สวัสดีค่ะ วิวจาก Channel Point of View ค่ะ
กลับมาอีกครั้งนะคะ ในทุกวันพุธที่วิวจะนำเอา
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1
มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้บรรยากาศจะแปลกๆ นิดนึงนะคะ
วิวยังไม่ได้กลับประเทศไทยค่ะ
ยังอยู่ที่อังกฤษเช่นเดิม
และยังมีเกร็ดสนุกๆ มากมาย เกี่ยวกับอังกฤษมาฝากทุกคนมากมายค่ะ
ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ฟังเนี่ย
สามารถกดไปดูได้ตรงนี้เลยนะคะ
อย่างไรก็ตามเราไม่ควรนอกเรื่องไปขนาดนั้น
เราควรกลับไปโฟกัสที่รามเกียรติ์ของเราเช่นเคยค่ะ
ซึ่งก็เหมือนทุกครั้งที่วิวบอกว่านะคะ ถ้าใครรู้สึกว่าวิวเล่าชักช้าเนิบนาบ ทำไมถึงน้ำท้วมทุ่งขนาดนี้
ก็ถ้าสามารถกดเข้าไปดูตรงนี้ได้เช่นกันค่ะ วิวเคยเล่ารามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ
จบภายในแค่ 10 นาทีเท่านั้น
น่าจะเหมาะกับหลายๆ คนที่ขี้รำคาญมากกว่าค่ะ
ส่วนใครที่ชอบฟังอะไรละเอียดๆ ลงลึก เจาะลึก
ใส่อารมณ์จัดเต็ม
ที่นี่คือที่ของทุกคนเลยค่ะ และวิวจัดเป็น playlist ไว้ให้เเล้ว
สามารถกดไปดูได้ตรงนี้เช่นกันนะคะ
โอเค ค่ะ เกริ่นนานมากนะคะ เชื่อว่าถึงตรงนี้แล้วไม่ต้องพูดเรื่องการกดปุ่ม subscribe และการกดปุ่มกระดิ่งเล็กๆ
เพื่อที่จะได้รับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่วิวอัพคลิปวิดีโอใหม่ค่ะ
เพราะว่าทุกคนน่าจะพร้อมฟังเรื่องราวที่ทั้ง
สนุกแล้วก็มีสาระแล้ว
โอเคถ้าพร้อมกันแล้วก็
ไปฟังกันเลยค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้วนะคะ นางไกยเกษีเร่งให้พระรามเนี่ยเดินทางออกจากเมืองไปอย่างรวดเร็วใช่ไหมคะ
ซึ่งแน่นอนว่าพระรามรับคำสั่งมาแล้ว บวชเป็นฤาษีแล้ว
ก็ต้องออกเดินทางไปตามคำสั่งนั้นค่ะ
พระราม นางสีดา แล้วก็พระลักษมณ์ค่ะ
เดินผ่านปะรำพิธีต่างๆ นานา
เพื่อที่จะเดินทางออกจากเมืองไป
ซึ่งก็แบบ ถ้าคิดดีๆ ก็เป็น choice ที่แอบร้ายนิดนึงนะ
คือถ้าตั้งใจจะไม่ก่อดราม่าอะไร ก็ต้องแอบๆๆ ไป เก็ตปะ
แต่นี่เหมือนเดินผ่ากลางปะรำพิธีที่เหมือนตัวเองจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ไปเลยนะ เดินผ่าไป
เหล่าเสนาอำมาตย์ทั้งหลายค่ะ เห็นแบบนั้นก็ต้องรู้สึกว่าแบบ
โอ้ว เกิดอะไรขึ้นกับพระราม
ประกอบกับข่าวอะไรต่างๆ มันก็เริ่มออกมานู่นนี่นั่น
