< Return to Video

ต้นถั่วของเมนเดลช่วยให้เราเข้าใจเรื่องพันธุศาสตร์อย่างไร - ออร์เทนเซีย ฮิเมเนส ดิแอซ (Hortensia Jiménez Díaz)

  • 0:15 - 0:16
    ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์รู้แล้วว่า
  • 0:16 - 0:19
    เราได้รับลักษณะต่าง ๆ จากพ่อแม่มาได้อย่างไร
  • 0:19 - 0:22
    ทั้งยังคำนวณความน่าจะเป็น
    ที่เราจะมีลักษณะหนึ่ง ๆ
  • 0:22 - 0:24
    หรือเป็นโรคทางพันธุกรรมได้
  • 0:24 - 0:26
    ด้วยข้อมูลจากพ่อแม่
    และประวัติครอบครัว
  • 0:26 - 0:28
    ว่าแต่ทำได้อย่างไรกัน
  • 0:28 - 0:31
    เพื่อทำความเข้าใจว่าลักษณะของสิ่งมีชีวิต
    ถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างไร
  • 0:31 - 0:33
    เราต้องย้อนกลับไปยังศตวรรษที่ 19
  • 0:33 - 0:36
    ไปหาชายชื่อ เกรกอร์ เมนเดล
  • 0:36 - 0:38
    เมนเดลเป็นนักบวช
    และนักชีววิทยาชาวออสเตรีย
  • 0:38 - 0:40
    ผู้รักพืชพันธุ์ต่าง ๆ
  • 0:40 - 0:42
    เมื่อเขาผสมพันธุ์ถั่วลันเตา
    ที่เขาเพาะเอาไว้ในสวนบริเวณอาราม
  • 0:42 - 0:45
    เกรกอร์ค้นพบหลักการ
    ของกฎการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  • 0:45 - 0:47
    ในตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดตัวอย่างหนึ่ง
  • 0:47 - 0:49
    เมนเดลผสมพันธุ์ถั่วเมล็ดสีเหลืองพันธุ์แท้
  • 0:49 - 0:51
    กับถั่วเมล็ดสีเขียวพันธุ์แท้
  • 0:51 - 0:53
    และได้มาแต่ถั่วเมล็ดสีเหลือง
  • 0:53 - 0:56
    เขาเรียกลักษณะสีเหลืองว่า ลักษณะเด่น
  • 0:56 - 0:59
    เพราะมันปรากฏในเมล็ดถั่วรุ่นลูกทั้งหมด
  • 0:59 - 1:01
    จากนั้น เขาให้เมล็ดถั่วพันธุ์ผสมนี้ผสมพันธุ์กันเอง
  • 1:01 - 1:05
    ในถั่วรุ่นที่สองนี้
    เขามีทั้งถั่วเมล็ดสีเหลืองและเขียว
  • 1:05 - 1:08
    ซึ่งหมายความว่าสีเขียวเป็นลักษณะที่ถูกข่มไว้
    ด้วยสีเหลืองที่เป็นลักษณะเด่น
  • 1:08 - 1:10
    เขาเรียกลักษณะที่ซ่อนไว้นี้ว่า ลักษณะด้อย
  • 1:10 - 1:12
    ด้วยผลนี้ เมนเดลสรุปว่า
  • 1:12 - 1:14
    ลักษณะแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับคู่ปัจจัย
  • 1:14 - 1:16
    ปัจจัยหนึ่งถ่ายทอดมาจากแม่
  • 1:16 - 1:17
    ส่วนอีกปัจจัยถ่ายทอดมาจากพ่อ
  • 1:17 - 1:19
    ปัจจุบันเราเรียกปัจจัยเหล่านี้ว่า อัลลีล (alleles)
  • 1:19 - 1:22
    ที่แสดงรูปแบบต่าง ๆ ของยีนหนึ่ง ๆ
  • 1:22 - 1:25
    ขึ้นอยู่กับว่าเมลเดลพบอัลลีลประเภทไหน
    ในถั่วแต่ละเมล็ด
  • 1:25 - 1:28
    เราสามารถได้ถั่วโฮโมไซกัส
    ซึ่งมีทั้งสองอัลลีลเหมือนกัน
  • 1:28 - 1:30
    และถั่วเฮเทอโรไซกัส
  • 1:30 - 1:32
    ที่มีสองอัลลีลที่ต่างกัน
  • 1:32 - 1:34
    การคู่ของอัลลีลนี้เรียกว่า จีโนไทป์
  • 1:34 - 1:36
    และผลลัพธ์ที่ได้ ว่าเป็นสีเหลืองหรือเขียว
  • 1:36 - 1:38
    เรียกว่า ฟีโนไทป์
  • 1:38 - 1:41
    เพื่อที่จะเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
    ว่าอัลลีลถูกแจกแจงในสู่รุ่นลูกหลานอย่างไร
  • 1:41 - 1:44
    เราสามารถสร้างแผนภาพที่เรียกว่า
    ตารางพันเนตต์ (Punnett square)
  • 1:44 - 1:46
    เพียงใส่อัลลีลแบบต่าง ๆ ลงในทั้งสองแกน
