สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ อยู่บ้านกันมาอย่างยาวนาน และหลายๆคนก็น่าจะเริ่มออกไป ใช้ชีวิตนอกบ้านกันแล้วใช่ไหมคะ ส่วนตัววิวเนี่ยก็ยังไม่ค่อย ได้ไปใช้ชีวิตนอกบ้านเท่าไหร่หรอกค่ะ อยู่บ้านอย่างต่อเนื่องอะนะ ก็หยุดเชื้อด้วยแหละ แต่สาเหตุอีกสาเหตุนึงนะคะ นั่นก็คือ ติดเกมนั่นเองค่ะ มันมีคนส่งเกมมาให้วิวลองเล่นนะคะ และมันก็ทำให้วิวรู้สึกว่า เฮ้ย เกมนี้สนุกมาก แล้ววิวก็ติดมากนะคะ ทุกอย่างในเกมเนี่ยมันช่างเข้ากับวิวไปหมดเลยค่ะทุกคน ดังนั้นนะคะเพื่อให้สัปดาห์นี้ เรายังมีคลิปวิดีโอออนกันอยู่ วิวก็เลยขออนุญาตเอาเรื่องราวของเกมนี้ มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ เห็นจากชื่อคลิปด้านล่างแล้วไหมคะ เกมนี้นะคะก็คือเกม Sengoku Fubu นะคะ ซึ่งเป็นเรื่องของศึกซามูไรกลางเมือง หรือจริงๆเอาแบบแปลให้เข้าใจง่ายๆนะคะ เป็นยุคที่มีซามูไร ไดเมียว โชกุน นินจา อะไรต่างๆ ออกมาซัดกันนัวนะคะ เพื่อที่จะรวบรวมประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในยุคที่ เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น และญี่ปุ่นแตกเป็นก๊กเหล่าต่างๆค่ะ เอาจริงๆ ช่วงประวัติศาสตร์ยุคนี้เป็นยุคที่ มันส์อันดับต้นๆของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยนะคะ ดังนั้นนะคะ เมื่อวิวอิงเข้าไปกับเกม วิวก็เลยคิดว่าวิวควรจะไปหาข้อมูลเพิ่ม อ่านเพิ่มอะไร เพื่อให้วิวแม่นประวัติศาสตร์ยุคนี้มากขึ้นแล้วก็ เอามาเล่าให้ทุกคนฟังดีกว่าค่ะ ซึ่งบอกเลยนะสาเหตุที่ติดเกมเนี่ย นอกจากเรื่องราวมันจะสนุกแล้วนะคะ ภาพมันยังสวยอีกด้วยทุกคนเพราะว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพสไตล์อุกิโยะค่ะ จริงๆภาพสไตล์อุกิโยะของญี่ปุ่นเนี่ย เกิดขึ้นในยุคสมัยเอโดะซึ่งเป็นยุคหลังเซ็นโงคุค่ะ ก็คือต่อกันเลยอะ คือ story ก็อิงประวัติศาสตร์ ภาพก็สวย แถมสไตล์เกมนะคะยังเป็นสไตล์เกมวางแผนแบบ ให้เราวางแผนรบอะไรต่างๆ เหมือนกับว่าเราเป็นเหมือนแบบไดเมียวแคว้นนึง ที่พยายามจะรวบรวมญี่ปุ่น แข่งกับไดเมียวชื่อดังต่างๆนะคะ เรียกได้ว่าเล่นแล้วเนี่ย เหมือนเราจะเข้าไปอยู่ในยุคเซ็นโงคุจริงๆเลยทีเดียวนะ ต่างกันนิดหน่อยก็คือ ในเกมเนี่ย สาวๆหนุ่มๆเขาจะหน้าตาดีนิดนึง แต่งตัวน่ารัก แต่งตัวเท่ แต่งตัวหล่อนะคะ ดังนั้นพอเล่นแล้วมันก็เลยเพลินมากๆค่ะ แต่ก่อนที่วิวจะป้ายยาทุกคนไปมากกว่านี้นะคะ แล้วก่อนที่คนที่ไม่รู้จักยุคเซ็นโงคุเลยจะงงเนี่ยนะ วิวขออนุญาตเข้าเรื่องไปเล่าเรื่องยุคเซ็นโงคุ ให้ทุกคนฟังก่อนดีกว่าค่ะว่า ในยุคเซ็นโงคุมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงแตกแยก ทำไมต้องมีคนขึ้นมารวมประเทศ แล้วยุคนี้มันสำคัญยังไง ซัดนัวยังไง สนุกยังไงแบบที่วิวบอกนะคะ ถ้าพร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระกันแล้วก็เข้าไปฟังเลยค่ะ ถึงชื่อคลิปของวิวนะคะจะบอกว่า เซ็นโงคุคือสงครามซามูไร แต่จริงๆแล้วเซ็นโงคุคือ สงครามกลางเมืองของญี่ปุ่นนะคะ ที่เกิดจากความวุ่นวายของการแตกแยกอำนาจอะไรต่างๆ และสุดท้ายก็จบลงด้วย ยุคที่ญี่ปุ่นเนี่ยรวมเป็นหนึ่งนั่นเองค่ะ อารมณ์คล้ายๆสามก๊กของจีนน่ะนะ ทีนี้ขอบอกว่าเซ็นโงคุเนี่ยเป็นสงครามที่ ค่อนข้างยาวนานมากๆนะคะ ดังนั้นวิวไม่สามารถเล่าลงรายละเอียด ทุกศึก ทุกสงครามได้ ขออนุญาตเล่าเป็น outline คร่าวๆให้ฟังดีกว่าค่ะ ว่าเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรขึ้นบ้าง และสงครามนี้เริ่มต้นยังไง จบยังไง ประมาณนี้นะคะ ส่วนเรื่องรายละเอียดยิบย่อยเนี่ย ถ้ามีโอกาสพาไปเที่ยวที่ต่างๆ หรือว่ามีโอกาสหยิบขึ้นมาเล่า เดี๋ยวจะหยิบทีละศึกขึ้นมาเล่าให้ฟังดีกว่าค่ะ สงครามเซ็นโงคุมันอยู่ระหว่างกลางระหว่างสองยุคค่ะ นั่นก็คือยุคมุโรมาจิกับยุคเอโดะนั่นเองค่ะ บางทีก็มีชื่อยุคอะไรสั้นๆคั่นนิดหน่อยนะ เช่น อาซูจิ-โมโมยามะ ใช่ มันชื่อนั้นแหละทุกคน ดังนั้นข้ามมันไปนะคะ ถามว่าสงครามเซ็นโงคุเนี่ยมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ต้องบอกว่าเราต้องพูดถึง ตำแหน่งสำคัญทั้งหมดสามตำแหน่งค่ะ ตำแหน่งแรกก็คือ ตำแหน่งจักรพรรดินั่นเอง จักรพรรดินี่คือกษัตริย์ใช่ไหมคะ เป็นกษัตริย์ที่ปกครองประเทศญี่ปุ่น ไล่มาตั้งแต่สมัยโบราณ สืบเชื้อสายมาจากเทพอามาเตราซุอะไรต่างๆ ปัญหาของตำแหน่งจักรพรรดิก็คือบางครั้งเนี่ย เวลาที่บ้านเมืองมันสงบร่มเย็นร่มรื่นมากเกินไปเนี่ยนะคะ ไม่มีการศึก ไม่มีการสงคราม จักรพรรดิก็ชิลค่ะ เสพศิลปะอะไรต่างๆ ทำให้อำนาจทางการปกครองของจักรพรรดินะคะ ตกไปอยู่ในมือของขุนนางแทน