-
รู้กันไหมคะว่า โจทย์เลขโจทย์นี้ตอบเท่าไหร่
-
0, 26 หรือว่า 30 กันแน่
-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ ในรายการ #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด ค่ะ
-
รายการที่วิวจะนำเอาคำถามที่น่าสนใจที่ทุกคนถามเข้ามานะคะ
-
ผ่านแฮชแท็ก #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด มาตอบให้ทุกคนฟังค่ะ
-
ซึ่งบอกเลยนะคะว่า Ep. นี้พิเศษมาก ๆ ค่ะ
-
เพราะว่ามันมีคำถามที่น่าสนใจมากมายเข้ามาเต็มไปหมดเลยค่ะ
-
จนวิวรู้สึกว่า เฮ้ย ถ้าสมมติว่าเราหยิบมาแค่คำถามเดียวนะ
-
แล้วก็มาตอบ 1 คำถาม ต่อ 1 วิดีโอ เนี่ย
-
เราจะมีวิวเอ๋ยบอกข้าเถิดไปเรื่อย ๆ ทุกสัปดาห์
-
ไม่มีสิ้นไม่มีสุดเลยค่ะ
-
และที่สำคัญ เราจะต้องทิ้งคำถาม
ที่น่าสนใจไปเยอะมากเลยทีเดียว
-
รวมถึงคำถามบางคำถามนะคะ ก็น่าตอบเหมือนกัน
-
แต่ว่าคำตอบเนี่ยมันอาจจะสั้นเกินไป
-
จนมันไม่เหมาะจะมาเป็นวิดีโอ 1 วิดีโอนะคะ
-
ไม่งั้นทุกคนก็จะมาบ่นกันว่า
-
ทำไมวิดีโอนี้สั้นจังเลยคะ อะไรอย่างนี้นะ
-
ดังนั้นวันนี้วิวแพ็ครวมมาเรียบร้อยแล้วนะคะ
-
สำหรับคำถามที่ทุกคนถามเข้ามา
-
แล้วก็ไปค้นหาคำตอบอะไรต่าง ๆ มาให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วค่ะ
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังคำตอบที่ทั้งสนุก
-
แล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
คำถามแรกนะคะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชื่อสถานที่ค่ะ
-
แน่นอนว่าช่วงนี้เราทำเรื่องราว
เกี่ยวกับชื่อสถานที่กันค่อนข้างเยอะเนอะ
-
ดังนั้น คำถามที่เกี่ยวกับสถานที่ก็จะเข้ามาเยอะมาก ๆ เลยค่ะ
-
คำถามแรกนะคะ มาจากคุณปลื้มค่ะ
-
ที่ไม่ได้หมายถึงพี่ปลื้มแน่นอนนะ
-
เขาถามมาว่า
"เส้นทางสายไหม มีสายไหมให้กินไหม #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด"
-
เอาจริง ๆ นะ ตอนเห็นคำถามเนี้ย
-
คำตอบแรกที่แว่บขึ้นมาในหัววิวนะคะก็คือ
-
ไม่มีค่ะ เพราะว่าเส้นทางสายไหมคืออะไร
-
เส้นทางสายไหม คือ เส้นทางการค้าใช่ไหมคะ
-
ที่เชื่อมหาตั้งแต่ประเทศจีน
-
ไล่ไปจนถึงตอนเหนือของอินเดีย อะไรต่าง ๆ
-
ไปทะลุเข้าที่ยุโรปทางแถว ๆ เมดิเตอร์เรเนียนค่ะ
-
ซึ่งชื่อจริง ๆ ของเส้นทางสายไหมเนี่ย
-
มันไม่ใช่เส้นทางสายไหมแบบ cotton candy นะคะ
-
แต่มันหมายถึง Silk road หรือว่าเส้นทางสายผ้าไหมนั่นเองค่ะ
-
คือเป็นช่องทางที่คนจีนเนี่ย
-
เอาผ้าไหมของจีนไปขายที่ยุโรปนะคะ
-
แล้วจริง ๆ เส้นทางนี้ก็มีชื่อเล่นอีกหลากหลายเลยทีเดียวนะคะ
-
ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางสายหยก เส้นทางสายอะไร
-
โอ้โห เต็มไปหมดเลยค่ะ
-
แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ตกลงกันได้นะคะว่า
-
เส้นทางนี้จะเรียกว่า Silk road หรือว่าเส้นทางสายไหมนั่นเอง
-
ดังนั้น ในเมื่อเส้นทางสายไหมในชื่อ
-
ไม่ได้หมายถึง cotton candy
-
แปลว่าตรงเส้นทางสายไหมเนี่ย
-
