WEBVTT 00:00:00.827 --> 00:00:02.858 ผมมักเขียนบทความเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม 00:00:02.858 --> 00:00:05.383 และสิ่งก่อสร้าง การเขียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมนั้น 00:00:05.383 --> 00:00:08.124 ตั้งอยู่บนข้อสมมุติอย่างหนึ่ง 00:00:08.124 --> 00:00:10.582 นักออกแบบออกแบบอาคาร ซึ่งจะกลายเป็นสถานที่ 00:00:10.582 --> 00:00:13.062 หรือนักออกแบบหลายคนออกแบบหลายอาคาร 00:00:13.062 --> 00:00:16.336 ซึ่งจะกลายเป็นเมือง โดยไม่ได้สนใจการผสมผสานกันอย่างซับซ้อน 00:00:16.336 --> 00:00:18.733 ระหว่างแรงทางการเมือง วัฒนกรรม และเศรษฐกิจที่ 00:00:18.733 --> 00:00:21.736 ก่อรูปร่างสถานที่เหล่านี้ขึ้น และในที่สุด คุณก็สามารถไป 00:00:21.736 --> 00:00:24.392 และเยี่ยมชมมันได้ คุณเดินรอบ ๆ มันได้ 00:00:24.392 --> 00:00:26.065 คุณดมกลิ่นมันได้ แล้วคุณก็รู้สึกถึงมันได้ 00:00:26.065 --> 00:00:29.558 คุณรู้สึกถึงสัมผัสของสถานที่เหล่านั้น NOTE Paragraph 00:00:29.558 --> 00:00:31.907 แต่สิ่งที่สะดุดผมตลอดหลายปีมานี้ 00:00:31.907 --> 00:00:35.282 ก็คือ ผมออกไปยังโลกกว้างน้อยลงเรื่อยๆ 00:00:35.282 --> 00:00:38.511 และผมยิ่งนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานขึ้นเรื่อยๆ 00:00:38.511 --> 00:00:42.831 โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2007 เมื่อผมได้ไอโฟนมา 00:00:42.831 --> 00:00:44.707 ผมไม่ใช่แค่นั่งอยู่หน้าจอทั้งวันเท่านั้น 00:00:44.707 --> 00:00:46.804 ในตอนเย็นผมต้องลุกขึ้นมา 00:00:46.804 --> 00:00:50.104 และมองหาหน้าจอเล็ก ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าผม 00:00:50.104 --> 00:00:52.963 และที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ ความเร็ว 00:00:52.963 --> 00:00:55.900 ที่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับโลกกายภาพเปลี่ยนไป 00:00:55.900 --> 00:00:57.675 ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ 00:00:57.675 --> 00:01:01.131 จะเรียกมันว่า 15 ปีที่แล้วกับโลกออนไลน์ 00:01:01.131 --> 00:01:04.090 หรือจะเรียกว่า 4 ถึง 5 ปีแห่งการออนไลน์ตลอดเวลา 00:01:04.090 --> 00:01:07.264 ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งรอบตัวเราได้เปลี่ยนไปโดยที่ 00:01:07.264 --> 00:01:09.063 ความสนใจเราถูกแบ่งแยกเสมอ 00:01:09.063 --> 00:01:11.627 เราทั้งมองภายในหน้าจอ และเรามองออกไป 00:01:11.627 --> 00:01:13.459 ยังโลกรอบตัวเรา NOTE Paragraph 00:01:13.459 --> 00:01:15.986 และสิ่งที่กระทบผมยิ่งกว่า