-
สวัสดีค่า วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเนี่ยนะคะ
-
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีข่าวๆ หนึ่งใหญ่มากในประเทศไทยค่ะ
-
ก็คือข่าวสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
-
เสด็จเยือนประเทศไทย ใช่ไหมคะ?
-
ซึ่งแน่นอนค่ะว่า
-
เป็นเรื่องใหญ่มากๆ เลยนะ
-
เพราะว่า ถือว่าเป็นการที่สมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย
-
เสด็จเยือนประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 35 ปีเลยนะคะ
-
ซึ่งคราวที่แล้วก็เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 เนอะ
-
เราเห็นกันในภาพข่าวแล้วใช่ไหมคะ?
-
ว่าชาวคริสต์ที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย
-
ก็ปลาบปลื้มกันมากๆ ค่ะ
-
ออกไปต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปา
-
ออกไปเข้าเฝ้ากันอย่างล้นหลามเลย
-
แต่เชื่อว่าหลายๆ คนนะคะ
-
ที่ไม่ใช่ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย
-
ก็จะเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่า
-
ท่านเป็นใคร?
-
คือรู้แหละว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญ
-
แต่สำคัญระดับไหน?
-
ดังนั้นวันนี้นะคะ วิวก็เลยไปค้นหาข้อมูลมา
-
เพื่อที่จะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะว่า
-
สมเด็จพระสันตะปาปาคือใคร?
-
กว่าจะมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย
-
ต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง?
-
และสุดท้าย ใครบ้างที่มีสิทธิ์เป็นสมเด็จพระสันตะปาปา? นะคะ
-
ซึ่งเชื่อว่าพอฟังทุกขั้นตอนแล้วเนี่ยนะคะ
-
ทุกคนจะเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่เลยค่ะ
-
ว่าทำไมการที่สมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย
-
เสด็จเยือนประเทศไทย
-
ถึงเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ค่ะ
-
แต่ที่สำคัญนะคะ ก่อนที่จะไปฟัง
-
เรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระสันตะปาปากันเนี่ย
-
อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ
-
ไม่ว่าจะเป็นทาง Youtube, Facebook,
-
Twitter, Instagram นะคะ
-
สัญญาว่าจะมีคลิปวิดีโอสนุกๆ อีกมากมายให้ทุกคนได้ชมค่ะ
-
แล้วก็มีข่าวสารดีๆ มาบอกกันด้วยนะคะ
-
สำหรับตอนนี้ พร้อมจะไปฟัง
-
เรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ?
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
ขออนุญาตออกตัวก่อนนะคะ ก่อนที่จะเริ่มเล่าค่ะว่า
-
ในบางจุดบางตอนเนี่ย วิวอาจจะใช้คำราชาศัพท์ไม่เป๊ะบ้าง
-
อาจจะใช้ศัพท์เฉพาะที่แปลมาเป็นภาษาไทย
-
ไม่ตรงกับที่คริสตจักรในไทยใช้ บ้างนะคะ
-
ดังนั้นเชื่อว่าคนดูของวิวหลายๆ คนเนี่ยเป็นชาวคริสต์ค่ะ
-
สามารถคอมเมนต์เพิ่มเติมมาด้านล่าง
-
เพิ่มความรู้ให้วิวได้เลยนะคะ
-
ที่วิวจะนำมาเล่าวันนี้อาจจะเป็นข้อมูลคร่าวๆ
-
เป็นความรู้เบื้องต้นให้กับคนที่ไม่ทราบเลยนะคะ
-
ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาคือใคร
-
และขั้นตอนกว่าจะมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย
-
ผ่านอะไรมาบ้างค่ะ
-
ส่วนใครอยากอ่านเพิ่มเติมเองนะคะ
-
วิวลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้ว สามารถไปดูได้ค่ะ
-
เอาละ เริ่มกันเลยดีกว่านะคะ
-
ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปา
-
หรือที่เราเรียกว่า Pope เนี่ยนะคะ
-
คือตำแหน่งประมุขของคริสตจักรโรมันคาทอลิกค่ะ
-
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สืบทอดมาจากนักบุญเปโตรนะคะ
-
หรือที่หลายๆ คนจะคุ้นกันในชื่อของเซนต์ปีเตอร์นั่นเอง
-
ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ถือว่า
-
พระเยซูเนี่ยนะคะ ทรงแต่งตั้งให้กับนักบุญเปโตรค่ะ
-
หลังจากนั้นตำแหน่งนี้ก็สืบทอดกันมาเรื่อยๆ นะคะ
-
จากรุ่นสู่รุ่น สู่รุ่น สู่รุ่น
-
จนกระทั่งมาถึง
-
สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันนั่นเองค่ะ
-
ซึ่งองค์ปัจจุบันแนี่ย นับเป็นองค์ที่ 266 แล้วนะคะ
-
ก็สืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องเลย
-
และตำแหน่งนี้นะคะ
-
ไม่ใช่แค่ตำแหน่งประมุขของคริสตจักรค่ะ
-
เพราะว่าตั้งแต่ปี 1929 เนี่ยนะคะ
-
ตำแหน่งนี้มีความสำคัญเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งค่ะ
-
นั่นก็คือ ถือว่าเป็นประมุขของนครรัฐวาติกันด้วยค่ะ
-
วาติกันนี่ก็ถือว่าเป็นนครรัฐเล็กๆ
-
ที่ตั้งอยู่ในอิตาลีนะคะ
-
เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของ
คริสตจักรโรมันคาทอลิกในโลกนั่นเองค่ะ
-
ทีนี้เราก็รู้แล้วนะคะว่าสมเด็จพระสันตะปาปาคือใคร
-
ว่าแต่ ใครบ้างนะคะ
-
ที่มีสิทธิ์จะขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปา?