ก็ไม่มี cotton candy หรือว่าสายไหมขายค่ะ
-
แต่ เอาจริง ๆ สมัยนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้
-
บริเวณเส้นทางสายไหมปัจจุบัน
อาจจะมีคนเอา cotton candy ไปขาย ก็เป็นได้นะคะ
-
ดังนั้น คำตอบของข้อนี้ก็คือ
-
ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ก็ต้องไปลองสำรวจกันดูนะคะ
-
ว่ามีใครเอาไปขายไหม
-
แต่ถ้าถามถึงชื่อของเส้นทางสายไหมแล้ว
-
ก็ต้องบอกว่าเกี่ยวข้องกับผ้าไหม ไม่ใช่ cotton candy ค่ะ
-
อะ คำถามแรกน่าสนใจไปแล้วเนอะ
-
เรามาดูที่คำถามถัดไปกันค่ะ
-
คำถามถัดไปนะคะ
-
โอ้โห ชื่อคนถามเล่นเอางงเลยนะ
-
แต่คำถามน่าสนใจ ดังนั้นอ่านต่อค่ะ
-
คำถามนี้มาจากคุณ สับสน อิหยังวะ
-
น่ะ ดูชื่อเค้านะคะ เค้าถามมาว่า
-
"ถนนข้าวสารทำไมต้องชื่อข้าวสาร #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด"
-
นี่ อันนี้ตอบง่าย ๆ เลย
-
เพราะว่าถนนข้าวสารเนี่ย
-
สมัยก่อนมันไม่ใช่ถนนแบบสายเที่ยว
-
สายที่มีชาวต่างชาติเมาเละอะไรอย่างงี้แบบปัจจุบันนะ
-
แต่ถนนข้าวสารเนี่ย เคยเป็นแหล่งค้าข้าวสาร
ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานครค่ะ
-
ก็คือ ถ้าใครอยากจะไปซื้อข้าวสาร
-
ก็ต้องไปที่ถนนข้าวสารนี่แหละ
-
ตรงตามชื่อเลยนะคะ คำถามนี้ตอบง่ายมากเลยทีเดียวค่ะ
-
ปะ อย่างรวดเร็ว ไปที่คำถามที่ 3 ค่ะ
-
คำถามที่ 3 นะคะ มาจากคุณ nisaratt ค่ะ
-
เขาถามมาว่า "#วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด
นิพพานไปไหนคะ ไปอยู่ยังไง"
-
อู้หู เป็นคำถามที่ลึกซึ้งนะคะ
-
เป็นคำถามที่พระพยายามจะตอบคำถามนี้กันมานาน
-
เป็นคำถามที่ชาวพุทธจะต้องพยายามไป
-
เพราะนี่คือจุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาพุทธใช่ไหม
-
คือการนิพพาน
-
ซึ่งเอาจริง ๆ ส่วนตัววิวเนี่ย
-
ก็ไม่ได้ลึกซึ้งด้านศาสนาพุทธขนาดนั้นที่จะมาตอบคำถามนี้
-
แต่เอาตามความเข้าใจของวิว
-
แล้วก็เอาตามหลักวิชาการ
ที่อ่านหนังสือศาสนาต่าง ๆ มามากมายนะคะ
-
นิพพาน ก็คือ ความสูญ ความสิ้น
-
ความ แบบ ว่างเปล่า ความไม่มีอะไรเลย
-
คือ ดับอะ คือแบบ ไม่มี ไม่มีอีกแล้ว ประมาณนั้นนะคะ
-
ดังนั้น ถ้าเราจะบอกว่านิพพานหน้าตาเป็นยังไง
-
นิพพานไปอยู่ยังไง ไม่อยู่ค่ะ
-
คือการนิพพานก็คือการแบบ [ดีดนิ้ว] แล้วหายไปอะนะ
-
ดังนั้น มันก็ ไม่มี ไม่ต้องไปอยู่ ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้นค่ะ
-
ดูงง ๆ ดูเป็นปรัชญา แต่นี่ก็เป็นความเข้าใจของวิวอะนะคะ
-
ซึ่งไม่แน่ใจว่าถูกหรือผิดยังไง
-
เอาเป็นว่าถ้าใครที่เชี่ยวชาญด้านศาสนามากกว่าวิว
-
ก็ comment มาคุยกันด้านล่างแล้วกันค่ะ
-
สำหรับข้อต่อไปนะคะ เรากลับจากเรื่องที่เป็นแบบนามธรรม
-
มาเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นรูปธรรมมากกว่าดีกว่านะคะ
-
คือคำถามจากคุณ Chatchai Atthasathaworn นะคะ
-
เขาถามมาว่า
-
"#วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด พี่วิวคะ
-