เยอะแยะมากมายแล้วไง
เหล่าเสนาอำมาตย์ค่ะ ก็เลยตัดสินใจว่า
ไม่ ฉันปล่อยให้กษัตริย์ของฉันเดินทางไปแบบนี้คนเดียวไม่ได้
ฉันจะต้องไปส่ง นะคะ
ดังนั้นค่ะเหล่าเสนาอำมาตย์ก็เลยตั้งขบวนกันใหญ่โต
เอาราชรถต่างๆ นานา นะคะ
แล้วก็เชิญเสร็จนางสีดา พระราม แล้วก็พระลักษมณ์ค่ะ
ขึ้นไปบนรถนั้นนะคะ
เรียกได้ว่าถ้าเป็นสมัยนี้คงจัดรถนำขบวนอะไรเรียบร้อยแล้ว
นะคะ
ว่าแล้วค่ะขบวนนี้ก็แห่ออกจากเมืองไป
ซึ่งแน่นอนว่าการแห่กันออกไปใหญ่ขนาดนี้
ประชาชนก็ต้องเห็นไง แล้วปรากฏว่ายังไง
ประชาชนทั้งหลายค่ะ รักพระรามกันทั้งนั้นเลย
ทุกคนรักพระรามมาก
ได้ข่าวมาอะไรแบบนั้นนะคะ
ทุกคนร้องห่มร้องไห้แบบ
ฉันนึกว่าวันนี้พระรามจะขึ้นมาเป็นกษัตริย์ของฉัน
ฉันรักพระรามมาก
ทุกคนตัดสินใจเดินทางออกไปนอกเมืองไปส่งพระรามค่ะ
ก็ นึกสภาพนะเมืองทั้งเมือง
ตั้งขบวนแล้วค่อยๆ แห่กันออกไป
เข้าป่าไปค่ะ แทบจะไม่เหลือใครอยู่ในเมืองเลยนะ
ซึ่งเหตุกาณ์ทั้งหมดนี้ พระรามเห็นแล้วก็รู้สึกแบบ
ไม่สบายใจเล็กๆ น้อยๆ ประมาณว่า
เอ่อ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่มายด์อะไรนะที่พระพรตน้องรักของฉัน
จะได้ขึ้นมาครองเมืองต่อ
แล้วทีนี้ ถ้าทุกคนแห่ตามฉันเข้าไปในป่า
แล้วพระพรตจะปกครองใคร นี่จะเป็นเมืองเปล่าๆ รึเปล่า
พระพรตจะต้องปกครองก็ต้องมีเสนาอำมาตย์
จะต้องมีประชาชนรึเปล่า
แล้วชั้นทำแบบนี้มันก็จะโดนนินทาได้นะว่าไม่ยอมรับตำเเหน่ง
แต่ก็เอาทุกอย่างออกไปตั้งเมืองใหม่เหรออะไรอย่างงี้นะคะ
พระรามก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ค่ะ
ซึ่งพระรามนะคะก็เลยมีคำสั่งให้เหล่าเสนาอำมาตย์เนี่ย
เคลื่อนขบวนให้เร็วที่สุดค่ะ ก็เคลื่อนๆๆ หนีไป
ทำให้เหล่าประชาชนนะคะ ไม่ได้ตามไปด้วย
ก็มีแต่ขบวนของราชรถแล้วก็เหล่าเสนาอำมาตย์เนี่ย
ที่ตามไปส่งพระรามค่ะ
ก็เดินทางกันไปเรื่อยๆๆ
จนกระทั่งไปถึงจุดหนึ่งนะคะ พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้า
เหล่าเทเลทับบี้บอกลา
บ๊าย บาย ทิงกี้วิงกี้ บ๊าย บาย
อ๋อ ไม่ใช่ แม้ว่า 4 พี่น้อง จะหน้าตาเหมือนเทเลทับบี้ขนาดไหนก็ตาม แต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องเทเลทับบี้ค่ะ
this is รามเกียรติ์นะคะ ทุกคน
เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ทำไมต้องติดคำนี้ ไม่เข้าใจตัวเอง
