-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
กลับมาอีกครั้งนะคะ ในทุกวันพุธที่วิวจะนำเอา
-
เสภาเรื่องขุนช้าง ขุนแผน ฉบับหอพระสมุดเล่มนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
-
ซึ่งตอนที่แล้วนะคะ เป็นตอนที่น่าเศร้ามากๆ
-
เพราะว่า บิดาของตัวเอกของเราทั้งสามนะคะ ล้วนตายแบบพร้อมเพรียงกัน
-
ก็เรียกได้ว่า พ่อตายโดยพร้อมเพรียงนะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ชีวิตก็ต้องมูฟออนต่อ
-
เรามาดูกันดีกว่าว่า ในสัปดาห์นี้ ตัวเอกของเราเนี่ย
-
จะใช้ชีวิตกันต่อไปยังไง?
-
จะกลับมายุ่งเกี่ยวกันอีกไหม?
-
หลังจากที่กระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทางค่ะ
-
ดังนั้นถ้าสมมติว่า ใครอยากติดตามซีรีส์นี้นะคะ
-
วิวทำเป็น playlist ไว้ให้แล้ว สามารถกดไปดูได้ตรงนี้ค่ะ
-
และใครที่รู้สึกว่า มันเยิ่นเย้อเกินไป ยาวเกินไปนะคะ
-
อยากฟังแค่ 10 นาทีจบเท่านั้น ก็ตรงนี้เช่นกันค่ะ
-
วิวเคยเล่าไว้แล้วนะ 10 นาทีจบเท่านั้น
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระกันหรือยังคะ?
-
ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
หลังจากที่พ่อของตัวเอกทั้งสามของเราเนี่ย ตายโดยพร้อมเพรียงนะคะ
-
แต่ละคนก็กระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทางค่ะ
-
ขุนช้างและนางพิมเนี่ย ก็ยังอยู่ในเมืองสุพรรณนะคะ
-
ในขณะที่พลายแก้วเนี่ยนะคะ ตามแม่ไปอยู่ที่กาญจนบุรีค่ะ
-
ถามว่าไปอยู่ตรงไหนของกาญจนบุรี?
-
ก็บอกเลยว่า ไปอยู่แถวๆ เขาชนไก่นะคะ
-
ไปมีบ้านอยู่ตรงนั้นค่ะ
-
ปรากฎว่า เวลาเนี่ยนะคะ ก็ผ่านเนิ่นนานไปค่ะ
-
จนกระทั่งพลายแก้วของเราเนี่ย อายุได้ 15 ปีนะคะ
-
ก็รู้สึกว่า ก็ถึงฉันจะโตขึ้นมาจนอายุ 15 แล้ว
-
แต่ฉันก็ยังคิดถึงพ่ออยู่ชั่วทุกขณะจิตนะคะ
-
รู้สึกว่า อยากเป็นเหมือนพ่อ พ่อเป็นไอดอลของฉัน
-
อยากโตขึ้นเป็นทหารเหมือนพ่อค่ะ
-
ดังนั้นนะคะ พลายแก้วก็เลยบอกนางทองประศรี ผู้เป็นแม่นะว่า
-
แม่ ผมคิดถึงพ่อ ผมอยากโตขึ้นมาเป็นทหารเหมือนพ่อ
-
แม่ช่วยพาผมไปเรียนได้ไหม?
-
อยากบวชเป็นเณร จะได้ไปเรียน
-
เพราะว่าแต่ก่อนเนี่ย เวลาจะเรียนหนังสือนะคะ
-
ไม่ใช่ว่า จะไปเรียนที่ไหนก็ได้น่ะนะ
-
เค้าต้องไปบวชเรียนกันใช่ไหมคะ?