-
ต้องบอกว่าเงื่อนไขเนี่ยนะคะ
-
ถ้าพูดเอาตามกฎจริงๆ สุดๆ เลยเนี่ยนะคะ
-
เงื่อนไขง่ายมากค่ะ
-
เพราะว่ามี Requirement แค่ทั้งหมด 2 ข้อด้วยกันค่ะ
-
ข้อแรก ง่ายมาก นั่นก็คือ
-
คุณต้องเป็นเพศชายนะคะ
-
และข้อที่สองนะคะ ง่ายเหมือนกันเลยคือ
-
คุณต้องนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนั่นเอง
-
ก็เรียกได้ว่าผู้ชายคนไหนก็ตาม
-
ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
-
มีสิทธิ์ขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งสิ้นเลยค่ะ
-
ถ้าพูดกันตามกฎนะ
-
สำหรับใครที่ไม่รู้นะคะ
-
จริงๆ ศาสนาคริสต์มีหลายนิกาย
-
ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย
-
ก็จะอยู่ในนิกายโรมันคาทอลิกนั่นเองค่ะ
-
การที่จะบอกว่าใครคนหนึ่งนับถือศาสนาคริสต์
-
นิกายโรแมนคาทอลิก แปลว่าอะไร?
-
แปลว่าคนๆ นั้นนะคะ ต้องผ่านการรับศีลล้างบาปนะคะ
-
ก็คือพิธีล้างบาปกำเนิดนั่นเอง
-
เพราะว่าศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย
-
เชื่อว่าคนเราเกิดมามีบาปนะคะ จะต้องเข้ารับศีลอันนี้
-
เพื่อชำระล้างบาปออกไปค่ะ
-
ก็จะเป็นพิธีที่เอาน้ำราดหัว อะไรแบบนี้
-
ที่เราน่าจะเคยเห็นกันในหนังฝรั่ง
-
หรือว่าเราเคยเห็นตามข่าวต่างๆ ที่แบบ
-
เด็กๆ เกิดมาใหม่ๆ เขาจะต้องไปทำพิธีรับศีลกันใช่ไหมคะ?
-
ที่จะมีพ่อทูนหัว แม่ทูนหัว อะไรต่างๆ
-
แต่เราจะไม่ไปเจาะลึกตรงนี้ค่ะ
-
เอาเป็นว่ามีสองข้อนี้
-
ก็สามารถขึ้นเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาได้แล้วนะคะ
-
ตามกฎ
-
แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ ค่ะ
-
นับตั้งแต่ปีคริสต์ศักราชที่ 1378 เนี่ยนะคะ
-
นานมากมาแล้วเนี่ยนะ
-
ไม่มีใครที่ได้รับเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตะปาปา
-
โดยที่ไม่ได้ผ่านตำแหน่งๆ หนึ่งมาก่อนค่ะ
-
ตำแหน่งนั้นก็คือตำแหน่งพระคาร์ดินัลนั่นเอง
-
ดังนั้นเราก็อาจจะพูดได้นะคะว่า
-
การจะขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย
-
ต้องผ่านการเป็นพระคาร์ดินัลมาก่อน
-
เป็นกฎที่แบบ อาจจะไม่ได้เขียนลงไป
-
แต่ว่าก็เป็นกฎที่รู้กันค่ะ
-
ซึ่งถามว่าพระคาร์ดินัลคืออะไร?
-
ศัพท์เริ่มมาคำที่สองแล้วนะคะ
-
พระคาร์ดินัลเนี่ยนะคะ
-
ถ้าสมมุติเอาแบบรูปลักษณ์ภายนอกเนี่ยนะคะ
-
ถ้าเราไปดูตามข่าวตามอะไรต่างๆ
-
ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะที่วาติกันเนี่ย
-
เราจะเห็นว่าพระคาร์ดินัลคือคนที่
-
ใส่เครื่องแบบสีประมาณแดงๆ นะคะ
-
หน้าตาแบบนี้เลย
-
นี่ละค่ะ นี่คือพระคาร์ดินัลนะคะ
-
ถามว่า พระคาร์ดินัลคืออะไร?
-
พระคาร์ดินัลเนี่ยนะคะ
-
คือตำแหน่งพิเศษตำแหน่งหนึ่งของ
-
นักบวชในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกค่ะ
-
โดยคนที่เป็นพระคาร์ดินัลนะคะ
-
จะเป็นคนที่มีสิทธิ์เลือกสมเด็จพระสันตะปาปานั่นเองค่ะ
-
ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปพูดถึงที่หลังเนอะ
-
แต่เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า
-
กว่าคนๆ หนึ่งจะขึ้นมาเป็นพระคาร์ดินัลเนี่ยนะคะ
-
จะต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง?
