แคทรีน ชูล์ส:ความผิดพลาด
-
0:00 - 0:03ในปี ค.ศ. 1995
-
0:03 - 0:05ฉันยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่
-
0:05 - 0:08เพื่อนกับฉันมักขับรถเที่ยว
-
0:08 - 0:10จากโพรวิเดนส์ โรด ไอแลนด์
-
0:10 - 0:12ถึงพอร์ทแลนด์ โอเรกอน
-
0:12 - 0:15แล้วอย่างที่รู้ พวกเราเด็กแล้วก็ยังไม่มีงานทำ
-
0:15 - 0:17ดังนั้นเราจึงเลือกเดินทางตามชนบท
-
0:17 - 0:19ผ่านสวนสาธารณะของรัฐ
-
0:19 - 0:22และป่าสงวนต่างๆ
-
0:22 - 0:25หลักๆเราเลือกเส้นทางที่ยาวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
-
0:26 - 0:29ในสถานที่นึงใจกลางรัฐเซาท์ดาโกต้า
-
0:29 - 0:32ฉันหันไปหาเพื่อนของฉัน
-
0:32 - 0:34แล้วถามว่า
-
0:34 - 0:36มันกวนใจฉัน
-
0:36 - 0:39ตลอดทาง 2,000 ไมล์
-
0:40 - 0:44ตัวหนังสือจีนที่ฉันเห็นอยู่ข้างทางเนี่ยมันคืออะไรกันแน่?
-
0:47 - 0:51เพื่อนฉันทำหน้ามึนงง ไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด
-
0:51 - 0:53เหมือนกับที่ท่านสุภาพบุรุษด้านหน้านี้เป็นอยู่
-
0:53 - 0:56คุณเป็นตัวอย่างอาการของเพื่อนฉันได้อย่างดี
-
0:56 - 0:59(หัวเราะ)
-
0:59 - 1:01แล้วฉันก็แบบว่า ก็นั่นไง
-
1:01 - 1:03ป้ายที่เราเห็นตามทาง
-
1:03 - 1:06ที่มีตัวหนังสือภาษาจีนอยู่ไง
-
1:07 - 1:10เธอจ้องฉันอยู่ครู่หนึ่ง
-
1:10 - 1:13และในที่สุดเธอก็เข้าใจ
-
1:13 - 1:15และนึกออกว่าสิ่งที่ฉันพูดถึงคืออะไร
-
1:15 - 1:18สิ่งที่ฉันพูดก็คือ สิ่งนี้
-
1:18 - 1:24(หัวเราะ)
-
1:24 - 1:28ใช่แล้วค่ะ ตัวหนังสือจีนอันโด่งดังที่หมายถึงพื้นที่ปิกนิคนั่นเอง
-
1:28 - 1:30(หัวเราะ)
-
1:30 - 1:34ช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมาของฉันได้ใช้ไปกับ
-
1:34 - 1:36การครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ
-
1:36 - 1:39อย่างในสถานการณ์นี้
-
1:39 - 1:41ว่าทำไมบางครั้งพวกเราเข้าใจผิด
-
1:41 - 1:43กับสัญลักษณ์รอบตัวเรา
-
1:43 - 1:46และทำไมเราถึงได้ทำตัวเช่นนั้น
-
1:46 - 1:50แล้วสิ่งเหล่านี้มันบอกอะไรเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์
-
1:50 - 1:52อีกนัยนึง อย่างที่คริสพูด
-
1:52 - 1:54ว่าฉันได้ใช้เวลาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
-
1:54 - 1:57คิดเกี่ยวกับเรื่องความผิดพลาด
-
1:57 - 2:00คุณอาจคิดว่ามันเป็นการเลือกสายอาชีพที่แปลกอยู่
-
2:00 - 2:03แต่มันมีข้อได้เปรียบอยู่อย่างนึง
-
2:03 - 2:05คือ การไม่มีคู่แข่ง
-
2:05 - 2:07(หัวเราะ)
-
2:07 - 2:10ในความเป็นจริงแล้ว พวกเราทำทุกวิถีทาง
-
2:10 - 2:13ที่จะเลี่ยงการทำพลาด
-
2:13 - 2:15หรืออย่างน้อยก็พยายามคิดหาทางหลีกเลี่ยง
-
2:15 - 2:17ว่าเราผิด
