โลกจะมีหน้าตาเหมือนดาวอังคารในสักวัน เพราะเหตุใด
-
0:01 - 0:04เวลาที่คุณเงยหน้ามองดาวในยามค่ำคืน
-
0:04 - 0:05สิ่งที่คุณเห็นมันสุดยอดมาก
-
0:05 - 0:07มันสวยงามมาก
-
0:07 - 0:10แต่สิ่งที่สุดยอดกว่านั้นคือ
สิ่งที่คุณมองไม่เห็น -
0:10 - 0:11เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่า
-
0:11 - 0:15สิ่งที่รายล้อมดาวทุกดวง
หรือเกือบจะทุกดวงนั้น -
0:15 - 0:16คือดาวเคราะห์ 1 ดวง
-
0:16 - 0:17หรืออาจจะ 2-3 ดวง
-
0:18 - 0:20สิ่งที่ภาพนี้ไม่ได้แสดงให้คุณเห็น
-
0:20 - 0:22คือดาวเคราะห์ทุกดวงที่เรารู้จัก
-
0:22 - 0:24ที่อยู่ในอวกาศ
-
0:24 - 0:27เมื่อเราคิดถึงดาวเคราะห์
เรามักจะคิดถึงสิ่งที่อยู่ไกลออกไป -
0:27 - 0:29ดาวที่มีความแตกต่างกับเราอย่างมาก
-
0:29 - 0:32แต่ว่าตอนนี้เราก็อยู่บนดาวเคราะห์
-
0:32 - 0:35แล้วโลกเราก็มีเรื่องที่น่าทึ่ง
อยู่หลายเรื่องเลยค่ะ -
0:35 - 0:39เราพยายามค้นหาทั่วทุกทิศ
เพื่อหาดาวเคราะห์ที่คล้ายคลึงกับโลก -
0:39 - 0:43และยิ่งเราค้นหา
เราก็ยิ่งค้นพบความน่าทึ่ง -
0:43 - 0:47แต่ฉันอยากจะบอกคุณเกี่ยวกับ
เรื่องน่าทึ่งอย่างหนึ่งบนโลกของเรา -
0:47 - 0:50นั่นคือในทุก ๆ หนึ่งนาที
-
0:50 - 0:52ไฮโดรเจน 400 ปอนด์
-
0:52 - 0:55กับฮีเลียมเกือบ 7 ปอนด์
-
0:55 - 0:58หลุดจากโลกไปยังอวกาศ
-
0:59 - 1:03ก๊าซเหล่านี้ หลุดออกไป
และจะไม่กลับมา -
1:03 - 1:06ไฮโดรเจน ฮีเลียม
และสิ่งอื่น ๆ อีกหลายสิ่ง -
1:06 - 1:09สร้างสิ่งที่เราเรียกว่าชั้นบรรยากาศ
-
1:09 - 1:14ชั้นบรรยากาศมีแต่ก๊าซพวกนี้
ที่เป็นเส้นสีฟ้าบาง ๆ -
1:14 - 1:16มองเห็นได้จากสถานีอวกาศนานาชาติ
-
1:16 - 1:19นี่คือภาพที่นักบินอวกาศบางคนถ่ายมา
-
1:19 - 1:23และเส้นบาง ๆ ที่อยู่รอบโลกเรานี้เอง
-
1:23 - 1:25ที่ทำให้โลกอุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิต
-
1:25 - 1:28มันปกป้องโลกของเรา
จากการปะทะของอุกกาบาต -
1:28 - 1:30และสิ่งต่าง ๆ มาอย่างมากมาย
-
1:30 - 1:34มันเป็นปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์มาก
-
1:34 - 1:36และความจริงที่ว่ามันกำลังค่อย ๆ หายไป
-
1:36 - 1:39อย่างน้อยก็ควรสร้างความหวาดกลัวให้กับคุณ
-
1:40 - 1:43ดังนั้น ฉันจึงศึกษา
เกี่ยวกับกระบวนการนี้ -
1:43 - 1:46และเรียกมันว่าการหลุดของชั้นบรรยากาศ
-
1:47 - 1:51การหลุดของชั้นบรรยากาศ
ไม่ได้เกิดขึ้นกับโลกของเราเพียงอย่างเดียว -
1:51 - 1:55มันเป็นสิ่งที่ทำให้ดาวดวงนั้น
ถูกเรียกว่าดาวเคราะห์เลยค่ะ -
1:55 - 1:59เพราะว่าดาวเคราะห์ ไม่เพียงแต่โลก
แต่รวมถึงทุกดวงในจักรวาล -
1:59 - 2:02สามารถเกิดการหลุดของชั้นบรรยากาศขึ้นได้