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปค่ะ
เหล่าเสนาอำมาตย์ก็เหมือนจะตั้งแคมป์กัน จะพักแรมกันละ
เพราะว่าสมัยก่อนเขาไม่เดินทางกลางคืนกันนะ มันน่ากลัว
ประมาณนั้น
แล้วก็แบบนอนกันไม่ค่อยหลับหรอก รู้สึกแบบกังวลใจอะ ประมาณว่า
แบบกังวลใจจังเลยทำไมพระรามโดนไล่ออกจากเมือง ฉันช้ำใจ ฉันเศร้าใจ อะไรอย่างงี้
ทุกคนสงสารพระรามนะคะ
เทวดาทั้งหลายบนฟ้าคงรู้สึกว่า ไม่ได้การละ ฉันจะต้องลงมาทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อให้พระรามเนี่ยนะ ได้เดินป่า
ได้ออกไปเจอทศกัณฐ์ได้ออกไปปราบทศกัณฐ์
อุ๊ปส์! spoiler alert
แต่ว่าทุกคนก็พอจะรู้อยู่แล้วรึเปล่าว่าเดี๋ยวจะมี
พระรามสู้กับทศกัณฐ์
อะนะ เอาเป็นว่ามันไม่สปอยล์เท่าไหร่หรอก
วรรณคดีไทย ไม่ถือเป็นการสปอยล์ นะจ๊ะ
ถามว่าเทวดาทำอะไร
สิ่งที่เทวดาทำนะคะ ก็คือลงมาดลบันดาลค่ะ
ให้ทุกคนหลับ
หลับ หลับแบบหลับ
นอนไม่หลับใช่ไหม ได้ฉันจัดให้อะ ยานอนหลับ
แจกทั้งกองทัพเลย โปรยๆๆ
เสนาอำมาตย์ต่างๆ ขบวนทัพ หลับกันหมด หลับสนิท
เหลือใครรรู้ไหม เหลือพระราม พระรามผู้กำลังแบบว่ากำลังคิดนั่นคิดนี่ กังวลนั่น กังวลนี่
โอ้ย ก่อนออกมาตอนแรกฉันก็สบายใจ จะไปเดินป่า
พระฤาษีดันขึ้นไปคุยกับพ่อแล้วลงมาเล่าให้ฟัง ว่าเนี่ย
ถ้าวันใดที่พระรามเดินออกจากเมืองไปแล้วพ่อจะตาย อ่าว
แล้วฉันเดินออกมาแล้ว แล้วพ่อฉันเป็นยังไงบ้าง
โอ้ยๆๆ แล้วนี่เสนาอำมาตย์ตามฉันมาเต็มเลย แล้วถ้าพ่อปกครอง
แล้วถ้าน้องปกครองเมืองต่อแล้วใครจะดูแล แล้วใครจะ
โอะ โอ้ยๆ ปวดหัวๆ
สุดท้ายพระรามนอนไม่หลับค่ะ
จนกระทั่งเลยเที่ยงคืนไป
พระรามก็รู้สึกว่า
ยังงี้ไม่ได้การละ ถ้าอยู่อย่างงี้นะ เหล่าเสนาอำมาตย์จะต้องตามไปส่งฉันถึงไหนๆ แน่ๆ เลย
ไม่ได้ๆๆ
ดังนั้นนะคะ พระรามก็เลยไปปลุกพระลักษมณ์กับนางสีดาขึ้นมาค่ะ บอกว่า
เอ้ยๆ พระลักษมณ์ตื่นๆ นางสีดา ตื่นๆๆ
เราหนีกันดีกว่า
ถ้าอยู่อย่างนี้นะ เราจะต้องอยู่กับเสนาอำมาตย์นะ แล้วเราจะต้องอยู่แค่ริมเมือง
คือมันก็ไม่ได้เดินป่าจริง
มันก็ไม่ได้รักษาคำสัตย์ของพ่อเราขนาดนั้นน่ะ
แล้วแน่นอน พระพรตผู้เป็นน้องชายเนี่ยนะ
ไม่ได้เป็นเหมือนแม่เลยแม้แต่นิดเดียว
เราก็รู้ว่าพระพรตเนี่ยเป็นคนดี
แน่นอนว่าพอพระพรตเดินทางมาเมื่อไหร่