-
2:17 - 2:19ซึ่งนำเราเข้าไปสู่นามธรรม
-
2:19 - 2:21พวกเราต่างรู้กันดีว่าทุกคนในที่นี้ก็เคยทำผิดกันทั้งนั้น
-
2:22 - 2:25เผ่าพันธุ์มนุษย์เรา โดยส่วนใหญ่ก็ผิดพลาดกันอยู่แล้ว
-
2:26 - 2:29แต่เมื่อมาถึงตอนนี้
-
2:29 - 2:31สำหรับสิ่งที่ฉันเชื่อ
-
2:31 - 2:34ณ ปัจจุบัน
-
2:34 - 2:38ทันใดนั้น การรู้ซึ้งถึงนามธรรมเกี่ยวกับความผิดพลาด
-
2:38 - 2:41ทำให้ฉันเปิดกว้าง
-
2:41 - 2:44และคิดไม่ออกว่าจริงๆแล้วฉันเคยทำอะไรผิดบ้าง
-
2:45 - 2:48จริงๆแล้ว ณ ปัจจุบัน คือที่ที่เราอยู่
-
2:48 - 2:51เราไปสัมมนา ในขณะนี้
-
2:51 - 2:53เราไปเที่ยววันหยุดกับครอบครัว ณ ช่วงเวลานี้
-
2:53 - 2:57เราไปเข้าคูหาเลือกตั้งก็ทำในช่วงเวลานี้
-
2:57 - 3:00ผลสรุปก็คือเราผ่านพ้นช่วงเวลาต่างๆในชีวิต
-
3:00 - 3:02กักขังตัวเองอยู่ในฟองสบู่เล็กๆ
-
3:02 - 3:05ที่เกี่ยวกับการทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
-
3:06 - 3:08ฉันคิดว่านี่คือปัญหา
-
3:08 - 3:11ฉันคิดว่ามันเป็นปัญหากับเราทุกๆคน
-
3:11 - 3:14ทั้งในชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน
-
3:14 - 3:17และฉันคิดว่ามันเป็นปัญหาจากการสั่งสมอบรมมาเป็นเวลานาน
-
3:17 - 3:19ดังนั้นสิ่งที่ฉันอยากทำในวันนี้
-
3:19 - 3:22สิ่งแรกก็คือพูดถึงเหตุผลที่พวกเรายึดติดกับ
-
3:22 - 3:24ความรู้สึกถึงความถูกต้อง
-
3:24 - 3:27ถัดมาก็คือ ทำไมมันถึงเป็นปัญหา
-
3:27 - 3:29และสุดท้ายฉันอยากจะบอกคุณ
-
3:29 - 3:31ว่ามันมีความเป็นไปได้
-
3:31 - 3:33ที่จะก้าวออกจากความรู้สึกนั้น
-
3:33 - 3:35และถ้าคุณทำได้
-
3:35 - 3:37มันคือก้าวสำคัญ
-
3:37 - 3:40ที่คุณสามารถทำได้ทั้งทางจริยธรรม วิชาการและความสร้างสรรค์
-
3:42 - 3:44มาเริ่มจากทำไมเราถึงยึดติด
-
3:44 - 3:46กับความรู้สึกถูกต้อง
-
3:46 - 3:49เหตุผลนึงเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของการทำผิดพลาด
-
3:49 - 3:51ดังนั้นขอฉันถามพวกคุณบางอย่างหน่อย
-
3:51 - 3:55ขอถามพวกคุณแล้วกัน เพราะคุณนั่งตรงนี้
-
3:55 - 3:58คุณรู้สึกอย่างไร ทางด้านอารมณ์
-
3:58 - 4:01คุณรู้สึกอย่างไรเวลาทำผิด
-
4:01 - 4:04หวาดกลัว คว่ำหัวแม่โป้งลง
-
4:04 - 4:06อาย โอเค ดีคะ
-
4:06 - 4:08มีทั้งหวาดกลัว ทั้งคว่ำหัวโป้งลง แล้วก็อาย
-
4:08 - 4:11ขอบคุณค่ะ เป็นคำตอบที่ดีมาก
-
4:11 - 4:14แต่พวกเขาไม่ได้ตอบคำถามฉัน
-
4:14 - 4:16พวกคุณตอบคำถามที่ว่า
-
4:16 - 4:19คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณรู้ตัวว่าคุณทำผิดพลาด
-
4:19 - 4:23(หัวเราะ)
-
4:23 - 4:26การที่เรารู้ตัวว่าเราผิดพลาดเราจะรู้สึกอย่างที่พวกคุณบอกและในอีกหลายๆแบบ จริงไหมคะ?