-
ก่อนจะมาเป็นพระคาร์ดินัลค่ะ ขั้นตอนแรกที่สุดเลยคือ
-
คุณต้องเป็นบาทหลวงก่อนนะคะ
-
บาทหลวงเนี่ยก็คือนักบวช
-
ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกใช่ไหม?
-
ทีนี้ถามว่า คนธรรมดาคนหนึ่ง
-
จะขึ้นมาเป็นบาทหลวงได้ยังไง?
-
อย่างแรกที่สุดเลยค่ะ คือคุณต้องเป็นผู้ชาย
-
อันนี้เป็น Basic requirement ใช่ไหม?
-
และเป็นผู้ชายที่ตั้งใจไว้แล้วว่า
-
ฉันอยากจะเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก
-
ฉันจะต้องเป็นโสดตลอดชีวิต คือไม่แต่งงาน
-
แล้วก็จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศอีกต่อไปนะคะ
-
นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของทางจิตใจละ
-
เช่นแบบว่า ศรัทธาต่อพระเจ้า อะไรต่างๆ ค่ะ
-
ซึ่งกว่าที่คนๆ หนึ่งจะได้เป็นบาทหลวงเนี่ยนะคะ
-
ก็จะต้องมีการศึกษาอะไรต่างๆ
-
การเป็นบาทหลวงในนิกายอื่นเนี่ย เป็นยังไงไม่ทราบค่ะ
-
แต่ว่าการเป็นบาทหลวงในนิกายโรมันคาทอลิกเนี่ยนะคะ
-
ค่อนข้างจะเป็นเรื่องจริงจังค่ะ
-
หลายครั้งต้องการปริญญาด้วยนะ
-
ก็จะต้องมีการไปเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท อะไรต่างๆ
-
ซึ่งก็จะมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความเชื่อต่างๆ
-
ที่บาทหลวงจะนำไปใช้ได้ในการเป็นบาทหลวงน่ะนะคะ
-
เช่น การเรียนเรื่องเทววิทยา
-
การเรียนเรื่องปรัชญาคาทอลิก เป็นต้นค่ะ
-
ก็จะมีทั้งปริญญาตรี แล้วก็ปริญญาโทเลยทีเดียวนะคะ
-
หลังจากที่เรียนรู้อะไรต่างๆ แล้วเนี่ย
-
เมื่อคุณผ่านสิ่งที่โบสถ์แต่ละแห่งต้องการแล้วเนี่ยนะคะ
-
ก็ต้องเข้ารับศีลบวชค่ะ ก็คือศีลอนุกรมขั้นบาทหลวงนั่นเอง
-
เพื่อที่จะบวชเป็นบาทหลวงนะคะ
-
ซึ่งตรงนี้วิวจะไม่ขอเจาะลึก เพราะจริงๆ มันละเอียดมาก
-
มีศีลแบบชั้นต้น ศีลอนุกรมชั้นหนึ่ง ชั้นสอง
-
อันนี้เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ อันนี้เป็นศีลธรรมดา
-
อันนี้เป็นศีลที่ปรากฏในไบเบิล อันนี้เป็นศีลที่ไม่ปรากฏ
-
ซึ่งเดี๋ยวคลิปวิดีโอนี้จะยาวเกินไปค่ะ
-
ดังนั้นขออนุญาตข้ามไปนะคะ
-
ถ้าสมมุติว่าใครที่มีความรู้แล้วใจดี
-
ก็สามารถคอนเมนต์เพิ่มเติมมาให้ด้านล่างนะคะ
-
ซึ่งบาทหลวงเนี่ยนะคะ
-
ก็คือคนที่จะประจำอยู่ตามโบสถ์คริสต์ต่างๆ นั่นเองค่ะ
-
อาจจะประจำอยู่แค่คนเดียว
-
หรือประจำอยู่มากกว่าหนึ่งคน ทำงานร่วมกัน
-
ก็เป็นได้นะคะ
-
ซึ่งบาทหลวงเหล่านี้
-
เราจะเรียกเขาว่า Father หรือว่าคุณพ่อนั่นเอง
-
เคยดูในหนังกันใช่ไหมคะ?
-
ที่ตัวเอกหลายๆ ตัวเนี่ย
-
จะชอบไปปรึกษาบาทหลวงในโบสถ์
-
ก็จะเรียกเขาว่าคุณพ่อ หรือเรียกว่า Father นั่นเองค่ะ
-
ทีนี้สมมุติว่าได้เป็นบาทหลวงแล้ว
-
ขั้นต่อไปคืออะไรคะ?
-
ท่านที่ตำแหน่งสูงขึ้นไป
-
เขาเรียกว่าตำแหน่ง Bishop นั่นเอง
-
คำว่า Bishop หลายคนคุ้นเคยจากการเล่นหมากรุกใช่ไหมคะ?
-
แต่จริงๆ แล้วชื่อตัวหมากรุกเนี่ย
-
มาจากชื่อตำแหน่งในศาสนาคริสต์นี่ละค่ะ
-
ถามว่าตำแหน่ง Bishop แตกต่าง
จากตำแหน่งบาทหลวงยังไง?
-
ตำแหน่งบาทหลวงเนี่ยนะคะ ส่วนมากก็จะอยู่ในโบสถ์
-
อย่างที่วิวบอกไปเมื่อกี้ใช่ไหม?