-
2:02 - 2:07และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้บอกเรา
เกี่ยวกับดาวดวงนั้น ๆ เอง -
2:08 - 2:11เพราะว่าหากคุณนึกถึงระบบสุริยะ
-
2:11 - 2:13คุณอาจจะคิดถึงรูปนี้
-
2:14 - 2:17คุณอาจจะบอกว่า
มีดาวเคราะห์แปดดวง หรืออาจจะเก้า -
2:17 - 2:20ถ้าหากพวกคุณบางคน
จะคิดมากกับภาพนี้นะคะ -
2:20 - 2:21ฉันจะเพิ่มบางคนเข้าไปให้
-
2:21 - 2:22(เสียงหัวเราะ)
-
2:22 - 2:25เพื่อให้เกียรติยานนิวฮอไรซอน
เราจะนับดาวพลูโตด้วยแล้วกัน -
2:26 - 2:27สิ่งที่คุณกำลังเห็น
-
2:27 - 2:30คือเป้าหมายของการบรรยายนี้
และการหลุดของชั้นบรรยากาศ -
2:30 - 2:32สำหรับฉัน พลูโตเป็นดาวเคราะห์นะคะ
-
2:32 - 2:36ในทางเดียวกัน ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์
แม้เราจะมองไม่เห็น -
2:36 - 2:38ก็นับเป็นดาวเคราะห์
-
2:38 - 2:41ซึ่งลักษณะพื้นฐานของดาวเคราะห์
-
2:41 - 2:44ประกอบด้วย
ความจริงที่ว่ามันมีรูปทรง -
2:44 - 2:46ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยแรงโน้มถ่วง
-
2:46 - 2:48วัตถุมากมายถูกดึงเข้ามารวมกัน
-
2:48 - 2:50ด้วยแรงดึงดูดนี้เอง
-
2:50 - 2:53หากรูปทรงนี้ใหญ่มาก
ก็แปลว่ามีแรงโน้มถ่วงมาก -
2:53 - 2:54นี่คือสาเหตุที่มันกลม
-
2:54 - 2:56ดังนั้น เมื่อคุณดูภาพนี้
-
2:56 - 2:57รวมถึงดาวพลูโตด้วย
-
2:57 - 2:59พวกมันกลม
-
2:59 - 3:02ดังนั้น คุณจะเห็นบทบาท
ของแรงโน้มถ่วงในภาพนี้ด้วย -
3:02 - 3:05แต่ลักษณะพื้นฐานของ
ดาวเคราะห์อีกอย่างหนึ่ง -
3:05 - 3:07คือสิ่งที่คุณไม่เห็นในภาพนี้
-
3:07 - 3:09และนี่คือดาวฤกษ์ค่ะ
คือดวงอาทิตย์ -
3:09 - 3:13ซึ่งดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ
กำลังโคจรอยู่รอบ ๆ -
3:13 - 3:17และยังเป็นปัจจัยหลัก
ที่ทำให้เกิดการหลุดของชั้นบรรยากาศ -
3:18 - 3:23เหตุผลที่ดาวฤกษ์ทำให้ชั้นบรรยากาศ
หลุดออกไปจากดาวเคราะห์ -
3:23 - 3:28ก็เพราะดาวฤกษ์ให้อนุภาค และแสง
และความร้อนแก่ดาวเคราะห์ -
3:28 - 3:32ซึ่งเป็นสาเหตุให้ชั้นบรรยากาศ
หลุดหายออกไปด้วย -
3:32 - 3:33คุณลองนึกถึงบอลลูนลมร้อน
-
3:33 - 3:38หรือไม่ก็ดูภาพนี้ค่ะ
นี่คือเทศกาลลอยโคมในประเทศไทย -
3:38 - 3:41คุณจะเห็นว่าอากาศร้อน
จะขับเคลื่อนให้ก๊าซลอยขึ้นด้านบน -
3:41 - 3:43หากคุณมีพลังงาน
และความร้อนมากเพียงพอ -
3:43 - 3:45ซึ่งดวงอาทิตย์ของเรามี
-
3:45 - 3:49ก๊าซเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เบา
และถูกดึงเข้าไว้ด้วยแรงโน้มถ่วง -
3:49 - 3:50ก็จะสามารถหลุดลอยออกไปได้
-
3:52 - 3:56นี่คือสาเหตุที่ทำให้เกิด
การหลุดของชั้นบรรยากาศ -
