WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:01.860 สวัสดีค่า วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 00:00:01.860 --> 00:00:03.480 ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเนี่ยนะคะ 00:00:03.560 --> 00:00:07.020 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีข่าวๆ หนึ่งใหญ่มากในประเทศไทยค่ะ 00:00:07.020 --> 00:00:09.440 ก็คือข่าวสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส 00:00:09.440 --> 00:00:11.200 เสด็จเยือนประเทศไทย ใช่ไหมคะ? 00:00:11.340 --> 00:00:12.620 ซึ่งแน่นอนค่ะว่า 00:00:12.640 --> 00:00:13.940 เป็นเรื่องใหญ่มากๆ เลยนะ 00:00:13.940 --> 00:00:16.660 เพราะว่า ถือว่าเป็นการที่สมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย 00:00:16.660 --> 00:00:20.440 เสด็จเยือนประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 35 ปีเลยนะคะ 00:00:20.440 --> 00:00:23.500 ซึ่งคราวที่แล้วก็เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 เนอะ 00:00:23.500 --> 00:00:25.120 เราเห็นกันในภาพข่าวแล้วใช่ไหมคะ? 00:00:25.120 --> 00:00:27.480 ว่าชาวคริสต์ที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย 00:00:27.480 --> 00:00:29.100 ก็ปลาบปลื้มกันมากๆ ค่ะ 00:00:29.100 --> 00:00:31.140 ออกไปต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปา 00:00:31.140 --> 00:00:33.400 ออกไปเข้าเฝ้ากันอย่างล้นหลามเลย 00:00:33.500 --> 00:00:34.640 แต่เชื่อว่าหลายๆ คนนะคะ 00:00:34.640 --> 00:00:36.800 ที่ไม่ใช่ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย 00:00:36.800 --> 00:00:39.060 ก็จะเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่า 00:00:39.060 --> 00:00:40.080 ท่านเป็นใคร? 00:00:40.080 --> 00:00:41.680 คือรู้แหละว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญ 00:00:41.680 --> 00:00:43.440 แต่สำคัญระดับไหน? 00:00:43.440 --> 00:00:46.380 ดังนั้นวันนี้นะคะ วิวก็เลยไปค้นหาข้อมูลมา 00:00:46.380 --> 00:00:48.320 เพื่อที่จะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะว่า 00:00:48.320 --> 00:00:50.020 สมเด็จพระสันตะปาปาคือใคร? 00:00:50.020 --> 00:00:51.900 กว่าจะมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย 00:00:51.900 --> 00:00:53.520 ต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง? 00:00:53.520 --> 00:00:56.840 และสุดท้าย ใครบ้างที่มีสิทธิ์เป็นสมเด็จพระสันตะปาปา? นะคะ 00:00:56.840 --> 00:00:59.000 ซึ่งเชื่อว่าพอฟังทุกขั้นตอนแล้วเนี่ยนะคะ 00:00:59.000 --> 00:01:00.880 ทุกคนจะเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่เลยค่ะ 00:01:00.880 --> 00:01:02.880 ว่าทำไมการที่สมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย 00:01:02.880 --> 00:01:03.880 เสด็จเยือนประเทศไทย 00:01:03.880 --> 00:01:05.820 ถึงเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ค่ะ 00:01:05.960 --> 00:01:07.400 แต่ที่สำคัญนะคะ ก่อนที่จะไปฟัง 00:01:07.520 --> 00:01:09.520 เรื่องราวเกี่ยวกับสมเด็จพระสันตะปาปากันเนี่ย 00:01:09.560 --> 00:01:11.600 อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ 00:01:11.920 --> 00:01:13.240 ไม่ว่าจะเป็นทาง Youtube, Facebook, 00:01:13.260 --> 00:01:14.460 Twitter, Instagram นะคะ 00:01:14.520 --> 00:01:17.540 สัญญาว่าจะมีคลิปวิดีโอสนุกๆ อีกมากมายให้ทุกคนได้ชมค่ะ 00:01:17.540 --> 00:01:19.540 แล้วก็มีข่าวสารดีๆ มาบอกกันด้วยนะคะ 00:01:19.840 --> 00:01:21.220 สำหรับตอนนี้ พร้อมจะไปฟัง 00:01:21.220 --> 00:01:23.740 เรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ? 00:01:23.960 --> 00:01:25.640 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 00:01:29.700 --> 00:01:32.340 ขออนุญาตออกตัวก่อนนะคะ ก่อนที่จะเริ่มเล่าค่ะว่า 00:01:32.340 --> 00:01:35.340 ในบางจุดบางตอนเนี่ย วิวอาจจะใช้คำราชาศัพท์ไม่เป๊ะบ้าง 00:01:35.360 --> 00:01:37.780 อาจจะใช้ศัพท์เฉพาะที่แปลมาเป็นภาษาไทย 00:01:37.800 --> 00:01:40.560 ไม่ตรงกับที่คริสตจักรในไทยใช้ บ้างนะคะ 00:01:40.560 --> 00:01:43.820 ดังนั้นเชื่อว่าคนดูของวิวหลายๆ คนเนี่ยเป็นชาวคริสต์ค่ะ 00:01:44.040 --> 00:01:45.860 สามารถคอมเมนต์เพิ่มเติมมาด้านล่าง 00:01:45.860 --> 00:01:47.400 เพิ่มความรู้ให้วิวได้เลยนะคะ 00:01:47.440 --> 00:01:49.540 ที่วิวจะนำมาเล่าวันนี้อาจจะเป็นข้อมูลคร่าวๆ 00:01:49.540 --> 00:01:51.880 เป็นความรู้เบื้องต้นให้กับคนที่ไม่ทราบเลยนะคะ 00:01:51.940 --> 00:01:53.600 ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาคือใคร 00:01:53.600 --> 00:01:56.000 และขั้นตอนกว่าจะมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย 00:01:56.000 --> 00:01:57.140 ผ่านอะไรมาบ้างค่ะ 00:01:57.140 --> 00:01:58.680 ส่วนใครอยากอ่านเพิ่มเติมเองนะคะ 00:01:58.720 --> 00:02:01.240 วิวลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้ว สามารถไปดูได้ค่ะ 00:02:01.260 --> 00:02:02.940 เอาละ เริ่มกันเลยดีกว่านะคะ 00:02:02.940 --> 00:02:04.360 ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปา 00:02:04.380 --> 00:02:05.740 หรือที่เราเรียกว่า Pope เนี่ยนะคะ 00:02:05.740 --> 