-
หรือถ้าพูดเป็นภาษาอังกฤษจะเข้าใจง่ายกว่าค่ะ
-
คือบาทหลวงเนี่ย อยู่ใน Church
-
แต่ Bishop เนี่ยนะคะ จะอยู่ในมหาวิหารค่ะ
-
ซึ่งเราเรียกว่า Cathedral นั่นเอง
-
ถ้าเราไปตามเมืองยุโรปต่างๆ จะเห็นว่า
-
บางโบสถ์ที่เราไปเที่ยวเนี่ย เขาจะเรียกว่า Church
-
แต่บางโบสถ์เขาจะเรียกว่า Cathedral ใช่ไหมคะ?
-
ซึ่ง Bishop เนี่ยนะคะ
-
นอกจากจะดูแลวิหารของตัวเองแล้วเนี่ยนะคะ
-
ก็จะดูแลบาทหลวงต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณแถบๆ นั้นด้วย
-
ก็เหมือนกับว่าเป็นบาทหลวงที่
-
เลเวลสูงขึ้นมาอีกหนึ่งเลเวลค่ะ
-
ซึ่งถามว่า Bishop เนี่ยมีเยอะไหม?
-
บอกเลยว่า มีไม่เยอะนะคะ
-
นักบวชในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย
-
มีคนที่เป็นบาทหลวง หรือว่า Priest เนี่ย
-
อยู่ทั้งหมด 400,000 คนค่ะ
-
แต่ว่ามีคนที่ขึ้นมาเป็นระดับ Bishop เนี่ย
-
ประมาณ 5,000 คนเท่านั้นเองค่ะ
-
บาทหลวงเนี่ย เหมือนกับว่า
-
ถ้าอยากบวช แล้วผ่าน Requirement ก็สามารถบวชได้เลย
-
แต่คนที่จะขึ้นมาเป็น Bishop เนี่ยนะคะ
-
ไม่สามารถที่อยู่ๆ จะขึ้นมาได้ค่ะ
-
จะต้องรอให้ตำแหน่ง Bishop เนี่ย ว่างลงก่อนนะคะ
-
จาก 5,000 คน สมมุติว่ามีคนๆ หนึ่ง
-
Retire เกษียณตัวเองออกไป หรือว่าตาย เนี่ยนะคะ
-
ทำให้ตำแหน่งว่างเนี่ย
-
คนที่จะมาเป็น Bishop คนถัดไป
-
ถึงจะสามารถขึ้นมาแทนที่ได้ค่ะ
-
แล้วถามว่าใครจะขึ้นมาเป็น Bishop แทน?
-
ก็ไม่ใช่ว่าใครก็ได้นะคะ
-
เพราะว่า Bishop แต่ละคนเนี่ย
-
ก็มีหน้าที่อยู่ค่ะ ที่จะต้องทำรายชื่อลับขึ้นมารายชื่อหนึ่งนะคะ
-
ก็เขียนรายชื่อบาทหลวงต่างๆ
-
ที่อยู่ในละแวกแถวๆ ตัวเองเนี่ย
-
เขียนๆๆ เอาไว้เป็นรายชื่อลับค่ะ
-
ซึ่งเขาจะทำรายชื่อนี้นะคะ ทุกๆ สามปีค่ะ
-
ถามว่าใครบ้างที่จะมีสิทธิ์อยู่ในชื่อนั้นนะคะ
-
ก็จะต้องเป็นบาทหลวงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
-
แล้วก็บวชมาไม่น้อยกว่าห้าปีนั่นเองค่ะ
-
และที่สำคัญนะคะ คนที่จะไปอยู่ในรายชื่อนี้
-
จะต้องจบปริญญาเอก หรือว่า Ph.D. นะคะ
-
ในด้านเทววิทยา หรือว่าเทียบเท่าค่ะ
-
อายุเกิน 35 บวชมาเกินห้าปี
-
จบปริญญาเอกด้านเทววิทยานะคะ
-
Bishop เนี่ย ก็จะมองหาบาทหลวงแบบนี้รอบๆ ตัวเองค่ะ
-
แล้วก็ทำเป็นรายชื่อไว้
-
ทุกสามปีเนี่ยนะคะ
-
Bishop ก็จะส่งรายชื่อนี้ไปให้คนๆ หนึ่งค่ะ
-
คนๆ นี้เป็นตัวแทนของพระสันตะปาปา
-
ที่อยู่ในแต่ละประเทศค่ะ
-
ตำแหน่งนี้ชื่อว่า Apostolic Nuncio นั่นเองค่ะ
-
สมมุติว่าตำแหน่ง Bishop เกิดว่างเว้นลงเนี่ยนะคะ
-
เขาก็จะกลับไปดูที่รายชื่อนี้นี่ละค่ะ
-
คุณ Apostolic Nuncio เนี่ย
-
เขาก็จะดูที่รายชื่อนี้ ดูๆๆๆ นะคะ
-
ว่าใครเหมาะสมบ้าง ใครอะไรยังไง นะคะ
-
จากนั้นนะคะ จากรายชื่อทั้งหมดที่ได้มา
-
ไม่ว่าจะจาก Bishop กี่คนเนี่ยนะคะ
-
ก็จะเลือกออกมาทั้งหมดสามคน
-
ที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
-
ว่าคนนี้ดูหน่วยก้านโอเค
-
น่าจะขึ้นมาเป็น Bishop คนถัดไป
-
หลังจากที่เลือกขึ้นมาสามคนแล้วเนี่ยนะคะ
-
เขาก็จะทำการสืบค้นประวัติต่างๆ ค่ะ
-
ประมาณว่า คนนี้เรียนจบแบบนี้จริงไหม?