3:56 - 3:58ทั้งบนโลกของเรา
และบนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ -
3:58 - 4:01มันคืออิทธิพลระหว่าง
ความร้อนจากดาวฤกษ์ -
4:01 - 4:04กับพลังในการยื้อยุด
ของแรงโน้มถ่วงบนดาวเคราะห์ -
4:05 - 4:07ตามที่ฉันบอกว่ามันเกิดขึ้นแล้ว
-
4:07 - 4:10ในอัตราของไฮโดรเจน 400 ปอนด์ต่อนาที
-
4:10 - 4:12และฮีเลียมเกือบ 7 ปอนด์ต่อนาที
-
4:13 - 4:15แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ
-
4:15 - 4:17ย้อนกลับไปในยุค '80
-
4:17 - 4:18พวกเราได้ถ่ายภาพโลก
-
4:18 - 4:20ในรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต
-
4:20 - 4:23ด้วยยานไดนามิคเอ็กพลอเรอร์ของนาซ่า
-
4:23 - 4:25และภาพของโลกสองภาพนี้
-
4:25 - 4:28แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้น
ของการหลุดหายไปของไฮโดรเจน -
4:28 - 4:30ด้วยสีแดง
-
4:30 - 4:33และเรายังเห็นสิ่งอื่น ๆ
อย่างเช่น ออกซิเจน หรือ ไนโตรเจน -
4:33 - 4:35ตรงรัศมีสีขาว
-
4:35 - 4:37ในวงกลมนี้แสดงให้เห็นถึงแสงออโรร่า
-
4:37 - 4:40และเห็นเป็นปอย ๆ แถว ๆ เขตร้อน
-
4:40 - 4:43สรุปแล้ว ภาพนี้ได้แสดงให้เราเห็นว่า
-
4:43 - 4:47ชั้นบรรยากาศของเรา
ไม่ได้ถูกดึงเอาไว้เพียงอย่างเดียว -
4:47 - 4:50แต่จริง ๆ แล้ว
มันกระจายออกไปยังอวกาศด้วย -
4:50 - 4:52ฉันจะเพิ่มให้ว่า ในระดับที่ควรกังวล
-
4:53 - 4:57แต่โลกไม่ได้เป็นดาวเคราะห์ดวงเดียว
ที่ชั้นบรรยากาศหลุดลอยออไป -
4:57 - 5:00ดาวอังคาร เพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุด
มีขนาดเล็กกว่าโลกมาก -
5:00 - 5:04จึงมีแรงโน้มถ่วง
ที่จะดึงชั้นบรรยากาศเอาไว้ได้น้อยกว่า -
5:04 - 5:06ถึงอย่างนั้น
ดาวอังคารก็มีชั้นบรรยากาศ -
5:06 - 5:09เราจะเห็นเส้นที่บางกว่าของโลกมาก
-
5:09 - 5:10ลองดูที่พื้นผิวสิคะ
-
5:10 - 5:14เราจะเห็นหลุมบ่อ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
ชั้นบรรยากาศของมัน -
5:14 - 5:15บางเกินกว่าจะหยุดยั้งการปะทะ
-
5:15 - 5:18เราจะเห็นว่านี่คือ "ดาวแดง"
-
5:18 - 5:21ซึ่งก็เป็นผลมาจาก
การหลุดของชั้นบรรยากาศ -
5:21 - 5:22ทำให้ดาวอังคารมีสีแดง
-
5:22 - 5:26เพราะคิดว่าในอดีต
ดาวอังคารเคยมีน้ำมาก่อน -
5:26 - 5:31และเมื่อน้ำมีพลังงานมากพอ
มันจะกลายเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน -
5:31 - 5:34ไฮโดรเจนเบาจนสามารถลอยขึ้นสู่อวกาศ
-
5:34 - 5:36ทิ้งไว้แต่เพียงออกซิเจน
-
5:36 - 5:38เผาผลาญตัวเองและตกลงสู่พื้นดิน
-
5:38 - 5:42ทำให้เกิดสีแดงคล้าย ๆ สนิม
แบบที่เราเห็นกัน -
5:43 - 5:45เราสามารถมองภาพของดาวอังคาร
-