00:02:08.960 คือตำแหน่งประมุขของคริสตจักรโรมันคาทอลิกค่ะ 00:02:09.020 --> 00:02:12.340 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สืบทอดมาจากนักบุญเปโตรนะคะ 00:02:12.340 --> 00:02:15.200 หรือที่หลายๆ คนจะคุ้นกันในชื่อของเซนต์ปีเตอร์นั่นเอง 00:02:15.200 --> 00:02:17.200 ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ถือว่า 00:02:17.300 --> 00:02:20.520 พระเยซูเนี่ยนะคะ ทรงแต่งตั้งให้กับนักบุญเปโตรค่ะ 00:02:20.540 --> 00:02:23.080 หลังจากนั้นตำแหน่งนี้ก็สืบทอดกันมาเรื่อยๆ นะคะ 00:02:23.080 --> 00:02:24.720 จากรุ่นสู่รุ่น สู่รุ่น สู่รุ่น 00:02:24.900 --> 00:02:25.800 จนกระทั่งมาถึง 00:02:25.840 --> 00:02:28.220 สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันนั่นเองค่ะ 00:02:28.240 --> 00:02:32.340 ซึ่งองค์ปัจจุบันแนี่ย นับเป็นองค์ที่ 266 แล้วนะคะ 00:02:32.340 --> 00:02:34.340 ก็สืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่องเลย 00:02:34.400 --> 00:02:35.240 และตำแหน่งนี้นะคะ 00:02:35.240 --> 00:02:37.080 ไม่ใช่แค่ตำแหน่งประมุขของคริสตจักรค่ะ 00:02:37.100 --> 00:02:39.120 เพราะว่าตั้งแต่ปี 1929 เนี่ยนะคะ 00:02:39.120 --> 00:02:41.680 ตำแหน่งนี้มีความสำคัญเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งค่ะ 00:02:41.700 --> 00:02:45.260 นั่นก็คือ ถือว่าเป็นประมุขของนครรัฐวาติกันด้วยค่ะ 00:02:45.340 --> 00:02:47.200 วาติกันนี่ก็ถือว่าเป็นนครรัฐเล็กๆ 00:02:47.220 --> 00:02:48.680 ที่ตั้งอยู่ในอิตาลีนะคะ 00:02:48.680 --> 00:02:52.360 เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของ คริสตจักรโรมันคาทอลิกในโลกนั่นเองค่ะ 00:02:52.420 --> 00:02:54.900 ทีนี้เราก็รู้แล้วนะคะว่าสมเด็จพระสันตะปาปาคือใคร 00:02:54.900 --> 00:02:56.640 ว่าแต่ ใครบ้างนะคะ 00:02:56.640 --> 00:02:58.800 ที่มีสิทธิ์จะขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปา? 00:02:59.100 --> 00:03:00.300 ต้องบอกว่าเงื่อนไขเนี่ยนะคะ 00:03:00.320 --> 00:03:02.680 ถ้าพูดเอาตามกฎจริงๆ สุดๆ เลยเนี่ยนะคะ 00:03:02.680 --> 00:03:03.780 เงื่อนไขง่ายมากค่ะ 00:03:03.780 --> 00:03:06.340 เพราะว่ามี Requirement แค่ทั้งหมด 2 ข้อด้วยกันค่ะ 00:03:06.380 --> 00:03:08.140 ข้อแรก ง่ายมาก นั่นก็คือ 00:03:08.140 --> 00:03:09.960 คุณต้องเป็นเพศชายนะคะ 00:03:09.960 --> 00:03:12.400 และข้อที่สองนะคะ ง่ายเหมือนกันเลยคือ 00:03:12.400 --> 00:03:15.920 คุณต้องนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนั่นเอง 00:03:15.940 --> 00:03:17.780 ก็เรียกได้ว่าผู้ชายคนไหนก็ตาม 00:03:17.780 --> 00:03:20.180 ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 00:03:20.180 --> 00:03:22.720 มีสิทธิ์ขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งสิ้นเลยค่ะ 00:03:22.720 --> 00:03:24.020 ถ้าพูดกันตามกฎนะ 00:03:24.080 --> 00:03:25.140 สำหรับใครที่ไม่รู้นะคะ 00:03:25.140 --> 00:03:26.760 จริงๆ ศาสนาคริสต์มีหลายนิกาย 00:03:26.760 --> 00:03:28.060 ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย 00:03:28.080 --> 00:03:30.440 ก็จะอยู่ในนิกายโรมันคาทอลิกนั่นเองค่ะ 00:03:30.480 --> 00:03:32.800 การที่จะบอกว่าใครคนหนึ่งนับถือศาสนาคริสต์ 00:03:32.800 --> 00:03:34.560 นิกายโรแมนคาทอลิก แปลว่าอะไร? 00:03:34.580 --> 00:03:37.760 แปลว่าคนๆ นั้นนะคะ ต้องผ่านการรับศีลล้างบาปนะคะ 00:03:37.760 --> 00:03:39.740 ก็คือพิธีล้างบาปกำเนิดนั่นเอง 00:03:39.780 --> 00:03:41.920 เพราะว่าศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย 00:03:41.920 --> 00:03:45.220 เชื่อว่าคนเราเกิดมามีบาปนะคะ จะต้องเข้ารับศีลอันนี้ 00:03:45.220 --> 00:03:47.220 เพื่อชำระล้างบาปออกไปค่ะ 00:03:47.300 --> 00:03:49.420 ก็จะเป็นพิธีที่เอาน้ำราดหัว อะไรแบบนี้ 00:03:49.420 --> 00:03:51.100 ที่เราน่าจะเคยเห็นกันในหนังฝรั่ง 00:03:51.100 --> 00:03:53.560 หรือว่าเราเคยเห็นตามข่าวต่างๆ ที่แบบ 00:03:53.580 --> 00:03:57.220 เด็กๆ เกิดมาใหม่ๆ เขาจะต้องไปทำพิธีรับศีลกันใช่ไหมคะ? 00:03:57.220 --> 00:03:59.420 ที่จะมีพ่อทูนหัว แม่ทูนหัว อะไรต่างๆ 00:03:59.420 --> 00:04:01.120 แต่เราจะไม่ไปเจาะลึกตรงนี้ค่ะ 00:04:01.200 --> 00:04:02.580 เอาเป็นว่ามีสองข้อนี้ 00:04:02.580 --> 00:04:05.280 ก็สามารถขึ้นเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาได้แล้วนะคะ 00:04:05.520 --> 00:04:06.240 ตามกฎ 00:04:06.320 --> 00:04:07.940 แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ ค่ะ 00:04:07.940 --> 00:04:10.940 นับตั้งแต่ปีคริสต์ศักราชที่ 1378 เนี่ยนะคะ 00:04:10.940 --> 00:04:12.180 นานมากมาแล้วเนี่ยนะ 00:04:12.180 --> 00:04:15.200 ไม่มีใครที่ได้รับเลือกให้เป็นสมเด็จพระสันตะปาปา 00:04:15.260 --> 00:04:17.620 โดยที่ไม่ได้ผ่านตำแหน่งๆ หนึ่งมาก่อนค่ะ 00:04:17.620 --> 00:04:20.180 ตำแหน่งนั้นก็คือตำแหน่งพระคาร์ดินัลนั่นเอง 00:04:20.200 --> 00:04:22.300 ดังนั้นเราก็อาจจะพูดได้นะคะว่า 00:04:22.300 --> 00:04:24.300 การจะขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย 00:04:24.300 --> 00:04:26.380 ต้องผ่านการเป็นพระคาร์ดินัลมาก่อน 00:04:26.380 --> 00:04:28.260 เป็นกฎที่แบบ อาจจะไม่ได้เขียนลงไป 00:04:28.260 --> 00:04:30.060 แต่ว่าก็เป็นกฎที่รู้กันค่ะ 00:04:30.060 --> 00:04:32.100 ซึ่งถามว่าพระคาร์ดินัลคืออะไร? 