สิ่งที่ 00:01:15.986 --> 00:01:18.988 ผมติดใจคือว่า โลกที่อยู่ในหน้าจอ 00:01:18.988 --> 00:01:22.777 นั้นดูจะไม่มีความเป็นจริงทางกายภาพของมันเอง 00:01:22.777 --> 00:01:25.545 หากคุณเข้าไปหารูปของอินเตอร์เน็ต 00:01:25.545 --> 00:01:28.663 นี่คือสิ่งที่คุณจะเจอ ภาพชื่อดังของ ออปต์ (Opte) 00:01:28.663 --> 00:01:31.793 ที่แสดงให้เห็นว่าอินเตอร์เน็ต เป็นเหมือนทางช้างเผือกที่กว้างใหญ่ 00:01:31.793 --> 00:01:33.889 ที่ที่เราไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงไหน 00:01:33.889 --> 00:01:36.313 เราไม่สามารถรับรู้ถึงความสุดยอดของมันได้หมด 00:01:36.313 --> 00:01:39.930 มันทำให้ผมนึกถึงรูปของโลกจากยานอพอลโล 00:01:39.930 --> 00:01:42.660 ภาพลูกหินสีเงิน ที่อยู่เคว้งคว้างในอวกาศ 00:01:42.660 --> 00:01:45.357 ผมคิดว่านะ ว่าเราไม่สามารถเข้าใจมันได้ท้งหมด 00:01:45.357 --> 00:01:49.042 เราเป็นสิ่งเล็กๆในพื้นที่ที่กว้างใหญ่นี้เสมอ NOTE Paragraph 00:01:49.042 --> 00:01:52.407 ผมไม่มีทางที่จะเอาโลกใบนี้ กับหน้าจอนี้ 00:01:52.407 --> 00:01:55.264 และโลกภายภาพรอบตัวผม 00:01:55.264 --> 00:01:58.245 มาผสานเป็นหนึ่งเดียวกันได้เลย NOTE Paragraph 00:01:58.245 --> 00:02:01.452 แต่แล้วมันก็เกิดขึ้น 00:02:01.452 --> 00:02:04.050 วันหนึ่งอินเตอร์เน็ตผมเสีย ซึ่งก็เสียเป็นพักๆ 00:02:04.050 --> 00:02:06.784 ช่างเคเบิลก็มาซ่อมมัน เขาก็เริ่มด้วย 00:02:06.784 --> 00:02:08.911 กลุ่มสายเคเบิลสกปรกหลังเก้าอี้ผม 00:02:08.911 --> 00:02:12.121 แล้วเขาก็ไล่ตามมันไปยังหน้าอาคาร ชั้นใต้ดิน ออกไปสนามหลังบ้าน 00:02:12.121 --> 00:02:14.997 มีสายเคเบิลมัดใหญ่อยู่ติดผนัง 00:02:14.997 --> 00:02:17.551 แล้วเขาก็เห็นกระรอกวิ่งไปตามสาย 00:02:17.551 --> 00:02:20.342 แล้วเขาก็บอกว่า "นี่ล่ะปัญหา 00:02:20.342 --> 00:02:24.763 กระรอกมันกำลังเคี้ยวอินเตอร์เน็ตคุณอยู่" (เสียงหัวเราะ) 00:02:24.763 --> 00:02:27.890 ผมประหลาดใจ เพราะอินเตอร์เน็ต 00:02:27.890 --> 00:02:31.264 เป็นไอเดียเหนือธรรมชาติ เป็นมาตรฐานที่ปฎิวัติทุกสิ่ง 00:02:31.264 --> 00:02:34.719 ตั้งแต่การช็อปปิ้ง การออกเดต ไปจนถึงการปฏิวัติ 00:02:34.719 --> 00:02:37.348 มันไม่ใช่สิ่งที่กระรอก 00:02:37.348 --> 00:02:40.659 จะเคี้ยวได้นะ (เสียงหัวเราะ) 00:02:40.659 --> 00:02:42.537 แต่ที่จริง มันกลับเกิดขึ้นได้ 00:02:42.537 --> 00:02:45.739 กระรอกตัวหนึ่งเคี้ยวอินเตอร์เน็ตได้จริง ๆ (เสียงหัวเราะ) 00:02:45.739 --> 00:02:47.926 แล้วผมก็เกิดภาพในหัวว่า จะเกิดอะไรขึ้น 00:02:47.926 --> 00:02:50.106 ถ้าเรากระชากสายจากผนัง แล้วไล่ตามมันไป 00:02:50.106 --> 00:02:51.710 มันจะไปยังที่ใด? 00:02:51.710 --> 00:02:55.218 อินเตอร์เน็ตที่จริงแล้วเป็นสถานที่ที่คุณไปเยี่ยมได้ไหม? 00:02:55.218 --> 00:02:56.567 ผมจะไปยังไง? ผมจะเจอใคร? 