5:45 - 5:47และบอกว่าอาจมีการหลุดของชั้นบรรยากาศ
-
5:47 - 5:51แต่นาซ่ากำลังค้นคว้า และขณะนี้
ได้ส่งดาวเทียมมาเวนไปยังดาวอังคาร -
5:51 - 5:55งานของมันคือการศึกษา
เกี่ยวกับการหลุดของชั้นบรรยากาศ -
5:55 - 6:00และยานโวลาไทล์อีโวลูชั่น
เพื่อศึกษาชั้นบรรยากาศ -
6:00 - 6:03มันได้ส่งผลมาเป็นภาพ
ซึ่งดูแล้วคล้ายคลึงกับ -
6:03 - 6:05สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเรา
-
6:05 - 6:08เรารู้มานานแล้วว่าดาวอังคาร
สูญเสียชั้นบรรยากาศ -
6:08 - 6:10แต่เรามีภาพที่น่าประหลาดใจกว่า
-
6:10 - 6:13นี่คือตัวอย่างค่ะ
คุณจะเห็นในวงกลมสีแดง -
6:13 - 6:14มันคือขนาดของดาวอังคาร
-
6:14 - 6:18ส่วนสีน้ำเงินคือไฮโดรเจน
ที่หลุดลอยออกไปยังอวกาศ -
6:18 - 6:22มันมีขนาดมากกว่าสิบเท่าของดาวเคราะห์
-
6:22 - 6:25หลุดออกไปไกลจนไม่สามารถ
ดึงกลับมายังดาวเคราะห์ได้อีก -
6:25 - 6:27มันหลุดออกในอวกาศ
-
6:27 - 6:29ภาพนี้ช่วยยืนยันความคิดของเรา
-
6:29 - 6:32ที่ว่าดาวอังคารเป็นสีแดง
เพราะสูญเสียไฮโดรเจน -
6:33 - 6:35แต่ไฮโดรเจน
ไม่ได้เป็นก๊าซชนิดเดียวที่เสียไป -
6:35 - 6:38ฉันกำลังพูดถึงฮีเลียมบนโลก
ออกซิเจน และไนโตรเจน -
6:38 - 6:42และภาพจากมาเวน เราจะเห็นว่าออกซิเจน
ก็กำลังหลุดออกไปจากดาวอังคาร -
6:42 - 6:45อย่างที่คุณเห็น
เพราะว่าออกซิเจนมีน้ำหนักมากกว่า -
6:45 - 6:48มันจึงหลุดออกไปได้ไม่ไกลเท่าไฮโดรเจน
-
6:48 - 6:50แต่ก็ยังหลุดออกไปจากดาวเคราะห์อยู่ดี
-
6:50 - 6:53คุณจะไม่เห็นมันรวมตัวกัน
อยู่เพียงในวงกลมสีแดง -
6:54 - 6:58ความจริงที่ว่าเราไม่ได้เห็นเพียง
การหลุดของชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ -
6:58 - 7:01แต่เรายังเห็นสิ่งอื่น ๆ
และส่งยานสำรวจออกไป -
7:01 - 7:05เพื่อให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับ
อดีตของดาวเคราะห์ -
7:05 - 7:07ลักษณะทั่วไปของดาวเคราะห์
-
7:07 - 7:09และอนาคตของโลก
-
7:09 - 7:11ดังนั้น ทางเดียวที่จะทำให้เราเห็นอนาคต
-
7:11 - 7:14คือการเรียนรู้จากดาวเคราะห์
ที่อยู่ห่างไกลและมองไม่เห็น -
7:15 - 7:18ก่อนจะไปถึงตรงนั้น
ฉันควรอธิบายเพิ่มสักเล็กน้อย -
7:18 - 7:21ฉันไม่ได้กำลังให้คุณดูภาพแบบนี้ของพลูโต
-
7:21 - 7:22อาจจะผิดหวังกันนิดหน่อย
-
7:22 - 7:24เพราะเรายังไม่มีรูปแบบนี้ของมัน
-
7:24 - 7:28แต่ตอนนี้ ภารกิจของนิวฮอไรซอน
ก็กำลังศึกษาการหลุดของชั้นบรรยากาศ -
7:28 - 7:29ที่หายไปจากดาวพลูโต
-
7:29 - 7:31รอติดตามความคืบหน้ากันนะคะ
-
7:32 - 7:34แต่ดาวเคราะห์ที่ฉันอยากจะพูดถึง
-
7:34 - 7:36คือดาวเคราะห์นอกระบบที่โคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์