-
นิสัยเป็นยังไง? ดูแลชุมชนตัวเองรึเปล่า?
-
อะไรอย่างนี้นะคะ ดูไปดูมา
-
แล้วก็มีการเรียกเข้ามาสัมภาษณ์ด้วยค่ะ
-
หลังจากที่สัมภาษณ์แล้ว สืบประวัติแล้ว อะไรต่างๆ เนี่ยนะคะ
-
คุณ Nuncio เขาก็จะเลือกบาทหลวงขึ้นมาทั้งหมดหนึ่งคน
-
เป็น Candidate ที่ดีที่สุดสำหรับเขาค่ะ
-
หลังจากนั้นเนี่ยนะคะ เขาก็จะเอารายงานทั้งหมดนี้ค่ะ
-
ส่งไปยังวาติกันนะคะ
-
หลังจากที่ส่งไปที่วาติกันนะคะ
-
วาติกันก็จะเอารายงานการเลือกทั้งหมดนี้
-
ส่งเข้าไปที่ Congress of bishops ค่ะ
-
หรือว่าสภา Bishop นั่นเอง
-
ทีนี้สภา Bishop นะคะ ก็จะทำการพิจารณาอะไรต่างๆ ค่ะ
-
ว่าตัวเลือกที่ให้มาเหมาะสมไหม?
-
ที่ตรวจสอบมา มีความเห็นตรงกันรึเปล่า?
-
อะไรต่างๆ นะคะ
-
จนกระทั่ง Congress of bishops เนี่ยนะคะ
-
ตกลงกันได้ว่าคนๆ นั้นคือคนที่เหมาะสมจริงๆ ค่ะ
-
ซึ่งถ้าบังเอิญว่ารายชื่อที่ส่งไปนะคะ
-
คนแรกที่แนะนำว่าดีที่สุด
-
รวมไปถึงอีกสองคนที่เป็นตัวสำรองเนี่ย
-
Congress of bishops บอก
-
"สามคนนี้ไม่เวิร์กทั้งสามคนเลย"
-
Congress of bishops ก็มีสิทธิ์ที่จะปัดตกนะคะ
-
แล้วก็บอกว่า "พวก Bishop ต่างๆ ไปทำรายชื่อมาใหม่จ้า"
-
เสนอมาใหม่นะคะ
-
ก็จะวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
-
จนกว่าจะติดสินได้หนึ่งคนค่ะ
-
เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด
-
แล้วถามว่า พอตัดสินได้ปุ๊บ ได้เป็น Bishop เลยรึเปล่า?
-
ก็ต้องบอกว่า ยังนะคะ
-
Congress of bishops เนี่ยค่ะ ก็จะเอารายชื่อนี้
-
แล้วก็รายงานทั้งหมดนี้
-
นำเสนอขึ้นไปที่สมเด็จพระสันตะปาปา
-
หรือว่า Pope นั่นเองนะคะ
-
ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาจะเป็นคนตัดสินค่ะว่า
-
โอเค ตกลง คนนี้แหละเหมาะสม
-
ได้เป็น Bishop เรียบร้อยนะคะ
-
ซึ่งบังเอิญถ้าสมเด็จพระสันตะปาปาบอกว่า
-
"ที่เลือกมาเนี่ย ไม่เหมาะสมนะ ไม่โอเค"
-
ก็สามารถปัดตกนะคะ
-
แล้วขั้นตอนทั้งหมดก็จะเริ่มใหม่ตั้งแต่แรกค่ะ
-
ดังนั้นกว่าจะได้ Bishop มาคนหนึ่งเนี่ย
-
บางครั้งก็อาศัยเวลาเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน
-
หรือเป็นปี ก็เป็นได้นะคะ
-
ขึ้นอยู่กับว่ามีคนที่เหมาะสมรึเปล่า
-
ในสายตาของแต่ละคน ที่อยู่ในแต่ละขั้นตอนนะคะ
-
ทีนี้หลังจากที่เป็น Bishop แล้วเนี่ย
-
ก็ต้องบอกว่าตำแหน่งนี้เข้าใกล้
-
ความเป็นพระคาร์ดินัลขึ้นมาอีกนิดหนึ่งแล้วค่ะ
-
ตำแหน่งพระคาร์ดินัลนะคะ
-
จริงๆ ไม่ได้เป็นเหมือนหัวหน้าของ Bishop อะไรนะ
-
แต่ว่าเป็น Bishop ที่มีหน้าที่พิเศษเพิ่มขึ้นค่ะ
-
ก็จะมีหน้าที่ต่างๆ มากมาย
-
เช่น เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จพระสันตะปาปา
-
รวมถึงหน้าที่สำคัญที่เราพูดถึงในวันนี้
-
คือหน้าที่เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่นั่นเองนะคะ
-
แล้วถามว่า จาก Bishop
-
จะขึ้นไปเป็น Cardinal ได้ยังไงนะคะ
-
ก็ต้องบอกว่ามีคนๆ เดียวที่มีสิทธิ์แต่งตั้งพระคาร์ดินัลค่ะ
-
นั่นก็คือสมเด็จพระสันตะปาปานั่นเอง
-
สมเด็จพระสันตะปาปาจะเป็นคนบอกนะคะว่า
-
"โอเค คนนี้เป็น Cardinal"
-
ซึ่งถามว่า พระคาร์ดินัลมีเยอะขนาดไหนนะคะ
-
เมื่อกี้นี้บอกว่าจากทั้งโลกเนี้ย
