-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
ช่วงนี้หนัง ละคร ซีรีส์อะไรต่างๆเยอะเต็มไปหมดเลยใช่มั้ยคะ
-
หนึ่งในนั้นมีเรื่องหนึ่งที่วิวสนใจมากๆเลย
-
ก็คือเรื่อง ปลายจวัก ของ ThaiPBS นั่นเองค่ะ
-
พูดถึงคำว่าปลายจวัก เนื้อเรื่องตรงตัวเลยนะคะ
-
ก็คือเรื่องเกี่ยวกับอาหารนั่นเองค่ะ และที่สำคัญ
-
มันเป็นละครย้อนยุคด้วยนะคะ
-
ดังนั้นตรงจริตวิวมากๆ นอกจากนี้นะ
-
บอกเลยว่าวิธีนำเสนอของเขาเนี่ยเก๋สุดๆเลยค่ะ
-
คือเขาไม่ได้มาเป็นละครแบบสอนทำอาหารอะไรต่างๆนะคะ
-
แต่เขาทำเป็นเรื่องราวการต่อสู้ทางอาหารค่ะ
-
ระหว่างอาหารรวกลมกล่อม รสจืด รสหวาน กับ
-
อาหารรสจัดจ้าน รสเผ็ดนะคะ นอกจากนี้เนี่ย
-
เนื้อหาในเรื่องยังไปเกี่ยวกับสังคม การเมือง ประวัติศาสตร์
-
สมัยรัชกาลที่ 5 อีกค่ะ น่ะ เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ผ่านอาหาร
-
เก๋มาก ไม่เหมือนละครเรื่องอื่นๆที่เล่ากันแบบโต้งๆเลยใช่มั้ยคะ
-
ดังนั้นค่ะ แน่นอนว่าวิวติดเรียบร้อยแล้ว
-
เม้ามาขนาดนี้นะคะ เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้แล้วแหละว่า
-
ทำไมวิวถึงไม่ค่อยได้ทำงานทำการ
-
ก็คือติดหนัง ติดละคร ติดซีรีส์นั่นแหละ อย่างไรก็ตามนะคะ
-
เพื่อให้เรื่องบันเทิงเป็นเรื่องที่มีประโยชน์เนี่ย
-
วิวก็เลยเอาความบันเทิงของตัวเองมาทำงานแล้วกันค่ะ
-
วิวก็เลยตัดสินใจว่าจะเอาเนื้อหาจาก ปลายจวัก มาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ
-
ซึ่งพูดถึงละครย้อนยุค ไม่ใช่แค่ ปลายจวัก หรอก เรียกได้ว่าทุกเรื่องเลย
-
ก็จะมีอยู่เรื่องหนึ่งค่ะที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ
-
แล้วคนก็อาจงงกันได้
-
นั่นก็คือเรื่องบรรดาศักดิ์นั่นเองค่ะ เพราะว่าในแต่ละเรื่องเนี่ยนะคะ
-
ตัวละครก็มีตำแหน่งเป็นพระยา เป็นพระ
-
เป็นขุน เป็นหลวง เดี๋ยวก็มีชื่อพระนาย
-
มีชื่อเจ้าขุน มีอะไรต่างๆขึ้นมานะคะ
-
ซึ่งชวนให้งงมากๆค่ะว่าในบรรดาศักดิ์เหล่านี้ ใครใหญ่กว่าใคร
-
ใครเล็กกว่าใคร ใครตำแหน่งสูงต่ำขนาดไหนนะคะ
-
ดังนั้นวิวรวบรวมมาให้ทุกคนฟังแล้วค่ะ
-
จะได้ไม่มีปัญหาเวลาดูละครย้อนยุคต่อๆไปนะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ก่อนจะไปฟังเรื่องนี้
-
อย่าลืมกดติดตามวิวทุกช่องทางนะคะ จะได้ไม่พลาดคลิปวิดีโอสนุกๆ
-