  • 1:46 - 1:48
    และหาการจัดคู่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้
  • 1:48 - 1:50
    เราลองดูตัวอย่างถั่วของเมนเดลกัน
  • 1:50 - 1:53
    แทนอัลลีลเด่นสีเหลืองด้วย Y ตัวใหญ่
  • 1:53 - 1:56
    และอัลลีลด้อยสีเขียวด้วย y ตัวเล็ก
  • 1:56 - 1:58
    Y ตัวใหญ่ข่ม y ตัวเล็กเสมอ
  • 1:58 - 2:00
    ดังนั้น คุณจะได้ถั่วรุ่นลูกเป็นสีเขียว
  • 2:00 - 2:02
    ก็ต่อเมื่อคุณมี y ตัวเล็กทั้งคู่
  • 2:02 - 2:05
    ในถั่วรุ่นแรกของเมนเดล
    ถั่วแม่พันธุ์โฮโมไซกัสสีเหลือง
  • 2:05 - 2:07
    จะถ่ายทอดอัลลีลเด่นสีเหลืองให้ลูกแต่ละตัว
  • 2:07 - 2:11
    ส่วนถั่วพ่อพันธุ์โฮโมไซกัสสีเขียว
    ก็จะถ่ายทอดอัลลีลด้อยสีเขียวให้
  • 2:11 - 2:14
    ฉะนั้น ถั่วรุ่นลูกทั้งหมด
    จึงเป็นถั่วเฮเทอโรไซกัสสีเหลือง
  • 2:14 - 2:15
    จากนั้น ในรุ่นที่สอง
  • 2:15 - 2:17
    ที่ให้รุ่นเฮเทอโรไซกัสผสมพันธุ์กันเอง
  • 2:17 - 2:20
    ถั่วที่ได้จะมีจีโนไทป์ที่เป็นไปได้สามแบบ
  • 2:20 - 2:22
    ที่จะแสดงฟีโนไทป์ที่เป็นไปได้ได้สองแบบ
  • 2:22 - 2:24
    ในสัดส่วนสามต่อหนึ่ง
  • 2:24 - 2:26
    แต่ว่า แม้แต่ถั่วก็มีลักษณะได้หลายอย่าง
  • 2:26 - 2:28
    ยกตัวอย่างเช่น
    นอกจากจะมีสีเหลืองหรือเขียวแล้ว
  • 2:28 - 2:30
    ผิวถั่วอาจจะเกลี้ยงหรือย่นก็ได้
  • 2:30 - 2:32
    ฉะนั้น อาจเกิดเป็นรูปแบบที่เป็นไปได้ทั้งหมดดังนี้
  • 2:32 - 2:34
    ถั่วเหลืองผิวเกลี้ยง
    ถั่วเขียวผิวเกลี้ยง
  • 2:34 - 2:36
    ถั่วเหลืองผิวย่น
    หรือถั่วเขียวผิวย่น
  • 2:36 - 2:39
    ในการคำนวณสัดส่วนสำหรับแต่ละ
    จีโนไทป์และฟีโนไทป์
  • 2:39 - 2:40
    เราก็ใช้ตารางพันเนตต์ได้เช่นกัน
  • 2:40 - 2:43
    แต่แน่นอนว่ามันจะซับซ้อนกว่าเดิมนิดหน่อย
  • 2:43 - 2:45
    และมันยังมีอะไรอีกหลายอย่าง
    ที่ซับซ้อนกว่าถั่วอีกเยอะ
  • 2:45 - 2:47
    เช่น มนุษย์ เป็นต้น
  • 2:47 - 2:50
    ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์มีความรู้
    ด้านพันธุศาสตร์และพันธุกรรมกว่าเดิมมาก
  • 2:50 - 2:53
    และยังมีอีกหลายวิธีที่ลักษณะบางอย่าง
    จะถูกส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น
  • 2:53 - 2:55
    แต่ทั้งหมดนั้น ล้วนเริ่มจากเมนเดลและถั่วของเขา
Title:
ต้นถั่วของเมนเดลช่วยให้เราเข้าใจเรื่องพันธุศาสตร์อย่างไร - ออร์เทนเซีย ฮิเมเนส ดิแอซ (Hortensia Jiménez Díaz)
Speaker:
Hortensia Jiménez Díaz
Description:

ชมบทเรียนเต็มได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/how-mendel-s-pea-plants-helped-us-understand-genetics-hortensia-jimenez-diaz

พ่อและแม่แต่ละคนต่างส่งผ่านลักษณะต่าง ๆ สู่ลูก ๆ ของพวกเขา ผู้ที่ได้รับลักษณะรผสมระหว่างแอลลีลเด่นและด้อย แต่ทุกวันนี้เรารู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ได้อย่างไร ออร์เทนเซีย ฮิเมเนส ดิแอซ อธิบายว่าการศึกษาเรื่องต้นถั่วบอกได้อย่างไรว่าเราอาจจะมีตาสีฟ้า

บทเรียนโดย Hortensia Jiménez Díaz, แอนิเมชันโดย Cinematic Sweden

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TED-Ed
Duration:
03:07

Thai subtitles

Revisions