ตอนนี้การตัดแปลงยีนสามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตได้ทั้งสายพันธุ์ -- ไปตลอดกาล
-
0:01 - 0:03การบรรยายนี้เกี่ยวกับ
การขับเคลื่อนยีน (gene drives) -
0:03 - 0:06แต่ฉันจะเริ่มต้น
โดยการเล่าเรื่องสั้น ๆ ให้คุณฟัง -
0:07 - 0:1020 ปีก่อน นักชีววิทยา
ชื่อว่า แอนโทนี เจมส์ -
0:10 - 0:12ง่วนอยู่กับความคิด
เกี่ยวกับการทำให้ยุง -
0:12 - 0:15ไม่สามารถเป็นพาหะโรคมาลาเรียได้
-
0:16 - 0:20มันเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม
และล้มเหลวไม่มากก็น้อย -
0:21 - 0:23แต่จะว่าไป มันยากมาก ๆ
-
0:23 - 0:25ที่จะสร้างยุงที่ต้านมาลาเรียได้
-
0:26 - 0:30เจมส์ทำสำเร็จในที่สุด
ในเวลาเพียงไม่กี่ปี -
0:30 - 0:32โดยการเติมยีนที่ทำให้มันเป็นไปไม่ได้
-
0:32 - 0:35ที่มาลาเรียพาราไซต์จะมีชีวิตรอด
อยู่ภายในตัวยุง -
0:36 - 0:37แต่นั่นสร้างปัญหาขึ้นมาอีกอย่าง
-
0:38 - 0:41ตอนนี้ คุณมียุงที่ต้านมาลาเรีย
-
0:41 - 0:44คุณจะเอามันไปแทนที่
ยุงอื่น ๆ ที่มีเชื้อมาลาเรียได้อย่างไร -
0:46 - 0:48มันมีสองสามความคิดเห็น
-
0:48 - 0:50แต่แผนแรกก็คือ ผสมพันธุ์
-
0:50 - 0:53ยุงแบบใหม่
ที่มีผ่านกระบวนการพันธุวิศวกรรม -
0:53 - 0:54ปล่อยมันออกไปในธรรมชาติ
-
0:54 - 0:56และหวังว่าพวกมันจะส่งต่อยีน
-
0:57 - 0:59ปัญหาก็คือคุณจะต้องปล่อยยุง
-
0:59 - 1:0310 เท่าของจำนวนยุงที่มีอยู่เดิม
มันจึงจะสำเร็จ -
1:03 - 1:05ฉะนั้น ในหมู่บ้านที่มียุง 10,000 ตัว
-
1:05 - 1:07คุณปล่อยยุงไปอีก 100,000 ตัว
-
1:08 - 1:09อย่างที่คุณคงเดาได้
-
1:09 - 1:12นี่คงจะไม่ใช่แผนการที่ดีต่อชาวบ้านแน่
-
1:12 - 1:13(เสียงหัวเราะ)
-
1:15 - 1:19จากนั้น เดือนมกราคมปีที่แล้ว
แอนโทนี เจมส์ ได้รับจดหมาย -
1:19 - 1:21จากนักชีววิทยาชื่อว่า อีธาน ไบเออร์
-
1:21 - 1:24ไบเออร์ กล่าวว่าเขาและ
วาเลนติโน แกนทซ์ นักเรียนของเขา -
1:24 - 1:27ได้พบเข้ากับอุปกรณ์
ที่ไม่เพียงแต่จะรับรอง -
1:27 - 1:30ว่าลักษณะยีนจำเพาะจะถูกส่งต่อไป
-
1:30 - 1:32แต่ว่ามันยังจะถูกแพร่กระจายออกไป
อย่างรวดเร็วมาก -
1:33 - 1:35ถ้าหากพวกเขาถูก มันจะแก้ปัญหา
-
1:35 - 1:38ที่เขาและเจมส์พยายามแก้กันมา
เป็นเวลา 20 ปีได้จริง ๆ -
1:38 - 1:43ในการทดลอง พวกเขาตัดต่อยีนยุงสองตัว
ที่มียีนต้านมาลาเรีย -
1:43 - 1:45และมีการขับเคลื่อนยีน
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่นี้ -
1:45 - 1:47ซึ่งฉันจะอธิบายให้ฟังต่อไปนะคะ
-