รับรู้เรื่องราวเมื่อไหร่นะ พระพรตจะต้องเกลียดแม่ตัวเอง
จะต้องมาตามเราไปปกครองเมืองแน่ๆ
เราอย่าให้เกิดเหตุการณ์นั้นเลย ลักษมณ์ สีดา หนีกันเถอะ
ว่าแล้วนะคะ พระรามก็เลยหอบผ้าหอบผ่อน พานางสีดา
แล้วก็พระลักษมณ์ค่ะ หนีออกไปกลางดึกคืนนั้นเลยนะคะ
หนีออกไปเสร็จก็เดินทางไปเรื่อยๆ เดินทางๆๆ
ไปจนกระทั่งถึงแม่น้ำสายหนึ่งค่ะ ชื่อว่าแม่น้ำสะโตง
น่ะ
มีความแบบ ได้รับอิทธิพลมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นิดนึง
มีความเอาไป mix and ไม่ match กับนิทานอินเดียนะคะ ในเวอร์ชั่นนี้
ไปถึงเเม่น้ำสะโตงใช่ไหมคะ
ปรากฏว่าบริเวณเเม่น้ำสะโตงค่ะ มีนายพรานคนหนึ่งคุมอยู่
ชื่อว่านายพรานกุขัน
ปกติแล้วนะคะ นายพรานกุขันจะไม่ให้เดินทางผ่านตรงนี้เลย
นี่เป็นถิ่นของฉัน ฉันเป็นพรานใจบาปหยาบช้า
ใครเดินทางมาตรงนี้ ใครเดินผ่านมานะ ฉันฆ่าทิ้งหมดเลย
วันนี้ค่ะ ก็ตั้งใจจะออกไปล่าสงล่าสัตว์เหมือนปกติ
เดินมาถึงริมน้ำ
ปรากฏว่าเจอฤาษี 3 องค์นั่งอยู่
เป็นนักบวชอะแล้วก็มีออร่า วิ้งๆๆๆ
อยู่ดีๆ อื้ม ทำรู้สึกดูหล๊อ หล่อ
ผู้ชายสองคนหล่อมาก คนโตดูสง่างาม คนเล็กก็ดูหล่อ
แล้วผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นที่เป็นนักบวชหญิงนะ
อู้วหู้ว นี่สวยที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้เคยเจอมาเลย
3 คนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ เลยเธอ
ว่าแล้วนะคะ นายพรานกุขันก็มีการเมาท์มอยกับ
เหล่าบริวารของตัวเองมากมาย
เมาท์ไปเมาท์มา
สุดท้ายเทวดาดลใจให้นายพรานกุขันเนี่ย เกิดหลงรักทั้ง 3 องค์เข้าไป
นายพรานกุขันนะคะ ก็เลยเดินเข้าไปคุยด้วย
นึกสภาพคนปกติ เป็นเด็กอายุประมาณสิบกว่าๆ พระรามนี่อายุประมาณสิบกว่าๆ นะ ประมาณว่าแบบ 17 18 อะไรอย่างงี้
มีคนแปลกหน้าเข้ามาคุยด้วย เป็นพรานป่า
หนวดเฟิ้ม เถื่อนมาก หน้าตาน่ากลัว
เข้ามาถึงก็มาถามว่า อ่าว ไหน ท่านทั้ง 3 เป็นใครมาจากไหน
ทำไมมานั่งเล่นอยู่ตรงนี้ล่ะ
คือยังไม่ได้บอกเลยนะ ว่าตัวเองชื่นชมหริอว่าเคารพนับถือหรืออะไร
ถ้าเป็นมนุษย์ปกติเนี่ย มาถามแบบเนี่ย
คิดว่าโดนปล้นแน่ๆ
สิ่งที่พระรามตอบนะคะ
คือ ตามหลักวรรณคดีไทยทั่วไปเลย ใครก็ตามมาถามเรื่องราวของตัวเอง ทำอะไร
เล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังทั้งหมด