"ทำไมเวลาหาว จะต้องมีน้ำตาคะ
-
"(หรือบางคนก็ไม่มี (ทุกคนว่าพี่วิวจะตอบเป็นวิทย์มะ
-
เราว่า "ไม่"))
-
บอกเลยว่า "ผิดค่ะ" เพราะวันนี้วิวจะตอบเป็นวิทย์นะคะ
-
สาเหตุที่เวลาเราหาวแล้วมีน้ำตาเนี่ย
-
ตามหลักวิทยาศาสตร์ เท่าที่วิวไปค้นมาเจอเนี่ยนะคะ
-
เขาบอกว่า เวลาที่เราหาวเนี่ย
-
มันคือกระบวนการของร่างกายเราค่ะ
-
ที่ต้องการจะฮุบออกซิเจนเข้าไปในร่างกายให้มากที่สุดนะคะ
-
เกิดขึ้นเมื่อเราอ่อนเพลีย นอนไม่พอ หรืออะไรต่าง ๆ
-
ทำให้เลือดของเราเนี่ยต้องการออกซิเจนมากขึ้นน่ะนะ
-
ดังนั้นก็เลยต้องหาวเหมือนกับว่าฮุบอากาศเข้าไปใหญ่ ๆ ค่ะ
-
เพื่อให้ออกซิเจนเนี่ยเข้าไปในร่างกายมากที่สุด
-
ทีนี้ การฮุบออกซิเจนแบบนี้นะคะ
-
ก็ทำให้ความดันบริเวณหน้าของเราเนี่ยเปลี่ยนค่ะ
-
คือ หน้าตาเรามันก็แบบ
-
อะไรอย่างงี้ใช่ไหม เวลาเราหาว
-
ทีนี้พอความดันเปลี่ยนปุ๊บ
-
ร่างกายมันกลัวค่ะว่ากระจกตาของเราเนี่ยจะพังนะคะ
-
จะแบบ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
-
ร่างกายก็เลยขับน้ำตาออกมาผ่านต่อมน้ำตาค่ะ
-
เพื่อที่จะเอาน้ำตาเนี่ยนะคะ มาเคลือบตาเอาไว้
-
ป้องกันความเสียหายจากตา
ที่เกิดจากการหาวที่รุนแรงเกินไปนั่นเองค่ะ
-
เป็นไงคะ คำถามนี้บอกเลยว่า
-
ตอบแบบวิทยาศาสตร์แล้วนะคะทุกคน
-
คำถามถัดไปของเรานะคะ น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ
-
เป็นคำถามที่มาจากคุณกิตติภัทรนะคะ
-
คำถามเขาบอกมาว่า
-
5 + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 ได้เท่าไหร่นะคะ
-
โอ้โห โจทย์น่าสนใจมากจริง ๆ
-
ต้องบอกว่าจากคำถามนี้นะคะ
-
เกิดดรามาขึ้นบ่อยมากค่ะ
-
แต่บางทีมันอาจจะมาในรูปแบบอื่นนะ
-
คือมาในรูปแบบของเลข 7 บ้าง
-
หรือมาในรูปแบบของโจทย์ที่แตกต่างกันไป
-
แต่ทุกครั้งจะมีปัญหาก็คือ เราจะรู้สึกว่า
-
เอ๊ ปกติเลขมันก็ต้องตอบเหมือน ๆ กันสิ
-
ทำไมคราวนี้เรากับเพื่อนถึงตอบไม่เหมือนกัน
-
คำตอบมันไม่แน่นอนหรือ หรือว่ายังไง
-
เราถูก เพื่อนผิด หรือว่าเราผิด เพื่อนถูกกันแน่
-
ก็ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วมันมีวิธีการค่ะ
-
ซึ่งเราเนี่ย เรียนกันมาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว
-
แต่ว่าตอนนั้นโจทย์เราอาจจะไม่ได้ซับซ้อนเท่าไหร่
-
เราก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจวิธีการนั้นมากนะคะ
-
วันนี้วิวไปขุดความรู้สมัยประถมมา
-
แล้วก็เอามาเล่าให้ทุกคนฟังเรียบร้อยแล้วค่ะ
-
มาเริ่มที่โจทย์ของเรากันก่อนดีกว่า โจทย์ของเราบอกไว้ว่า
-
5 นะคะ + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 เท่ากับเท่าไหร่นะคะ
-
บอกเลยว่าคำถามนี้หลายคนตอบไม่เหมือนกันค่ะ
-
คำตอบกลุ่มแรกก็คือพวกที่บอกว่า
-
เอา 5 บวก 5 นะ ได้เท่ากับ 10
-
เสร็จแล้วก็เอา 10 เนี่ยไปหาร 5 ได้เท่ากับ 2
-
เอา 2 เนี่ยนะ ไปบวกกับ 5 ได้เท่ากับ 7
-
เสร็จแล้วก็เอา 7 ไปคูณกับ 5 ได้เท่ากับ 35
-
แล้วก็เอาไปลบด้วย 5 ก็เลยจะได้คำตอบเท่ากับ 30 นั่นเองค่ะ