1:48 - 1:50ในที่สุด พวกเขาก็ได้ดำเนินการ
เพื่อที่ว่ายุงตัวใดก็ตาม -
1:50 - 1:52ที่ได้รับยีนต้านมาลาเรีย
-
1:52 - 1:56จะไม่มีตาสีขาวที่เป็นลักษณะปกติ
แต่จะมีตาสีแดงแทน -
1:57 - 1:59นั่นก็เพื่อความสะดวกในการบ่งบอก
-
1:59 - 2:01ว่ายุงตัวไหนเป็นแบบไหน
ได้เพียงแค่มองดู -
2:02 - 2:05ฉะนั้น พวกเขานำเอายุงต้านมาลาเรียสองตัว
ที่มีตาสีแดง -
2:05 - 2:08จับมันเข้าไปในกล่อง
ที่มียุงปกติตาสีขาว 30 ตัว -
2:08 - 2:09และให้พวกมันผสมพันธุ์กัน
-
2:09 - 2:13ในสองรุ่น พวกมันเหล่านั้น
ให้ลูกหลานมา 3,800 ตัว -
2:14 - 2:16นั่นไม่ใช่ส่วนที่น่าตื่นเต้นอะไร
-
2:17 - 2:19นี่ต่างหากที่น่าตื่นเต้น
-
2:19 - 2:22เริ่มจากยุงตาสีแดงเพียงสองตัว
-
2:22 - 2:23และยุงตาสีขาว 30 ตัว
-
2:23 - 2:26คุณคาดว่าลูกหลานของมันส่วนใหญ่
จะมีตาสีขาว -
2:27 - 2:30แต่ทว่า เมื่อเจมส์เปิดกล่องออกดู
-
2:30 - 2:33ยุงทั้งหมด 3,800 ตัวมีตาสีแดง
-
2:33 - 2:35เมื่อฉันถาม อีธาน ไบเออร์ ถึงวินาทีนั้น
-
2:35 - 2:39เขาตื่นเต้นมากเสียจนตะโกน
เข้ามาทางโทรศัพท์ -
2:40 - 2:42นั่นเป็นเพราะว่าการที่ได้
เพียงแต่ยุงตาสีแดงเท่านั้น -
2:42 - 2:45เป็นสิ่งที่ขัดต่อกฎเหล็กทางชีววิทยา
-
2:45 - 2:46ซึ่งก็คือ พันธุศาสตร์แบบเมนเดล
-
2:47 - 2:48ฉันจะอธิบายแบบเร็ว ๆ นะคะ
-
2:48 - 2:51แต่พันธุศาสตร์แบบเมนเดลบอกว่า
เมื่อตัวผู้และตัวเมียผสมพันธุ์ -
2:51 - 2:54ลูก ๆ ของพวกมันได้รับดีเอ็นเอครึ่งหนึ่ง
มาจากพ่อแม่แต่ละฝ่าย -
2:54 - 2:57ฉะนั้น ถ้ายุงตั้งต้นของเราเป็น aa
และยุงรุ่นใหม่ของเราเป็น aB -
2:57 - 2:59เมื่อ B คือยีนต้านมาลาเรีย
-
2:59 - 3:01ลูก ๆ ควรจะออกมาในสี่รูปแบบนี้
ก่อนกลางพันธุ์ -
3:01 - 3:04aa, aB, aa, Ba
-
3:05 - 3:07แต่ว่า ด้วยการขับเคลื่อนยีนใหม่นี้
-
3:07 - 3:09พวกมันทุกตัวออกมาเป็น aB
-
3:10 - 3:12ในเชิงชีววิทยา
นั่นไม่ควรจะเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ -
3:12 - 3:14แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ
-
3:15 - 3:16สิ่งแรกที่เกิดขึ้น
-
3:16 - 3:19คือการเข้ามาของเครื่องมือที่มีชื่อว่า
CRISPR ในปี ค.ศ. 2012 -
3:21 - 3:23พวกคุณหลายคนคงเคยได้ยิน
เรื่องเกี่ยวกับ CRISPR มาบ้างแล้ว -
3:23 - 3:26ฉันจะพูดถึง CRISPR แค่เพียงสั้น ๆ ว่า
มันเป็นเครื่องมือที่ทำให้นักวิจัย -
3:26 - 3:29สามารถปรับเปลี่ยนยีนได้อย่างแม่นยำ
ง่าย และรวดเร็ว -
3:30 - 3:33มันทำเช่นนั้นโดยใช้กลไกที่มีอยู่แล้วในแบคทีเรีย
-
