subtitles for Discover the physical side of the internet | ||
Umnouy Ponsukcharoen edited Thai subtitles for Discover the physical side of the internet | ||
Umnouy Ponsukcharoen edited Thai subtitles for Discover the physical side of the internet |