และก็ข่าวสารดีๆจากช่อง Point of View ค่ะ สำหรับตอนนี้
-
พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุกและก็มีสาระกันหรือยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
พูดถึงพระ พระยา อะไรต่างๆเนี่ยนะคะ
-
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับขุนนางนั่นเองค่ะ
-
ถามว่าขุนางคือใคร ขุนนางคือคนที่มีโอกาสได้เข้ารับราชการนะคะ
-
หรือถ้าในสมบูรณายาสิทธิราชย์
-
ก็คือคนที่มีโอกาสได้เข้าไปเป็นข้ารับใช้ของ
-
พระมหากษัตริย์นั่นเองค่ะ ทีนี้เวลาเราพูดถึงขุนนางกันเนี่ยนะคะ
-
ก็จะต้องมีทั้งหมด 4 เรื่องที่เราจำเป็นจะต้องรู้ค่ะ
-
เรื่องแรกก็คือยศหรือบรรดาศักดิ์นั่นเองค่ะ
-
ยศหรือบรรดาศักดิ์ ก็จะเป็นตัวที่คอยบอกนะคะว่า
-
ขุนนางของเราอยู่ในระดับที่สูงต่ำขนาดไหนอะไรยังไงนะคะ
-
ส่วนเรื่องที่สองที่จะต้องรู้
-
ก็คือตำแหน่งนะคะ นอกจากจะมียศแล้ว
-
เหมือนนายพัน พลเอก อะไรต่างๆแล้ว ตำแหน่งคือส่วนที่บอกค่ะว่า
-
ตำแหน่งของขุนนางคนนี้ดูแลกรมไหน
-
กองไหน สังกัดอะไรนะคะ อารมณ์เหมือนทหารปัจจุบันเนี่ย
-
ถ้าเป็นยศหรือบรรดาศักดิ์ ก็คือ
-
ตำแหน่งพันเอก พลเอก ร้อยตำรวจโท อะไรอย่างนี้ใช่ไหมคะ
-
ส่วนตำแหน่งเนี่ยก็คือบอกว่าสังกัดทหารอากาศ
-
สังกัดกองทัพบก สังกัดอะไอย่างนี้นะคะ
-
สมัยก่อนก็จะเป็นกรมต่างๆ เช่นเป็นจางวาง
-
เป็นเจ้ากรม เป็นสังกัดกองนั้นกองนี้ อะไรอย่างนี้นะคะ
-
ส่วนข้อที่สามที่ต้องรู้นะคะก็คือ
-
ราชทินนาม นั่นเองค่ะ ราชทินนามนี่เหมือนกับเป็นชื่อพระราชทาน
-
เป็นชื่อที่เหมือนจะเป็นชื่อในราชการ
-
ส่วนมากนิยมตั้งเป็นภาษามคธหรือว่าภาษาสันสกฤตค่ะ
-
ก็จะเป็นชื่อยาวๆที่เราจำยากๆกันนั้นแหละ
-
และที่สำคัญนะคะ ส่วนมากเขานิยมตั้งกันให้เข้ากับ
-
ตำแหน่งที่ตัวเองมีหน้าที่ดูแลด้วยค่ะ
-
ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการตัดสินคดีความเนี่ยนะคะ
-
เมื่อเรานึกย้อนไปถึงในวรรณคดีสันสกฤตต่างๆ
-
ใครกันนะที่เป็นคนมีหน้าที่ตัดสินคดีความ
-
อ๋อ คนที่ยุติธรรมที่สุด คนที่ยุติธรรมที่สุดคือพระยม
-
พระยม พระยม พระยม
-
ดังนั้นคนที่มีหน้าที่ตัดสินคดีความก็เลยได้ชื่อ
-
ราชทินนามว่า ยมราช นั่นเองค่ะ
-
ก็จะเป็นพระยายมราช ประมาณนั้นนะคะ
-
ส่วนข้อที่สี่ที่ต้องรู้ค่ะก็คือศักดินานะคะ
-
ศักดินานี่อธิบายให้เข้าใจค่อนข้างยาก
-