-
ส่วนกลุ่มถัดไปนะคะ คิดต่างไปค่ะ
-
เพราะว่าเขาเนี่ยทำยังไงรู้ไหม
-
เขาเริ่มทำจากเอาบวกลบกันให้หมดก่อน
แล้วด้วยค่อยมาคูณหารทีหลังค่ะ เขาก็บอกว่า
-
โอเค เราเอา 5 บวก 5 นะ ได้เท่ากับ 10
-
แล้วก็เอา 5 อันกลางเนี่ย บวกกันได้เท่ากับ 10
-
แล้วก็เอา 5 ลบ 5 อันหลังนะ ได้เท่ากับ 0
-
ดังนั้นนะ เมื่อเราเอา 10 มาหาร 10 เราก็จะได้เท่ากับ 1
-
ส่วนเอา 1 เนี่ย มาคูณกับ 0 ได้เท่ากับ 0 ซะอย่างงั้นเลย
-
เฮ้ย คำตอบนี้มันช่างสวยงามจริง ๆ
-
ทำอะไรออกมาก็ได้เท่ากับ 0
-
ส่วนกลุ่มสุดท้ายนะคะ
-
คือกลุ่มที่ทำคูณหารก่อนค่ะ แล้วค่อยบวกลบนะคะ
-
เขาก็จะบอกว่าเอา 5 เนี่ยนะ ตัวกลาง หาร 5 ได้เท่ากับ 1
-
เอา 5 คูณ 5 ได้เท่ากับ 25
-
25 บวก 1 ได้ 26 แล้วก็ลบออกด้วย 5 จะได้เท่ากับ 21
-
แล้วก็บวกเข้าไปด้วย 5 ตัวแรก
-
ดังนั้นคำตอบก็คือ 26 ซะอย่างงั้นเลยนะคะ
-
ซึ่งก็เห็นไหมคะว่า เอาง่าย ๆ เนี่ย
-
ถ้าสมมติว่าทำวิธีการสลับกันไปสลับกันมา
-
ก็ได้คำตอบมาทั้งหมด 3 คำตอบแล้วนะคะ
-
เช่นเดียวกันค่ะ ในสมัยก่อนเนี่ยนักคณิตศาสตร์
-
เขาก็เจอกับปัญหานี้เหมือนกันนะ เขาก็เจอว่า
-
เฮ้ย การทำอะไรอย่างนี้ ถ้าทำต่างกัน ลำดับต่างกันนะ
-
คำตอบมันก็จะไม่เหมือนกัน
-
ดังนั้น วิธีแก้ก็คือเราควรจะกำหนดสิ่งหนึ่งขึ้นมาค่ะ
-
ซึ่งสิ่งนี้นะคะ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า order of operations ค่ะ
-
หรือว่าลำดับวิธีการทางคณิตศาสตร์นั่นเอง
-
ก็กำหนดมาเป็นขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยเลยนะคะ
-
โดยเด็กฝรั่งเนี่ยนะคะ เขาจะมีวิธีการจำง่าย ๆ กันค่ะ
-
โดยเขาบอกให้จำคำว่า
-
"Please excuse my dear Aunt Sally." นะคะ
-
แล้วก็พอเขียนอย่างนี้ออกมาปุ๊บก็ให้ดูที่ตัวแรกค่ะ
-
please เนี่ย คือ ตัว p
-
p คืออะไร p คือ parentheses นะคะ
-
ก็คืออะไรก็ตามที่อยู่ในวงเล็บเนี่ย ให้ทำก่อนค่ะ
-
ส่วน e นะคะ คือ exponents
-
อะไรที่เป็น exponential เป็นการยกกำลังต่าง ๆ
-
ให้ทำเป็นลำดับที่ 2 นะคะ
-
ส่วนตัวที่ 3 ค่ะ ก็คือ my dear
-
my dear คือ multiplication and division นะคะ
-
ก็คืออะไรที่เป็นการคูณ-การหารเนี่ย ให้ทำก่อนนะคะ
-
และสุดท้ายค่ะ ก็คือ Aunt Sally
-
Aunt Sally นี่ก็คือ add or subtraction นะคะ
-
หรือว่าบวก-ลบ นั่นเอง
-
พูดง่าย ๆ นะ ถ้าสมมติว่าเราไปจับซับภาษาอังกฤษไม่ได้
-
เพราะว่าเราก็คงไม่คุ้นกับศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้
-
เรียกการบวกลบคูณหารยกกำลังนะ
-
คิดง่าย ๆ ค่ะ เจอโจทย์อะไรก็ตาม
-
อย่างแรกที่ต้องทำ ดูก่อนว่ามีวงเล็บไหมนะคะ
-
ถ้ามีวงเล็บทำในวงเล็บก่อนค่ะ
-
ส่วนอย่างที่สองนะคะ
-
อะไรที่เป็นเลขยกกำลัง จัดการให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่ะ
-
แล้วอย่างที่สามนะคะ ถ้าไม่มีอะไรเหลือแล้วเนี่ย
-
ให้ทำคูณ-หารก่อนค่ะ
-
และสุดท้ายที่ต้องทำท้ายสุด ๆ เลยนะคะ
-
ก็คือการบวก-ลบ นั่นเองค่ะ
-