00:04:32.180 --> 00:04:34.460 ศัพท์เริ่มมาคำที่สองแล้วนะคะ 00:04:34.640 --> 00:04:35.620 พระคาร์ดินัลเนี่ยนะคะ 00:04:35.620 --> 00:04:37.560 ถ้าสมมุติเอาแบบรูปลักษณ์ภายนอกเนี่ยนะคะ 00:04:37.560 --> 00:04:39.560 ถ้าเราไปดูตามข่าวตามอะไรต่างๆ 00:04:39.560 --> 00:04:42.820 ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะที่วาติกันเนี่ย 00:04:42.940 --> 00:04:44.940 เราจะเห็นว่าพระคาร์ดินัลคือคนที่ 00:04:44.940 --> 00:04:47.060 ใส่เครื่องแบบสีประมาณแดงๆ นะคะ 00:04:47.060 --> 00:04:48.340 หน้าตาแบบนี้เลย 00:04:48.580 --> 00:04:50.560 นี่ละค่ะ นี่คือพระคาร์ดินัลนะคะ 00:04:50.600 --> 00:04:52.160 ถามว่า พระคาร์ดินัลคืออะไร? 00:04:52.160 --> 00:04:53.000 พระคาร์ดินัลเนี่ยนะคะ 00:04:53.000 --> 00:04:54.840 คือตำแหน่งพิเศษตำแหน่งหนึ่งของ 00:04:54.880 --> 00:04:57.120 นักบวชในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกค่ะ 00:04:57.160 --> 00:04:58.880 โดยคนที่เป็นพระคาร์ดินัลนะคะ 00:04:59.100 --> 00:05:02.880 จะเป็นคนที่มีสิทธิ์เลือกสมเด็จพระสันตะปาปานั่นเองค่ะ 00:05:02.920 --> 00:05:04.300 ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปพูดถึงที่หลังเนอะ 00:05:04.300 --> 00:05:05.680 แต่เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า 00:05:05.740 --> 00:05:08.420 กว่าคนๆ หนึ่งจะขึ้นมาเป็นพระคาร์ดินัลเนี่ยนะคะ 00:05:08.420 --> 00:05:10.420 จะต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง? 00:05:10.420 --> 00:05:13.140 ก่อนจะมาเป็นพระคาร์ดินัลค่ะ ขั้นตอนแรกที่สุดเลยคือ 00:05:13.140 --> 00:05:14.740 คุณต้องเป็นบาทหลวงก่อนนะคะ 00:05:14.740 --> 00:05:15.900 บาทหลวงเนี่ยก็คือนักบวช 00:05:15.920 --> 00:05:18.060 ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกใช่ไหม? 00:05:18.060 --> 00:05:19.900 ทีนี้ถามว่า คนธรรมดาคนหนึ่ง 00:05:19.900 --> 00:05:21.360 จะขึ้นมาเป็นบาทหลวงได้ยังไง? 00:05:21.360 --> 00:05:23.380 อย่างแรกที่สุดเลยค่ะ คือคุณต้องเป็นผู้ชาย 00:05:23.380 --> 00:05:25.460 อันนี้เป็น Basic requirement ใช่ไหม? 00:05:25.500 --> 00:05:28.040 และเป็นผู้ชายที่ตั้งใจไว้แล้วว่า 00:05:28.060 --> 00:05:30.800 ฉันอยากจะเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก 00:05:30.840 --> 00:05:33.640 ฉันจะต้องเป็นโสดตลอดชีวิต คือไม่แต่งงาน 00:05:33.640 --> 00:05:37.100 แล้วก็จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศอีกต่อไปนะคะ 00:05:37.100 --> 00:05:39.060 นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของทางจิตใจละ 00:05:39.060 --> 00:05:42.020 เช่นแบบว่า ศรัทธาต่อพระเจ้า อะไรต่างๆ ค่ะ 00:05:42.040 --> 00:05:44.280 ซึ่งกว่าที่คนๆ หนึ่งจะได้เป็นบาทหลวงเนี่ยนะคะ 00:05:44.280 --> 00:05:46.240 ก็จะต้องมีการศึกษาอะไรต่างๆ 00:05:46.300 --> 00:05:48.680 การเป็นบาทหลวงในนิกายอื่นเนี่ย เป็นยังไงไม่ทราบค่ะ 00:05:48.680 --> 00:05:51.300 แต่ว่าการเป็นบาทหลวงในนิกายโรมันคาทอลิกเนี่ยนะคะ 00:05:51.300 --> 00:05:52.940 ค่อนข้างจะเป็นเรื่องจริงจังค่ะ 00:05:52.940 --> 00:05:54.500 หลายครั้งต้องการปริญญาด้วยนะ 00:05:54.500 --> 00:05:57.360 ก็จะต้องมีการไปเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท อะไรต่างๆ 00:05:57.580 --> 00:05:59.780 ซึ่งก็จะมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความเชื่อต่างๆ 00:05:59.800 --> 00:06:03.000 ที่บาทหลวงจะนำไปใช้ได้ในการเป็นบาทหลวงน่ะนะคะ 00:06:03.000 --> 00:06:04.780 เช่น การเรียนเรื่องเทววิทยา 00:06:04.780 --> 00:06:07.420 การเรียนเรื่องปรัชญาคาทอลิก เป็นต้นค่ะ 00:06:07.480 --> 00:06:10.280 ก็จะมีทั้งปริญญาตรี แล้วก็ปริญญาโทเลยทีเดียวนะคะ 00:06:10.280 --> 00:06:12.260 หลังจากที่เรียนรู้อะไรต่างๆ แล้วเนี่ย 00:06:12.260 --> 00:06:14.780 เมื่อคุณผ่านสิ่งที่โบสถ์แต่ละแห่งต้องการแล้วเนี่ยนะคะ 00:06:14.800 --> 00:06:18.180 ก็ต้องเข้ารับศีลบวชค่ะ ก็คือศีลอนุกรมขั้นบาทหลวงนั่นเอง 00:06:18.200 --> 00:06:19.860 เพื่อที่จะบวชเป็นบาทหลวงนะคะ 00:06:19.860 --> 00:06:22.380 ซึ่งตรงนี้วิวจะไม่ขอเจาะลึก เพราะจริงๆ มันละเอียดมาก 00:06:22.380 --> 00:06:24.940 มีศีลแบบชั้นต้น ศีลอนุกรมชั้นหนึ่ง ชั้นสอง 00:06:24.940 --> 00:06:27.300 อันนี้เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ อันนี้เป็นศีลธรรมดา 00:06:27.300 --> 00:06:29.640 อันนี้เป็นศีลที่ปรากฏในไบเบิล อันนี้เป็นศีลที่ไม่ปรากฏ 00:06:29.780 --> 00:06:31.560 ซึ่งเดี๋ยวคลิปวิดีโอนี้จะยาวเกินไปค่ะ 00:06:31.560 --> 00:06:33.360 ดังนั้นขออนุญาตข้ามไปนะคะ 00:06:33.380 --> 00:06:35.360 ถ้าสมมุติว่าใครที่มีความรู้แล้วใจดี 00:06:35.360 --> 00:06:37.680 ก็สามารถคอนเมนต์เพิ่มเติมมาให้ด้านล่างนะคะ 00:06:37.800 --> 00:06:38.640 ซึ่งบาทหลวงเนี่ยนะคะ 00:06:38.640 --> 00:06:41.640 ก็คือคนที่จะประจำอยู่ตามโบสถ์คริสต์ต่างๆ นั่นเองค่ะ 00:06:41.660 --> 00:06:42.940 อาจจะประจำอยู่แค่คนเดียว 00:06:42.940 --> 00:06:45.360 หรือประจำอยู่มากกว่าหนึ่งคน ทำงานร่วมกัน 00:06:45.360 --> 00:06:46.180 ก็เป็นได้นะคะ 00:06:46.180 --> 00:06:46.980 ซึ่งบาทหลวงเหล่านี้ 00:06:46.980 --> 00:06:49.340 เราจะเรียกเขาว่า Father หรือว่าคุณพ่อนั่นเอง 00:06:49.360 --> 00:06:50.300 เคยดูในหนังกันใช่ไหมคะ? 