-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
เป็นยังไงกันบ้างคะ อยู่บ้านกันมาอย่างยาวนาน
-
และหลายๆคนก็น่าจะเริ่มออกไป
-
ใช้ชีวิตนอกบ้านกันแล้วใช่ไหมคะ
-
ส่วนตัววิวเนี่ยก็ยังไม่ค่อย
-
ได้ไปใช้ชีวิตนอกบ้านเท่าไหร่หรอกค่ะ
-
อยู่บ้านอย่างต่อเนื่องอะนะ
-
ก็หยุดเชื้อด้วยแหละ
-
แต่สาเหตุอีกสาเหตุนึงนะคะ นั่นก็คือ
-
ติดเกมนั่นเองค่ะ
-
มันมีคนส่งเกมมาให้วิวลองเล่นนะคะ
-
และมันก็ทำให้วิวรู้สึกว่า เฮ้ย เกมนี้สนุกมาก
-
แล้ววิวก็ติดมากนะคะ
-
ทุกอย่างในเกมเนี่ยมันช่างเข้ากับวิวไปหมดเลยค่ะทุกคน
-
ดังนั้นนะคะเพื่อให้สัปดาห์นี้
-
เรายังมีคลิปวิดีโอออนกันอยู่
-
วิวก็เลยขออนุญาตเอาเรื่องราวของเกมนี้
-
มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
-
เห็นจากชื่อคลิปด้านล่างแล้วไหมคะ
-
เกมนี้นะคะก็คือเกม Sengoku Fubu นะคะ
-
ซึ่งเป็นเรื่องของศึกซามูไรกลางเมือง
-
หรือจริงๆเอาแบบแปลให้เข้าใจง่ายๆนะคะ
-
เป็นยุคที่มีซามูไร ไดเมียว โชกุน นินจา อะไรต่างๆ
-
ออกมาซัดกันนัวนะคะ
-
เพื่อที่จะรวบรวมประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในยุคที่
-
เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น
-
และญี่ปุ่นแตกเป็นก๊กเหล่าต่างๆค่ะ
-
เอาจริงๆ ช่วงประวัติศาสตร์ยุคนี้เป็นยุคที่
-
มันส์อันดับต้นๆของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยนะคะ
-
ดังนั้นนะคะ เมื่อวิวอิงเข้าไปกับเกม
-
วิวก็เลยคิดว่าวิวควรจะไปหาข้อมูลเพิ่ม อ่านเพิ่มอะไร
-
เพื่อให้วิวแม่นประวัติศาสตร์ยุคนี้มากขึ้นแล้วก็
-
เอามาเล่าให้ทุกคนฟังดีกว่าค่ะ
-
ซึ่งบอกเลยนะสาเหตุที่ติดเกมเนี่ย
-
นอกจากเรื่องราวมันจะสนุกแล้วนะคะ
-
ภาพมันยังสวยอีกด้วยทุกคนเพราะว่า
-
เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพสไตล์อุกิโยะค่ะ
-
จริงๆภาพสไตล์อุกิโยะของญี่ปุ่นเนี่ย
-
เกิดขึ้นในยุคสมัยเอโดะซึ่งเป็นยุคหลังเซ็นโงคุค่ะ
-
ก็คือต่อกันเลยอะ
-
คือ story ก็อิงประวัติศาสตร์
-
ภาพก็สวย
-
แถมสไตล์เกมนะคะยังเป็นสไตล์เกมวางแผนแบบ
-
ให้เราวางแผนรบอะไรต่างๆ
-
เหมือนกับว่าเราเป็นเหมือนแบบไดเมียวแคว้นนึง
-
ที่พยายามจะรวบรวมญี่ปุ่น
-
แข่งกับไดเมียวชื่อดังต่างๆนะคะ
-
เรียกได้ว่าเล่นแล้วเนี่ย
-
เหมือนเราจะเข้าไปอยู่ในยุคเซ็นโงคุจริงๆเลยทีเดียวนะ
-
ต่างกันนิดหน่อยก็คือ
-
ในเกมเนี่ย สาวๆหนุ่มๆเขาจะหน้าตาดีนิดนึง
-
แต่งตัวน่ารัก แต่งตัวเท่ แต่งตัวหล่อนะคะ
-
ดังนั้นพอเล่นแล้วมันก็เลยเพลินมากๆค่ะ
-
แต่ก่อนที่วิวจะป้ายยาทุกคนไปมากกว่านี้นะคะ
-
แล้วก่อนที่คนที่ไม่รู้จักยุคเซ็นโงคุเลยจะงงเนี่ยนะ
-
วิวขออนุญาตเข้าเรื่องไปเล่าเรื่องยุคเซ็นโงคุ
-
ให้ทุกคนฟังก่อนดีกว่าค่ะว่า
-
ในยุคเซ็นโงคุมันเกิดอะไรขึ้น
-
ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงแตกแยก
-
ทำไมต้องมีคนขึ้นมารวมประเทศ
-
แล้วยุคนี้มันสำคัญยังไง
-
ซัดนัวยังไง สนุกยังไงแบบที่วิวบอกนะคะ
-
ถ้าพร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
-
สนุกแล้วก็ได้สาระกันแล้วก็เข้าไปฟังเลยค่ะ
-
ถึงชื่อคลิปของวิวนะคะจะบอกว่า
-
เซ็นโงคุคือสงครามซามูไร
-
แต่จริงๆแล้วเซ็นโงคุคือ
-
สงครามกลางเมืองของญี่ปุ่นนะคะ
-
ที่เกิดจากความวุ่นวายของการแตกแยกอำนาจอะไรต่างๆ
-
และสุดท้ายก็จบลงด้วย
-
ยุคที่ญี่ปุ่นเนี่ยรวมเป็นหนึ่งนั่นเองค่ะ
-
อารมณ์คล้ายๆสามก๊กของจีนน่ะนะ
-
ทีนี้ขอบอกว่าเซ็นโงคุเนี่ยเป็นสงครามที่
-
ค่อนข้างยาวนานมากๆนะคะ
-
ดังนั้นวิวไม่สามารถเล่าลงรายละเอียด
-
ทุกศึก ทุกสงครามได้
-
ขออนุญาตเล่าเป็น outline คร่าวๆให้ฟังดีกว่าค่ะ
-
ว่าเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรขึ้นบ้าง
-
และสงครามนี้เริ่มต้นยังไง จบยังไง ประมาณนี้นะคะ
-
ส่วนเรื่องรายละเอียดยิบย่อยเนี่ย
-
ถ้ามีโอกาสพาไปเที่ยวที่ต่างๆ
-
หรือว่ามีโอกาสหยิบขึ้นมาเล่า
-
เดี๋ยวจะหยิบทีละศึกขึ้นมาเล่าให้ฟังดีกว่าค่ะ
-
สงครามเซ็นโงคุมันอยู่ระหว่างกลางระหว่างสองยุคค่ะ
-
นั่นก็คือยุคมุโรมาจิกับยุคเอโดะนั่นเองค่ะ
-
บางทีก็มีชื่อยุคอะไรสั้นๆคั่นนิดหน่อยนะ
-
เช่น อาซูจิ-โมโมยามะ ใช่ มันชื่อนั้นแหละทุกคน
-
ดังนั้นข้ามมันไปนะคะ
-
ถามว่าสงครามเซ็นโงคุเนี่ยมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง
-
ต้องบอกว่าเราต้องพูดถึง
-
ตำแหน่งสำคัญทั้งหมดสามตำแหน่งค่ะ
-
ตำแหน่งแรกก็คือ
-
ตำแหน่งจักรพรรดินั่นเอง
-
จักรพรรดินี่คือกษัตริย์ใช่ไหมคะ
-
เป็นกษัตริย์ที่ปกครองประเทศญี่ปุ่น
-
ไล่มาตั้งแต่สมัยโบราณ
-
สืบเชื้อสายมาจากเทพอามาเตราซุอะไรต่างๆ
-
ปัญหาของตำแหน่งจักรพรรดิก็คือบางครั้งเนี่ย
-
เวลาที่บ้านเมืองมันสงบร่มเย็นร่มรื่นมากเกินไปเนี่ยนะคะ
-
ไม่มีการศึก ไม่มีการสงคราม จักรพรรดิก็ชิลค่ะ
-
เสพศิลปะอะไรต่างๆ
-
ทำให้อำนาจทางการปกครองของจักรพรรดินะคะ
-