3:33 - 3:36เอาง่าย ๆ คือ
มันมีโปรตีนที่ทำหน้าที่เหมือนกรรไกร -
3:36 - 3:37และตัดดีเอ็นเอ
-
3:37 - 3:40และมีโมเลกุลอาร์เอ็นเอ
ที่กำกับกรรไกรนั้น -
3:40 - 3:41ไปยังจุดใด ๆ ก็ตามในจีโนม ตามที่คุณต้องการ
-
3:41 - 3:44ผลก็คือ มันเป็นโปรแกรมเวิร์ดสำหรับยีน
-
3:44 - 3:47คุณสามารถนำเอายีนทั้งหมดออกมา
เอามันเข้าไป -
3:47 - 3:49หรือแก้เพียงตัวอักษรเดียวภายในยีนนั้น
-
3:50 - 3:52และคุณสามารถทำอย่างนั้นได้
ในสิ่งมีชีวิตเกือบจะทุกชนิด -
3:53 - 3:57เอาล่ะ จำไว้ได้ใช่ไหมคะ ว่าฉันบอกว่า
การขับเคลื่อนยีนมีปัญหาอย่างไรสองอย่าง -
3:58 - 4:01ปัญหาแรกคือมันยากที่จะตัดต่อยุง
-
4:01 - 4:02ให้ต้านเชื้อมาลาเรียได้
-
4:02 - 4:05นั่นมันไม่เป็นปัญหาอีกแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือของ CRISPR -
4:05 - 4:07แต่อีกปัญหาหนึ่งคือปัญหาด้านการขนส่ง
-
4:07 - 4:09คุณจะทำให้ลักษณะที่คุณเลือก
แพร่ต่อไปได้อย่างไร -
4:10 - 4:12แล้วตรงนี้แหละค่ะ ที่มันเจ๋งทีเดียว
-
4:13 - 4:17สองสามปีก่อน เคลวิน เอสเวลท์
นักชีววิทยาจากฮาร์วาร์ด -
4:17 - 4:18สงสัยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
-
4:18 - 4:22ถ้าคุณใช้ CRISPR ไม่เพียงแต่
แทรกใหม่ยีนของคุณเพียงยีนเดียว -
4:22 - 4:24แต่ยังใส่กลไกการตัดและปะนั้นด้วย
-
4:25 - 4:29หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถ้าหาก CRISPR
ยังสามารถตัดและปะตัวเองได้ล่ะจะเป็นอย่างไร -
4:30 - 4:33คุณจะได้เครื่องเคลื่อนที่สำหรับการตัดต่อยีน
-
4:34 - 4:36และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น
-
4:37 - 4:40การขับเคลื่อนยีน CRISPR
ที่ เอสเวลท์ สร้างขึ้น -
4:40 - 4:44ไม่เพียงแต่จะยืนยันว่าลักษณะที่ต้องการ
จะถูกถ่ายทอดส่งต่อไป -
4:44 - 4:46แต่ถ้าเราใช้ในเซลล์ที่เพิ่มจำนวน
(germline cell) ต่อ ๆ กันไป -
4:46 - 4:49มันจะตัดและปะยีนใหม่ของคุณ
อย่างอัตโนมัติ -
4:49 - 4:51เข้าไปยังทั้งสองโครโมโซม
ของแต่ละเซลล์ -
4:52 - 4:54มันเหมือนกับการค้นหา
และการแทนที่แบบทั้งหมด -
4:54 - 4:57หรือถ้าพูดให้เป็นวิทยาศาสตร์
มันทำให้เฮเธอโรไซกัสแป็นโฮโมไซกัส -
4:59 - 5:02ฉะนั้น มันหมายความว่าอย่างไรน่ะหรือคะ
-
5:02 - 5:04อย่างหนึ่งก็คือ มันหมายความว่า
เรามีเครื่องมือที่สุดจะทรงพลัง -
5:04 - 5:07แต่ยังเป็นที่ต้องจับตาระมัดระวัง
-
5:09 - 5:11จนถึงตอนนี้ ข้อเท็จจริงที่ว่า
การขับเคลื่อนยีนจึงยังทำงานไม่ดีนัก -