00:06:50.300 --> 00:06:51.400 ที่ตัวเอกหลายๆ ตัวเนี่ย 00:06:51.420 --> 00:06:53.640 จะชอบไปปรึกษาบาทหลวงในโบสถ์ 00:06:53.640 --> 00:06:56.340 ก็จะเรียกเขาว่าคุณพ่อ หรือเรียกว่า Father นั่นเองค่ะ 00:06:56.400 --> 00:06:58.380 ทีนี้สมมุติว่าได้เป็นบาทหลวงแล้ว 00:06:58.380 --> 00:06:59.720 ขั้นต่อไปคืออะไรคะ? 00:06:59.760 --> 00:07:01.140 ท่านที่ตำแหน่งสูงขึ้นไป 00:07:01.180 --> 00:07:03.900 เขาเรียกว่าตำแหน่ง Bishop นั่นเอง 00:07:03.960 --> 00:07:06.940 คำว่า Bishop หลายคนคุ้นเคยจากการเล่นหมากรุกใช่ไหมคะ? 00:07:06.940 --> 00:07:08.820 แต่จริงๆ แล้วชื่อตัวหมากรุกเนี่ย 00:07:08.820 --> 00:07:11.380 มาจากชื่อตำแหน่งในศาสนาคริสต์นี่ละค่ะ 00:07:11.380 --> 00:07:14.400 ถามว่าตำแหน่ง Bishop แตกต่าง จากตำแหน่งบาทหลวงยังไง? 00:07:14.480 --> 00:07:17.540 ตำแหน่งบาทหลวงเนี่ยนะคะ ส่วนมากก็จะอยู่ในโบสถ์ 00:07:17.540 --> 00:07:18.940 อย่างที่วิวบอกไปเมื่อกี้ใช่ไหม? 00:07:18.940 --> 00:07:21.100 หรือถ้าพูดเป็นภาษาอังกฤษจะเข้าใจง่ายกว่าค่ะ 00:07:21.100 --> 00:07:22.580 คือบาทหลวงเนี่ย อยู่ใน Church 00:07:22.580 --> 00:07:25.100 แต่ Bishop เนี่ยนะคะ จะอยู่ในมหาวิหารค่ะ 00:07:25.100 --> 00:07:27.060 ซึ่งเราเรียกว่า Cathedral นั่นเอง 00:07:27.060 --> 00:07:29.120 ถ้าเราไปตามเมืองยุโรปต่างๆ จะเห็นว่า 00:07:29.120 --> 00:07:31.080 บางโบสถ์ที่เราไปเที่ยวเนี่ย เขาจะเรียกว่า Church 00:07:31.080 --> 00:07:33.520 แต่บางโบสถ์เขาจะเรียกว่า Cathedral ใช่ไหมคะ? 00:07:33.580 --> 00:07:34.480 ซึ่ง Bishop เนี่ยนะคะ 00:07:34.480 --> 00:07:36.640 นอกจากจะดูแลวิหารของตัวเองแล้วเนี่ยนะคะ 00:07:36.660 --> 00:07:40.360 ก็จะดูแลบาทหลวงต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณแถบๆ นั้นด้วย 00:07:40.360 --> 00:07:41.780 ก็เหมือนกับว่าเป็นบาทหลวงที่ 00:07:41.800 --> 00:07:43.520 เลเวลสูงขึ้นมาอีกหนึ่งเลเวลค่ะ 00:07:43.520 --> 00:07:45.200 ซึ่งถามว่า Bishop เนี่ยมีเยอะไหม? 00:07:45.200 --> 00:07:46.700 บอกเลยว่า มีไม่เยอะนะคะ 00:07:46.720 --> 00:07:49.200 นักบวชในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเนี่ย 00:07:49.220 --> 00:07:51.640 มีคนที่เป็นบาทหลวง หรือว่า Priest เนี่ย 00:07:51.740 --> 00:07:53.600 อยู่ทั้งหมด 400,000 คนค่ะ 00:07:53.600 --> 00:07:55.520 แต่ว่ามีคนที่ขึ้นมาเป็นระดับ Bishop เนี่ย 00:07:55.520 --> 00:07:57.300 ประมาณ 5,000 คนเท่านั้นเองค่ะ 00:07:57.300 --> 00:07:58.500 บาทหลวงเนี่ย เหมือนกับว่า 00:07:58.540 --> 00:08:01.240 ถ้าอยากบวช แล้วผ่าน Requirement ก็สามารถบวชได้เลย 00:08:01.240 --> 00:08:03.000 แต่คนที่จะขึ้นมาเป็น Bishop เนี่ยนะคะ 00:08:03.000 --> 00:08:04.900 ไม่สามารถที่อยู่ๆ จะขึ้นมาได้ค่ะ 00:08:04.900 --> 00:08:07.720 จะต้องรอให้ตำแหน่ง Bishop เนี่ย ว่างลงก่อนนะคะ 00:08:07.720 --> 00:08:09.720 จาก 5,000 คน สมมุติว่ามีคนๆ หนึ่ง 00:08:09.740 --> 00:08:12.960 Retire เกษียณตัวเองออกไป หรือว่าตาย เนี่ยนะคะ 00:08:12.980 --> 00:08:14.120 ทำให้ตำแหน่งว่างเนี่ย 00:08:14.120 --> 00:08:15.580 คนที่จะมาเป็น Bishop คนถัดไป 00:08:15.600 --> 00:08:18.080 ถึงจะสามารถขึ้นมาแทนที่ได้ค่ะ 00:08:18.100 --> 00:08:20.280 แล้วถามว่าใครจะขึ้นมาเป็น Bishop แทน? 00:08:20.280 --> 00:08:21.880 ก็ไม่ใช่ว่าใครก็ได้นะคะ 00:08:22.140 --> 00:08:23.800 เพราะว่า Bishop แต่ละคนเนี่ย 00:08:23.800 --> 00:08:27.640 ก็มีหน้าที่อยู่ค่ะ ที่จะต้องทำรายชื่อลับขึ้นมารายชื่อหนึ่งนะคะ 00:08:27.880 --> 00:08:29.640 ก็เขียนรายชื่อบาทหลวงต่างๆ 00:08:29.660 --> 00:08:31.360 ที่อยู่ในละแวกแถวๆ ตัวเองเนี่ย 00:08:31.360 --> 00:08:33.740 เขียนๆๆ เอาไว้เป็นรายชื่อลับค่ะ 00:08:33.740 --> 00:08:36.400 ซึ่งเขาจะทำรายชื่อนี้นะคะ ทุกๆ สามปีค่ะ 00:08:36.400 --> 00:08:39.080 ถามว่าใครบ้างที่จะมีสิทธิ์อยู่ในชื่อนั้นนะคะ 00:08:39.100 --> 00:08:42.880 ก็จะต้องเป็นบาทหลวงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี 00:08:42.880 --> 00:08:45.460 แล้วก็บวชมาไม่น้อยกว่าห้าปีนั่นเองค่ะ 00:08:45.460 --> 00:08:48.280 และที่สำคัญนะคะ คนที่จะไปอยู่ในรายชื่อนี้ 00:08:48.360 --> 00:08:51.100 จะต้องจบปริญญาเอก หรือว่า Ph.D. นะคะ 00:08:51.100 --> 00:08:54.580 ในด้านเทววิทยา หรือว่าเทียบเท่าค่ะ 00:08:54.580 --> 00:08:57.000 อายุเกิน 35 บวชมาเกินห้าปี 00:08:57.000 --> 00:08:59.060 จบปริญญาเอกด้านเทววิทยานะคะ 00:08:59.100 --> 00:09:01.860 Bishop เนี่ย ก็จะมองหาบาทหลวงแบบนี้รอบๆ ตัวเองค่ะ 00:09:01.860 --> 00:09:03.160 แล้วก็ทำเป็นรายชื่อไว้ 00:09:03.160 --> 00:09:04.200 ทุกสามปีเนี่ยนะคะ 00:09:04.200 --> 00:09:06.940 Bishop ก็จะส่งรายชื่อนี้ไปให้คนๆ หนึ่งค่ะ 00:09:06.960 --> 00:09:09.080 คนๆ นี้เป็นตัวแทนของพระสันตะปาปา 00:09:09.080 --> 00:09:10.400 ที่อยู่ในแต่ละประเทศค่ะ 00:09:10.400 --> 00:09:13.660 ตำแหน่งนี้ชื่อว่า Apostolic Nuncio นั่นเองค่ะ 00:09:13.660 --> 00:09:16.340 สมมุติว่าตำแหน่ง Bishop เกิดว่างเว้นลงเนี่ยนะคะ 00:09:16.340 --> 