-
ไปบวชเรียนในวัด
-
พลายแก้วพอไปปรึกษาแม่อย่างนี้ แม่ก็ดีใจนะคะ
-
แม่บอกว่า โอ๋ ดีมากที่ลูกโตขึ้นมาเป็นคนรักเรียนนะ
-
แม่เนี่ย รู้จักสมภารอยู่องค์นึง สนิทสนมกับพ่อเราดี
-
นั่นก็คือ สมภารที่วัดส้มใหญ่
-
เดี๋ยวเอาไปฝากไว้ที่นั่นดีกว่า
-
ว่าแล้วนะคะ นางทองประศรีนะคะ ก็จัดการจัดของยิ่งใหญ่ค่ะ
-
ไปขนของมา หาสบง หาจีวรอะไรต่างๆ นะคะ
-
แล้วก็พาพลายแก้วเนี่ยนะคะ ไปที่ัวัดส้มใหญ่ค่ะ
-
ไปฝากสมภารไว้
-
บอกว่า ท่านสมภาร ขอฝากลูกฉันด้วยนะ
-
ฝากเลี้ยงดู ฝากให้มันได้เรียนหนังสือหน่อยนะคะ
-
ซึ่งสมภารวัดส้มใหญ่ค่ะ ก็รับเลี้ยงดูขึ้นมานะคะ
-
แล้วก็ค่อยๆ สอนนู่นสอนนี่มาให้พลายแก้วมาเรื่อยๆ ค่ะ
-
ปรากฎว่า เวลาไม่ถึงปีนะคะ
-
พลายแก้วเรียนความรู้ที่สมภารมีจนหมดทุกตำราเลยค่ะ
-
รวมไปถึงตำราลับนะคะ ของสมภารที่แบบไม่ได้สอนใครเลย
-
เนื่องจากพลายแก้วนี่เป็นเด็กน่ารัก แล้วก็รักเรียนมากค่ะ
-
ดังนั้นท่านสมภารนะคะ ก็เลยสอนให้พลายแก้ว
-
เรียกได้ว่า หมดเปลือกเลยค่ะ
-
สอนไปสอนมาพลายแก้วก็รู้สึกว่า
-
เออ ความรู้หมดแล้ว ทำยังไงดี? นะคะ
-
สมภารก็มีการแนะนำพลายแก้วค่ะ บอกว่า
-
เออจริงๆ แล้ว ตาเนี่ยสอนเจ้าจนหมดความรู้ทุกอย่างที่มีแล้ว
-
ถ้าเจ้าอยากเรียนเก่งกว่านี้นะ
-
แนะนำให้เจ้าไปเรียนที่อื่นดีกว่า
-
น่าจะมีอาจารย์คนอื่นที่สอนเจ้าได้ดี นะคะ
-
สุดท้ายค่ะ พลายแก้วก็เลยกลับมาที่บ้านนะคะ มาปรึกษาแม่ค่ะ
-
แม่ก็บอกว่า เออ เอาอย่างนี้แล้วกัน
-
จริงๆ ที่เมืองสุพรรณนะ
-
ก็มีสมภารอยู่ทั้งหมด 2 องค์ด้วยกันนะที่สนิทสนมกับพ่อเราดี
-
น่าจะสอนเราได้ดีกว่า
-
เอาอย่างนี้ เดี๋ยวแม่จะพาไปฝาก
-
ว่าแล้วนะคะ นางทองประศรีก็ชวนพลายแก้วขึ้นช้างค่ะ
-
ตัวเองก็ขึ้นช้างไปด้วยนะคะ
-
แล้วก็เดินทางไปที่เมืองสุพรรณบุรีค่ะ
-
ไปถึงก็ไปที่วัดป่าเลไลยก์นะคะ
-
ไปถึงนะคะ ก็บอกว่า
-
ที่เมืองสุพรรณบุรีเนี่ย มีสมภารที่ค่อนข้างเก่งอยู่ทั้งหมด 2 องค์ด้วยกันค่ะ
-
องค์แรกนะคะ ชื่อว่า สมภารมี ค่ะ
-
อยู่ที่วัดป่าเลไลยก์นะคะ
-
ส่วนอีกองค์นึงชื่อว่า สมภารคง อยู่ที่วัดแคค่ะ
-
ดังนั้นพอไปถึงเนี่ยนะคะ นางทองประศรีก็พาเณรแก้วไปที่วัดป่าเลไลยก์ก่อนเลยค่ะ
-
ไปถึงก็เข้าไปหาสมภารมีนะคะ แล้วก็แนะนำตัว
-
แล้วก็ไปแนะนำตัวว่า สวัสดีท่านสมภาร อิฉัน ไม่ได้มาหาตั้งหลายปี
-
เป็นยังไงบ้างเจ้าคะ? สบายดีหรือเปล่า? นะคะ
-
ซึ่งสมภารก็มีความประมาณว่า
-
อือ สีกา เป็นไงมาไง ไม่เจอกันหลายปี?
-
น่าเสียดายว่า คิดถึงขุนไกร
-
โถ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี เป็นยังไงบ้าง? สบายดีไหม?
-
แล้วเณรนี่ใครเนี่ย? ลูกเต้าเหล่าใคร?
-
พามาทำไม? นะคะ
-
นางทองประศรีก็เลยบอกว่า ลูกอิฉันเองเจ้าค่ะ
-
ก็ลูกขุนไกรนั่นแหละ
-
อิฉันหนีไปอยู่กาญจนบุรีตั้งหลายปี
-
จะเอามาฝากท่านสมภารนี่แหละ ช่วยดูแลหน่อยได้ไหม? นะคะ
-
ก็มีการคุยกันไปคุยกันมา
-
ถ้าเป็นนักสิทธิมนุษยชนเด็กตอนนี้นะคะ
-
อ่านไปจะรู้สึกว่า นางทองประศรีนี่เป็นแม่ที่ไม่น่ารักเลยนะ
-
เพราะว่านางทองประศรีเนี่ยนะคะ เอาเณรแก้วไปฝากสมภารค่ะ
-
แล้วก็บอกว่า ฝากสอนหนังสือมันหน่อย
-
ถ้ามันรักเรียนก็สอนมันเยอะๆ แต่ถ้ามันไม่รักดีนะ เฆี่ยนมันเลยท่าน
-
เฆี่ยนมันให้ตายคามือไปเลยก็ได้ มันจะได้ตั้งใจเรียนนะคะ
-
ซึ่งสมภารก็มีความบอกประมาณว่า
-
โอย ถ้ามันไม่รักดีก็ไม่ต้องไปสอนมัน
-
จะไปเฆี่ยนมันทำไม?