บางทีขุนนางก็เข้ามายึดอำนาจ ฉันบริหารเอง เช่น ตระกูลฟูจิวาระ ตระกูลมินาโมโตะ ในสมัยเฮอัน ในสมัยคามากูระ พออำนาจมันหลุดจากมือจักรพรรดิมากๆ สุดท้ายเนี่ยนะคะ ขุนนางก็เลยเหมือนตั้งตำแหน่งตัวเองขึ้นมาเป็น โชกุนนั่นเอง โชกุนนี่เหมือนเป็นผู้ถืออำนาจทางการทหาร และในบางยุคก็ถืออำนาจทางการปกครองด้วยนะคะ จักรพรรดิก็ยังมีอยู่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ประมาณนั้น แต่ว่าอำนาจทางการปกครองจริงๆเนี่ย ไปอยู่ที่โชกุนค่ะ ถ้าให้นึกภาพง่ายๆ ให้นึกภาพสามก๊ก สามก๊กกับเซ็นโงคุนี่ใกล้กันมากนะ คือประเทศแตกแยกอะไรต่างๆ จำได้ไหมในสามก๊กใครกุมอำนาจ จักรพรรดินั่งอยู่เฉยๆ ไม่มีอำนาจปกครองใดๆ คนที่คุมการทหาร คนที่บริหารประเทศ ก็คือโจโฉ โชกุนก็จะอารมณ์คล้ายๆโจโฉประมาณนี้ค่ะ สุดท้ายคือตำแหน่งไดเมียวที่ได้อำนาจมาจากโชกุน ให้ปกครองหัวเมืองต่างๆอีกทีค่ะ ซึ่งบางจังหวะบางโอกาสเนี่ย โชกุนก็จะชิลเสียการเสียงานนะคะ จนไดเมียวเนี่ยมีอำนาจมากกว่าโชกุนเหมือนกันค่ะ เรื่องราวทั้งหมดของยุคเซ็นโงคุเนี่ยนะคะ เกิดขึ้นในปลายสมัยมุโรมาจิค่ะ สมัยนั้นจักรพรรดิเป็นหุ่นเชิด ไม่มีอำนาจนะคะ โดยมีโชกุนตระกูลอาชิกางะกุมอำนาจค่ะ แต่ว่าโชกุนก็ดันไม่สนใจบ้านเมือง เพราะว่าช่วงนั้นเนี่ยกำลังหลงใหลพิธีชงชา ซึ่งเป็นศาสตร์ชั้นสูงของซามูไรนะคะ สุดท้ายก็เลยเสื่อมอำนาจลงค่ะ เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเซ็นโงคุที่ยาวนานถึง 148 ปีตั้งแต่ปีค.ศ. 1477-1615 นะคะ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นมีศึกเล็กๆศึกนึง ที่เป็นตัวจุดประกายค่ะ นั่นก็คือสงครามโอนินนั่นเอง คือในปีค.ศ. 1467 เนี่ยนะคะ รัฐบาลของโชกุนอาชิกางะเนี่ยมีปัญหา ในขณะเดียวกันช่วงนั้นไดเมียวก็ดันกำลังเดือดอยู่ เพราะว่าเอ้ ไอ้โชกุนก็ไม่ปกครองบ้านเมืองเลย ฉันก็อยากมีอำนาจเหมือนกัน ที่สำคัญนะคะ ถึงจะแบ่งอำนาจให้ไดเมียวต่างๆ แต่โชกุนเนี่ยเขาก็ยังมีไม้ตายอยู่ วิธีที่จะทำให้เหล่าไดเมียวต่างๆเนี่ย ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเค้านะคะ นั่นก็คือการจับลูกกับเมียของไดเมียวต่างๆเนี่ย มาไว้ที่เมืองหลวงค่ะประมาณว่า ไดเมียวทุกคนเนี่ยจะต้องมีสองบ้านนะคะ บ้านแรกก็คือบ้านที่เมืองของตัวเอง ที่ตัวเองปกครองใช่ไหม ส่วนอีกบ้านก็คือบ้านในเมืองหลวง แล้วก็เอาลูกกับเมียมาไว้ที่เมืองหลวง นานน๊านจะมาเยี่ยมได้ทีค่ะ ก็เหมือนกับเป็นตัวประกันว่า ถ้าใครก่อกบฏนะ ลูกเมียแกตายนะ ไดเมียวก็เริ่มรู้สึกว่าระบบนี้มันไม่โอเค ฉันเดือดแล้ว ดังนั้นก็เลยเกิดการลุกฮือกันขึ้นมาค่ะ โชกุนเนี่ยนะคะก็เลยพยายามเพิ่มกำลังทหารค่ะ ว่าแบบฉันต้องใช้กำลังทหารของตัวเองเยอะๆ เพื่อที่จะปราบกบฏ แต่ปัญหาก็คือการจะใช้ทหารแปลว่า คุณต้องมีเงินนะคะ แล้วถามว่ารัฐบาลโชกุนมีเงินไหม บอกเลยว่าไม่มีค่ะ ถังแตก เพราะว่ายุคนั้นเนี่ยนะคะ รัฐบาลมีโครงสร้างที่ใหญ่เกินไป ต้องจ่ายเงินเดือนมากเกินไปอะไรต่างๆ พอไม่มีเงินถามว่าโยชิมาซะพยายามทำยังไง โยชิมาซะพยายามจะแก้ไขค่ะ ด้วยการเรียกภาษีเพิ่มจากพวกชาวนาชาวบ้านต่างๆนะคะ ซึ่งถามว่าการเรียกภาษีเพิ่มมันช่วยไหม ก็บอกเลยว่าไม่ช่วยค่ะ เพราะว่านอกจากชาวบ้านจะต้อง จ่ายภาษีให้กับโชกุนแล้วเนี่ย เหล่าไดเมียวอะไรต่างๆ ผู้มีอิทธิพลตามพื้นที่ต่างๆ เขาก็เรียกภาษีจากชาวบ้านเหมือนกัน ดังนั้นชาวบ้านก็รู้สึกว่า ไม่ ฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ชาวบ้านนะคะก็เลยลุกฮือกันขึ้นมาอีกกลุ่มนึงค่ะ กลายเป็นกองกำลังนะคะชื่อว่ากองกำลังอิกกิ ซึ่งกลุ่มนี้จะแตกต่างจากพวกกลุ่มไดเมียวต่างๆ ก็คือพวกไดเมียวเนี่ย ถามว่าเขารบกันทำไม เขารบกันเพราะว่าฉันอยากมีอำนาจ ฉันอยากขึ้นปกครองแทนโชกุนอะไรต่างๆใช่ไหม แต่กองกำลังอิกกิเนี่ยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ฉันสนอย่างเดียวคือฉันจะปล้นมันให้ยับ เพราะว่าฉันจะเอาอาหารมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองค่ะ แล้วถามว่าโชกุนเนี่ยไปขูดรีดภาษีประชาชน จนแบบประชาชนลุกขึ้นมาขนาดนี้แล้ว เงินพอรึยัง ก็ต้องบอกว่ายังไม่พอค่ะ ดังนั้นนะคะโชกุนก็เลยพยายามจะค้าขายกับต่างชาติค่ะ ได้แก่ เกาหลีกับจีนนะ ซึ่งพอมันมีการค้าขาย มีการเดินเรือเนี่ย มันก็ต้องมีการคุ้มครองเรืออะไรอย่างนี้ใช่ไหม ก็ไปเพิ่มอำนาจให้กับพวกเจ้าเมืองต่างๆ หรือว่าชูโกนะคะ ชูโกนี่เหมือนกับว่าเป็นตำแหน่ง ผู้ปกครองเมืองที่ใหญ่ขึ้นไปอีกระดับนึงอะนะ พวกนี้ก็ต้องมีกองกำลังทหารของตัวเอง เพื่อไปปกป้องเรือที่ไปค้าขายอะไรต่างๆใช่ไหม ดังนั้นแทนที่จะไปลดอำนาจเขาเนี่ย