00:02:56.567 --> 00:02:59.943 คุณก็รู้ จะมีอะไรไหมอยู่ ณ ที่นั้น? NOTE Paragraph 00:02:59.943 --> 00:03:02.980 คำตอบ ในทุกคำถาม คือ ไม่ 00:03:02.980 --> 00:03:05.760 นี่คืออินเตอร์เน็ต กล่องสีดำที่มีไฟสีแดง 00:03:05.760 --> 00:03:09.190 ปรากฏในซิดคอมเรื่อง "The IT Crowd". 00:03:09.190 --> 00:03:12.749 ปกติมันจะอยู่บนยอดบิ๊กเบน 00:03:12.749 --> 00:03:15.831 เพราะนั่นคือที่ที่คุณจะรับส่งสัญญาณได้ดีที่สุด 00:03:15.831 --> 00:03:19.136 แต่พวกเขาตกลงว่า ผู้ร่วมงานของพวกเขาสามารถยืม 00:03:19.136 --> 00:03:22.308 มันไปตอนบ่ายเพื่อใช้แสดงในออฟฟิศได้ 00:03:22.308 --> 00:03:24.682 ผู้อาวุโสแห่งอินเตอร์เน็ต ยอมที่จะพรากจากมัน เป็นเวลาสั้นๆ 00:03:24.682 --> 00:03:27.548 เธอมองมัน และกล่าวว่า 00:03:27.548 --> 00:03:30.938 "นี่คืออินเตอร์เน็ตเหรอ? อินเตอร์เน็ตทั้งหมดเนี่ยนะ? มันหนักไหม?" 00:03:30.938 --> 00:03:34.898 พวกเขาบอกว่า "ไม่หรอก อินเตอร์เน็ตไม่มีน้ำหนักเลย" NOTE Paragraph 00:03:34.898 --> 00:03:37.215 ได้ยินแล้วผมอายทีเดียว ผมกำลังมองหาสิ่งนี้ 00:03:37.215 --> 00:03:39.511 ที่ดูโง่มากที่จะตามหามัน 00:03:39.511 --> 00:03:42.346 อินเตอร์เน็ตคือก้อนไร้รูปร่าง 00:03:42.346 --> 00:03:44.592 หรือกล่องสีดำบื้อๆ ที่มีไฟสีแดงกะพริบอยู่ 00:03:44.592 --> 00:03:46.920 มันไม่ใช่โลกแห่งความจริงข้างนอกนั่น NOTE Paragraph 00:03:46.920 --> 00:03:50.232 แต่อันที่จริง มันเป็นอย่างนั้น มันมีโลกแห่งความจริงของอินเตอร์เน็ตอยู่ภายนอก 00:03:50.232 --> 00:03:51.998 และนั่นคือสิ่งที่ผมใช้เวลาสองปีอยู่กับมัน 00:03:51.998 --> 00:03:55.543 ในที่เหล่านี้ของอินเตอร์เน็ต ผมอยู่ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ 00:03:55.543 --> 00:03:58.188 ที่ใช้พลังงานมากเท่าที่เมืองที่เราอยู่ 00:03:58.188 --> 00:04:01.377 และผมเยี่ยมสถานที่แบบนี้ เช่นเลขที่ 60 ถนนฮัดสัน ในนิวยอร์ก 00:04:01.377 --> 00:04:03.085 ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารบนโลกนี้ 00:04:03.085 --> 00:04:05.983 หนึ่งในรายชื่อสั้น ๆ ประมาณโหลนึง 00:04:05.983 --> 00:04:08.627 ซึ่งมีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อกัน 00:04:08.627 --> 00:04:09.985 มากกว่าที่ใดๆ 00:04:09.985 --> 00:04:12.602 