5:11 - 5:13ทำให้เรารู้สึกคลายกังวลลงไปบ้าง
-
5:13 - 5:16โดยปกติแล้ว
เมื่อเราเข้าไปยุ่งกับยีนของสิ่งมีชีวิต -
5:16 - 5:18เราทำให้มันมีความเหมาะสม
ทางวิวัฒนาการลดลง -
5:19 - 5:21ฉะนั้น นักชีววิทยาสามารถสร้าง
แมลงหวี่กลายพันธ์ุได้ตามที่พวกเขาต้องการ -
5:21 - 5:23โดยไม่ต้องกังวลกับมันมาก
-
5:23 - 5:26ถ้าหากมันหลุดลอดออกไป
การคัดเลือกทางธรรมชาติจะจัดการมันเอง -
5:27 - 5:30สิ่งที่น่าทึ่ง ทรงพลัง และน่าสะพรึง
เกี่ยวกับการขับเคลื่อนยีน -
5:30 - 5:32ก็คือว่า มันจะไม่เป็นจริงอย่างนั้นอีกต่อไป
-
5:33 - 5:37ลองคาดคะเนว่าลักษณะของคุณ
ไม่ได้เป็นความพิการทางวิวัฒนาการอะไรมาก -
5:37 - 5:39อย่างยุงที่บินไม่ได้
-
5:39 - 5:42การขับเคลื่อนยีนโดย CRISPR
จะส่งต่อการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่หยุด -
5:42 - 5:45จนกว่ามันจะไปอยู่ในทุก ๆ คน
ในหมู่ประชากร -
5:47 - 5:50ทีนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้การขับเคลื่อนยีน
ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขนาดนั้น -
5:50 - 5:52แต่เจมส์และเอสเวลท์คิดว่าพวกเขาทำได้
-
5:53 - 5:57ข่าวดีก็คือ มันเปิดประตูให้กับสิ่งที่น่าทึ่ง
-
5:57 - 5:59ถ้าหากคุณเอาการขับเคลื่อนยีน
ที่ต้านมาลาเรีย -
5:59 - 6:01เข้าไปยังแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของยุงก้นปล่อง
-
6:01 - 6:03ซึ่งเป็นพาหะของมาลาเรีย
-
6:03 - 6:08นักวิจัยคาดว่ามันจะแพร่กระจายออกไป
ทั่วทั้งหมู่ประชากรในหนึ่งปี -
6:08 - 6:11ฉะนั้น ในเพียงหนึ่งปี
คุณจะได้เห็นการกวาดล้างมาลาเรียจริง ๆ -
6:11 - 6:15ในทางปฏิบัติ เรายังต้องการอีกสองสามปี
เพื่อที่จะทำอย่างนั้นได้จริง ๆ -
6:15 - 6:18แต่ถึงกระนั้น เด็ก 1,000 คน
ต้องเสียชีวิตด้วยมาลาเรียทุกวัน -
6:18 - 6:20ในเวลาหนึ่งปี จำนวนนั้นคงเกือบจะเป็นศูนย์
-
6:21 - 6:24เช่นเดียวกันกับไข้เลือดออก
ชิกุนคุนยา และไข้เหลือง -
6:25 - 6:27และมันยังมีดีกว่านั้น
-
6:27 - 6:30ลองคิดดูว่า คุณต้องการกำจัด
สายพันธุ์ใดก็ตามที่ลุกล้ำเข้ามา -
6:30 - 6:32เช่น ปลาเอเชียน คาร์ป (Asian carp)
ออกจากเกรธ เลค (Great Lakes) -
6:32 - 6:34คุณก็แค่ปลดปล่อยการขับเคลื่อนยีน
-
6:34 - 6:37ที่จำให้ปลาผลิตแต่ลูกหลานตัวผู้
-
6:37 - 6:42ในไม่กี่รุ่น มันจะไม่มีตัวเมียหลงเหลืออยู่
และไม่มีปลาคาร์ปอีก -
6:42 - 6:45ในทางทฤษฎี นั่นหมายความว่าเราสามารถ
เอาสายพันธุ์ดั้งเดิมมากมาย -
6:45 - 6:46ที่กำลังถูกคุกคามกลับมาได้