ตกไปอยู่ในมือของขุนนางแทน
-
บางทีขุนนางก็เข้ามายึดอำนาจ ฉันบริหารเอง
-
เช่น ตระกูลฟูจิวาระ
-
ตระกูลมินาโมโตะ
-
ในสมัยเฮอัน ในสมัยคามากูระ
-
พออำนาจมันหลุดจากมือจักรพรรดิมากๆ
-
สุดท้ายเนี่ยนะคะ
-
ขุนนางก็เลยเหมือนตั้งตำแหน่งตัวเองขึ้นมาเป็น
-
โชกุนนั่นเอง
-
โชกุนนี่เหมือนเป็นผู้ถืออำนาจทางการทหาร
-
และในบางยุคก็ถืออำนาจทางการปกครองด้วยนะคะ
-
จักรพรรดิก็ยังมีอยู่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ประมาณนั้น
-
แต่ว่าอำนาจทางการปกครองจริงๆเนี่ย
-
ไปอยู่ที่โชกุนค่ะ
-
ถ้าให้นึกภาพง่ายๆ ให้นึกภาพสามก๊ก
-
สามก๊กกับเซ็นโงคุนี่ใกล้กันมากนะ
-
คือประเทศแตกแยกอะไรต่างๆ
-
จำได้ไหมในสามก๊กใครกุมอำนาจ
-
จักรพรรดินั่งอยู่เฉยๆ ไม่มีอำนาจปกครองใดๆ
-
คนที่คุมการทหาร คนที่บริหารประเทศ
-
ก็คือโจโฉ
-
โชกุนก็จะอารมณ์คล้ายๆโจโฉประมาณนี้ค่ะ
-
สุดท้ายคือตำแหน่งไดเมียวที่ได้อำนาจมาจากโชกุน
-
ให้ปกครองหัวเมืองต่างๆอีกทีค่ะ
-
ซึ่งบางจังหวะบางโอกาสเนี่ย
-
โชกุนก็จะชิลเสียการเสียงานนะคะ
-
จนไดเมียวเนี่ยมีอำนาจมากกว่าโชกุนเหมือนกันค่ะ
-
เรื่องราวทั้งหมดของยุคเซ็นโงคุเนี่ยนะคะ
-
เกิดขึ้นในปลายสมัยมุโรมาจิค่ะ
-
สมัยนั้นจักรพรรดิเป็นหุ่นเชิด ไม่มีอำนาจนะคะ
-
โดยมีโชกุนตระกูลอาชิกางะกุมอำนาจค่ะ
-
แต่ว่าโชกุนก็ดันไม่สนใจบ้านเมือง
-
เพราะว่าช่วงนั้นเนี่ยกำลังหลงใหลพิธีชงชา
-
ซึ่งเป็นศาสตร์ชั้นสูงของซามูไรนะคะ
-
สุดท้ายก็เลยเสื่อมอำนาจลงค่ะ
-
เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเซ็นโงคุที่ยาวนานถึง
-
148 ปีตั้งแต่ปีค.ศ. 1477-1615 นะคะ
-
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นมีศึกเล็กๆศึกนึง
-
ที่เป็นตัวจุดประกายค่ะ
-
นั่นก็คือสงครามโอนินนั่นเอง
-
คือในปีค.ศ. 1467 เนี่ยนะคะ
-
รัฐบาลของโชกุนอาชิกางะเนี่ยมีปัญหา
-
ในขณะเดียวกันช่วงนั้นไดเมียวก็ดันกำลังเดือดอยู่
-
เพราะว่าเอ้ ไอ้โชกุนก็ไม่ปกครองบ้านเมืองเลย
-
ฉันก็อยากมีอำนาจเหมือนกัน
-
ที่สำคัญนะคะ ถึงจะแบ่งอำนาจให้ไดเมียวต่างๆ
-
แต่โชกุนเนี่ยเขาก็ยังมีไม้ตายอยู่
-
วิธีที่จะทำให้เหล่าไดเมียวต่างๆเนี่ย
-
ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเค้านะคะ
-
นั่นก็คือการจับลูกกับเมียของไดเมียวต่างๆเนี่ย
-
มาไว้ที่เมืองหลวงค่ะประมาณว่า
-
ไดเมียวทุกคนเนี่ยจะต้องมีสองบ้านนะคะ
-
บ้านแรกก็คือบ้านที่เมืองของตัวเอง
-
ที่ตัวเองปกครองใช่ไหม
-
ส่วนอีกบ้านก็คือบ้านในเมืองหลวง
-
แล้วก็เอาลูกกับเมียมาไว้ที่เมืองหลวง
-
นานน๊านจะมาเยี่ยมได้ทีค่ะ
-
ก็เหมือนกับเป็นตัวประกันว่า
-
ถ้าใครก่อกบฏนะ ลูกเมียแกตายนะ
-
ไดเมียวก็เริ่มรู้สึกว่าระบบนี้มันไม่โอเค ฉันเดือดแล้ว
-
ดังนั้นก็เลยเกิดการลุกฮือกันขึ้นมาค่ะ
-
โชกุนเนี่ยนะคะก็เลยพยายามเพิ่มกำลังทหารค่ะ
-
ว่าแบบฉันต้องใช้กำลังทหารของตัวเองเยอะๆ
-
เพื่อที่จะปราบกบฏ
-
แต่ปัญหาก็คือการจะใช้ทหารแปลว่า
-
คุณต้องมีเงินนะคะ
-
แล้วถามว่ารัฐบาลโชกุนมีเงินไหม
-
บอกเลยว่าไม่มีค่ะ ถังแตก
-
เพราะว่ายุคนั้นเนี่ยนะคะ
-
รัฐบาลมีโครงสร้างที่ใหญ่เกินไป
-
ต้องจ่ายเงินเดือนมากเกินไปอะไรต่างๆ
-
พอไม่มีเงินถามว่าโยชิมาซะพยายามทำยังไง
-
โยชิมาซะพยายามจะแก้ไขค่ะ
-
ด้วยการเรียกภาษีเพิ่มจากพวกชาวนาชาวบ้านต่างๆนะคะ
-
ซึ่งถามว่าการเรียกภาษีเพิ่มมันช่วยไหม
-
ก็บอกเลยว่าไม่ช่วยค่ะ
-
เพราะว่านอกจากชาวบ้านจะต้อง
-
จ่ายภาษีให้กับโชกุนแล้วเนี่ย
-
เหล่าไดเมียวอะไรต่างๆ ผู้มีอิทธิพลตามพื้นที่ต่างๆ
-
เขาก็เรียกภาษีจากชาวบ้านเหมือนกัน
-
ดังนั้นชาวบ้านก็รู้สึกว่า
-
ไม่ ฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว
-
ชาวบ้านนะคะก็เลยลุกฮือกันขึ้นมาอีกกลุ่มนึงค่ะ
-
กลายเป็นกองกำลังนะคะชื่อว่ากองกำลังอิกกิ
-
ซึ่งกลุ่มนี้จะแตกต่างจากพวกกลุ่มไดเมียวต่างๆ
-
ก็คือพวกไดเมียวเนี่ย ถามว่าเขารบกันทำไม
-
เขารบกันเพราะว่าฉันอยากมีอำนาจ
-
ฉันอยากขึ้นปกครองแทนโชกุนอะไรต่างๆใช่ไหม
-
แต่กองกำลังอิกกิเนี่ยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
-
ฉันสนอย่างเดียวคือฉันจะปล้นมันให้ยับ
-
เพราะว่าฉันจะเอาอาหารมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองค่ะ
-
แล้วถามว่าโชกุนเนี่ยไปขูดรีดภาษีประชาชน
-
จนแบบประชาชนลุกขึ้นมาขนาดนี้แล้ว เงินพอรึยัง
-
ก็ต้องบอกว่ายังไม่พอค่ะ
-
ดังนั้นนะคะโชกุนก็เลยพยายามจะค้าขายกับต่างชาติค่ะ
-
ได้แก่ เกาหลีกับจีนนะ
-
ซึ่งพอมันมีการค้าขาย มีการเดินเรือเนี่ย
-
มันก็ต้องมีการคุ้มครองเรืออะไรอย่างนี้ใช่ไหม
-
ก็ไปเพิ่มอำนาจให้กับพวกเจ้าเมืองต่างๆ
-
หรือว่าชูโกนะคะ
-
ชูโกนี่เหมือนกับว่าเป็นตำแหน่ง
-
ผู้ปกครองเมืองที่ใหญ่ขึ้นไปอีกระดับนึงอะนะ
-
พวกนี้ก็ต้องมีกองกำลังทหารของตัวเอง
-
เพื่อไปปกป้องเรือที่ไปค้าขายอะไรต่างๆใช่ไหม
-
ดังนั้นแทนที่จะไปลดอำนาจเขาเนี่ย