แต่เอาเป็นว่า มันจะเป็นตัวเลขที่เอาไว้กำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบ
-
ความสำคัญของคนคนหนึ่งค่ะ
-
เวลาที่บอกศักดินาเนี่ย เขาจะบอกเป็นไร่ค่ะ
-
เช่น นา 1,000 ไร่ ศักดินา 200 ไร่ อย่างนี้นะคะ
-
อย่างไรก็ตามมันเหมือนจะเป็นสัญญลักษณ์มากกว่าที่จะเป็นที่นาจริงๆที่ได้
-
นี่ก็เป็น 4 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับขุนนางค่ะ
-
ที่นี้พูดแบบนี้อาจงง ดังนั้นเราลองมายกตัวอย่างขุนนางสักคนหนึ่งขึ้นมาดีกว่า
-
สำหรับวิว ให้นึกถึงคนที่คุ้นที่สุดก็น่าจะเป็น
-
พระยาอุปกิตศิลปสาร นะคะ
-
พระยาอุปกิตศิลปสารนี้คือคนที่แต่งตำราหลักภาษาไทยนะคะ คนนั้นเลย
-
เรามาดูที่ชื่อของท่านดีกว่าค่ะ
-
พระยาอุปกิตศิลปสาร ชื่อนี้บอกอะไรเราบ้างนะคะ
-
อย่างแรกเลยคือบอกบรรดาศักดิ์ค่ะว่าท่านเป็นระดับพระยานะคะ
-
ไม่ใช่ขุน ไม่ใช่พระ ไม่ใช่หลวง ไม่ใช่อะไรนะคะ
-
และสิ่งที่บอกสิ่งที่สองก็คือ อุปกิตศิลปสาร นั่นเอง
-
อุปกิตศิลปสาร ศิลปะ
-
สาร ก็คือสิ่งที่ส่งออกไป อ๋อ ต้องเกี่ยวข้องกับตัวหนังสืออะไรต่างๆ
-
ศิลปะการใช้คำ อะไรอย่างนี้ใช่ไหม
-
ดังนั้นค่ะ จากชื่อเรารู้สองอย่างแล้ว
-
อย่างแรกคือบรรดาศักดิ์ อย่างที่สองคือราชทินนาม
-
อีกสองอย่างที่ไม่ได้บอกในชื่อนะคะ ก็คือตำแหน่ง
-
กับศักดินานั่นเอง กรณีของพระยาอุปกิตศิลปสาร
-
ในตอนนั้นท่านเป็นหัวหน้ากองแบบเรียน กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการค่ะ
-
อันนี้ก็คือตำแหน่งของท่านนะคะ ส่วนศักดินาเนี่ย
-
ท่านถือศักดินา 1,000 ค่ะ
-
เป็นไง ตอนนี้เราก็พอจะรู้เรื่องคร่าวๆแล้วนะคะ
-
ดังนั้นวิวจะขอจบการเกริ่นแต่เพียงเท่านี้
-
แล้วเข้าไปสู่เรื่องของพระ พระยา หลวง ขุน อะไรต่างๆที่เราพูดถึงกันดีกว่า
-
เพราะว่าเรื่องพวกนี้
-
คือเรื่องของบรรดาศักดิ์ค่ะ
-
พูดถึงบรรดาศักดิ์ของข้าราชการพลเรือนไทยเนี่ยนะคะ
-
บอกเลยว่าแต่ละยุคแต่ละสมัยเนี่ยอาจมีต่างกันเล็กๆน้อยๆ
-
เพราะว่าในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์เราให้สิทธิ์เต็มที่
-
กับพระมหากษัตริย์ใช่ไหม พระองค์ก็อาจทรงปรับนู่นปรับนี่ในสมัยของพระองค์
-
ซึ่งเรื่องของบรรดาศักดิ์จริงๆมันใช้มาตั้งแต่สมัยอยุธยา
-
กว่าจะยกเลิกก็ประมาณรัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 8 ประมาณนั้นค่ะ
-
ดังนั้นแต่ละยุคแต่ละสมัยก็อาจมีส่วนที่แตกต่างกันบ้างนะคะ