และการเชื่อมต่อนั้นเป็นกระบวนการทางกายภาพอย่างปฏิเสธไม่ได้ 00:04:12.602 --> 00:04:15.087 มันเหมือนกับราวน์เตอร์ของเครือข่ายนึง เฟสบุคหรือ 00:04:15.087 --> 00:04:18.029 กูเกลิ หรือ บีที หรือ คอมแคสต์ หรือ ไทม์ วอร์เนอร์ อะไรก็ตาม 00:04:18.029 --> 00:04:20.460 เชื่อมต่อกันด้วยสายใยแก้วนำแสงสีเหลืองขึ้นไป 00:04:20.460 --> 00:04:23.154 ตามเพดานและลงไปในเราเตอร์ของเครือข่ายอื่น 00:04:23.154 --> 00:04:27.531 และนั่นเป็นเรื่องกายภาพ และนั่นเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างน่าประหลาด 00:04:27.531 --> 00:04:30.824 อาคารอย่างเช่น 60 ฮัดสัน และอื่น ๆ อีกโหลนึง 00:04:30.824 --> 00:04:33.150 มีเครือข่ายอีก 10 เท่าเชื่อมต่อกัน 00:04:33.150 --> 00:04:34.998 มากกว่าอาคารลำดับชั้นรองลงมา 00:04:34.998 --> 00:04:37.066 ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ที่จริงๆ 00:04:37.066 --> 00:04:39.974 โดยเฉพาะ 60 ฮัดสัน นั้นน่าสนใจเพราะมันคือบ้าน 00:04:39.974 --> 00:04:42.563 ของเครือข่ายสำคัญประมาณหกเครือข่าย 00:04:42.563 --> 00:04:44.861 ซึ่งเป็นเครือข่ายเคเบิลใต้ทะเล 00:04:44.861 --> 00:04:47.209 เดินทางใต้มหาสมุทร 00:04:47.209 --> 00:04:49.462 เชื่อมต่อยุโรปและอเมริกา และเชื่อมต่อเราทุกคน 00:04:49.462 --> 00:04:53.049 และนั่นคือเคเบิลที่ผมอยากเจาะจงโดยเฉพาะ NOTE Paragraph 00:04:53.049 --> 00:04:56.909 หากอินเตอร์เน็ตคือปรากฏการณ์ระดับโลก 00:04:56.925 --> 00:04:59.365 หากเราอยู่ในหมู่บ้านที่ชื่อว่าโลกได้ นั่นเป็นเพราะเรามีสายเคเบิล 00:04:59.365 --> 00:05:01.470 ใต้มหาสมุทรแบบนี้ 00:05:01.470 --> 00:05:04.356 และในมิตินี้ มันเล็กอย่างเหลือเชื่อ 00:05:04.356 --> 00:05:07.298 คุณสามารถถือมันในมือคุณได้ มันเหมือนกับสายยางในสวน 00:05:07.298 --> 00:05:11.361 แต่ในอีกมิตินึง มันแผ่ขยายอย่างไม่น่าเชื่อ 00:05:11.361 --> 00:05:13.001 ขยายไปเท่าที่คุณจะนึกได้ 00:05:13.001 --> 00:05:15.556 มันขยายข้ามมหาสมุทร มันยาวสาม ห้า 00:05:15.556 --> 00:05:18.167 หรือแปดพันไมล์ 00:05:18.167 --> 00:05:20.776 และหากวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยีการคำนวณ 00:05:20.776 --> 00:05:24.309 นั้นซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ หลักการทางกายภาพพื้นฐาน 00:05:24.309 --> 00:05:28.089 นั้นก็ง่ายอย่างน่าตะลึง แสงเคลื่อนที่จากปลายหนึ่งของมหาสมุทร 00:05:28.089 --> 00:05:31.374 และออกไปยังอีกปลายหนึ่ง และมันมัก 00:05:31.374 --> 00:05:34.007 มาจากอาคารหนึ่ง ที่เรียกว่าสถานีภาคพื้น 00:05:34.007 --> 00:05:36.954 