-
ก็เลยเหมือนกับไปเพิ่มอำนาจให้กับเขาซะอย่างนั้นเลย
-
ทีนี้นะคะถ้าทุกคนยังรู้สึกว่ามันซัดกันนัวไม่พอ
-
บอกเลยว่ายุคนี้มีกองกำลังอีกกลุ่มนึงที่เกิดขึ้นมาค่ะ
-
นั่นก็คือกองกำลังที่ชื่อว่าอิกโกนั่นเอง
-
กองกำลังนี้นะคะก็คือกองกำลังของพระ
-
ในพุทธศาสนานิกายเท็นไดนะคะ
-
ที่เป็นพระสายแบบฝึกวิทยายุทธอะไรต่างๆค่ะ
-
แล้วพอฝึกๆขึ้นมาเนี่ย
-
พระกลุ่มนี้ถือคติประมาณว่า
-
ถ้าชาวบ้านเดือดร้อน ฉันต้องลงไปช่วย
-
ถ้าผู้ปกครองมันลงมาขูดรีดชาวบ้าน
-
ฉันจะต้องออกไปใช้กำลังช่วยชาวบ้านอะไรอย่างนี้นะคะ
-
ก็เลยตั้งขึ้นมาเป็นกองกำลังแบบพระศักดิ์สิทธิ์
-
ชื่อว่ากองกำลังอิกโกค่ะ
-
เดี๋ยวต่อไปเนี่ยกองกำลังอิกโกกับอิกกิมันจะรวมกันนะคะ
-
กลายเป็นกองกำลังอิกโก-อิกกิ
-
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกองกำลังอิสระที่
-
มีพลังค่อนข้างมากเลยทีเดียวนะคะ
-
สิบปีผ่านไปสงครามโอนินจบนะคะ
-
ถึงสงครามโอนินจะจบเนี่ย
-
แต่ตอนนั้นญี่ปุ่นเละเป็นโจ๊กไปแล้วเรียบร้อยค่ะ
-
กองกำลังต่างๆลุกขึ้นมาต่อสู้กันวุ่นวายไปหมดนะคะ
-
แล้วก็สู้กันเป็นระยะเวลายาวนานหลายปีเลยทีเดียว
-
จากปีค.ศ. 1477 ที่สงครามโอนินจบเนี่ยนะคะ
-
คนก็ยังสู้กันมาเรื่อยๆ แย่งอำนาจกันมาเรื่อยๆค่ะ
-
จนกระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนจุดนึงนะคะ
-
เมื่อปีค.ศ. 1543 ค่ะ
-
ตอนนั้นเนี่ยมีประเทศนึงเข้ามา นั่นก็คือประเทศ
-
โปรตุเกสนั่นเอง
-
และสิ่งที่โปรตุเกสนำมาด้วยนะคะก็คือปืนไฟค่ะ
-
ดังนั้นซามูไรในยุคนั้นเนี่ย
-
ไม่ได้สู้กันแค่ใช้ดาบใช้อะไรแล้วนะ
-
เริ่มมีปืนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วค่ะ
-
มันก็เลยเละเป็นโจ๊กหนักกว่าเดิมนะคะ
-
วิวขออนุญาตข้ามศึกสงครามทั้งหมดในยุคนี้ไปนะ
-
ขอโฟกัสที่คนสามคน
-
ที่กำลังจะมีบทบาทมากๆกับยุคนี้ค่ะ
-
คนแรกก็คือโอดะ โนบุนากะ นะคะ
-
โอดะ โนบุนากะเนี่ยเป็นเด็กหนุ่มจากตระกูลโอดะค่ะ
-
ซึ่งคุมอยู่บริเวณโอวาริอะนะ
-
ในตอนหนุ่มๆเนี่ยนะคะ เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนแปลกค่ะ
-
คือเป็นคนที่ถึงขนาดว่าแบบ
-
แต่งตัวหลุดกรอบอะไรคือแบบ
-
ไม่ทำอะไรตามกรอบว่าอย่างนั้นเถอะ
-
ถึงขนาดที่ว่าเขาได้ฉายานะคะว่า
-
The fool of Owari หรือว่า
-
ไอ้โง่แห่งโอวาริเลยทีเดียวนะ
-
แต่จริงๆเขาเป็นคนฉลาดนะคะ
-
แล้วพ่อเขาเนี่ยก็เล็งเห็นความสามารถของเขาค่ะ
-
ก็เลยไว้ใจให้เขาปกครองปราสาทปราสาทนึงนะคะ
-
ในแคว้นโอวาริ นั่นก็คือปราสาทนาโงย่านั่นเอง
-
คือเหมือนทุกคนที่เป็นคนใหญ่คนโต
-
ก็จะมีปราสาทของตัวเองอะนะ
-
นี่คือสาเหตุที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่น
-
มีปราสาทอยู่เต็มไปหมดทุกเมืองเลยประมาณนั้นค่ะ
-
นอกจากนี้นะคะเขายังมีฐานอำนาจแข็งแกร่งขึ้นอีก
-
ด้วยการแต่งงานทางการเมืองกับอีกตระกูลนึง
-
ซึ่งร่ำรวยมากๆ ทำให้ฐานอำนาจเขาแน่นขึ้น
-
เท่านั้นยังไม่พอนะคะ ตอนที่พ่อเขาตายเนี่ย
-
เขาก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนถัดไป
-
ถึงขนาดที่ว่าเขาเนี่ย
-
ฆ่าน้องชายตัวเองทิ้งไปเลยนะ
-
ดังนั้นจากเดิมที่เป็นเจ้าโง่เง่าแห่งโอวาริเนี่ย
-
ก็กลายเป็นแบบคนที่เขาลือขานกันว่า
-
เฮ้ย ไอ้นี่น่ากลัวเว้ยเฮ้ย ประมาณนั้นเลย
-
คนถัดไปนะคะที่เราควรจะรู้จักนั่นก็คือ
-
โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ นั่นเองค่ะ
-
คนนี้เป็นเหมือนนายทหารขุนพลคนสนิท
-
ของโนบุนากะนะคะ
-
ซึ่งก็จะเป็นคนที่สืบสานเจตนารมณ์ของโนบุนากะต่อไปค่ะ
-
และคนสุดท้าย คนนี้สำคัญที่สุดเลยนะ
-
นั่นก็คือ โทกุกาวะ อิเอยาซุ ค่ะ
-
คนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งขุนพลของโนบุนากะนะคะ
-
ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต
-
แต่ก่อนอื่นเราไปดูเรื่องราวก่อนที่สามคนนี้
-
จะออกมาโลดแล่นในยุทธจักรของญี่ปุ่นกันดีกว่านะคะ
-
คือตอนนั้นเนี่ยต้องบอกว่าญี่ปุ่นเนี่ย
-
แตกยับไปแล้วใช่ไหม อย่างที่วิวเล่า
-
ทุกคนพยายามยื้อแย่งอำนาจต่างๆนานา
-
ทุกคนพยายามจะฮุบเมืองคนอื่น
-
เพื่อเพิ่มขุมกำลังให้กับตัวเองค่ะ
-
ตอนนี้เรากำลังจะพูดถึงตระกูลนึงค่ะ
-
ซึ่งขึ้นมามีอำนาจในยุคนั้น นั่นก็คือ
-
ตระกูลอิมากาวะ นั่นเอง
-
ทีนี้ตระกูลอิมากาวะก็พยายามจะยึดเมืองอื่น
-
เมืองอื่น เมืองอื่น มากมายเต็มไปหมดค่ะ
-
ปรากฏว่ามีเมืองนึงนะคะที่เขาตั้งใจจะยึด
-
เมืองนั้นก็คือเมืองโอวารินั่นเองค่ะ
-
จำชื่อได้ไหม คุ้นๆ เจ้าโง่แห่งโอวาริ
-
ใช่ค่ะ นี่คือเมืองของโอดะ โนบุนากะนะคะ
-
ซึ่งตอนนี้ขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแล้วเรียบร้อย
-
แต่ต้องบอกว่าอิมากาวะเนี่ยมีขุมกำลังที่แบบ
-
เยอะกว่าโนบุนากะหลายเท่าเลยนะคะ
-
จนกระทั่งครั้งนึงค่ะในปีค.ศ. 1560 เนี่ยนะคะ
-
อิมากาวะขนทหารมาทั้งหมด 25,000 คนค่ะ
-