-
วันนี้วิวก็จะมาพูดคร่าวๆให้ทุกคนฟังค่ะว่า
-
บรรดาศักดิ์แต่ละบรรดาศักดิ์เนี่ยแตกต่างกันยังไง
-
ใครสูงใครต่ำยังไงนะคะ
-
เอาแบบง่ายๆก่อนเลย เรามาเรียงให้ฟังก่อนนะคะ
-
ไล่ตั้งแต่บรรดาศักดิ์ที่สูงที่สุดไปจนถึงบรรดาศักดิ์ที่ต่ำที่สุดนะคะ
-
ก็จะเรียงแบบนี้ค่ะ
-
สมเด็จเจ้าพระยา เจ้าพระยา พระยา
-
พระ หลวง จมื่น ขุน หมื่น พัน
-
และสุดท้ายก็คือ นาย นั่นเองค่ะ
-
เรียงแบบนี้หลายๆคนอาจจำไม่ได้
-
ดังนั้นเรามาเริ่มไล่ที่ละตำแหน่งกันดีกว่านะคะ
-
เริ่มจากตำแหน่งแรกค่ะ ตำแหน่งสมเด็จเจ้าพระยานะคะ
-
ชื่อยาวมาก มีคำว่าสมเด็จอยู่ด้านหน้าด้วย
-
เหมือนๆกึ่งๆจะเป็นเจ้าแล้ว ว่าอย่างนั้นเถอะ
-
ตำแหน่งนี้นะคะเป็นบรรดาศักดิ์ที่สูงที่สุดค่ะ
-
เกิดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยนะคะ ซึ่งในสมัยสุโขทัยกับรัตนโกสินทร์เนี่ย
-
มันอาจแค่ชื่อตำแหน่งเดียวกัน แต่ตำแหน่งจริงอาจไม่ตรงกันนะ
-
สมัยสุโขทัยปรากฎชื่อตำแหน่งนี้ครั้งแรกอยู่ใน
-
จารึกเจดีย์น้อย วัดมหาธาตุ ก็คือจารึกหลักที่ 40 นั่นเองนะคะ
-
ใช่ค่ะ ศิลาจารึกมีมากกว่า 1 หลักนะ
-
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราเรียกจารึกพ่อขุนรามคำแหงว่า
-
ศิลาจารึกหลักที่ 1 นะจ๊ะทุกคน
-
ส่วนในสมัยอยุธยานะคะ ตำแหน่งนี้หายไปเพราะว่า
-
ตำแหน่งนี้ไม่ปรากฎอยู่ในทำเนียบศักดินา สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
-
อย่างไรก็ดี ตำแหน่งนี้กลับมาปรากฎอีกครั้งหนึ่ง
-
ในสมัยกรุงธนบุรีนะคะ
-
ก็คือตำแหน่งของสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก รัชกาลที่ 1 ของเรานั่นเองค่ะ
-
ส่วนในสมัยรัตนโกสินทร์นะคะ คนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ก็คือ
-
สมเด็จเจ้าพระยายรมมหาประยูรวงศ์นะคะ
-
หรือว่าดิศ บุนนาค คนที่เกี่ยวข้องกับวัดประยูร
-
ที่วิวเคยเล่าไปในคลิปก่อนๆนู้นนะคะ สามารถกดไปดูได้ตรงนี้นะจ๊ะ
-
เพราะว่าท่านคือผู้สำเร็จราชการแทนของรัชกาลที่ 4 นะคะ
-
ส่วนคนถัดมาเนี่ยก็ดังมาก หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับชื่อ
-
ก็คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์
-
หรือว่า ช่วง บุนนาค
-
คนที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนของรัชกาลที่ 5 นั่นเองค่ะ
-