-
6:47 - 6:51เอาล่ะ นั่นเป็นข่าวดี
-
6:51 - 6:52ทีนี้ข่าวร้ายบ้าง
-
6:53 - 6:55การขับเคลื่อนยีนมีประสิทธิภาพมาก
-
6:55 - 6:59มากเสียจนการปลดปล่อยออกไปโดยบังเอิญ
สามารถเปลี่ยนสายพันธุ์ทั้งหมดได้ -
6:59 - 7:00และมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
-
7:01 - 7:03แอนโธนี เจมส์ ก็ระมัดระวังเป็นอย่างดี
-
7:03 - 7:05เขาผสมพันธุ์ยุงของเขา
ในห้องทดลองควบคุมทางชีวภาพ -
7:06 - 7:08และเขายังใช้สายพันธุ์
ที่ไม่ได้เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมของสหรัฐฯ -
7:08 - 7:10เพื่อที่ว่า แม้ว่ามันจะสามารถ
หลุดลอดออกไปได้ -
7:10 - 7:13มันก็จะตายไปเอง
เพราะไม่มีตัวที่มันจะไปผสมพันธุ์ด้วยได้ -
7:13 - 7:17แต่มันก็จริงที่ว่า ถ้าหากเอเชียน คาร์ปสักโหล
ที่มีการขับเคลื่อนยีนตัวผู้ -
7:17 - 7:21ถูกนำจาก เกรธ เลค กลับไปยังเอเชีย
โดยบังเอิญ -
7:21 - 7:24พวกมันมีโอกาสที่จะกำจัดประชากร
ปลาเอเชียน คาร์ป ที่นั่นได้ -
7:26 - 7:29และนั่นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เมื่อพิจารณาดูว่าโลกของเราเชื่อมต่อกัน -
7:29 - 7:31อันที่จริง นั่นเป็นเหตุผล
ว่าทำไมเราถึงมีปัญหาสิ่งมีชีวิตต่างถิ่น -
7:32 - 7:33และนั่นเป็นปลา
-
7:33 - 7:36สิ่งมีชีวิตอย่างยุงและแมลงหวี่
-
7:36 - 7:38เราไม่มีวิธีการใดที่จะควบคุมจำกัดพวกมัน
-
7:38 - 7:40พวกมันข้ามชายแดน
และมหาสมุทรตลอดเวลา -
7:42 - 7:44เอาล่ะ ข่าวร้ายอีกอย่าง
-
7:44 - 7:46ก็คือการขับเคลื่อนยีน
อาจไม่ได้ถูกจำกัด -
7:46 - 7:48อยู่กับสิ่งที่เราเรียกว่า สายพันธุ์เป้าหมาย
เสมอไป -
7:49 - 7:50นั่นเป็นเพราะว่า การไหลของยีน
(gene flow) -
7:50 - 7:53ซึ่งคือคำพูดหรู ๆ ของคำพูดที่ว่า
สายพันธุ์ข้างเคียง -
7:53 - 7:54บางทีก็ผสมพันธุ์กันได้
-
7:54 - 7:57ถ้าหากมันเกิดขึ้น มันเป็นไปได้ว่า
การขับเคลื่อนยีนจะสามารถข้ามไปได้ -
7:57 - 8:00เช่น ปลาเอเชียน คาร์ป
สามารถส่งต่อยีนไปยังปลาคาร์ปอื่นได้ -
8:00 - 8:03นั่นมันไม่ได้แย่อะไร ถ้าการขับเคลื่อนนั้น
เป็นการส่งเสริมลักษณะ เช่นสีตา -
8:03 - 8:06อันที่จริง มันมีโอกาส
ที่เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง -
8:06 - 8:08ในฝูงแมลงหวี่ประหลาดในอนาคตอันใกล้
-
8:09 - 8:11แต่มันอาจเป็นหายนะได้
-
8:11 - 8:14ถ้าการขับเคลื่อนนั้นถูกออกแบบมา
เพื่อกำจัดสายพันธุ์นั้นโดยสิ้นเชิง -
8:14 - 8:18สิ่งสุดท้ายที่น่าเป็นห่วง
คือเทคโนโลยีที่จะทำสิ่งนี้ -