ในขณะที่จุดยุทธศาสตร์ที่โนบุนากะตั้งอยู่เนี่ย
-
มีคนแค่ประมาณ 2,000 คนเท่านั้นนะ
-
แต่โนบุนากะนะคะสามารถใช้คนแค่ 2,000 คน
-
เอาชนะอิมากาวะค่ะ
-
ด้วยการแบบแอบลอบไปฆ่าตอนกลางคืน
-
บุกไปกลางสายฝนอะไรต่างๆแล้วก็
-
ใช้อุบายว่าคนน้อยกว่าเดินทัพง่ายกว่าประมาณนี้นะคะ
-
จากเหตุการณ์นี้ทำให้โนบุนากะสามารถ
-
ฆ่าผู้นำตระกูลอิมากาวะได้สำเร็จค่ะ
-
และทำให้โนบุนากะเนี่ยเนื้อหอมมากๆเลยนะ
-
จักรพรรดินี่ก็รีบส่งจดหมายมาหาโนบุนากะเลยบอกว่า
-
เฮ้ย มาช่วยเราไหม
-
เราอยากฟื้นกำลังจักรพรรดิขึ้นมา
-
รวมถึงโชกุนตอนนั้นนะคะ
-
ที่เหมือนจะสูญเสียอำนาจไประดับนึงเนี่ย
-
ก็พยายามส่งจดหมายมาหาโนบุนากะเหมือนกันค่ะ
-
แต่ว่าก็
-
โนบุนากะตอนแรกจะไปช่วยโชกุนน่ะนะ
-
แต่ว่าโชกุนดันตายซะก่อน
-
ดังนั้นโนบุนากะก็เลยไม่ได้ไปช่วยค่ะ
-
อย่างไรก็ตามนะคะ จากเหตุการณ์นี้นะคะ
-
โนบุนากะก็ได้เจรจาเป็นพันธมิตรกับอีกคนนึงค่ะ
-
คนคนนั้นก็คือโทกุกาวะ อิเอยาซุ นะคะ
-
ซึ่งจะกลายมาเป็นขุนพลคนสำคัญมากๆของโนบุนากะ
-
หลังจากเหตุการณ์นั้นค่ะ
-
โนบุนากะก็ค่อยๆสั่งสมกำลังอำนาจของตัวเองมาเรื่อยๆ
-
คือไม่ใช่ว่าโนบุนากะโดนรังแกฝ่ายเดียว นึกออกปะ
-
ในระหว่างที่โดนรังแก ตัวเองก็อยากยึดเมืองอื่นเหมือนกัน
-
ดังนั้นโนบุนากะก็เลยไล่เก็บ เก็บ เก็บ
-
เมืองนั้นเมืองนี้มากมายนะคะ
-
โดยเฉพาะช่วงปีค.ศ. 1564-1567 ค่ะ
-
โนบุนากะเนี่ยสามารถยึดแคว้นใหญ่มากๆ
-
ได้แคว้นนึงนะคะนั่นก็คือ แคว้นมิโนะ นั่นเอง
-
และจากศึกการยึดแคว้นมิโนะครั้งนี้
-
มันก็สร้างชื่อให้กับขุนพลคนนึงของโนบุนากะหนักมากค่ะ
-
คนคนนั้นก็คือโทโยโทมิ ฮิเดโยชินะคะ
-
ซึ่งเขาอะจริงๆพื้นเพมาจากแค่ชาวนาเท่านั้นแหละ
-
แต่ด้วยฝีมือด้วยอะไรต่างๆ
-
ก็ก้าวขึ้นมาเป็นตำแหน่งใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆค่ะ
-
ฮิเดโยชินี่มีความสามารถพิเศษนะคะ
-
ในการเกลี้ยกล่อมคน
-
คือนอกจากจะรบเก่งแล้วก็ยังเกลี้ยกล่อมเก่งอีกค่ะ
-
ดังนั้นเขาก็เลยสามารถแบบเกลี้ยกล่อมหาพันธมิตร
-
เจรจาสงบศึกอะไรต่างๆ
-
เสริมสร้างฐานกำลังของตัวเอง
-
ขึ้นมาได้ใหญ่มากๆเลยนะคะ
-
ตอนนี้เราตัดภาพจากแก๊งโนบุนากะ
-
เข้าไปที่เมืองหลวงดีกว่าค่ะ
-
แน่นอนว่าโชกุนตระกูลอาชิกางะเนี่ย
-
ปกครองกันมาหลายต่อหลายรุ่นค่ะ แต่ว่า
-
ไม่มีอำนาจที่แท้จริงมานานแล้วอะนะ
-
ในปีค.ศ. 1565 ค่ะ
-
มีโชกุนคนนึงของตระกูลอาชิกางะเนี่ย
-
ขึ้นมาปกครองแล้วก็รู้สึกว่า
-
ทำไมฉันต้องยอมแบ่งอำนาจให้พวกมันด้วย
-
ก็เลยพยายามรวบรวมกำลังทหารของตัวเองนะคะ
-
แน่นอนว่าคนที่มีอำนาจที่แท้จริง
-
เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกว่า เฮ้ย ไม่โอเค
-
ฉันจะปล่อยให้มันผงาดขึ้นมาอีกรอบไม่ได้
-
ดังนั้นเขาก็เลยจับโชกุนคนนั้นเนี่ยฆ่าทิ้งค่ะแล้วก็
-
ตั้งลูกชายนะคะซึ่งอายุแค่ห้าขวบ
-
ขึ้นมาเป็นโชกุนคนใหม่ค่ะ
-
โชกุนคนเก่าเนี่ยทิ้งไว้สิ่งนึงค่ะ
-
นั่นก็คือน้องชายนะคะชื่อว่า
-
อาชิกางะ โยชิอากิ ค่ะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ
-
หลังจากที่หลานของตัวเองปกครองอยู่ไม่นานนะคะ
-
เด็กห้าขวบก็ตายจากไปซะอย่างนั้นเลย
-
ดังนั้นนะคะโยชิอากิก็รู้สึกว่า
-
ฉันจะต้องขึ้นมาปกครองต่อ
-
ตามตำแหน่งลำดับทายาทอะไรอย่างนี้นะ
-
แต่ว่าตัวเองก็ไม่มีอำนาจ ไม่มีอะไรทั้งสิ้นอยู่ในมือ
-
จะทำยังไงดีที่จะไปสู้กับขุมกำลังแก๊งเก่านะคะ
-
บังเอิญว่าตอนนั้นเนี่ย ในประเทศมีแก๊งนึงที่กำลังแบบ
-
เถลิงอำนาจใหญ่โตนะคะนั่นก็คือ
-
แก๊งของโนบุนากะนั่นเอง
-
อาชิกางะ โยชิอากะนะคะก็เลยเหมือน
-
ส่งจดหมายไปหาโนบุนากะค่ะบอกว่า
-
เฮ้ย โอดะ โนบุนากะ
-
เราเนี่ยเป็นว่าที่แคนดิเดตโชกุนนะ
-
นายสนใจมาช่วยให้เราขึ้นเป็นโชกุนไหม
-
มาช่วยกำจัดคนชั่วที่ครอบงำตำแหน่งโชกุนกันเถอะ
-
ซึ่งโนบุนากะนะคะก็ตอบรับค่ะ
-
แล้วก็ยกพลนะคะเข้ามาเมืองหลวงเต็มไปหมด
-
แล้วก็กำจัดขุมกำลังเก่าออกไปทิ้งเรียบเลยค่ะ
-
เรียกได้ว่าล้างบางนะคะ
-
แล้วก็ตั้งอาชิกางะ โยชิอากิเนี่ยขึ้นเป็น
-
โชกุนคนถัดไปของตระกูลอาชิกางะค่ะ
-
แต่ถามว่าโยชิอากินี่มีอำนาจไหม
-
ก็ต้องบอกว่าไม่มี
-
เพราะว่าอะไร เพราะว่าถึงจะเอาคนเก่าออกไปแล้ว
-
แต่ว่าคุณเอาคนมีอำนาจคนใหม่เข้ามาไง
-
นั่นก็คือโนบุนากะนั่นเองนะคะ
-
จากเหตุการณ์นี้นะคะ
-
โนบุนากะได้อะไรไปหลายอย่างมาก
-
ไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง ได้เป็นคนควบคุมโชกุน
-
เพราะว่าถือว่าฉันเป็นผู้ช่วยชีวิตโชกุน
-
ฉันเป็นผู้ช่วยเหลือโชกุนจากคนร้าย
-
ก็เลยได้ตำแหน่งไนไดจินไปนะคะ
-
ซึ่งเป็นตำแหน่งแบบผู้พิทักษ์โชกุน
-
นอกจากนี้พอเข้ามาอยู่เมืองหลวง
-
ได้มาอยู่กับชนชั้นสูงอะไรต่างๆ
-
ก็ได้เส้นสาย ได้กำลังทหาร
-
เรียกได้ว่าได้อะไรไปหลายต่อหลายอย่างมากๆค่ะ
-
และจากเหตุการณ์นี้นะคะ
-
ก็ทำให้เหล่าไดเมียวทั่วประเทศรู้สึกว่าแบบ
-
ทำไมอะ ทำไมอยู่ดีๆฉันจะต้องไปยอมรับโนบุนากะ