บรรดาศักดิ์นี้ถือว่าเป็นบรรดาศักดิ์ขั้นสูงสุดเลยนะคะ
-
เรียกได้ว่าเท่ากับตำแหน่งเจ้าพระยามหาอุปราชในกฎหมายพระอัยการ
-
ตำแหน่งนาพลเรือนนะคะ
-
ซึ่งสมัยรัตนโกสินทร์มรปรากฎทั้งหมดแค่ 3 องค์ด้วยกันค่ะ
-
ที่เรียกเป็นองค์เพราะว่าจริงๆถ้านับตำแหน่งเนี่ย
-
ใหญ่เท่าพระองค์เจ้าต่างกรมเลยทีเดียวนะคะ
-
เรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่มากๆสำหรับคนที่เป็นแค่ขุนนาง
-
ไม่ได้เป็นเชิ้อพระวงศ์ต่างๆ
-
เราไปที่ตำแหน่งที่สองกันดีกว่าค่ะ ตำแหน่งนั้นก็คือเจ้าพระยานะคะ
-
เจ้าพระยาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแม่น้ำนะคะ
-
แต่ว่าเป็นบรรดาศักดิ์ระดับที่รองลงมาค่ะ
-
ปรากฎตั้งแต่สมัยสุโขทัยเหมือนตำแหน่งก่อนนะคะ
-
ซึ่งตำแหน่งนี้ในสมัยอยุธยาถือว่าเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุดค่ะ
-
เพระว่าในสมัยอยุธยาไม่มีสมเด็จเจ้าพระยา
-
ยกตัวอย่างสมัยอยุธยานะคะ บรรดาศักดิ์จะมีอยู่ทั้งหมด 5 ตำแหน่งด้วยกัน
-
ตำแหน่งแรกคือเจ้าพระยามาอุปราช
-
ซึ่งจริงๆตำแหน่งนี้เหมือนปรากฎว่าไม่มีใครใช้จริง
-
นอกจากปรากฎในบันทึกของบาทหลวงในช่วงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
-
อย่างไรก็ตาม ข้ามไปที่ 4 ตำแหน่งที่เหลือค่ะ
-
4 ตำแหน่งที่เหลือนะคะ ตำแหน่งแรกก็คือเจ้าพระยาจักรีนั่นเอง
-
เป็นตำแหน่งสมุหนายกนะคะ ส่วนตำแหน่งที่สองก็คือ
-
เจ้าพระยามหาเสนาบดี จะอยู่ในตำแหน่ง
-
สมุหพระกลาโหมนะคะ
-
และตำแหน่งที่สามคือเจ้าพระยาสุรศรี
-
เป็นเจ้าเมืองพิษณุโลกค่ะ
-
ตำแหน่งที่สี่คือเจ้าพระยาศรีธรรมราช ชื่อก็บอกแล้วค่ะว่าเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช
-
ทั้งสี่ตำแหน่งถือศักดินา 10,000 ค่ะ
-
ส่วนตำแหน่งถัดไปที่รองจากเจ้าพระยาลงมาคือตำแหน่งพระยานั่นเองค่ะ
-
พระยานี่บางทีเราก็เรียกว่าออกญาหรือออกพญา
-
ส่วนมากก็จะเป็นตำแหน่งของเสนาบดีระดับจตุสดมภ์
-
อย่างคนที่ดูแลกรมเวียง กรมวัง กรมคลัง และก็กรมนานั่นเอง
-
นอกจากนี้ก็จะมีพวกเจ้ากรมใหญ่ๆ
-
เจ้าเมืองที่ครองหัวเมืองชั้นเอก โท ตรี และก็จัตวานะคะ
-
เดิมคำนี้เนี่ยในสมัยสุโขทัยใช้เรียกพระมหากษัตริย์ค่ะ
-
อย่างที่เราจะเห็นผู้ที่พระราชนิพนธ์ไตรภูมิพระร่วงนะคะ
-
ก็จะเป็นพระยาลิไท
-
ใช้คำว่าพระยา
-
แต่ว่าต่อมาในสมัยอยุธยาเนี่ยนะคะ
-