ยกตัวอย่างนะคะ ถ้าสมมติว่าเรามีโจทย์หน้าตาแบบนี้
-
(3 + 5) × 4 - 3² ÷ 7
-
เราจะต้องทำอะไรก่อน อะ สิ่งที่เราต้องทำก่อนก็คือ
-
แน่นอน วงเล็บ ใช่ไหมคะ
-
ดังนั้น เราก็จะต้องเอา 3 + 5 ได้ 8 ก่อนค่ะ
-
นี่ ตอนนี้เราก็จะได้กลายเป็น 8 × 4 - 3² ÷ 7
-
สิ่งที่สองที่เราต้องทำคืออะไรคะ
-
ตอนนี้วงเล็บไม่เหลือแล้ว
-
สิ่งที่สองที่ต้องทำก็คือ ยกกำลังใช่ไหมคะ
-
ดังนั้นค่ะ เราก็ต้องเอา 3² ให้ได้ 9 ก่อนนะคะ
-
หลังจากนั้นเนี่ย โจทย์ของเราก็จะกลายเป็น 8 × 4 - 9 ÷ 7 ค่ะ
-
ซึ่งในตอนนี้เองเนี่ย 2 ขั้นตอนสุดท้ายก็จะเข้ามานะคะ
-
นั่นก็คือ ทำคูณหารก่อนค่ะ
-
เราต้องเอา 8 × 4 ก่อนนะคะ
-
8 × 1 = 8
8 × 2 = 16
-
8 × 3 = 24
8 × 4 = 32 ค่ะ
-
เราก็จะได้ 32 - 9 ÷ 7 นะคะ
-
ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำถัดไปคืออะไรคะ
-
คูณ-หาร เนี่ย ทำพร้อมกันใช่ไหม ดังนั้นเราต้องเอา 9 ÷ 7 ก่อน
-
ซึ่ง 9 หาร 7 ไม่ลงตัวนะคะ ได้ประมาณ
-
เท่าไหร่ก็ไม่รู้อะนะ
-
ซึ่งอันนี้เป็นโจทย์ที่ตั้งไม่ดีเลย วิวตั้งเร็ว ๆ เมื่อกี้นะคะ
-
แล้วค่อยเอาตัวเลขที่หารมาได้เนี่ย
-
เอามาลบออกจาก 32 ก็จะเป็นอันได้คำตอบค่ะ
-
ทีนี้เรากลับไปที่โจทย์เมื่อกี้ของเรานะคะ
-
อื้อหือ มีความติวเตอร์สูงมากนะตอนนี้
-
พออุปกรณ์มันเหมาะกับการเรียนเนี่ย
-
กลับไปที่โจทย์ของเราเมื่อกี้นะคะ โจทย์ของเราก็คือ
-
5 + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 = ?
-
อ้า ตามกฎเมื่อกี้เลยค่ะ เราต้องดูอย่างแรกคืออะไร
-
อย่างแรกก็คือ ดูวงเล็บก่อนนะคะ
-
ซึ่งในโจทย์ของเรารอบนี้ไม่มีวงเล็บค่ะ
-
ข้อที่สอง มียกกำลังไหม ยกกำลังก็ไม่มีเหมือนกันนะคะ
-
ดังนั้นขั้นตอนถัดไปก็คือ คูณ-หาร นั่นเองค่ะ
-
ไหน ในโจทย์ของเรามีคูณ-หาร ตรงไหนบ้าง
-
มีคู่นี่ใช่ไหมคะ กับคู่นี้
-
ดังนั้น เอา 5 หาร 5 ก่อนเลยค่ะ
-
5 หาร 5 ได้มาเป็นเท่ากับ 1 นะคะ
-
ส่วน 5 คูณ 5 ได้เท่ากับ 25 ค่ะ
-
ตอนนี้โจทย์ของเราก็จะกลายเป็น 5 + 1 + 25 - 5
-
ซึ่งตอนนี้ หลังจากที่คำนวณเลขอะไรต่าง ๆ
-
ด้วยการบวก-ลบ ระดับประถมอะนะ
-
เราก็จะได้คำตอบมาเท่ากับ 26 นั่นเองค่ะ
-
ดังนั้น นี่ก็คือคำตอบของโจทย์ที่บอกว่า
-
5 + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 = ? นะคะ
-
เช่นเดียวกับโจทย์อื่น ๆ ที่เราจะไปเจอค่ะ
-
ถ้าสมมติว่า เราไปเจอโจทย์อันไหนที่มันงง ๆ ในอินเทอร์เน็ตอีก
-
ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ได้ หมดเลยนะคะ
-
เท่านี้เราก็จะตอบได้ถูกต้องแล้วค่ะ
-
ก็เป็นอันจบคำถามนี้ไปนะคะ
-
วันนี้อธิบายแบบละเอียดนิดนึง
-
ดูมีความเป็นติวเตอร์นิดนึงนะ
-
อย่างไรก็ตามก็อันนี้มันเป็นเรื่องนึง
-
ที่รู้สึกว่าเป็นพื้นฐานที่เป็นประโยชน์มาก ๆ
-
ก็อยากให้ทุกคน ตอบกันได้ค่ะ
-
เราไปที่คำถามถัดไปกันดีกว่านะคะ
-
คำถามถัดไปมาจากใครเอ่ย
-
โอ้โห คำถามถัดไปนะคะ
-
บอกเลย คนนี้พิเศษจริง ๆ ค่ะ
-
มาจากน้องคนสวยคนนึงนะคะ
-
ชื่อว่า น้อง Point of View ค่ะ