-
ฉันไม่ยอมอะ
-
ก่อให้เกิดเป็นขบวนการต่อต้านโนบุนากะซะอย่างนั้นเลยนะ
-
รวมถึงกลุ่มนึงด้วยนะคะ
-
ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านโนบุนากะเหมือนกัน
-
นั่นก็คือกลุ่มอิกโก-อิกกิ
-
จำได้ใช่ไหมที่วิวบอกว่า
-
เป็นกลุ่มชาวบ้านกับกลุ่มพระนะคะ
-
ก็ไปมีพวกไดเมียวแคว้นนั้นแคว้นนี้เนี่ย
-
ไปเรียกอิกโก-อิกกิมารวมกับตัวเอง
-
แล้วก็บอกว่ามาร่วมกันต่อต้านโนบุนากะกันเถอะ
-
แน่นอนว่าโนบุนากะก็จะต้องพยายามปราบ
-
ทุกแก๊งที่ต่อต้านตัวเองใช่ไหม
-
รวมถึงแก๊งอิกโก-อิกกินี่ด้วย
-
และแก๊งอิกโก-อิกกินี่รบเก่ง
-
ถึงขนาดที่หลายครั้งโนบุนากะนี่รุ่งริ่งเลยนะคะ
-
มีครั้งนึงโอดะ โนบุนากะเนี่ยนะคะ
-
แพ้อิกโก-อิกกิถึงขนาดที่แบบเกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยนะ
-
แล้วก็มีหลายๆศึกที่แบบเสียทหารเรียบอะไรอย่างนี้
-
ดังนั้นโนบุนากะก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้การละ
-
ฉันจะต้องแก้แค้นไอ้แก๊งอิกโก-อิกกินี่ให้ได้
-
โนบุนากะเนี่ยนะคะตั้งใจถอนรากถอนโคน
-
แก๊งอิกโก-อิกกิโดยเฉพาะพวกพระเนี่ยนะ
-
ถึงขนาดที่ว่าในปีค.ศ. 1571 เนี่ยนะคะ
-
คือตอนนั้นมันมีวัดสองวัดที่เป็นวัดสำคัญของสองแก๊งนี้
-
วัดนึงในนั้นนะคะก็คือวัดเอ็นเรียคุ
-
ที่อยู่ที่ภูเขาฮิเอค่ะ
-
โนบุนากะเนี่ยนะคะเพิ่งจะแพ้แก๊งพระนี้ไปครั้งนึง
-
ศึกใหญ่มากที่นากาชิม่าค่ะ
-
ก็เลยส่งพลนะคะไปเยอะมากๆๆๆ
-
ไปล้อมภูเขาฮิเอที่เป็นตั้งของวัดเอ็นเรียคุนะคะ
-
แล้วก็สั่งว่านี่ล่ะคือขุมกำลังของอิกโก-อิกกิ
-
ใครก็ตามที่อยู่บนภูเขานี้
-
ฆ่าทิ้งให้หมดไม่ต้องเว้นนะคะ
-
ทำให้วันนั้นนะคะกองทัพของโนบุนากะก็เลย
-
เผาทำลายวัดแล้วแบบฆ่าคนเรียบไปหมด
-
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้หญิง สตรีมีครรภ์ คนชรา
-
พระ อะไรเรียกได้ว่า
-
ไม่รอดชีวิตแม้แต่คนเดียวค่ะ
-
จากเหตุการณ์วันนั้นนะคะมีบันทึกว่า
-
คนตายไปถึงประมาณ
-
4,000 คนเลยทีเดียว
-
และแน่นอนว่า
-
ก็ทำให้คนต่อต้านโนบุนากะหนักขึ้นมากเลยค่ะ
-
เพราะว่าคนนับถือศาสนาพุทธอะไรต่างๆก็รับไม่ได้นะคะ
-
ที่โนบุนากะเนี่ยเผาวัดแล้วก็ฆ่าพระค่ะ
-
นอกจากนี้นะคะ โนบุนากะก็เลยได้ฉายาว่าเป็นแบบ
-
จอมมารฟ้า
-
เป็นแบบจอมมารของประเทศนี้ไปแล้วเรียบร้อยนะ
-
คือคนเนี่ยเกลียดมากๆ
-
รู้สึกว่าไอ้นี้โหดเหี้ยม ไอ้นี่โหดร้ายนะคะ
-
และหนึ่งในคนที่ต่อต้านโนบุนากะหนักมากๆนะคะ
-
นั่นก็คือไดเมียวของตระกูลทาเคดะ ชื่อชินเง็นนั่นเอง
-
ซึ่งชินเง็นเนี่ยก็ค่อนข้างจะศรัทธาในพุทธศาสนา
-
ประกอบกับในปีค.ศ. 1573 เนี่ยนะคะ
-
โชกุนคนเก่าไม่เข็ดค่ะ
-
ตอนแรกไปเรียกโนบุนากะมาจัดการแก๊งเดิมใช่ไหม
-
ตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าฉันอยากจัดการโนบุนากะจะตายอยู่แล้ว
-
ก็เลยไปเรียกชินเง็นเนี่ยนะคะเข้ามาที่เมืองหลวง
-
กะว่าจะให้มาจัดการโนบุนากะค่ะ
-
ซึ่งชินเง็นเนี่ยนะคะถือว่าเป็นหนึ่งคนที่
-
ตามประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า
-
โนบุนากะค่อนข้างจะกลัวเลยนะ
-
เพราะรู้สึกว่าไอ้นี่รบเก่งจริงๆนะ
-
ที่สำคัญนะคะ ชินเง็นนี่ก็
-
สู้รบกับโนบุนากะหลายต่อหลายศึก
-
ในศึกนึงเนี่ยนะคะถึงขนาดที่ว่า
-
โทกุกาวะ อิเอยาซุโดนโนบุนากะส่งไป
-
ตัวเองใช้กองทัพปืนไฟ
-
ส่วนชินเง็นเนี่ยไม่ค่อยได้เน้นปืนค่ะ
-
เน้นเป็นทหารม้านะ
-
แต่ว่าอิเอยาซุเนี่ยแพ้ชินเง็นแบบยับเลยนะคะ
-
เพราะว่าชินเง็นเป็นคนที่
-
ค่อนข้างจะวางแผนการรบดีมากๆ
-
แล้วก็วิเคราะห์จุดดี จุดอ่อน จุดเสียอะไรต่างๆ
-
ถ้าสมมติไม่แน่ใจ ฉันจะไม่รบ
-
เมื่อเห็นว่าโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ยเอากองทัพปืนไฟมา
-
ตัวเองก็จัดกองทัพทหารม้าให้เป็นรูปปลาค่ะ
-
พอเป็นรูปปลามันก็เหมือนมีพื้นที่ให้ยิงน้อยอะไรอย่างนี้
-
สุดท้ายกองทัพของโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ย
-
แพ้ยับถึงขนาดที่ว่าโทกุกาวะ อิเอยาซุ
-
แทบจะต้องควบม้าหนีแบบคนเดียวนะคะ
-
กลับเข้าปราสาทเลยค่ะ
-
แต่ในการศึกครั้งนี้เช่นเดียวกัน
-
พอโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ยควบกลับปราสาทไป
-
ก็ด้วยความที่เขาเป็นคนค่อนข้างฉลาดนะ
-
เขาก็รู้ว่านิสัยชินเง็นเนี่ย ถ้าไม่ชัวร์จะไม่รบ
-
แล้วฉันก็ไม่เหลือทหาร ไม่เหลืออะไรแล้ว
-
ถ้าสมมติฉันไม่รอโนบุนากะมาเนี่ย ฉันซวยแน่ๆ
-
ยังไงปราสาทนี้ก็แตก
-
แต่มันแตกไม่ได้ เพราะถ้าปราสาทนี้แตกแล้วเนี่ยนะ
-
ชินเง็นจะสามารถยกทัพเข้าไปหาโนบุนากะได้โดยตรงเลย
-
ดังนั้นนะคะโทกุกาวะ อิเอยาซุก็เลย
-
สั่งให้เปิดประตูปราสาททุกประตูเลยประมาณว่า
-
อะ ในเมื่อเราป้องกันไม่ได้แล้ว เปิดเลยทุกคน
-
เปิดๆๆ เปิดประตู เปิดๆๆๆ
-
แล้วก็ตีกลองค่ะประมาณว่าแบบ
-
มาเลย มาเลย
-
ถามว่านิสัยชินเง็นรู้สึกยังไง
-
นิสัยชินเง็นก็แบบ
-
ทำไมมันถึงเปิดประตูหมดเลย
-