8:18 - 8:22เพื่อพันธุวิศวกรรมสิ่งมีชีวิต
และรวมการขับเคลื่อนยีนเข้าไป -
8:22 - 8:25เป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกห้องทดลอง
สามารถทำได้ -
8:25 - 8:26นักเรียนปริญญาตรีก็ยังทำได้
-
8:27 - 8:30นักวิจัยผู้มีพรสวรรค์ที่มีเครื่องมือนี้ก็ทำได้
-
8:33 - 8:35ตอนนี้ ฉันเดาว่ามันน่ากลัวไม่น้อยทีเดียว
-
8:35 - 8:38(เสียงหัวเราะ)
-
8:38 - 8:40น่าสนใจนะคะ ที่นักวิทยาศาสตร์เกือบทุกคน
-
8:40 - 8:44เหมือนจะคิดว่าการขับเคลื่อนยีน
ไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายจริง ๆ หรอก -
8:44 - 8:47ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า พวกเขาเชื่อว่า
-
8:47 - 8:49นักวิทยาศาสตร์จะระมัดระวัง
และรับผิดชอบต่อการใช้สิ่งนี้ -
8:49 - 8:50(เสียงหัวเราะ)
-
8:50 - 8:52ถึงตอนนี้ มันเป็นความจริง
-
8:52 - 8:55แต่การขับเคลื่อนยีนยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง
-
8:55 - 8:58อย่างหนึ่งก็คือ พวกมันทำงานได้
ในสิ่งมีชีวิตที่สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเท่านั้น -
8:59 - 9:02ฉะนั้น ขอบคุณพระเจ้า พวกมันไม่อาจใช้ได้
กับการดัดแปลงไวรัสหรือแบคทีเรีย -
9:02 - 9:05อีกอย่างหนึ่ง ลักษณะถูกส่งต่อออกไป
ให้แค่รุ่นต่อไปเท่านั้น -
9:05 - 9:07ฉะนั้น การเปลี่ยนหรือการกำจัดประชากร
-
9:07 - 9:11จะเป็นไปได้จริง ๆ ก็ต่อเมื่อ
สิ่งมีชีวิตนั้น มีวัฎจักรการสืบพันธุ์ที่เร็ว -
9:11 - 9:14เช่นแมลง หรือสัตว์มีกระดูกสันหลัง
อย่างหนู หรือปลา -
9:14 - 9:17ในช้างหรือคน
มันอาจต้องใช้เวลาหลายศตวรรษ -
9:17 - 9:19เพื่อที่ลักษณะจะแพร่ออกไปกว้างพอ
ที่จะทำให้เกิดผลกระทบได้ -
9:20 - 9:25นอกจากนั้น แม้จะมี CRISPR มันก็ไม่ง่าย
ที่จะวิศวกรรมลักษณะที่ทำลายล้าง -
9:26 - 9:28เช่นคุณต้องการสร้างแมลงหวี่
-
9:28 - 9:30ที่กินผลไม้ปกติ แทนที่จะกินผลไม้เน่า
-
9:30 - 9:33โดยมีจุดประสงค์
ที่จะทำลายการเกษตรของอเมริกา -
9:33 - 9:35อย่างแรก คุณจะต้องรู้ว่า
-
9:35 - 9:37ยีนไหนที่ควบคุมสิ่งที่แมลงวันอย่างจะกิน
-
9:37 - 9:40ซึ่งมันก็เป็นโครงการ
ที่ซับซ้อนยาวนานอยู่แล้ว -
9:40 - 9:44แล้วคุณยังต้องเปลี่ยนยีนเหล่านั้น
เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของแมลงวัน -
9:44 - 9:45ให้เป็นไปในแบบที่คุณต้องการ
-
9:45 - 9:48ซึ่งเป็นโครงการที่ซับซ้อน
และยาวนานกว่าเดิมอีก -
9:48 - 9:50และมันอาจจะ
ไม่ประสบความสำเร็จก็ได้ -
