พายุสุริยะทำให้เกิดแสงขั้วโลกสุดอลังการได้อย่างไร - ไมเคิล โมลิน่า (Michael Molina)
-
0:16 - 0:17ทุกวินาที
-
0:17 - 0:21สสารหนึ่งล้านตันได้พวยพุ่งออกจากดวงอาทิตย์
-
0:21 - 0:24ด้วยความเร็วหนึ่งล้านไมล์ต่อชั่วโมง
-
0:24 - 0:26และมันก็อยู่ในแนวพุ่งชน
-
0:26 - 0:28สู่โลก!
-
0:28 - 0:30แต่ไม่ต้องวิตกไป
-
0:30 - 0:33นี่ไม่ใช่เป็นฉากเปิดตัวหนังเรื่องใหม่
ของไมเคิล เบย์ (Michael Bay) -
0:33 - 0:37นี่เป็นการเดินทางของแสงขั้วโลก
-
0:37 - 0:39แสงเหนือและแสงใต้
-
0:39 - 0:40หรือที่รู้จักกันว่า
ออโรรา โบเรียลิส (Aurrora Borealis) -
0:40 - 0:42และออโรรา ออสเตรลิส (Aurrora Australis)
ตามลำดับ -
0:42 - 0:44เกิดเมื่ออนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์
-
0:44 - 0:47เข้าชนกับอะตอมที่มีประจุเป็นกลาง
ในชั้นบรรยากาศของเรา -
0:47 - 0:48พลังงานที่ถูกปลดปล่อยจากการชนนี้
-
0:48 - 0:50ทำให้เกิดแสงที่ปรากฏออกมา
-
0:50 - 0:53ที่มนุษย์เราตื่นตาไปกับมันมาหลายศตวรรษ
-
0:53 - 0:55แต่การเดินทางของอนุภาคนั้น
-
0:55 - 0:57ไม่ใช่เพียงแค่ออกจากดวงอาทิตย์
และเข้ามายังโลก -
0:57 - 0:58เหมือนกับการเดินทางข้ามภูมิประเทศ
-
0:58 - 0:59มันมีการอ้อมไปไกล
-
0:59 - 1:02และไม่มีใครให้ถามทางเสียด้วย
-
1:02 - 1:03ลองมาตามการเดินทางข้ามกาแล็คซี่
-
1:03 - 1:06โดยสนใจที่สามจุดของการเดินทาง:
-
1:06 - 1:07ออกจากดวงอาทิตย์
-
1:07 - 1:10หยุดจอดที่สนามแม่เหล็กโลก
-
1:10 - 1:12และถึงชั้นบรรยากาศเหนือศีรษะของเรา
-
1:13 - 1:16โปรตรอนและอิเล็กตรอนทำให้เกิดแสงเหนือ
-
1:16 - 1:17ที่พวยพุ่งออกจากโคโรนา (corona) ของดวงอาทิตย์
-
1:17 - 1:19โคโรนา คือชั้นนอกที่สุด
-
1:19 - 1:20ของชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
-
1:20 - 1:22และเป็นหนึ่งในบริเวณที่ร้อนที่สุด
-
1:22 - 1:24ความร้อนแบบถึงขีดสุดนี้
ทำให้ไฮโดรเจนของดวงอาทิตย์ -
1:24 - 1:26และอะตอมของฮีเลียมสั่นไหว
-
1:26 - 1:28และสลัดโปรตรอนและอิเล็กตรอนออก
-
1:28 - 1:31ราวกับพวกมันถอดเสื้อออกในวันที่แดดจัด
-
1:31 - 1:34ด้วยความใจร้อนและได้คุมบังเหียนในที่สุด
-
1:34 - 1:36โปรตรอนและอิเล็กตรอนอิสระเหล่านี้
เคลื่อนที่เร็วเกินกว่า -
1:36 - 1:38จะถูกดึงไว้ได้ด้วยแรงดึงดูดจากดวงอาทิตย์
-
1:38 - 1:40และรวมกลุ่มอยู่ด้วยกันเป็นพลาสม่า
-
1:40 - 1:42ซึ่งคือ กลุ่มก๊าซที่มีประจุไฟฟ้า
-
1:42 - 1:43พวกมันเดินทางห่างออกจากดวงอาทิตย์
-
1:43 - 1:45ในรูปพลาสมาที่พัดกรรโชกอย่างต่อเนื่อง
-