-
มีบาทหลวงทั้งหมด 400,000 คน
-
เป็น Bishop 5,000 คน
-
และจาก Bishop ทั้งหมดเนี่ย
-
มีสิทธิ์เป็นพระคาร์ดินัลแค่ทั้งหมด 200 คนเท่านั้นเองค่ะ
-
เรียกได้ว่าในโลกนี้มีน้อยมากๆๆ เลยนะคะ
-
หลายคนฟังมาถึงขนาดนี้ น่าจะรู้สึกว่า
-
โห ตำแหน่งพระคาร์ดินัลนี่ยิ่งใหญ่มากๆ
-
น่าจะไม่ใกล้ตัวเราเลยนะคะ
-
น่าจะไปอยู่แถวยุโรปอะไรมากกว่า
-
ก็ต้องบอกว่าในประเทศไทยเนี่ย
-
เราก็มีพระคาร์ดินัลเหมือนกันนะคะ
-
ถึงทั้งหมดสองท่านด้วยกันนะคะ
-
ท่านแรกคือ พระคาร์ดินัลไมเคิล มีชัย กิจบุญชู ค่ะ
-
และอีกท่านหนึ่ง เพิ่งแต่งตั้งได้ไม่นานเนี่ยนะคะ
-
ก็คือพระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์
เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช นั่นเองค่ะ
-
ทีนี้เราก็ไล่กันขึ้นมาจนกระทั่ง
-
ถึงตำแหน่งพระคาร์ดินัลแล้วนะคะ
-
ซึ่งจะเป็นคนที่
-
เหมือนกึ่งๆ จะเป็น Candidate
-
ที่ได้รับเลือกขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาค่ะ
-
แล้วถามว่า ขั้นตอนการคัดเลือก เป็นยังไงนะคะ
-
ก็ขั้นตอนการคัดเลือกทั้งหมดค่ะ
-
จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาว่างลง
-
ซึ่งสาเหตุที่จะว่างก็มีได้ทั้งหมดสองสาเหตุด้วยกันนะคะ
-
หนึ่ง คือสิ้นพระชนม์ค่ะ
-
และข้อที่สองนะคะ ก็คือเกษียณนั่นเองค่ะ
-
เอาเป็นว่าไม่ว่าว่างเว้นลงด้วยสาเหตุใดนะคะ
-
ก็จะต้องมีกระบวนการ
-
เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ เกิดขึ้นค่ะ
-
ภายในไม่กี่วันนะคะ หลังจากที่
-
ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาว่างลงเนี่ย
-
ก็จะมีการเรียกพระคาร์ดินัลจากทั้งโลกนะคะ
-
มารวมตัวกันที่นครรัฐวาติกันค่ะ
-
ซึ่งคนที่จะมารวมตัวกันเนี่ย
-
ไม่ใช่ว่าพระคาร์ดินัลทุกคนจะได้รับเชิญนะคะ
-
จะต้องเป็นคนที่อายุไม่เกิด 80 ปีเท่านั้นค่ะ
-
ซึ่งในไทยนะคะ พระคาร์ดินัลไมเคิล มีชัย กิจบุญชู เนี่ย
-
อายุเกินแล้วค่ะ
-
ก็จะมีแค่พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์
เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช นะคะ
-
ที่จะได้รับเชิญไปค่ะ
-
เมื่อไปถึงนะคะ ทุกคนก็จะมารวมตัวกันค่ะ
-
และพระคาร์ดินัลทุกองค์
-
ก็จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนะคะ
-
โดนยึดมือถือ โดนยึดเครื่องมือสื่อสาร
-
ยึดทุกอย่างหมดค่ะ
-
หลังจากนั้นนะคะ
-
ทุกคนก็จะไปรวมตัวกันที่โบสถ์น้อย Sistine
-
หรือว่า Sistine Chapel นั่นเองนะคะ
-
ซึ่งที่โบสถ์แห่งนี้
-
พิธีเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ก็จะเกิดขึ้นค่ะ
-
โดยวิธีการเลือกนะคะ เขาจะมีการโหวตกันค่ะ
-
ใช้วิธีการลงคะแนนเสียงนะคะ
-
ไม่ใช่ว่าแบบ ไปถึง กาๆ แล้วก็หย่อนๆ แล้วจบนะคะ
-
แต่ว่า ขั้นตอนเนี่ยก็คือ
-
พระคาร์ดินัลทุกองค์ที่มารวมตัวกันนะคะ
-
จะได้รับกระดาษพิเศษคนละใบค่ะ
-
จากนั้นทุกคนก็เขียนชื่อคนที่คิดว่า
-
อยากให้ขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ค่ะ
-
ซึ่งต้องบอกว่าตรงนี้ เขียนใครก็ได้นะคะ
-
ใครก็ได้แบบ ใครก็ได้
-
ไม่จำเป็นต้องเป็นพระคาร์ดินัลก็ได้
-
อย่างที่วิวบอกตั้งแต่แรก คือ
-