00:09:18.400 เขาก็จะกลับไปดูที่รายชื่อนี้นี่ละค่ะ 00:09:18.400 --> 00:09:19.960 คุณ Apostolic Nuncio เนี่ย 00:09:19.960 --> 00:09:22.720 เขาก็จะดูที่รายชื่อนี้ ดูๆๆๆ นะคะ 00:09:22.720 --> 00:09:25.620 ว่าใครเหมาะสมบ้าง ใครอะไรยังไง นะคะ 00:09:25.620 --> 00:09:28.000 จากนั้นนะคะ จากรายชื่อทั้งหมดที่ได้มา 00:09:28.000 --> 00:09:29.740 ไม่ว่าจะจาก Bishop กี่คนเนี่ยนะคะ 00:09:29.740 --> 00:09:31.700 ก็จะเลือกออกมาทั้งหมดสามคน 00:09:31.700 --> 00:09:32.940 ที่เหมาะสมที่สุดค่ะ 00:09:32.940 --> 00:09:34.800 ว่าคนนี้ดูหน่วยก้านโอเค 00:09:34.800 --> 00:09:36.580 น่าจะขึ้นมาเป็น Bishop คนถัดไป 00:09:36.580 --> 00:09:38.860 หลังจากที่เลือกขึ้นมาสามคนแล้วเนี่ยนะคะ 00:09:38.860 --> 00:09:41.000 เขาก็จะทำการสืบค้นประวัติต่างๆ ค่ะ 00:09:41.000 --> 00:09:43.500 ประมาณว่า คนนี้เรียนจบแบบนี้จริงไหม? 00:09:43.500 --> 00:09:46.660 นิสัยเป็นยังไง? ดูแลชุมชนตัวเองรึเปล่า? 00:09:46.680 --> 00:09:48.200 อะไรอย่างนี้นะคะ ดูไปดูมา 00:09:48.220 --> 00:09:50.740 แล้วก็มีการเรียกเข้ามาสัมภาษณ์ด้วยค่ะ 00:09:50.740 --> 00:09:53.560 หลังจากที่สัมภาษณ์แล้ว สืบประวัติแล้ว อะไรต่างๆ เนี่ยนะคะ 00:09:53.560 --> 00:09:56.920 คุณ Nuncio เขาก็จะเลือกบาทหลวงขึ้นมาทั้งหมดหนึ่งคน 00:09:56.940 --> 00:09:59.080 เป็น Candidate ที่ดีที่สุดสำหรับเขาค่ะ 00:09:59.080 --> 00:10:02.000 หลังจากนั้นเนี่ยนะคะ เขาก็จะเอารายงานทั้งหมดนี้ค่ะ 00:10:02.000 --> 00:10:03.940 ส่งไปยังวาติกันนะคะ 00:10:03.940 --> 00:10:05.400 หลังจากที่ส่งไปที่วาติกันนะคะ 00:10:05.400 --> 00:10:07.680 วาติกันก็จะเอารายงานการเลือกทั้งหมดนี้ 00:10:07.680 --> 00:10:09.680 ส่งเข้าไปที่ Congress of bishops ค่ะ 00:10:09.700 --> 00:10:11.240 หรือว่าสภา Bishop นั่นเอง 00:10:11.240 --> 00:10:14.420 ทีนี้สภา Bishop นะคะ ก็จะทำการพิจารณาอะไรต่างๆ ค่ะ 00:10:14.420 --> 00:10:16.800 ว่าตัวเลือกที่ให้มาเหมาะสมไหม? 00:10:16.800 --> 00:10:19.180 ที่ตรวจสอบมา มีความเห็นตรงกันรึเปล่า? 00:10:19.180 --> 00:10:20.100 อะไรต่างๆ นะคะ 00:10:20.100 --> 00:10:21.900 จนกระทั่ง Congress of bishops เนี่ยนะคะ 00:10:21.920 --> 00:10:24.820 ตกลงกันได้ว่าคนๆ นั้นคือคนที่เหมาะสมจริงๆ ค่ะ 00:10:24.840 --> 00:10:26.840 ซึ่งถ้าบังเอิญว่ารายชื่อที่ส่งไปนะคะ 00:10:26.860 --> 00:10:28.380 คนแรกที่แนะนำว่าดีที่สุด 00:10:28.480 --> 00:10:30.600 รวมไปถึงอีกสองคนที่เป็นตัวสำรองเนี่ย 00:10:30.640 --> 00:10:31.680 Congress of bishops บอก 00:10:31.680 --> 00:10:33.480 "สามคนนี้ไม่เวิร์กทั้งสามคนเลย" 00:10:33.480 --> 00:10:36.220 Congress of bishops ก็มีสิทธิ์ที่จะปัดตกนะคะ 00:10:36.220 --> 00:10:39.780 แล้วก็บอกว่า "พวก Bishop ต่างๆ ไปทำรายชื่อมาใหม่จ้า" 00:10:39.780 --> 00:10:40.780 เสนอมาใหม่นะคะ 00:10:40.780 --> 00:10:42.140 ก็จะวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ 00:10:42.140 --> 00:10:43.980 จนกว่าจะติดสินได้หนึ่งคนค่ะ 00:10:43.980 --> 00:10:45.220 เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด 00:10:45.220 --> 00:10:48.260 แล้วถามว่า พอตัดสินได้ปุ๊บ ได้เป็น Bishop เลยรึเปล่า? 00:10:48.260 --> 00:10:49.680 ก็ต้องบอกว่า ยังนะคะ 00:10:49.700 --> 00:10:52.060 Congress of bishops เนี่ยค่ะ ก็จะเอารายชื่อนี้ 00:10:52.080 --> 00:10:53.300 แล้วก็รายงานทั้งหมดนี้ 00:10:53.300 --> 00:10:55.740 นำเสนอขึ้นไปที่สมเด็จพระสันตะปาปา 00:10:55.740 --> 00:10:56.940 หรือว่า Pope นั่นเองนะคะ 00:10:56.940 --> 00:10:59.340 ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาจะเป็นคนตัดสินค่ะว่า 00:10:59.340 --> 00:11:01.460 โอเค ตกลง คนนี้แหละเหมาะสม 00:11:01.460 --> 00:11:03.300 ได้เป็น Bishop เรียบร้อยนะคะ 00:11:03.300 --> 00:11:05.640 ซึ่งบังเอิญถ้าสมเด็จพระสันตะปาปาบอกว่า 00:11:05.660 --> 00:11:08.580 "ที่เลือกมาเนี่ย ไม่เหมาะสมนะ ไม่โอเค" 00:11:08.580 --> 00:11:09.980 ก็สามารถปัดตกนะคะ 00:11:09.980 --> 00:11:12.640 แล้วขั้นตอนทั้งหมดก็จะเริ่มใหม่ตั้งแต่แรกค่ะ 00:11:12.660 --> 00:11:14.880 ดังนั้นกว่าจะได้ Bishop มาคนหนึ่งเนี่ย 00:11:14.880 --> 00:11:17.900 บางครั้งก็อาศัยเวลาเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน 00:11:17.920 --> 00:11:19.580 หรือเป็นปี ก็เป็นได้นะคะ 00:11:19.580 --> 00:11:21.820 ขึ้นอยู่กับว่ามีคนที่เหมาะสมรึเปล่า 00:11:21.820 --> 00:11:24.600 ในสายตาของแต่ละคน ที่อยู่ในแต่ละขั้นตอนนะคะ 00:11:24.600 --> 00:11:26.080 ทีนี้หลังจากที่เป็น Bishop แล้วเนี่ย 00:11:26.080 --> 00:11:28.040 ก็ต้องบอกว่าตำแหน่งนี้เข้าใกล้ 00:11:28.040 --> 00:11:30.360 ความเป็นพระคาร์ดินัลขึ้นมาอีกนิดหนึ่งแล้วค่ะ 00:11:30.440 --> 00:11:31.640 ตำแหน่งพระคาร์ดินัลนะคะ 00:11:31.640 --> 00:11:34.420 จริงๆ ไม่ได้เป็นเหมือนหัวหน้าของ Bishop อะไรนะ 00:11:34.420 --> 00:11:37.620 แต่ว่าเป็น Bishop ที่มีหน้าที่พิเศษเพิ่มขึ้นค่ะ 00:11:37.680 --> 00:11:39.160 ก็จะมีหน้าที่ต่างๆ มากมาย 00:11:39.160 --> 00:11:41.520 เช่น เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จพระสันตะปาปา 00:11:41.580 --> 00:11:43.840 รวมถึงหน้าที่สำคัญที่เราพูดถึงในวันนี้ 