WEBVTT 00:00:00.080 --> 00:00:02.260 รู้กันไหมคะว่า โจทย์เลขโจทย์นี้ตอบเท่าไหร่ 00:00:02.460 --> 00:00:04.920 0, 26 หรือว่า 30 กันแน่ 00:00:05.080 --> 00:00:06.540 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 00:00:06.580 --> 00:00:09.240 กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ ในรายการ #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด ค่ะ 00:00:09.260 --> 00:00:13.120 รายการที่วิวจะนำเอาคำถามที่น่าสนใจที่ทุกคนถามเข้ามานะคะ 00:00:13.120 --> 00:00:16.280 ผ่านแฮชแท็ก #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด มาตอบให้ทุกคนฟังค่ะ 00:00:16.420 --> 00:00:18.540 ซึ่งบอกเลยนะคะว่า Ep. นี้พิเศษมาก ๆ ค่ะ 00:00:18.540 --> 00:00:22.400 เพราะว่ามันมีคำถามที่น่าสนใจมากมายเข้ามาเต็มไปหมดเลยค่ะ 00:00:22.600 --> 00:00:25.740 จนวิวรู้สึกว่า เฮ้ย ถ้าสมมติว่าเราหยิบมาแค่คำถามเดียวนะ 00:00:25.740 --> 00:00:28.360 แล้วก็มาตอบ 1 คำถาม ต่อ 1 วิดีโอ เนี่ย 00:00:28.360 --> 00:00:30.760 เราจะมีวิวเอ๋ยบอกข้าเถิดไปเรื่อย ๆ ทุกสัปดาห์ 00:00:30.760 --> 00:00:32.320 ไม่มีสิ้นไม่มีสุดเลยค่ะ 00:00:32.540 --> 00:00:36.060 และที่สำคัญ เราจะต้องทิ้งคำถาม ที่น่าสนใจไปเยอะมากเลยทีเดียว 00:00:36.260 --> 00:00:38.900 รวมถึงคำถามบางคำถามนะคะ ก็น่าตอบเหมือนกัน 00:00:38.900 --> 00:00:41.080 แต่ว่าคำตอบเนี่ยมันอาจจะสั้นเกินไป 00:00:41.080 --> 00:00:43.340 จนมันไม่เหมาะจะมาเป็นวิดีโอ 1 วิดีโอนะคะ 00:00:43.340 --> 00:00:44.840 ไม่งั้นทุกคนก็จะมาบ่นกันว่า 00:00:44.960 --> 00:00:47.880 ทำไมวิดีโอนี้สั้นจังเลยคะ อะไรอย่างนี้นะ 00:00:48.100 --> 00:00:50.080 ดังนั้นวันนี้วิวแพ็ครวมมาเรียบร้อยแล้วนะคะ 00:00:50.080 --> 00:00:51.760 สำหรับคำถามที่ทุกคนถามเข้ามา 00:00:51.760 --> 00:00:55.520 แล้วก็ไปค้นหาคำตอบอะไรต่าง ๆ มาให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วค่ะ 00:00:55.720 --> 00:00:58.240 สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังคำตอบที่ทั้งสนุก 00:00:58.240 --> 00:00:59.620 แล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 00:00:59.740 --> 00:01:01.620 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 00:01:05.860 --> 00:01:08.740 คำถามแรกนะคะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชื่อสถานที่ค่ะ 00:01:08.740 --> 00:01:12.160 แน่นอนว่าช่วงนี้เราทำเรื่องราว เกี่ยวกับชื่อสถานที่กันค่อนข้างเยอะเนอะ 00:01:12.160 --> 00:01:15.840 ดังนั้น คำถามที่เกี่ยวกับสถานที่ก็จะเข้ามาเยอะมาก ๆ เลยค่ะ 00:01:16.160 --> 00:01:18.160 คำถามแรกนะคะ มาจากคุณปลื้มค่ะ 00:01:18.440 --> 00:01:20.160 ที่ไม่ได้หมายถึงพี่ปลื้มแน่นอนนะ 00:01:20.420 --> 00:01:25.580 เขาถามมาว่า "เส้นทางสายไหม มีสายไหมให้กินไหม #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด" 00:01:25.680 --> 00:01:27.180 เอาจริง ๆ นะ ตอนเห็นคำถามเนี้ย 00:01:27.180 --> 00:01:29.600 คำตอบแรกที่แว่บขึ้นมาในหัววิวนะคะก็คือ 00:01:29.820 --> 00:01:32.020 ไม่มีค่ะ เพราะว่าเส้นทางสายไหมคืออะไร 00:01:32.020 --> 00:01:34.000 เส้นทางสายไหม คือ เส้นทางการค้าใช่ไหมคะ 00:01:34.000 --> 00:01:35.560 ที่เชื่อมหาตั้งแต่ประเทศจีน 00:01:35.780 --> 00:01:38.180 ไล่ไปจนถึงตอนเหนือของอินเดีย อะไรต่าง ๆ 00:01:38.180 --> 00:01:41.840 ไปทะลุเข้าที่ยุโรปทางแถว ๆ เมดิเตอร์เรเนียนค่ะ 00:01:42.180 --> 00:01:44.540 ซึ่งชื่อจริง ๆ ของเส้นทางสายไหมเนี่ย 00:01:44.700 --> 00:01:47.120 มันไม่ใช่เส้นทางสายไหมแบบ cotton candy นะคะ 00:01:47.120 --> 00:01:51.720 แต่มันหมายถึง Silk road หรือว่าเส้นทางสายผ้าไหมนั่นเองค่ะ 00:01:51.720 --> 00:01:53.700 คือเป็นช่องทางที่คนจีนเนี่ย 00:01:53.700 --> 00:01:56.420 เอาผ้าไหมของจีนไปขายที่ยุโรปนะคะ 00:01:56.700 --> 00:01:59.580 แล้วจริง ๆ เส้นทางนี้ก็มีชื่อเล่นอีกหลากหลายเลยทีเดียวนะคะ 00:01:59.580 --> 00:02:03.020 ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางสายหยก เส้นทางสายอะไร 00:02:03.020 --> 00:02:04.200 โอ้โห เต็มไปหมดเลยค่ะ 00:02:04.200 --> 00:02:07.020 แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ตกลงกันได้นะคะว่า 00:02:07.260 --> 00:02:10.540 เส้นทางนี้จะเรียกว่า Silk road หรือว่าเส้นทางสายไหมนั่นเอง 00:02:10.840 --> 00:02:12.580 ดังนั้น ในเมื่อเส้นทางสายไหมในชื่อ 00:02:12.580 --> 00:02:13.980 ไม่ได้หมายถึง cotton candy 00:02:14.240 --> 00:02:15.880 แปลว่าตรงเส้นทางสายไหมเนี่ย 00:02:16.160 --> 00:02:19.140 