ก็เลยเหมือนกับไปเพิ่มอำนาจให้กับเขาซะอย่างนั้นเลย ทีนี้นะคะถ้าทุกคนยังรู้สึกว่ามันซัดกันนัวไม่พอ บอกเลยว่ายุคนี้มีกองกำลังอีกกลุ่มนึงที่เกิดขึ้นมาค่ะ นั่นก็คือกองกำลังที่ชื่อว่าอิกโกนั่นเอง กองกำลังนี้นะคะก็คือกองกำลังของพระ ในพุทธศาสนานิกายเท็นไดนะคะ ที่เป็นพระสายแบบฝึกวิทยายุทธอะไรต่างๆค่ะ แล้วพอฝึกๆขึ้นมาเนี่ย พระกลุ่มนี้ถือคติประมาณว่า ถ้าชาวบ้านเดือดร้อน ฉันต้องลงไปช่วย ถ้าผู้ปกครองมันลงมาขูดรีดชาวบ้าน ฉันจะต้องออกไปใช้กำลังช่วยชาวบ้านอะไรอย่างนี้นะคะ ก็เลยตั้งขึ้นมาเป็นกองกำลังแบบพระศักดิ์สิทธิ์ ชื่อว่ากองกำลังอิกโกค่ะ เดี๋ยวต่อไปเนี่ยกองกำลังอิกโกกับอิกกิมันจะรวมกันนะคะ กลายเป็นกองกำลังอิกโก-อิกกิ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกองกำลังอิสระที่ มีพลังค่อนข้างมากเลยทีเดียวนะคะ สิบปีผ่านไปสงครามโอนินจบนะคะ ถึงสงครามโอนินจะจบเนี่ย แต่ตอนนั้นญี่ปุ่นเละเป็นโจ๊กไปแล้วเรียบร้อยค่ะ กองกำลังต่างๆลุกขึ้นมาต่อสู้กันวุ่นวายไปหมดนะคะ แล้วก็สู้กันเป็นระยะเวลายาวนานหลายปีเลยทีเดียว จากปีค.ศ. 1477 ที่สงครามโอนินจบเนี่ยนะคะ คนก็ยังสู้กันมาเรื่อยๆ แย่งอำนาจกันมาเรื่อยๆค่ะ จนกระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนจุดนึงนะคะ เมื่อปีค.ศ. 1543 ค่ะ ตอนนั้นเนี่ยมีประเทศนึงเข้ามา นั่นก็คือประเทศ โปรตุเกสนั่นเอง และสิ่งที่โปรตุเกสนำมาด้วยนะคะก็คือปืนไฟค่ะ ดังนั้นซามูไรในยุคนั้นเนี่ย ไม่ได้สู้กันแค่ใช้ดาบใช้อะไรแล้วนะ เริ่มมีปืนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วค่ะ มันก็เลยเละเป็นโจ๊กหนักกว่าเดิมนะคะ วิวขออนุญาตข้ามศึกสงครามทั้งหมดในยุคนี้ไปนะ ขอโฟกัสที่คนสามคน ที่กำลังจะมีบทบาทมากๆกับยุคนี้ค่ะ คนแรกก็คือโอดะ โนบุนากะ นะคะ โอดะ โนบุนากะเนี่ยเป็นเด็กหนุ่มจากตระกูลโอดะค่ะ ซึ่งคุมอยู่บริเวณโอวาริอะนะ ในตอนหนุ่มๆเนี่ยนะคะ เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนแปลกค่ะ คือเป็นคนที่ถึงขนาดว่าแบบ แต่งตัวหลุดกรอบอะไรคือแบบ ไม่ทำอะไรตามกรอบว่าอย่างนั้นเถอะ ถึงขนาดที่ว่าเขาได้ฉายานะคะว่า The fool of Owari หรือว่า ไอ้โง่แห่งโอวาริเลยทีเดียวนะ แต่จริงๆเขาเป็นคนฉลาดนะคะ แล้วพ่อเขาเนี่ยก็เล็งเห็นความสามารถของเขาค่ะ ก็เลยไว้ใจให้เขาปกครองปราสาทปราสาทนึงนะคะ ในแคว้นโอวาริ นั่นก็คือปราสาทนาโงย่านั่นเอง คือเหมือนทุกคนที่เป็นคนใหญ่คนโต ก็จะมีปราสาทของตัวเองอะนะ นี่คือสาเหตุที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่น มีปราสาทอยู่เต็มไปหมดทุกเมืองเลยประมาณนั้นค่ะ นอกจากนี้นะคะเขายังมีฐานอำนาจแข็งแกร่งขึ้นอีก ด้วยการแต่งงานทางการเมืองกับอีกตระกูลนึง ซึ่งร่ำรวยมากๆ ทำให้ฐานอำนาจเขาแน่นขึ้น เท่านั้นยังไม่พอนะคะ ตอนที่พ่อเขาตายเนี่ย เขาก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนถัดไป ถึงขนาดที่ว่าเขาเนี่ย ฆ่าน้องชายตัวเองทิ้งไปเลยนะ ดังนั้นจากเดิมที่เป็นเจ้าโง่เง่าแห่งโอวาริเนี่ย ก็กลายเป็นแบบคนที่เขาลือขานกันว่า เฮ้ย ไอ้นี่น่ากลัวเว้ยเฮ้ย ประมาณนั้นเลย คนถัดไปนะคะที่เราควรจะรู้จักนั่นก็คือ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ นั่นเองค่ะ คนนี้เป็นเหมือนนายทหารขุนพลคนสนิท ของโนบุนากะนะคะ ซึ่งก็จะเป็นคนที่สืบสานเจตนารมณ์ของโนบุนากะต่อไปค่ะ และคนสุดท้าย คนนี้สำคัญที่สุดเลยนะ นั่นก็คือ โทกุกาวะ อิเอยาซุ ค่ะ คนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งขุนพลของโนบุนากะนะคะ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต แต่ก่อนอื่นเราไปดูเรื่องราวก่อนที่สามคนนี้ จะออกมาโลดแล่นในยุทธจักรของญี่ปุ่นกันดีกว่านะคะ คือตอนนั้นเนี่ยต้องบอกว่าญี่ปุ่นเนี่ย แตกยับไปแล้วใช่ไหม อย่างที่วิวเล่า ทุกคนพยายามยื้อแย่งอำนาจต่างๆนานา ทุกคนพยายามจะฮุบเมืองคนอื่น เพื่อเพิ่มขุมกำลังให้กับตัวเองค่ะ ตอนนี้เรากำลังจะพูดถึงตระกูลนึงค่ะ ซึ่งขึ้นมามีอำนาจในยุคนั้น นั่นก็คือ ตระกูลอิมากาวะ นั่นเอง ทีนี้ตระกูลอิมากาวะก็พยายามจะยึดเมืองอื่น เมืองอื่น เมืองอื่น มากมายเต็มไปหมดค่ะ ปรากฏว่ามีเมืองนึงนะคะที่เขาตั้งใจจะยึด เมืองนั้นก็คือเมืองโอวารินั่นเองค่ะ จำชื่อได้ไหม คุ้นๆ เจ้าโง่แห่งโอวาริ ใช่ค่ะ นี่คือเมืองของโอดะ โนบุนากะนะคะ ซึ่งตอนนี้ขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแล้วเรียบร้อย แต่ต้องบอกว่าอิมากาวะเนี่ยมีขุมกำลังที่แบบ เยอะกว่าโนบุนากะหลายเท่าเลยนะคะ จนกระทั่งครั้งนึงค่ะในปีค.