คุณควรเชื่อมั่นในความประทับใจแรกพบไหม? - ปีเตอร์ เมนเด้-ซีดเลคกี้ (Peter Mende-Siedlecki)
-
0:07 - 0:09ลองคิดไปว่าคุณกำลังชมการแข่งขันฟุตบอล
-
0:09 - 0:11มีเจ้าคนน่ารังเกียจนี่นั่งติดกับคุณ
-
0:11 - 0:12เขาส่งเสียงดังเอะอะ
-
0:12 - 0:13เขาทำเครื่องดื่มของเขาหกรดคุณ
-
0:13 - 0:15และเขาหัวเราะเย้ยหยันทีมที่คุณเชียร์
-
0:15 - 0:17หลายวันต่อมา คุณกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะ
-
0:17 - 0:20ในทันใดนั้นฝนก็เริ่มตกกระหน่ำลงมา
-
0:20 - 0:21ใครนะควรปรากฏตัวข้างๆ คุณ
-
0:21 - 0:22พร้อมกับหยิบยื่นร่มให้คุณ?
-
0:22 - 0:25เจ้าหมอนั่นเองที่คุณพบตอนชมการแข่งขันฟุตบอล
-
0:25 - 0:26คุณจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขา
-
0:26 - 0:28บนพื้นฐานของการพบกันครั้งที่สองนี้
-
0:28 - 0:30หรือ คุณยังคงยึดติดอยู่กับความประทับใจแรกพบ
-
0:30 - 0:32และไม่ให้ความสำคัญแก่คนๆ นี้
-
0:32 - 0:34การวิจัยทางจิตวิทยาสังคมชี้ให้เห็นว่า
-
0:34 - 0:37เราสร้างความประทับใจที่ยั่งยืนต่อผู้อื่นได้รวดเร็ว
-
0:37 - 0:39บนพื้นฐานพฤติกรรมของพวกเขา
-
0:39 - 0:41เราทำสิ่งนี้ได้ไม่ยากเย็น
-
0:41 - 0:43สรุปเป็นลักษณะนิสัยที่ติดตัว
-
0:43 - 0:45จากเพียงพฤติกรรมเดียว
-
0:45 - 0:45เช่น คำพูดกราดเกรี้ยว
-
0:45 - 0:47หรือ เดินซุ่มซ่าม
-
0:47 - 0:49โดยใช้ความประทับใจของเราเป็นแนวทาง
-
0:49 - 0:50เราสามารถทำนายได้แม่นยำ
-
0:50 - 0:53ว่าคนๆ นั้นจะแสดงพฤติกรรมอย่างไรในอนาคต
-
0:53 - 0:54ด้วยความรู้นี้
-
0:54 - 0:55ชายจากการแข่งขันฟุตบอล
-
0:55 - 0:57ดูเป็นคนไม่น่าคบ เมื่อคุณพบเขาครั้งแรก
-
0:57 - 1:00คุณอาจคาดว่าจะพบพฤติกรรมเช่นนั้นอีกมากในอนาคต
-
1:00 - 1:02ถ้าเป็นดังนั้น คุณอาจเลือกหลบเลี่ยงเขา
-
1:02 - 1:03ในครั้งต่อไปที่คุณเห็นเขา
-
1:03 - 1:05อย่างไรก็ดี เราสามารถเปลี่ยนแปลงความประทับใจของเรา
-
1:05 - 1:07เมื่อได้รับข้อมูลใหม่ๆ
-
1:07 - 1:10นักวิจัยพฤติกรรมได้ระบุ
-
1:10 - 1:12แบบแผนสอดคล้องที่ดูจะช่วยนำทาง
-
1:12 - 1:15กระบวนการปรับความประทับใจขึ้นใหม่
-
1:15 - 1:17ในมุมมองหนึ่ง การเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับบางคน
-
1:17 - 1:20ในด้านลบมากๆ และผิดทำนองคลองธรรม
-
1:20 - 1:21โดยทั่วไปมีผลกระทบที่รุนแรงกว่า
-
1:21 - 1:26การเรียนรู้ข้อมูลในด้านบวกมากๆ
และถูกทำนองคลองธรรม -
1:26 - 1:28ดังนั้นจึงเป็นโชคไม่ดีสำหรับเพื่อนใหม่
-
1:28 - 1:29จากการแข่งขันฟุตบอลของเรา
-
1:29 - 1:30พฤติกรรมไม่ดีระหว่างชมการแข่งขันของเขา
-
1:30 - 1:33อาจบดบังพฤติกรรมดีของเขาที่สวนสาธารณะ
-
1:33 - 1:36งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าอคตินี้เกิดขึ้น
-
1:36 - 1:39เพราะว่าพฤติกรรมผิดทำนองคลองธรรมช่วยบ่งบอก
-
1:39 - 1:40หรือเผยให้รู้ถึง
-
1:40 - 1:42ลักษณะนิสัยแท้จริงของบุคคลได้ดีกว่า
-
1:42 - 1:44ดังนั้นโดยตรรกะนี้
-
1:44 - 1:46สิ่งไม่ดีจึงมีอิทธิพลมากกว่าสิ่งดีเสมอ
-
1:46 - 1:48เมื่อมีการปรับความประทับใจขึ้นใหม่
-
1:48 - 1:50แต่ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
-
1:50 - 1:52รูปแบบการเรียนรู้บางอย่างดูเหมือนไม่
-
1:52 - 1:54นำไปสู่อคติแง่ลบชนิดนี้
-
1:54 - 1:57เช่น การเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถ
และสมรรถภาพของผู้อื่น -
1:57 - 1:58เป็นต้น
-
1:58 - 2:00อคตินี้ถูกพลิกกลับ
-
2:00 - 2:01โดยแท้จริงแล้วข้อมูลด้านบวก
-
2:01 - 2:04ได้รับน้ำหนักมากกว่า
-
2:04 - 2:05เรากลับไปที่การแข่งขันฟุตบอล
-
2:05 - 2:07ถ้าผู้เล่นทำประตูได้
-
2:07 - 2:08ก็จะมีผลกระทบที่รุนแรงกว่า
-
2:08 - 2:10ต่อความประทับใจของคุณต่อทักษะของผู้เล่น
-
2:10 - 2:12มากกว่ายามที่พวกเขายิงประตูพลาด
-
2:12 - 2:14ทั้งสองด้านของการปรับความประทับใจขึ้นใหม่
-
2:14 - 2:16สอดคล้องต้องกันอย่างมากทีเดียว
-
2:16 - 2:18โดยภาพรวม บรรดาพฤติกรรมที่รับรู้ได้
-
2:18 - 2:21ว่าเกิดไม่บ่อยนัก จะเป็นพฤติกรรมที่
-
2:21 - 2:23ผู้คนมักให้น้ำหนักกันมากกว่า
-
2:23 - 2:26เมื่อมีการสร้างและปรับความประทับใจขึ้นใหม่
-
2:26 - 2:27ได้แก่ การกระทำผิดทำนองคลองธรรมร้ายแรง
-
2:27 - 2:29และการกระทำที่เปี่ยมสมรรถภาพ
-
2:29 - 2:32ดังนั้น เกิดอะไรขึ้นในระดับสมองของเรา
-
2:32 - 2:34เมื่อเรากำลังปรับความประทับใจของเราขึ้นใหม่?