-
4:26 - 4:29ฉันหมายถึงมันอาจจะทำให้ผิดหวัง ทำให้สิ้นหวัง
-
4:29 - 4:31หรืออาจจะรู้สึกตลก
-
4:31 - 4:34อย่างตัวหนังสือจีนโง่ๆที่ฉันเข้าใจผิดก็เป็นได้
-
4:34 - 4:37แต่แค่ทำผิด
-
4:37 - 4:39ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอะไร
-
4:39 - 4:42ฉันจะเปรียบเทียบให้คุณฟัง
-
4:42 - 4:44พวกคุณรู้จักการ์ตูนของลูนนี่ ทูนส์ใช่ไหม
-
4:44 - 4:46ที่มีเจ้าตัวคโยตี้ที่น่าสงสาร
-
4:46 - 4:48ไล่ตามแต่ไม่เคยจับเจ้าตัวโรดรันเนอร์ได้
-
4:48 - 4:51ในเกือบทุกตอนของการ์ตูนเรื่องนี้
-
4:51 - 4:53จะมีช่วงนึงที่คโยตี้ไล่โรดรันเนอร์
-
4:53 - 4:55แล้วโรดรันเนอร์วิ่งออกนอกหุบเขา
-
4:55 - 4:58ซึ่งก็ไม่เป็นไรเพราะเขาเป็นนก เขาบินได้
-
4:58 - 5:02แต่คโยตี้ที่วิ่งออกนอกหุบเขาตามหลังเนี่ยสิ
-
5:02 - 5:04สิ่งนี้แหละที่ตลก
-
5:04 - 5:06อย่างน้อยก็ตอนคุณอายุ 6 ขวบ
-
5:06 - 5:08แล้วนี่คโยตี้รู้สึกโอเคด้วยหรือเปล่า
-
5:08 - 5:10ที่เขาวิ่งไปเรื่อยๆ
-
5:10 - 5:12จนกระทั่งในตอนที่เขามองลง
-
5:12 - 5:15และได้รู้ตัวว่าเขาอยู่กลางอากาศ
-
5:15 - 5:18แล้วก็หล่นลงไป
-
5:19 - 5:21ในตอนที่เราทำผิดบางอย่าง
-
5:21 - 5:24ไม่ใช่ตอนที่เรารู้สึกตัว แต่เป็นช่วงเวลาก่อนหน้านั้น
-
5:24 - 5:27เราก็เหมือนกับเจ้าคโยตี้
-
5:27 - 5:30ที่วิ่งเลยหุบเขา ก่อนที่ตัวเองจะมองข้างล่าง
-
5:31 - 5:34คุณรู้ว่าเราผิดแล้ว
-
5:34 - 5:36เราเจอปัญหาแล้ว
-
5:36 - 5:39แต่เรายังรู้สึกเหมือนเราอยู่บนพื้นมั่นคง
-
5:40 - 5:43ดังนั้นฉันขอแก้ไขในสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้
-
5:43 - 5:46ว่ามันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
-
5:46 - 5:49เหมือนกับที่เรารู้สึกว่ามันถูกต้อง
-
5:49 - 5:52(หัวเราะ)
-
5:52 - 5:55นี่คือเหตุผลนึง ที่เป็นองค์ประกอบนึงของเหตุผล
-
5:55 - 5:57ที่ว่าทำไมเรายึดติดกับความรู้สึกถูกต้องไว้ในตัวเรา
-
5:57 - 5:59ฉันเรียกสิ่งนี้ว่าข้อผิดพลาดที่เรามองไม่เห็น
-
5:59 - 6:01โดยส่วนใหญ่แล้ว
-
6:01 - 6:04เราไม่มีข้อคิดภายในหัวเรา
-
6:04 - 6:06เกี่ยวกับการทำผิดพลาดเลย
-
6:06 - 6:09จนกระทั่งมันสายไปแล้ว
-
6:09 - 6:12แต่มีอีกเหตุผลนึงที่ทำให้พวกเรายึดติดกับความรู้สึกนี้เหมือนกัน
-
6:12 - 6:14และนั่นก็คือการปลูกฝังวัฒนธรรม
-
6:15 - 6:18ลองนึกย้อนไปเมื่อตอนสมัยประถม
-
6:18 - 6:20คุณกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียน
-
6:20 - 6:23แล้วคุณครูของคุณก็ยื่นกระดาษทดสอบให้