ศ. 1560 เนี่ยนะคะ อิมากาวะขนทหารมาทั้งหมด 25,000 คนค่ะ ในขณะที่จุดยุทธศาสตร์ที่โนบุนากะตั้งอยู่เนี่ย มีคนแค่ประมาณ 2,000 คนเท่านั้นนะ แต่โนบุนากะนะคะสามารถใช้คนแค่ 2,000 คน เอาชนะอิมากาวะค่ะ ด้วยการแบบแอบลอบไปฆ่าตอนกลางคืน บุกไปกลางสายฝนอะไรต่างๆแล้วก็ ใช้อุบายว่าคนน้อยกว่าเดินทัพง่ายกว่าประมาณนี้นะคะ จากเหตุการณ์นี้ทำให้โนบุนากะสามารถ ฆ่าผู้นำตระกูลอิมากาวะได้สำเร็จค่ะ และทำให้โนบุนากะเนี่ยเนื้อหอมมากๆเลยนะ จักรพรรดินี่ก็รีบส่งจดหมายมาหาโนบุนากะเลยบอกว่า เฮ้ย มาช่วยเราไหม เราอยากฟื้นกำลังจักรพรรดิขึ้นมา รวมถึงโชกุนตอนนั้นนะคะ ที่เหมือนจะสูญเสียอำนาจไประดับนึงเนี่ย ก็พยายามส่งจดหมายมาหาโนบุนากะเหมือนกันค่ะ แต่ว่าก็ โนบุนากะตอนแรกจะไปช่วยโชกุนน่ะนะ แต่ว่าโชกุนดันตายซะก่อน ดังนั้นโนบุนากะก็เลยไม่ได้ไปช่วยค่ะ อย่างไรก็ตามนะคะ จากเหตุการณ์นี้นะคะ โนบุนากะก็ได้เจรจาเป็นพันธมิตรกับอีกคนนึงค่ะ คนคนนั้นก็คือโทกุกาวะ อิเอยาซุ นะคะ ซึ่งจะกลายมาเป็นขุนพลคนสำคัญมากๆของโนบุนากะ หลังจากเหตุการณ์นั้นค่ะ โนบุนากะก็ค่อยๆสั่งสมกำลังอำนาจของตัวเองมาเรื่อยๆ คือไม่ใช่ว่าโนบุนากะโดนรังแกฝ่ายเดียว นึกออกปะ ในระหว่างที่โดนรังแก ตัวเองก็อยากยึดเมืองอื่นเหมือนกัน ดังนั้นโนบุนากะก็เลยไล่เก็บ เก็บ เก็บ เมืองนั้นเมืองนี้มากมายนะคะ โดยเฉพาะช่วงปีค.ศ. 1564-1567 ค่ะ โนบุนากะเนี่ยสามารถยึดแคว้นใหญ่มากๆ ได้แคว้นนึงนะคะนั่นก็คือ แคว้นมิโนะ นั่นเอง และจากศึกการยึดแคว้นมิโนะครั้งนี้ มันก็สร้างชื่อให้กับขุนพลคนนึงของโนบุนากะหนักมากค่ะ คนคนนั้นก็คือโทโยโทมิ ฮิเดโยชินะคะ ซึ่งเขาอะจริงๆพื้นเพมาจากแค่ชาวนาเท่านั้นแหละ แต่ด้วยฝีมือด้วยอะไรต่างๆ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นตำแหน่งใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆค่ะ ฮิเดโยชินี่มีความสามารถพิเศษนะคะ ในการเกลี้ยกล่อมคน คือนอกจากจะรบเก่งแล้วก็ยังเกลี้ยกล่อมเก่งอีกค่ะ ดังนั้นเขาก็เลยสามารถแบบเกลี้ยกล่อมหาพันธมิตร เจรจาสงบศึกอะไรต่างๆ เสริมสร้างฐานกำลังของตัวเอง ขึ้นมาได้ใหญ่มากๆเลยนะคะ ตอนนี้เราตัดภาพจากแก๊งโนบุนากะ เข้าไปที่เมืองหลวงดีกว่าค่ะ แน่นอนว่าโชกุนตระกูลอาชิกางะเนี่ย ปกครองกันมาหลายต่อหลายรุ่นค่ะ แต่ว่า ไม่มีอำนาจที่แท้จริงมานานแล้วอะนะ ในปีค.ศ. 1565 ค่ะ มีโชกุนคนนึงของตระกูลอาชิกางะเนี่ย ขึ้นมาปกครองแล้วก็รู้สึกว่า ทำไมฉันต้องยอมแบ่งอำนาจให้พวกมันด้วย ก็เลยพยายามรวบรวมกำลังทหารของตัวเองนะคะ แน่นอนว่าคนที่มีอำนาจที่แท้จริง เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกว่า เฮ้ย ไม่โอเค ฉันจะปล่อยให้มันผงาดขึ้นมาอีกรอบไม่ได้ ดังนั้นเขาก็เลยจับโชกุนคนนั้นเนี่ยฆ่าทิ้งค่ะแล้วก็ ตั้งลูกชายนะคะซึ่งอายุแค่ห้าขวบ ขึ้นมาเป็นโชกุนคนใหม่ค่ะ โชกุนคนเก่าเนี่ยทิ้งไว้สิ่งนึงค่ะ นั่นก็คือน้องชายนะคะชื่อว่า อาชิกางะ โยชิอากิ ค่ะ อย่างไรก็ตามค่ะ หลังจากที่หลานของตัวเองปกครองอยู่ไม่นานนะคะ เด็กห้าขวบก็ตายจากไปซะอย่างนั้นเลย ดังนั้นนะคะโยชิอากิก็รู้สึกว่า ฉันจะต้องขึ้นมาปกครองต่อ ตามตำแหน่งลำดับทายาทอะไรอย่างนี้นะ แต่ว่าตัวเองก็ไม่มีอำนาจ ไม่มีอะไรทั้งสิ้นอยู่ในมือ จะทำยังไงดีที่จะไปสู้กับขุมกำลังแก๊งเก่านะคะ บังเอิญว่าตอนนั้นเนี่ย ในประเทศมีแก๊งนึงที่กำลังแบบ เถลิงอำนาจใหญ่โตนะคะนั่นก็คือ แก๊งของโนบุนากะนั่นเอง อาชิกางะ โยชิอากะนะคะก็เลยเหมือน ส่งจดหมายไปหาโนบุนากะค่ะบอกว่า เฮ้ย โอดะ โนบุนากะ เราเนี่ยเป็นว่าที่แคนดิเดตโชกุนนะ นายสนใจมาช่วยให้เราขึ้นเป็นโชกุนไหม มาช่วยกำจัดคนชั่วที่ครอบงำตำแหน่งโชกุนกันเถอะ ซึ่งโนบุนากะนะคะก็ตอบรับค่ะ แล้วก็ยกพลนะคะเข้ามาเมืองหลวงเต็มไปหมด แล้วก็กำจัดขุมกำลังเก่าออกไปทิ้งเรียบเลยค่ะ เรียกได้ว่าล้างบางนะคะ แล้วก็ตั้งอาชิกางะ โยชิอากิเนี่ยขึ้นเป็น โชกุนคนถัดไปของตระกูลอาชิกางะค่ะ แต่ถามว่าโยชิอากินี่มีอำนาจไหม ก็ต้องบอกว่าไม่มี เพราะว่าอะไร เพราะว่าถึงจะเอาคนเก่าออกไปแล้ว แต่ว่าคุณเอาคนมีอำนาจคนใหม่เข้ามาไง นั่นก็คือโนบุนากะนั่นเองนะคะ จากเหตุการณ์นี้นะคะ โนบุนากะได้อะไรไปหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง ได้เป็นคนควบคุมโชกุน เพราะว่าถือว่าฉันเป็นผู้ช่วยชีวิตโชกุน ฉันเป็นผู้ช่วยเหลือโชกุนจากคนร้าย ก็เลยได้ตำแหน่งไนไดจินไปนะคะ ซึ่งเป็นตำแหน่งแบบผู้พิทักษ์โชกุน นอกจากนี้พอเข้ามาอยู่เมืองหลวง ได้มาอยู่กับชนชั้นสูงอะไรต่างๆ ก็ได้เส้นสาย ได้กำลังทหาร เรียกได้ว่าได้อะไรไปหลายต่อหลายอย่างมากๆค่ะ และจากเหตุการณ์นี้นะคะ ก็ทำให้เหล่าไดเมียวทั่วประเทศรู้สึกว่าแบบ ทำไมอะ ทำไมอยู่ดีๆฉันจะต้องไปยอมรับโนบุนากะ ฉันไม่ยอมอะ ก่อให้เกิดเป็นขบวนการต่อต้านโนบุนากะซะอย่างนั้นเลยนะ รวมถึงกลุ่มนึงด้วยนะคะ ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านโนบุนากะเหมือนกัน นั่นก็คือกลุ่มอิกโก-อิกกิ จำได้ใช่ไหมที่วิวบอกว่า เป็นกลุ่มชาวบ้านกับกลุ่มพระนะคะ ก็ไปมีพวกไดเมียวแคว้นนั้นแคว้นนี้เนี่ย ไปเรียกอิกโก-อิกกิมารวมกับตัวเอง แล้วก็บอกว่ามาร่วมกันต่อต้านโนบุนากะกันเถอะ แน่นอนว่าโนบุนากะก็จะต้องพยายามปราบ ทุกแก๊งที่ต่อต้านตัวเองใช่ไหม รวมถึงแก๊งอิกโก-อิกกินี่ด้วย และแก๊งอิกโก-อิกกินี่รบเก่ง ถึงขนาดที่หลายครั้งโนบุนากะนี่รุ่งริ่งเลยนะคะ มีครั้งนึงโอดะ โนบุนากะเนี่ยนะคะ แพ้อิกโก-อิกกิถึงขนาดที่แบบเกือบเอาชีวิตไม่รอดเลยนะ แล้วก็มีหลายๆศึกที่แบบเสียทหารเรียบอะไรอย่างนี้ ดังนั้นโนบุนากะก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้การละ ฉันจะต้องแก้แค้นไอ้แก๊งอิกโก-อิกกินี่ให้ได้ โนบุนากะเนี่ยนะคะตั้งใจถอนรากถอนโคน แก๊งอิกโก-อิกกิโดยเฉพาะพวกพระเนี่ยนะ ถึงขนาดที่ว่าในปีค.ศ. 1571 เนี่ยนะคะ คือตอนนั้นมันมีวัดสองวัดที่เป็นวัดสำคัญของสองแก๊งนี้ วัดนึงในนั้นนะคะก็คือวัดเอ็นเรียคุ ที่อยู่ที่ภูเขาฮิเอค่ะ โนบุนากะเนี่ยนะคะเพิ่งจะแพ้แก๊งพระนี้ไปครั้งนึง ศึกใหญ่มากที่นากาชิม่าค่ะ ก็เลยส่งพลนะคะไปเยอะมากๆๆๆ ไปล้อมภูเขาฮิเอที่เป็นตั้งของวัดเอ็นเรียคุนะคะ แล้วก็สั่งว่านี่ล่ะคือขุมกำลังของอิกโก-อิกกิ ใครก็ตามที่อยู่บนภูเขานี้ ฆ่าทิ้งให้หมดไม่ต้องเว้นนะคะ ทำให้วันนั้นนะคะกองทัพของโนบุนากะก็เลย เผาทำลายวัดแล้วแบบฆ่าคนเรียบไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้หญิง สตรีมีครรภ์ คนชรา พระ อะไรเรียกได้ว่า ไม่รอดชีวิตแม้แต่คนเดียวค่ะ จากเหตุการณ์วันนั้นนะคะมีบันทึกว่า คนตายไปถึงประมาณ 4,000 คนเลยทีเดียว และแน่นอนว่า ก็ทำให้คนต่อต้านโนบุนากะหนักขึ้นมากเลยค่ะ เพราะว่าคนนับถือศาสนาพุทธอะไรต่างๆก็รับไม่ได้นะคะ ที่โนบุนากะเนี่ยเผาวัดแล้วก็ฆ่าพระค่ะ นอกจากนี้นะคะ โนบุนากะก็เลยได้ฉายาว่าเป็นแบบ จอมมารฟ้า เป็นแบบจอมมารของประเทศนี้ไปแล้วเรียบร้อยนะ คือคนเนี่ยเกลียดมากๆ รู้สึกว่าไอ้นี้โหดเหี้ยม ไอ้นี่โหดร้ายนะคะ และหนึ่งในคนที่ต่อต้านโนบุนากะหนักมากๆนะคะ นั่นก็คือไดเมียวของตระกูลทาเคดะ ชื่อชินเง็นนั่นเอง ซึ่งชินเง็นเนี่ยก็ค่อนข้างจะศรัทธาในพุทธศาสนา ประกอบกับในปีค.ศ. 1573 เนี่ยนะคะ โชกุนคนเก่าไม่เข็ดค่ะ ตอนแรกไปเรียกโนบุนากะมาจัดการแก๊งเดิมใช่ไหม ตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าฉันอยากจัดการโนบุนากะจะตายอยู่แล้ว ก็เลยไปเรียกชินเง็นเนี่ยนะคะเข้ามาที่เมืองหลวง กะว่าจะให้มาจัดการโนบุนากะค่ะ ซึ่งชินเง็นเนี่ยนะคะถือว่าเป็นหนึ่งคนที่ ตามประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า โนบุนากะค่อนข้างจะกลัวเลยนะ เพราะรู้สึกว่าไอ้นี่รบเก่งจริงๆนะ ที่สำคัญนะคะ ชินเง็นนี่ก็ สู้รบกับโนบุนากะหลายต่อหลายศึก ในศึกนึงเนี่ยนะคะถึงขนาดที่ว่า โทกุกาวะ อิเอยาซุโดนโนบุนากะส่งไป ตัวเองใช้กองทัพปืนไฟ ส่วนชินเง็นเนี่ยไม่ค่อยได้เน้นปืนค่ะ เน้นเป็นทหารม้านะ แต่ว่าอิเอยาซุเนี่ยแพ้ชินเง็นแบบยับเลยนะคะ เพราะว่าชินเง็นเป็นคนที่ ค่อนข้างจะวางแผนการรบดีมากๆ แล้วก็วิเคราะห์จุดดี จุดอ่อน จุดเสียอะไรต่างๆ ถ้าสมมติไม่แน่ใจ ฉันจะไม่รบ เมื่อเห็นว่าโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ยเอากองทัพปืนไฟมา ตัวเองก็จัดกองทัพทหารม้าให้เป็นรูปปลาค่ะ พอเป็นรูปปลามันก็เหมือนมีพื้นที่ให้ยิงน้อยอะไรอย่างนี้ สุดท้ายกองทัพของโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ย แพ้ยับถึงขนาดที่ว่าโทกุกาวะ อิเอยาซุ แทบจะต้องควบม้าหนีแบบคนเดียวนะคะ กลับเข้าปราสาทเลยค่ะ แต่ในการศึกครั้งนี้เช่นเดียวกัน พอโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ยควบกลับปราสาทไป ก็ด้วยความที่เขาเป็นคนค่อนข้างฉลาดนะ เขาก็รู้ว่านิสัยชินเง็นเนี่ย ถ้าไม่ชัวร์จะไม่รบ แล้วฉันก็ไม่เหลือทหาร ไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าสมมติฉันไม่รอโนบุนากะมาเนี่ย ฉันซวยแน่ๆ ยังไงปราสาทนี้ก็แตก แต่มันแตกไม่ได้ เพราะถ้าปราสาทนี้แตกแล้วเนี่ยนะ ชินเง็นจะสามารถยกทัพเข้าไปหาโนบุนากะได้โดยตรงเลย ดังนั้นนะคะโทกุกาวะ อิเอยาซุก็เลย สั่งให้เปิดประตูปราสาททุกประตูเลยประมาณว่า อะ ในเมื่อเราป้องกันไม่ได้แล้ว เปิดเลยทุกคน เปิดๆๆ เปิดประตู เปิดๆๆๆ แล้วก็ตีกลองค่ะประมาณว่าแบบ มาเลย มาเลย ถามว่านิสัยชินเง็นรู้สึกยังไง นิสัยชินเง็นก็แบบ ทำไมมันถึงเปิดประตูหมดเลย