-
7:36 - 7:40ดาวเคราะห์ทุกดวงที่โคจรรอบดาวฤกษ์
ซึ่งไม่ใช่ดวงอาทิตย์ของเรา -
7:40 - 7:43เราเรียกมันว่าดาวเคราะห์นอกระบบ
-
7:43 - 7:45และดาวเคราะห์ที่เรียกว่า
ดาวเคราะโคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์ -
7:45 - 7:47มีคุณสมบัติพิเศษ
-
7:47 - 7:49คือถ้ามองดวงดาวที่อยู่ตรงกลางนี้
-
7:49 - 7:51คุณจะเห็นว่ามันกำลังกะพริบ
-
7:51 - 7:53และเหตุผลที่มันกะพริบ
-
7:53 - 7:57ก็เพราะว่ามันมีดาวเคราะห์
ที่โคจรผ่านในตอนนั้นพอดี -
7:57 - 7:59และมันสอดคล้องกับการบอกว่า
-
7:59 - 8:02ดาวเคราะห์เหล่านี้ไปบดบังแสงจากดาวฤกษ์
-
8:02 - 8:04ซึ่งทำให้เราเห็นแสงกะพริบ
-
8:05 - 8:08และด้วยการสำรวจดาวฤกษ์บนท้องฟ้า
ตอนกลางคืน -
8:08 - 8:09ด้วยจังหวะการกะพริบ
-
8:09 - 8:11มันก็เลยทำให้เราค้นพบดาวเคราะห์
-
8:11 - 8:15นี่คือวิธีที่เราใช้ตรวจจับดาวเคราะห์
มากกว่า 5,000 ดวง -
8:15 - 8:16ในกาแลกซี่ทางช้างเผือก
-
8:16 - 8:19และเรารู้ว่ามันยังมีมากกว่านั้น
อย่างที่ฉันบอก -
8:19 - 8:22ดังนั้น เมื่อเรามองไปยังแสงของ
ดาวฤกษ์เหล่านี้ -
8:22 - 8:26อย่างที่ฉันบอก
เราไม่ได้เห็นเพียงแค่ดาวเคราะห์เท่านั้น -
8:26 - 8:28จริง ๆ เรายังเห็นความสลัวของแสง
-
8:28 - 8:29ซึ่งเราได้ทำการบันทึกไว้
-
8:29 - 8:33ดังนั้น แสงของมันลดลงเมื่อมีดาวเคราะห์
โคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์ -
8:33 - 8:35และการกะพริบที่คุณได้เห็นก่อนหน้านี้
-
8:35 - 8:37เราไม่ได้ตรวจจับได้เพียงดาวเคราะห์
-
8:37 - 8:40แต่เรายังเห็นแสงในความยาวคลื่น
ที่แตกต่างกัน -
8:40 - 8:44ฉันเคยบอกว่าเรามองโลกและดาวอังคาร
ผ่านแสงอัลตร้าไวโอเล็ต -
8:44 - 8:48หากเรามองดาวเคราะห์โคจรผ่านดาวฤกษ์
ผ่านกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล -
8:48 - 8:50เราเห็นมันในแสงอัลตร้าไวโอเล็ต
-
8:50 - 8:54เราจะเห็นการกะพริบที่แรงกว่า
ซึ่งบดบังแสงจากดาวฤกษ์มากกว่า -
8:54 - 8:55เมื่อดาวเคราะห์โคจรผ่านหน้า
-
8:55 - 8:59เราจึงคิดว่า เพราะมันมีชั้นบรรยากาศ
ของก๊าซไฮโดรเจนที่แผ่ออกไปไกล -
8:59 - 9:00ปกคลุมดาวเคราะห์นั้น
-
9:00 - 9:02ซึ่งทำให้มันดูพองกว่า
-
9:02 - 9:04ทำให้มันบดบังแสงของดาวฤกษ์
มากกว่าที่คุณเห็น -
9:05 - 9:08ด้วยวิธีการนี้ เราสามารถที่จะค้นพบ
-
9:08 - 9:12ดาวเคราะห์นอกระบบที่โคจรผ่าน
และกำลังสูญเสียชั้นบรรยากาศของตัวเอง -
9:12 - 9:15เราเรียกดาวเคราะห์พวกนี้
"ดาวพฤหัสบดีร้อน" -
9:15 - 9:17สำหรับบางอย่างที่เราค้นพบ
-
9:17 - 9:19พวกมันเป็นดาวเคราะห์ก๊าซ
เหมือนดาวพฤหัสบดี -