แค่เป็นผู้ชาย แล้วก็นับถือศาสนาคริสต์
-
นิกายโรมันคาทอลิกค่ะ
-
แต่พอกบอกว่าใครก็ได้จากทั้งโลกเนี่ย
-
ก็คงจะยากนิดหนึ่ง
-
นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้
-
ส่วนมากก็เขียนชื่อคนที่นั่งอยู่ในห้องด้วยกันนั่นละค่ะ
-
หลังจากที่เขียนลงไปแล้วนะคะ
-
พระคาร์ดินัลทุกท่านค่ะ ก็จะต้องลุกขึ้นมานะคะ
-
ถือกระดาษแผ่นนี้แล้วก็
-
กล่าวบทสวดเป็นภาษาละตินค่ะ
-
กล่าวๆ เสร็จปุ๊บก็พับกระดาษครึ่งหนึ่งนะคะ
-
แล้วก็เอากระดาษนี้นะคะ หย่อนลงไปในภาชนะที่รออยู่ค่ะ
-
เพื่อลงคะแนนเสียงนะคะ
-
หลังจากที่ทุกคนทำแบบนี้แล้วเนี่ยนะคะ
-
ก็จะมีพระคาร์ดินัลที่มีตำแหน่งพิเศษอยู่ด้านในค่ะ
-
คอยนับคะแนนนะคะ โดยการขานออกมา
-
หลังจากที่ขานแล้วนะคะ ก็จะมาดูว่าใครที่
-
เป็นคะแนนเสียงส่วนมากค่ะ
-
ซึ่งปกติเวลาเราเลือกตั้งเนี่ย
-
เราก็จะดูว่า ใครเสียงมากสุด คนนั้นก็จะได้ไปนะคะ
-
แต่สำหรับตำแหน่งพระสันตะปาปาไม่ใช่แบบนั้นค่ะ
-
สมมุติว่าเขียนมาจากพระคาร์ดินัลทุกองค์เนี่ยนะคะ
-
คนนี้ได้ 50 คะแนน คนนี้ได้ 10
-
คนนี้ได้สอง สี่ ห้า เจ็ด อะไรอย่างนี้นะ
-
50 คะแนนดูเยอะแล้วใช่ไหม?
-
แต่ว่าไม่พอให้ได้ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปานะคะ
-
เพราะว่าคนที่จะขึ้นมาเป็นตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย
-
จะต้องจะคะแนนเสียงมากกว่าสองในสาม
-
ของคนที่มาโหวตทั้งหมดค่ะ
-
ดังนั้นนะคะ ถือว่าโอกาสค่อนข้างยากค่ะ
-
ซึ่งหลังจากที่อ่าน นับคะแนนเสียงอะไรต่างๆ แล้วเนี่ยนะคะ
-
สมมุติว่าโหวตออกมาแล้ว
-
ไม่มีใครได้คะแนนมากกว่าสองในสาม
-
ยังไม่มีสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่
-
เขาก็จะเอากระดาษทั้งหมดนี้นะคะ
-
ใส่สารเคมีพิเศษสารหนึ่งค่ะ แล้วก็เผาไฟนะคะ
-
ให้ควันเนี่ย ลอยออกไปด้านนอกค่ะ
-
เราน่าจะเคยเห็นกันในทีวีนะคะ
-
ตอนพิธีเลือกสมเด็จพระสันตะปาปา
-
เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเนอะ
-
ว่าชาวคริสต์เนี่ยเขาจะไปยืนกันอยู่ตรง
-
ลานหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ใช่ไหม
-
แล้วก็ดูว่าแบบ มีควันออกมาจากปล่องไฟไหม?
-
หรือว่าพวกทีวีก็จะคอยถ่ายปล่องไฟไว้นะคะ
-
เพราะว่าเขาจะดูตอนที่เผากระดาษนี่ละค่ะ
-
ถ้าสมมุติว่ามีการใส่สารเคมีเข้าไป เผาไฟ ปึ้ง!
-
แล้วควันออกมาเป็นสีดำ
-
แปลว่ายังเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาไม่ได้นะคะ
-
ก็จะต้องมีการโหวตกันใหม่ค่ะ
-
เขาก็จะโหวตกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะคะ
-
ถามว่าต้องทำใหม่บ่อยขนาดไหน?
-
ถ้าสมมุติว่ายังไม่ได้นะ
-
ก็วันหนึ่งจะโหวตแบบนี้ทั้งหมดสี่ครั้งด้วยกันค่ะ
-
และถ้าวันนี้ยังไม่ได้ ก็จะพรุ่งนี้ต่อไปนะคะ
-
โหวตอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หกวันต่อสัปดาห์
-
ทิ้งวันอาทิตย์ไว้หนึ่งวัน ให้สวดภาวนาอะไรต่างๆ นะคะ
-
ก็จะโหวตวนไปเรื่อยๆๆ
-
จนกระทั่งมีใครสักคนได้คะแนนเสียงสองในสามนะคะ
-
ก็ถือว่า เราได้ Candidate สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว
-
ก็จะมีพิธีการเข้าไปถามก่อนว่า
-
สมัครใจไหมที่จะขึ้นเป็นสมเด็จพระสันตะปาปา?