00:11:43.840 --> 00:11:47.640 คือหน้าที่เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่นั่นเองนะคะ 00:11:47.660 --> 00:11:49.260 แล้วถามว่า จาก Bishop 00:11:49.260 --> 00:11:51.240 จะขึ้นไปเป็น Cardinal ได้ยังไงนะคะ 00:11:51.240 --> 00:11:53.900 ก็ต้องบอกว่ามีคนๆ เดียวที่มีสิทธิ์แต่งตั้งพระคาร์ดินัลค่ะ 00:11:53.920 --> 00:11:56.100 นั่นก็คือสมเด็จพระสันตะปาปานั่นเอง 00:11:56.120 --> 00:11:57.940 สมเด็จพระสันตะปาปาจะเป็นคนบอกนะคะว่า 00:11:58.000 --> 00:11:59.440 "โอเค คนนี้เป็น Cardinal" 00:11:59.460 --> 00:12:01.740 ซึ่งถามว่า พระคาร์ดินัลมีเยอะขนาดไหนนะคะ 00:12:01.740 --> 00:12:03.280 เมื่อกี้นี้บอกว่าจากทั้งโลกเนี้ย 00:12:03.300 --> 00:12:05.380 มีบาทหลวงทั้งหมด 400,000 คน 00:12:05.440 --> 00:12:07.200 เป็น Bishop 5,000 คน 00:12:07.500 --> 00:12:09.060 และจาก Bishop ทั้งหมดเนี่ย 00:12:09.080 --> 00:12:12.480 มีสิทธิ์เป็นพระคาร์ดินัลแค่ทั้งหมด 200 คนเท่านั้นเองค่ะ 00:12:12.480 --> 00:12:15.800 เรียกได้ว่าในโลกนี้มีน้อยมากๆๆ เลยนะคะ 00:12:15.800 --> 00:12:18.140 หลายคนฟังมาถึงขนาดนี้ น่าจะรู้สึกว่า 00:12:18.140 --> 00:12:20.700 โห ตำแหน่งพระคาร์ดินัลนี่ยิ่งใหญ่มากๆ 00:12:20.700 --> 00:12:22.160 น่าจะไม่ใกล้ตัวเราเลยนะคะ 00:12:22.160 --> 00:12:23.880 น่าจะไปอยู่แถวยุโรปอะไรมากกว่า 00:12:23.880 --> 00:12:25.520 ก็ต้องบอกว่าในประเทศไทยเนี่ย 00:12:25.520 --> 00:12:27.240 เราก็มีพระคาร์ดินัลเหมือนกันนะคะ 00:12:27.260 --> 00:12:28.820 ถึงทั้งหมดสองท่านด้วยกันนะคะ 00:12:28.860 --> 00:12:32.640 ท่านแรกคือ พระคาร์ดินัลไมเคิล มีชัย กิจบุญชู ค่ะ 00:12:32.680 --> 00:12:35.040 และอีกท่านหนึ่ง เพิ่งแต่งตั้งได้ไม่นานเนี่ยนะคะ 00:12:35.040 --> 00:12:39.740 ก็คือพระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช นั่นเองค่ะ 00:12:39.760 --> 00:12:41.760 ทีนี้เราก็ไล่กันขึ้นมาจนกระทั่ง 00:12:41.760 --> 00:12:43.500 ถึงตำแหน่งพระคาร์ดินัลแล้วนะคะ 00:12:43.500 --> 00:12:44.660 ซึ่งจะเป็นคนที่ 00:12:44.720 --> 00:12:46.160 เหมือนกึ่งๆ จะเป็น Candidate 00:12:46.160 --> 00:12:48.720 ที่ได้รับเลือกขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาค่ะ 00:12:48.760 --> 00:12:51.060 แล้วถามว่า ขั้นตอนการคัดเลือก เป็นยังไงนะคะ 00:12:51.060 --> 00:12:52.840 ก็ขั้นตอนการคัดเลือกทั้งหมดค่ะ 00:12:52.840 --> 00:12:55.880 จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาว่างลง 00:12:55.880 --> 00:12:58.840 ซึ่งสาเหตุที่จะว่างก็มีได้ทั้งหมดสองสาเหตุด้วยกันนะคะ 00:12:58.880 --> 00:13:00.500 หนึ่ง คือสิ้นพระชนม์ค่ะ 00:13:00.520 --> 00:13:02.800 และข้อที่สองนะคะ ก็คือเกษียณนั่นเองค่ะ 00:13:02.800 --> 00:13:05.620 เอาเป็นว่าไม่ว่าว่างเว้นลงด้วยสาเหตุใดนะคะ 00:13:05.680 --> 00:13:07.240 ก็จะต้องมีกระบวนการ 00:13:07.260 --> 00:13:09.900 เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ เกิดขึ้นค่ะ 00:13:09.900 --> 00:13:11.420 ภายในไม่กี่วันนะคะ หลังจากที่ 00:13:11.420 --> 00:13:13.420 ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาว่างลงเนี่ย 00:13:13.420 --> 00:13:16.300 ก็จะมีการเรียกพระคาร์ดินัลจากทั้งโลกนะคะ 00:13:16.300 --> 00:13:18.760 มารวมตัวกันที่นครรัฐวาติกันค่ะ 00:13:18.780 --> 00:13:20.400 ซึ่งคนที่จะมารวมตัวกันเนี่ย 00:13:20.460 --> 00:13:22.880 ไม่ใช่ว่าพระคาร์ดินัลทุกคนจะได้รับเชิญนะคะ 00:13:22.880 --> 00:13:25.520 จะต้องเป็นคนที่อายุไม่เกิด 80 ปีเท่านั้นค่ะ 00:13:25.520 --> 00:13:28.500 ซึ่งในไทยนะคะ พระคาร์ดินัลไมเคิล มีชัย กิจบุญชู เนี่ย 00:13:28.520 --> 00:13:29.500 อายุเกินแล้วค่ะ 00:13:29.500 --> 00:13:33.040 ก็จะมีแค่พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช นะคะ 00:13:33.060 --> 00:13:34.420 ที่จะได้รับเชิญไปค่ะ 00:13:34.420 --> 00:13:36.820 เมื่อไปถึงนะคะ ทุกคนก็จะมารวมตัวกันค่ะ 00:13:36.820 --> 00:13:38.240 และพระคาร์ดินัลทุกองค์ 00:13:38.240 --> 00:13:40.600 ก็จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนะคะ 00:13:40.600 --> 00:13:43.120 โดนยึดมือถือ โดนยึดเครื่องมือสื่อสาร 00:13:43.160 --> 00:13:44.240 ยึดทุกอย่างหมดค่ะ 00:13:44.260 --> 00:13:44.960 หลังจากนั้นนะคะ 00:13:44.980 --> 00:13:47.180 ทุกคนก็จะไปรวมตัวกันที่โบสถ์น้อย Sistine 00:13:47.180 --> 00:13:49.020 หรือว่า Sistine Chapel นั่นเองนะคะ 00:13:49.020 --> 00:13:50.040 ซึ่งที่โบสถ์แห่งนี้ 00:13:50.040 --> 00:13:53.240 พิธีเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ก็จะเกิดขึ้นค่ะ 00:13:53.240 --> 00:13:56.140 โดยวิธีการเลือกนะคะ เขาจะมีการโหวตกันค่ะ 00:13:56.160 --> 00:13:58.200 ใช้วิธีการลงคะแนนเสียงนะคะ 00:13:58.200 --> 00:14:01.300 ไม่ใช่ว่าแบบ ไปถึง กาๆ แล้วก็หย่อนๆ แล้วจบนะคะ 00:14:01.300 --> 00:14:03.260 แต่ว่า ขั้นตอนเนี่ยก็คือ 00:14:03.260 --> 00:14:05.340 พระคาร์ดินัลทุกองค์ที่มารวมตัวกันนะคะ 00:14:05.340 --> 00:14:07.240 จะได้รับกระดาษพิเศษคนละใบค่ะ 00:14:07.240 --> 00:14:09.840 จากนั้นทุกคนก็เขียนชื่อคนที่คิดว่า 00:14:09.840 --> 00:14:12.280 อยากให้ขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ค่ะ 00:14:12.300 --> 