ตำแหน่งนี้ก็โดนลดลงค่ะ จากพระมหากษัตริย์ก็กลายเป็น
-
ตำแหน่งระดับเจ้าเมืองหรือว่าขุนนางชั้นสูงเท่านั้นค่ะ
-
ซึ่งตำแหน่งนี้ก็จะกินศักดินาทั้งหมด 10,000 นั่นเอง
-
คุ้นๆกันไหม คำศัพท์ที่แบบ เจ้าพระยานาหมื่น
-
มาจากอันนี้นี่แหละค่ะ
-
ตำแหน่งเจ้าพระยากับตำแหน่งพระยาก็จะมีชื่อเล่นเหมือนกันนะ
-
คือเขาจะเรียกคนที่ได้ตำแหน่งนี้ว่า เจ้าคุณ นะคะ
-
สมมุติว่าอยู่ในบ้านจะแบบ "เอ้า พระยาสีหราชเดโช
-
มากินข้าวหน่อย" อย่างนี้ก็คงไม่ work มันยาวเกินไปนะคะ
-
ก็เรียกแบบ "ท่านเจ้าคุณๆ มากินข้าวได้แล้ว"
-
แบบนี้ก็โอเคกว่านะคะ
-
ดังนั้นเวลาดูละครแล้วมีใครเรียกใครว่าท่านเจ้าคุณเนี่ย
-
ก็คือตำแหน่งพระยากับเจ้าพระยานี่แหละค่ะ
-
ตำแหน่งถัดไปนะคะก็คือตำแหน่ง พระ นั่นเองค่ะ
-
ไม่ใช่พระสงฆ์นะทุกคน มันไม่ได้เกี่ยวขนาดนั้น
-
ตำแหน่งพระนี่เป็นตำแหน่งราชการนะคะ
-
คือปกติคนไทยเราใช้คำว่าพระวางหน้าอะไรก็ตามเพื่อยกย่องใช่ไหม
-
อันนี้ก็เช่นเดียวกันเลยค่ะ
-
สมัยสุโขทัยเนี่ย คำนี้ก็เป็นอีกคำนะคะที่ใช้เป็นคำนำหน้าพระนามพระมหากษัตริย์
-
แต่อยู่ดีๆในสมัยอยุธยาก็โดนลดลงมา
-
กลายเป็นตำแหน่งขุนนางตำแหน่งหนึ่งไปนะคะ
-
ซึ่งเราจะเรียกเล่นๆว่า ออกพระ นั่นเอง
-
เวลาบอกว่า ออกพระตื้ดๆ ออกพระนั่น ออกพระนี่
-
ก็คือตำแหน่งพระนี่แหละค่ะ
-
โดยบรรดาศักดิ์พระนี่นะคะก็จะถือศักดินาทั้งหมด 1,000-5,000
-
แล้วแต่ตำแหน่งของตัวเองว่าสำคัญขนาดไหน
-
ซึ่งตำแหน่งนี่เรียกเล่นๆว่า คุณพระ
-
เวลาเราบอกว่าคุณพระนั้น คุณพระนี้ ก็คือตำแหน่งพระนั่นเอง
-
เอาล่ะ มาที่ตำแหน่งถัดไปนะคะ
-
คือตำแหน่งหลวงนั่นเองค่ะ
-
คำว่า หลวง หมายถึงเกี่ยวกับผู้เป็นใหญ่นะคะ
-
ซึ่งก็หมายถึงพระเจ้าแผ่นดินนั่นเองค่ะ
-
ในสมัยอยุธยาเรานิยมเรียกพระเจ้าแผ่นดินว่า ขุนหลวง
-
อย่างไรก็ตาม คำว่าหลวงในที่นี้ที่เราจะพูดถึงก็คือตำแหน่งราชการ
-
ที่ใหญ่รองลงมาค่ะ
-
ตำแหน่งหลวงหรือว่าออกหลวงก็จะมีศักดินาตั้งแต่ 800-3,000 ค่ะ
-
ซึ่งถามว่าชื่อเรียกตำแหน่งเล่นๆตำแหน่งนี้คืออะไร
-
ก็คือชื่อ คุณหลวง นั่นเองค่ะ
-
คุณหลวงของแม่มณี พระเอกทวิภพ นี่ก็บรรดาศักดิ์นี้เช่นกันค่ะ
-
ถัดไปอย่างรวดเร็วนะคะ
-
รองจากหลวงลงมาคืออะไรคะ
-
คือ จมื่น นั่นเอง
-
ซึ่งบรรดาศักดิ์นี้ถือว่าเป็นบรรดาศักดิ์พิเศษนะคะ
-
เพราะว่าเป็นบรรดาศักดิ์ของ หัวหมื่นนายเวรมหาดเล็ก นั่นเอง
-
