-
สวัสดีค่ะ วิวจาก Channel Point of View ค่ะ
-
กลับมาอีกครั้งนะคะ ในทุกวันพุธที่วิวจะนำเอา
-
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1
-
มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
-
ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้บรรยากาศจะแปลกๆ นิดนึงนะคะ
วิวยังไม่ได้กลับประเทศไทยค่ะ
-
ยังอยู่ที่อังกฤษเช่นเดิม
-
และยังมีเกร็ดสนุกๆ มากมาย เกี่ยวกับอังกฤษมาฝากทุกคนมากมายค่ะ
-
ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ฟังเนี่ย
-
สามารถกดไปดูได้ตรงนี้เลยนะคะ
-
อย่างไรก็ตามเราไม่ควรนอกเรื่องไปขนาดนั้น
เราควรกลับไปโฟกัสที่รามเกียรติ์ของเราเช่นเคยค่ะ
-
ซึ่งก็เหมือนทุกครั้งที่วิวบอกว่านะคะ ถ้าใครรู้สึกว่าวิวเล่าชักช้าเนิบนาบ ทำไมถึงน้ำท้วมทุ่งขนาดนี้
-
ก็ถ้าสามารถกดเข้าไปดูตรงนี้ได้เช่นกันค่ะ วิวเคยเล่ารามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ
-
จบภายในแค่ 10 นาทีเท่านั้น
-
น่าจะเหมาะกับหลายๆ คนที่ขี้รำคาญมากกว่าค่ะ
-
ส่วนใครที่ชอบฟังอะไรละเอียดๆ ลงลึก เจาะลึก
ใส่อารมณ์จัดเต็ม
-
ที่นี่คือที่ของทุกคนเลยค่ะ และวิวจัดเป็น playlist ไว้ให้เเล้ว
-
สามารถกดไปดูได้ตรงนี้เช่นกันนะคะ
-
โอเค ค่ะ เกริ่นนานมากนะคะ เชื่อว่าถึงตรงนี้แล้วไม่ต้องพูดเรื่องการกดปุ่ม subscribe และการกดปุ่มกระดิ่งเล็กๆ
-
เพื่อที่จะได้รับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่วิวอัพคลิปวิดีโอใหม่ค่ะ
-
เพราะว่าทุกคนน่าจะพร้อมฟังเรื่องราวที่ทั้ง
สนุกแล้วก็มีสาระแล้ว
-
โอเคถ้าพร้อมกันแล้วก็
-
ไปฟังกันเลยค่ะ
-
ความเดิมจากตอนที่แล้วนะคะ นางไกยเกษีเร่งให้พระรามเนี่ยเดินทางออกจากเมืองไปอย่างรวดเร็วใช่ไหมคะ
-
ซึ่งแน่นอนว่าพระรามรับคำสั่งมาแล้ว บวชเป็นฤาษีแล้ว
-
ก็ต้องออกเดินทางไปตามคำสั่งนั้นค่ะ
-
พระราม นางสีดา แล้วก็พระลักษมณ์ค่ะ
-
เดินผ่านปะรำพิธีต่างๆ นานา
-
เพื่อที่จะเดินทางออกจากเมืองไป
-
ซึ่งก็แบบ ถ้าคิดดีๆ ก็เป็น choice ที่แอบร้ายนิดนึงนะ
-
คือถ้าตั้งใจจะไม่ก่อดราม่าอะไร ก็ต้องแอบๆๆ ไป เก็ตปะ
-
แต่นี่เหมือนเดินผ่ากลางปะรำพิธีที่เหมือนตัวเองจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ไปเลยนะ เดินผ่าไป
-
เหล่าเสนาอำมาตย์ทั้งหลายค่ะ เห็นแบบนั้นก็ต้องรู้สึกว่าแบบ
-
โอ้ว เกิดอะไรขึ้นกับพระราม
-
ประกอบกับข่าวอะไรต่างๆ มันก็เริ่มออกมานู่นนี่นั่น