แล้วทำไมมันถึงตีกลอง
-
มันต้องมีกองทัพอีกเยอะมาก
-
ซุ่มอยู่ในปราสาทแน่ๆเลย
-
แทนที่จะบุกเลยนะคะก็เลยปักหลักต่อสู้
-
โทกุกาวะ อิเอยาซุก็เลยเหมือนกับว่ายื้อเวลาได้สำเร็จ
-
ตัวเองมีคนน้อยกว่าใช่ไหม
-
ก็ส่งพวกนินจาส่งอะไรเข้าไปก่อกวนชินเง็น
-
จนแบบชินเง็นงงว่าอย่างนั้นเถอะ
-
ชินเง็นก็เลยถอนทัพนะคะ
-
ไปตีที่อื่นแทนประมาณว่าฉันไม่ไปทางนี้แล้วก็ได้
-
ฉันไปทางอื่นก็ได้นะคะ
-
ศึกครั้งนี้นะคะถึงโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ย
-
จะแพ้ยับในตอนแรกแต่ว่า
-
เขาก็ได้ชื่อค่ะว่าเป็นคนที่วางแผนการรบเก่ง
-
แล้วก็ได้ประสบการณ์การรบ
-
จากศึกของชินเง็นไปเยอะมากนะคะ
-
และแล้วในที่สุดค่ะ โชคก็เข้าข้างโนบุนากะอีกครั้งนึงนะคะ
-
เพราะว่าแม้ว่าชินเง็นจะเก่งแค่ไหนอะไรยังไง
-
แต่อยู่ดีๆชินเง็นก็ตายซะอย่างนั้น
-
ตามประวัติศาสตร์ไม่ได้บันทึกนะว่าตายยังไง
-
ตอนแรกๆก็บันทึกว่าป่วยตาย
-
แต่บางคนก็บอกโดนวางยาพิษตายรึเปล่า
-
บางครั้งก็บอกว่าครั้งนึงตอนสู้กับอิเอยาซุโดนยิง
-
แล้วก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ตายในที่สุด อะไรอย่างนี้นะ
-
อย่างไรก็ตาม ชินเง็นตายไปค่ะ
-
แผนของโชกุนพังค่ะ
-
คือโชกุนกะว่าเอาชินเง็นผสมอิกโก-อิกกิ
-
ผสมกองนั้นแก๊งนี้
-
รวมกันขึ้นมา มาสู้กับโนบุนากะ
-
ปรากฏว่าชินเง็นที่เป็นแก๊งใหญ่ ตาย
-
อิกโก-อิกกิก็โดนเผาวัดเรียบไปหนึ่งวัดแล้ว
-
เหลือแค่แบบกระจัดกระจายอยู่ที่วัดนั้นวัดนี้
-
คิดว่าโชกุนหยุดไหม
-
บอกเลยว่าไม่หยุดค่ะ โชกุนรู้สึกว่า
-
ไม่ได้ ฉันสู้แล้วต้องสู้ให้ถึงที่สุด
-
ดังนั้นโชกุนก็ตั้งใจจะสู้กับโนบุนากะต่อนะคะ
-
กุนซือของโชกุนก็พยายามจะบอกว่าแบบ
-
เฮ้ยๆๆ ในฐานะที่ปรึกษานะ ฉันบอกเลยว่า
-
รอบนี้เราสู้ไม่ได้ ยอมแพ้เถอะ ได้โปรด พลีสๆ
-
โชกุนก็บอกว่า ไม่ ไม่ยอมนะคะ
-
ทั้งสองฝ่ายก็แบบตึงเครียดกันขึ้นเรื่อยๆค่ะ
-
ปรากฏว่ามีคนนึงนั่งไม่ติดละตอนนี้
-
คือไม่มีบทบาทมานานละแต่ว่า
-
เริ่มมาใกล้ฉันขึ้นไปทุกทีละ
-
คนนั้นก็คือจักรพรรดินะคะ
-
จักรพรรดิเนี่ยกลัวโนบุนากะกับโชกุนเนี่ย
-
ตีกันในเกียวโต แล้วเกียวโตจะพังค่ะ
-
ดังนั้นจักรพรรดิก็เลยส่งจดหมายไปหาทั้งสองฝ่ายนะคะ
-
ประมาณว่า เอาละ ในนามของจักรพรรดิ
-
ถึงฉันไม่มีอำนาจใดๆทั้งสิ้นนะ
-
แต่ว่าในนามของ
-
ทายาทของเทพเจ้าอามาเตราซุอันศักดิ์สิทธิ์
-
ฉันขอให้พวกแกหยุดรบกันเถอะ ได้โปรดนะ
-
อย่า อย่าพังเกียวโตเลย พลีสนะจ๊ะ
-
ซึ่งโนบุนากะเนี่ยก็ฟังนะคะ ฟังจักรพรรดิ
-
ก็เลยตัดสินใจสงบศึกค่ะ
-
แต่โชกุนไม่ฟัง โชกุนบอกไม่ ฉันจะรบ
-
จักรพรรดิ แกไม่มีอำนาจ ฉันจะรบนะคะ
-
ที่ปรึกษาของโชกุนก็พยายามบอกว่า
-
เฮ้ย นี่เขาห้ามกันแบบทุกคนพยายามห้ามแล้ว
-
หยุดเถอะ หยุดเถอะ โชกุนไม่ฟัง
-
โชกุนไม่ฟัง
-
สุดท้าย ที่ปรึกษานะคะก็เลยบอกว่า
-
ฟังไม่ฟัง ไม่ฟังใช่ไหม โอเคได้
-
งั้นไม่ฟัง ฉันจะไปหาคนที่ฟังฉันก็ได้
-
ที่ปรึกษาของโชกุนนะคะก็เลย
-
ลาออกค่ะ แล้วก็ไปอยู่กับโนบุนากะซะอย่างนั้น
-
ไปเป็นที่ปรึกษาให้โนบุนากะแทน
-
ส่วนโนบุนากะเนี่ยนะคะก็รำคาญเหมือนกันว่าแบบ
-
ฉันก็ยอมแล้ว ฉันหยุดแล้ว ทำไมเธอถึงไม่หยุด
-
อะ โชกุน ในเมื่ออยากสู้นัก สู้กันก็ได้
-
ในปีค.ศ. 1573 นะคะ
-
โนบุนากะก็เลยยกทัพเข้าไปเผาเมืองเกียวโต
-
ราบเป็นหน้ากลองเลยค่ะ
-
แล้วก็รบๆๆๆ รบจนชนะนะคะ
-
แล้วก็สั่งเนรเทศโชกุนออกจากเมืองไปค่ะ
-
ยึดอำนาจเป็นของตัวเองโดยเบ็ดเสร็จนะคะ
-
โดยที่มีจักรพรรดิเนี่ยรองรับอำนาจของโนบุนากะด้วย
-
เป็นการเริ่มต้นยุคอาซูจิ-โมโมะยามะ
-
ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ยาวเท่าไหร่
-
ก็ถือว่าเป็นยุคของโนบุนากะ
-
ยาวประมาณสามสิบปีเท่านั้นค่ะ
-
หลังจากขึ้นมามีอำนาจเต็มที่นะคะ
-
โนบุนากะก็พยายามไล่เก็บแก๊งต่างๆที่
-
ต่อต้านตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ
-
ซึ่งอันนี้มันจะเป็นศึกยิบย่อยมากๆ
-
วิวขออนุญาตไม่เล่าไว้ที่นี้นะคะ
-
จนกระทั่งปีค.ศ. 1582 นะคะ
-
เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นค่ะ
-
คือตอนนั้นโนบุนากะเนี่ยตั้งใจจะเก็บแก๊งนึงนะคะก็คือ
-
แก๊งตระกูลโมรินั่นเอง
-
ซึ่งแบบเหมือนเป็นแก๊งอำนาจแก๊งสุดท้าย
-
นี่ถ้าปราบแก๊งนี้ได้นะ
-
โนบุนากะก็จะขึ้นมาเป็น
-
คนที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือแผ่นดินโดยสมบูรณ์
-
คือทุกวันนี้เหมือนมีอำนาจเบ็ดเสร็จใช่ปะ
-
แต่มันก็ยังมีก๊กนั้นก๊กนี้อยู่ว่าอย่างนั้นเถอะ
-
ทีนี้โนบุนากะส่งขุนพลของตัวเองออกไปก่อน
-
นั่นก็คือโทโยโทมิ ฮิเดโยชินะคะ
-
ส่งออกไปปุ๊บ ฮิเดโยชินี่ก็ไปตรึงๆกำลังรออยู่
-
ยังไม่ได้เริ่มรบขนาดนั้นจริงจัง
-
แต่ฮิเดโยชิรู้สึกว่าเฮ้ย ฉันสู้ไม่ไหวนะถ้ามาแค่นี้
-
ดังนั้นฮิเดโยชินะคะก็เลยส่งจดหมายไปหาโนบุนากะค่ะ
-
บอกว่าส่งกำลังเสริมมาซะดีๆ
-
โนบุนากะนะคะก็เลยส่งทหารไปเป็นกำลังเสริมค่ะ
-