เรียกเล่นๆอีกอย่างว่าพระนาย
-
น่ะ มีพระเอกหลายเรื่องที่เราจะเรียกเขาว่าพระนายใช่ไหม
-
ก็ตำแหน่งมหาดเล็กก็เหมาะจะเป็นพระเอกใช่ไหมล่ะ
-
มันเท่อ่ะทุกคน เข้าใจไหม
-
ปกติบรรดาศักดิ์นี้นะคะ จะมีคนทั้งหมด 4 คนเท่านั้นค่ะ
-
4 ตำแหน่งได้แก่จมื่นสรรเพชรภักดี จมื่นศรีเสารัก
-
จมื่นไวยวรนาถ แล้วก็จมื่นเสมอใจราชนั่นเองค่ะ
-
ชื่อคุ้นๆไหม จมื่นไวยวรนาถ
-
ใช่ค่ะ คือตำแหน่งของพลายงามจากเรื่องขุนช้างขุนแผน
-
เห็นได้ชัดว่าสมัยเริ่มรับราชการใหม่ๆเนี่ยจมื่นไวยวรนาถ
-
ตำแหน่งสูงกว่าขุนแผนที่เป็นพ่อตัวเองนะคะ
-
อย่างไรก็ตามเดี๋ยวเราจะไปพูดถึงขุนกันทีหลังค่ะ
-
ตำแหน่งจมื่นเนี่ยนะคะ ถือศักดินา 1,000 ค่ะ
-
ฟังดูแปลกๆไหม ทำไมสูงกว่าตำแหน่งที่แล้วล่ะ
-
เพราะว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งพิเศษนะคะ
-
จะเป็นคนที่เป็นลูกหลานคนใกล้ชิดมากๆ
-
แล้วก็ทำงานใกล้ชิดมากๆกับพระมหากษัตริย์ค่ะ
-
เพราะว่าต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ไง ก็มหาดเล็กคือ bodyguard ส่วนตัวว่างั้นเถอะ
-
แล้วมีแค่ 4 คนเท่านั้นนะคะ
-
เรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งเด็กฝึกงานก่อนที่จะไปเป็นตำแหน่งสำคัญมากๆในอนาคตต่อไปค่ะ
-
โอ้โห เห็นขนาดนี้เข้าใจเลยใช่ไหมคะ
-
ว่าทำไมพระเอกเรื่องต่างๆชอบเป็นจมื่นกัน ก็มันเท่อ้ะทุกคน เข้าใจไหม
-
และในที่สุดนะคะ ต่อมาก็ถึงตำแหน่งพ่อของจมื่นไวยวรนาถ
-
หรือตำแหน่ง ขุน นั่นเองนะคะ
-
ขุนแผนขุนช้างที่เราคุ้นเคยกัน
-
-
ตำแหน่งขุนนี้คือตำแหน่งของขุนนางยศต่ำนั่นเอง
-
ซึ่งคำว่าต่ำในที่นี้วิวไม่ได้คิดเองนะคะ
-
เป็นคำอธิบายประธานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
-
วิวไม่ได้เหยียดใครว่าต่ำนะ โอเคป้ะ
-
หรือบางทีเราก็เรียกตำแหน่งนี้ว่า ออกขุน นะคะ
-
ซึ่งออกขุนมีศักดินาทั้งหมด 300-1,000
-
แล้วแต่ว่าตำแหน่งสำคัญขนาดไหนนะ
-
ส่วนมากเราจะเรียกคนที่เป็นระดับขุนแบบลำลองว่า ท่านขุน ค่ะ
-
ปกติพระอย่างนี้เรียกคุณพระใช่ไหม ขุนคงไม่เรียกคุณขุนอ่ะ
-
มันน่ารักเกินไปนะคะ ก็จะเรียกเป็นท่านขุน ประมาณนั้นค่ะ
-
ถัดไปที่ตำแหน่งรองจากขุนลงมานะคะ
-
ก็คือตำแหน่ง หมื่น นั่นเองค่ะ
-
ตำแหน่งหมื่นนี้ก็เป็นตำแหน่งรองลงมาแหละ
-
ศักดินาตั้งแต่ 200-500 นะคะ
-
คนที่ดังๆก็ได้แก่ หมื่นหาญค่ะ
-
หมื่นหาญนี่ก็คือพ่อของนางบัวคลี่