-
แต่ว่า ถ้ารักดีนะ จะตั้งใจสอนอย่างดีเลย
-
อย่างไรก็ตามนะคะ เอาจริงๆ ถ้าเราไปอ่านเนี่ย เราจะรู้สึกว่า
-
นางทองประศรีไม่ได้ตั้งใจให้ใครมาเฆี่ยนลูกตัวเองหรอก
-
ก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ
-
พูดเหมือนกับว่า จะได้ทำให้สมภารเนี่ย รับไปเรียนหนังสือ
-
เพราะว่าจริงๆ นางทองประศรีเนี่ย ค่อนข้างจะหวงลูกมากๆ เลยทีเดียว
-
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ก็คือ
-
เณรแก้วเนี่ยนะคะ ก็ไปอยู่กับสมภารมีที่วัดป่าเลไลยก์ค่ะ
-
แล้วก็ไปฝึกฝนอะไรต่างๆ นะคะ อยู่เกือบปีค่ะ
-
บอกเลยว่า เณรแก้วเนี่ย ด้วยความเก่งกาจนะคะ
-
แล้วก็ด้วยความที่เอาใจสมภารอะไรต่างๆ นะ
-
ท่านสมภารมีก็เลยสอนความรู้เนี่ย หมดเปลือกเลยนะคะ
-
เรียกได้ว่า ทำเป็นทุกอย่าง
-
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า พระเนี่ย จะเรียนความรู้พวกนี้ไปทำไมนะ?
-
เพราะว่าความรู้ที่สมภารมีสอนนะคะ
-
นอกจากจะสอนวิธีเทศน์ วิธีอ่านปาลี วิธีอ่านภาษาไทยแล้ว
-
ก็ยังมีวิธีการปล้นสะดม วิธีทำการสีผึ้ง คาถามหาละลวย อะไรต่างๆ
-
แล้วก็มีการสอนอีก ประมาณว่า
-
เณรนี่ ฟังตานะ คาถามหาละลวยเนี่ย
-
เอาไป ผู้หญิงรัก ผู้หญิงหลงแน่นอน
-
เจ้าเนี่ย เอาไปก็ไปใช้กับสาวแก่แม่หม้ายทั้งหลาย
-
อย่าเอาไปใช้กับเมียคนอื่น เข้าใจไหม?
-
เดี๋ยวจะซวยนะ
-
อะไรประมาณนี้ค่ะ
-
ตัดภาพไปที่ครอบครัวอื่นดีกว่า
-
ระหว่างที่เณรแก้วของเราเรียนวิชานะคะ
-
ในช่วงเวลาใกล้ๆ กันค่ะ ตัดภาพที่ไปขุนช้างนะคะ
-
ขุนช้างโตขึ้นมาเป็นหนุ่มแล้วค่ะ
-
อายุก็ 15-16 พอๆ กับเณรแก้วนะคะ
-
เพราะว่า 2 คนนี้อายุเท่ากันใช่ไหม?