-
6:23 - 6:25แล้วของใครบางคนจะเป็นหน้าตาแบบนี้
-
6:25 - 6:27แต่นั่นไม่ใช่ฉัน บอกไว้ก่อน
-
6:27 - 6:29(หัวเราะ)
-
6:29 - 6:32คุณอยู่ในชั้นเรียน
-
6:32 - 6:34และคุณรู้แน่นอนว่าคุณต้องคิดอะไร
-
6:34 - 6:37เกี่ยวกับเด็กที่เป็นเจ้าของกระดาษใบนี้
-
6:37 - 6:40ว่าเป็นเด็กโง่ เด็กเจ้าปัญหา
-
6:40 - 6:43ที่ไม่เคยทำการบ้านส่งเลย
-
6:43 - 6:46เมื่อคุณอายุได้ 9 ขวบ
-
6:46 - 6:48อย่างแรก คุณได้เรียนรู้ว่า
-
6:48 - 6:50คนที่ทำอะไรผิดๆ
-
6:50 - 6:53คือคนที่ขี้เกียจ ไม่รับผิดชอบ ปัญญาทึบ
-
6:53 - 6:55อย่างที่สอง
-
6:55 - 6:57ก็คือหนทางที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น
-
6:57 - 7:00จะต้องไม่ทำอะไรผิดพลาด
-
7:01 - 7:05พวกเราเรียนรู้บทเรียนแย่ๆเหล่านี้ได้อย่างดี
-
7:06 - 7:08และในหลายคน
-
7:08 - 7:12และฉันสันนิษฐานว่าหลายคนในที่นี้
-
7:12 - 7:14จัดการกับเรื่องนี้โดย
-
7:14 - 7:16กลายเป็นเด็กนักเรียนเกรดเอ
-
7:16 - 7:19เป็นพวกเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ตั้งเป้าไว้สูง
-
7:19 - 7:21ใช่ไหมคะ?
-
7:21 - 7:25คุณซีเอฟโอ นักฟิสิกส์ดวงดาว แล้วก็นักมาราธอนทั้งหลาย
-
7:25 - 7:32(หัวเราะ)
-
7:32 - 7:36คุณกลายเป็น ซีเอฟโอ นักฟิสิกส์ดวงดาว นักมาราธอน
-
7:36 - 7:38นั่นก็ โอเค
-
7:38 - 7:41กระทั่งเมื่อตอนที่เราตื่นตระหนก
-
7:41 - 7:43กับเรื่องที่เราทำผิดพลาด
-
7:43 - 7:46จากเรื่องนี้
-
7:46 - 7:48การทำอะไรผิด
-
7:48 - 7:51หมายถึงมีอะไรบางอย่างในตัวเราผิดปกติ
-
7:51 - 7:53ดังนั้นเรายืนกรานว่าเราถูก
-
7:53 - 7:55เพราะว่ามันทำให้เรารู้สึกว่าเราฉลาดและดูมีความรับผิดชอบ
-
7:55 - 7:58รู้สึกถูกต้องและปลอดภัย
-
7:59 - 8:01ขอให้ฉันเล่าเรื่องนึง
-
8:01 - 8:03เมื่อสองสามปีที่แล้ว
-
8:03 - 8:06ผู้หญิงหลายคนมาที่ เบธ อิสราเอล เดคอนส์ เมดิเคิร์ล เซ็นเตอร์ ที่สำหรับศัลยกรรม
-
8:06 - 8:08เบธ อิสราเอล อยู่ที่บอสตัน
-
8:08 - 8:10เป็นที่ศึกษาแพทย์ของฮาร์เวิร์ด
-
8:10 - 8:12หนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของประเทศ
-
8:12 - 8:15ผู้หญิงเหล่านี้ไปเข้ารับการผ่าตัด
-
8:15 - 8:17เธอก็โดนวางยาสลบ ส่วนศัลยแพทย์ก็ทำงานของเขาไป
-
8:17 - 8:20เย็บแผล แล้วก็ส่งเธอเข้าห้องพักฟื้น
-
8:20 - 8:23ทุกอย่างดูเหมือนเป็นไปได้ด้วยดี
-
8:23 - 8:26จนกระทั่งตอนที่เธอตื่นขึ้นแล้วมองที่ตัวเอง
-
8:26 - 8:30แล้วเธอก็พูดว่า "ทำไมผ้าพันแผลอยู่ผิดข้างล่ะ?"