ที่ตั้งอยู่อย่างเนียนๆ ในย่านริมทะเลเล็กๆ 00:05:36.954 --> 00:05:39.688 และมีตัวขยายที่ตั้งอยู่บนพื้นมหาสมุทร 00:05:39.688 --> 00:05:42.208 ที่ดูคล้ายปลาทูน่าครีบฟ้า 00:05:42.208 --> 00:05:45.865 และทุก ๆ 50 ไมล์มันจะขยายสัญญาณ 00:05:45.865 --> 00:05:49.071 และเนื่องจากอัตราการส่งนั้นเร็วมาก หน่วยเป็น 10 กิกะไบต์ต่อวินาที 00:05:49.071 --> 00:05:51.569 ความยาวคลื่นของแสง อาจเป็นพันเท่า ของอินเตอร์เน็ตที่บ้านคุณ 00:05:51.569 --> 00:05:54.753 หรือสามารถส่งวิดีโอได้ถึง 10,000 สตรีม 00:05:54.753 --> 00:05:58.031 ไม่เพียงแค่นั้น คุณไม่ได้ใช้แค่ความยาวคลื่นแสงเดียว 00:05:58.031 --> 00:06:00.988 ผ่านไฟเบอร์เส้นหนึ่ง 00:06:00.988 --> 00:06:04.007 แต่คุณใส่ 50 หรือ 60 หรือ 70 ความยาวคลื่นหรือสีของแสงต่าง ๆ กัน 00:06:04.007 --> 00:06:06.875 ผ่านไฟเบอร์อันเดียว และคุณอาจมี 00:06:06.875 --> 00:06:09.477 ไฟเบอร์แปดเส้นในสายเส้นเดียว สี่เส้นไป สี่เส้นกลับ 00:06:09.477 --> 00:06:12.967 และพวกมันเล็กมาก มันหนาเท่ากับเส้นผม NOTE Paragraph 00:06:12.967 --> 00:06:14.796 มันต่อกับพื้นทวีปสักที่ 00:06:14.796 --> 00:06:17.134 พวกมันถูกเชื่อมต่อในหลุมแบบนี้เลย 00:06:17.134 --> 00:06:20.223 นี่คือที่ที่สายเคเบิลยาว 5,000 ไมล์มาเชื่อมกัน 00:06:20.223 --> 00:06:24.713 ในฮาลิแฟกซ์ สายเคเบิลที่ลากจากฮาลิแฟกซ์ไปยังไอร์แลนด์ 00:06:24.713 --> 00:06:27.694 และภูมิทัศน์กำลังเปลี่ยนไป เมื่อสามปีที่แล้ว 00:06:27.694 --> 00:06:29.590 ตอนที่ผมเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ เรามีเคเบิลสายเดียว 00:06:29.590 --> 00:06:32.757 ลากลงไปยังชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา 00:06:32.757 --> 00:06:35.631 แสดงในแผนที่นี้โดย สตีฟ ซอง (Steve Song) ด้วยเส้นสีดำบางนั่น 00:06:35.631 --> 00:06:40.476 ตอนนี้มีสายเคเบิลหกสายที่ถูกวาง ชายฝั่งละสามเส้น 00:06:40.476 --> 00:06:43.107 เมื่อมีประเทศหนึ่งเชื่อมต่อกับเคเบิลสายหนึ่ง 00:06:43.107 --> 00:06:44.907 เขาก็จะรู้ว่ามันไม่พอ ที่จะสร้าง 00:06:44.907 --> 00:06:47.723 อุตสาหกรรมอย่างหนึ่งใกล้ๆ เขาต้องรู้ว่าการเชื่อมต่อ 00:06:47.723 --> 00:06:50.433 นั่นไม่ใช่แค่ชั่วคราว แต่ถาวร เพราะหากสายเคเบิลขาด 00:06:50.433 --> 00:06:52.500 คุณต้องส่งเรือออกไปในน้ำ 00:06:52.500 --> 00:06:55.415 โยนตะขอจับลงไปด้านข้าง เกี่ยวมันขึ้น หาอีกปลายนึง 00:06:55.415 --> 00:06:58.458 เชื่อมสองปลายเข้าด้วยกัน แล้วทิ้งมันกลับลงไป 00:06:58.458 --> 00:07:02.998 มันเป็นกระบวนการทางกายภาพล้วน ๆ NOTE Paragraph 