เยอะแยะมากมายแล้วไง
-
เหล่าเสนาอำมาตย์ค่ะ ก็เลยตัดสินใจว่า
-
ไม่ ฉันปล่อยให้กษัตริย์ของฉันเดินทางไปแบบนี้คนเดียวไม่ได้
-
ฉันจะต้องไปส่ง นะคะ
-
ดังนั้นค่ะเหล่าเสนาอำมาตย์ก็เลยตั้งขบวนกันใหญ่โต
-
เอาราชรถต่างๆ นานา นะคะ
-
แล้วก็เชิญเสร็จนางสีดา พระราม แล้วก็พระลักษมณ์ค่ะ
-
ขึ้นไปบนรถนั้นนะคะ
-
เรียกได้ว่าถ้าเป็นสมัยนี้คงจัดรถนำขบวนอะไรเรียบร้อยแล้ว
นะคะ
-
ว่าแล้วค่ะขบวนนี้ก็แห่ออกจากเมืองไป
-
ซึ่งแน่นอนว่าการแห่กันออกไปใหญ่ขนาดนี้
-
ประชาชนก็ต้องเห็นไง แล้วปรากฏว่ายังไง
-
ประชาชนทั้งหลายค่ะ รักพระรามกันทั้งนั้นเลย
ทุกคนรักพระรามมาก
-
ได้ข่าวมาอะไรแบบนั้นนะคะ
-
ทุกคนร้องห่มร้องไห้แบบ
-
ฉันนึกว่าวันนี้พระรามจะขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของฉัน
ฉันรักพระรามมาก
-
ทุกคนตัดสินใจเดินทางออกไปนอกเมืองไปส่งพระรามค่ะ
-
ก็ นึกสภาพนะเมืองทั้งเมือง
-
ตั้งขบวนแล้วค่อยๆ แห่กันออกไป
-
เข้าป่าไปค่ะ แทบจะไม่เหลือใครอยู่ในเมืองเลยนะ
-
ซึ่งเหตุกาณ์ทั้งหมดนี้ พระรามเห็นแล้วก็รู้สึกแบบ
-
ไม่สบายใจเล็กๆ น้อยๆ ประมาณว่า
-
เอ่อ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่มายด์อะไรนะที่พระพรตน้องรักของฉัน
จะได้ขึ้นมาครองเมืองต่อ
-
แล้วทีนี้ ถ้าทุกคนแห่ตามฉันเข้าไปในป่า
-
แล้วพระพรตจะปกครองใคร นี่จะเป็นเมืองเปล่าๆ รึเปล่า
-
พระพรตจะต้องปกครองก็ต้องมีเสนาอำมาตย์
จะต้องมีประชาชนรึเปล่า
-
แล้วชั้นทำแบบนี้มันก็จะโดนนินทาได้นะว่าไม่ยอมรับตำเเหน่ง
แต่ก็เอาทุกอย่างออกไปตั้งเมืองใหม่เหรออะไรอย่างงี้นะคะ
-
พระรามก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ค่ะ
-
ซึ่งพระรามนะคะก็เลยมีคำสั่งให้เหล่าเสนาอำมาตย์เนี่ย
-
เคลื่อนขบวนให้เร็วที่สุดค่ะ ก็เคลื่อนๆๆ หนีไป
-
ทำให้เหล่าประชาชนนะคะ ไม่ได้ตามไปด้วย
-
ก็มีแต่ขบวนของราชรถแล้วก็เหล่าเสนาอำมาตย์เนี่ย
ที่ตามไปส่งพระรามค่ะ
-
ก็เดินทางกันไปเรื่อยๆๆ
-
จนกระทั่งไปถึงจุดหนึ่งนะคะ พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้า
-
เหล่าเทเลทับบี้บอกลา
-
บ๊าย บาย ทิงกี้วิงกี้ บ๊าย บาย
-
อ๋อ ไม่ใช่ แม้ว่า 4 พี่น้อง จะหน้าตาเหมือนเทเลทับบี้ขนาดไหนก็ตาม แต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องเทเลทับบี้ค่ะ
-
this is รามเกียรติ์นะคะ ทุกคน
-
เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ทำไมต้องติดคำนี้ ไม่เข้าใจตัวเอง
-
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปค่ะ
-
เหล่าเสนาอำมาตย์ก็เหมือนจะตั้งแคมป์กัน จะพักแรมกันละ
-
เพราะว่าสมัยก่อนเขาไม่เดินทางกลางคืนกันนะ มันน่ากลัว
ประมาณนั้น
-
แล้วก็แบบนอนกันไม่ค่อยหลับหรอก รู้สึกแบบกังวลใจอะ ประมาณว่า
-
แบบกังวลใจจังเลยทำไมพระรามโดนไล่ออกจากเมือง ฉันช้ำใจ ฉันเศร้าใจ อะไรอย่างงี้
-
ทุกคนสงสารพระรามนะคะ
-
เทวดาทั้งหลายบนฟ้าคงรู้สึกว่า ไม่ได้การละ ฉันจะต้องลงมาทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อให้พระรามเนี่ยนะ ได้เดินป่า
-
ได้ออกไปเจอทศกัณฐ์ได้ออกไปปราบทศกัณฐ์
-
อุ๊ปส์! spoiler alert
-
แต่ว่าทุกคนก็พอจะรู้อยู่แล้วรึเปล่าว่าเดี๋ยวจะมี
พระรามสู้กับทศกัณฐ์
-
อะนะ เอาเป็นว่ามันไม่สปอยล์เท่าไหร่หรอก
-
วรรณคดีไทย ไม่ถือเป็นการสปอยล์ นะจ๊ะ
-
ถามว่าเทวดาทำอะไร
-
สิ่งที่เทวดาทำนะคะ ก็คือลงมาดลบันดาลค่ะ
-
ให้ทุกคนหลับ
-
หลับ หลับแบบหลับ
-
นอนไม่หลับใช่ไหม ได้ฉันจัดให้อะ ยานอนหลับ
แจกทั้งกองทัพเลย โปรยๆๆ
-
เสนาอำมาตย์ต่างๆ ขบวนทัพ หลับกันหมด หลับสนิท
-
เหลือใครรรู้ไหม เหลือพระราม พระรามผู้กำลังแบบว่ากำลังคิดนั่นคิดนี่ กังวลนั่น กังวลนี่
-
โอ้ย ก่อนออกมาตอนแรกฉันก็สบายใจ จะไปเดินป่า
-
พระฤาษีดันขึ้นไปคุยกับพ่อแล้วลงมาเล่าให้ฟัง ว่าเนี่ย
-
ถ้าวันใดที่พระรามเดินออกจากเมืองไปแล้วพ่อจะตาย อ่าว
แล้วฉันเดินออกมาแล้ว แล้วพ่อฉันเป็นยังไงบ้าง
-
โอ้ยๆๆ แล้วนี่เสนาอำมาตย์ตามฉันมาเต็มเลย แล้วถ้าพ่อปกครอง
-
แล้วถ้าน้องปกครองเมืองต่อแล้วใครจะดูแล แล้วใครจะ
โอะ โอ้ยๆ ปวดหัวๆ
-
สุดท้ายพระรามนอนไม่หลับค่ะ
-
จนกระทั่งเลยเที่ยงคืนไป
-
พระรามก็รู้สึกว่า
-
ยังงี้ไม่ได้การละ ถ้าอยู่อย่างงี้นะ เหล่าเสนาอำมาตย์จะต้องตามไปส่งฉันถึงไหนๆ แน่ๆ เลย
-
ไม่ได้ๆๆ
-
ดังนั้นนะคะ พระรามก็เลยไปปลุกพระลักษมณ์กับนางสีดาขึ้นมาค่ะ บอกว่า
-
เอ้ยๆ พระลักษมณ์ตื่นๆ นางสีดา ตื่นๆๆ
-
เราหนีกันดีกว่า
-
ถ้าอยู่อย่างนี้นะ เราจะต้องอยู่กับเสนาอำมาตย์นะ แล้วเราจะต้องอยู่แค่ริมเมือง
-
คือมันก็ไม่ได้เดินป่าจริง
มันก็ไม่ได้รักษาคำสัตย์ของพ่อเราขนาดนั้นน่ะ
-
แล้วแน่นอน พระพรตผู้เป็นน้องชายเนี่ยนะ
ไม่ได้เป็นเหมือนแม่เลยแม้แต่นิดเดียว
-
เราก็รู้ว่าพระพรตเนี่ยเป็นคนดี
-
แน่นอนว่าพอพระพรตเดินทางมาเมื่อไหร่
-