ซึ่งขุนศึกที่โนบุนากะส่งไปนะคะ
-
เป็นคนนึงที่โนบุนากะค่อนข้างไว้ใจค่ะ
-
ก็เป็นขุนพลคู่มือว่าอย่างนั้นเถอะ
-
เขาเนี่ยนะคะชื่อว่า อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ค่ะ
-
ซึ่งบังเอิญว่าคนนี้
-
เขาไม่ได้จงรักภักดีกับโนบุนากะขนาดนั้น
-
จริงๆแล้วเขาแอบแค้นโนบุนากะนะคะ
-
คือเหมือนเขาเคยไปทำศึกศึกนึงแล้วก็แบบ
-
ไปถึงแล้วรู้สึกว่าเออ ไม่รบดีกว่า ไปเจรจาสงบศึกดีกว่า
-
ก็เลยไปสงบศึกกับเมืองนั้น แล้วเมืองนั้นก็ตกลง
-
บอกว่าโอเค งั้นเราไม่ต้องเสียกำลังพล ไม่ต้องรบกัน
-
คนนี้เขาก็เลยเหมือนส่งแม่ตัวเองไปเป็นตัวประกัน
-
ไปอยู่บ้านคนนั้นน่ะ
-
ว่าแบบอะ โอเค เอาแม่ฉันไปอยู่นะ
-
แล้วสัญญาว่าเราจะไม่รบกัน
-
แต่บังเอิญว่าโนบุนากะเนี่ยนะคะไม่สนใจสัญญานี้
-
แล้วก็ไปฆ่าบ้านนั้นค่ะ
-
พอไปฆ่าบ้านนั้น บ้านนั้นก็เลยฆ่าแม่เขา
-
เขาก็เลยแค้นโนบุนากะนะคะ
-
เอาเป็นว่าคนนี้แอบแค้นโนบุนากะอยู่
-
แต่โนบุนากะไม่รู้นะคะ
-
พอคนนี้ยกออกไปนอกเมืองก็รู้สึกว่า
-
เฮ้ย โนบุนากะเนี่ยอยู่ในบ้านตัวเองถูกไหม
-
อยู่ในอาณาเขตตัวเองก็จะไม่ต้องพกทหารไปหรูหรา
-
ไม่ได้ไปเป็นกองทัพ
-
ส่วนฉันเนี่ยได้กองทัพมาใหญ่มาก
-
แล้วฉันก็แค้นโนบุนากะอยู่
-
ดังนั้นนะคะมิตสึฮิเดะแทนที่จะยกไปสู้กับตระกูลโมริ
-
ก็เลยวกทัพกลับมาค่ะ
-
แล้วก็มาจัดการถล่มโนบุนากะ
-
ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตัวเองซะอย่างนั้นเลยนะคะ
-
เผาว้งเผาวัดเรียบ
-
จนกระทั่งในที่สุดโนบุนากะก็
-
ตายในกองไฟคืนนั้นแหละค่ะ
-
ซึ่งว่ากันว่าโนบุนากะเนี่ยนะคะเซ็ปปูกุ
-
ก็คือฆ่าตัวตายแล้วก็
-
ให้คนสนิทเนี่ยตัดหัวเอาหนีไปค่ะ
-
ดังนั้นศพของโนบุนากะก็เลยไม่เคยมีใครเจอหัวนะคะ
-
เจอแต่กองกระดูกที่เผาไหม้ไฟอยู่ในนั้นค่ะ
-
เป็นการปิดฉากโอดะ โนบุนากะนะคะ
-
ซึ่งมีบทบาทมากๆกับยุคเซ็นโงคุของเราค่ะ
-
และแน่นอนว่ามิตสึฮิเดะของเรานะคะก็จะต้อง
-
ยึดอำนาจจากโนบุนากะค่ะแล้วก็
-
ขึ้นไปนั่งตำแหน่งแทนโนบุนากะนะคะแต่ว่า
-
เขามีอำนาจอยู่ได้แค่ทั้งหมดเจ็ดวันเท่านั้นค่ะ
-
หรือบางที่ก็บอกสิบสามวันน่ะนะ
-
เพราะว่าข่าวนี้นะคะก็รั่วไปถึงหูของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิค่ะ
-
ดังนั้นนะคะ ฮิเดโยชิก็เลยเจรจากับตระกูลโมริค่ะบอกว่า
-
เฮ้ยเราไม่สู้กันได้ไหมอะไรอย่างนี้
-
ก็สงบศึกกันเรียบร้อยนะคะ
-
แล้วก็ยกกองทัพกลับมาค่ะ
-
รวมกับคนที่ยังจงรักภักดีกับโนบุนากะอยู่นะคะ
-
ชูธงบอกว่าเราจะแก้แค้นให้โนบุนากะ
-
ว่าแล้วก็ถล่มมิตสึฮิเดะเละตุ้มเป๊ะไปซะตรงนั้นเลย
-
ก็คือมีอำนาจอยู่ได้แค่เจ็ดวันนะคะ
-
หลังจากนั้นนะคะ ฮิเดโยชิก็จัดการไปถล่มตระกูลอื่นๆที่
-
ยังไม่จงรักภักดีอะไรต่างๆ
-
แล้วก็รวบอำนาจมาาไว้ที่ตัวเองได้ทั้งหมดค่ะ
-
รวมถึงในที่สุดนะคะ
-
ฮิเดโยชินี่ก็จะต้องสู้กับคนที่จงรักภักดีกับตระกูลโอดะด้วย
-
เพราะว่าโนบุนากะก็ยังมีลูกอยู่ นึกออกปะ
-
แต่ลูกแบบเด็กมาก อะไรอย่างนี้
-
ฮิเดโยชิก็ต้องไปสู้กับพวกนั้น
-
แล้วก็ไปสู้กับโทกุกาวะ อิเอยาซุด้วย
-
ซึ่งก็ยังสงสัยว่า เฮ้ยแก
-
ทำไมอยู่ดีๆแกมายึดอำนาจจากลูกเจ้านายอะไรอย่างนี้
-
ก็มีการสู้กันต่างๆนานามากมายค่ะ
-
และแล้วในที่สุดนะคะ ฮิเดโยชิก็สามารถ
-
เจรจาจนโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ยยอมได้
-
ประมาณว่าอะ เป็นพันธมิตรก็ได้นะคะ
-
ทำให้โทโยโทมิ ฮิเดโยชิเนี่ยเป็นคนที่สามารถ
-
รวมประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จ
-
หลังจากที่แตกแยกกันยาวนานถึงประมาณ 150 ปีค่ะ
-
ในปีค.ศ. 1590 นั่นเอง
-
ถามว่าฮิเดโยชิเนี่ยมีอำนาจสูงสุดในญี่ปุ่นตอนนี้แล้ว
-
เขาจบไหม
-
ก็ต้องบอกว่าไม่จบค่ะ เขารู้สึกว่า
-
ฉันยังมีอำนาจไม่พอนะคะ
-
ดังนั้นค่ะ เขาก็เลยดำเนินนโยบายว่า
-
โอเค ฉันจะไปยึดคาบสมุทรเกาหลีจ้า
-
ที่สำคัญจำได้ใช่ไหมว่า
-
ใครมีอำนาจเหนือเกาหลีเป็นช่วงๆ
-
จีนนั่นเองค่ะ
-
พอไปตีเกาหลีก็เลยจะต้อง
-
มีปัญหากับจีนนะคะ
-
ดังนั้นฮิเดโยชิเนี่ยก็ทำสงครามกับเกาหลีกับจีน
-
เกาหลีกับจีน อะไรอย่างนี้นะคะ
-
ซึ่งถามว่าชนะไหม ก็มีชนะบ้างอะ ครั้งนึงอะไรอย่างนี้
-
แต่ที่เหลือนี่เรียกได้ว่าแพ้ยับนะคะ
-
จนกระทั่งในปีค.ศ. 1598 นะคะ
-
แปดปีหลังจากที่ฮิเดโยชิเนี่ยขึ้นมามีอำนาจ
-
เขาก็ตายไปซะอย่างนั้น
-
ทายาทของเขาเป็นลูกชายค่ะ
-
อายุแค่ห้าขวบเท่านั้นเองนะ
-
แต่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาเนี่ยมีการวางแผนไว้ก่อนแล้ว
-
กลัวเหมือนกันว่าแบบเฮ้ย ลูกชายฉันอายุแค่ห้าขวบ
-
เดี๋ยวใครจะมาแย่งอำนาจลูกฉัน
-
เขาก็เลยวางแผนต่างๆนานานะคะไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง
-
บอกให้น้องชายตัวเองเนี่ย
-
ฆ่าตัวตายไปตั้งแต่เขายังไม่ตายเลยนะ
-
ประมาณว่ารู้ตัวแล้วว่าฉันจะตาย
-
อะ แกฆ่าตัวตายก่อนเลย แกต้องตายก่อนฉัน
-
เดี๋ยวแกจะแย่งอำนาจลูกฉัน
-