ก็ไม่มี cotton candy หรือว่าสายไหมขายค่ะ 00:02:19.560 --> 00:02:21.900 แต่ เอาจริง ๆ สมัยนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ 00:02:22.160 --> 00:02:26.880 บริเวณเส้นทางสายไหมปัจจุบัน อาจจะมีคนเอา cotton candy ไปขาย ก็เป็นได้นะคะ 00:02:26.880 --> 00:02:28.440 ดังนั้น คำตอบของข้อนี้ก็คือ 00:02:28.760 --> 00:02:31.180 ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ก็ต้องไปลองสำรวจกันดูนะคะ 00:02:31.180 --> 00:02:32.440 ว่ามีใครเอาไปขายไหม 00:02:32.620 --> 00:02:34.680 แต่ถ้าถามถึงชื่อของเส้นทางสายไหมแล้ว 00:02:34.680 --> 00:02:38.340 ก็ต้องบอกว่าเกี่ยวข้องกับผ้าไหม ไม่ใช่ cotton candy ค่ะ 00:02:38.720 --> 00:02:40.700 อะ คำถามแรกน่าสนใจไปแล้วเนอะ 00:02:40.700 --> 00:02:42.340 เรามาดูที่คำถามถัดไปกันค่ะ 00:02:42.460 --> 00:02:43.600 คำถามถัดไปนะคะ 00:02:43.600 --> 00:02:45.620 โอ้โห ชื่อคนถามเล่นเอางงเลยนะ 00:02:45.620 --> 00:02:47.620 แต่คำถามน่าสนใจ ดังนั้นอ่านต่อค่ะ 00:02:48.020 --> 00:02:50.720 คำถามนี้มาจากคุณ สับสน อิหยังวะ 00:02:50.880 --> 00:02:53.060 น่ะ ดูชื่อเค้านะคะ เค้าถามมาว่า 00:02:53.060 --> 00:02:56.400 "ถนนข้าวสารทำไมต้องชื่อข้าวสาร #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด" 00:02:56.500 --> 00:02:57.480 นี่ อันนี้ตอบง่าย ๆ เลย 00:02:57.600 --> 00:02:58.720 เพราะว่าถนนข้าวสารเนี่ย 00:02:58.720 --> 00:03:00.780 สมัยก่อนมันไม่ใช่ถนนแบบสายเที่ยว 00:03:00.780 --> 00:03:03.980 สายที่มีชาวต่างชาติเมาเละอะไรอย่างงี้แบบปัจจุบันนะ 00:03:04.100 --> 00:03:08.780 แต่ถนนข้าวสารเนี่ย เคยเป็นแหล่งค้าข้าวสาร ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานครค่ะ 00:03:08.780 --> 00:03:11.040 ก็คือ ถ้าใครอยากจะไปซื้อข้าวสาร 00:03:11.040 --> 00:03:12.660 ก็ต้องไปที่ถนนข้าวสารนี่แหละ 00:03:12.940 --> 00:03:16.100 ตรงตามชื่อเลยนะคะ คำถามนี้ตอบง่ายมากเลยทีเดียวค่ะ 00:03:16.340 --> 00:03:18.520 ปะ อย่างรวดเร็ว ไปที่คำถามที่ 3 ค่ะ 00:03:18.740 --> 00:03:21.780 คำถามที่ 3 นะคะ มาจากคุณ nisaratt ค่ะ 00:03:21.780 --> 00:03:26.000 เขาถามมาว่า "#วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด นิพพานไปไหนคะ ไปอยู่ยังไง" 00:03:26.100 --> 00:03:28.000 อู้หู เป็นคำถามที่ลึกซึ้งนะคะ 00:03:28.000 --> 00:03:31.440 เป็นคำถามที่พระพยายามจะตอบคำถามนี้กันมานาน 00:03:31.440 --> 00:03:34.580 เป็นคำถามที่ชาวพุทธจะต้องพยายามไป 00:03:34.680 --> 00:03:36.900 เพราะนี่คือจุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาพุทธใช่ไหม 00:03:36.900 --> 00:03:37.760 คือการนิพพาน 00:03:37.900 --> 00:03:39.380 ซึ่งเอาจริง ๆ ส่วนตัววิวเนี่ย 00:03:39.380 --> 00:03:42.520 ก็ไม่ได้ลึกซึ้งด้านศาสนาพุทธขนาดนั้นที่จะมาตอบคำถามนี้ 00:03:42.680 --> 00:03:44.260 แต่เอาตามความเข้าใจของวิว 00:03:44.260 --> 00:03:48.640 แล้วก็เอาตามหลักวิชาการ ที่อ่านหนังสือศาสนาต่าง ๆ มามากมายนะคะ 00:03:48.640 --> 00:03:51.280 นิพพาน ก็คือ ความสูญ ความสิ้น 00:03:51.280 --> 00:03:54.100 ความ แบบ ว่างเปล่า ความไม่มีอะไรเลย 00:03:54.320 --> 00:03:58.680 คือ ดับอะ คือแบบ ไม่มี ไม่มีอีกแล้ว ประมาณนั้นนะคะ 00:03:58.680 --> 00:04:01.300 ดังนั้น ถ้าเราจะบอกว่านิพพานหน้าตาเป็นยังไง 00:04:01.300 --> 00:04:03.580 นิพพานไปอยู่ยังไง ไม่อยู่ค่ะ 00:04:03.580 --> 00:04:06.620 คือการนิพพานก็คือการแบบ [ดีดนิ้ว] แล้วหายไปอะนะ 00:04:06.620 --> 00:04:10.000 ดังนั้น มันก็ ไม่มี ไม่ต้องไปอยู่ ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้นค่ะ 00:04:10.220 --> 00:04:13.200 ดูงง ๆ ดูเป็นปรัชญา แต่นี่ก็เป็นความเข้าใจของวิวอะนะคะ 00:04:13.200 --> 00:04:15.440 ซึ่งไม่แน่ใจว่าถูกหรือผิดยังไง 00:04:15.440 --> 00:04:17.760 เอาเป็นว่าถ้าใครที่เชี่ยวชาญด้านศาสนามากกว่าวิว 00:04:17.760 --> 00:04:20.140 ก็ comment มาคุยกันด้านล่างแล้วกันค่ะ 00:04:20.220 --> 00:04:23.440 สำหรับข้อต่อไปนะคะ เรากลับจากเรื่องที่เป็นแบบนามธรรม 00:04:23.440 --> 00:04:26.240 มาเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นรูปธรรมมากกว่าดีกว่านะคะ 00:04:26.480 --> 00:04:29.200 คือคำถามจากคุณ Chatchai Atthasathaworn นะคะ 00:04:29.200 --> 00:04:30.120 เขาถามมาว่า 00:04:30.200 --> 00:04:32.280 "#วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด พี่วิวคะ 00:04:32.520 --> 00:04:34.720 "ทำไมเวลาหาว จะต้องมีน้ำตาคะ 00:04:35.020 --> 00:04:38.364 "(หรือบางคนก็ไม่มี (ทุกคนว่าพี่วิวจะตอบเป็นวิทย์มะ 00:04:38.364 --> 00:04:39.300 เราว่า "ไม่")) 00:04:39.520 --> 00:04:42.660 บอกเลยว่า "ผิดค่ะ" เพราะวันนี้วิวจะตอบเป็นวิทย์นะคะ 00:04:42.880 --> 00:04:44.840 สาเหตุที่เวลาเราหาวแล้วมีน้ำตาเนี่ย 00:04:44.840 --> 00:04:47.160 ตามหลักวิทยาศาสตร์ เท่าที่วิวไปค้นมาเจอเนี่ยนะคะ 00:04:47.160 --> 00:04:48.860 เขาบอกว่า เวลาที่เราหาวเนี่ย 00:04:48.860 --> 00:04:50.660 มันคือกระบวนการของร่างกายเราค่ะ 00:04:50.660 --> 00:04:54.120 ที่ต้องการจะฮุบออกซิเจนเข้าไปในร่างกายให้มากที่สุดนะคะ 00:04:54.120 --> 00:04:57.040 เกิดขึ้นเมื่อเราอ่อนเพลีย นอนไม่พอ หรืออะไรต่าง ๆ 00:04:57.280 --> 00:05:00.040 ทำให้เลือดของเราเนี่ยต้องการออกซิเจนมากขึ้นน่ะนะ 00:05:00.180 --> 00:05:03.640 ดังนั้นก็เลยต้องหาวเหมือนกับว่าฮุบอากาศเข้าไปใหญ่ ๆ ค่ะ 00:05:03.640 --> 00:05:05.980 เพื่อให้ออกซิเจนเนี่ยเข้าไปในร่างกายมากที่สุด 00:05:06.260 --> 00:05:08.120 ทีนี้ การฮุบออกซิเจนแบบนี้นะคะ 00:05:08.120 --> 00:05:11.020 ก็ทำให้ความดันบริเวณหน้าของเราเนี่ยเปลี่ยนค่ะ 00:05:11.200 --> 00:05:12.700 คือ หน้าตาเรามันก็แบบ 00:05:12.920 --> 00:05:14.560 อะไรอย่างงี้ใช่ไหม เวลาเราหาว 00:05:14.720 --> 00:05:16.160 ทีนี้พอความดันเปลี่ยนปุ๊บ 00:05:16.160 --> 00:05:20.060 ร่างกายมันกลัวค่ะว่ากระจกตาของเราเนี่ยจะพังนะคะ 00:05:20.060 --> 00:05:21.840 จะแบบ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น 00:05:22.180 --> 00:05:25.280 ร่างกายก็เลยขับน้ำตาออกมาผ่านต่อมน้ำตาค่ะ 00:05:25.460 --> 00:05:27.740 เพื่อที่จะเอาน้ำตาเนี่ยนะคะ มาเคลือบตาเอาไว้ 00:05:27.740 --> 00:05:32.380 ป้องกันความเสียหายจากตา ที่เกิดจากการหาวที่รุนแรงเกินไปนั่นเองค่ะ 00:05:32.460 --> 00:05:34.120 เป็นไงคะ คำถามนี้บอกเลยว่า 00:05:34.260 --> 00:05:35.960 ตอบแบบวิทยาศาสตร์แล้วนะคะทุกคน 00:05:36.200 --> 00:05:38.720 คำถามถัดไปของเรานะคะ น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ 00:05:38.820 --> 00:05:40.660 เป็นคำถามที่มาจากคุณกิตติภัทรนะคะ 00:05:40.820 --> 00:05:42.080 คำถามเขาบอกมาว่า 00:05:42.280 --> 00:05:46.440 5 + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 ได้เท่าไหร่นะคะ 00:05:46.660 --> 00:05:48.300 โอ้โห โจทย์น่าสนใจมากจริง ๆ 00:05:48.420 --> 00:05:49.780 ต้องบอกว่าจากคำถามนี้นะคะ 00:05:49.780 --> 00:05:51.420 เกิดดรามาขึ้นบ่อยมากค่ะ 00:05:51.420 --> 00:05:53.080 แต่บางทีมันอาจจะมาในรูปแบบอื่นนะ 00:05:53.080 --> 00:05:54.820 คือมาในรูปแบบของเลข 7 บ้าง 00:05:54.820 --> 00:05:57.040 หรือมาในรูปแบบของโจทย์ที่แตกต่างกันไป 00:05:57.120 --> 00:05:59.620 แต่ทุกครั้งจะมีปัญหาก็คือ เราจะรู้สึกว่า 00:05:59.620 --> 00:06:02.240 เอ๊ ปกติเลขมันก็ต้องตอบเหมือน ๆ กันสิ 00:06:02.360 --> 00:06:04.680 ทำไมคราวนี้เรากับเพื่อนถึงตอบไม่เหมือนกัน 00:06:04.680 --> 00:06:06.760 คำตอบมันไม่แน่นอนหรือ หรือว่ายังไง 00:06:07.120 --> 00:06:09.340 เราถูก เพื่อนผิด หรือว่าเราผิด เพื่อนถูกกันแน่ 00:06:09.640 --> 00:06:11.760 ก็ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วมันมีวิธีการค่ะ 00:06:11.880 --> 00:06:14.120 ซึ่งเราเนี่ย เรียนกันมาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว 00:06:14.120 --> 00:06:16.800 แต่ว่าตอนนั้นโจทย์เราอาจจะไม่ได้ซับซ้อนเท่าไหร่ 00:06:16.800 --> 00:06:19.320 เราก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจวิธีการนั้นมากนะคะ 00:06:19.580 --> 00:06:22.240 วันนี้วิวไปขุดความรู้สมัยประถมมา 00:06:22.240 --> 00:06:24.680 แล้วก็เอามาเล่าให้ทุกคนฟังเรียบร้อยแล้วค่ะ 00:06:24.840 --> 00:06:27.920 มาเริ่มที่โจทย์ของเรากันก่อนดีกว่า โจทย์ของเราบอกไว้ว่า 00:06:28.560 --> 00:06:36.660 5 นะคะ + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 เท่ากับเท่าไหร่นะคะ 00:06:36.780 --> 00:06:39.220 บอกเลยว่าคำถามนี้หลายคนตอบไม่เหมือนกันค่ะ 00:06:39.540 --> 00:06:41.720 คำตอบกลุ่มแรกก็คือพวกที่บอกว่า 00:06:41.980 --> 00:06:44.360 เอา 5 บวก 5 นะ ได้เท่ากับ 10 00:06:44.760 --> 00:06:49.680 เสร็จแล้วก็เอา 10 เนี่ยไปหาร 5 ได้เท่ากับ 2 00:06:49.900 --> 00:06:53.640 เอา 2 เนี่ยนะ ไปบวกกับ 5 ได้เท่ากับ 7 00:06:53.940 --> 00:06:58.760 เสร็จแล้วก็เอา 7 ไปคูณกับ 5 ได้เท่ากับ 35 00:06:58.920 --> 00:07:04.440 แล้วก็เอาไปลบด้วย 5 ก็เลยจะได้คำตอบเท่ากับ 30 นั่นเองค่ะ 00:07:04.580 --> 00:07:06.520 ส่วนกลุ่มถัดไปนะคะ คิดต่างไปค่ะ 00:07:06.520 --> 