-
ถ้าสมัครใจ โอเค ก็จะมีการเปลี่ยนชุดเปลี่ยนอะไรกันต่างๆ
-
รวมไปถึงพิธีเลือกพระนามใหม่ค่ะ
-
เพราะว่า ถือว่าเป็นคนใหม่แล้วไงคะ
-
ดังนั้นต้องเปลี่ยนชื่อใหม่นะคะ
-
ซึ่งโดยส่วนมากนะคะ เขาก็นิยมจะใช้
-
ชื่อของสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ ค่ะ
-
ตรงนี้พิเศษมากๆ เพราะว่า
-
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส องค์ปัจจุบันเนี่ยนะคะ
-
เป็นพระองค์แรกที่เลือกใช้ชื่อฟรังซิสค่ะ
-
โดยเขาให้เหตุผลว่า
-
เพราะว่าพระองค์ชอบช่วยเหลือคนจนนั่นเองค่ะ
-
จากนั้นกระดาษที่ได้คะแนนโหวตเนี่ยค่ะ
-
เขาก็จะนำไปเผาด้วยสารเคมีอีกตัวหนึ่ง
-
ซึ่งจะทำให้ควันเนี่ย ออกมาเป็นสีขาวค่ะ
-
คนด้านนอกก็จะแบบ อ้า เห็นควันสีขาวแล้ว
-
เราได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้วนะคะ
-
แล้วหลังจากนั้นนะคะ
-
สมเด็จพระสันตะปาปาก็จะออกมาที่ระเบียงค่ะ
-
แล้วก็จะมาทักทายกับฝูงชนต่างๆ ที่มาเข้าเฝ้านั่นเองค่ะ
-
นี่ก็เป็นขั้นตอนทั้งหมดนะคะ
-
ว่ากว่าจะมีพระสันตะปาปาองค์หนึ่งเนี่ย
-
ต้องผ่านขั้นตอนมากมายขนาดไหน
-
ต้องได้รับการยอมรับจากคนมากมายขนาดไหนค่ะ
-
ซึ่งฟังแบบนี้แล้ว รู้สึกว่ายากไหมคะ?
-
กว่าจะได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์หนึ่ง
-
ก็บอกเลยค่ะว่า ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มเข้า Sistine Chapel
-
แล้วก็ตัดขาดจากโลกภายนอก
-
แล้วโหวตๆๆ กันเนี่ยนะคะ
-
ส่วนมากค่ะ ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณสองสัปดาห์ค่ะ
-
กว่าที่จะได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่นะคะ
-
แต่ตามสถิติแล้วเนี่ยนะคะ เขาบอกว่า
-
สถิติสูงสุด กว่าจะได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่เนี่ย
-
คือโหวตกันแบบนี้ทุกวัน วันละสี่ครั้ง
-
สัปดาห์ละหกวันเนี่ย อยู่ทั้งหมด
-
สามปีด้วยกันค่ะ
-
เรียกได้ว่า
-
โหวตกันนานมากจริงๆ นะคะ
-
นี่คือสาเหตุที่ทำให้ตำแหน่งของสมเด็จพระสันตะปาปา
-
ถือเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ เลยทีเดียวค่ะ
-
เป็นยังไงบ้างคะคลิปนี้?
-
ได้ความรู้เพิ่มเติมกันมั้ย?
-
สมมุติว่าใครมีความรู้เพิ่มเติมอะไรมากกว่าวิว
-
วิวตกหล่นตรงไหนไป
-
ก็สามารถคอมเมนต์มาคุยกันด้านล่างได้นะคะ
-
และถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้
-
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ
-
แล้วพบหันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊ายบาย~
-
สวัสดีค่ะ
-
เอาจริงๆ เรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์เนี่ย
-
โดยเฉพาะศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนะคะ
-
ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่วิวค่อนข้างสนใจมากๆ เลย
-
เพราะว่าทั้งเรื่องราว ศาสนา ความเชื่อ พิธีกรรมเหล่านี้
-
มักจะไปปรากฏอยู่ในหนัง ในละคร
-
ในหนังสือ ในนิยายอะไรต่างๆ ใช่ไหมคะ?
-
ดังนั้นถามสมมุติว่าเราอยากอ่านหนังสือ อ่านนิยาย
-
ดูหนัง ดูซีรี่ส์ ดูละคร ให้มันเข้าถึงเนี่ย
-
เราก็ควรจะมีความรู้ไว้ค่ะ
-
ส่วนตัววิวก็กำลังค่อนๆ อ่านเพิ่มอยู่นะคะ
-
อาจจะยังไม่ได้เป๊ะมากขนาดนั้นนะคะ
-
แต่ว่าถ้าสมมุติว่าอ่านเจออะไรน่าสนใจ
-
เดี๋ยวจะเอามาแบ่งปันให้ทุกคนทราบในโอกาสถัดไปค่ะ
-
วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย~
-
สวัสดีค่ะ