00:14:14.900 ซึ่งต้องบอกว่าตรงนี้ เขียนใครก็ได้นะคะ 00:14:14.900 --> 00:14:16.080 ใครก็ได้แบบ ใครก็ได้ 00:14:16.080 --> 00:14:17.800 ไม่จำเป็นต้องเป็นพระคาร์ดินัลก็ได้ 00:14:17.820 --> 00:14:19.360 อย่างที่วิวบอกตั้งแต่แรก คือ 00:14:19.360 --> 00:14:21.780 แค่เป็นผู้ชาย แล้วก็นับถือศาสนาคริสต์ 00:14:21.780 --> 00:14:23.180 นิกายโรมันคาทอลิกค่ะ 00:14:23.180 --> 00:14:25.440 แต่พอกบอกว่าใครก็ได้จากทั้งโลกเนี่ย 00:14:25.440 --> 00:14:26.380 ก็คงจะยากนิดหนึ่ง 00:14:26.380 --> 00:14:28.000 นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ 00:14:28.060 --> 00:14:30.820 ส่วนมากก็เขียนชื่อคนที่นั่งอยู่ในห้องด้วยกันนั่นละค่ะ 00:14:30.820 --> 00:14:32.120 หลังจากที่เขียนลงไปแล้วนะคะ 00:14:32.120 --> 00:14:34.780 พระคาร์ดินัลทุกท่านค่ะ ก็จะต้องลุกขึ้นมานะคะ 00:14:34.780 --> 00:14:36.080 ถือกระดาษแผ่นนี้แล้วก็ 00:14:36.080 --> 00:14:37.980 กล่าวบทสวดเป็นภาษาละตินค่ะ 00:14:37.980 --> 00:14:40.980 กล่าวๆ เสร็จปุ๊บก็พับกระดาษครึ่งหนึ่งนะคะ 00:14:40.980 --> 00:14:44.080 แล้วก็เอากระดาษนี้นะคะ หย่อนลงไปในภาชนะที่รออยู่ค่ะ 00:14:44.080 --> 00:14:45.540 เพื่อลงคะแนนเสียงนะคะ 00:14:45.640 --> 00:14:47.500 หลังจากที่ทุกคนทำแบบนี้แล้วเนี่ยนะคะ 00:14:47.500 --> 00:14:50.240 ก็จะมีพระคาร์ดินัลที่มีตำแหน่งพิเศษอยู่ด้านในค่ะ 00:14:50.240 --> 00:14:52.700 คอยนับคะแนนนะคะ โดยการขานออกมา 00:14:52.700 --> 00:14:55.280 หลังจากที่ขานแล้วนะคะ ก็จะมาดูว่าใครที่ 00:14:55.280 --> 00:14:56.920 เป็นคะแนนเสียงส่วนมากค่ะ 00:14:56.920 --> 00:14:58.360 ซึ่งปกติเวลาเราเลือกตั้งเนี่ย 00:14:58.360 --> 00:15:01.280 เราก็จะดูว่า ใครเสียงมากสุด คนนั้นก็จะได้ไปนะคะ 00:15:01.280 --> 00:15:04.460 แต่สำหรับตำแหน่งพระสันตะปาปาไม่ใช่แบบนั้นค่ะ 00:15:04.540 --> 00:15:07.000 สมมุติว่าเขียนมาจากพระคาร์ดินัลทุกองค์เนี่ยนะคะ 00:15:07.000 --> 00:15:09.580 คนนี้ได้ 50 คะแนน คนนี้ได้ 10 00:15:09.600 --> 00:15:12.220 คนนี้ได้สอง สี่ ห้า เจ็ด อะไรอย่างนี้นะ 00:15:12.220 --> 00:15:13.680 50 คะแนนดูเยอะแล้วใช่ไหม? 00:15:13.700 --> 00:15:16.160 แต่ว่าไม่พอให้ได้ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปานะคะ 00:15:16.160 --> 00:15:19.460 เพราะว่าคนที่จะขึ้นมาเป็นตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาเนี่ย 00:15:19.460 --> 00:15:22.140 จะต้องจะคะแนนเสียงมากกว่าสองในสาม 00:15:22.160 --> 00:15:23.780 ของคนที่มาโหวตทั้งหมดค่ะ 00:15:23.780 --> 00:15:26.720 ดังนั้นนะคะ ถือว่าโอกาสค่อนข้างยากค่ะ 00:15:26.720 --> 00:15:29.820 ซึ่งหลังจากที่อ่าน นับคะแนนเสียงอะไรต่างๆ แล้วเนี่ยนะคะ 00:15:29.880 --> 00:15:31.200 สมมุติว่าโหวตออกมาแล้ว 00:15:31.220 --> 00:15:33.360 ไม่มีใครได้คะแนนมากกว่าสองในสาม 00:15:33.380 --> 00:15:35.320 ยังไม่มีสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ 00:15:35.320 --> 00:15:36.680 เขาก็จะเอากระดาษทั้งหมดนี้นะคะ 00:15:36.680 --> 00:15:39.880 ใส่สารเคมีพิเศษสารหนึ่งค่ะ แล้วก็เผาไฟนะคะ 00:15:40.000 --> 00:15:42.320 ให้ควันเนี่ย ลอยออกไปด้านนอกค่ะ 00:15:42.320 --> 00:15:44.040 เราน่าจะเคยเห็นกันในทีวีนะคะ 00:15:44.040 --> 00:15:46.100 ตอนพิธีเลือกสมเด็จพระสันตะปาปา 00:15:46.100 --> 00:15:47.440 เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเนอะ 00:15:47.440 --> 00:15:50.000 ว่าชาวคริสต์เนี่ยเขาจะไปยืนกันอยู่ตรง 00:15:50.000 --> 00:15:51.960 ลานหน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ใช่ไหม 00:15:51.960 --> 00:15:55.120 แล้วก็ดูว่าแบบ มีควันออกมาจากปล่องไฟไหม? 00:15:55.180 --> 00:15:57.720 หรือว่าพวกทีวีก็จะคอยถ่ายปล่องไฟไว้นะคะ 00:15:57.720 --> 00:16:00.400 เพราะว่าเขาจะดูตอนที่เผากระดาษนี่ละค่ะ 00:16:00.440 --> 00:16:03.520 ถ้าสมมุติว่ามีการใส่สารเคมีเข้าไป เผาไฟ ปึ้ง! 00:16:03.520 --> 00:16:04.940 แล้วควันออกมาเป็นสีดำ 00:16:04.940 --> 00:16:08.060 แปลว่ายังเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาไม่ได้นะคะ 00:16:08.080 --> 00:16:09.800 ก็จะต้องมีการโหวตกันใหม่ค่ะ 00:16:09.800 --> 00:16:11.520 เขาก็จะโหวตกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะคะ 00:16:11.520 --> 00:16:12.940 ถามว่าต้องทำใหม่บ่อยขนาดไหน? 00:16:12.940 --> 00:16:14.180 ถ้าสมมุติว่ายังไม่ได้นะ 00:16:14.180 --> 00:16:17.100 ก็วันหนึ่งจะโหวตแบบนี้ทั้งหมดสี่ครั้งด้วยกันค่ะ 00:16:17.140 --> 00:16:19.680 และถ้าวันนี้ยังไม่ได้ ก็จะพรุ่งนี้ต่อไปนะคะ 00:16:19.680 --> 00:16:22.220 โหวตอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หกวันต่อสัปดาห์ 00:16:22.240 --> 00:16:25.340 ทิ้งวันอาทิตย์ไว้หนึ่งวัน ให้สวดภาวนาอะไรต่างๆ นะคะ 00:16:25.340 --> 00:16:27.340 ก็จะโหวตวนไปเรื่อยๆๆ 00:16:27.360 --> 00:16:30.740 จนกระทั่งมีใครสักคนได้คะแนนเสียงสองในสามนะคะ 00:16:30.760 --> 00:16:34.140 ก็ถือว่า เราได้ Candidate สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้ว 00:16:34.140 --> 00:16:35.980 ก็จะมีพิธีการเข้าไปถามก่อนว่า 00:16:36.000 --> 00:16:38.640 สมัครใจไหมที่จะขึ้นเป็นสมเด็จพระสันตะปาปา? 