00:07:08.640 เพราะว่าเขาเนี่ยทำยังไงรู้ไหม 00:07:09.000 --> 00:07:13.820 เขาเริ่มทำจากเอาบวกลบกันให้หมดก่อน แล้วด้วยค่อยมาคูณหารทีหลังค่ะ เขาก็บอกว่า 00:07:13.940 --> 00:07:16.780 โอเค เราเอา 5 บวก 5 นะ ได้เท่ากับ 10 00:07:17.100 --> 00:07:19.660 แล้วก็เอา 5 อันกลางเนี่ย บวกกันได้เท่ากับ 10 00:07:19.800 --> 00:07:22.880 แล้วก็เอา 5 ลบ 5 อันหลังนะ ได้เท่ากับ 0 00:07:23.080 --> 00:07:26.920 ดังนั้นนะ เมื่อเราเอา 10 มาหาร 10 เราก็จะได้เท่ากับ 1 00:07:27.180 --> 00:07:31.280 ส่วนเอา 1 เนี่ย มาคูณกับ 0 ได้เท่ากับ 0 ซะอย่างงั้นเลย 00:07:31.420 --> 00:07:33.220 เฮ้ย คำตอบนี้มันช่างสวยงามจริง ๆ 00:07:33.220 --> 00:07:34.760 ทำอะไรออกมาก็ได้เท่ากับ 0 00:07:35.040 --> 00:07:36.080 ส่วนกลุ่มสุดท้ายนะคะ 00:07:36.080 --> 00:07:39.840 คือกลุ่มที่ทำคูณหารก่อนค่ะ แล้วค่อยบวกลบนะคะ 00:07:40.000 --> 00:07:44.260 เขาก็จะบอกว่าเอา 5 เนี่ยนะ ตัวกลาง หาร 5 ได้เท่ากับ 1 00:07:44.540 --> 00:07:47.080 เอา 5 คูณ 5 ได้เท่ากับ 25 00:07:47.200 --> 00:07:52.260 25 บวก 1 ได้ 26 แล้วก็ลบออกด้วย 5 จะได้เท่ากับ 21 00:07:52.260 --> 00:07:53.760 แล้วก็บวกเข้าไปด้วย 5 ตัวแรก 00:07:53.760 --> 00:07:57.560 ดังนั้นคำตอบก็คือ 26 ซะอย่างงั้นเลยนะคะ 00:07:57.960 --> 00:08:00.200 ซึ่งก็เห็นไหมคะว่า เอาง่าย ๆ เนี่ย 00:08:00.200 --> 00:08:02.800 ถ้าสมมติว่าทำวิธีการสลับกันไปสลับกันมา 00:08:02.960 --> 00:08:05.320 ก็ได้คำตอบมาทั้งหมด 3 คำตอบแล้วนะคะ 00:08:05.480 --> 00:08:08.080 เช่นเดียวกันค่ะ ในสมัยก่อนเนี่ยนักคณิตศาสตร์ 00:08:08.080 --> 00:08:10.400 เขาก็เจอกับปัญหานี้เหมือนกันนะ เขาก็เจอว่า 00:08:10.540 --> 00:08:13.240 เฮ้ย การทำอะไรอย่างนี้ ถ้าทำต่างกัน ลำดับต่างกันนะ 00:08:13.240 --> 00:08:14.820 คำตอบมันก็จะไม่เหมือนกัน 00:08:15.020 --> 00:08:18.260 ดังนั้น วิธีแก้ก็คือเราควรจะกำหนดสิ่งหนึ่งขึ้นมาค่ะ 00:08:18.400 --> 00:08:21.480 ซึ่งสิ่งนี้นะคะ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า order of operations ค่ะ 00:08:21.480 --> 00:08:24.140 หรือว่าลำดับวิธีการทางคณิตศาสตร์นั่นเอง 00:08:24.320 --> 00:08:26.740 ก็กำหนดมาเป็นขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยเลยนะคะ 00:08:26.840 --> 00:08:29.480 โดยเด็กฝรั่งเนี่ยนะคะ เขาจะมีวิธีการจำง่าย ๆ กันค่ะ 00:08:29.480 --> 00:08:31.100 โดยเขาบอกให้จำคำว่า 00:08:31.220 --> 00:08:34.320 "Please excuse my dear Aunt Sally." นะคะ 00:08:34.420 --> 00:08:37.420 แล้วก็พอเขียนอย่างนี้ออกมาปุ๊บก็ให้ดูที่ตัวแรกค่ะ 00:08:37.420 --> 00:08:38.620 please เนี่ย คือ ตัว p 00:08:38.620 --> 00:08:41.880 p คืออะไร p คือ parentheses นะคะ 00:08:41.880 --> 00:08:45.560 ก็คืออะไรก็ตามที่อยู่ในวงเล็บเนี่ย ให้ทำก่อนค่ะ 00:08:45.820 --> 00:08:47.440 ส่วน e นะคะ คือ exponents 00:08:47.440 --> 00:08:50.360 อะไรที่เป็น exponential เป็นการยกกำลังต่าง ๆ 00:08:50.360 --> 00:08:52.040 ให้ทำเป็นลำดับที่ 2 นะคะ 00:08:52.320 --> 00:08:54.900 ส่วนตัวที่ 3 ค่ะ ก็คือ my dear 00:08:54.900 --> 00:08:58.320 my dear คือ multiplication and division นะคะ 00:08:58.320 --> 00:09:01.960 ก็คืออะไรที่เป็นการคูณ-การหารเนี่ย ให้ทำก่อนนะคะ 00:09:01.960 --> 00:09:04.540 และสุดท้ายค่ะ ก็คือ Aunt Sally 00:09:04.660 --> 00:09:07.840 Aunt Sally นี่ก็คือ add or subtraction นะคะ 00:09:07.840 --> 00:09:09.180 หรือว่าบวก-ลบ นั่นเอง 00:09:09.360 --> 00:09:12.140 พูดง่าย ๆ นะ ถ้าสมมติว่าเราไปจับซับภาษาอังกฤษไม่ได้ 00:09:12.180 --> 00:09:14.920 เพราะว่าเราก็คงไม่คุ้นกับศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้ 00:09:14.920 --> 00:09:16.960 เรียกการบวกลบคูณหารยกกำลังนะ 00:09:17.300 --> 00:09:19.080 คิดง่าย ๆ ค่ะ เจอโจทย์อะไรก็ตาม 00:09:19.080 --> 00:09:21.800 อย่างแรกที่ต้องทำ ดูก่อนว่ามีวงเล็บไหมนะคะ 00:09:21.800 --> 00:09:23.760 ถ้ามีวงเล็บทำในวงเล็บก่อนค่ะ 00:09:23.980 --> 00:09:25.080 ส่วนอย่างที่สองนะคะ 00:09:25.080 --> 00:09:28.000 อะไรที่เป็นเลขยกกำลัง จัดการให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่ะ 00:09:28.220 --> 00:09:30.280 แล้วอย่างที่สามนะคะ ถ้าไม่มีอะไรเหลือแล้วเนี่ย 00:09:30.280 --> 00:09:31.760 ให้ทำคูณ-หารก่อนค่ะ 00:09:31.880 --> 00:09:33.860 และสุดท้ายที่ต้องทำท้ายสุด ๆ เลยนะคะ 00:09:33.860 --> 00:09:35.740 ก็คือการบวก-ลบ นั่นเองค่ะ 00:09:35.980 --> 00:09:38.720 ยกตัวอย่างนะคะ ถ้าสมมติว่าเรามีโจทย์หน้าตาแบบนี้ 