แล้วทำไมมันถึงตีกลอง มันต้องมีกองทัพอีกเยอะมาก ซุ่มอยู่ในปราสาทแน่ๆเลย แทนที่จะบุกเลยนะคะก็เลยปักหลักต่อสู้ โทกุกาวะ อิเอยาซุก็เลยเหมือนกับว่ายื้อเวลาได้สำเร็จ ตัวเองมีคนน้อยกว่าใช่ไหม ก็ส่งพวกนินจาส่งอะไรเข้าไปก่อกวนชินเง็น จนแบบชินเง็นงงว่าอย่างนั้นเถอะ ชินเง็นก็เลยถอนทัพนะคะ ไปตีที่อื่นแทนประมาณว่าฉันไม่ไปทางนี้แล้วก็ได้ ฉันไปทางอื่นก็ได้นะคะ ศึกครั้งนี้นะคะถึงโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ย จะแพ้ยับในตอนแรกแต่ว่า เขาก็ได้ชื่อค่ะว่าเป็นคนที่วางแผนการรบเก่ง แล้วก็ได้ประสบการณ์การรบ จากศึกของชินเง็นไปเยอะมากนะคะ และแล้วในที่สุดค่ะ โชคก็เข้าข้างโนบุนากะอีกครั้งนึงนะคะ เพราะว่าแม้ว่าชินเง็นจะเก่งแค่ไหนอะไรยังไง แต่อยู่ดีๆชินเง็นก็ตายซะอย่างนั้น ตามประวัติศาสตร์ไม่ได้บันทึกนะว่าตายยังไง ตอนแรกๆก็บันทึกว่าป่วยตาย แต่บางคนก็บอกโดนวางยาพิษตายรึเปล่า บางครั้งก็บอกว่าครั้งนึงตอนสู้กับอิเอยาซุโดนยิง แล้วก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ตายในที่สุด อะไรอย่างนี้นะ อย่างไรก็ตาม ชินเง็นตายไปค่ะ แผนของโชกุนพังค่ะ คือโชกุนกะว่าเอาชินเง็นผสมอิกโก-อิกกิ ผสมกองนั้นแก๊งนี้ รวมกันขึ้นมา มาสู้กับโนบุนากะ ปรากฏว่าชินเง็นที่เป็นแก๊งใหญ่ ตาย อิกโก-อิกกิก็โดนเผาวัดเรียบไปหนึ่งวัดแล้ว เหลือแค่แบบกระจัดกระจายอยู่ที่วัดนั้นวัดนี้ คิดว่าโชกุนหยุดไหม บอกเลยว่าไม่หยุดค่ะ โชกุนรู้สึกว่า ไม่ได้ ฉันสู้แล้วต้องสู้ให้ถึงที่สุด ดังนั้นโชกุนก็ตั้งใจจะสู้กับโนบุนากะต่อนะคะ กุนซือของโชกุนก็พยายามจะบอกว่าแบบ เฮ้ยๆๆ ในฐานะที่ปรึกษานะ ฉันบอกเลยว่า รอบนี้เราสู้ไม่ได้ ยอมแพ้เถอะ ได้โปรด พลีสๆ โชกุนก็บอกว่า ไม่ ไม่ยอมนะคะ ทั้งสองฝ่ายก็แบบตึงเครียดกันขึ้นเรื่อยๆค่ะ ปรากฏว่ามีคนนึงนั่งไม่ติดละตอนนี้ คือไม่มีบทบาทมานานละแต่ว่า เริ่มมาใกล้ฉันขึ้นไปทุกทีละ คนนั้นก็คือจักรพรรดินะคะ จักรพรรดิเนี่ยกลัวโนบุนากะกับโชกุนเนี่ย ตีกันในเกียวโต แล้วเกียวโตจะพังค่ะ ดังนั้นจักรพรรดิก็เลยส่งจดหมายไปหาทั้งสองฝ่ายนะคะ ประมาณว่า เอาละ ในนามของจักรพรรดิ ถึงฉันไม่มีอำนาจใดๆทั้งสิ้นนะ แต่ว่าในนามของ ทายาทของเทพเจ้าอามาเตราซุอันศักดิ์สิทธิ์ ฉันขอให้พวกแกหยุดรบกันเถอะ ได้โปรดนะ อย่า อย่าพังเกียวโตเลย พลีสนะจ๊ะ ซึ่งโนบุนากะเนี่ยก็ฟังนะคะ ฟังจักรพรรดิ ก็เลยตัดสินใจสงบศึกค่ะ แต่โชกุนไม่ฟัง โชกุนบอกไม่ ฉันจะรบ จักรพรรดิ แกไม่มีอำนาจ ฉันจะรบนะคะ ที่ปรึกษาของโชกุนก็พยายามบอกว่า เฮ้ย นี่เขาห้ามกันแบบทุกคนพยายามห้ามแล้ว หยุดเถอะ หยุดเถอะ โชกุนไม่ฟัง โชกุนไม่ฟัง สุดท้าย ที่ปรึกษานะคะก็เลยบอกว่า ฟังไม่ฟัง ไม่ฟังใช่ไหม โอเคได้ งั้นไม่ฟัง ฉันจะไปหาคนที่ฟังฉันก็ได้ ที่ปรึกษาของโชกุนนะคะก็เลย ลาออกค่ะ แล้วก็ไปอยู่กับโนบุนากะซะอย่างนั้น ไปเป็นที่ปรึกษาให้โนบุนากะแทน ส่วนโนบุนากะเนี่ยนะคะก็รำคาญเหมือนกันว่าแบบ ฉันก็ยอมแล้ว ฉันหยุดแล้ว ทำไมเธอถึงไม่หยุด อะ โชกุน ในเมื่ออยากสู้นัก สู้กันก็ได้ ในปีค.ศ. 1573 นะคะ โนบุนากะก็เลยยกทัพเข้าไปเผาเมืองเกียวโต ราบเป็นหน้ากลองเลยค่ะ แล้วก็รบๆๆๆ รบจนชนะนะคะ แล้วก็สั่งเนรเทศโชกุนออกจากเมืองไปค่ะ ยึดอำนาจเป็นของตัวเองโดยเบ็ดเสร็จนะคะ โดยที่มีจักรพรรดิเนี่ยรองรับอำนาจของโนบุนากะด้วย เป็นการเริ่มต้นยุคอาซูจิ-โมโมะยามะ ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ยาวเท่าไหร่ ก็ถือว่าเป็นยุคของโนบุนากะ ยาวประมาณสามสิบปีเท่านั้นค่ะ หลังจากขึ้นมามีอำนาจเต็มที่นะคะ โนบุนากะก็พยายามไล่เก็บแก๊งต่างๆที่ ต่อต้านตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ ซึ่งอันนี้มันจะเป็นศึกยิบย่อยมากๆ วิวขออนุญาตไม่เล่าไว้ที่นี้นะคะ จนกระทั่งปีค.ศ. 1582 นะคะ เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นค่ะ คือตอนนั้นโนบุนากะเนี่ยตั้งใจจะเก็บแก๊งนึงนะคะก็คือ แก๊งตระกูลโมรินั่นเอง ซึ่งแบบเหมือนเป็นแก๊งอำนาจแก๊งสุดท้าย นี่ถ้าปราบแก๊งนี้ได้นะ โนบุนากะก็จะขึ้นมาเป็น คนที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือแผ่นดินโดยสมบูรณ์ คือทุกวันนี้เหมือนมีอำนาจเบ็ดเสร็จใช่ปะ แต่มันก็ยังมีก๊กนั้นก๊กนี้อยู่ว่าอย่างนั้นเถอะ ทีนี้โนบุนากะส่งขุนพลของตัวเองออกไปก่อน นั่นก็คือโทโยโทมิ ฮิเดโยชินะคะ ส่งออกไปปุ๊บ ฮิเดโยชินี่ก็ไปตรึงๆกำลังรออยู่ ยังไม่ได้เริ่มรบขนาดนั้นจริงจัง แต่ฮิเดโยชิรู้สึกว่าเฮ้ย ฉันสู้ไม่ไหวนะถ้ามาแค่นี้ ดังนั้นฮิเดโยชินะคะก็เลยส่งจดหมายไปหาโนบุนากะค่ะ บอกว่าส่งกำลังเสริมมาซะดีๆ โนบุนากะนะคะก็เลยส่งทหารไปเป็นกำลังเสริมค่ะ ซึ่งขุนศึกที่โนบุนากะส่งไปนะคะ เป็นคนนึงที่โนบุนากะค่อนข้างไว้ใจค่ะ ก็เป็นขุนพลคู่มือว่าอย่างนั้นเถอะ เขาเนี่ยนะคะชื่อว่า อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ค่ะ ซึ่งบังเอิญว่าคนนี้ เขาไม่ได้จงรักภักดีกับโนบุนากะขนาดนั้น จริงๆแล้วเขาแอบแค้นโนบุนากะนะคะ คือเหมือนเขาเคยไปทำศึกศึกนึงแล้วก็แบบ ไปถึงแล้วรู้สึกว่าเออ ไม่รบดีกว่า ไปเจรจาสงบศึกดีกว่า ก็เลยไปสงบศึกกับเมืองนั้น แล้วเมืองนั้นก็ตกลง บอกว่าโอเค งั้นเราไม่ต้องเสียกำลังพล ไม่ต้องรบกัน คนนี้เขาก็เลยเหมือนส่งแม่ตัวเองไปเป็นตัวประกัน ไปอยู่บ้านคนนั้นน่ะ ว่าแบบอะ โอเค เอาแม่ฉันไปอยู่นะ แล้วสัญญาว่าเราจะไม่รบกัน แต่บังเอิญว่าโนบุนากะเนี่ยนะคะไม่สนใจสัญญานี้ แล้วก็ไปฆ่าบ้านนั้นค่ะ พอไปฆ่าบ้านนั้น บ้านนั้นก็เลยฆ่าแม่เขา เขาก็เลยแค้นโนบุนากะนะคะ เอาเป็นว่าคนนี้แอบแค้นโนบุนากะอยู่ แต่โนบุนากะไม่รู้นะคะ พอคนนี้ยกออกไปนอกเมืองก็รู้สึกว่า เฮ้ย โนบุนากะเนี่ยอยู่ในบ้านตัวเองถูกไหม อยู่ในอาณาเขตตัวเองก็จะไม่ต้องพกทหารไปหรูหรา ไม่ได้ไปเป็นกองทัพ ส่วนฉันเนี่ยได้กองทัพมาใหญ่มาก แล้วฉันก็แค้นโนบุนากะอยู่ ดังนั้นนะคะมิตสึฮิเดะแทนที่จะยกไปสู้กับตระกูลโมริ ก็เลยวกทัพกลับมาค่ะ แล้วก็มาจัดการถล่มโนบุนากะ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตัวเองซะอย่างนั้นเลยนะคะ เผาว้งเผาวัดเรียบ จนกระทั่งในที่สุดโนบุนากะก็ ตายในกองไฟคืนนั้นแหละค่ะ ซึ่งว่ากันว่าโนบุนากะเนี่ยนะคะเซ็ปปูกุ ก็คือฆ่าตัวตายแล้วก็ ให้คนสนิทเนี่ยตัดหัวเอาหนีไปค่ะ ดังนั้นศพของโนบุนากะก็เลยไม่เคยมีใครเจอหัวนะคะ เจอแต่กองกระดูกที่เผาไหม้ไฟอยู่ในนั้นค่ะ เป็นการปิดฉากโอดะ โนบุนากะนะคะ ซึ่งมีบทบาทมากๆกับยุคเซ็นโงคุของเราค่ะ และแน่นอนว่ามิตสึฮิเดะของเรานะคะก็จะต้อง ยึดอำนาจจากโนบุนากะค่ะแล้วก็ ขึ้นไปนั่งตำแหน่งแทนโนบุนากะนะคะแต่ว่า เขามีอำนาจอยู่ได้แค่ทั้งหมดเจ็ดวันเท่านั้นค่ะ หรือบางที่ก็บอกสิบสามวันน่ะนะ เพราะว่าข่าวนี้นะคะก็รั่วไปถึงหูของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิค่ะ ดังนั้นนะคะ ฮิเดโยชิก็เลยเจรจากับตระกูลโมริค่ะบอกว่า เฮ้ยเราไม่สู้กันได้ไหมอะไรอย่างนี้ ก็สงบศึกกันเรียบร้อยนะคะ แล้วก็ยกกองทัพกลับมาค่ะ รวมกับคนที่ยังจงรักภักดีกับโนบุนากะอยู่นะคะ ชูธงบอกว่าเราจะแก้แค้นให้โนบุนากะ ว่าแล้วก็ถล่มมิตสึฮิเดะเละตุ้มเป๊ะไปซะตรงนั้นเลย ก็คือมีอำนาจอยู่ได้แค่เจ็ดวันนะคะ หลังจากนั้นนะคะ ฮิเดโยชิก็จัดการไปถล่มตระกูลอื่นๆที่ ยังไม่จงรักภักดีอะไรต่างๆ แล้วก็รวบอำนาจมาาไว้ที่ตัวเองได้ทั้งหมดค่ะ รวมถึงในที่สุดนะคะ ฮิเดโยชินี่ก็จะต้องสู้กับคนที่จงรักภักดีกับตระกูลโอดะด้วย เพราะว่าโนบุนากะก็ยังมีลูกอยู่ นึกออกปะ แต่ลูกแบบเด็กมาก อะไรอย่างนี้ ฮิเดโยชิก็ต้องไปสู้กับพวกนั้น แล้วก็ไปสู้กับโทกุกาวะ อิเอยาซุด้วย ซึ่งก็ยังสงสัยว่า เฮ้ยแก ทำไมอยู่ดีๆแกมายึดอำนาจจากลูกเจ้านายอะไรอย่างนี้ ก็มีการสู้กันต่างๆนานามากมายค่ะ และแล้วในที่สุดนะคะ ฮิเดโยชิก็สามารถ เจรจาจนโทกุกาวะ อิเอยาซุเนี่ยยอมได้ ประมาณว่าอะ เป็นพันธมิตรก็ได้นะคะ ทำให้โทโยโทมิ ฮิเดโยชิเนี่ยเป็นคนที่สามารถ รวมประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จ หลังจากที่แตกแยกกันยาวนานถึงประมาณ 150 ปีค่ะ ในปีค.ศ. 1590 นั่นเอง ถามว่าฮิเดโยชิเนี่ยมีอำนาจสูงสุดในญี่ปุ่นตอนนี้แล้ว เขาจบไหม ก็ต้องบอกว่าไม่จบค่ะ เขารู้สึกว่า ฉันยังมีอำนาจไม่พอนะคะ ดังนั้นค่ะ เขาก็เลยดำเนินนโยบายว่า โอเค ฉันจะไปยึดคาบสมุทรเกาหลีจ้า ที่สำคัญจำได้ใช่ไหมว่า ใครมีอำนาจเหนือเกาหลีเป็นช่วงๆ จีนนั่นเองค่ะ พอไปตีเกาหลีก็เลยจะต้อง มีปัญหากับจีนนะคะ ดังนั้นฮิเดโยชิเนี่ยก็ทำสงครามกับเกาหลีกับจีน เกาหลีกับจีน อะไรอย่างนี้นะคะ ซึ่งถามว่าชนะไหม ก็มีชนะบ้างอะ ครั้งนึงอะไรอย่างนี้ แต่ที่เหลือนี่เรียกได้ว่าแพ้ยับนะคะ จนกระทั่งในปีค.ศ. 1598 นะคะ แปดปีหลังจากที่ฮิเดโยชิเนี่ยขึ้นมามีอำนาจ เขาก็ตายไปซะอย่างนั้น ทายาทของเขาเป็นลูกชายค่ะ อายุแค่ห้าขวบเท่านั้นเองนะ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาเนี่ยมีการวางแผนไว้ก่อนแล้ว กลัวเหมือนกันว่าแบบเฮ้ย ลูกชายฉันอายุแค่ห้าขวบ เดี๋ยวใครจะมาแย่งอำนาจลูกฉัน เขาก็เลยวางแผนต่างๆนานานะคะไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง บอกให้น้องชายตัวเองเนี่ย ฆ่าตัวตายไปตั้งแต่เขายังไม่ตายเลยนะ ประมาณว่ารู้ตัวแล้วว่าฉันจะตาย อะ แกฆ่าตัวตายก่อนเลย แกต้องตายก่อนฉัน เดี๋ยวแกจะแย่งอำนาจลูกฉัน เท่านั้นยังไม่พอนะคะ เขายังตั้งตำแหน่งเหมือนองคมนตรีว่าอย่างนั้นเถอะ ขึ้นมาทั้งหมดห้าคนค่ะ ประมาณว่า แกแบ่งอำนาจกันไปห้าสายนะ แกจะได้ไม่มามีใครมีอำนาจหนึ่งเดียว แล้วเดี๋ยวจะมาแย่งอำนาจลูกฉันค่ะ แต่ถามว่ารอดไหม ก็ต้องบอกว่าไม่รอดค่ะ ทุกคนก็นัวกันแย่งอำนาจกันวุ่นวายไปหมดจนกระทั่ง ปีค.