WEBVTT 00:00:15.801 --> 00:00:17.410 ทุกวินาที 00:00:17.410 --> 00:00:20.524 สสารหนึ่งล้านตันได้พวยพุ่งออกจากดวงอาทิตย์ 00:00:20.524 --> 00:00:24.172 ด้วยความเร็วหนึ่งล้านไมล์ต่อชั่วโมง 00:00:24.172 --> 00:00:26.119 และมันก็อยู่ในแนวพุ่งชน 00:00:26.119 --> 00:00:27.992 สู่โลก! 00:00:27.992 --> 00:00:29.540 แต่ไม่ต้องวิตกไป 00:00:29.540 --> 00:00:32.961 นี่ไม่ใช่เป็นฉากเปิดตัวหนังเรื่องใหม่ ของไมเคิล เบย์ (Michael Bay) 00:00:32.961 --> 00:00:37.249 นี่เป็นการเดินทางของแสงขั้วโลก 00:00:37.249 --> 00:00:38.760 แสงเหนือและแสงใต้ 00:00:38.760 --> 00:00:40.400 หรือที่รู้จักกันว่า ออโรรา โบเรียลิส (Aurrora Borealis) 00:00:40.400 --> 00:00:42.488 และออโรรา ออสเตรลิส (Aurrora Australis) ตามลำดับ 00:00:42.488 --> 00:00:44.479 เกิดเมื่ออนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ 00:00:44.479 --> 00:00:46.857 เข้าชนกับอะตอมที่มีประจุเป็นกลาง ในชั้นบรรยากาศของเรา 00:00:46.857 --> 00:00:48.417 พลังงานที่ถูกปลดปล่อยจากการชนนี้ 00:00:48.417 --> 00:00:50.075 ทำให้เกิดแสงที่ปรากฏออกมา 00:00:50.075 --> 00:00:52.869 ที่มนุษย์เราตื่นตาไปกับมันมาหลายศตวรรษ 00:00:52.869 --> 00:00:54.665 แต่การเดินทางของอนุภาคนั้น 00:00:54.665 --> 00:00:56.846 ไม่ใช่เพียงแค่ออกจากดวงอาทิตย์ และเข้ามายังโลก 00:00:56.846 --> 00:00:58.320 เหมือนกับการเดินทางข้ามภูมิประเทศ 00:00:58.320 --> 00:00:59.326 มันมีการอ้อมไปไกล 00:00:59.326 --> 00:01:02.122 และไม่มีใครให้ถามทางเสียด้วย 00:01:02.122 --> 00:01:03.463 ลองมาตามการเดินทางข้ามกาแล็คซี่ 00:01:03.463 --> 00:01:06.244 โดยสนใจที่สามจุดของการเดินทาง: 00:01:06.244 --> 00:01:07.317 ออกจากดวงอาทิตย์ 00:01:07.317 --> 00:01:09.530 หยุดจอดที่สนามแม่เหล็กโลก 00:01:09.530 --> 00:01:12.092 และถึงชั้นบรรยากาศเหนือศีรษะของเรา 00:01:13.353 --> 00:01:15.635 โปรตรอนและอิเล็กตรอนทำให้เกิดแสงเหนือ 00:01:15.635 --> 00:01:17.428 ที่พวยพุ่งออกจากโคโรนา (corona) ของดวงอาทิตย์ 00:01:17.428 --> 00:01:18.980 โคโรนา คือชั้นนอกที่สุด 00:01:18.980 --> 00:01:19.948 ของชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์ 00:01:19.948 --> 00:01:21.964 และเป็นหนึ่งในบริเวณที่ร้อนที่สุด 00:01:21.964 --> 00:01:24.251 ความร้อนแบบถึงขีดสุดนี้ ทำให้ไฮโดรเจนของดวงอาทิตย์ 00:01:24.251 --> 00:01:25.886 และอะตอมของฮีเลียมสั่นไหว 00:01:25.886 --> 00:01:27.954 และสลัดโปรตรอนและอิเล็กตรอนออก 00:01:27.954 --> 00:01:31.087 