00:09:39.080 --> 00:09:44.700 (3 + 5) × 4 - 3² ÷ 7 00:09:45.100 --> 00:09:48.240 เราจะต้องทำอะไรก่อน อะ สิ่งที่เราต้องทำก่อนก็คือ 00:09:48.240 --> 00:09:49.500 แน่นอน วงเล็บ ใช่ไหมคะ 00:09:49.500 --> 00:09:52.500 ดังนั้น เราก็จะต้องเอา 3 + 5 ได้ 8 ก่อนค่ะ 00:09:52.680 --> 00:09:57.460 นี่ ตอนนี้เราก็จะได้กลายเป็น 8 × 4 - 3² ÷ 7 00:09:57.580 --> 00:09:59.020 สิ่งที่สองที่เราต้องทำคืออะไรคะ 00:09:59.020 --> 00:10:00.360 ตอนนี้วงเล็บไม่เหลือแล้ว 00:10:00.520 --> 00:10:03.620 สิ่งที่สองที่ต้องทำก็คือ ยกกำลังใช่ไหมคะ 00:10:03.900 --> 00:10:07.500 ดังนั้นค่ะ เราก็ต้องเอา 3² ให้ได้ 9 ก่อนนะคะ 00:10:07.520 --> 00:10:12.080 หลังจากนั้นเนี่ย โจทย์ของเราก็จะกลายเป็น 8 × 4 - 9 ÷ 7 ค่ะ 00:10:12.280 --> 00:10:15.440 ซึ่งในตอนนี้เองเนี่ย 2 ขั้นตอนสุดท้ายก็จะเข้ามานะคะ 00:10:15.440 --> 00:10:17.560 นั่นก็คือ ทำคูณหารก่อนค่ะ 00:10:17.560 --> 00:10:19.600 เราต้องเอา 8 × 4 ก่อนนะคะ 00:10:19.760 --> 00:10:21.200 8 × 1 = 8 8 × 2 = 16 00:10:21.200 --> 00:10:24.460 8 × 3 = 24 8 × 4 = 32 ค่ะ 00:10:24.860 --> 00:10:28.340 เราก็จะได้ 32 - 9 ÷ 7 นะคะ 00:10:28.640 --> 00:10:31.040 ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำถัดไปคืออะไรคะ 00:10:31.160 --> 00:10:34.480 คูณ-หาร เนี่ย ทำพร้อมกันใช่ไหม ดังนั้นเราต้องเอา 9 ÷ 7 ก่อน 00:10:34.480 --> 00:10:37.180 ซึ่ง 9 หาร 7 ไม่ลงตัวนะคะ ได้ประมาณ 00:10:37.180 --> 00:10:38.220 เท่าไหร่ก็ไม่รู้อะนะ 00:10:38.220 --> 00:10:41.280 ซึ่งอันนี้เป็นโจทย์ที่ตั้งไม่ดีเลย วิวตั้งเร็ว ๆ เมื่อกี้นะคะ 00:10:41.420 --> 00:10:43.360 แล้วค่อยเอาตัวเลขที่หารมาได้เนี่ย 00:10:43.480 --> 00:10:47.300 เอามาลบออกจาก 32 ก็จะเป็นอันได้คำตอบค่ะ 00:10:47.460 --> 00:10:49.900 ทีนี้เรากลับไปที่โจทย์เมื่อกี้ของเรานะคะ 00:10:50.300 --> 00:10:52.260 อื้อหือ มีความติวเตอร์สูงมากนะตอนนี้ 00:10:52.400 --> 00:10:54.480 พออุปกรณ์มันเหมาะกับการเรียนเนี่ย 00:10:54.640 --> 00:10:57.420 กลับไปที่โจทย์ของเราเมื่อกี้นะคะ โจทย์ของเราก็คือ 00:10:57.500 --> 00:11:04.220 5 + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 = ? 00:11:04.300 --> 00:11:07.420 อ้า ตามกฎเมื่อกี้เลยค่ะ เราต้องดูอย่างแรกคืออะไร 00:11:07.420 --> 00:11:09.400 อย่างแรกก็คือ ดูวงเล็บก่อนนะคะ 00:11:09.400 --> 00:11:11.520 ซึ่งในโจทย์ของเรารอบนี้ไม่มีวงเล็บค่ะ 00:11:11.640 --> 00:11:14.860 ข้อที่สอง มียกกำลังไหม ยกกำลังก็ไม่มีเหมือนกันนะคะ 00:11:14.860 --> 00:11:18.240 ดังนั้นขั้นตอนถัดไปก็คือ คูณ-หาร นั่นเองค่ะ 00:11:18.520 --> 00:11:20.500 ไหน ในโจทย์ของเรามีคูณ-หาร ตรงไหนบ้าง 00:11:20.620 --> 00:11:22.520 มีคู่นี่ใช่ไหมคะ กับคู่นี้ 00:11:22.520 --> 00:11:24.460 ดังนั้น เอา 5 หาร 5 ก่อนเลยค่ะ 00:11:24.940 --> 00:11:27.940 5 หาร 5 ได้มาเป็นเท่ากับ 1 นะคะ 00:11:27.940 --> 00:11:30.400 ส่วน 5 คูณ 5 ได้เท่ากับ 25 ค่ะ 00:11:30.400 --> 00:11:34.900 ตอนนี้โจทย์ของเราก็จะกลายเป็น 5 + 1 + 25 - 5 00:11:34.900 --> 00:11:37.560 ซึ่งตอนนี้ หลังจากที่คำนวณเลขอะไรต่าง ๆ 00:11:37.560 --> 00:11:39.460 ด้วยการบวก-ลบ ระดับประถมอะนะ 00:11:39.460 --> 00:11:42.620 เราก็จะได้คำตอบมาเท่ากับ 26 นั่นเองค่ะ 00:11:42.660 --> 00:11:44.920 ดังนั้น นี่ก็คือคำตอบของโจทย์ที่บอกว่า 00:11:44.920 --> 00:11:49.280 5 + 5 ÷ 5 + 5 × 5 - 5 = ? นะคะ 00:11:49.520 --> 00:11:51.600 เช่นเดียวกับโจทย์อื่น ๆ ที่เราจะไปเจอค่ะ 00:11:51.600 --> 00:11:55.320 ถ้าสมมติว่า เราไปเจอโจทย์อันไหนที่มันงง ๆ ในอินเทอร์เน็ตอีก 00:11:55.320 --> 00:11:57.780 ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ได้ หมดเลยนะคะ 00:11:57.780 --> 00:12:00.580 เท่านี้เราก็จะตอบได้ถูกต้องแล้วค่ะ 00:12:00.740 --> 00:12:02.220 ก็เป็นอันจบคำถามนี้ไปนะคะ 00:12:02.220 --> 00:12:03.820 วันนี้อธิบายแบบละเอียดนิดนึง 00:12:03.820 --> 00:12:05.660 ดูมีความเป็นติวเตอร์นิดนึงนะ 00:12:05.660 --> 00:12:07.880 อย่างไรก็ตามก็อันนี้มันเป็นเรื่องนึง 00:12:07.880 --> 00:12:10.040 ที่รู้สึกว่าเป็นพื้นฐานที่เป็นประโยชน์มาก ๆ 00:12:10.040 --> 00:12:11.420 ก็อยากให้ทุกคน ตอบกันได้ค่ะ 00:12:11.420 --> 00:12:13.980 เราไปที่คำถามถัดไปกันดีกว่านะคะ 00:12:13.980 --> 00:12:15.480 คำถามถัดไปมาจากใครเอ่ย 00:12:15.760 --> 00:12:17.080 โอ้โห คำถามถัดไปนะคะ 00:12:17.080 --> 00:12:18.680 บอกเลย คนนี้พิเศษจริง ๆ ค่ะ 00:12:18.680 --> 00:12:20.120 มาจากน้องคนสวยคนนึงนะคะ 