00:07:02.998 --> 00:07:07.296 และนี่คือเพื่อนผม ไซมอน คูปเปอร์ (Simon Cooper) ผู้ที่ไม่นานมานี้ 00:07:07.296 --> 00:07:09.968 ทำงานให้ Tata Communications ในฝ่ายการสื่อสาร 00:07:09.968 --> 00:07:12.966 ของ Tata กลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของอินเดีย 00:07:12.966 --> 00:07:15.948 และผมไม่เคยเจอเขา เราแค่ติดต่อกัน 00:07:15.948 --> 00:07:19.405 ผ่านระบบทางไกลนี้ ซึ่งทำให้ผม 00:07:19.405 --> 00:07:23.301 คิดว่าเขาเป็นมนุษย์ในอินเตอร์เน็ตเสมอ (หัวเราะ) 00:07:23.301 --> 00:07:26.498 และเขาเป็นชาวอังกฤษ อุตสาหกรรมสายเคเบิลใต้ทะเลนั้น 00:07:26.498 --> 00:07:30.143 นำโดยชาวอังกฤษ และพวกเขาดูเหมือนจะอายุ 42 กันหมด 00:07:30.143 --> 00:07:33.318 (เสียงหัวเราะ) เพราะพวกเขาล้วนเริ่มต้นพร้อมกัน 00:07:33.318 --> 00:07:35.818 โดยความนิยมประมาณ 20 ปีที่แล้ว 00:07:35.818 --> 00:07:39.078 และ Tata ได้ก่อตัวขึ้นจากอุตสาหกรรมการสื่อสาร 00:07:39.078 --> 00:07:41.543 โดยเขาซื้อเคเบิลสองสาย อันหนึ่งข้ามแอตแลนติก 00:07:41.543 --> 00:07:44.703 และอีกอันข้ามแปซิฟิก และทำการเพิ่มส่วน 00:07:44.703 --> 00:07:48.247 ต่อจากมัน กระทั่งได้สร้างเข็มขัดรอบโลกขึ้น 00:07:48.247 --> 00:07:50.344 ซึ่งหมายความว่า เขาสามารถส่งบิตของคุณไปทางตะวันออกหรือตกก็ได้ 00:07:50.344 --> 00:07:52.567 เขามี -- มันคือลำแสงจริงวิ่งรอบโลก 00:07:52.567 --> 00:07:54.778 และหากสายเคเบิลพังในแปซิฟิก มันจะส่งไป 00:07:54.778 --> 00:07:57.963 อีกทาง แล้วเมื่อทำเช่นนั้น 00:07:57.963 --> 00:08:01.907 เขาก็เริ่มหาที่ต่อสายอันต่อไป 00:08:01.907 --> 00:08:04.397 เขามองหาทีที่ยังไม่ได้เชื่อมต่อ นั่นหมายถึง 00:08:04.397 --> 00:08:07.191 เหนือและใต้ โดยเฉพาะเคเบิลที่ไปยังแอฟริกา 00:08:07.191 --> 00:08:10.962 แต่สิ่งที่ประทับใจผมคือ จินตนาการด้านภูมิศาสตร์ อันไม่น่าเชื่อของไซมอน 00:08:10.962 --> 00:08:13.921 เขาคิดถึงโลกที่มีการขยายตัวอย่างเหลือเชื่อ NOTE Paragraph 00:08:13.921 --> 00:08:17.234 และผมสนใจเป็นพิเศษเพราะผมอยากเห็น 00:08:17.234 --> 00:08:20.086 สายเคเบิลเหล่านี้สร้างขึ้น เพื่อที่ทุกครั้งที่ออนไลน์ 00:08:20.086 --> 00:08:22.406 เราจะรู้สึกถึงชั่วขณะของการเชื่อมต่อ 00:08:22.406 --> 00:08:25.700 ความใกล้ชิดชั่วขณะ เช่น ทวีต หรือโพสต์เฟสบุค 00:08:25.700 --> 00:08:29.540 หรืออีเมล์ และมันดูเหมือนมีกระบวนการกายภาพคู่กัน 00:08:29.540 --> 00:08:31.616 มันดูเหมือนว่าขณะที่ทวีปถูกเชื่อมต่อกัน 00:08:31.616 --> 00:08:33.963 และผมอยากเห็นช่วงเวลานั้น 00:08:33.963 --> 00:08:36.248 และไซมอนกำลังทำเคเบิลใหม่ 00:08:36.248 --> 00:08:38.759 ระบบเคเบิลแอฟริกาตะวันตก หรือ WACS (West Africa Cable System) 00:08:38.759 --> 00:08:40.880 ซึ่งเชื่อมจากลิสบอนลงไปยังฝั่งตะวันตกของแอฟริกา 00:08:40.880 --> 00:08:43.749 ไปยังโกตดิวัวร์ กานา ไนจีเรีย และแคมอรูน 00:08:43.749 --> 00:08:46.082 และเขาบอกว่ามันจะมาในไม่ช้า 00:08:46.082 --> 00:08:48.276 ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และเขาจะบอกผมเมื่อวันนั้นมาถึง 00:08:48.276 --> 00:08:51.477 เขาแจ้งล่วงหน้าประมาณ 4 วัน 00:08:51.477 --> 00:08:54.308 ให้ผมไปที่หาดทางใต้ของลิสบอน และในช่วงเก้าโมงเช้า 00:08:54.308 --> 00:08:58.004 ชายคนนี้จะเดินขึ้นมาจากน้ำ (เสียงหัวเราะ) 00:08:58.004 --> 00:09:02.324 และเขาจะถือสายไนลอนสีเขียว สายน้ำหนักเบา 00:09:02.324 --> 00:09:05.037 ที่เรียกว่าสายส่งข้อมูล (messenger line) ซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อแรก 00:09:05.037 --> 00:09:07.590 ระหว่างทะเลกับแผ่นดิน 00:09:07.590 --> 00:09:11.453 การเชื่อมต่อนี้จะสร้างเส้นทาง 9,000 ไมล์สำหรับแสง 00:09:11.453 --> 00:09:14.043 รถแทรกเตอร์จะเริ่มดึงสายเคเบิล 00:09:14.043 --> 00:09:17.400 จากเรือวางเคเบิล โดยจะผูกสาย 00:09:17.400 --> 00:09:20.148 ไว้กับทุ่นลอยตัว จนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง 00:09:20.148 --> 00:09:22.890 คุณจะเห็นวิศวกรชาวอังกฤษที่คอยควบคุม 00:09:22.890 --> 00:09:25.703 และเมื่อมันอยู่ถูกที่แล้ว เขาก็จะกลับลงไปในน้ำ 00:09:25.703 --> 00:09:29.062 ถือมีดอันใหญ่ คอยตัดทุ่นออกทีละทุ่น 00:09:29.062 --> 00:09:31.361 ทุ่นก็จะลอยขึ้นไปในอากาศ ส่วนสายเคเบิล 00:09:31.361 --> 00:09:33.266 ก็จะตกลงไปอยู่บนพื้นทะเล และเขาทำอย่างนั้นเรื่อยๆ 00:09:33.266 --> 00:09:35.139 จนกว่าจะถึงเรือวางเคเบิล 00:09:35.139 --> 00:09:37.552 เมื่อถึงแล้ว พวกเขาจะให้น้ำผลไม้กับคุกกี้ 00:09:37.552 --> 00:09:39.971 แล้วเขาก็จะกระโดดกลับไป ว่ายกลับฝั่ง 00:09:39.971 --> 00:09:47.131 แล้วกลับขึ้นมาจุดบุหรี่ (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:09:47.131 --> 00:09:49.843 เมื่อเคเบิลอยู่บนฝั่งแล้ว 00:09:49.843 --> 00:09:53.347 เขาก็เตรียมเชื่อมต่อมันกับอีกฝั่ง 00:09:53.347 --> 00:09:56.304 ต่อกับเคเบิลที่เชื่อมลงมาจากสถานีภาคพื้น 00:09:56.304 --> 00:09:59.162 เริ่มจากตัดมันด้วยเลื่อยตัดโลหะ 00:09:59.162 --> 00:10:02.098 แล้วเฉือนพลาสติกหุ้มออก คล้ายๆงานพ่อครัว 00:10:02.098 --> 00:10:04.160 และสุดท้ายเขาก็ทำงาน 