-
8:30 - 8:33สาเหตุที่มันผ้าพันแผลอยู่ผิดฝั่ง
-
8:33 - 8:35เพราะว่าศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดสำคัญ
-
8:35 - 8:38ที่ขาด้านซ้ายแทนที่จะเป็นด้านขวา
-
8:39 - 8:42เมื่อรองประธานฝ่ายประกันคุณภาพด้านการดูแลสุขภาพของเบธ อิสราเอล
-
8:42 - 8:45ได้กล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้
-
8:45 - 8:48เขาได้พูดบางอย่างที่น่าสนใจ
-
8:48 - 8:51เขาพูดว่า ด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม
-
8:51 - 8:53ศัลยแพทย์รู้สึกว่า
-
8:53 - 8:55เขาได้ผ่าตัดให้คนไข้ถูกฝั่งแล้ว
-
8:55 - 8:58(หัวเราะ)
-
9:00 - 9:02จุดประสงค์ของเรื่องนี้คือ
-
9:02 - 9:05เชื่อมั่นกับความรู้สึกมากเกินไป
-
9:05 - 9:08ว่าตัวเองอยู่ฝั่งที่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง
-
9:08 - 9:11อาจจะเป็นเรื่องอันตรายได้
-
9:11 - 9:14ความรู้สึก สัมผัสเกี่ยวกับเรื่องความถูกต้องภายใน
-
9:14 - 9:16ที่เราได้ประสบบ่อยๆนั้น
-
9:16 - 9:18ไม่สามารถเชื่อ ยึดเอาเป็นแนวทางได้
-
9:18 - 9:21สำหรับใช้ในโลกภายนอกได้
-
9:21 - 9:23แล้วเมื่อเราทำแบบนั้น
-
9:23 - 9:27เราหมดสนุกกับความเป็นไปได้ที่เราจะทำผิด
-
9:27 - 9:29เมื่อนั้นเราก็จะจบลงด้วย
-
9:29 - 9:33การเทน้ำมันลงในอ่าวเม็กซิโกกว่าสองร้อยล้านแกลลอน
-
9:33 - 9:36หรือถล่มเศรษฐกิจโลก
-
9:37 - 9:40นี่คือปัญหาใหญ่ในเชิงปฏิบัติ
-
9:40 - 9:43แต่มันก็เป็นปัญหาใหญ่ทางสังคมด้วยเช่นกัน
-
9:43 - 9:47ลองใช้เวลาคิดสักครู่ ว่าการรู้สึกถูกมันมีความหมายอย่างไร
-
9:47 - 9:49มันหมายถึงสิ่งที่คุณเชื่อ
-
9:49 - 9:52มันสะท้อนความเป็นจริงอย่างลงตัว
-
9:52 - 9:54และเมื่อคุณรู้สึกเช่นนั้น
-
9:54 - 9:56คุณมีปัญหาที่ต้องแก้
-
9:56 - 9:58ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณจะอธิบายอย่างไร
-
9:58 - 10:01กับคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ
-
10:01 - 10:04มันกลายเป็นว่าเราอธิบายให้คนอื่นฟังในแบบเดียวกัน
-
10:04 - 10:07โดยการบอกเล่าสมมติฐานอาภัพเหล่านั้น
-
10:08 - 10:11อย่างแรกที่เราจะทำเมื่อมีคนไม่เห็นด้วยกับเรา
-
10:11 - 10:14คือเราคิดไปเองว่าพวกเขาโง่เขลา
-
10:14 - 10:16พวกเขาไม่ได้รับข้อมูลแบบเดียวกับเรา
-
10:16 - 10:19แล้วเมื่อเราใจดีแบ่งปันข้อมูลกับพวกเขาแล้ว
-
10:19 - 10:22พวกเขาก็จะเห็นทางสว่างแ้ล้วเข้าพวกกับเรา
-
10:22 - 10:25แล้วเมื่อมันไม่ได้ผล
-
10:25 - 10:27เมื่อพวกเขาเหล่านั้นรู้ข้อมูลเหมือนกับที่เรารู้
-
10:27 - 10:29แต่ยังไม่เห็นด้วยกับเรา
-
10:29 - 10:31เราก็ไปยังสมมติฐานที่สอง
-
10:31 - 10:33นั่นก็คือพวกนี้มันงี่เง่า
-
10:33 - 10:35(หัวเราะ)
-
10:35 - 10:37พวกเขามีองค์ประกอบครบทุกอย่างแล้ว
-
10:37 - 10:40แต่กลับโง่เกินกว่าที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาใช้
-
10:40 - 10:42และเมื่อมันยังไม่ได้ผลอีก
-
10:42 - 10:45เมื่อคนเหล่านี้ไม่เห็นด้วยกับคุณ
-
10:45 - 10:47ทั้งที่รับข้อมูลทุกอย่างเหมือนกัน