00:12:20.120 --> 00:12:21.960 ชื่อว่า น้อง Point of View ค่ะ 00:12:21.960 --> 00:12:25.340 เขาถามมาว่า เอาคอมพิวเตอร์มาโชว์เขียนไปเขียนมาขนาดนี้ 00:12:25.340 --> 00:12:26.960 มีอะไรพิเศษรึเปล่าคะ 00:12:27.140 --> 00:12:30.440 โอ้โห บอกเลยนะคะ น้องคนนี้ถามได้ตรงใจสุด ๆ ค่ะ 00:12:30.580 --> 00:12:33.420 ไม่น่าเชื่อเลย ไม่รู้ว่าน้องเขารู้ล่วงหน้าได้ยังไงเนี่ย 00:12:33.420 --> 00:12:34.580 ว่าคลิปนี้เราจะมี 00:12:34.780 --> 00:12:38.160 โน้ตบุ๊ก HP Spectre X360 2020 00:12:38.480 --> 00:12:40.900 ที่มาพร้อมกับดีไซน์ gem cut สุดหรู 00:12:41.080 --> 00:12:44.000 สวย เท่ ดูแข็งแรง แต่บางเบา 00:12:44.100 --> 00:12:46.200 น้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัม 00:12:46.420 --> 00:12:49.900 ขอบจอบางเฉียบ หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว 00:12:50.080 --> 00:12:52.740 ทนทาน พับได้ถึง 360 องศา 00:12:53.060 --> 00:12:55.080 พกพาไปทำงานที่ไหนก็ได้ 00:12:55.880 --> 00:13:00.820 HP Spectre X360 มาพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home 00:13:01.000 --> 00:13:05.200 และโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 ของแท้ 00:13:05.200 --> 00:13:07.780 ทำให้สามารถใช้โปรแกรม Microsoft Word, 00:13:07.900 --> 00:13:10.560 Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint 00:13:10.860 --> 00:13:12.640 OneNote ทำงานได้ 00:13:13.060 --> 00:13:17.240 ใช้ Microsoft Teams สำหรับ Online Conference หรือ E-learning 00:13:17.520 --> 00:13:19.220 จะแต่งรูป ตัดวิดีโอ 00:13:19.300 --> 00:13:22.020 หรือเล่นเกมเบา ๆ ก็จบได้ในเครื่องเดียว 00:13:22.960 --> 00:13:25.700 อะ พอได้แล้วล่ะ เอาจริง ๆ นะคะ วิวอยากจะบอกว่า 00:13:25.780 --> 00:13:26.700 คือจริง ๆ เนี่ยนะคะ 00:13:26.700 --> 00:13:30.900 วิวมีโอกาสได้โน้ตบุ๊ก HP Spectre X360 เครื่องนี้มาลองใช้ค่ะ 00:13:31.000 --> 00:13:32.960 ซึ่งพอลองใช้ดูเนี่ยก็พบว่า 00:13:32.960 --> 00:13:35.400 มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่มันสะดวกสบายมาก ๆ นะคะ 00:13:35.400 --> 00:13:37.440 ก็เลยอยากเอามาเล่าให้ทุกคนฟังเท่านั้นแหละ 00:13:37.640 --> 00:13:38.760 คืออย่างแรกเนี่ยนะคะ 00:13:38.760 --> 00:13:41.180 เครื่องนี้มันเป็นกึ่ง Tablet กึ่ง Notebook ค่ะ 00:13:41.180 --> 00:13:45.080 ดังนั้น มันเป็นโน้ตบุ๊กที่สามารถใช้หน้าจอทัชสกรีนได้นะคะ 00:13:45.340 --> 00:13:49.200 แล้วเท่านั้นยังไม่พอนะ มันก็พับได้ 360 องศานะ อย่างนี้เป็นต้น 00:13:49.200 --> 00:13:51.720 นี่ เห็นปะ พับได้ทุกองศาเลยนะคะ 00:13:51.720 --> 00:13:55.860 สามารถเอามาตั้งเป็นแท็บเล็ตแบบนี้ หรือว่าจะพับให้สุดไปเลย 00:13:56.060 --> 00:13:59.800 สุดขึ้นมาอีกด้านนึงเลยแบบนี้ ก็ได้เหมือนกันนะคะ 00:13:59.800 --> 00:14:01.740 นี่ ก็คือไม่ต้องกลัวหักอะไรเลย 00:14:01.740 --> 00:14:04.220 แล้วก็สามารถใช้งานได้สะดวกสบายมาก ๆ 00:14:04.320 --> 00:14:06.900 สมมติว่าเราพรีเซนต์งานอยู่ อะไรอย่างนี้ 00:14:06.900 --> 00:14:08.540 อยากให้ลูกค้าเห็นฝั่งตรงข้ามนะ 00:14:08.540 --> 00:14:10.700 เราก็สามารถแบบ เนี่ยปรับขึ้นมาอย่างนี้ 00:14:10.700 --> 00:14:12.640 แล้วแสงหน้าวิวก็จะมืดนะคะ ไม่เป็นไร 00:14:12.920 --> 00:14:15.660 แล้วก็สามารถให้แบบ เขียนอะไรให้ลูกค้าดูได้ทันที 00:14:15.660 --> 00:14:17.620 เท่านั้นยังไม่พอ มันยังมีปากกามาด้วยนะทุกคน 00:14:17.620 --> 00:14:19.940 ก็สามารถเขียนได้เลย อะไรต่าง ๆ อย่างนี้ 00:14:20.220 --> 00:14:23.420 หรือว่า ใครพิมพ์เอกสารอะไรใน Microsoft Word นะคะ 00:14:23.620 --> 00:14:26.100 พอพิมพ์เสร็จปุ๊บ อยากเซ็นเอกสารเนี่ย 00:14:26.100 --> 00:14:29.400 ก็สามารถเปลี่ยนโหมดมาใช้ปากกา แล้วก็เซ็นได้เลย 00:14:29.400 --> 00:14:31.260 คือจัดหน้าง่าย เพราะมันเป็นคอมพิวเตอร์ 00:14:31.260 --> 00:14:33.820 มันไม่ใช่แบบแท็บเล็ตอะไรที่เราจะต้องมาแบบว่า 00:14:33.820 --> 00:14:35.400 เอ้ย จัดหน้าเด้งไปเด้งมา 00:14:35.500 --> 00:14:37.060 มันก็คือคอมพิวเตอร์ธรรมดาทั่วไป 00:14:37.060 --> 00:14:39.920 แต่ว่าพอมีปากกาเนี่ย เราก็เซ็นได้เลย 00:14:39.920 --> 00:14:40.960 เหมือนกับใช้แท็บเล็ต 00:14:40.960 --> 00:14:43.220 หรือว่าเหมือนกับใช้เมาส์ปากกาเลยทีเดียวค่ะ 00:14:43.360 --> 00:14:45.680 เรียกได้ว่า การใช้งานเนี่ยยืดหยุ่นมาก ๆ นะคะ 00:14:45.680 --> 00:14:48.520 สามารถใช้งานได้หลากหลายแบบจริง ๆ นะทุกคน 00:14:48.640 --> 00:14:51.380 เท่านั้นยังไม่พอนะคะ ไฮไลต์อีกอย่างนึงของเครื่องนี้เลยเนี่ย 00:14:51.380 --> 00:14:53.600 ก็คือสิ่งที่วิวรำคาญมาตั้งแต่เด็ก 00:14:53.720 --> 00:14:55.660 คือตั้งแต่เด็กเนี่ย เวลาไปซื้อคอมพิวเตอร์นะคะ 00:14:55.660 --> 00:14:57.700 เราก็จะต้องไปหาซื้อระบบปฏิบัติการเนี่ย 00:14:57.700 --> 00:14:59.160 มาลงคอมพิวเตอร์เองใช่ไหม 00:14:59.160 --> 00:15:00.920 ลงไป เอ๊ เราลงเป็นหรือไม่เป็น 00:15:00.920 --> 00:15:02.720 จะต้องให้ร้านลงให้รึเปล่านะคะ 00:15:03.000 --> 00:15:07.220 แต่เครื่องนี้ซื้อมาปุ๊บมันมาพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เลยค่ะ 00:15:07.320 --> 00:15:09.120 คือเรียกได้ว่าลงมาล่วงหน้าแล้ว 00:15:09.120 --> 00:15:11.180 แกะกล่องออกมาปุ๊บ เปิดซีลปึ้บ 00:15:11.280 --> 00:15:14.480 ใส่อีเมลตัวเอง ใส่พาสเวิร์ด ทุกอย่างก็กลับมาเลยนะคะ 00:15:14.480 --> 00:15:16.560 สามารถใช้งานได้เลย แล้วก็มี OneDrive 00:15:16.660 --> 00:15:19.860 ซึ่งเป็น cloud มีข้อมูลของเราอยู่ในนั้นอยู่แล้ว 00:15:19.860 --> 00:15:22.340 เราก็สามารถโหลดเอกสารอะไรมาทำงานได้เลย 00:15:22.420 --> 00:15:23.800 เรียกได้ว่าออกจากร้านปุ๊บนะคะ 00:15:23.800 --> 00:15:26.160 เปิดกล่องทำงานเดี๋ยวนั้นเลยก็ได้นะ 00:15:26.260 --> 00:15:28.720 ที่สำคัญนะคะ เขายังมีอีกอย่างนึงแถมมาให้ค่ะ 00:15:28.760 --> 00:15:32.060 นั่นก็คือ Microsoft Office Home & Student 2019 นะคะ 00:15:32.160 --> 00:15:36.160 ซึ่งเราก็รู้กันน่ะว่า พวกเราทั้งคนที่ทำงานแล้วก็คนที่เรียนเนี่ย 00:15:36.160 --> 00:15:38.800 เราใช้โปรแกรมของ Microsoft Office เยอะขนาดไหน 00:15:38.800 --> 00:15:40.980 ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word, Microsoft Excel, 00:15:40.980 --> 00:15:42.180 Microsoft PowerPoint 00:15:42.300 --> 00:15:44.500 แล้วก็ Microsoft อีกหลากหลายต่าง ๆ น่ะนะ 00:15:44.500 --> 00:15:46.760 แต่ว่า 3 อันนี้คือ 3 อันที่เราใช้หลัก ๆ ใช่ไหม 00:15:47.020 --> 00:15:49.880 เครื่องนี้แถมของแท้มาให้เลยนะคะ เรียกได้ว่า 00:15:50.200 --> 00:15:51.740 มาถึงก็ใช้ได้เลยนะ 00:15:52.000 --> 00:15:55.340 ซึ่งปกติถ้าสมมติว่าเราไปซื้อพวก Microsoft Office แยกเนี่ย 00:15:55.340 --> 00:15:58.040 รู้กันไหมว่า ของแท้เนี่ยราคาถึง 00:15:58.260 --> 00:16:00.820 4,299 เลยนะคะ 00:16:00.940 --> 00:16:02.680 ของแถมเนี่ยราคา 4,000 กว่าเลยนะ 00:16:02.680 --> 00:16:04.020 ไม่รวม Windows นะทุกคน 00:16:04.420 --> 00:16:05.660 แอบกระซิบนิดนึงนะคะว่า 00:16:05.660 --> 00:16:07.840 ช่วงนี้ใครต้องเรียนต้องทำงานออนไลน์เนี่ย 00:16:07.840 --> 00:16:10.380 ก็สามารถไปโหลดโปรแกรมอีกโปรแกรมนึงมาใช้ได้ค่ะ 00:16:10.740 --> 00:16:12.700 นั่นก็คือ Microsoft Teams นั่นเอง 00:16:13.000 --> 00:16:16.400 ซึ่งมันก็สามารถใช้ทั้งประชุมออนไลน์ ทำ online conference 00:16:16.400 --> 00:16:18.160 presentation อะไรต่าง ๆ ได้ 00:16:18.320 --> 00:16:19.880 ส่วนตัววิวเนี่ย วิวลองใช้แล้วนะ 00:16:19.880 --> 00:16:22.120 แล้วก็รู้สึกว่า เออ มันค่อนข้างเสถียรเลยทีเดียว 00:16:22.120 --> 00:16:24.820 ก็สะดวกมาก เหมาะมากนะคะ กับการทำงาน 00:16:24.820 --> 00:16:27.140 หรือว่าการเรียนในช่วงเวลาแบบนี้ค่ะ 00:16:27.380 --> 00:16:30.260 เท่านั้นยังไม่พอนะ สิ่งนึงที่แบบใช้งานมาสักพักแล้ว 00:16:30.260 --> 00:16:31.620 อันนี้ใช้มาเกือบอาทิตย์แล้วอะ 00:16:31.780 --> 00:16:34.920 แล้วค้นพบว่ามันแบบสุดจริง ๆ ไม่น่าเชื่อเลยก็คือ 00:16:35.120 --> 00:16:36.380 ก่อนอัดวิดีโอนี้นะคะ 00:16:36.380 --> 00:16:37.800 เพราะว่าวิวกลัวว่าคอมจะดับ 00:16:37.800 --> 00:16:39.900 นี่เป็นครั้งแรกค่ะ ตั้งแต่วิวเริ่มใช้งาน 00:16:39.900 --> 00:16:43.100 ที่วิวเอาสายชาร์จจิ้มเข้าไปที่คอมเครื่องนี้นะคะ 00:16:43.100 --> 00:16:45.820 เพราะว่า คือวิวอะไม่รู้ว่าใช้จริงมันได้กี่ชั่วโมงนะ 00:16:45.820 --> 00:16:49.320 แต่ว่าเขาอะบอกว่าใช้ได้ทั้งหมด 22 ชั่วโมงนะคะ 00:16:49.320 --> 00:16:52.760 และที่สำคัญ เมื่อกี้ก่อนอัดวิดีโอ วิวก็จิ้มชาร์จไว้แปปเดียวค่ะ 00:16:52.880 --> 00:16:54.280 มันก็ได้ตามที่เขาบอกเลย 00:16:54.280 --> 00:16:56.240 คือ เครื่องนี้ชาร์จด้วย USB-C นะคะ 00:16:56.240 --> 00:16:58.140 ซึ่งเป็น fast charger ค่ะ 00:16:58.140 --> 00:17:02.160 คือพอชาร์จปุ๊บเนี่ย แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นนะ ชาร์จได้ 50% 00:17:02.480 --> 00:17:04.300 100% ใช้ได้ 22 ชั่วโมง 00:17:04.300 --> 00:17:07.880 แปลว่า เราชาร์จครึ่งชั่วโมง ใช้ได้ 11 ชั่วโมงเลยนะคะ 00:17:08.020 --> 