9:19 - 9:21แต่มันอยู่ใกล้ดาวฤกษ์มาก ๆ
-
9:21 - 9:23ใกล้กว่าดาวพฤหัสบดีประมาณร้อยเท่า
-
9:23 - 9:27และพวกมันยังมีก๊าซที่มีน้ำหนักเบา
ซึ่งพร้อมจะหลุดออกไป -
9:27 - 9:28และด้วยความร้อนจากดาวฤกษ์
-
9:28 - 9:32คุณก็จะได้อัตราความรุนแรง
ของการหลุดของชั้นบรรยากาศ -
9:32 - 9:37ไม่เหมือนกับที่เราสูญเสีย
ไฮโดรเจน 400 ปอนด์ไปจากโลก -
9:37 - 9:38ดาวเคราะห์เหล่านี้
-
9:38 - 9:42สูญเสียไฮโดรเจน 1.3 พันล้านปอนด์ต่อนาที
-
9:43 - 9:48คุณอาจจะคิดว่า มันทำให้ดาวเคราะห์นั้น
ใกล้จะดับหรือเปล่า -
9:48 - 9:50นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัย
-
9:50 - 9:52เมื่อพวกเรามองมายังระบบสุริยะ
-
9:52 - 9:54ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์
เป็นดาวเคราะห์หิน -
9:54 - 9:57ส่วนดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลออกไป
และใหญ่กว่า เป็นดาวเคราะห์ก๊าซ -
9:57 - 9:59เรามาเริ่มกันที่ดาวพฤหัสบดี
-
9:59 - 10:01ซึ่งอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์
-
10:01 - 10:03และก๊าซกำลังหลุดหายไปหรือเปล่า
-
10:03 - 10:06ทีนี้ เรากลับไปคิดถึงดาวพฤหัสบดีร้อน
-
10:06 - 10:09ซึ่งมันจะไม่จบด้วยการเป็นโลก
หรือดาวพุธ -
10:09 - 10:11แต่ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยอะไรที่เล็กกว่า
-
10:11 - 10:14มันก็เป็นไปได้ว่าก๊าซจำนวนหนึ่ง
จะหลุดหายออกไป -
10:14 - 10:16ซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
-
10:16 - 10:19และก็จะเหลือเพียงสิ่งที่แตกต่างกันมาก ๆ
กับจุดเริ่มต้น -
10:19 - 10:21ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติค่ะ
-
10:21 - 10:24แล้วเราก็กลับมาคิดถึงระบบสุริยะของเรา
-
10:24 - 10:26เราจะทำอย่างไรกับโลกของเราดี
-
10:26 - 10:28ในอนาคตอันไกลโพ้น
-
10:28 - 10:30ดวงอาทิตย์จะเริ่มสว่างขึ้น
-
10:30 - 10:32และการเกิดสิ่งนั้น
-
10:32 - 10:35ความร้อนที่ออกมาจากดวงอาทิตย์
ก็จะเข้มข้นขึ้นมาก -
10:36 - 10:40ในทางเดียวกับที่คุณเห็น
ก๊าซหลุดออกจากดาวพฤหัสบดีร้อน -
10:40 - 10:42มันก็จะหลุดออกจากโลกแบบเดียวกัน
-
10:42 - 10:44ดังนั้น เมื่อเราต้องรอดู
-
10:44 - 10:47หรืออย่างน้อยเตรียมตัวตั้งรับ
-
10:47 - 10:48คือความจริงที่ว่าในอนาคตอันไกล
-
10:48 - 10:51โลกจะมีหน้าตาคล้ายกับดาวอังคาร
-
10:51 - 10:54ไฮโดรเจนที่แตกตัวออกจากน้ำ
-
10:54 - 10:56จะลอยหายไปในอวกาศอย่างรวดเร็ว
-
10:56 - 11:01เราจะเหลือแต่ดาวเคราะห์สีแดงที่แห้งแล้ง
-
11:01 - 11:03แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ
ไม่ใช่ 2-3 พันล้านปีนี้หรอก -