ศ. 1600 นะคะ อำนาจก็ตกไปอยู่ที่คนที่ ทำผลงานมาตั้งแต่สมัยโอดะ โนบุนากะ นั่นก็คือ โทกุกาวะ อิเอยาซุนั่นเองค่ะ ทำให้เขาเนี่ยสามารถรวบอำนาจเข้ามานะคะแล้วก็ เริ่มยุคโทกุกาวะตั้งแต่นั้นมาค่ะ หลังจากต่อสู้อะไรต่างๆมากมายนะคะ โทกุกาวะ อิเอยาซุก็สามารถ รวบอำนาจเข้ามาอยู่ที่ตัวเองแล้วก็ ตั้งตัวเองขึ้นเป็นโชกุนนะคะในปีค.ศ. 1603 ทำให้ญี่ปุ่นเนี่ยเข้าสู่ยุคเอโดะโดยสมบูรณ์นั่นเองค่ะ แต่จำกันได้ใช่ไหมคะว่าปีจบของสงครามเซ็นโงคุเนี่ย คือปีค.ศ. 1615 เพราะว่า จริงๆแล้วถึงจะรวบอำนาจมาได้ แต่ศึกมันยังมีศึกประปรายต่างๆอยู่นะ ยังมีคนที่สนับสนุนฮิเดโยชิอะไรต่างๆอยู่ ดังนั้นโทกุกาวะ อิเอยาซุก็เลยยังต้อง ทำศึกต่อไปประมาณหกปีค่ะ และในที่สุด ที่ปราสาทโอซาก้าในปีค.ศ. 1615 โทกุกาวะ อิเอยาซุก็สามารถ กวาดล้างคนที่ต่อต้านตัวเองแก๊งสุดท้ายได้ค่ะ ทำให้เป็นการปิดฉากสงครามเซ็นโงคุอันยาวนานกว่า 148 ปี ที่วิวเล่าจนเสียงแหบแล้วนะคะทุกคน เป็นไงกันมั่งคะ ฟังเรื่องสงครามเซ็นโงคุกันไป สนุกสนานกันไหม เชื่อว่าหลายๆคนฟังแล้วน่าจะรู้สึกว่า ยุคนั้นเป็นยุคที่ซัดกันนัว โดยเฉพาะคนที่ชอบวางแผนรบอะไรต่างๆนะคะ ก็อย่าลืมไปโหลดเกม Sengoku Fubu TH ศึกซามูไรกลางเมืองของค่าย Bekko มาลองเล่นกันดูได้นะคะ จะเห็นว่าตอนนี้เกม Sengoku Fubu เนี่ยนะคะ เขามีภาษาไทยแล้วนะ ดังนั้น เวลาเราอ่าน story อะไรอย่างนี้ เราก็สามารถอ่านได้อย่างง่ายดายเข้าใจนะ สำหรับใครที่ อาจจะไม่ถนัดภาษาอังกฤษอะไรเท่าไหร่นะ คือเรื่องราวในนี้มันจะเป็นเรื่องราวที่ เหมือนกับว่าเขาบิดมาจากประวัติศาสตร์นิดนึงแต่ว่า ถามว่าตัวละครมีตัวตนจริงไหมอะไรอย่างนี้ก็จะ มีตัวตนจริง แต่ละตัวเราสามารถ ไปเสิร์ชอ่านประวัติอะไรได้หมดเลยนะคะ นี่นะคะ เราก็จะใช้ เทคนิคคล้ายๆโนบุนากะนะ คือใช้ทหารน้อยแต่ว่า เราต้องไม่ให้ศัตรูได้เปรียบเวลาเข้าโจมตี เห็นปะ เห็นปะ มันจะมีความแบบวางแผนอะไรต่างๆ ฝนจะอำพรางการเดินทัพ นี่คือเทคนิคที่โอดะ โนบุนากะใช้ จำได้ใช่ไหมคะ ที่แบบ 2,000 คนต่อสู้กับ 25,000 คนอะไรอย่างนี้ มันก็จะมีแบบ แผนต่างๆ แล้วเห็นภาพของเกมนี้ไหมคะ เขาใช้ภาพที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาพแบบอุกิโยะ ของสมัยเอโดะนะคะ ดังนั้นมันก็จะมีความแบบ กลิ่นอายญี่ปุ่นโบราณอะไรต่างๆ เราเริ่มที่ปราสาทนาโงย่านะคะซึ่งเป็นปราสาทของ โอดะ โนบุนากะ ดังนั้นมันก็เหมือนกับว่าเราเป็นโอดะนี่แหละ เราก็จะมีขุนพลของเราอยู่สามคน เราเริ่มจากการ ตีปราสาทโอกาซากิก่อนนะคะ มันก็จะเป็นเกมวางแผนอะไรประมาณอย่างนี้แหละ ลองเข้าไปเล่นกันดูนะทุกคน เนี่ย ทุกปราสาทในสมัยนั้นก็จะเป็นอย่างนี้นะคะ คือเป็นปราสาทเจ้าเมืองใช่ปะ แล้วข้างในก็จะมีพวกบ้านคนอะไรต่างๆ ซึ่งเป็นกองกำลังของปราสาทนั้นๆ เราก็เลยต้องสร้างบ้านก่อนเพื่อให้เรามีแบบ กองทัพอะไรอย่างนี้ มี เขาเรียกว่าไร ชาวมงชาวเมืองที่สามารถเอามาใช้งานได้นะคะ แล้วก็จะมีไร่นาที่เอาไว้เก็บสะสมเสบียงอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็จะเป็นจำลองมาจากสมัยนั้น ตัวเกมนี่ก็จะเป็นเกมวางแผนต่อสู้นะคะอย่างที่เห็นในภาพ ก็เป็นตอนที่กำลังบุกปราสาทอยู่นั่นเองค่ะ เราก็สามารถรับสมัครขุนพลเพิ่มได้นะคะ เราก็จะมาลุ้นกันว่าเราได้ใคร นี่แหละเราก็จะเห็นอะไรที่มันเป็นแบบ ประวัติศาสตร์มากมายอยู่ในนี้นะคะ นี่แหละค่ะ เกมเพลย์ก็เป็นประมาณนี้นะ ถ้าสมมติว่าใครรู้สึกว่า เฮ้ย ฉันอยากจะยึดญี่ปุ่นทั้งประเทศมาเป็นของฉัน ฉันจะรวบรวมทุกแคว้น อยากลองสัมผัสความรู้สึกแบบนั้น อยากลองเล่นเกมวางแผนการรบสนุกๆ ที่มีภาพสวยๆก็ ลองโหลดมาเล่นกันได้ค่ะ สำหรับวันนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืม กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันนะคะ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ ทุกคน วิวใส่ลิงก์ดาวน์โหลดไว้ให้ข้างล่างแล้วนะคะ อย่าลืมไปลองโหลดกันมาเล่นดูได้ เล่าเสียงแหบขนาดนี้เพราะว่า เรื่องนี้มันส์มากจริงๆแล้วมันแซ่บมากจริงๆค่ะ เอาจริงๆนี่ตัดทิ้งไปเยอะมากแล้วนะยังได้แค่นี้เอง ส่วนใครที่อยากหาอ่านเพิ่มนะคะก็ อ้างอิงของวิวอยู่ด้านล่างแล้ว ลองไปดูกันได้ค่ะ วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