พระรามก็แบบเริ่มมา
อ๋อ พ่อข้านะเป็นกษัตริย์เมืองอโยธยาไปให้คำสัตย์กับเมียคนหนึ่งไว้ ซึ่งก็ไม่ใช่แม่ข้าหรอกเป็นเมียอีกคนหนึ่ง
แล้วก็พ่อข้าก็อยากสละราชสมบัติให้ข้า
แต่เมียคนนั้นอยากให้ลูกตัวเองขึ้นแทน
ดังนั้นนางก็เลยไปขอพ่อข้าบอกว่า ขอให้ข้าออกป่า บลาๆๆ
เล่าให้ฟังละเอียดยิบ เหมือนเล่าละครน้ำเน่าเลย
นึกสภาพเวลาเราดูละครน้ำเน่า แล้วสงสารตัวเอกอะ
นายพรายกุขันนี่เแบบนั้นเลยค่ะ นายพรานแบบ
โอ้ย น่าสงสารจังเลยพระองค์
ทำไมอีเมียคนนั้นมันเลวขนาดนี้ ทำไมถึงทำกับพระรามได้แบบนี้
ข้าเนี่ย รับไม่ได้เลย
นี่นายพรานหรือผู้หญิงดูซีรีส์เกาหลีเนี่ย
ทำไมแบบดูเป็นชะนีแตกขนาดนี้
เอาเป็นว่าช่างมันนะคะ ตัวละครทุกตัวเป็นชะนีเมื่อข้าพเจ้าเล่า
อย่างไรก็ดีนะคะ พอนายพรานฟังจบเนี่ยนายพรานรู้สึกแบบสงสารพระรามจับใจ ก็เลยชวนพระรามบอกว่า
ท่าน อย่าเดินป่าต่อไป เลยมาอยู่กับข้านี่ดีกว่าเนี่ย มาอาศัยอยู่กับข้า กับบริวารข้า เดี๋ยวข้าดูแลเอง
รับรองว่ารับใช้แทบเท้าเลยนะคะ
ซึ่งถามว่าพระรามยอมไหม
ไม่ค่ะ พระรามบอกว่า ไม่ได้ๆ
อาณาเขตของท่านยังใกล้กรุงศรีอโยธยาอยู่
รับร้องว่าน้องข้าจะต้องมาตามข้ากลับไปแน่นอน
เอาเป็นว่าถ้าท่านนับถือข้า รักข้าจริงๆ เนี่ยนะ ข้ามีเรื่องหนึ่งขอให้ช่วย
แม่น้ำที่ข้านั่งอยู่เนี่ย ท่านคุมอยู่ใช่ไหม ข้าอยากข้ามไปฝั่งนู่น จะได้ไกลๆ นิดนึง
ท่านช่วยพาข้าข้ามไปได้ไหม
แน่นอนค่ะนายพรานกุขันนะคะ ตกลงค่ะ แล้วก็ตัดสินใจ
พาพระรามข้ามฟากแม่น้ำไปค่ะ
ซึ่งก่อนที่จะข้ามไปเนี่ย นายพรานกุขันก็มีการสั่งลูกน้องไว้เหมือนกันนะ บอกว่า
เออ ตรงนี้นะ ดูแลให้ดีอย่าให้ใครผ่านมา ถ้าใครผ่ามาแล้วดูจะเป็นคนที่มาทำร้ายพระรามเนี่ย
ฆ่าทิ้งได้เลยไม่ต้องทิ้งไว้นะ
จากนั้นนะคะ นายพรานกุขันก็พาพระรามข้ามฟากไปค่ะ
ไปถึงก็พาไปหาพระฤาษีองค์หนึ่ง เพราะว่านายพรานรู้สึกว่า
เออ ก็บวชเป็นฤาษีก็ควรจะไปอยู่กับฤาษีๆ ใช่ไหม
แน่นอนนะคะไปถึงพระฤาษี พระฤาษีรู้จักหน้าตาพระรามอยู่แล้ว ถือว่าเป็นคนดัง พระฤาษีก็งง ประมาณว่าแบบ
เอ้าๆ พระราม ลูกท้าวทศรถ
มาทำอะไรที่นี่ จะว่าโดนตีเมืองแตกแล้วต้องบวชหนีภัยมา
ก็ไม่น่าจะใช่ ใครมันจะไปสู้ได้
อู้วหู้ว ตัวโกงขนาดนี้ ระดับพระนารายณ์อวตาร
ไหนเกิดอะไรขึ้นเล่าให้ฟังหน่อยซิ
พระรามนะคะ ก็เหมือนเดิม เล่าเรื่องทุกอย่างให้พระฤาษีฟังค่ะ พระฤาษีก็เลย