-
เขาถามมาว่า เอาคอมพิวเตอร์มาโชว์เขียนไปเขียนมาขนาดนี้
-
มีอะไรพิเศษรึเปล่าคะ
-
โอ้โห บอกเลยนะคะ น้องคนนี้ถามได้ตรงใจสุด ๆ ค่ะ
-
ไม่น่าเชื่อเลย ไม่รู้ว่าน้องเขารู้ล่วงหน้าได้ยังไงเนี่ย
-
ว่าคลิปนี้เราจะมี
-
โน้ตบุ๊ก HP Spectre X360 2020
-
ที่มาพร้อมกับดีไซน์ gem cut สุดหรู
-
สวย เท่ ดูแข็งแรง แต่บางเบา
-
น้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัม
-
ขอบจอบางเฉียบ หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว
-
ทนทาน พับได้ถึง 360 องศา
-
พกพาไปทำงานที่ไหนก็ได้
-
HP Spectre X360 มาพร้อมกับ
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
-
และโปรแกรม
Microsoft Office Home & Student 2019 ของแท้
-
ทำให้สามารถใช้โปรแกรม Microsoft Word,
-
Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint
-
OneNote ทำงานได้
-
ใช้ Microsoft Teams
สำหรับ Online Conference หรือ E-learning
-
จะแต่งรูป ตัดวิดีโอ
-
หรือเล่นเกมเบา ๆ ก็จบได้ในเครื่องเดียว
-
อะ พอได้แล้วล่ะ เอาจริง ๆ นะคะ วิวอยากจะบอกว่า
-
คือจริง ๆ เนี่ยนะคะ
-
วิวมีโอกาสได้โน้ตบุ๊ก HP Spectre X360 เครื่องนี้มาลองใช้ค่ะ
-
ซึ่งพอลองใช้ดูเนี่ยก็พบว่า
-
มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่มันสะดวกสบายมาก ๆ นะคะ
-
ก็เลยอยากเอามาเล่าให้ทุกคนฟังเท่านั้นแหละ
-
คืออย่างแรกเนี่ยนะคะ
-
เครื่องนี้มันเป็นกึ่ง Tablet กึ่ง Notebook ค่ะ
-
ดังนั้น มันเป็นโน้ตบุ๊กที่สามารถใช้หน้าจอทัชสกรีนได้นะคะ
-
แล้วเท่านั้นยังไม่พอนะ มันก็พับได้ 360 องศานะ อย่างนี้เป็นต้น
-
นี่ เห็นปะ พับได้ทุกองศาเลยนะคะ
-
สามารถเอามาตั้งเป็นแท็บเล็ตแบบนี้ หรือว่าจะพับให้สุดไปเลย
-
สุดขึ้นมาอีกด้านนึงเลยแบบนี้ ก็ได้เหมือนกันนะคะ
-
นี่ ก็คือไม่ต้องกลัวหักอะไรเลย
-
แล้วก็สามารถใช้งานได้สะดวกสบายมาก ๆ
-
สมมติว่าเราพรีเซนต์งานอยู่ อะไรอย่างนี้
-
อยากให้ลูกค้าเห็นฝั่งตรงข้ามนะ
-
เราก็สามารถแบบ เนี่ยปรับขึ้นมาอย่างนี้
-
แล้วแสงหน้าวิวก็จะมืดนะคะ ไม่เป็นไร
-
แล้วก็สามารถให้แบบ เขียนอะไรให้ลูกค้าดูได้ทันที
-
เท่านั้นยังไม่พอ มันยังมีปากกามาด้วยนะทุกคน
-
ก็สามารถเขียนได้เลย อะไรต่าง ๆ อย่างนี้
-
หรือว่า ใครพิมพ์เอกสารอะไรใน Microsoft Word นะคะ
-
พอพิมพ์เสร็จปุ๊บ อยากเซ็นเอกสารเนี่ย
-
ก็สามารถเปลี่ยนโหมดมาใช้ปากกา แล้วก็เซ็นได้เลย
-
คือจัดหน้าง่าย เพราะมันเป็นคอมพิวเตอร์
-
มันไม่ใช่แบบแท็บเล็ตอะไรที่เราจะต้องมาแบบว่า
-
เอ้ย จัดหน้าเด้งไปเด้งมา
-
มันก็คือคอมพิวเตอร์ธรรมดาทั่วไป
-
แต่ว่าพอมีปากกาเนี่ย เราก็เซ็นได้เลย
-
เหมือนกับใช้แท็บเล็ต
-
หรือว่าเหมือนกับใช้เมาส์ปากกาเลยทีเดียวค่ะ
-
เรียกได้ว่า การใช้งานเนี่ยยืดหยุ่นมาก ๆ นะคะ
-
สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบจริง ๆ นะทุกคน
-
เท่านั้นยังไม่พอนะคะ ไฮไลต์อีกอย่างนึงของเครื่องนี้เลยเนี่ย
-