ราวกับพวกมันถอดเสื้อออกในวันที่แดดจัด 00:01:31.087 --> 00:01:33.531 ด้วยความใจร้อนและได้คุมบังเหียนในที่สุด 00:01:33.531 --> 00:01:36.154 โปรตรอนและอิเล็กตรอนอิสระเหล่านี้ เคลื่อนที่เร็วเกินกว่า 00:01:36.154 --> 00:01:38.085 จะถูกดึงไว้ได้ด้วยแรงดึงดูดจากดวงอาทิตย์ 00:01:38.085 --> 00:01:40.230 และรวมกลุ่มอยู่ด้วยกันเป็นพลาสม่า 00:01:40.230 --> 00:01:42.416 ซึ่งคือ กลุ่มก๊าซที่มีประจุไฟฟ้า 00:01:42.416 --> 00:01:43.446 พวกมันเดินทางห่างออกจากดวงอาทิตย์ 00:01:43.446 --> 00:01:44.970 ในรูปพลาสมาที่พัดกรรโชกอย่างต่อเนื่อง 00:01:44.970 --> 00:01:47.112 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ พายุสุริยะ (solar wind) 00:01:55.787 --> 00:01:58.058 อย่างไรก็ดี โลกป้องกันพายุสุริยะ 00:01:58.058 --> 00:01:59.388 จากการเดินทางพุ่งตรงของมันมายังโลก 00:01:59.388 --> 00:02:00.799 โดยกำหนดทางอ้อมให้มัน 00:02:00.799 --> 00:02:02.050 ซึ่งเรียกว่า แม็กนีโตสเฟียร์ (magnetosphere) 00:02:02.050 --> 00:02:03.269 แม็กนีโตสเฟียร์ นั้นก่อตัว 00:02:03.269 --> 00:02:04.475 จากกระแสแม่เหล็กของโลก 00:02:04.475 --> 00:02:06.269 และเป็นเกราะกำบังดาวเคราะห์ของเราจากพายุสุริยะ 00:02:06.269 --> 00:02:08.395 โดยส่งอนุภาคไปรอบๆ โลก 00:02:08.395 --> 00:02:10.334 โอกาสของพวกมันที่จะเดินทางอย่างต่อเนื่อง 00:02:10.334 --> 00:02:11.277 ลงไปยังชั้นบรรยากาศ 00:02:11.277 --> 00:02:12.862 เกิดขึ้นเมื่อแม็กนีโตสเฟียร์นั้น 00:02:12.862 --> 00:02:14.829 ต้านทานคลื่นลูกใหม่ของผู้เดินทางไว้ไม่อยู่ 00:02:14.829 --> 00:02:17.111 เหตุการณ์นี้เรียกว่า coronal mass ejection (CME) 00:02:17.111 --> 00:02:18.701 และมันเกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ยิง 00:02:18.701 --> 00:02:21.154 ลูกไฟพลาสม่าขนาดยักษ์เข้าไปในพายุสุริยะ 00:02:22.338 --> 00:02:23.932 เมื่อ coronal mass ejection นี้ 00:02:23.932 --> 00:02:25.109 เข้าชนกับโลก 00:02:25.109 --> 00:02:26.431 มันได้เอาชนะแม็กนีโตสเฟียร์ 00:02:26.431 --> 00:02:28.497 และทำให้เกิดการพายุสนามแม่เหล็ก 00:02:28.497 --> 00:02:30.545 พายุนี้เข้ากดดันแม็กนีโตสเฟียร์ 00:02:30.545 --> 00:02:31.966 จนกระทั่งมันขาดออก 00:02:31.966 --> 00:02:34.416 เหมือนกับยางยืดที่ถูกดึงมากเกินไป 00:02:34.416 --> 00:02:37.813 เหวี่ยงอนุภาคบางส่วนนั้นเข้ามายังโลก 00:02:37.813 --> 00:02:39.729 แนวสนามแม่เหล็กที่รวมตัวกันใหม่ 00:02:39.729 --> 00:02:41.584 ดึงพวกมันลงมาที่วงแหวนออโรรา 00:02:41.584 --> 00:02:42.483 