-
ปรากฎว่า ตอนนั้นเนี่ยนะคะ
-
ขุนช้างโตขึ้นมา บอกเลยว่า หน้าตาหน้าเกลียดมาก
-
คือผมเนี่ย ก็ไม่ขึ้นตั้งแต่เด็ก หัวล้านเลี่ยนนะคะ
-
แต่สิ่งนึงที่ขึ้นเยอะมากก็คือ ขน ค่ะ
-
ขุนช้างเป็นคนขนเยอะมากนะคะ
-
เคราเคอนี่ บอกเลยว่าเฟิ้ม
-
ขนหน้าองหน้าอกมีหมด
-
ซึ่งคนไทยสมัยก่อน นี่ก็มองแบบนี้ว่า เป็นอะไรที่ดูไม่ดีอ่ะนะ
-
เพราะว่าเนี่ยจะไม่ค่อยมีขนไง ประมาณนั้นนะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ขุนช้างโตขึ้นมานะคะ
-
ก็ไปแอบหลงรักสาวคนนึง ชื่อว่า นางแก่นแก้ว นะ
-
แล้วก็ให้แม่เนี่ยไปสู่ขอมาได้
-
ฝั่งพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะว่าขุนช้างรวยนะคะ
-
ดังนั้นทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันค่ะ
-
ขุนช้างเนี่ยนะคะ ก็อยู่กับนางแก่นแก้วมาประมาณ 1 ปีค่ะ
-
ปรากฎว่า นางแก่นแก้วอยู่ดีๆ ก็ป่วยนะคะ
-
แล้วก็ตายซะอย่างนั้น
-
ทำให้ขุนช้างเนี่ย เสียใจมากนะคะ
-
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขุนช้างเริ่มมีคนที่เล็งๆ ใหม่แล้ว หลังจากที่เมียตายไป
-
ขุนช้างเนี่ย เล็งเพื่อนสมัยเด็กตัวเองค่ะ
-
นั่นก็คือ นางพิม นั่นเอง
-
เพราะว่าตอนนี้นางพิมโตขึ้นมานะคะ
-
เป็นสาวที่เรียกได้ว่า สวย แล้วสวยระดับจังหวัดเลยทีเดียว
-
สวยจนเลื่องลือนะคะ
-
แต่ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ
-
เรื่องเนี่ย มันจะมาเกิดตอนสงกรานต์นะคะ
-
ในวันสงกรานต์ปีนั้นค่ะ
-
นางพิมเนี่ย เป็นสาวที่โตขึ้นมาแล้วอย่างที่บอกเลยว่า สวยมาก
-
แล้วก็สวยถึงขั้นเลื่องลือนะคะ
-
นอกจากนั้น อีกอย่างนึงก็คือ นางพิม เนี่ยค่อนข้างจะใจบุญค่ะ
-
เป็นคนชอบทำบุญสุนทาน อะไรต่างๆ
-
เอาจริงๆ สมัยก่อนมันก็ไม่ค่อยมีอีเว้นท์อะไรให้ทำนอกบ้านหรอก
-
มันคงไม่มีจัดคอนเสิร์ต เที่ยวคาเฟ่ อะไรอย่างนี้
-
ผู้หญิงทำอะไรไม่ได้ ถ้าเบื่ออยู่บ้านก็ต้องไปทำบุญนะคะ
-
ดังนั้นนางพิมเนี่ย ก็มักจะไปทำบุญที่วัดค่ะ
-
ในวันสงกรานต์เนี่ยนะคะ นางพิมก็ไปทำบุญที่วัดตามปกติค่ะ
-
ก็มีข้าวปลาอาหารอะไรต่างๆ ไปใส่บาตรอ่ะนะ
-
เมื่อไปถึงค่ะ ปรากฎว่า ไปเจอคนนึง
-
นั่นก็คือ เณรแก้ว นั่นเองนะคะ
-
ตอนแรกนางพิมเนี่ย จะไปใส่บาตรให้เณรแก้วค่ะ
-
ก็รู้สึกว่า เอ๊ เณรคนนั้นหน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน
-
ดังนั้นตอนที่ใส่บาตรนะคะ นางพิมก็เลยเหมือนกับว่า
-
อ่ะ ลำเอียงอ่ะ
-
ตักอะไรก็ตักเข้าไป ตักๆๆ เยอะๆ นะคะ
-
โบ๊ะลงไป โบ๊ะๆ โบ๊ะลงไปในบาตรของเณรแก้วค่ะ
-
กับข้าวคาวหวานอะไร โบ๊ะลงไปในบาตรเต็มเลยนะคะ
-
เรียกได้ว่า พูน
-
เณรแก้วก้มหน้าก้มตาสำรวมอยู่ค่ะ
-
รับบาตรอยู่
-
มองไปแบบ ฮูวว!!
-
ทำไมข้าว กับข้าวมันเยอะอย่างนี้แล้วเนี่ย?
-
นี่ อะไรเนี่ย? เอาบัวลอยเทราดข้าวเปล่า ผสมกับปลาทู
-
อ้าวเฮ้ย แล้วฉันจะกินยังไงเนี่ย?
-
เณรแก้วก็เลยเงยหน้าขึ้นมานะคะ
-
แล้วบอกว่า แหม สีกา นี่กะจะแกล้งเณรเหรอ?
-
ตักอะไรมาให้เยอะขนาดนี้?
-
แล้วตักมาเนี่ย กับข้าวคาวหวานปรกันมั่วซั่ว
-
ของที่ชอบก็ไม่รู้จักใส่มา
-
อูหู้ แล้วเณรจะฉันยังไง ฮึ สีกา? นะคะ
-
ซึ่งนางพิมก็มีความแบบแซวกลับ ประมาณว่า
-
เอ้า เป็นเณรเลือกได้ด้วยเหรอ?