00:17:11.700 อื้อหือ ใช้ได้นานจริง ๆ อันนี้แบบ ประทับใจมากจริง ๆ 00:17:11.700 --> 00:17:14.000 จากคนที่แบบว่าชอบลืมสายชาร์จ 00:17:14.000 --> 00:17:16.440 หรือเป็นคนที่ไม่ชอบพกสายชาร์จออกจากบ้านน่ะนะ 00:17:16.600 --> 00:17:19.800 นี่ไม่นับเรื่องพวกแบบความปลอดภัย ที่เครื่องนี้มีอีกเพียบเลยนะคะ 00:17:19.800 --> 00:17:22.740 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสแกนหน้า การสแกนลายนิ้วมือ 00:17:23.100 --> 00:17:25.100 หรือว่าสิ่งที่เรียกว่า HP Sure View นะคะ 00:17:25.100 --> 00:17:26.880 ซึ่งเขาเป็นระบบป้องกันหน้าจอ 00:17:26.880 --> 00:17:28.460 คือแบบสมมติเราใช้งานอยู่อย่างนี้ 00:17:28.680 --> 00:17:29.960 ใช้งานเรียนออนไลน์อะไรอยู่ 00:17:29.960 --> 00:17:31.600 แล้วไม่อยากให้ใครเดินผ่านไปผ่านมา 00:17:31.600 --> 00:17:33.080 แล้วมาเห็นหน้าจอของเราเนี่ย 00:17:33.120 --> 00:17:34.820 เปิดปุ่มนี้เข้าไปนะคะ 00:17:34.960 --> 00:17:37.380 คนที่ใช้งานตรงหน้าเนี่ย มองเห็นหน้าจอได้ค่ะ 00:17:37.380 --> 00:17:39.720 แต่ว่าคนที่เดินมาข้าง ๆ 2 ข้างเนี่ย 00:17:39.720 --> 00:17:43.600 จะเห็นหน้าจอเป็นสีรุ้งเลยนะ เรียกได้ว่ามองไม่เห็นเลยค่ะว่าทำอะไรอยู่ 00:17:43.600 --> 00:17:45.120 ดังนั้น เหมาะมากกับการแบบ 00:17:45.320 --> 00:17:48.080 สมมติว่าไปเรียนในห้องเรียน หรือว่าไปทำงานที่ออฟฟิศ 00:17:48.080 --> 00:17:49.580 แล้วไม่อยากให้คนมาส่องแบบ 00:17:49.760 --> 00:17:52.100 เฮ้ย เธอดูอะไรอยู่อะ อะไรอย่างนี้นะคะ 00:17:52.460 --> 00:17:54.760 เอาจริง ๆ หลัก ๆ ก็อยากจะมาอวดเนี่ยแหละว่า 00:17:55.020 --> 00:17:57.020 ตอนนี้เพิ่งได้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่มาลอง 00:17:57.020 --> 00:17:58.520 แล้วมันก็ดีมากจริง ๆ นะคะ 00:17:58.520 --> 00:18:02.000 ดังนั้น ถ้าสมมติว่าสนใจกันก็สามารถลองไปดูรายละเอียด 00:18:02.000 --> 00:18:03.940 ได้ที่ description box ข้างล่างเนาะ 00:18:04.080 --> 00:18:06.880 สำหรับวันนี้นะคะ วิวก็คิดว่าวิวเวิ่นมามากพอแล้วแหละ 00:18:06.880 --> 00:18:10.100 ทั้งคำถามที่เป็นคำถามจริง ๆ คำถามสาระ 00:18:10.100 --> 00:18:13.020 คำถามน่าสนใจ คำถามเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ 00:18:13.020 --> 00:18:14.680 คำถามเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ 00:18:14.840 --> 00:18:17.520 คำถามเกี่ยวกับที่มาของคำศัพท์อะไรต่าง ๆ นะคะ 00:18:17.520 --> 00:18:20.480 เอาเป็นว่า ถ้าสมมติว่าใครมีคำถามอยากถามวิวอีกเนี่ย 00:18:20.480 --> 00:18:23.080 ก็สามารถติดแฮชแท็กนะคะ #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด 00:18:23.080 --> 00:18:25.140 แล้วก็ถามมาด้านล่างได้เลยค่ะ 00:18:25.200 --> 00:18:27.220 สำหรับรายการ #วิวเอ๋ยบอกข้าเถิด Ep. หน้า 00:18:27.220 --> 00:18:31.000 อาจจะเป็นคำถามของคุณค่ะ ที่ได้รับคำตอบในคลิปวิดีโอเนาะ 00:18:31.140 --> 00:18:32.820 สำหรับวันนี้นะคะ ใครชื่นชอบคลิปนี้ 00:18:32.820 --> 00:18:34.140 อย่าลืมกด like เป็นกำลังใจให้วิว 00:18:34.140 --> 00:18:36.440 แล้วก็กด share เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ 00:18:36.600 --> 00:18:39.800 ลาไปก่อนแล้วกันนะคะ บาย ๆ สวัสดีค่ะ 00:18:44.340 --> 00:18:45.620 สำหรับชีวิตของเราเนี่ยนะคะ 00:18:45.620 --> 00:18:48.800 เราก็ดำเนินมาถึงจุดที่เราสามารถ ตอบคำถามจากตัวเองได้แล้วนะคะ 00:18:48.800 --> 00:18:50.140 หลังจากที่คลิปก่อน ๆ เราเนี่ย 00:18:50.140 --> 00:18:52.080 ก็มีการถกเถียงกับตัวเองออกคลิปไป 00:18:52.080 --> 00:18:53.500 โต้วาทีกับตัวเองออกคลิปไป 00:18:53.740 --> 00:18:56.340 ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่าในช่วงนี้ก็ยังเป็นช่วงที่ 00:18:56.520 --> 00:18:57.880 เราค่อนข้างจะอยู่บ้านเยอะ 00:18:57.880 --> 00:19:00.540 เจอเพื่อน ๆ ก็เจอผ่าน online conference อะไรต่าง ๆ 00:19:00.540 --> 00:19:03.500 ยังไม่ค่อยได้ออกไปพบปะสังสรรค์อะไรขนาดนั้นนะคะ 00:19:03.500 --> 00:19:06.020 อยู่คนเดียวมาก ๆ ก็ทำอะไรแบบนี้ได้แหละ 00:19:06.220 --> 00:19:08.340 แต่ไม่เป็นไร เพราะว่าถึงเราจะอยู่คนเดียว 00:19:08.340 --> 00:19:12.080 แต่เราก็มีโน้ตบุ๊ก HP Spectre X360 ของเรา 00:19:12.080 --> 00:19:16.240 ที่เราสามารถเอามาเล่นอะไรต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุขนะคะ 00:19:16.480 --> 00:19:18.460 แหม่ ตอนจบแล้วก็ยังไม่เลิกอีกทุกคน 00:19:18.660 --> 00:19:21.160 ดังนั้น พอเถอะค่ะ วันนี้ลาไปก่อนละกันนะคะทุกคน 00:19:21.160 --> 00:19:23.120 บาย ๆ สวัสดีค่ะ