รับรู้เรื่องราวเมื่อไหร่นะ พระพรตจะต้องเกลียดแม่ตัวเอง
จะต้องมาตามเราไปปกครองเมืองแน่ๆ
-
เราอย่าให้เกิดเหตุการณ์นั้นเลย ลักษมณ์ สีดา หนีกันเถอะ
-
ว่าแล้วนะคะ พระรามก็เลยหอบผ้าหอบผ่อน พานางสีดา
แล้วก็พระลักษมณ์ค่ะ หนีออกไปกลางดึกคืนนั้นเลยนะคะ
-
หนีออกไปเสร็จก็เดินทางไปเรื่อยๆ เดินทางๆๆ
-
ไปจนกระทั่งถึงแม่น้ำสายหนึ่งค่ะ ชื่อว่าแม่น้ำสะโตง
-
น่ะ
-
มีความแบบ ได้รับอิทธิพลมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นิดนึง
-
มีความเอาไป mix and ไม่ match กับนิทานอินเดียนะคะ ในเวอร์ชั่นนี้
-
ไปถึงเเม่น้ำสะโตงใช่ไหมคะ
-
ปรากฏว่าบริเวณเเม่น้ำสะโตงค่ะ มีนายพรานคนหนึ่งคุมอยู่
-
ชื่อว่านายพรานกุขัน
-
ปกติแล้วนะคะ นายพรานกุขันจะไม่ให้เดินทางผ่านตรงนี้เลย
-
นี่เป็นถิ่นของฉัน ฉันเป็นพรานใจบาปหยาบช้า
-
ใครเดินทางมาตรงนี้ ใครเดินผ่านมานะ ฉันฆ่าทิ้งหมดเลย
-
วันนี้ค่ะ ก็ตั้งใจจะออกไปล่าสงล่าสัตว์เหมือนปกติ
เดินมาถึงริมน้ำ
-
ปรากฏว่าเจอฤาษี 3 องค์นั่งอยู่
-
เป็นนักบวชอะแล้วก็มีออร่า วิ้งๆๆๆ
-
อยู่ดีๆ อื้ม ทำรู้สึกดูหล๊อ หล่อ
-
ผู้ชายสองคนหล่อมาก คนโตดูสง่างาม คนเล็กก็ดูหล่อ
-
แล้วผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นที่เป็นนักบวชหญิงนะ
อู้วหู้ว นี่สวยที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้เคยเจอมาเลย
-
3 คนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ เลยเธอ
-
ว่าแล้วนะคะ นายพรานกุขันก็มีการเมาท์มอยกับ
เหล่าบริวารของตัวเองมากมาย
-
เมาท์ไปเมาท์มา
-
สุดท้ายเทวดาดลใจให้นายพรานกุขันเนี่ย เกิดหลงรักทั้ง 3 องค์เข้าไป
-
นายพรานกุขันนะคะ ก็เลยเดินเข้าไปคุยด้วย
-
นึกสภาพคนปกติ เป็นเด็กอายุประมาณสิบกว่าๆ พระรามนี่อายุประมาณสิบกว่าๆ นะ ประมาณว่าแบบ 17 18 อะไรอย่างงี้
-
มีคนแปลกหน้าเข้ามาคุยด้วย เป็นพรานป่า
-
หนวดเฟิ้ม เถื่อนมาก หน้าตาน่ากลัว
-
เข้ามาถึงก็มาถามว่า อ่าว ไหน ท่านทั้ง 3 เป็นใครมาจากไหน
-
ทำไมมานั่งเล่นอยู่ตรงนี้ล่ะ
-
คือยังไม่ได้บอกเลยนะ ว่าตัวเองชื่นชมหริอว่าเคารพนับถือหรืออะไร
-
ถ้าเป็นมนุษย์ปกติเนี่ย มาถามแบบเนี่ย
-
คิดว่าโดนปล้นแน่ๆ
-
สิ่งที่พระรามตอบนะคะ
-
คือ ตามหลักวรรณคดีไทยทั่วไปเลย ใครก็ตามมาถามเรื่องราวของตัวเอง ทำอะไร
-
เล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังทั้งหมด
-
พระรามก็แบบเริ่มมา
-