11:03 - 11:05ยังมีเวลาให้เตรียมตัว
-
11:05 - 11:06(เสียงหัวเราะ)
-
11:06 - 11:09แต่ฉันอยากให้พวกคุณ
ตื่นตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น -
11:09 - 11:10ไม่ใช่เฉพาะในอนาคต
-
11:10 - 11:13ตอนที่เราพูดกันนี้
ก็มีชั้นบรรยากาศหลุดหายออกไป -
11:14 - 11:17คุณได้ยินเรื่องเรื่องวิทยาศาสตร์น่าทึ่ง
ที่เกิดขึ้นในอวกาศมามาก -
11:17 - 11:19มันมีดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลออกไป
-
11:19 - 11:22และเรากำลังศึกษาดาวเคราะห์เหล่านั้น
เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลก -
11:22 - 11:27เหมือนกับที่เราศึกษาดาวอังคาร
หรือดาวเคราะห์นอกระบบอย่างดาวพฤหัสบดีร้อน -
11:27 - 11:30เราค้นพบการหลุดของชั้นบรรยากาศ
-
11:30 - 11:34และมันก็บอกเราหลาย ๆ อย่าง
เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลก -
11:34 - 11:38หากยังคิดว่าอวกาศเป็นเรื่องไกลตัว
อยากให้ลองคิดใหม่นะคะ -
11:38 - 11:39ขอบคุณค่ะ
-
11:39 - 11:42(เสียงปรบมือ)
- Title:
- โลกจะมีหน้าตาเหมือนดาวอังคารในสักวัน เพราะเหตุใด
- Speaker:
- อันจาลี ไตรพาธี (Anjali Tripathi)
- Description:
-
ทุก ๆ หนึ่งนาที ไฮโดรเจน 400 ปอนด์และฮีเลียมเกือบ 7 ปอนด์ หลุดหายไปจากโลกออกไปยังอวกาศ อันจาลี ไตรพาธี (Anjali Tripathi) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ได้ศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์การหลุดหายของชั้นบรรยากาศ ในการบรรยายที่น่าหลงใหลและเข้าถึงได้ง่ายนี้ เธอได้พิจารณาว่าในสักวันหนึ่ง (สองถึงสามล้านปีข้างหน้า) กระบวนการนี้อาจเปลี่ยนดาวเคราะห์สีน้ำเงินให้กลายเป็นดาวเคราะห์สีแดง
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 11:55
![]() |
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars | |
![]() |
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars | |
![]() |
Dollaya Piumsuwan accepted Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars | |
![]() |
Dollaya Piumsuwan edited Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars | |
![]() |
Monsicha Suajorn edited Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars | |
![]() |
Dollaya Piumsuwan declined Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars | |
![]() |
Dollaya Piumsuwan edited Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars | |
![]() |
Dollaya Piumsuwan edited Thai subtitles for Why Earth may someday look like Mars |