-
10:47 - 10:50แล้วยังเป็นคนฉลาดด้วย
-
10:50 - 10:53เมื่อนั้นเราก็เข้าสู่สมมติฐานที่สาม
-
10:53 - 10:56คือพวกเขารู้ความจริง
-
10:56 - 10:58แต่พวกเขาจงใจบิดเบือนมัน
-
10:58 - 11:01เพื่อจุดประสงค์ร้ายบางอย่าง
-
11:02 - 11:04นี่เลยกลายเป็นภัยพิบัติ
-
11:04 - 11:07นี่เป็นสิ่งที่ตามมากับความรู้สึกถูกต้องของเรา
-
11:07 - 11:09ที่พยายามผลักเราออกจากความผิดพลาด
-
11:09 - 11:11ในเวลาที่เราต้องการมัน
-
11:11 - 11:14และทำให้เราปฏิบัติต่อกันอย่างน่ากลัว
-
11:15 - 11:17แต่สำหรับฉันแล้ว สิ่งที่น่ามึนงงที่สุด
-
11:17 - 11:20และน่าสลดใจมากที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ
-
11:20 - 11:24เราได้มองข้ามความเป็นมนุษย์ไป
-
11:24 - 11:26เหมือนกับเราอยากจินตนาการ
-
11:26 - 11:29ว่าความคิดเราโปร่งใสเหมือนกับหน้าต่างโปร่งแสง
-
11:29 - 11:31เมื่อมองไปที่มัน
-
11:31 - 11:34โลกทั้งโลกก็คลี่คลายเปิดเผย
-
11:34 - 11:36และพวกเราก็อยากให้คนอื่นๆมองไปหน้าต่างเดียวกับเรา
-
11:36 - 11:38และเห็นในอย่างเดียวกับเรา
-
11:38 - 11:40ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย
-
11:40 - 11:43และถ้ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ โลกคงน่าเบื่อมาก
-
11:43 - 11:46ความอัศจรรย์เกี่ยวกับความคิดคุณ
-
11:46 - 11:49ไม่ได้อยู่ที่การที่คุณมองโลกอย่างที่มันเป็น
-
11:50 - 11:53แต่เป็นการมองโลกในแบบที่มันไม่ควรเป็นต่างหาก
-
11:54 - 11:56เราสามารถจดจำอดีตได้
-
11:56 - 11:59เราสามารถคิดถึงอนาคตได้
-
11:59 - 12:01และเราสามารถจินตนาการได้ว่ามันเป็นอย่างไร
-
12:01 - 12:04ที่เป็นคนๆนึงในอีกที่ๆนึง
-
12:04 - 12:06พวกเราทุกคนก็ทำสิ่งนี้แต่ต่างกันในรายละเอียด
-
12:06 - 12:08ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราสามารถมองออกไปในคืนเดียวกันแล้ว
-
12:08 - 12:10เห็นสิ่งนี้
-
12:10 - 12:12แล้วก็สิ่งนี้
-
12:12 - 12:15สิ่งนี้ด้วย
-
12:15 - 12:18ใช่ค่ะ แล้วมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราทำอะไรผิดด้วย
-
12:19 - 12:21พันสองร้อยปีที่แล้วก่อนที่เดสอาร์เทสพูดเรื่องดัง
-
12:21 - 12:23เกี่ยวกับ "ฉันคิด...ฉันจึงมีอยู่"
-
12:23 - 12:25บุคคลนี้ เซนส์ ออกัสติน นั่งลง
-
12:25 - 12:28เขียนว่า "ฟอร์ลอร์ แอร์โก ซัม"
-
12:28 - 12:32"เพราะฉันทำผิด ฉันจึงมีอยู่"
-
12:32 - 12:34ออกัสตีนเข้าใจ
-
12:34 - 12:36เกี่ยวกับสมรรถภาพความผิดพลาดของเรา
-
12:36 - 12:38ไม่ใช่ข้อบกพร่องที่น่าอาย
-
12:38 - 12:40ในระบบร่างกายมนุษย์เลย
-
12:40 - 12:43หรือเป็นสิ่งที่เราสามารถขจัดหรือเอาชนะ
-
12:43 - 12:46มันเป็นพื้นฐานทั้งหมดที่เรามี
-
12:46 - 12:48เพราะเราไม่เหมือนพระเจ้า
-
12:48 - 12:51เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างนอกนั่น
-
12:51 - 12:54และเราก็ไม่เหมือนกับสัตว์ต่างๆ
-
12:54 - 12:58พวกเราหมกมุ่นกับการแก้ปัญหาเหล่านี้
-
12:58 - 13:00สำหรับฉัน ความหมกมุ่นนี้
-