-
นี่อุตส่าห์ตักให้เยอะๆ แทนที่จะขอบคุณนะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ทั้งคู่ก็เริ่มมีความจำกันได้เล็กๆ
-
เณรแก้วก็มีความแบบ
-
โอ๊ะ นี่มันจะต้องเป็นนางพิมตอนเด็กๆ ที่ฉันเคยเล่นด้วยแน่เลย
-
โตขึ้นมาแล้วสวยใช่เล่นนะเนี่ย
-
แหม่ๆๆ
-
แต่อย่างไรก็ตามนะคะ เรื่องราวก็ผ่านเลยไปค่ะ
-
ผ่านไปสักระยะนึงนะคะ
-
ตอนนั้นก็มีอีเว้นท์ใหญ่เกิดขึ้นในเมืองสุพรรณนะคะ
-
ก็คือ อีเว้นท์เทศน์มหาชาติที่วัดป่าเลไลยก์ นั่นเอง
-
ซึ่งในอีเว้นท์การเทศน์มหาชาติเนี่ยนะคะ
-
ปกติเค้าจะแบ่งเป็น 13 กัณฑ์ ใช่ไหม?
-
อันนี้ความรู้นิดนึง จากเทศน์มหาชาติเนอะ
-
ก็คือเรื่องราวของพระเวสสันดรนะคะ
-
ทีนี้ในแต่ละกัณฑ์เนี่ย มันก็ควรมีเจ้าของกัณฑ์เทศน์ค่ะ
-
ที่จะเป็นคนหลักที่จะทำบุญในกัณฑ์เทศน์นี้
-
ดูแลเรื่องการหาอาหาร หาขนมอะไรต่างๆ มาประกอบกัณฑ์นะคะ
-
พอเค้าจะจัดงานใหญ่แบบนี้ขึ้น ก็ต้องมีการหาเจ้าของกัณฑ์เกิดขึ้นค่ะ
-
กัณฑ์อื่นเนี่ยก็มีพวกคนในเมืองสุพรรณต่างๆ รับไปหมดแล้วนะคะ
-
เหลืออยู่ทั้งหมด สองกัณฑ์ด้วยกันค่ะที่เป็นกัณฑ์ใหญ่มากๆ
-
แล้วก็เป็นกัณฑ์สำคัญอ่ะนะ ที่ต้องการคนที่มีกำลังทรัพย์นิดนึง
-
ก็คือ กัณฑ์กุมารกับกัณฑ์มัทรี นั่นเองค่ะ
-
ก็เป็นตอนที่พระเวสสันดรโดนขอลูก
-
กับตอนที่พระนางมัทรีกลับมาแล้วไม่เจอลูกนะคะ
-
ดังนั้นเป็นจุดไคลแมกซ์ของเรื่อง ว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ
-
ฝั่งวัดเนี่ยก็พยายามจะหาคนนะคะว่า ใครจะมาเป็นเจ้าของกัณฑ์นี้
-
อ่ะ ในที่สุดนะคะ ก็ได้คนนึงรับกัณฑ์มัทรีไปค่ะ
-
นั่นก็คือ หญิงสาวสวยของเราที่ค่อนข้างจะใจบุญ
-
นั่นก็คือ นางพิม นะคะ
-
นางพิมรับกัณฑ์มัทรีไปเรียบร้อยค่ะ
-
สุดท้ายกัณฑ์กุมารที่เป็นกัณฑ์ใหญ่เนี่ย ก็มีการไปเทียบเชิญขุนช้างนะคะ
-
ซึ่งก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะไฮโซในเมืองใช่ป้ะ?