อ๋อ พ่อข้านะเป็นกษัตริย์เมืองอโยธยาไปให้คำสัตย์กับเมียคนหนึ่งไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่แม่ข้าหรอกเป็นเมียอีกคนหนึ่ง
-
แล้วก็พ่อข้าก็อยากสละราชสมบัติให้ข้า
แต่เมียคนนั้นอยากให้ลูกตัวเองขึ้นแทน
-
ดังนั้นนางก็เลยไปขอพ่อข้าบอกว่า ขอให้ข้าออกป่า บลาๆๆ
-
เล่าให้ฟังละเอียดยิบ เหมือนเล่าละครน้ำเน่าเลย
-
นึกสภาพเวลาเราดูละครน้ำเน่า แล้วสงสารตัวเอกอะ
-
นายพรายกุขันนี่เแบบนั้นเลยค่ะ นายพรานแบบ
-
โอ้ย น่าสงสารจังเลยพระองค์
-
ทำไมอีเมียคนนั้นมันเลวขนาดนี้ ทำไมถึงทำกับพระรามได้แบบนี้
-
ข้าเนี่ย รับไม่ได้เลย
-
นี่นายพรานหรือผู้หญิงดูซีรีส์เกาหลีเนี่ย
ทำไมแบบดูเป็นชะนีแตกขนาดนี้
-
เอาเป็นว่าช่างมันนะคะ ตัวละครทุกตัวเป็นชะนีเมื่อข้าพเจ้าเล่า
-
อย่างไรก็ดีนะคะ พอนายพรานฟังจบเนี่ยนายพรานรู้สึกแบบสงสารพระรามจับใจ ก็เลยชวนพระรามบอกว่า
-
ท่าน อย่าเดินป่าต่อไป เลยมาอยู่กับข้านี่ดีกว่าเนี่ย มาอาศัยอยู่กับข้า กับบริวารข้า เดี๋ยวข้าดูแลเอง
-
รับรองว่ารับใช้แทบเท้าเลยนะคะ
-
ซึ่งถามว่าพระรามยอมไหม
-
ไม่ค่ะ พระรามบอกว่า ไม่ได้ๆ
อาณาเขตของท่านยังใกล้กรุงศรีอโยธยาอยู่
-
รับร้องว่าน้องข้าจะต้องมาตามข้ากลับไปแน่นอน
-
เอาเป็นว่าถ้าท่านนับถือข้า รักข้าจริงๆ เนี่ยนะ ข้ามีเรื่องหนึ่งขอให้ช่วย
-
แม่น้ำที่ข้านั่งอยู่เนี่ย ท่านคุมอยู่ใช่ไหม ข้าอยากข้ามไปฝั่งนู่น จะได้ไกลๆ นิดนึง
-
ท่านช่วยพาข้าข้ามไปได้ไหม
-
แน่นอนค่ะนายพรานกุขันนะคะ ตกลงค่ะ แล้วก็ตัดสินใจ
พาพระรามข้ามฟากแม่น้ำไปค่ะ
-
ซึ่งก่อนที่จะข้ามไปเนี่ย นายพรานกุขันก็มีการสั่งลูกน้องไว้เหมือนกันนะ บอกว่า
-
เออ ตรงนี้นะ ดูแลให้ดีอย่าให้ใครผ่านมา ถ้าใครผ่ามาแล้วดูจะเป็นคนที่มาทำร้ายพระรามเนี่ย
-
ฆ่าทิ้งได้เลยไม่ต้องทิ้งไว้นะ
-
จากนั้นนะคะ นายพรานกุขันก็พาพระรามข้ามฟากไปค่ะ
-
ไปถึงก็พาไปหาพระฤาษีองค์หนึ่ง เพราะว่านายพรานรู้สึกว่า
-
เออ ก็บวชเป็นฤาษีก็ควรจะไปอยู่กับฤาษีๆ ใช่ไหม
-
แน่นอนนะคะไปถึงพระฤาษี พระฤาษีรู้จักหน้าตาพระรามอยู่แล้ว ถือว่าเป็นคนดัง พระฤาษีก็งง ประมาณว่าแบบ
-
เอ้าๆ พระราม ลูกท้าวทศรถ
-
มาทำอะไรที่นี่ จะว่าโดนตีเมืองแตกแล้วต้องบวชหนีภัยมา
ก็ไม่น่าจะใช่ ใครมันจะไปสู้ได้
-
อู้วหู้ว ตัวโกงขนาดนี้ ระดับพระนารายณ์อวตาร
-
ไหนเกิดอะไรขึ้นเล่าให้ฟังหน่อยซิ
-
พระรามนะคะ ก็เหมือนเดิม เล่าเรื่องทุกอย่างให้พระฤาษีฟังค่ะ พระฤาษีก็เลย