13:00 - 13:02เป็นแหล่งข้อมูลและรากฐาน
-
13:02 - 13:05ของผลผลิตและความคิดสร้างสรรค์ของเรา
-
13:05 - 13:08เมื่อปีที่แล้ว ในเหตุผลหลายๆอย่างต่างกัน
-
13:08 - 13:10ฉันนั่งฟังวิทยุรายการวิทยุ
-
13:10 - 13:12ชื่อ ดีส อเมริกัน ไลฟ์ หลายตอน
-
13:12 - 13:15ฉันฟังไปเรื่อยๆ
-
13:15 - 13:18และถึงจุดนึงฉันก็รู้สึกว่า
-
13:18 - 13:21ฉันชอบเรื่องเกี่ยวกับความผิดพลาดเหล่านี้
-
13:22 - 13:24ความคิดแรกในหัวฉันคือ
-
13:24 - 13:26ฉันหลงทางแล้ว
-
13:26 - 13:28ฉันกลายเป็นหญิงบ้าผู้คลั่งความผิดพลาดไปแล้ว
-
13:28 - 13:30ฉันคิดไปได้ต่างๆนานา
-
13:30 - 13:32ซึ่งมันจริง
-
13:32 - 13:34แต่สองสามเดือนหลังจากนั้น
-
13:34 - 13:36ฉันได้มีโอกาสสัมภาษณ์ อิรา กลาส ที่เป็นพิธีกรของรายการนี้
-
13:36 - 13:38และฉันก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง
-
13:38 - 13:41แล้วเขาก็พูดว่า ไม่ ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องจริง
-
13:41 - 13:43มันคือ
-
13:43 - 13:45เราเป็นผู้ดำเนินรายการ เราขำ
-
13:45 - 13:47ในทุกๆตอนของรายการ
-
13:47 - 13:50ที่มีรูปแบบเหมือนๆกัน
-
13:50 - 13:52รูปแบบนั้นก็คือ
-
13:52 - 13:55"ฉันคิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้แน่เลย
-
13:55 - 13:58แต่แล้วกลับกลายเป็นอีกอย่างนึงซะนี่"
-
13:58 - 14:01แล้วสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเราต้องการ อิรา กราสกล่าว
-
14:01 - 14:03เราต้องการช่วงเวลาเหล่านี้
-
14:03 - 14:05ช่วงเวลาประหลาดใจ พลิกผลันและความผิดพลาดต่างๆ
-
14:05 - 14:07ที่จะทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดี
-
14:07 - 14:09และสำหรับคนที่เหลือ หรือผู้ชม
-
14:09 - 14:12ที่เป็นผู้ฟังหรือผู้อ่าน
-
14:12 - 14:14พวกเราเสพสิ่งเหล่านี้เข้าไป
-
14:14 - 14:17พวกเราชอบพล๊อตที่มีจุดหักมุม
-
14:17 - 14:20จุดเปลี่ยนและเรื่องประหลาดใจในตอนจบ
-
14:20 - 14:23เมื่อมาถึงเรื่องของพวกเรา
-
14:23 - 14:26เรารักที่จะผิดพลาด
-
14:26 - 14:28แต่อย่างที่คุณรู้ เรื่องของพวกเราเป็นแบบนี้
-
14:28 - 14:31เพราะพวกเรามีชีวิตแบบนี้
-
14:31 - 14:34พวกเราคิดว่าสิ่งนึงจะต้องเกิดขึ้น
-
14:34 - 14:37แต่กลับมีอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นแทน
-
14:37 - 14:39จอร์ช บุช คิดว่าเขาจะบุกยึกอิรัก
-
14:39 - 14:41ค้นหาคลังอาวุธทำลายล้าง
-
14:41 - 14:44ปลดปล่อยคนและนำประชาธิปไตยสู่ตะวันออกกลาง
-
14:45 - 14:47แต่แล้วบางอย่างก็เกิดขึ้นแทน
-
14:48 - 14:50โฮสนี่ มูบารัค
-
14:50 - 14:52คิดว่าเขาจะเป็นผู้นำเผด็จการของอียิปต์ไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
-
14:52 - 14:54จนกระทั่งเขาแก่และป่วยเกินกว่าที่จะทำ
-
14:54 - 14:57เขาจะยกทุกอย่างให้อยู่ในอำนาจของลูกชาย
-
14:57 - 15:00แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น
-
15:01 - 15:03และบางทีคุณคิดว่า
-
15:03 - 15:05คุณจะโตขึ้น แต่งงานกับหวานใจตอนสมัยวัยรุ่น
-