สงสารแล้วก็บอกว่า
เอ้า เออหลานเหรอ ยังงั้นเหรอ
อะ งั้นมาอาศัยอยู่กับตาเอาไหม
เนี่ยเดี๋ยวตาแบ่งกุฏิให้มาอยู่ด้วยกันอะไรยังงี้
ซึ่งพระรามก็ตอบไปเหมือนเดิมค่ะ ประมาณว่า
ไม่เอา ตรงนี้ยังใกล้กรุงศรีอโยธยาอยู่ เดี๋ยวน้องมาตาม
ข้าขอไปไกลกว่านี้ได้ไหม
พระฤาษีองค์นี้นะคะ ก็เลยชี้ทางไปให้อีก บอกว่า อะงั้นเดินทางไปนู่นละกัน
ตรงนั้นมีฤาษีอยู่อีกองค์หนึ่งน่าจะได้ช่วยกันบำเพ็ญพรต
ต่างๆ นานา
พระรามนะคะ ก็เลยเดินทางต่อไปค่ะ
ก็เดินๆๆ ต่อไป
ไปถึงก็เจอพระฤาษีองค์หนึ่งบอกว่า
สวัสดีพระราม ข้าส่องกล้องวงจรปิดมา คือข้านั่งสมาธิดู แล้วข้าก็ดูฌานนู่นนี่นั่น แล้วข้าก็รู้ว่าท่านกำลังเดินทางมาที่นี่
รามหลานรัก มาอยู่กับตามามะ นี่ตาสร้างกุฏิให้แล้วเห็นไหม
ลงทุนสร้างกุฏิใหม่ทั้งหลังเพื่อรอพระรามมาอยู่นะ
นี่ถามว่าพระรามเอาไหม ไม่ค่ะ พระรามบอกว่า ไม่ได้หรอกตา อยู่ตรงนี้ไม่ได้ มันใกล้กรุงศรีอโยธยาอยู่
ข้าไปอยู่ที่ไหนดี
ซึ่งสุดท้ายนะคะ พระฤาษีองค์นี้ แม้ว่าจะเสียดายมากอยากจะให้พระรามมาอยู่ด้วยกัน
แต่ก็ตัดสินใจบอกกับพระรามไปค่ะ บอกว่า
อะอะอะ ถ้าอยากไปอยู่ไกลๆ จริงๆ อะนะ อยากไปบำเพ็ญตบงตบะจริงๆ ก็ข้ามเขาลูกนั้นไปนะ
มีป่าตรงหนึ่งเงียบสงบมาก ไม่มีใครไปกวนแน่นอน
มีกุฏิที่เทวดาเนรมิตให้อยู่อะ ไปอยู่ตรงนั้นละกันจ้า
สุดท้ายนะคะ พระราม พระลักษมณ์แล้วก็นางสีดาก็เลยตัดสินใจเดินทางไปอยู่ที่บริเวณที่เงียบสงบนั้นค่ะ
ตัดฉากกลับไปที่เหล่าเสนาอำมาตย์กรุงศรีอโยธยา
ตื่นเช้ากันมา เปิดม่านดู
อู้ย!
พระรามหาย
เหตุการณ์นี้นะคะ คนที่รู้ก็มีแค่แบบ
หัวหน้าเสนาอำมาตย์คนเดียว
ไม่ได้รู้ไปทั้งกองทัพน่ะนะ
คนเนี่ย แม้ว่าจะเสียดายพระรามมาก จะรักพระรามมากน่ะนะ แต่ก็มีความฉลาดอยู่เล็กน้อยก็พอจะรู้ว่า
อ๋อ พระรามทำแบบนี้เพราะว่าอยากให้เรากลับเมือง
เราจะได้ไม่ต้องมาหมกหหมุ่นอยู่กับพระรามต่างๆ แล้วก็เราควรจะกลับไปทำงานทำการได้
ดังนั้นเสนาอำมาตย์คนนี้นะคะ
ก็เลยหลอกทุกคนหมดเลยทั้งกองทัพประมาณว่า
อ๋อ พระรามจะกลับเมืองแล้วจ้า ไปๆๆ แห่ราชรถกลับไปที่เดิม
คือราชรถเนี่ยมันมีม่านกั้นไง คือไม่มีใครรู้หรอกว่าด้านในเนี่ย พระรามหายไปแล้วค่ะ
ดังนั้นทุกคนนะคะ ก็เลยยกกองทัพกลับเมืองไป
แล้วข่าวก็ค่อยๆ แพร่ออกไปเรื่อยๆ ประมาณว่า