9:50 - 9:52เพราะว่ายีนที่ควบคุมพฤติกรรมมีความซับซ้อน
-
9:52 - 9:54ฉะนั้น ถ้าคุณเป็นผู้ก่อการร้าย
และจะต้องเลือก -
9:54 - 9:56ระหว่างเริ่มโครงการวิจัยพื้นฐาน
ที่ต้องเข็นครกขึ้นภูเขา -
9:56 - 10:00ที่จะต้องใช้เวลาหลายปีหมกมุ่น
ในห้องทดลองและยังอาจไม่ได้ผลอะไร -
10:00 - 10:01หรือจะระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันซะ
ให้รู้แล้วรู้รอด -
10:01 - 10:03คุณก็คงจะเลือกอย่างที่สอง
-
10:03 - 10:06มันเป็นเรื่องจริง
เพราะว่าอย่างน้อยในทางทฤษฎี -
10:06 - 10:09มันควรที่จะค่อนข้างง่ายที่จะสร้าง
สิ่งที่แรกว่า การขับเคลื่อนย้อนกลับ -
10:09 - 10:13นั่นเป็นสิ่งที่จะเขียนทับการเปลี่ยนแปลง
ที่ทำให้เกิดขึ้นโดยการขับเคลื่อนยีนแรก -
10:13 - 10:15ถ้าหากคุณไม่ชอบผลของการเปลี่ยนแปลง
-
10:15 - 10:18คุณสามารถปลดปล่อยการขับเคลื่อนที่สอง
ที่จะหักล้างมันออกได้ -
10:18 - 10:19อย่างน้อยก็ตามทฤษฎี
-
10:21 - 10:23ฉะนั้น มันให้อะไรกับเราบ้าง
-
10:25 - 10:28ตอนนี้เรามีความสามารถ
ในการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ตามที่ต้องการ -
10:29 - 10:30เราควรทำหรือเปล่า
-
10:31 - 10:32เราเป็นพระเจ้าแล้วหรือยัง
-
10:34 - 10:35ฉันคิดว่าฉันคงจะไม่พูดว่าอย่างนั้น
-
10:36 - 10:37แต่ฉันบอกได้ว่า
-
10:38 - 10:40ประการแรก คนฉลาด ๆ บางคน
-
10:40 - 10:43ตอนนี้คงจะถกเถียงกัน
ว่าจะควบคุมการขับเคลื่อนยีนอย่างไร -
10:44 - 10:46ในเวลาเดียวกัน
คนฉลาด ๆ อีกพวกหนึ่ง -
10:46 - 10:48กำลังทำงานอย่างหนัก
เพื่อสร้างแผนคุ้มกัน -
10:48 - 10:52เช่นการขับเคลื่อนยีนที่ควบคุมตัวเอง
หรือค่อย ๆ หายไปหลังจากสองสามรุ่น -
10:53 - 10:54นั่นมันยอดมาก
-
10:54 - 10:57แต่เทคโนโลยีนี้ ยังต้องการการอภิปราย
-
10:58 - 11:00และด้วยธรรมชาติของการขับเคลื่อนยีนนี้
-
11:00 - 11:02การอภิปรายดังกล่าวต้องอยู่ในระดับสากล
-
11:02 - 11:05ถ้าหากเคนยาต้องการที่จะใช้มัน
แต่แทนซาเนียไม่ต้องการ -
11:05 - 11:09ใครกันที่จะตัดสินใจว่าจะใช้มันหรือเปล่า
-
11:11 - 11:13ฉันไม่มีคำตอบให้สำหรับคำถามนี้
-
11:14 - 11:16ฉันคิดว่า สิ่งที่เราทำได้
-
11:16 - 11:18ก็คือการพูดอย่างซื่อสัตย์
เกี่ยวกับความเสี่ยงและผลประโยชน์ -
11:19 - 11:21และรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราเลือก
-
11:22 - 11:26ฉันหมายความว่า ไม่ใช่แค่ต่อการเลือก
การใช้การขับเคลื่อนยีน -
11:26 - 11:28แต่ยังเป็นการเลือกที่จะไม่ใช้มันด้วย
-
11:29 - 11:32มนุษย์มีแนวโน้มที่จะคิดว่า
ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด -
11:32 - 11:34เป็นการคงไว้ซึ่งสถานะที่เป็นอยู่เดิม
-
11:35 - 11:36แต่นั่นก็ไม่ใช่สำหรับทุกกรณี
-
11:38 - 11:41การขับเคลื่อนยีนมีความเสี่ยง
และเราก็ต้องมาอภิปรายกัน -
11:41 - 11:44แต่มาลาเรียที่มีอยู่ในตอนนี้
กำลังฆ่า 1,000 ชีวิต ทุกวัน -
11:45 - 11:49เพื่อที่จะจัดการกับมัน เราฉีดยาฆ่าแมลง
ที่สร้างความเสียหายมากมายต่อสายพันธุ์อื่น -
11:49 - 11:50รวมถึงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและนก
-
11:52 - 11:55ฉะนั้น เมื่อคุณได้ยินคำว่าการขับเคลื่อนยีน
ต่อไปในอนาคต -
11:55 - 11:57และเชื่อฉันเถอะค่ะ
คุณต้องได้ยินเรื่องนี้แน่ ๆ -
11:57 - 11:58จำสิ่งนี้เอาไว้
-
11:58 - 12:00มันอาจน่ากลัวที่เราจะลงมือกระทำอะไร
-
12:00 - 12:03แต่บางครั้ง การไม่ทำอะไรเลย
ก็น่ากลัวเสียยิ่งกว่า -
12:05 - 12:13(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ตอนนี้การตัดแปลงยีนสามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตได้ทั้งสายพันธุ์ -- ไปตลอดกาล
- Speaker:
- เจนนิเฟอร์ คาห์น (Jennifer Kahn)
- Description:
-
การขับเคลื่อนยีน CRISPR ทำให้นักวิทยาศาสตร์เปลี่ยนลำดับ DNA และเป็นการยืนยันว่าผลของลักษณะทางพันธุ์กรรมที่ถูกดัดแปลงจะถูกส่งต่อไปในสิ่งมีชีวิตรุ่นต่อไปในอนาคต เป็นการเปิดโอกาสการเปลี่ยนแปลงสิ่งมีชีวิตทั้งสายพันธุ์ไปตลอดกลาง ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เทคโนโลยีนี้ได้นำมาซึ่งคำถามที่ว่า อำนาจใหม่นี้จะมีผลต่อมนุษยชาติอย่างไร เราจะใช้มันเพื่อการเปลี่ยนแปลงอะไร แล้วตอนนี้เราเป็นพระเจ้าแล้วหรือยัง เจนนิเฟอร์ คาห์น ชวนให้คุณร่วมครุ่นคิดกับคำถามเหล่านี้ และบอกถึงการใช้ที่ทรงพลังอย่างมีประสิทธิภาพของการขับเคลือนยีน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนายุงต้านโรคที่จะสามารถปราบมาลาเรียและซิก้าได้อย่างอยู่หมัด
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 12:25
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever | |
![]() |
Rawee Ma accepted Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever | |
![]() |
Rawee Ma declined Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever | |
![]() |
Rawee Ma edited Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Gene editing can now change an entire species -- forever |