-
นางบัวคลี่นี่คือเมียของขุนแผน ก็คือแม่ของกุมารทอง คนนั้นนั้่นแหละค่ะ
-
อธิบายยาวมากกว่าจะเข้าใจว่าเป็นคนไหนนะ
-
ซึ่งเราสามารถเรียกชื่อตำแหน่งนี้ขำๆว่า ท่านหมื่น นั่นเอง
-
ใครที่เป็นแฟนคลับเรื่อง สายโลหิต น่าจะเคยได้ยินท่านหมื่นๆ
-
หมื่นทิพย์ที่เป็นตัวร้ายของเรื่องสายโลหิตนั่นเองค่ะ
-
ส่วนตำแหน่งรองจากหมื่นลงมานะคะ ก็คือตำแหน่ง พัน
-
ตำแหน่งพันนี่คือตำแหน่งหัวหน้านายเวรนะคะ
-
ถือศักดินาตั้งแต่ 100-600 ค่ะ
-
คนดังๆก็พันศรโยธา พ่อของนางพิมพิลาไลย หรือว่านางวันทองนั่นเองนะคะ
-
และตำแหน่งล่างสุดของขุนนางไทยก็คือ
-
ตำแหน่ง นาย นั่นเองค่ะ
-
ก็เช่นตำแหน่งนายม้าต้น อะไรอย่างนี้นะคะ
-
ถือศักดินาทั้งหมด 200-600 นั่นเองค่ะ
-
เป็นไงบ้างคะ ฟังตำแหน่งราชการไทยกันไปเยอะขนาดนี้
-
น่าจะทำให้ดูละครย้อนยุคกันได้สนุกสนานแล้วก็เข้าใจมากขึ้น
-
ส่วนใครที่ฟังขนาดนี้แล้วอยากติดตามเรื่อง ปลายจวัก
-
ละครอิงประวัติศาสตร์ที่พูดถึงตั้งแต่เรื่องวิถีชีวิต
-
ไล่ไปจนถึงประวัติศาสตร์ และเล่าทั้งหมดนี้ผ่านอาหารนะคะ
-
ก็สามารถติดตามได้ที่ ThaiPBS ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
-
เวลา 20.15-21.15 น.
-
และสามารถรับชมย้อนหลังผ่านทางเว็บไซต์ได้อีกครั้งในเวลา 21.30 น.
-
ตามคิวอาร์โค้ดที่วิวให้ไว้ตรงนี้เลยค่ะ
-
รับรองนะคะว่าดูแล้วจะต้องได้ทั้งความรู้และอยากอาหารไทยไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
-
สำหรับวันนี้ ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้
-
อย่าลืมกดไลค์เป็นกำลังใจให้วิว แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันนะคะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะทุกคน บ้ายบาย
-
สวัสดีค่ะ
-
เป็นอีกหนึ่งคลิปที่ยาวนานนะคะทุกคน ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
-
อยากรู้เรื่องอะไรเพิ่มเติมอะไรยังไง บอกเลยนะคะว่าคลิปนี้
-
จะไม่ใช่คลิปเดียวที่วิวทำเกี่ยวข้องกับละคร ปลายจวัก
-
ยังมีอักคลิปหนึ่งนะคะ รอติดตามชมได้เร็วๆนี้
-
และคลิปนี้มีแขกรับเชิญพิเศษมากๆมาด้วยคนหนึ่งนะคะ
-
ดังนั้นรอติดตามกันค่ะ สามารถเดาได้มั้ยคะว่าเป็นใคร
-
comment มาด้านล่างเลยค่ะ มาเดากันนะคะ
-
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนค่ะทุกคน บ้ายบาย สวัสดีค่ะ