-
พอขุนช้างนะคะ รับรู้ว่า นางพิมเอากัณฑ์มัทรีไปแล้ว
-
ขุนช้างก็มีความแบบ ได้ เดี๋ยวกัณฑ์กุมารฉันจัดให้
-
ตังค์นิดหน่อยนี่มันแค่ขี้เล็บของพี่ช้าง
-
เดี๋ยวพี่ช้างจัดให้นะครับทุกคน
-
ว่าแล้วค่ะ ทั้งหมดก็มีการเตรียมตงเตรียมตัว เตรียมหาของอะไรต่างๆ นะคะ
-
และแล้ววัน D-day ก็มาถึงนะคะ
-
วันที่มีการจัดเทศน์มหาชาติขึ้นค่ะ
-
บอกเลยว่า ขุนช้างนี่ตื่นสายนะ
-
แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็มีการแต่งเนื้อแต่งตัวแบบหล่อเต็มที่เพื่อไปวัดนะคะ
-
รวมถึงการพยายามเอามุหน่าย หรือว่าเครื่องจัดแต่งผมเนี่ย
-
พยายามจะโบกผมตัวเองนะคะ
-
ซึ่งมีอยู่แค่นี้
-
โบกข้ามล้านมา เพื่อให้แบบว่า เออ หัวฉัน อย่าล้านให้ทุกคนเห็นเลย
-
อะไรประมาณนี้
-
ขุนช้างนี่ก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจตลอดเวลา
-
เรียกได้ว่า โดน bully มาตั้งแต่เด็กอ่ะ
-
เป็นปมด้อยนะคะ
-
ขุนช้างก็จะมีความแบบ โอ๊ย ส่องกระจกแล้ว หัวฉันนี่มันน่าเกลียดจริงๆ เลย
-
โอ๊ย ไอ้หัวล้าน
-
อือหือ อายเค้านะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ขุนช้างก็มีความแต่งตัวหล่อนะคะ
-
แบบว่า จะแต่งไปกะว่า ใส่เพชรไปเยอะๆ ใส่แหวนทับทิมไป
-
นางพิมเห็นจะได้รักจะได้หลง
-
จะได้รู้สึกว่าแพ้
-
โอ๊ะ นี่มันคนรวย ป๋ามากๆ นะคะ
-
ขุนช้างก็แต่งตัวไปแบบนั้นค่ะ
-
ไปที่วัดนะคะ แล้วก็จัดการ อ่ะ ฟังทงฟังเทศน์อะไรเสร็จเรียบร้อยค่ะ
-
ตัดภาพมาที่นางพิม
-
นางพิมซึ่งเป็นกัณฑ์มัทรี ต่อจากกัณฑ์กุมารนะคะ
-
ก็แต่งองค์ทรงเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว
-
เรียกได้ว่า แต่งสวยมากๆ สวยจนแม่แบบ
-
อือหือ ลูกจ้า ลูกจะแต่งสวยไปไหน?
-
แม่ไม่แต่งสู้นะคะ คุณลูก
-
ประมาณนั้นเลย
-
แล้วก็แห่กันค่ะ มาที่วัดนะคะ
-
ปรากฎว่า มีอีกหนึ่งคนที่เราต้องพูดถึงนะคะ
-
นั่นก็คือ เณรแก้ว นั่นเองค่ะ
-
เณรแก้วนะคะก็ จริงๆ ไม่ได้มีกำหนดจะต้องไปทำอะไรเกี่ยวข้องกับอีเว้นท์นี้เลย
-
แต่ว่า สมภารมีค่ะ ที่ต้องขึ้นเทศน์กัณฑ์มัทรีของนางพิมเนี่ย
-
เกิดป่วยนะคะ แล้วก็ป่วยมาหลายวันแล้ว
-
ขึ้นเทศน์ไม่ไหวค่ะ
-
ดังนั้นก็เลยต้องมี understudy นะคะ หรือว่าเณรแก้ว ขึ้นมาช่วยแทนค่ะ
-
สมภารก็บอกว่า เอ๊ยๆ แก้วๆ มานี่มา เณรแก้ว
-
ขึ้นเทศน์แทนอาตมาหน่อย อาตมาไม่ไหวแล้ว
-
อาตมาป่วยมาหลายวันแล้วนะคะ
-
สุดท้ายค่ะ เณรแก้วก็เลยจำเป็นจะต้องขึ้นเทศน์แทนนะคะ
-
ซึ่งพอขึ้นไปถึงเนี่ย ยังไม่ได้เทศน์เลยนะ
-
ก็มีความมองลงไปแล้วก็แบบ โอ๊ะ สีกาพิมนี่หน่า
-
ส่งสายตาให้นิดหน่อย ปิ๊งๆ นะคะ
-
นางพิมก็มีความแบบ อุ๊ย เณรนี่หน้าตาหล่อ มองฉันทำไม?