1:45 - 1:47ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ พายุสุริยะ (solar wind)
-
1:56 - 1:58อย่างไรก็ดี โลกป้องกันพายุสุริยะ
-
1:58 - 1:59จากการเดินทางพุ่งตรงของมันมายังโลก
-
1:59 - 2:01โดยกำหนดทางอ้อมให้มัน
-
2:01 - 2:02ซึ่งเรียกว่า แม็กนีโตสเฟียร์ (magnetosphere)
-
2:02 - 2:03แม็กนีโตสเฟียร์ นั้นก่อตัว
-
2:03 - 2:04จากกระแสแม่เหล็กของโลก
-
2:04 - 2:06และเป็นเกราะกำบังดาวเคราะห์ของเราจากพายุสุริยะ
-
2:06 - 2:08โดยส่งอนุภาคไปรอบๆ โลก
-
2:08 - 2:10โอกาสของพวกมันที่จะเดินทางอย่างต่อเนื่อง
-
2:10 - 2:11ลงไปยังชั้นบรรยากาศ
-
2:11 - 2:13เกิดขึ้นเมื่อแม็กนีโตสเฟียร์นั้น
-
2:13 - 2:15ต้านทานคลื่นลูกใหม่ของผู้เดินทางไว้ไม่อยู่
-
2:15 - 2:17เหตุการณ์นี้เรียกว่า coronal mass ejection (CME)
-
2:17 - 2:19และมันเกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ยิง
-
2:19 - 2:21ลูกไฟพลาสม่าขนาดยักษ์เข้าไปในพายุสุริยะ
-
2:22 - 2:24เมื่อ coronal mass ejection นี้
-
2:24 - 2:25เข้าชนกับโลก
-
2:25 - 2:26มันได้เอาชนะแม็กนีโตสเฟียร์
-
2:26 - 2:28และทำให้เกิดการพายุสนามแม่เหล็ก
-
2:28 - 2:31พายุนี้เข้ากดดันแม็กนีโตสเฟียร์
-
2:31 - 2:32จนกระทั่งมันขาดออก
-
2:32 - 2:34เหมือนกับยางยืดที่ถูกดึงมากเกินไป
-
2:34 - 2:38เหวี่ยงอนุภาคบางส่วนนั้นเข้ามายังโลก
-
2:38 - 2:40แนวสนามแม่เหล็กที่รวมตัวกันใหม่
-
2:40 - 2:42ดึงพวกมันลงมาที่วงแหวนออโรรา
-
2:42 - 2:42ซึ่งเป็นบริเวณ
-
2:42 - 2:45ของแสงเหนือและแสงใต้
-
2:46 - 2:49หลังจากเดินทางข้ามกาแล็คซีมา 93 ล้านไมล์
-
2:49 - 2:50ในที่สุด อนุภาคจากดวงอาทิตย์
-
2:50 - 2:53ก็ได้สร้างแสงอันพิศวงออกอวดโฉม
ด้วยความช่วงเหลือจากเพื่อนๆ -
2:53 - 2:55เหนือจากพื้นผิวไป 20 ถึง 200 ไมล์
-
2:55 - 2:57อิเล็กตรอนและโปรตรอนพบกันกับ
-
2:57 - 2:59อะตอมของออกซิเจนและไนโตรเจน
-
2:59 - 3:01และพวกมันก็ดีใจเสียจริงๆที่ได้พบกัน
-
3:01 - 3:04อนุภาคจากดวงอาทิตย์เข้าแตะมือกับอะตอมพวกนี้
-
3:04 - 3:04ส่งพลังงาน
-
3:04 - 3:07ให้กับอะตอมของออกซิเจนและไนโตรเจนของโลก
ที่มีประจุเป็นกลาง -
3:07 - 3:09เมื่ออะตอมในชั้นบรรยากาศ
-
3:09 - 3:10ได้พบกับอนุภาค
-
3:10 - 3:12พวกมันถูกกระตุ้นและปล่อยโฟตอน (photon)
-
3:12 - 3:14โฟตอนเป็นปลดปล่อยพลังงานแบบเล็กๆ
-
3:14 - 3:15ในรูปแบบของแสง
-
3:15 - 3:17สีที่ปรากฏบนท้องฟ้านั้น
-
3:17 - 3:20ขึ้นอยู่กับความยาวคลื่อของโฟตอนของอะตอม
-
3:20 - 3:22อะตอมออกซิเจนที่ได้รับการกระตุ้น
-