ก็คือสิ่งที่วิวรำคาญมาตั้งแต่เด็ก
-
คือตั้งแต่เด็กเนี่ย เวลาไปซื้อคอมพิวเตอร์นะคะ
-
เราก็จะต้องไปหาซื้อระบบปฏิบัติการเนี่ย
-
มาลงคอมพิวเตอร์เองใช่ไหม
-
ลงไป เอ๊ เราลงเป็นหรือไม่เป็น
-
จะต้องให้ร้านลงให้รึเปล่านะคะ
-
แต่เครื่องนี้ซื้อมาปุ๊บมันมาพร้อมกับ
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เลยค่ะ
-
คือเรียกได้ว่าลงมาล่วงหน้าแล้ว
-
แกะกล่องออกมาปุ๊บ เปิดซีลปึ้บ
-
ใส่อีเมลตัวเอง ใส่พาสเวิร์ด ทุกอย่างก็กลับมาเลยนะคะ
-
สามารถใช้งานได้เลย แล้วก็มี OneDrive
-
ซึ่งเป็น cloud มีข้อมูลของเราอยู่ในนั้นอยู่แล้ว
-
เราก็สามารถโหลดเอกสารอะไรมาทำงานได้เลย
-
เรียกได้ว่าออกจากร้านปุ๊บนะคะ
-
เปิดกล่องทำงานเดี๋ยวนั้นเลยก็ได้นะ
-
ที่สำคัญนะคะ เขายังมีอีกอย่างนึงแถมมาให้ค่ะ
-
นั่นก็คือ Microsoft Office Home & Student 2019 นะคะ
-
ซึ่งเราก็รู้กันน่ะว่า พวกเราทั้งคนที่ทำงานแล้วก็คนที่เรียนเนี่ย
-
เราใช้โปรแกรมของ Microsoft Office เยอะขนาดไหน
-
ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word, Microsoft Excel,
-
Microsoft PowerPoint
-
แล้วก็ Microsoft อีกหลากหลายต่าง ๆ น่ะนะ
-
แต่ว่า 3 อันนี้คือ 3 อันที่เราใช้หลัก ๆ ใช่ไหม
-
เครื่องนี้แถมของแท้มาให้เลยนะคะ เรียกได้ว่า
-
มาถึงก็ใช้ได้เลยนะ
-
ซึ่งปกติถ้าสมมติว่าเราไปซื้อพวก Microsoft Office แยกเนี่ย
-
รู้กันไหมว่า ของแท้เนี่ยราคาถึง
-
4,299 เลยนะคะ
-
ของแถมเนี่ยราคา 4,000 กว่าเลยนะ
-
ไม่รวม Windows นะทุกคน
-
แอบกระซิบนิดนึงนะคะว่า
-
ช่วงนี้ใครต้องเรียนต้องทำงานออนไลน์เนี่ย
-
ก็สามารถไปโหลดโปรแกรมอีกโปรแกรมนึงมาใช้ได้ค่ะ
-
นั่นก็คือ Microsoft Teams นั่นเอง
-
ซึ่งมันก็สามารถใช้ทั้งประชุมออนไลน์ ทำ online conference
-
presentation อะไรต่าง ๆ ได้
-
ส่วนตัววิวเนี่ย วิวลองใช้แล้วนะ
-
แล้วก็รู้สึกว่า เออ มันค่อนข้างเสถียรเลยทีเดียว
-
ก็สะดวกมาก เหมาะมากนะคะ กับการทำงาน
-
หรือว่าการเรียนในช่วงเวลาแบบนี้ค่ะ
-
เท่านั้นยังไม่พอนะ สิ่งนึงที่แบบใช้งานมาสักพักแล้ว
-
อันนี้ใช้มาเกือบอาทิตย์แล้วอะ
-
แล้วค้นพบว่ามันแบบสุดจริง ๆ ไม่น่าเชื่อเลยก็คือ
-
ก่อนอัดวิดีโอนี้นะคะ
-
เพราะว่าวิวกลัวว่าคอมจะดับ
-
นี่เป็นครั้งแรกค่ะ ตั้งแต่วิวเริ่มใช้งาน
-
ที่วิวเอาสายชาร์จจิ้มเข้าไปที่คอมเครื่องนี้นะคะ
-
เพราะว่า คือวิวอะไม่รู้ว่าใช้จริงมันได้กี่ชั่วโมงนะ
-
แต่ว่าเขาอะบอกว่าใช้ได้ทั้งหมด 22 ชั่วโมงนะคะ
-
และที่สำคัญ เมื่อกี้ก่อนอัดวิดีโอ วิวก็จิ้มชาร์จไว้แปปเดียวค่ะ
-
มันก็ได้ตามที่เขาบอกเลย
-
คือ เครื่องนี้ชาร์จด้วย USB-C นะคะ
-
ซึ่งเป็น fast charger ค่ะ
-
คือพอชาร์จปุ๊บเนี่ย แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นนะ ชาร์จได้ 50%
-
100% ใช้ได้ 22 ชั่วโมง
-
แปลว่า เราชาร์จครึ่งชั่วโมง ใช้ได้ 11 ชั่วโมงเลยนะคะ
-
อื้อหือ ใช้ได้นานจริง ๆ อันนี้แบบ ประทับใจมากจริง ๆ
-
จากคนที่แบบว่าชอบลืมสายชาร์จ