-
เขินๆๆ
-
ก็อายๆ กันนิดนึงนะคะ
-
ดังนั้นเณรแก้วค่ะ ยังไม่ทันได้ส่งได้สวดอะไรเลยนะ
-
ก็เลยเสกคาถามหาละลวยนะคะ ใส่นางพิมซะอย่างนั้น
-
นางพิมก็เลยหันมาสบตาด้วย
-
ทั้งคู่ก็ส่งสายตากันไปมาค่ะ
-
สุดท้ายเณรแก้วก็เลยเริ่มเทศน์นะคะ
-
แล้วบอกเลยว่าเณรแก้วเนี่ย เสียงค่อนข้างดี
-
ดังนั้นนะคะ สาวรักสาวหลงค่ะ
-
ทุกคนก็แบบตั้งใจฟังเณรแก้ว เหมือนแบบว่า มาฟังคอนเสิร์ตอ่ะ
-
สมัยก่อนการฟังเทศน์นี่ก็มีความเป็นแบบคล้ายๆ ฟังคอนเสิร์ตนิดนึงเนอะ
-
ดังนั้นคนก็ตั้งใจฟังนะคะ
-
ปรากฎว่า นางพิมค่ะ ฟังไปฟังมาเกิดศรัทราอย่างแรงกล้านะคะ
-
รู้สึกว่า ฉันอยากถวายอะไรสักอย่างเพิ่ม
-
สิ่งที่ฉันเตรียมมา มันไม่พอถวาย
-
ดังนั้นนะคะ นางพิมก็เลย เปลื้องสไบของตัวเองค่ะ
-
เดี๋ยว ใครที่คิดว่า นางพิมเปลื้องสไบของตัวเองแล้วแปลว่า โป๊ นมห้อย
-
นี่ไม่ใช่นะคะ
-
คือสมัยก่อนเค้าห่มสไบกันหลายชั้นค่ะ
-
เค้าจะมีแบบชั้นในห่มสไบบางๆ ชั้นนอกห่มสไบหนา
-
แล้วก็อาจจะมีแบบคากรอง ก็คือไอ้ที่มันเป็นแบบสไบทองๆ อ่ะ
-
ที่ทำจากทองนะคะ ห่มด้านนอกเข้าไปอีกทีนึง เป็นด้ายทองอ่ะนะ
-
นางพิมเนี่ย เปลื้องสไบชั้นนอกสุดที่มีค่า
-
จีบๆๆ แล้วก็เอาไปถวายเณรแก้วค่ะ
-
ประมาณว่า ศรัทราจังเลยจ้า
-
ปึ๊บ วางลงไปนะคะ
-
ปรากฎว่า ขุนช้างอยู่แถวนั้นค่ะ
-
ขุนช้างมองมา แล้วก็แบบ อุต๊ะ ดูผู้หญิงสิ เค้าศรัทราจนถวายแล้ว
-
ฉันเป็นผู้ชาย ฉันจะยอมแพ้เหรอ?
-
ขุนช้างนะคะ แม้ว่าตัวเองจะไม่ใช่เจ้าของกัณฑ์อะไรเลยนะ
-
ก็ทำตัวเกินหน้าที่ค่ะ
-
ก็เลยวิ่งออกไปนะคะ
-
แล้วก็เอาผ้าของตัวเองเนี่ย ไปจับๆๆ
-
แล้วก็ถวายข้างนางพิมค่ะ
-
เรียกได้ว่า วางให้ชนผ้านางพิมอ่ะ ปึ๊บ
-
แล้วก็อธิษฐานดังๆ ออกมาว่า ด้วยอานิสงส์ในการถวายผ้าของข้าในวันนี้
-
คิดอะไร ขอให้สมหวังดังปรารถนา
-
สมหวังเย็นนี้เลย ก็น่าจะดีนะ ปิ๊งๆ
-
หันไปส่งสายตาให้นางพิม 2 ทีค่ะ
-
แล้วก็ยังไม่จบนะคะ แล้วก็บอกว่า ขอให้ผ้าของข้ากับผ้าทับทิมเนี่ย
-
ได้ครองคู่กันตลอดไป
-
คือผ้าที่นางพิมถวายอ่ะ มันเป็นสีทับทิม
-
ก็คือเหมือนกับว่า อธิษฐานว่า ขอให้ได้เป็นคู่กับนางพิมนั่นแหละ
-
ทำให้นางพิมนะคะ โกรธค่ะ
-
ลุกขึ้นมา แล้วก็ถุยน้ำลายใส่ขุนช้าง 1 ที พิ๊
-
แล้วก็สะบัดก้นหนี
-
เท่านั้นยังไม่พอนะคะ
-
นางพิมก็รู้สึกว่า ฉันไม่อยากให้ผ้าของฉัน ไปอยู่คู่กับผ้าของแก
-
อ่ะ ข้าทาสบริวาร ไปเก็บผ้าฉันมาสิ
-
ประมาณว่า เลื่อนผ้าฉันออกมาหน่อยนะคะ
-
ทีนี้ ไอ้ข้าทาสบริวาร 2 คนก็รู้ใจนายค่ะ
-
เดินเข้าไปเนี่ย ไม่เดินเปล่านะคะ เรียกได้ว่า
-
ขุนช้างหมอบกราบอยู่อย่างนี้ใช่ไหม?
-
ประมาณว่า พ่อเจ้าประคุณ ขอให้เราได้กัน
-
ไอ้ข้าทาสสองคนเดินข้ามหัวขุนช้างเลยค่ะ
-
แบบ พรึบ เดินเหยียบไปเลย ประมาณอย่างนั้นนะคะ
-
เรียกได้ว่า ทำขุนช้างอายกลางศาลาเลย
-
แล้วก็แบบชักผ้าออกมา ประมาณนั้นเลยนะคะ
-
แล้วนางพิมก็สะบัดก้นกลับบ้านไปเลยค่ะ
-
ไม่ฟังเทศน์จนจบ
-
ปรากฎว่า พอนางพิมกลับไปนะคะ เณรแก้วของเรานี่ไม่เป็นอันเทศน์เลย
-
ก็แทนที่จะเทศน์ให้มันครบๆ
-
ปกติเทศน์เค้าก็ต้องอ่านๆๆ ไปตามคาถา ตามเนื้อหาใช่ไหม?