ซึ่งเป็นบริเวณ 00:02:42.483 --> 00:02:44.725 ของแสงเหนือและแสงใต้ 00:02:45.709 --> 00:02:48.640 หลังจากเดินทางข้ามกาแล็คซีมา 93 ล้านไมล์ 00:02:48.640 --> 00:02:50.130 ในที่สุด อนุภาคจากดวงอาทิตย์ 00:02:50.130 --> 00:02:52.969 ก็ได้สร้างแสงอันพิศวงออกอวดโฉม ด้วยความช่วงเหลือจากเพื่อนๆ 00:02:52.969 --> 00:02:55.195 เหนือจากพื้นผิวไป 20 ถึง 200 ไมล์ 00:02:55.195 --> 00:02:56.849 อิเล็กตรอนและโปรตรอนพบกันกับ 00:02:56.849 --> 00:02:58.870 อะตอมของออกซิเจนและไนโตรเจน 00:02:58.870 --> 00:03:01.284 และพวกมันก็ดีใจเสียจริงๆที่ได้พบกัน 00:03:01.284 --> 00:03:03.586 อนุภาคจากดวงอาทิตย์เข้าแตะมือกับอะตอมพวกนี้ 00:03:03.586 --> 00:03:04.281 ส่งพลังงาน 00:03:04.281 --> 00:03:07.087 ให้กับอะตอมของออกซิเจนและไนโตรเจนของโลก ที่มีประจุเป็นกลาง 00:03:07.087 --> 00:03:08.586 เมื่ออะตอมในชั้นบรรยากาศ 00:03:08.586 --> 00:03:09.823 ได้พบกับอนุภาค 00:03:09.823 --> 00:03:12.239 พวกมันถูกกระตุ้นและปล่อยโฟตอน (photon) 00:03:12.239 --> 00:03:14.156 โฟตอนเป็นปลดปล่อยพลังงานแบบเล็กๆ 00:03:14.156 --> 00:03:15.489 ในรูปแบบของแสง 00:03:15.489 --> 00:03:16.982 สีที่ปรากฏบนท้องฟ้านั้น 00:03:16.982 --> 00:03:19.731 ขึ้นอยู่กับความยาวคลื่อของโฟตอนของอะตอม 00:03:19.731 --> 00:03:21.980 อะตอมออกซิเจนที่ได้รับการกระตุ้น 00:03:21.980 --> 00:03:22.806 ให้สีเขียวและสีแดง 00:03:22.806 --> 00:03:24.557 ในขณะที่อะตอมไนโตรเจนที่ถูกกระตุ้นนั้น 00:03:24.557 --> 00:03:26.901 ให้สีฟ้าและสีแดงแก่ 00:03:26.901 --> 00:03:28.529 การปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดนี้ 00:03:28.529 --> 00:03:30.799 ก่อให้เกิดแสงเหนือและแสงใต้ 00:03:35.382 --> 00:03:37.322 แสงจากขั้วโลกจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในคืนฟ้าโปร่ง 00:03:37.322 --> 00:03:40.252 ในเขตที่ใกล้กับขั้วแม่เหล็กโลกเหนือและใต้ 00:03:40.252 --> 00:03:41.360 เวลากลางคืนนั้นเหมาะสม 00:03:41.360 --> 00:03:43.495 เพราะว่าออโรรานั้นสลัวกว่าแสงอาทิตย์มาก 00:03:43.495 --> 00:03:46.188 และไม่สามารถเห็นได้ในเวลากลางวัน 00:03:46.188 --> 00:03:47.915 อย่าลืมที่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า 00:03:47.915 --> 00:03:49.918 และคอยติดตามแบบแผนพลังงานของดวงอาทิตย์ 00:03:49.918 --> 00:03:52.550 โดยเฉพาะจุดบอดบนดวงอาทิตย์หรือเปลวสุริยะ 00:03:52.550 --> 00:03:53.097 เพราะพวกมันจะเป็นตัวชี้แนะที่ดี 00:03:53.097 --> 00:03:55.098 สำหรับการพยากรณ์ออโรรา