-
หรือเป็นคนที่ไม่ชอบพกสายชาร์จออกจากบ้านน่ะนะ
-
นี่ไม่นับเรื่องพวกแบบความปลอดภัย
ที่เครื่องนี้มีอีกเพียบเลยนะคะ
-
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสแกนหน้า การสแกนลายนิ้วมือ
-
หรือว่าสิ่งที่เรียกว่า HP Sure View นะคะ
-
ซึ่งเขาเป็นระบบป้องกันหน้าจอ
-
คือแบบสมมติเราใช้งานอยู่อย่างนี้
-
ใช้งานเรียนออนไลน์อะไรอยู่
-
แล้วไม่อยากให้ใครเดินผ่านไปผ่านมา
-
แล้วมาเห็นหน้าจอของเราเนี่ย
-
เปิดปุ่มนี้เข้าไปนะคะ
-
คนที่ใช้งานตรงหน้าเนี่ย มองเห็นหน้าจอได้ค่ะ
-
แต่ว่าคนที่เดินมาข้าง ๆ 2 ข้างเนี่ย
-
จะเห็นหน้าจอเป็นสีรุ้งเลยนะ เรียกได้ว่ามองไม่เห็นเลยค่ะว่าทำอะไรอยู่
-
ดังนั้น เหมาะมากกับการแบบ
-
สมมติว่าไปเรียนในห้องเรียน หรือว่าไปทำงานที่ออฟฟิศ
-
แล้วไม่อยากให้คนมาส่องแบบ
-
เฮ้ย เธอดูอะไรอยู่อะ อะไรอย่างนี้นะคะ
-
เอาจริง ๆ หลัก ๆ ก็อยากจะมาอวดเนี่ยแหละว่า
-
ตอนนี้เพิ่งได้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่มาลอง
-
แล้วมันก็ดีมากจริง ๆ นะคะ
-
ดังนั้น ถ้าสมมติว่าสนใจกันก็สามารถลองไปดูรายละเอียด
-
ได้ที่ description box ข้างล่างเนาะ
-
สำหรับวันนี้นะคะ วิวก็คิดว่าวิวเวิ่นมามากพอแล้วแหละ
-
ทั้งคำถามที่เป็นคำถามจริง ๆ คำถามสาระ
-
คำถามน่าสนใจ คำถามเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
-
คำถามเกี่ยวกับคณิตศาสตร์
-
คำถามเกี่ยวกับที่มาของคำศัพท์อะไรต่าง ๆ นะคะ
-
เอาเป็นว่า ถ้าสมมติว่าใครมีคำถามอยากถามวิวอีกเนี่ย
-
ก็สามารถติดแฮชแท็กนะคะ #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด
-
แล้วก็ถามมาด้านล่างได้เลยค่ะ
-
สำหรับรายการ #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด Ep. หน้า
-
อาจจะเป็นคำถามของคุณค่ะ ที่ได้รับคำตอบในคลิปวิดีโอเนาะ
-
สำหรับวันนี้นะคะ ใครชื่นชอบคลิปนี้
-
อย่าลืมกด like เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กด share เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ
-
ลาไปก่อนแล้วกันนะคะ บาย ๆ สวัสดีค่ะ
-
สำหรับชีวิตของเราเนี่ยนะคะ
-
เราก็ดำเนินมาถึงจุดที่เราสามารถ
ตอบคำถามจากตัวเองได้แล้วนะคะ
-
หลังจากที่คลิปก่อน ๆ เราเนี่ย
-
ก็มีการถกเถียงกับตัวเองออกคลิปไป
-
โต้วาทีกับตัวเองออกคลิปไป
-
ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่าในช่วงนี้ก็ยังเป็นช่วงที่
-
เราค่อนข้างจะอยู่บ้านเยอะ
-
เจอเพื่อน ๆ ก็เจอผ่าน online conference อะไรต่าง ๆ
-
ยังไม่ค่อยได้ออกไปพบปะสังสรรค์อะไรขนาดนั้นนะคะ
-
อยู่คนเดียวมาก ๆ ก็ทำอะไรแบบนี้ได้แหละ
-
แต่ไม่เป็นไร เพราะว่าถึงเราจะอยู่คนเดียว
-
แต่เราก็มีโน้ตบุ๊ก HP Spectre X360 ของเรา
-
ที่เราสามารถเอามาเล่นอะไรต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุขนะคะ
-
แหม่ ตอนจบแล้วก็ยังไม่เลิกอีกทุกคน
-
ดังนั้น พอเถอะค่ะ วันนี้ลาไปก่อนละกันนะคะทุกคน
-
บาย ๆ สวัสดีค่ะ