00:10:04.160 --> 00:10:06.868 เหมือนช่างเพชรพลอยเพื่อให้เส้นใยหนาเท่าเส้นผม 00:10:06.868 --> 00:10:08.545 ต่อเข้ากับเคเบิลที่ลากลงมา 00:10:08.545 --> 00:10:11.536 ด้วยเครื่องตอกรูนี้ 00:10:11.536 --> 00:10:14.867 และเมื่อคุณเห็นคนพวกนี้จัดการเคเบิลด้วยเลื่อย 00:10:14.867 --> 00:10:17.510 คุณจะเลิกคิดว่าอินเตอร์เน็ตเป็นเพียงเมฆหมอกจางๆ 00:10:17.510 --> 00:10:21.447 มันเริ่มดูเหมือนของกายภาพที่น่าอัศจรรย์ 00:10:21.447 --> 00:10:23.955 และที่ทำให้ผมตะลึงอีกอย่างคือ ของพวกนี้ 00:10:23.955 --> 00:10:26.802 ล้วนมาจากเทคโนโลยีอันซับซ้อน 00:10:26.802 --> 00:10:29.707 ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ใหม่อย่างเหลือเชื่อ กระบวนการทางกายภาพ 00:10:29.707 --> 00:10:33.474 ที่มีอยู่เป็นเวลานาน และวัฒนธรรมก็ยังคงเหมือนเดิม 00:10:33.474 --> 00:10:35.463 คุณเห็นกรรมกรท้องถิ่น คุณเห็นวิศวกรชาวอังกฤษ 00:10:35.463 --> 00:10:38.638 คอยสั่งงานอยู่เบื้องหลัง และที่สำคัญกว่านั้น 00:10:38.638 --> 00:10:41.281 สถานที่ก็ยังคงเป็นที่เดิม เคเบิลเหล่านี้ยังคงต่อกับ 00:10:41.281 --> 00:10:44.331 เมืองท่าดั้งเดิมเหล่านี้ สถานที่อย่างลิสบอน มอมบาซา 00:10:44.331 --> 00:10:47.490 มุมไบ สิงคโปร์ นิวยอร์ก NOTE Paragraph 00:10:47.490 --> 00:10:51.576 และกระบวนการบนฝั่งใช้เวลาสามถึงสี่วัน 00:10:51.576 --> 00:10:55.767 เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็วางฝาหลุม 00:10:55.767 --> 00:10:58.738 แล้วกดทรายทับ 00:10:58.738 --> 00:11:01.820 แล้วทุกคนก็จะลืมมัน NOTE Paragraph 00:11:01.820 --> 00:11:04.071 และผมเห็นว่า เราพูดถึงอินเตอร์เน็ตกลุ่มเมฆบ่อย ๆ 00:11:04.071 --> 00:11:05.981 แต่ทุกครั้งที่เราใส่อะไรลงไปในกลุ่มเมฆ 00:11:05.981 --> 00:11:08.183 เรายกความรับผิดชอบมันไป 00:11:08.183 --> 00:11:12.047 เราเชื่อมต่อกับมันน้อยลง เราปล่อยให้คนอื่นจัดการแทน 00:11:12.047 --> 00:11:13.330 และนั่นไม่ถูกต้องนัก 00:11:13.330 --> 00:11:15.672 มีคำพูดของนีล สตีเฟนสัน ที่เจ๋งอยู่ 00:11:15.672 --> 00:11:20.069 เขากล่าวว่า คนที่ถูกเชื่อมต่อควรรู้เกี่ยวกับการเชื่อมต่อบ้าง 00:11:20.069 --> 00:11:22.339 และผมว่า เราควรรู้ 00:11:22.339 --> 00:11:25.092 ว่าอินเตอร์เน็ตของเรามาจากไหน และเราควรรู้ว่า 00:11:25.092 --> 00:11:29.914 มันเชื่อมต่อเราทั้งหมดด้วยกายภาพ 00:11:29.914 --> 00:11:32.253 ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ) 00:11:32.253 --> 00:11:34.650 (เสียงปรบมือ) 00:11:34.650 --> 00:11:38.260 ขอบคุณ (เสียงปรบมือ)