15:05 - 15:08กลับบ้านเกิด แล้วก็เลี้ยงลูกด้วยกัน
-
15:09 - 15:12แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้น
-
15:12 - 15:14และฉันจะบอกคุณว่า
-
15:14 - 15:16ฉันคิดว่าฉันเขียนหนังสือเนิร์ดสุดๆ
-
15:16 - 15:18ในเรื่องที่ทุกคนเกลียด
-
15:18 - 15:21สำหรับคนอ่านที่ไม่เคยทำอะไรเป็นรูปเป็นร่าง
-
15:21 - 15:23แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น
-
15:23 - 15:25(หัวเราะ)
-
15:25 - 15:27ฉันหมายถึง นี่คือชีวิต
-
15:27 - 15:29ทั้งดี ทั้งแย่
-
15:29 - 15:32เรารวมมันเป็นเรื่องอย่างลงตัว
-
15:32 - 15:34เกี่ยวกับโลกรอบตัวเรา
-
15:34 - 15:37และเมื่อโลกเปลี่ยนไปและทำให้เราประหลาดใจ
-
15:40 - 15:43ไม่ได้ว่าร้ายนะคะ แต่ตลอดสัมมนานี้
-
15:43 - 15:45คืออนุสาวรีย์อันน่าทึ่ง
-
15:45 - 15:47ที่เป็นผลผลิตของความผิดพลาดของเรา
-
15:47 - 15:49เราใช้เวลาทั้งสัปดาห์
-
15:49 - 15:51พูดเกี่ยวกับเรื่องนวัตกรรม ความก้าวหน้า
-
15:51 - 15:53และความเจริญต่างๆ
-
15:53 - 15:56แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมเราต้องการนวัตกรรม
-
15:56 - 15:58ความก้าวหน้าและความเจริญเหล่านั้น
-
15:58 - 16:00เพราะกว่าครึ่งของเรื่องพวกนี้
-
16:00 - 16:03ทั้งเรื่องน่าเชื่อถือต่างๆ เรื่องความเปลี่ยนแปลงของโลก
-
16:03 - 16:05TED 1998
-
16:05 - 16:07เออ
-
16:07 - 16:11(หัวเราะ)
-
16:11 - 16:13มันไม่ได้ผลใช่ไหมเนี่ย
-
16:13 - 16:15(หัวเราะ)
-
16:15 - 16:18ตั๋วเครื่องบินฉันอยู่ไหนเนี่ยคริส
-
16:18 - 16:22(หัวเราะ)
-
16:22 - 16:27(ปรบมือ)
-
16:27 - 16:30นี่ไง เอาอีกแล้ว
-
16:30 - 16:32มันมาอีกแล้ว
-
16:32 - 16:34เราได้ความคิดใหม่ๆ
-
16:34 - 16:37เราเล่าเรื่องราวอีกเรื่อง
-
16:37 - 16:40เราสัมมนาอีกอัน
-
16:40 - 16:42แต่เนื้อเรื่องคือเรื่องนี้
-
16:42 - 16:44เหมือนกับที่พวกคุณฟังมาเป็นร้อยๆพันๆครั้ง
-
16:44 - 16:46คือถูกค้นพบอีกครั้งจากความสงสัย
-
16:46 - 16:48และสำหรับฉันแล้ว
-
16:48 - 16:51ถ้าคุณอยากค้นพบสิ่งเหล่านี้
-
16:51 - 16:53คุณจะต้องคิดนอกกรอบ
-
16:53 - 16:59ออกมาจากที่คับแคบแย่ๆแห่งความถูกต้องนั่น
-
16:59 - 17:02มองดูรอบๆกันและกัน
-
17:02 - 17:05มองไปยังที่โล่งกว้าง
-
17:05 - 17:08ที่ที่สับสนและลึกลับ
-
17:08 - 17:11ของจักรวาล
-
17:11 - 17:14แล้วสามารถพูดได้ว่า
-
17:14 - 17:18ว้าว ฉันไม่รู้เลย
-
17:18 - 17:20บางทีฉันคงผิด
-
17:20 - 17:22ขอบคุณค่ะ
-
17:22 - 17:25(ปรบมือ)
-
17:25 - 17:27ขอบคุณทุกคนนะคะ
-
17:27 - 17:30(ปรบมือ)
- Title:
- แคทรีน ชูล์ส:ความผิดพลาด
- Speaker:
- Kathryn Schulz
- Description:
-
คนเราส่วนใหญ่จะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด แต่ถ้าเราเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เล่า ศาสตร์แห่งความผิดพลาดที่แคทรีน ชูล์ส ได้ยกตัวอย่างที่น่าสนใจและทำให้เราได้พร้อมยอมรับกับความผิดพลาดต่างๆของเรา
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:31