เท่านั้นยังไม่พอนะคะ
-
เขายังตั้งตำแหน่งเหมือนองคมนตรีว่าอย่างนั้นเถอะ
-
ขึ้นมาทั้งหมดห้าคนค่ะ ประมาณว่า
-
แกแบ่งอำนาจกันไปห้าสายนะ
-
แกจะได้ไม่มามีใครมีอำนาจหนึ่งเดียว
-
แล้วเดี๋ยวจะมาแย่งอำนาจลูกฉันค่ะ
-
แต่ถามว่ารอดไหม ก็ต้องบอกว่าไม่รอดค่ะ
-
ทุกคนก็นัวกันแย่งอำนาจกันวุ่นวายไปหมดจนกระทั่ง
-
ปีค.ศ. 1600 นะคะ
-
อำนาจก็ตกไปอยู่ที่คนที่
-
ทำผลงานมาตั้งแต่สมัยโอดะ โนบุนากะ นั่นก็คือ
-
โทกุกาวะ อิเอยาซุนั่นเองค่ะ
-
ทำให้เขาเนี่ยสามารถรวบอำนาจเข้ามานะคะแล้วก็
-
เริ่มยุคโทกุกาวะตั้งแต่นั้นมาค่ะ
-
หลังจากต่อสู้อะไรต่างๆมากมายนะคะ
-
โทกุกาวะ อิเอยาซุก็สามารถ
-
รวบอำนาจเข้ามาอยู่ที่ตัวเองแล้วก็
-
ตั้งตัวเองขึ้นเป็นโชกุนนะคะในปีค.ศ. 1603
-
ทำให้ญี่ปุ่นเนี่ยเข้าสู่ยุคเอโดะโดยสมบูรณ์นั่นเองค่ะ
-
แต่จำกันได้ใช่ไหมคะว่าปีจบของสงครามเซ็นโงคุเนี่ย
-
คือปีค.ศ. 1615 เพราะว่า
-
จริงๆแล้วถึงจะรวบอำนาจมาได้
-
แต่ศึกมันยังมีศึกประปรายต่างๆอยู่นะ
-
ยังมีคนที่สนับสนุนฮิเดโยชิอะไรต่างๆอยู่
-
ดังนั้นโทกุกาวะ อิเอยาซุก็เลยยังต้อง
-
ทำศึกต่อไปประมาณหกปีค่ะ
-
และในที่สุด ที่ปราสาทโอซาก้าในปีค.ศ. 1615
-
โทกุกาวะ อิเอยาซุก็สามารถ
-
กวาดล้างคนที่ต่อต้านตัวเองแก๊งสุดท้ายได้ค่ะ
-
ทำให้เป็นการปิดฉากสงครามเซ็นโงคุอันยาวนานกว่า
-
148 ปี
-
ที่วิวเล่าจนเสียงแหบแล้วนะคะทุกคน
-
เป็นไงกันมั่งคะ ฟังเรื่องสงครามเซ็นโงคุกันไป
-
สนุกสนานกันไหม
-
เชื่อว่าหลายๆคนฟังแล้วน่าจะรู้สึกว่า
-
ยุคนั้นเป็นยุคที่ซัดกันนัว
-
โดยเฉพาะคนที่ชอบวางแผนรบอะไรต่างๆนะคะ
-
ก็อย่าลืมไปโหลดเกม Sengoku Fubu TH
-
ศึกซามูไรกลางเมืองของค่าย Bekko
-
มาลองเล่นกันดูได้นะคะ
-
จะเห็นว่าตอนนี้เกม Sengoku Fubu เนี่ยนะคะ
-
เขามีภาษาไทยแล้วนะ ดังนั้น
-
เวลาเราอ่าน story อะไรอย่างนี้
-
เราก็สามารถอ่านได้อย่างง่ายดายเข้าใจนะ
-
สำหรับใครที่
-
อาจจะไม่ถนัดภาษาอังกฤษอะไรเท่าไหร่นะ
-
คือเรื่องราวในนี้มันจะเป็นเรื่องราวที่
-
เหมือนกับว่าเขาบิดมาจากประวัติศาสตร์นิดนึงแต่ว่า
-
ถามว่าตัวละครมีตัวตนจริงไหมอะไรอย่างนี้ก็จะ
-
มีตัวตนจริง
-
แต่ละตัวเราสามารถ
-
ไปเสิร์ชอ่านประวัติอะไรได้หมดเลยนะคะ
-
นี่นะคะ เราก็จะใช้
-
เทคนิคคล้ายๆโนบุนากะนะ คือใช้ทหารน้อยแต่ว่า
-
เราต้องไม่ให้ศัตรูได้เปรียบเวลาเข้าโจมตี
-
เห็นปะ เห็นปะ มันจะมีความแบบวางแผนอะไรต่างๆ
-
ฝนจะอำพรางการเดินทัพ
-
นี่คือเทคนิคที่โอดะ โนบุนากะใช้ จำได้ใช่ไหมคะ
-
ที่แบบ 2,000 คนต่อสู้กับ 25,000 คนอะไรอย่างนี้
-
มันก็จะมีแบบ แผนต่างๆ
-
แล้วเห็นภาพของเกมนี้ไหมคะ
-
เขาใช้ภาพที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาพแบบอุกิโยะ
-
ของสมัยเอโดะนะคะ ดังนั้นมันก็จะมีความแบบ
-
กลิ่นอายญี่ปุ่นโบราณอะไรต่างๆ
-
เราเริ่มที่ปราสาทนาโงย่านะคะซึ่งเป็นปราสาทของ
-
โอดะ โนบุนากะ
-
ดังนั้นมันก็เหมือนกับว่าเราเป็นโอดะนี่แหละ
-
เราก็จะมีขุนพลของเราอยู่สามคน
-
เราเริ่มจากการ
-
ตีปราสาทโอกาซากิก่อนนะคะ
-
มันก็จะเป็นเกมวางแผนอะไรประมาณอย่างนี้แหละ
-
ลองเข้าไปเล่นกันดูนะทุกคน
-
เนี่ย ทุกปราสาทในสมัยนั้นก็จะเป็นอย่างนี้นะคะ
-
คือเป็นปราสาทเจ้าเมืองใช่ปะ
-
แล้วข้างในก็จะมีพวกบ้านคนอะไรต่างๆ
-
ซึ่งเป็นกองกำลังของปราสาทนั้นๆ
-
เราก็เลยต้องสร้างบ้านก่อนเพื่อให้เรามีแบบ
-
กองทัพอะไรอย่างนี้
-
มี เขาเรียกว่าไร
-
ชาวมงชาวเมืองที่สามารถเอามาใช้งานได้นะคะ
-
แล้วก็จะมีไร่นาที่เอาไว้เก็บสะสมเสบียงอะไรอย่างนี้ค่ะ
-
ก็จะเป็นจำลองมาจากสมัยนั้น
-
ตัวเกมนี่ก็จะเป็นเกมวางแผนต่อสู้นะคะอย่างที่เห็นในภาพ
-
ก็เป็นตอนที่กำลังบุกปราสาทอยู่นั่นเองค่ะ
-
เราก็สามารถรับสมัครขุนพลเพิ่มได้นะคะ
-
เราก็จะมาลุ้นกันว่าเราได้ใคร
-
นี่แหละเราก็จะเห็นอะไรที่มันเป็นแบบ
-
ประวัติศาสตร์มากมายอยู่ในนี้นะคะ
-
นี่แหละค่ะ เกมเพลย์ก็เป็นประมาณนี้นะ
-
ถ้าสมมติว่าใครรู้สึกว่า
-
เฮ้ย ฉันอยากจะยึดญี่ปุ่นทั้งประเทศมาเป็นของฉัน
-
ฉันจะรวบรวมทุกแคว้น
-
อยากลองสัมผัสความรู้สึกแบบนั้น
-
อยากลองเล่นเกมวางแผนการรบสนุกๆ
-
ที่มีภาพสวยๆก็
-
ลองโหลดมาเล่นกันได้ค่ะ
-
สำหรับวันนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืม
-
กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็
-
กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันนะคะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ
-
ทุกคน วิวใส่ลิงก์ดาวน์โหลดไว้ให้ข้างล่างแล้วนะคะ
-
อย่าลืมไปลองโหลดกันมาเล่นดูได้
-
เล่าเสียงแหบขนาดนี้เพราะว่า
-
เรื่องนี้มันส์มากจริงๆแล้วมันแซ่บมากจริงๆค่ะ
-
เอาจริงๆนี่ตัดทิ้งไปเยอะมากแล้วนะยังได้แค่นี้เอง
-
ส่วนใครที่อยากหาอ่านเพิ่มนะคะก็
-
อ้างอิงของวิวอยู่ด้านล่างแล้ว
-
ลองไปดูกันได้ค่ะ วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