00:16:38.640 --> 00:16:42.240 ถ้าสมัครใจ โอเค ก็จะมีการเปลี่ยนชุดเปลี่ยนอะไรกันต่างๆ 00:16:42.240 --> 00:16:44.520 รวมไปถึงพิธีเลือกพระนามใหม่ค่ะ 00:16:44.520 --> 00:16:46.400 เพราะว่า ถือว่าเป็นคนใหม่แล้วไงคะ 00:16:46.400 --> 00:16:48.200 ดังนั้นต้องเปลี่ยนชื่อใหม่นะคะ 00:16:48.220 --> 00:16:50.000 ซึ่งโดยส่วนมากนะคะ เขาก็นิยมจะใช้ 00:16:50.000 --> 00:16:52.480 ชื่อของสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ ค่ะ 00:16:52.500 --> 00:16:54.060 ตรงนี้พิเศษมากๆ เพราะว่า 00:16:54.060 --> 00:16:56.700 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส องค์ปัจจุบันเนี่ยนะคะ 00:16:56.700 --> 00:16:59.360 เป็นพระองค์แรกที่เลือกใช้ชื่อฟรังซิสค่ะ 00:16:59.360 --> 00:17:00.420 โดยเขาให้เหตุผลว่า 00:17:00.420 --> 00:17:02.820 เพราะว่าพระองค์ชอบช่วยเหลือคนจนนั่นเองค่ะ 00:17:02.840 --> 00:17:04.800 จากนั้นกระดาษที่ได้คะแนนโหวตเนี่ยค่ะ 00:17:04.820 --> 00:17:06.940 เขาก็จะนำไปเผาด้วยสารเคมีอีกตัวหนึ่ง 00:17:06.960 --> 00:17:09.520 ซึ่งจะทำให้ควันเนี่ย ออกมาเป็นสีขาวค่ะ 00:17:09.520 --> 00:17:11.940 คนด้านนอกก็จะแบบ อ้า เห็นควันสีขาวแล้ว 00:17:11.960 --> 00:17:14.220 เราได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่แล้วนะคะ 00:17:14.220 --> 00:17:15.100 แล้วหลังจากนั้นนะคะ 00:17:15.100 --> 00:17:17.300 สมเด็จพระสันตะปาปาก็จะออกมาที่ระเบียงค่ะ 00:17:17.320 --> 00:17:20.880 แล้วก็จะมาทักทายกับฝูงชนต่างๆ ที่มาเข้าเฝ้านั่นเองค่ะ 00:17:20.900 --> 00:17:22.940 นี่ก็เป็นขั้นตอนทั้งหมดนะคะ 00:17:22.940 --> 00:17:25.220 ว่ากว่าจะมีพระสันตะปาปาองค์หนึ่งเนี่ย 00:17:25.260 --> 00:17:27.560 ต้องผ่านขั้นตอนมากมายขนาดไหน 00:17:27.560 --> 00:17:30.320 ต้องได้รับการยอมรับจากคนมากมายขนาดไหนค่ะ 00:17:30.320 --> 00:17:32.220 ซึ่งฟังแบบนี้แล้ว รู้สึกว่ายากไหมคะ? 00:17:32.240 --> 00:17:34.060 กว่าจะได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์หนึ่ง 00:17:34.100 --> 00:17:37.080 ก็บอกเลยค่ะว่า ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มเข้า Sistine Chapel 00:17:37.080 --> 00:17:38.500 แล้วก็ตัดขาดจากโลกภายนอก 00:17:38.500 --> 00:17:40.080 แล้วโหวตๆๆ กันเนี่ยนะคะ 00:17:40.100 --> 00:17:43.440 ส่วนมากค่ะ ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณสองสัปดาห์ค่ะ 00:17:43.460 --> 00:17:46.000 กว่าที่จะได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่นะคะ 00:17:46.000 --> 00:17:47.960 แต่ตามสถิติแล้วเนี่ยนะคะ เขาบอกว่า 00:17:47.960 --> 00:17:50.840 สถิติสูงสุด กว่าจะได้สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่เนี่ย 00:17:50.840 --> 00:17:53.780 คือโหวตกันแบบนี้ทุกวัน วันละสี่ครั้ง 00:17:53.780 --> 00:17:55.660 สัปดาห์ละหกวันเนี่ย อยู่ทั้งหมด 00:17:56.060 --> 00:17:57.260 สามปีด้วยกันค่ะ 00:17:57.260 --> 00:17:58.000 เรียกได้ว่า 00:17:58.260 --> 00:18:00.240 โหวตกันนานมากจริงๆ นะคะ 00:18:00.240 --> 00:18:03.220 นี่คือสาเหตุที่ทำให้ตำแหน่งของสมเด็จพระสันตะปาปา 00:18:03.220 --> 00:18:06.020 ถือเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ เลยทีเดียวค่ะ 00:18:06.260 --> 00:18:07.660 เป็นยังไงบ้างคะคลิปนี้? 00:18:07.660 --> 00:18:09.120 ได้ความรู้เพิ่มเติมกันมั้ย? 00:18:09.120 --> 00:18:11.960 สมมุติว่าใครมีความรู้เพิ่มเติมอะไรมากกว่าวิว 00:18:12.060 --> 00:18:13.180 วิวตกหล่นตรงไหนไป 00:18:13.180 --> 00:18:15.520 ก็สามารถคอมเมนต์มาคุยกันด้านล่างได้นะคะ 00:18:15.580 --> 00:18:16.920 และถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้ 00:18:16.920 --> 00:18:18.380 อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว 00:18:18.420 --> 00:18:20.520 แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ 00:18:20.600 --> 00:18:23.060 แล้วพบหันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊ายบาย~ 00:18:23.060 --> 00:18:23.700 สวัสดีค่ะ 00:18:23.900 --> 00:18:25.940 เอาจริงๆ เรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์เนี่ย 00:18:25.940 --> 00:18:28.180 โดยเฉพาะศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนะคะ 00:18:28.200 --> 00:18:31.320 ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่วิวค่อนข้างสนใจมากๆ เลย 00:18:31.340 --> 00:18:33.900 เพราะว่าทั้งเรื่องราว ศาสนา ความเชื่อ พิธีกรรมเหล่านี้ 00:18:33.900 --> 00:18:36.220 มักจะไปปรากฏอยู่ในหนัง ในละคร 00:18:36.220 --> 00:18:38.720 ในหนังสือ ในนิยายอะไรต่างๆ ใช่ไหมคะ? 00:18:38.760 --> 00:18:42.120 ดังนั้นถามสมมุติว่าเราอยากอ่านหนังสือ อ่านนิยาย 00:18:42.220 --> 00:18:45.280 ดูหนัง ดูซีรี่ส์ ดูละคร ให้มันเข้าถึงเนี่ย 00:18:45.280 --> 00:18:47.000 เราก็ควรจะมีความรู้ไว้ค่ะ 00:18:47.000 --> 00:18:49.380 ส่วนตัววิวก็กำลังค่อนๆ อ่านเพิ่มอยู่นะคะ 00:18:49.380 --> 00:18:51.040 อาจจะยังไม่ได้เป๊ะมากขนาดนั้นนะคะ 00:18:51.040 --> 00:18:53.300 แต่ว่าถ้าสมมุติว่าอ่านเจออะไรน่าสนใจ 00:18:53.320 --> 00:18:55.920 เดี๋ยวจะเอามาแบ่งปันให้ทุกคนทราบในโอกาสถัดไปค่ะ 00:18:55.920 --> 00:18:58.300 วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย~ 00:18:58.500 --> 00:18:59.160 สวัสดีค่ะ