-
สงสารแล้วก็บอกว่า
-
เอ้า เออหลานเหรอ ยังงั้นเหรอ
-
อะ งั้นมาอาศัยอยู่กับตาเอาไหม
-
เนี่ยเดี๋ยวตาแบ่งกุฏิให้มาอยู่ด้วยกันอะไรยังงี้
-
ซึ่งพระรามก็ตอบไปเหมือนเดิมค่ะ ประมาณว่า
-
ไม่เอา ตรงนี้ยังใกล้กรุงศรีอโยธยาอยู่ เดี๋ยวน้องมาตาม
-
ข้าขอไปไกลกว่านี้ได้ไหม
-
พระฤาษีองค์นี้นะคะ ก็เลยชี้ทางไปให้อีก บอกว่า อะงั้นเดินทางไปนู่นละกัน
-
ตรงนั้นมีฤาษีอยู่อีกองค์หนึ่งน่าจะได้ช่วยกันบำเพ็ญพรต
ต่างๆ นานา
-
พระรามนะคะ ก็เลยเดินทางต่อไปค่ะ
-
ก็เดินๆๆ ต่อไป
-
ไปถึงก็เจอพระฤาษีองค์หนึ่งบอกว่า
-
สวัสดีพระราม ข้าส่องกล้องวงจรปิดมา คือข้านั่งสมาธิดู แล้วข้าก็ดูฌานนู่นนี่นั่น แล้วข้าก็รู้ว่าท่านกำลังเดินทางมาที่นี่
-
รามหลานรัก มาอยู่กับตามามะ นี่ตาสร้างกุฏิให้แล้วเห็นไหม
-
ลงทุนสร้างกุฏิใหม่ทั้งหลังเพื่อรอพระรามมาอยู่นะ
-
นี่ถามว่าพระรามเอาไหม ไม่ค่ะ พระรามบอกว่า ไม่ได้หรอกตา อยู่ตรงนี้ไม่ได้ มันใกล้กรุงศรีอโยธยาอยู่
-
ข้าไปอยู่ที่ไหนดี
-
ซึ่งสุดท้ายนะคะ พระฤาษีองค์นี้ แม้ว่าจะเสียดายมากอยากจะให้พระรามมาอยู่ด้วยกัน
-
แต่ก็ตัดสินใจบอกกับพระรามไปค่ะ บอกว่า
-
อะอะอะ ถ้าอยากไปอยู่ไกลๆ จริงๆ อะนะ อยากไปบำเพ็ญตบงตบะจริงๆ ก็ข้ามเขาลูกนั้นไปนะ
-
มีป่าตรงหนึ่งเงียบสงบมาก ไม่มีใครไปกวนแน่นอน
-
มีกุฏิที่เทวดาเนรมิตให้อยู่อะ ไปอยู่ตรงนั้นละกันจ้า
-
สุดท้ายนะคะ พระราม พระลักษมณ์แล้วก็นางสีดาก็เลยตัดสินใจเดินทางไปอยู่ที่บริเวณที่เงียบสงบนั้นค่ะ
-
ตัดฉากกลับไปที่เหล่าเสนาอำมาตย์กรุงศรีอโยธยา
-
ตื่นเช้ากันมา เปิดม่านดู
-
อู้ย!
-
พระรามหาย
-
เหตุการณ์นี้นะคะ คนที่รู้ก็มีแค่แบบ
-
หัวหน้าเสนาอำมาตย์คนเดียว
-
ไม่ได้รู้ไปทั้งกองทัพน่ะนะ
-
คนเนี่ย แม้ว่าจะเสียดายพระรามมาก จะรักพระรามมากน่ะนะ แต่ก็มีความฉลาดอยู่เล็กน้อยก็พอจะรู้ว่า
-
อ๋อ พระรามทำแบบนี้เพราะว่าอยากให้เรากลับเมือง
-
เราจะได้ไม่ต้องมาหมกหหมุ่นอยู่กับพระรามต่างๆ แล้วก็เราควรจะกลับไปทำงานทำการได้
-
ดังนั้นเสนาอำมาตย์คนนี้นะคะ
ก็เลยหลอกทุกคนหมดเลยทั้งกองทัพประมาณว่า
-
อ๋อ พระรามจะกลับเมืองแล้วจ้า ไปๆๆ แห่ราชรถกลับไปที่เดิม
-
คือราชรถเนี่ยมันมีม่านกั้นไง คือไม่มีใครรู้หรอกว่าด้านในเนี่ย พระรามหายไปแล้วค่ะ
-
ดังนั้นทุกคนนะคะ ก็เลยยกกองทัพกลับเมืองไป
-
แล้วข่าวก็ค่อยๆ แพร่ออกไปเรื่อยๆ ประมาณว่า
-
พระรามจะกลับเมืองแล้วจ้า พระรามจะกลับเมืองแล้วจ้า