-
เณรแก้วค่ะ จับเล็กผสมน้อย เอาต้นเอาปลายมา...
-
เรียกได้ว่า เหมือนเล่ากัณฑ์มัทรีให้จบภายใน 10 นาทีอ่ะ ว่าอย่างนั้นเถอะ
-
พูดเร็วกว่าช่อง Point of View อีกนะคะ
-
เทศน์ๆๆ กระโดดๆ สรุปๆๆ
-
แทนที่ตอนแรกจะบอกว่า โอ๊ย นางมัทรีคร่ำครวญสุดใจ สุดเขต สุดแม่แล้ว
-
แม่ร้องไห้แล้ว
-
โอ๊ย แม่เสียใจ แล้วแม่ก็ตามลูกไม่ได้ ร้องไห้สลบ
-
คือเล่าประมาณ 3 ประโยคจบ ว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ
-
แล้วก็ปิดกัณฑ์เทศน์อย่างรวดเร็วนะคะ เรียกได้ว่า อีเว้นท์กร่อยอ่ะ
-
ประมาณนั้นเลยนะคะ
-
ปรากฎว่า หลังจากนั้นที่กลับไปค่ะ
-
ทุกคนก็กลับไปนอนฝันนะคะ
-
ฝั่งเณรแก้วก็แบบ โอ๊ะ สีการพิม โตแล้วช่างสวยบาดใจจริงๆ
-
อยากได้เป็นเมีย ทำยังไงดีน้า?
-
ฝั่งขุนช้างนะคะ ก็มีความแบบ โอ๊ะ ตายแล้วนางพิม โตขึ้นมาสวยอะไรขนาดนี้?
-
เมียฉันก็ตายมานานแล้ว อยากได้เป็นเมียจังเลย
-
ทำยังไงดีนะ?
-
ฝั่งนางพิมนะคะ คืนนั้นก็นอน แล้วก็ฝันไปค่ะ
-
ฝันว่า ตัวเองเนี่ยได้ดอกบัวทองมานะคะ
-
อือหือ ประมาณว่า ตัวเองลอยอยู่ในน้ำ
-
มีนางสายทอง ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของตัวเองเนี่ย
-
ได้ดอกบัวมาดอกนึง แล้วก็เอามาให้
-
แล้วก็รับมาจากนางสายทอง
-
รู้สึกรักดอกบัวดอกนี้มาก
-
ตื่นมานะคะก็แบบ โอ๊ย ดอกบัวฉันหายไปไหน?
-
ฉันอยากได้ดอกบัวทองอันนั้น
-
ก็เลยเอาความฝันไปเล่าให้นางสายทอง ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงฟังค่ะ
-
นางสายทองก็ทำนายฝันให้ ประมาณว่า
-
โถ ฝันแบบนี้แปลว่า กำลังจะมีผัว
-
ส่วนพี่เนี่ย จริงๆ ก็ไม่น่าจะเกี่ยวน้า
-
แต่คิดว่า น่าจะแปลว่า เราน่าจะได้รับใช้กันต่อไปยาวๆ ว่าอย่างนั้นเถอะ
-
นางพิมก็มีความแบบ แหมพี่ ฉันจะไปมีผัวจากไหน?
-
ตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววเลย
-
จะทายตรงจริงๆ เหรอ? นะคะ
-
ซึ่งเดี๋ยวเราไปดูกันที่สัปดาห์หน้าดีกว่า
-
ความฝันครั้งนี้จะแม่นขนาดไหน?
-
แล้วนางสายทองเนี่ย ทำนายแม่นแค่ไหน?
-
หรือว่าทำนายไม่หมดนะคะ?
-
วันนี้วิวคิดว่า คลิปวิดีโอยาวพอสมควรแล้วค่ะ
-
สำหรับตอนนี้ ถ้าใครชื่อชอบคลิปนี้นะคะ
-
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ
-
พบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ
-
บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ
-
แหม เรื่องขุนช้างขุนแผนนี่ก็ยังเป็นเรื่องที่แซ่บอย่างต่อเนื่องนะคะ
-
ไม่ว่าเราจะฟังมากี่รอบ อ่านมากี่รอบ
-
แต่เมื่อมองลงไปในรายละเอียดเนี่ย
-
มันก็ยังแซ่บอยู่ทุกตัวหนังสือจริงๆ นะจ๊ะ
-
เดี๋ยวเรารอฟังกันที่สัปดาห์หน้ากันดีกว่าว่า
-
เรื่องราวมันจะแซ่บขึ้นไปขนาดไหน?
-
แล้วมันจะมีอะไรมาให้เราสนุกกันอีกนะคะ?
-
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะทุกคน
-
บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