3:22 - 3:23ให้สีเขียวและสีแดง
-
3:23 - 3:25ในขณะที่อะตอมไนโตรเจนที่ถูกกระตุ้นนั้น
-
3:25 - 3:27ให้สีฟ้าและสีแดงแก่
-
3:27 - 3:29การปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดนี้
-
3:29 - 3:31ก่อให้เกิดแสงเหนือและแสงใต้
-
3:35 - 3:37แสงจากขั้วโลกจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในคืนฟ้าโปร่ง
-
3:37 - 3:40ในเขตที่ใกล้กับขั้วแม่เหล็กโลกเหนือและใต้
-
3:40 - 3:41เวลากลางคืนนั้นเหมาะสม
-
3:41 - 3:43เพราะว่าออโรรานั้นสลัวกว่าแสงอาทิตย์มาก
-
3:43 - 3:46และไม่สามารถเห็นได้ในเวลากลางวัน
-
3:46 - 3:48อย่าลืมที่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
-
3:48 - 3:50และคอยติดตามแบบแผนพลังงานของดวงอาทิตย์
-
3:50 - 3:53โดยเฉพาะจุดบอดบนดวงอาทิตย์หรือเปลวสุริยะ
-
3:53 - 3:53เพราะพวกมันจะเป็นตัวชี้แนะที่ดี
-
3:53 - 3:55สำหรับการพยากรณ์ออโรรา
- Title:
- พายุสุริยะทำให้เกิดแสงขั้วโลกสุดอลังการได้อย่างไร - ไมเคิล โมลิน่า (Michael Molina)
- Description:
-
ชมบทเรียนแบบเต็มได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/how-epic-solar-winds-make-brilliant-polar-lights-michael-molina
ทำไมเราจึงเห็นแสงอันน่าทึ่งจากท้องฟ้าส่วนเหนือและส่วนใต้ในยามค่ำคืน ออโรรา โบเรียริส (Aurora Borealis) และ ออโรรา ออสตราริส (Aurora Australis) เกิดขึ้นเมื่ออนุภาคพลังงานสูงพวยพุ่งออกจากโคโรนาของดวงอาทิตย์มายังโลก และเข้าประสานกับอะตอมที่มีประจุเป็นกลางในชั้นบรรยากาศของเรา -- ซึ่งในที่สุด ปลดปล่อยแสงและสีที่แสนแปลกตา
ไมเคิล โมลินา อธิบายทุกขั้นตอนของปรากฏการณ์ที่แสนพิศวงนี้Lesson by Michael Molina, animation by Franco Barroeta.
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:10
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut commented on Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina | |
![]() |
Kanawat Senanan commented on Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina | |
![]() |
Kanawat Senanan edited Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina | |
![]() |
Kanawat Senanan accepted Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How epic solar winds make brilliant polar lights - Michael Molina |
Kanawat Senanan
I think it's good to go krab. - Pun.
Kelwalin Dhanasarnsombut
Thanks for wonderfully fixed all the techy technical terms. It does look much better :D