-
ประชาชนอะไรก็เฮๆๆ กันไปหมด ซึ่งทำให้ในวังเนี่ย งงกันมาก
-
คือตอนแรกนะคะ พระนางเกาสุริยา ท้าวทศรถ
รวมถึงพระนางสมุทรเทวีก็แบบ
-
เอ้าๆ พระรามกลับมาเหรอ เอ้า เกิดอะไรขึ้น อะไรอย่างงี้นะคะ
-
แต่ปรากฏนะคะ เมื่อหัวหน้าเสนาคนนี้กลับมาถึง
-
ก็รีบวิ่งแจ้นขึ้นรายงานให้ท้าวทศรถรู้ทั้งหมดเลยค่ะ ประมาณว่า
-
ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด โปรดให้อภัยกระหม่อมด้วย
-
คือกระหม่อมพาพระรามออกไปส่งถึงอุทยาน
กระหม่อมตั้งใจว่าจะพาไปส่งให้ไกลที่สุด
-
แต่ พระรามหนีหายไปกลางคืน แล้วกระหม่อมก็ไม่รู้ว่าพระรามหนีหายไปทางไหน
-
สุดปัญญาจะไปตามหากลับมาแล้วก็
-
อีก 14 ปี เจอกันละกันนะจ๊ะ
-
คือตอนนี้ไม่รู้แล้วพระรามเดินป่าไปไหนจ้า
-
ข่าวนี้นะคะ
-
ช็อคท้าวทศรถมาก ถึงขั้นที่แบบร้องไห้ฟูมฟายว่าแบบ รามลูกรักของพ่อ
-
จะเป็นตายร้ายดียังไง แล้วรามลูกพ่อจะกินอะไร
-
โอ้ย พูดแล้วจะเป็นลม
-
แล้วท้าวทศรถนะคะก็เหมือนเป็นลม ล่มตึ้ง
แล้วก็ขาดใจตายไปตรงนั้นเลยค่ะ
-
ซึ่งส่งผลกระทบให้นางเกาสุริยาแล้วก็นางสมุทรเทวี ร้องไห้ฟูมฟาย ใหญ่โตมากมายค่ะ
-
แล้วในขณะเดียวกันนะคะ ที่เมืองไกยเกษค่ะ
-
จดหมายและราชทูตนะคะ ที่ท้าวทศรถส่งไปหาพระพรต
และพระสัตรุด
-
รวมถึงท้าวไกยเกษว่า
-
ขอตัวพระพรตกับพระสัตรุดกลับมาร่วมพระราชพิธีแต่งตั้งพระรามเป็นกษัตริย์ ก็ไปถึงมือของสองคนนี้พอดี
-
ทำให้สองคนนี้ค่ะ
-
เกณฑ์ไพร่พลเดินทางมาที่กรุงศรีอโยธยา
-
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพระพรตกลับมาแล้ว
-
จะเกิดดราม่าครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นนะคะ
-
แต่ว่าจะเป็นดราม่าอะไร คิดว่ารอฟังสัปดาห์หน้าดีกว่า
สัปดาห์นี้คิดว่ายาวพอสมควรแล้วค่ะ
-
ถ้าใครชื่นชอบคลิปที่ทั้งสนุกแล้วก็มีสาระแบบนี้
-
อย่าลืมกด like เป็นกำลังใจให้วิว
แล้วก็กด share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันนะคะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ บ๊าย บาย
-
สวัสดีค่ะ
-
คลิปนี้ก็อาจจะเสียงงงๆ นิดหนึ่ง แล้ววิวก็อาจจะดูหมดสภาพนิดนึง อันนี้รู้ตัวนะคะ
-
วันนี้คือแบบออกไปข้างนอกทั้งวัน แบบทั้งวันๆ เลยนะ
-
แต่ก็จะพยายามมีความรับผิดชอบ แล้วก็จะพยายามให้รามเกียรติ์ออนตรงทุกอาทิตย์เหมือนเดิมค่ะ
-
ดังนั้นรบกวนช่วยติดตามกันด้วยนะคะ
-
วันนี้ลาไปก่อนค่ะ บ๊าย บาย
-
สวัสดีค่ะ