พระรามจะกลับเมืองแล้วจ้า พระรามจะกลับเมืองแล้วจ้า
ประชาชนอะไรก็เฮๆๆ กันไปหมด ซึ่งทำให้ในวังเนี่ย งงกันมาก
คือตอนแรกนะคะ พระนางเกาสุริยา ท้าวทศรถ
รวมถึงพระนางสมุทรเทวีก็แบบ
เอ้าๆ พระรามกลับมาเหรอ เอ้า เกิดอะไรขึ้น อะไรอย่างงี้นะคะ
แต่ปรากฏนะคะ เมื่อหัวหน้าเสนาคนนี้กลับมาถึง
ก็รีบวิ่งแจ้นขึ้นรายงานให้ท้าวทศรถรู้ทั้งหมดเลยค่ะ ประมาณว่า
ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด โปรดให้อภัยกระหม่อมด้วย
คือกระหม่อมพาพระรามออกไปส่งถึงอุทยาน
กระหม่อมตั้งใจว่าจะพาไปส่งให้ไกลที่สุด
แต่ พระรามหนีหายไปกลางคืน แล้วกระหม่อมก็ไม่รู้ว่าพระรามหนีหายไปทางไหน
สุดปัญญาจะไปตามหากลับมาแล้วก็
อีก 14 ปี เจอกันละกันนะจ๊ะ
คือตอนนี้ไม่รู้แล้วพระรามเดินป่าไปไหนจ้า
ข่าวนี้นะคะ
ช็อคท้าวทศรถมาก ถึงขั้นที่แบบร้องไห้ฟูมฟายว่าแบบ รามลูกรักของพ่อ
จะเป็นตายร้ายดียังไง แล้วรามลูกพ่อจะกินอะไร
โอ้ย พูดแล้วจะเป็นลม
แล้วท้าวทศรถนะคะก็เหมือนเป็นลม ล่มตึ้ง
แล้วก็ขาดใจตายไปตรงนั้นเลยค่ะ
ซึ่งส่งผลกระทบให้นางเกาสุริยาแล้วก็นางสมุทรเทวี ร้องไห้ฟูมฟาย ใหญ่โตมากมายค่ะ
แล้วในขณะเดียวกันนะคะ ที่เมืองไกยเกษค่ะ
จดหมายและราชทูตนะคะ ที่ท้าวทศรถส่งไปหาพระพรต
และพระสัตรุด
รวมถึงท้าวไกยเกษว่า
ขอตัวพระพรตกับพระสัตรุดกลับมาร่วมพระราชพิธีแต่งตั้งพระรามเป็นกษัตริย์ ก็ไปถึงมือของสองคนนี้พอดี
ทำให้สองคนนี้ค่ะ
เกณฑ์ไพร่พลเดินทางมาที่กรุงศรีอโยธยา
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพระพรตกลับมาแล้ว
จะเกิดดราม่าครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นนะคะ
แต่ว่าจะเป็นดราม่าอะไร คิดว่ารอฟังสัปดาห์หน้าดีกว่า
สัปดาห์นี้คิดว่ายาวพอสมควรแล้วค่ะ
ถ้าใครชื่นชอบคลิปที่ทั้งสนุกแล้วก็มีสาระแบบนี้
อย่าลืมกด like เป็นกำลังใจให้วิว
แล้วก็กด share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ บ๊าย บาย
สวัสดีค่ะ
คลิปนี้ก็อาจจะเสียงงงๆ นิดหนึ่ง แล้ววิวก็อาจจะดูหมดสภาพนิดนึง อันนี้รู้ตัวนะคะ
วันนี้คือแบบออกไปข้างนอกทั้งวัน แบบทั้งวันๆ เลยนะ
แต่ก็จะพยายามมีความรับผิดชอบ แล้วก็จะพยายามให้รามเกียรติ์ออนตรงทุกอาทิตย์เหมือนเดิมค่ะ
ดังนั้นรบกวนช่วยติดตามกันด้วยนะคะ
วันนี้ลาไปก่อนค่ะ บ๊าย บาย
สวัสดีค่ะ