-
2:34 - 2:35โดยการใช้ fMRI,
-
2:35 - 2:38หรือ การทำงานของการสร้างภาพด้วยการเกิดเรโซแนนซ์แม่เหล็ก (functional Magnetic Resonance Imaging)
-
2:38 - 2:39นักวิจัยได้ค้นพบ
-
2:39 - 2:41เครือข่ายของสมองที่ยืดออกไป
-
2:41 - 2:43ที่ตอบสนองต่อข้อมูลใหม่ๆ
-
2:43 - 2:46ที่ไม่สอดคล้องกับความประทับใจเริ่มแรก
-
2:46 - 2:48สิ่งเหล่านี้รวมทั้งพื้นที่เชื่อมโยง
-
2:48 - 2:50กับกระบวนการรับรู้ทางสังคม
-
2:50 - 2:51ความสนใจ
-
2:51 - 2:52และการควบคุมกระบวนการรับรู้
-
2:52 - 2:55ยิ่งกว่านั้น เมื่อปรับความประทับใจขึ้นใหม่
-
2:55 - 2:57บนพื้นฐานพฤติกรรมของผู้คน
-
2:57 - 3:00กิจกรรมที่เกิดขึ้นในสมองส่วน
ventrolateral prefrontal cortex -
3:00 - 3:02และ superior temporal sulcus
-
3:02 - 3:03มีความสัมพันธ์ร่วมกันกับความรับรู้
-
3:03 - 3:08ถึงความถี่ของพฤติกรรมเหล่านั้นที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
-
3:08 - 3:10พูดอีกอย่างก็คือ สมองดูเหมือนจะติดตามร่องรอย
-
3:10 - 3:13คุณสมบัติเชิงสถิติที่มีระดับต่ำ ของพฤติกรรม
-
3:13 - 3:16เพื่อทำการตัดสินใจที่ซับซ้อน
-
3:16 - 3:17เกี่ยวกับลักษณะนิสัยของผู้อื่น
-
3:17 - 3:18มันจำเป็นต้องชี้ขาดว่า
-
3:18 - 3:21พฤติกรรมของบุคคลนี้เป็นปกติทั่วไป
-
3:21 - 3:22หรือผิดแผกจากธรรมดา
-
3:22 - 3:23ในสถานการณ์
-
3:23 - 3:26ที่แฟนบอลผู้น่ารังเกียจกลับกลายเป็นคนใจดีมีเมตตา
-
3:26 - 3:27สมองของคุณจะคิดว่า
-
3:27 - 3:29จากประสบการณ์ของฉัน
-
3:29 - 3:32ส่วนมากใครๆ ก็จะให้ยืมร่มของพวกเขาแก่คนอื่นกันทั้งนั้น
-
3:32 - 3:34แต่สิ่งที่เจ้าหมอนี่ทำลงไประหว่างดูการแข่งขันฟุตบอล
-
3:34 - 3:36เป็นสิ่งผิดปกติ
-
3:36 - 3:39และดังนั้น คุณจึงตัดสินใจโดย
ยึดติดอยู่กับความประทับใจแรกพบของคุณ -
3:39 - 3:41เป็นเรื่องสอนใจที่ดีในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
-
3:41 - 3:43สมองของคุณ และรวมถึงตัวตนของคุณ
-
3:43 - 3:45อาจให้ความใส่ใจมากกว่าเกี่ยวกับ
-
3:45 - 3:47สิ่งต่างๆ ที่เป็นด้านลบผิดทำนองคลองธรรม
-
3:47 - 3:48ที่คนอื่นได้ทำลงไป
-
3:48 - 3:51เปรียบเทียบกับสิ่งต่างๆ
ที่เป็นด้านบวกถูกทำนองคลองธรรม -
3:51 - 3:52แต่มันเป็นผลทางตรง
-
3:52 - 3:56จากการที่พฤติกรรมไม่ดีพบเห็นได้ยากกว่า
-
3:56 - 3:58เราคุ้นเคยกันมากกว่ากับผู้คนที่โดยพื้นฐานเป็นคนดี
-
3:58 - 4:01ยอมสละเวลาช่วยเหลือคนแปลกหน้าในคราวจำเป็น
-
4:01 - 4:04ในบริบทนี้ ความไม่ดีอาจมีอิทธิพลมากกว่าความดี
-
4:04 - 4:07แต่เป็นเพียงเพราะความดีมีให้พบเห็นมากกว่า
-
4:07 - 4:09คิดถึงครั้งสุดท้ายที่คุณตัดสินใครบางคน
-
4:09 - 4:10บนพื้นฐานพฤติกรรมของพวกเขา
-
4:10 - 4:12โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่คุณรู้สึกจริงๆ
-
4:12 - 4:14เหมือนว่าคุณเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อใครบางคน
-
4:14 - 4:16พฤติกรรมที่เป็นเหตุให้คุณ
-
4:16 - 4:17ปรับความประทับใจของคุณขึ้นใหม่นั้น
-
4:17 - 4:19เป็นบางสิ่งที่คุณคาดหวังให้คนอื่นทำ
-
4:19 - 4:22หรือ เป็นบางสิ่งที่มันผิดแผกจากธรรมดา?
- Title:
- คุณควรเชื่อมั่นในความประทับใจแรกพบไหม? - ปีเตอร์ เมนเด้-ซีดเลคกี้ (Peter Mende-Siedlecki)
- Speaker:
- Peter Mende-Siedlecki
- Description:
-
ชมบทเรียนทั้งหมดได้ที่ http://ed.ted.com/lessons/should-you-trust-your-first-impression-peter-mende-siedlecki
บางครั้งคุณก็ไม่สามารถสลัดความรู้สึกแย่ ๆ ที่มีต่อใครบางคนออกได้ แล้วเกิดอะไรขึ้นในสมองของคุณเมื่อคุณทำสิ่งสำคัญ (และมักมีผลยืนนาน) ในการตัดสินคนที่พบกันครั้งแรก? ปีเตอร์ เมนเด้-ซีดเลคกี้ ร่วมแบ่งปันจิตวิทยาสังคมของความประทับใจแรกพบ และเหตุใดมันอาจแสดงว่า ลึกลงไป คนทั้งหลายโดยพื้นฐานเป็นคนดี
บทเรียนโดยปีเตอร์ เมนเด้-ซีดเลคกี้ ภาพเคลื่อนไหวโดย TOGETHER
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:39
![]() |
TED Translators admin edited Thai subtitles for Should you trust your first impression? | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Should you trust your first impression? | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut commented on Thai subtitles for Should you trust your first impression? | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Should you trust your first impression? | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Should you trust your first impression? | |
![]() |
Nuchapong Wongrajit commented on Thai subtitles for Should you trust your first impression? | |
![]() |
Nuchapong Wongrajit edited Thai subtitles for Should you trust your first impression? | |
![]() |
Nuchapong Wongrajit accepted Thai subtitles for Should you trust your first impression? |
Nuchapong Wongrajit
ผมมีจุดที่ขอเสนอปรับดังนี้ครับ
41.314 - 43.310 ความหมายน่าจะเป็น เราดูแค่ a single behavior แล้วสรุป (แบบอนุมาน) ว่าเป็น stable trait = ดูแค่ครั้งเดียวแล้วคิดว่าเขาเป็นแบบนั้นเสมอไป
1:35.628 - 1:39.875 diagnostic (เชิงวินิจฉัย) ตรงนี้น่าจะแปลว่า ช่วยระบุบ่งชี้ถึงสิ่งที่ไม่ดี โครงสร้างประโยคน่าจะเป็น Immoral behaviors are more diagnostic of a person's true character. ส่วน , or revealing, ขยายซ้ำว่า diagnostic ตรงนี้แปลว่าอะไร
2:37.878 'identified' คำนี้น่าจะตรงกับความหมาย 'discovered' และสังเกตว่า ท่อนที่ตามมาเป็นแค่ คำนาม (ไม่ได้ตามด้วย clause จึงไม่น่าใช้ "ระบุว่า") == นักวิจัยค้นพบว่ามีส่วนของสมองที่ทำหน้าที่นี้อยู่
Description: a bad feeling that's hard to shake - 'shake' ตรงนี้น่าจะใกล้เคียงกับ "สลัดออก" "สั่นคลอน" หมายถึง impression เกิดขึ้นแล้ว เปลี่ยนยาก ครับ
บางส่วนผมขอเสนอปรับภาษาไทย เพื่อให้อ่านได้ราบรื่นขึ้นครับ
Kelwalin Dhanasarnsombut
If you both agree on this draft, I think it's good to go. (Few changes can be altered, please let me know if you wish.)
Happy translation :) -Note